Saturday, 4 May 2024
อยุธยา

อยุธยา – นาย ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดการใช้ความเร็วรถยนต์สูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ช่วงบางปะอิน - ต่างระดับอ่างทอง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเริ่มต้นใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ช่วงหมวดทางหลวงบางปะอิน - ทางต่างระดับอ่างทอง โดยมี นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงฯ นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงฯ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บริหารกระทรวงฯ องค์กรปกครองท้องถิ่น และสื่อมวลชนร่วมในพิธี ในวันที่ 1 เมษายน 2564

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายการปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เฉพาะถนนที่ได้มาตรฐานตามที่กฎกระทรวงกำหนด มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป ไม่มีจุดกลับรถระดับราบ มีเกาะกลางถนนแบบกำแพงกั้น และมีความปลอดภัยด้านวิศวกรรมสูง โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้เตรียมการนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องจนเป็นผลสำเร็จเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ใช้อัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญคือ มีความปลอดภัยสูง และได้ประกาศกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วฉบับใหม่ในราชกิจจานุเบกษา

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 สำหรับเส้นทางแรกที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือ ทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชีย ช่วงหมวดทางหลวงบางปะอิน - ทางต่างระดับอ่างทอง โดยกระทรวงฯ ได้สั่งการและเน้นย้ำให้กรมทางหลวงปรับปรุงเพิ่มมาตรฐานทางกายภาพให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ได้แก่ เสริมการก่อสร้างอุปกรณ์ป้องกันด้านข้างทาง (Concrete Barrier) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเนื่องจากการเสียหลักตกเกาะกลาง ปรับปรุงจุดกลับรถระดับราบ เพื่อลดการตัดกันของกระแสจราจร ติดตั้งป้ายจราจรและป้ายเปลี่ยนข้อความได้เพื่อสื่อสารการใช้ความเร็วที่เหมาะสมในแต่ละช่องจราจร รวมทั้งติดตั้งแถบเตือน หรือ Rumble Strips เพื่อแจ้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเข้าเขตควบคุมความเร็ว

โดยเส้นทางนี้ถือเป็นต้นแบบของทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบท นอกจากนี้ กรมทางหลวงมีแผนจะประกาศใช้สายทางในระยะที่ 2 ภายในเดือนสิงหาคม 2564 ครอบคลุมเส้นทางในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ระยะทางประมาณ  260 กิโลเมตร เช่น ทางหลวงหมายเลข 32 ช่วงอ่างทอง - สิงห์บุรี ทางหลวงหมายเลข 1 ช่วงหางน้ำหนองแขม - นครสวรรค์ ทางหลวงหมายเลข 2 ตอนบ่อทาง - มอจะบก และทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาวัง - สระพระ เป็นต้น พร้อมทั้งดำเนินการต่อเนื่องเพิ่มเติมบนทางหลวงสายหลัก เช่น ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 24 สีคิ้ว - อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง - สุพรรณบุรี และทางหลวงหมายเลข 44 กระบี่ - ขนอม อีกประมาณ 1,760 กิโลเมตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป

 


ภาพ/ข่าว  เดชา  อุ่นขาว

อยุธยา - “บิ๊กโจ๊ก”ร่วมวันเด็กย้อนหลังที่กรุงเก่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ.9 ร่วมมอบจักรยาน ในงานวันเด็กย้อนหลังที่วัดศาลาปูนฯ ให้แนวคิดยึดความสามัคคี กตัญญ รักสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

วันที่ 9 เม.ย. ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาลพระนครศรีอยุธยา วัดศาลาปูนวรวิหาร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร เป็นประธานในการจัดกิจกรรมงานวันเด็กย้อนหลัง โดยมี พระครูสมุห์ สุทัสน์ คนุธสาโร และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ.9 มาร่วมงานและมอบจักรยาน 50 คันร่วมกับทางโรงเรียน ให้กับนักเรียน มีนางขวัญชนก คงพิบูลย์ รักษาการผู้อำนวยการ ให้การต้อนรับ

พระครูอนุกูลศาสนกิจกล่าวให้โอวาทกับเด็ก ๆ ทุกคนให้รักพ่อแม่และเป็นคนดีของสังคม ยึดคำสอนของพ่อแม่และคุณครู ที่สำคัญต้องมีคุณธรรม จะได้เติบโตมีอนาคต ภายในงานมีการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักเรียนที่มาร่วมงาน ซึ่งอาหารที่นำมาเลี้ยงในวันนี้ มีหลากหลายเช่นสเต๊ก ขนมจีนน้ำยา ขนม อาหารญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของพระครูอนุกูลศาสนกิจ นำมาร่วมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นการทำบุญ ภายหลังจากการแจกของขวัญให้กับนักเรียนจำนวน 163 คนที่ส่วนใหญ่เป็นจักรยานและของขวัญมากมาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ถือโอกาสนี้ให้แง่คิดกับเด็ก ๆ ยึดคำขวัญวันเด็กปีนี้ของนายกรัฐมนตรี “เด็กไทย วิถีใหม่ รวมไทย สร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม “นั่งคือการป้องกันตนเองจากโควิด การรักษาสุขภาพอนามัย แต่สิ่งที่สำคัญที่นายกรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ คือ การรวมไทย สร้างชาติ ด้วยภักดี มีคุณธรรม คือการรักในสถาบันชาติ และพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันหลักของไทย และต้องมีความกตัญญู มุ่งมั่นหาความรู้ เพื่อที่วันหนึ่งจะได้เป็นอนาคตของประเทศชาติต่อไป


ภาพ/ข่าว  เดชา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ททท.พระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรม ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ 13-15 เมษายน นี้

วันที่ 10 เมษายน 64 ที่หน้าสำนักงานการท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นางสรัลพัชร  ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพัฒน์พงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัด พร้อมด้วย ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง สาธารณสุขอำเภอพระนครศรีอยุธยา ร่วมตรวจสถานที่การจัดกิจกรรม พร้อมให้คำแนะนำการจัดงานให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข

นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สงกรานต์กรุงเก่า ดูช้างเล่นน้ำ ประจำปี 2564 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2564 ภายในงานจัดให้มีการแสดงส่งเสริมสืบสานประเพณีสงกรานต์ แบบ New Normal มีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป ถ่ายรูปกับเจดีย์ทราย สรงน้ำรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจาก 9 วัด เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง หลวงพ่อรวย วัดตะโกภาชี หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูนวัดบ้านแพน เป็นต้น โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไรรัสโควิด-19 โดยจะจัดอุปกรณ์ที่จะสรงน้ำพระพุทธรูปไว้ให้ ผู้ที่เข้าร่วมงาน จะลดการสัมผัสอุปกรณ์ ที่จะใช้ร่วมกัน เว้นระยะห่าง การเล่นน้ำของช้างปกติ

นักท่องเที่ยวจะเล่นสาดน้ำกับช้าง เปลี่ยนเป็นการแสดงโชว์เล่นน้ำของช้าง ช้างจะเล่นสาดน้ำกันเอง แล้วให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ ความน่ารักความแสนรู้ของช้าง กิจกรรมการแต่งชุดไทยเสื้อผ้าลายดอก ถ่ายภาพกับบรรยากาศแบบไทยย้อนยุคกับมุมตัวอาคารทรงไทยของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พระนครศรีอยุธยา

ด้าน นายพัฒน์พงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่ากิจกรรมทั้งหมด จะแบ่งเป็นรอบ แต่ละรอบจะจำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 300 คน โดยนักท่องเที่ยวต้องผ่านจุดคัดกรอง การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่รับาดโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการปรับลดกิจกรรมที่ต้องมีการสัมผัส เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงไว้เฉพาะการสืบสานประเพณีสงกรานต์ เท่านั้น


ภาพ/ข่าว  เดชา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - ผู้ว่าฯ ตรวจเยี่ยมเตรียมความพร้อมเปิดหอพักราชภัฎฯ เป็นศูนย์พักฟื้น และหอประชุม มทร.สุวรรณภูมิ ใช้เป็น รพ.สนาม หลังพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 14 เมษายน เวลา 13.30 น. ที่หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์  นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด พันเอก(พิเศษ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.กอ.รมน.จว นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมศูนย์พักฟื้น Hospitel เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19

โดยเตรียมสถานที่พักฟื้นที่หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา รองรับได้จำนวน 30 ห้อง/60 เตียง เป็นหออภิบาลพักฟื้น  โดยได้ดำเนินการปรับปรุงระบบรองรับและจะเปิดใช้ในวันที่ 16 เมษายน นี้ นอกจากนี้ยังได้เตรียมโรงพยาบาลสนาม ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลงสุวรรณภูมิ (หันตรา) จำนวน 100 เตียง ซึ่งอยู่ในระหว่างปรับปรุงสถานที่และจัดระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ทั้งนี้สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดเตรียมอบรมบุคคลากรที่จะดูแลผู้ป่วยโควิด-19  ผู้ว่าราชการจังหวัดฯยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ชุมชนรอบบริเวณสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนามและหออภิบาล ให้เห็นใจกัน อย่ารังเกียจกัน อยากให้เป็นกำลังใจให้กันและกันผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น กลุ่มสถานบันเทิง กลุ่มผู้บริหารโรงงานและกลุ่มพนักงาน ที่นำมาติดกับสมาชิกในครอบครัว และเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ทางสาธารณสุขจะประเมินผู้ป่วยว่า ผู้ป่วยรายใดต้องเข้ารักษาในห้องความดันลบ  ผู้ป่วยรายใดที่มีอาการไม่หนักสามารถเข้าหอพักฟื้นได้  จะทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้ง 16 อำเภอสามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากพบกว่าพื้นที่ใดมีผู้ป่วยติดเชื้อ ทางจังหวัดร่วมกับสาธารณสุขจะลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้รุกรามเป็นวงกว้าง  รวมถึงสั่งการให้ทุกหน่วยงาน พร้อมขอความร่วมมือภาคประชาชนดำเนินกิจการ กิจกรรมต่าง ๆ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ใช้แอพฯ ไทยชนะทุกครั้ง


ภาพ/ข่าว  สุจินดา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - วัดตะโก ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนที่เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อรวย

เมื่อเวลา 16.00น.วันนี้ 19 เมษายน 2564  ที่ วัดตะโก อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังทางวัดตะโกได้ทำการปิดวัดในวันที่ 17-19 เมษายน 2564 เพื่อที่จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อโควิด-19 หลังมีประชาชนได้เข้ามาทำบุญกราบไหว้หลวงพ่อรวยช่วงเทศกาลจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเดินทางมา และจะเปิดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อรวยอีกครั้งเร็ว ๆ นี้

วันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมกันทำความสะอาดภายในวัด โดยได้รับความร่วมมือจากเอกชน นำน้ำยาฆ่าเชื้อ มาฉีดพ้นภายในพระมหาธาตุเจดีย์ โบสถ์ วิหาร อาคารสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นสถานที่ รวมจำนวนคนมากในช่วงที่ผ่านมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพุทธศาสนิกชน ที่จะเดินทางมาวัดตะโก  ส่วนทำความสะอาดทั่วไป วัดเองทำทุกวัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับพุทธศาสนิกชนที่จะเดินทางมาวัดตะโก

หลังจากที่เปิดแล้วขอความร่วมมือทุกคนที่เดินทางมาที่วัดตะโก ขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย มีการเว้นระยะห่าง ผ่านจุดคัดกรอง ลงทะเบียนตามคำแนะนำ  ซึ่งจะเปิดให้เข้าเพียงแค่ประตูเดียวเพื่อความเข้มในการคัดกรองเช่นเดิมไว้ตามระเบียบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเดินทางมา กราบไหว้หลวงพ่อรวย ต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุจินดา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

อยุธยา – เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ปล่อยขบวนรถพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ในพื้นที่เกาะเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน

วันที่ 24 เมษายน ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร นายศรัณย์ สุขเกษม ปลัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา รักษาการนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ในนามตัวแทนจิตอาสาชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกัน ทำพิธีปล่อยขบวนรถ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีิยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร มาเป็นองค์ประธานเทน้ำยาฆ่าเชื้อเพืื่อความเป็นศิริมงคลให้กับคณะทีมงานด้วย

นายศรัณย์ สุขเกษม ปลัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา รักษาการนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เพื่อเป็นสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาได้สั่งซื้อรถพ่นน้ำฆ่าเชื้อจำนวน 6 คัน พร้อมทั้งได้มีการดัดแปลงรถดับเพลิงเก่าขนาดความจุขนาด 12,000 ลิตร มาใช้งานพ่นน้ำยาเชื้อฆ่าในครั้งนี้ และได้ระดมเจ้าหน้าที่เทศกิจ เข้าพื้นที่พ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจกับแผนดำเนินของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา โดยจะออกพ่นยาฆ่าเชื้อในวันจันทร์วันพุธและวันศุกร์จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร กล่าวว่า ตนเองในฐานะตัวแทนจิตอาสาชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจึงได้ประสานงานกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาให้เร่งเข้ามาดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยเฉพาะในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ต้องดูแล ให้มีความปลอดภัยและห่างไกลจากโรคโควิดและ ได้ประสานกับทางวัดศาลาปูน โดยพระครูอนุกูลศาสนกิจ ในการอนุเคราะห์อาคารโรงเรียนเก่าของวัดศาลาปูนให้เป็นศูนย์พักฟื้น ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นพระสงฆ์หรือผู้สูงอายุ มาพักรักษาตัวด้วย


ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พิธีบวงสรวง และถวายราชสดุดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19

วันที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 07.30 น. ที่ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะและประกอบพิธีบวงสรวง กล่าวคำถวายราชสดุดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมี ตุลาการ ทหาร ตำรวจ อัยการ นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นางนวลจันทร์ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของไทย ภายใต้การจัดงานแบบจำกัดผู้เข้าร่วมงานเพียงหน่วยงานละ 1 คน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค

ด้วย วันที่ 25 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่าพระนเรศ หรือ "พระองค์ดำ" เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและพระวิสุทธิกษัตรีย์ เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษา มีเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย พระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ และทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ จนทำให้มีประเทศไทยเช่นทุกวันนี้


ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - ผู้ว่าฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระพรชัยมงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน

 

วันที่ 26 เมษายน 2564 เวลา 08:00 น. ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.กระมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายพระพรชัยมงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน พร้อมด้วย นางสรัลพัชร ประโมทะกะ นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด ดร.จิระพันธุ์ พิมพ์พันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม โดยมี นางจุรีพร ขันตี วัฒนธรรมจังหวัดฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน คณะสงฆ์ พระสงฆ์ 10 รูป นำโดย พระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เจริญพระพุทธมนต์ อนุโมทนา ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดจุดคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19

เนื่องด้วย วันที่ 29 เมษายน เป็นวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร จึงนับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดี ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูรสิริวิบูลยราชกุมาร ที่ทรงสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างเอนกอนันต์ ในการนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ร่วมกับวัดพนัญเชิงวรวิหาร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกซนและประชาชน จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีตักบาตรพระสงฆ์ และการจัดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูสยราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน 2564 ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในวาระโอกาสสำคัญดังกล่าว พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ร่วมกันทำความดีถวายพระราชกุศล แสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และธำรงรักษาไว้ให้มั่นคงสืบไป


 ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว รายงานข่าวจากอยุธยา

อยุธยา - ผู้ว่าฯ ตรวจเยี่ยมการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก เร่งตรวจหาผู้สัมผัสในตลาดวังน้อยเมืองใหม่ พร้อมขอความร่วมมือชาวอยุธยา ให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ยืนยันจับปรับแล้ว 2 ราย ไม่สวมหน้ากากเข้าตลาดสดบางปะหัน

วันที่ 26 เมษายน ที่ตลาดวังน้อยเมืองใหม่ อ.สังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทน สปสช และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทีมแพทย์จากโรงพยาบาลศุภมิตร เสนา และทีมสาธารณสุขที่ออกตรวจ ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active Case Finding) ตลาดวังน้อยเมืองใหม่ หลังจากที่พบแม่ค้าในตลาดดังกล่าว เป็นผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จึงปิดตลาดพร้อมจัดจุดค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก (Active Case Finding)ในครั้งนี้ เพื่อควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาด โดยมีเป้าหมายผู้ค้าและลูกจ้าง จำนวน 600 ราย

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 เมษายน ว่าที่ร้อยตำรวจตรีหญิง สายสุนี ยมานันท์ นายอำเภอบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 13.30 น.  ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขณะปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พบเห็นชาย 2 คน ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ที่บริเวณตลาดสดบางปะหัน ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เข้าไปแสดงตัวจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน เปรียบเทียบปรับ  ตามความผิด ข้อหา ไม่สวมหน้ากากอนามัย อันเป็นความผิดตามคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1779/2563 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ประกอบมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558  พนักงานสอบสวน สภ.บางปะหันได้ทำการเปรียบเทียบปรับไป คนละ 500 บาท

ทั้งนี้ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีคำสั่งที่ 1496/2563 ลงวันที่ 5 พ.ค. 2563 สั่งให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือขณะอยู่นอกเคหะสถาน หรือต้องติดต่อกับบุคคลอื่นหรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2548


ภาพ/ข่าว  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา / สุจินดา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

อยุธยา - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 19.45 น. นายแพทย์โชคชัย  ลีโทชวลิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา คณะผู้บริหาร ข้าราชการ ประกอบพิธีรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  ประธานในพิธีถวายความเคารพเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  

ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูงจำนวน 5 เครื่อง  ผ่านทางกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัย covid-19 (และโรคระบาดต่าง ๆ )มูลนิธิชัยพัฒนาให้กับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยานำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID) ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมากและเครื่องให้ออกซิเจนด้วยอัตราการไหลอากาศสูง (high flow oxygen therapy) เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นและสำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลวหรือมีภาวะพร่องออกซิเจน จำนวน 5 เครื่อง โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยารู้สึกซาบซึ้ง และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นจนหาที่สุดไม่ได้

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระบรมราชานุญาตถวายพระพรชัยมงคลด้วยความจงรักภักดี  ขออัญเชิญพลานุภาพแห่งพระศรีรัตนตรัย  พระบารมีแห่งพระสยามเทวาธิราช ตลอดจนพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดดลบันดาลอภิบาล และประทานพรให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยชื่นบาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

พระเกียรติคุณขจรขจายแผ่ไพศาล  สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้า  แก่พสกนิกรชาวไทยตราบกาลนิรันดร์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้


ภาพ-ข่าว ศูนย์ข่าวสารประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา / สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top