Thursday, 18 April 2024
พรรคกล้า

‘อรรถวิชช์’ นำทีมพรรคกล้า ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม ‘นครสวรรค์-ชัยนาท’ แนะรวมแอพแจ้งเตือนน้ำ ประชาสัมพันธ์ควบคู่ผู้นำหมู่บ้าน ให้ประชาชนเตรียมรับน้ำอย่างทันท่วงที 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า นายวุฒิชัย แป๊ะหล ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส. นครสวรรค์ นายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.ชัยนาท นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรค และกลุ่มกล้าอาสา ลงพื้นที่หมู่ 11 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พื้นที่หมู่ 5 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พร้อมสำรวจการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำพลเทพ อ.มโนรมย์ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มอบอาหารแห้ง น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 

ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่อ.ลาดยาวล่าสุด พบว่า ปริมาณน้ำลดลงจากเมื่อวาน (28 ก.ย. 64) แต่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่เกษตรอย่าง นาข้าว สวนมะม่วง และสวนกล้วย น้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านหนองจิกรี น้ำท่วมระดับเอว ทั้งนี้เนื่องจากคลองขุดลาด ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำรับน้ำจากเทือกเขาแม่วงก์ขาด ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ประชาชนยังคงนำกระสอบทรายวางกั้นหน้าบ้าน และขนของขึ้นที่สูง เพราะเกรงว่าฝนจะตกมาซ้ำทำให้น้ำท่วมอีก 

‘อรรถวิชช์’ ชี้!! พรรคกล้าพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง หากยุบสภา เชื่อ!! ‘กรณ์’ เหมาะนั่งนายกฯ ตอบโจทย์แก้วิกฤต

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงกระแสพรรคการเมืองเริ่มเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีว่า วิกฤตโควิด-19 ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเรื้อรังมาต่อเนื่องปีกว่า มีการกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น หนี้สาธารณะทะลุ 9 ล้านล้านบาท และกำลังจะมีการกู้เพิ่มอีก ขณะที่ประชาชนจำนวนมากตกงาน ภาคท่องเที่ยวทำมาหากินไม่ได้ ประเทศหนี้ท่วม สิ่งสำคัญที่สุดจึงอยู่ที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 หารายได้เข้าประเทศ ใช้หนี้เงินกู้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ ดังนั้นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ต้องเป็นคุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

"ความสามารถด้านเศรษฐกิจ ด้านการเงิน การคลัง คุณกรณ์มีอยู่เต็ม เคยได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐมนตรีคลังโลก ซึ่งสมัยที่เป็นรัฐมนตรีคลังก็ทำให้ไทยได้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์มาแล้ว และจากที่ผมรู้จักคุณกรณ์มาเป็นสิบปีคือ คุณกรณ์มีความคิดร่วมสมัย มีใจพร้อมรับฟังคนทุกรุ่น” นายอรรถวิชช์ กล่าว 

"กรณ์ - อรรถวิชช์" ประกาศ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ต้องมาจากการเลือกตั้ง ดันนโยบายจังหวัดจัดการตนเอง สู่เมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวระดับโลก เปิดตัว "เทมส์ ไกรทัศน์" เดินหน้านโยบายในพื้นที่

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ร่วมเทศกาลถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต กราบไหว้ศาลเจ้ากวนอู บ้านนาบอน เปิดตัวนายเทมส์ ไกรทัศน์ เป็นผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต พร้อมนโยบายที่สำคัญต่อจังหวัดภูเก็ต โดยนายกรณ์กล่าวว่า ภูเก็ต มีของดีในตัวเองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ทะเล เกาะ ภูเขา รวมไปถึงมรดกทางวัฒนธรรมชาวใต้ผสมผสานจีนฮกเกี้ยนแบบเพอรานากัน Sino-Portuguese ต้นทุนทางวัฒนธรรมหรือ Soft Power ทรงพลังมากๆ และที่ผ่านมาก็ถูกใช้กับการท่องเที่ยว ทำรายได้ให้ประเทศมาโดยตลอด ถึงวันนี้การจะขยายโอกาสไปต่ออีกขั้นต้องการบริหารจัดการระดับ World Class ในทุกมิติ และทั้งหมดนี้เชื่อมั่นว่าต้องเป็นการบริหารจัดการจากคนคุณภาพที่คนภูเก็ต กำหนดเอง เลือกเอง เพราะไม่มีใครรู้จักภูเก็ตดีเท่าคนภูเก็ตเอง 

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้า เลยเสนอนโยบายภูเก็ต 3 ข้อชัดๆ ดังนี้ 

1.) ภูเก็ต ต้องเป็น "จังหวัดจัดการตัวเอง" การเมืองส่วนกลางระดับประเทศ และระบบราชการที่กระจุกตัว ไม่ตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะพื้นที่ จึงจำเป็นต้องกระจายอำนาจในการบริหารงานเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของเมือง โดยให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ภาษีและรายได้ปันส่วนให้ตอบโจทย์กับเนื้องานเพื่อการหารายได้เข้าประเทศอย่างมีระบบ 

2.) ภูเก็ต ต้องเป็น “เมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวพิเศษ” ส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยว ดึงดูด Nomad ทุกวงการเข้ามา Work From Phuket ต่อยอดจากของดีที่มี ทำงานเชิงรุก ทำให้เมืองเป็น Business Unit ของประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้คนในชุมชนมีโอกาสทำกิน 

3.) ภูเก็ต ต้องพลิกโฉมเป็น “เมืองมาตรฐานโลกทันสมัย" พัฒนาสาธารณูปโภคและความเป็นอยู่ ให้ตอบโจทย์ความเป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวระดับ World Class ที่แท้จริง ต้อง Re-Design เมืองในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม การโทรคมนาคม การบริหารจัดการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน การดูแลทางด้านการแพทย์สาธารณสุข การศึกษา ฯลฯ 

‘พรรคกล้า’ ยึดหัวหาด ‘เมืองเศรษฐกิจ’ ภาคใต้ เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรค นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์-ภาคใต้ นางสาวนัฏฐิมา วิชยภิญโญ เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นำทีมเปิดการประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรคหลายพื้นที่ในจังหวัดสงขลา

พร้อมเปิดตัว 4 ว่าที่ผู้สมัครนักการเมืองรุ่นใหม่ หลากหลายอาชีพร่วมทีม “ผู้กล้า-สงขลา” ได้แก่ 1.) นายธัชพล วิบูลย์พันธุ์ นักธุรกิจรุ่นใหม่ภาคอุตสาหกรรมการเกษตร หาดใหญ่ 2.) ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ อาจารย์ด้านการตลาดหลายมหาวิทยาลัยใน จ.สงขลา 3.) นายสมพร หาญณรงค์ นักสื่อสารมวลชน คนสิงหนคร 4.) นายพงศธร สุวรรณรักษา ทนายอาสารุ่นใหม่ สู้เพื่อแรงงานย่านสะเดา และคลองหอยโข่ง

โดยหัวหน้าพรรคกล้า ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางเศรษฐกิจ ระบบคิดและไอเดียกับชาวสงขลา ผู้ประกอบการ ตัวแทนหอการค้า YEC สภาอุตสาหกรรม สมาคมโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยว รวมไปถึงตัวแทนภาคเอกชนขนาดเล็ก พร้อมทั้งย้ำให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับโอกาสการทำมาหากิน โอกาสทางเศรษฐกิจให้เต็มศักยภาพของเมือง ของภาคใต้โดยเฉพาะ จ.สงขลา

“จ.สงขลา มีทุนเดิมที่เข้มแข็ง ทั้งการเป็นจังหวัดชายแดนที่ติดกับ 2 ประเทศ ที่มีกำลังซื้อสูงที่สุดในอาเซียนอย่าง มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมถึงจุดเด่นในการเป็นพื้นที่การผลิต และอุตสาหกรรม เป็นเมืองการค้าและการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทั้งระบบส่งออกสินค้าที่ผลิตและแปรรูปเองได้หลักๆ ไปจีน วันนี้ต้องมาตั้งโจทย์ว่า มีทุกอย่างพร้อมแบบนี้ อะไรที่ฉุดรั้งสงขลาอยู่” กรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ยังได้ชูหลักคิด 'Songkhla - Seamless South' คือการบริหารเศรษฐกิจและการทำธุรกิจสำหรับหัวเมืองใหญ่ที่เชื่อมระหว่างประเทศแบบ “ไร้รอยต่อ” และทำ Travel Bubble (การเปิดท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทางเฉพาะประเทศที่ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ กับ สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อคืนชีพเศรษฐกิจหาดใหญ่ รวมถึงแรงงานภาคบริการซึ่งเป็นชาวบ้านในจังหวัดใกล้เคียงด้วย ขณะเดียวกันก็ได้ย้ำเรื่องการขยายศักยภาพจากจุดเด่นของเมือง คือ อุตสาหกรรมจากการแปรรูปไม้ยาง น้ำยาง ประมง ที่มีสัดส่วนเศรษฐกิจกว่าครึ่งของจังหวัด รวมไปถึง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ที่ต้องมีระบบโลจิสติกส์ที่เข้มแข็ง ระบบรางสำหรับขนของไปขาย และท่าเรือที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งออกสินค้าตรงไปยังจีน คือสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ มองว่า ปัญหาที่ดินที่ราคาปล่อยเช่า (yield) ต่ำ ทำให้กลไกตลาดไม่ทำงาน ปัญหาหนึ่งคือ สัดส่วนของพื้นที่ราชการ กว่า 40% เป็นที่ดินราชพัสดุสูงมาก ที่ราชการถือครองไว้เฉย ๆ ไม่ได้นำที่ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อประชาชนและท้องถิ่นโดยภาพรวม ทั้งที่พื้นที่โซนนี้สามารถขยายศักยภาพของคนในท้องถิ่น ได้หาแหล่งรายได้จากอุตสาหกรรมใหม่ หรือ New S-Curve ซึ่งเป็นหัวใจหลักของกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

‘ครูเป็ด’ โพสต์ข้อคิด ยากจนไม่ใช่เพราะขาดโอกาส แต่โอกาสถึงมือแล้วไม่รับ ส่งเข้าปากแล้วก็ไม่เคี้ยว

ครูเป็ด - มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรคกล้า ฝ่ายการศึกษา ได้โพสต์ข้อความชวนคิดลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

วันก่อนผมแวะเข้าปั๊มหาซื้อของกินแก้หิว…

มีคีออสเล็กๆ ขายหมูปิ้งกับลูกชิ้นปิ้ง ผมก็เดินเข้าไป...ไม่มีคนขาย บนเตาก็ไม่มีลูกชิ้นปิ้งอยู่ ในตู้กระจกมีหมูปิ้งวางแห้งๆ อยู่สามสี่ไม้

ผมต้องเดินเข้าไปชะโงกดูจึงเห็น...คนขายเป็นหญิงวัยรุ่นนั่งกดมือถือเสียบหูฟังอยู่กับพื้น ผมต้องเคาะเรียกนางถึงจะลุกขึ้นมา…

ผมถามถึงหมูปิ้ง นางก็บอกที่ปิ้งแล้วก็มีเท่าที่เห็นสามสี่ไม้ ลูกชิ้นก็ยังไม่ได้ปิ้ง ถ้าจะเอาใหม่ต้องรอ

ผมถามว่ารอนานไหม นางบอกว่าคงนานค่ะ เพราะเตายังไม่ร้อนเลย...ผมมองไปที่เตาไฟฟ้า ก็มีร่องรอยการปิ้งอยู่เล็กน้อยและตอนนี้ยังไม่ได้เสียบปลั๊ก

...สรุปคือท่าทีของนาง ไม่ได้อยากขายของ

ผมสันนิษฐานเอาว่า (อาจจะไม่ถูกก็ได้) หญิงสาวคนนี้คงเป็นเด็กที่เจ้าของจ้างมาขายของ และเจ้าของคงไม่รู้พฤติกรรมที่จะทำให้ขายของไม่ได้แบบนี้

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์หลายครั้งที่เคยเจอมา…

คนบางคนเขาขาดโอกาส ทำให้ก้าวหน้าไม่ได้ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ผมเจอ...โอกาสยื่นให้ถึงมือก็ไม่รับ ส่งเข้าปากก็ยังไม่เคี้ยวเลย

‘สมคิด จิรานันตรัตน์’ แนะธนาคาร ลูกค้า หน่วยงานกำกับ ปรับแก้ระบบชำระเงิน กันเงินรั่วไหล ยัน Mobile Banking ยังเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย เพราะโทรศัพท์เป็นทรัพย์สินส่วนตัว 

นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษานโยบายด้านเทคเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล พรรคกล้า อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวถึงกรณีเงินรั่วไหลจากบัญชีของธนาคารที่เป็นกระแสข่าวอยู่ตอนนี้ว่า จุดรั่วใหญ่สุดน่าจะอยู่ที่ร้านค้าหรือแอปพลิเคชันที่ปล่อยให้มีการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิต ที่หละหลวมเกินไป ทำให้เกิดกรณีการใช้โปรแกรมเดาเลขที่บัตรได้ 

ฉะนั้นวิธีแก้ไขที่ควรเร่งปฏิบัตินั้น สมคิด ได้แนะแนวทางต่อผู้เกี่ยวข้อง 3 ด้านดังนี้...

>> ด้านธนาคาร 
1.) ควรมีระบบ Fraud Detection (ระบบตรวจจับการทุจริต) ที่ป้องกันการเกิดเหตุการณ์ผิดปกติเช่นนี้
2.) ควรมีระบบเตือนให้ลูกค้าทราบทุกๆ รายการทาง Mobile Banking หรือ SMS
3.) ไม่ควรรับการชำระเงินจากร้านค้า หรือแอปพลิเคชันที่หละหลวมเช่นนี้ 

'พรรคกล้า' เดินหน้าตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด  “อรรถวิชช์” ยัน จ.ขอนแก่น ไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง ประกาศหาผู้สมัครส่งครบ 11 เขต เดินหน้าปักหมุดภาคอีสาน ตั้งธงส่งผู้สมัครครบ 400 เขตทั่วประเทศ 

ที่จ.ขอนแก่น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงการลงพื้นที่ จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดอีก 2 เขต คือเขต 1 อ.เมือง และเขต 2 อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ว่า ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และจังหวัดขอนแก่นไม่ได้เป็นพื้นที่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แม้พรรคกล้าเป็นพรรคน้องใหม่ แต่ตัดสินใจเดินทางมาขอนแก่นครั้งนี้ ได้จัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดได้หลายเขตแล้ว ยืนยันว่าพรรคกล้าจะส่งผู้สมัครให้ครบทั้ง 11 เขตในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ได้ผู้สมัครหลายเขตแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน หากท่านใดมีความสนใจก็อยากเชิญชวนให้สมัครสมาชิก โดยพรรคกำลังคัดสรรคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในพื้นที่ อย่างภาคการเกษตร การปลูกข้าว การจัดการน้ำ ส่วนพื้นที่ อ.เมืองเขต 1 ก็มีผู้เสนอตัวมา แต่จะมีการเลือกอีกครั้ง โดยจะมีการทำไพรมารี่ขึ้นมาแข่งขันกัน เพราะเป็นพื้นที่สำคัญที่มีมหาวิทยาลัย เป็นเมืองศูนย์กลางอินโดจีน ซึ่งอีก 3 สัปดาห์ พรรคก็จะกลับมาทำกิจกรรมในพื้นที่อีกครั้ง

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมความพร้อมในพื้นที่ภาคอีสานนั้น  พรรคกล้ามีเป้าหมายส่งผู้สมัครให้ครบในภาคอีสาน และครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ไม่ว่าระบบเลือกตั้งจะเป็นแบบไหนพรรคกล้าพร้อมสู้เสมอ และเชื่อว่าหลักความเป็นพรรคเศรษฐกิจ การทำประเทศให้ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เข้าใจประสบการณ์ รวบรวมคนที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านมาอยู่ด้วยกัน ไม่ผูกขาดไปที่นักการเมือง แต่ใช้บุคคลจากประสบการณ์สาขาอีกชีพ มีความหมายกับพรรคมากในการทำประเทศให้ทันสมัยขึ้น

‘กรณ์’ หวั่นคนไทยไร้เงินออมยามชรา ชงรัฐเติมงบ ‘กองทุนการออมแห่งชาติ’

สืบเนื่องจากวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปีเป็น “วันออมแห่งชาติ” กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การออมในระดับครัวเรือนยังห่างไกลจากคำว่าพอ โดยให้ลองถามตัวเองดูว่า "มั่นใจแค่ไหนว่า คุณมีเงินออมเพียงพอต่อชีวิตหลังเกษียณ?"

รวมทั้งคิดเผื่อด้วยว่า เรามีโอกาสสูงที่จะมีชีวิตเกษียณยาวนานได้ถึง 25-30 ปี หรือไม่ และลองสมมติเพิ่มเติมว่า ค่าครองชีพจะสูงขึ้นเท่าไร โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่เราต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในวัยชรา ยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยยิ่งเป็นปัญหา คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีบำเหน็จบำนาญ โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน ส่วนหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นเรื่อย ๆ บวกลบแล้วน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

“สมัยผมเป็นรัฐมนตรีคลัง เราออกกฎหมาย ‘กองทุนการออมแห่งชาติ’ หรือ 'กอช.' เพื่อจูงใจให้คนไทยออมมากขึ้นโดยมีเงินสมทบจากรัฐบาล แต่กองทุนนี้ถูกดองไว้นาน เพราะการเอาแต่ 'เล่นการเมือง' โดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนกองทุนการออมเพิ่งจะเริ่มได้ในยุค คสช. แต่พอมาถึงยุครัฐบาลปัจจุบัน ถึงแม้เป็นนายกฯ คนเดียวกัน ก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ กับการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการจูงใจให้ประชาชนเข้าร่วม ทั้ง ๆ ที่โลกกำลังเป็นเทรนด์ทางเศรษฐกิจที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่สัดส่วนคนไทยเข้า กอช. ยังน้อยเกินไปมาก 

‘พรรคกล้า’ ค้านแก้ ม.112 ชี้ สถานการณ์ไม่เหมาะ เตือนอย่าสร้างคะแนนนิยม บนความเกลียดชัง

‘พรรคกล้า’ ค้านแก้ ม.112 สถานการณ์ไม่เหมาะ ยิ่งแก้ สังคมยิ่งแตกแยก พรรคการเมืองต้องไม่สร้างคะแนนนิยม บนความเกลียดชัง  

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า แสดงความไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ถ้าคิดแบบปฏิบัตินิยมในสถานการณ์ปัจจุบัน หากยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะเร่งความขัดแย้งในชาติให้รุนแรงขึ้นอีก เช่น 

1.) เกิดการดูหมิ่นต่อสถาบันมากขึ้น นำมาสู่ ข้อ 2
2.) เกิดความขัดแย้งสองฝ่าย และจะนำไปสู่การปะทะกันบนท้องถนน 
3.) เกิดวิกฤตการเมืองรอบใหม่ เป็นช่องว่างทำให้เกิดการแทรกแซงทางการเมือง เข้ายึดอำนาจหรือรัฐประหารอีก 

ทูตสิงคโปร์เข้าพบ "กรณ์" หารือการพัฒนาระบบราชการด้วยเทคโนโลยี พร้อมชิมข้าวมันไก่สูตรไทย 

กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ให้การต้อนรับทูตสิงคโปร์ นายเควิน ฉ็อก ที่เดินทางมาเยี่ยมที่พรรคกล้า ถนนรัชดา เพื่อแลกเปลี่ยนหารือเรื่องการพัฒนาระบบราชการด้วยเทคโนโลยี (Govtech) 

โดยหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวภายหลังการหารือว่า เราได้ความรู้มากมาย โดยเฉพาะจากการทดลองใช้ Digital IC หรือบัตรประจำตัวดิจิตอล ซึ่งเพิ่งมีการเริ่มใช้ที่สิงคโปร์เมื่อต้นเดือนนี้ พรรคกล้ามองว่าการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระบบราชการเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทยเรา

ผู้สื่อข่าวรายงาน การเข้าพบในครั้งนี้ ทางพรรคกล้าโดยเชฟเอ ได้ทำข้าวมันไก่พร้อมน้ำจิ้มแบบไทยให้ท่านทูตได้ลองชิม ซึ่งเป็นการดัดแปลงสูตรไหหลำของสิงคโปร์ตามรสนิยมแต้จิ๋วของคนจีนส่วนใหญ่ในไทย  และภรรยา ของคุณกรณ์ ก็ได้ทำน้ำจิ้มสูตรของที่บ้านมาสมทบด้วย ซึ่งคุณกรณ์ได้ย้อนความให้ฟังว่า เวลาใครไปสิงคโปร์ ก็จะต้องทานข้าวมันไก่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็น Boon Tong Kee และสมัยตนเด็กๆ พ่อแม่จะพาไปทานที่คาเฟ่ในโรงแรมแมนดาริน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top