Friday, 18 April 2025
อยุธยา

อยุธยา - กองทัพเรือ ร่วมกับกลุ่มจิตอาสาร่วมรักษ์ราษฎร์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

วันนี้ (4 พ.ย.64) พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พร้อมคณะ ร่วมกับกลุ่มจิตอาสาร่วมรักษ์ราษฎร์ มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ รร.ท่าเรือประชานุกูล อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมร่วมกิจกรรมปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาด และทาสีโรงเรียนและวัดในพื้นที่

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ประเภทอุทกภัย จำนวน 14 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางไทร อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน อ.มหาราช อ.บางซ้าย อ.ลาดบัวหลวง อ.ท่าเรือ อ.ภาชี อ.นครหลวง และ อ.บ้านแพรกนั้น กองทัพเรือ โดยฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ จึงได้ร่วมกับ กลุ่มจิตอาสาร่วมรักราษฎร์ นำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าเรือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ภายใต้กิจกรรม “แจกถุงยังชีพ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย” พร้อมร่วมพัฒนาปรับภูมิทัศน์ ทำความสะอาด ทาสีโรงเรียนท่าเรือประชานุกูล และวัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

 

‘มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์’ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ถุง และสุขภัณฑ์เคลื่อนที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ นำทีมโดยคุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา (ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิฯ) พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ร่วมกับคุณเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมอบถุงยังชีพ จำนวน 200 ถุง และสุขภัณฑ์เคลื่อนที่ จำนวน 20 อัน โดยมีชาวบ้าน อำเภอบางบาล ตำบลบางชะนี เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อกำลังใจ และช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้

อยุธยา- จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ททท. แถลงข่าวจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2022 พร้อมรับนักท่องเที่ยว เป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวผ่านสู่การเริ่มต้นใหม่ในปี 2565 อย่างมีพลังใจและมีความหวัง

นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ร่วมกับ นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าว เตรียมจัดงานเฉลิมฉลอง Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya เบิกนภารับขวัญปีใหม่  ในระหว่างวันที่ 27 – 31 ธันวาคม 2564 ณ วัดพระราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ภายในงานจะมีโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ  โซนตลาดน้ำวิถีไทยภาคกลาง เล่าเรื่องราวความผูกพันของคนทยกับสายน้ำผ่านมัลติมีเดียแสง โซนเวทีการแสดง โดยแรงบันดาลใจจาก "พระปรางค์" อันเป็นสิ่งก่อสร้างประเภทหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย โดยหยิบยกรูปทรงของพระปรางค์และนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีนทันสมัย กิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การแสดงดนตรีไทยพื้นบ้านภาคกลางประยุกต์และร่วมสมัย วงดนตรีท้องถิ่น (Local Band) ตลาดวิถีไทย (Thai Street Market) มหกรรมอาหารไทย ช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์จาก SME ภาคกลาง นอกจากนั้น ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ อาทิ การตกแต่งประดับไฟสวยงาม / ขบวนพาเหรดพชุดพิเศษ "ปีใหม่สุขใจไทยระรื่น  การแสดงโขนสมมุติชุดใหญ่ 30 คน การแสดงพลุ 7 องก์

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวว่า จากมติศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ที่ได้อนุมัติจัดงาน  Amazing Thailand Countdown 2022 ในพื้นที่ 5 จังหวัดหลักของประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ระยอง นครราชสีมา ภูเก็ต และพระนครศรีอยุธยา ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดนั้น   สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือเป็นพื้นที่ตัวแทนของภาคกลางภายใต้ซื่องาน Amazing New Chapters @ Phra Nakhon Si Ayutthaya ผ่านธีมอู่ข่าวอู่น้ำ โดยมีคอนเซ็ปต์ The Flow of Life สะท้อนความโดดเด่นของภาคกลางที่เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ   โดยร้อยโยงเป็นความผูกพันของสายน้ำกับการใช้ชีวิต พร้อมกับอำนวยอวยชัยให้ปีใหม่ชีวิตลื่นไหลไร้อุปสรรค เหมือนสายน้ำเย็นที่ไหลหล่อเลี้ยงชีวิต เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวผ่านสู่การเริ่มต้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2565 อย่างมีพลังใจและมีความหวัง

อยุธยา - มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯอยุธยา เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบให้ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบให้ผู้ประสบอัคคีภัย จำนวน 2 ครอบครัว โดยมี นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายสมยศ เกษสุวรรณ นายอำเภอบางบาล นายสมร่าง จำนงค์ศิลป์ ปลัดอำเภอลาดบัวหลวง ผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ดังนี้

ณ หมู่ที่ 6  ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จัดพิธีมอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ นายสุรัตน์ วรลักษณ์สิทธิ์ ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัยเลขที่ 14/1 ประสบอัคคีภัย เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 เวลา 23.50 น. ได้รับความเสียหายบางส่วน มีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 3 คน 

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯปลื้ม ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเมืองสวยงามของไทย หลัง Forbes advisor จัดให้ อยุธยา เป็น 1 ใน 50 เมืองทั่วโลก ที่ควรเดินทางเยือนช่วงหลังโควิด – 19

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “Forbes advisor” เว็บไซต์ในเครือนิตยสาร Forbes จัดอันดับให้ "อยุธยา" เป็น 1 ใน 50 เมืองทั่วโลก ที่ควรเดินทางเยือนภายหลังการระบาดของไวรัสโควิด – 19

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบผลการจัดอันดับดังกล่าว ขอบคุณที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับสถานที่ที่สวยงามเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่า ด้วยเอกลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่หลากหลาย และได้รับความนิยมตลอดมา ประกอบกับศักยภาพการบริหารจัดการตามความเหมาะสมของสถานการณ์ และการควบคุมโรคทางสาธารณสุข จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเดินทางในประเทศไทยอย่างคึกคักในเร็ววันนี้ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 50 เมือง ทั่วโลก ที่ควรเดินทางเยือนในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด – 19 และยังเป็น 1 ใน 8 แห่งของทวีปเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับเท่านั้น ทั้งนี้ Forbes advisor ได้ยกย่อง "อยุธยา" ว่าเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงทศวรรษ 1700 ซึ่งเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

โดยสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่หากมีโอกาสค้างคืนก็จะได้เห็นภาพวัดต่าง ๆ ในช่วงเช้า และช่วงเย็น ที่เงียบสงบ ในส่วนของเมืองอื่นๆ ในเอเชียที่ได้รับการจัดอันดับ ได้แก่ ฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศภูฏาน อัสสัม ประเทศอินเดีย ลอมบก ประเทศอินโดนีเซีย ไทเป ไต้หวัน ประเทศอุซเบกิสถาน และโดฮา ประเทศกาตาร์

'บิ๊กตู่' สั่งกำลังทหารรับมือน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมขอบคุณที่ช่วยกันทำให้ประชาชนปลอดภัย

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 65 พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม พร้อม รมช.กลาโหม และ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและการปฏิบัติงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพในพื้นที่

โดยรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปยังวัดกษัตราธิราชเจ้า รับฟังสถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมทั้งการเตรียมการป้องกันสถานที่สำคัญๆ ชุมชนและการรับมือกับปริมาณน้ำในแม่น้ำที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะเดินทางต่อไปสังเกตการณ์สถานการณ์น้ำและการสนับสนุนของหน่วยทหารในพื้นที่พระเจดีย์ศรีสุริโยทัย และพื้นที่บริเวณพระตำหนักสิริยาลัย พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่

'รมว.เฮ้ง' ห่วงใย เคสไฟไหม้โรงงานพลาสติก จ.อยุธยา สั่ง 'กสร.' ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตพลาสติก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่ง กสร. ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุทันที เชิญนายจ้างพบ 21 กุมภาฯ นี้

(20 ก.พ. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า เบื้องต้นผมได้รับรายงานจากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 1 (พระนครศรีอยุธยา) เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 12.00 น. จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านนอกตัวอาคาร และเป็นจุดที่วางชิ้นส่วนของถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป

'การรถไฟ' แก้แบบสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาใหม่ ช่วยลดผลกระทบต่อโบราณสถานและมรดกโลก

(28 ก.พ. 66) เพจ 'โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure' ได้ Update ข้อมูลสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ระบุว่า...

สถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา จะอยู่ตรงไหน มีหน้าตาอย่างไร มาช่วยกันหาทางออก เพื่อพัฒนาเมืองในการศึกษา HIA 10 มีนาคม 2566 นี้!!! ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ อยุธยา

ติดตามและแสดงความคิดเห็นได้ที่ Line
https://lin.ee/WU1GxB7 

HIA Historic City of Ayutthaya

เพื่อน ๆ ยังจำการที่ ‘กรมศิลปากร’ ออกมาคัดค้านในการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ด้วยเหตุผลการกระทบกับโบราณสถาน และมรดกโลก ซึ่งขอให้การรถไฟ ทำการศึกษา HIA (ศึกษาผลกระทบกับโบราณสถาน) ซึ่งทำให้โครงการเกิดการชะงัก และกับมาพิจารณากันใหม่

โดย กรมศิลปากรเป็นห่วงในเรื่องความสูงของทางวิ่ง และตัวอาคารสถานี ที่อาจจะสูงมากจนทำให้เป็นทรรศนะอุจาด ของเมืองอยุธยาได้

แต่ถ้าดูตามบริบทของพื้นที่ สถานีรถไฟอยุธยา ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับสถานีรถไฟความเร็วสูง อยู่นอกเขตเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งจากเขตของมรดกโลก มากกว่า 1 กิโลเมตร

ซึ่งปัจจุบัน การรถไฟได้จ้างที่ปรึกษามาทำการศึกษา HIA (ศึกษาผลกระทบกับโบราณสถาน) เพื่อหารูปแบบ และป้องกันผลกระทบในทุกด้านกับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน

คนอยุธยาช่วยกันออกมาแสดงความคิดเห็น เพื่อจะได้สิ่งที่คนอยุธยาต้องการจริง ๆ นะครับ

เผื่อใครยังไม่ได้อ่านรายละเอียด ประเด็นปัญหาสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา

ซึ่งผมเคยพูดถึงดรามานี้ไปจนใหญ่โต เรื่อง สถานีอยุธยา VS กรมศิลป์ฯ ตามลิงก์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1201611603610650/ 

การทำ HIA ตามที่กรมศิลป์ฯ และ UNESCO ต้องการ ตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1202420353529775/?d=n 

การเปรียบเทียบ โครงการอื่นๆ ที่ผ่านใกล้กับมรดกโลก จากทั่วโลก
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1286300595141750/?mibextid=BfDkjB

ซึ่งหลังจากที่กรมศิลปากร มีข้อเป็นห่วงกับการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ก็มีการปรับปรุงรายละเอียดเพื่อลดผลกระทบ

โดยจะแก้ไขรายละเอียดสถานีและทางวิ่งช่วงผ่านเมืองอยุธยา คือ...

- ปรับลดคานทางวิ่งของทางรถไฟยกระดับลง 
จาก 21.62 เมตร >>> เหลือ 17 เมตร 

- ใช้ระยะสูงสุดของอาคารตาม EIA เดิม

หลังคากลางอาคารสูงสุด อยู่ที่ 37.45 เมตร...
ระดับชั้น 3 ชานชาลารถไฟความเร็วสูง 21.62 เมตร
ระดับชั้น 2 ชานชาลาพื้นที่ยานตั๋วและรอรถ 12.00 เมตร
ระดับชั้น 1 สถานีเดิม ชานชาลารถไฟทางไกล และชานชาลารถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในอนาคต 1.50 เมตร

บุกกรุงเก่า!! ‘เสี่ยหนู’ อ้อน ‘ชาวอยุธยา’ เลือก ‘ภูมิใจไทย’ ยกจังหวัด ชู ‘คอนแทรค ฟาร์มมิ่ง’ แก้จนการเกษตร เพื่อชาวนาอยู่ดี กินดี

(5 มี.ค. 66) ที่วัดบางเพลิง อำเภอบางประหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ นายนพ ชีวานันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หาเสียง ซึ่งในกิจกรรมดังกล่าว มีผู้สมัครเขตอื่นลงพื้นที่ด้วย เช่น นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 1 และนายประดิษฐ์ สังขจาย ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 5 โดยมีประชาชน ต้อนรับกว่า 2,000 คน

‘บิ๊กป้อม’ แจ้งชาวนา “ปีนี้ทำนาได้ น้ำไม่ท่วม” ด้านชาวบ้านเฮสนั่น!! ตะโกนเชียร์นั่งนายกฯ

(8 มี.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้า แผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ลุ้มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างและแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดสะตือพุทธไสยาสน์ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ โดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาของ พปชร.ทั้ง 3 เขต นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พปชร. รวมถึงนางสมทรง เจริญพันธุ์วรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา มาคอยให้การต้อนรับ

โดย พล.อ.ประวิตร ได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปแผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง และแผนการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จากนั้น ได้นั่งรถกอล์ฟเพื่อจะไปไหว้พร้อมกับปิดทองพระพุทธไสยาสน์ แต่ปรากฎว่าระหว่างรถกอล์ฟไฟฟ้าออกตัว ได้ออกตัวแรงทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับตกใจ ซึ่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่นั่งอยู่ด้านหลังว่า รถไม่เสถียร แต่คนเสถียร ภายหลังไหว้พระเสร็จแล้ว พล.อ.ประวิตร ได้เข้าไปกราบนมัสการ และถวายดอกไม้และปัจจัยต่อเจ้าอาวาสวัดสะตือ ขณะที่เจ้าอาวาสได้มอบรูปหล่อพระพุทธไสยาสน์ ผ้ายันต์คาถาชินบัญชร ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ให้แก่ พล.อ.ประวิตร

ขณะที่ภายในงานมีประชาชนที่มารอต้อนรับต่างตะโกนเชียร์ให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป พร้อมกับตะโกน “รักลุงป้อม” โดย พล.อ.ประวิตร มีสีหน้าอารมณ์ดี และยิ้มหลายครั้ง

ต่อมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนมาติดตามเรื่องน้ำที่ จ.พระนครศรีอยุธยาหลายครั้ง ขอบคุณที่มาต้อนรับตน จะสังเกตเห็นว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งอุทกภัย วาตภัย น้ำหลาก น้ำลด รัฐบาลจะเยียวยาให้ประชาชนจนได้รับค่าชดเชยกันตลอด ไม่เคยว่างเว้น เพราะเราเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top