Thursday, 2 May 2024
พรรคกล้า

"ผู้กำกับหนุ่ย ชุมพร" เรียกร้อง สตช. ชี้แจงตำรวจถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม ทั้งที่ไม่มีความผิด ย้ำต้องปกป้องศักดิ์ศรีตำรวจที่ตั้งใจทำงาน ถามกลับ "โฆษก ตร." ให้ตำรวจใช้ช่องทางร้องทุกข์ ก.ตร. จะได้เยียวยาภายในกี่วัน 

พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.ชุมพร อดีตผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจรอบล่าสุด ยังมีการโยกย้ายแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรมอย่างเช่นทุกปี โดยยกกรณี พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ รองผู้กำกับการปราบปราม สน.บางกอกใหญ่  ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าชุดปราบขบวนการไม้พะยูงด้วยกันตั้งแต่ สน.ท่าข้าม ที่ทำงานหนัก ที่ สน.นางเลิ้งมา 4 ปี ย้ายไปอยู่ สน.บางกอกใหญ่ 1 ปี ทำเรื่องขอขึ้นเป็นผู้กำกับ แต่ไม่ได้ตำแหน่ง จนทำให้หาที่ลงไม่ได้ จนที่สุดถูกย้ายข้ามภาคไปที่ จ.เลย ซึ่งทางปฏิบัติไม่ทำกันแบบนี้  หรือตั๋วฝากจากผู้ใหญ่ หรือนักการเมืองลงมาแน่น เลยถีบ รอง ผกก.จาก บชน. ไป จังหวัดเลย 

"การย้ายข้ามภาค ทำได้โดยวิธีใบสมัครว่าต้องการไปจังหวัดที่ต้องการ หรือมีความผิดโดนตั้งกรรมการสอบและโดนโยกย้ายออกหน่วยไป แต่ พ.ต.ท.ธรเดชฯ การทำงานระดับดีเยี่ยมไม่ได้มีความผิดอะไร ประวัติไม่เคยด่างพร้อย นี่หรือคือรางวัลสำหรับคนทำงาน" พ.ต.อ.ทศพล กล่าว 

พ.ต.อ.ทศพล กล่าวอีกว่า ปัญหาแต่งตั้งโยกย้างยังมีอีกหลายกรณี อย่างการแต่งตั้งสารวัตรสืบสวน จ.ฉะเชิงเทรา ไปเป็นสารวัตรฝ่ายอำนวยการ สภ.ต.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน จนเพื่อนตำรวจในโรงพัก งง ถูกย้ายแบบนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงข้ามภาค หรือเพื่อเอาตำแหน่งว่างโดยไม่สนว่าคนโดนย้ายจะเป็นอย่างไร จึงอยากฝากไปถึงโฆษก ตร. บอกให้ร้องทุกข์ต่อ ก.ตร. จะได้เยียวยาภายในกี่วัน 

“ทนายอาร์ม” ผู้กล้า พรรคกล้า!! เลือกตั้งซ่อม สงขลาเขต 6 | Click on Clear THE TOPIC EP.116

📌 Exclusive พลาดไม่ได้!! เปิดตัว...ผู้ลงศึกเลือกตั้งซ่อม!! ‘ทนายอาร์ม พงศธร สุวรรณรักษา’ ทนายความด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน และว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 สงขลา

📌 ใน Topic : รู้จักตัวตน “ทนายอาร์ม” ผู้กล้า พรรคกล้า!! เลือกตั้งซ่อม สงขลาเขต 6

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

"กรณ์" มั่นใจคุณภาพผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สงขลา มุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ "พงศธร" จับได้เบอร์ 4 เชื่อกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ - คนรุ่นใหม่ หันมาเลือกพรรคกล้า "ผู้การชาติ" เชื่อฐานเสียงในพื้นที่ยังเหนียวแน่น 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า , พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคใต้ พร้อมด้วยทีมงานและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้กำลังใจ นายพงศธร สุวรรณรักษา ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลา เข้าสมัครรับเลือกตั้งช่วงเช้าวันนี้ ที่ศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง อ.สะเดา จ.สงขลา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนการรับสมัครเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาเอกสารหรือข้อกฎหมาย โดยนายพงศธร ได้ "เบอร์ 4" 

นายกรณ์ กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคกล้าเป็นคนธรรมดาคนนึงที่มีจิตสาธารณะ ต้องการเอาความรู้ความสามารถ มาช่วยเหลือแก้ปัญหาพี่น้องประชาชนในฐานะ ส.ส. ซึ่งเป็นประเภทคนที่พรรคอยากสนับสนุน ทำให้การเมืองไทยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้ ถ้ามีคนแบบนี้มาเป็นผู้แทนในสภาฯ จึงเสนอตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงการเมืองในพื้นที่ไปในทิศทางที่ดีขึ้น สร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน 

หัวหน้าพรรคกล้า ยังกล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับราคายางว่า ควรจะมีราคาสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาภาษีประชาชนมาจ่ายส่วนต่าง ยางพาราภาคใต้เป็นแหล่งผลิตยางมีคุณภาพที่สุดในโลก แต่ขาดการบริหารจัดการ ซึ่งวิธีการที่จะเสนอและสามารถทำได้ คือการส่งเสริมให้สหกรณ์เข้มแข็ง มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ นอกจากรับซื้อยางจากชาวสวนในราคาสูงแล้ว ยังต้องมีศักยภาพในการแปรรูป สามารถหาตลาดส่งออกเอง โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นโมเดลที่พิสูจน์มาแล้วในพื้นที่อื่นๆ ว่าสามารถมีสหกรณ์ที่มีมาตรฐานแบบนี้ได้ จึงน่าแปลกใจว่า ทำไมแหล่งผลิตยางพาราอย่างสงขลา จึงไม่มี สหกรณ์ที่เป็นของเกษตรกร ยังต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง จนขาดอำนาจในการต่อรอง จึงเกิดเป็นนโยบายที่พรรคกล้าจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อประชาชนตัวเล็กๆ เพื่อเกษตรกร 

'อรรถวิชช์'​ ลงชิงเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ เดินหน้าการเมืองคุณภาพ ต้องเกิดขึ้นใน กทม. 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ประกาศลงชิงเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่ - จตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค คณะผู้บริหาร และทีมพรรคกล้า กทม. มาร่วมให้กำลังใจในการเปิดตัวส่งสมัคร ส.ส. ครั้งนี้ 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ตั้งพรรคกล้าขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชน อยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์ บนแนวคิด “ปฏิบัตินิยม ลงมือทำ” และเมื่อมองย้อนไปในพื้นที่ หลักสี่ - จตุจักร ในช่วง 7 ปีเศษนี้ มีงานสาธารณูปโภค ถนนย่อย ระบบระบายน้ำ หลายอย่างที่ยังค้างคา ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เคยเป็น ส.ส. ในเขตจตุจักร คงได้ลงไปช่วยกันสะสางกันจนเสร็จสิ้น บทบาท ส.ส. ในเรื่องการพัฒนาพื้นที่สามารถทำได้ ในฐานะตัวเชื่อมหน่วยราชการกับประชาชน งาน ส.ส. ไม่ใช่แค่เข้าประชุมสภาฯ หรือการต่อสู้ฟาดฟันกับฝ่ายที่เห็นต่าง จึงเห็น “คุณภาพ ส.ส.” เป็นเรื่องสำคัญ 

"การทำการเมืองสร้างสรรค์เป็นปฏิบัตินิยมลงมือทำนั้น ไม่มีอะไรดีกว่า “ทำให้ดู” ผมจะถือโอกาสเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พาทีมงานว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่ไฟแรงของพรรคกล้า เรียนรู้ขั้นตอนต่างๆ ทางการเมืองด้วย เขาอาจเป็นตัวจริงในแต่ละอาชีพ แต่ทำงานการเมืองนั้นไม่ง่าย เป็นงานที่ต้องเข้าใจคนอย่างแท้จริง" นายอรรถวิชช์ กล่าว 

นายอรรถวิชช์ กล่าวย้ำว่า ตนเองเคยเป็นผู้แทนทั้งเขตหลักสี่และจตุจักร มั่นใจว่าห้วงเวลาที่ตนเองเป็นผู้แทนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และจะขอกลับมาทำหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง ขอพี่น้องประชาชนให้โอกาส “สร้างสรรค์การเมืองคุณภาพ” ให้เกิดขึ้นในหลักสี่ - จตุจักร 

นายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า การส่งนายอรรถวิชช์ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค ลงสู้ศึกครั้งนี้ สะท้อนวัฒนธรรมของพรรคที่เน้นปฏิบัติ กล้าที่จะลงมือทำ การแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติในทุกประเภทการแข่งขันและทางการเมือง ซึ่งพรรคได้เลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เหมาะสมที่สุด มีความพร้อมมากที่สุดที่จะแสดงตนในฐานะหัวหน้าทัพ ไม่ได้นั่งบัญชาการอยู่เบื้องหลัง และเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน ให้พี่น้องชาวหลักสี่ ชาวจตุจักร และเพื่อให้พี่น้องชาวกรุงเทพ และคนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่าผู้สมัครของเรามีคุณภาพอย่างไร 

“กรณ์ - อรรถวิชช์” ลงพื้นที่ตลาดบางเขน-ตลาดอมรพันธ์ รับฟังปัญหาปากท้อง แนะก.พาณิชย์ ควบคุมราคาสินค้าพุ่ง กังวลอำนาจเงิน แทรกแซงเลือกตั้ง ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรณรงค์อย่าซื้อสิทธิ์ขายเสียง อ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า , นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เลือกตั้งซ่อม หลักสี่-จตุจักร พร้อมทีมงานพรรคกล้า ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาที่ตลาดบางเขน ตลาดอมรพันธ์ โดยพ่อค้าแม่ค้าให้ความสนใจทักทายให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมสะท้อนปัญหาสินค้าราคาแพง โดยเฉพาเนื้อหมูที่ราคาพุ่งสูงมากในช่วงนี้

นายกรณ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องท้าทาย สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมีภาระหน้าที่สำคัญในการแก้ปัญหาปากท้อง และต้องดูว่าเป็นเรื่องกลไกการตลาด หรือการบริหารจัดการ มีอะไรที่สามารถทำให้ราคาสินค้าลดลงได้ พร้อมเสนอไปยังกระทรวงพาณิชย์ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ซึ่งต้องดูว่าไม่มีใครเอารัดเอาเปรียบ อ้างกลไกตลาดในการปรับขึ้นราคาสินค้า 

ขณะที่นายอรรถวิชช์ ยืนยันถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ว่าตั้งใจกลับมาทำงานสานต่อพัฒนาสาธารณูปโภคย่อยๆ ในซอย ทางลัด ระบบระบายน้ำสายย่อย ไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งมีความทรุดโทรมไปมาก ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ก็พยายามไปพบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด และในบรรดาผู้สมัครทุกคน เชื่อว่าตนมีความผูกพันกับเขตนี้มากที่สุด ทั้งหลักสี่-จตุจักร เดินพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2548 ช่วงโควิดก็มีการตั้งศูนย์กล้าอาสา ช่วยคนหาเตียง 7,000 คน ตั้งศูนย์พักคอย 36 ศูนย์ จุดที่เป็นเซ็นเตอร์ อยู่เขตเลือกตั้งนี้ 

“ผมทำงานทุกวัน เจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาก็ทักทาย มั่นใจว่าเราจะนำชัยชนะมาได้ แม้ว่าพรรคกล้าจะเป็นพรรคใหม่ แต่เกณฑ์ชี้วัดครั้งนี้ ต้องถามพี่น้องประชาชนว่า การเมืองคุณภาพ การเมืองสร้างสรรค์  เกิดได้ไหมในกรุงเทพมหานคร มั่นใจว่าวิธีการคิดโครงสร้างหลักของชาติ ศาสตร์ กษัตริย์เป็นเรื่องสำคัญ แต่เป้าหมายของชาติในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ การเป็นมืออาชีพในด้านนี้ อยากเห็นประเทศดีขึ้น” 

ส่วนข้อเสนอการแก้ไขกฎหมายลูก ที่มีข้อเสนอใน 2 แนวทาง คือการใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศกับหนึ่งเขตหนึ่งเบอร์ นายกรณ์ กล่าวว่าขอให้ยึดหลักประชาชนเป็นที่ตั้ง หากแต่ละพรรคมีเบอร์เดียวกันหมดจะง่ายที่สุด ประชาชนไม่สับสน และในอดีตเมื่อปี 48 ก็ใช้บัตร 2 ใบ  เบอร์เดียวทั่วประเทศ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคกล้าส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมทั้ง 3 เขต คือ กทม. ชุมพร และสงขลา ยอมรับว่าต่างจังหวัดมีอิทธิพลเรื่องเงินอย่างมหาศาล ทำให้อดกังวลไม่ได้ว่าการใช้เงินจำนวนมาก โดยไม่มีใครสามารถเอาผิดกับใครได้ เป็นการบิดเบือนเจตนารมย์ ความตั้งใจ และความต้องการตามระบอบประชาธิปไตยของพี่น้องประชาชน คนดีเข้ามาทำงานการเมืองยากขึ้น ฝากถึงผู้มีอำนาจ ขอให้ใส่ใจในเรื่องนี้ ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน พบว่าซื้อสิทธิ์ขายเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยก่อน 50-100 บาท เดี๋ยวนี้ 2,000-3,000 บาท ที่ผ่านมาพบเยอะมาก ขอให้สื่อลงไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จะทราบข้อเท็จจริง ว่ามีการใช้เงินมากขึ้น และโจ่งแจ้งมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ ยังไม่มีใครมีมาตรการลงไปปราบปรามแก้ไข 

"กรณ์" สรุปผลงานพรรคกล้า 1 ปี ทำงานอาสาสู้โควิด เคียงข้างพี่น้องประชาชน แจกแมสก์ 5,000,000 ชิ้น แจกข้าวกล่อง 150,000 มื้อ ช่วยเหลือประชาชนกว่า 7,000 ราย ตั้งศูนย์พักคอย 36 ศูนย์ พร้อมขับเคลื่อนการเมืองสร้างสรรค์ 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงการทำงานในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ว่าเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับพวกเราทุกคน  โควิดเล่นกับเราแรงมาก ขอแสดงความเสียใจกับทุกๆท่าน ที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้องให้กับโควิด ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังพยายามที่จะฟื้นตัวจากการติดเชื้อ และใครที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่าลังเล ส่วนใครที่มีโอกาสฉีดเข็ม 3  ถ้าหมอแนะนำให้ฉีด ก็ขอให้ฉีดทันที  วันนี้โอมิครอนคืบเข้ามาสู่ประเทศไทยเราแล้ว ปลอดภัยไว้ดีกว่า ส่วนประเด็นเรื่องของเศรษฐกิจ ก็ยังมีความน่าเป็นห่วง หลายๆท่านสูญเสียโอกาสในการทำมาหากิน รายได้ลดลง  ประเด็นปัญหาเรื่องหนี้สินเพิ่มมากยิ่งขึ้น  ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ทุกคนต้องมีสติในการดูแลเรื่องค่าใชhจ่าย  อย่าเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น เพราะว่าประเด็นปัญหาเศรษฐกิจยังไม่จากเราไป 

ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา พวกเราพรรคกล้าได้เลือกที่จะเน้น “งานอาสา” แทน “งานการเมือง” กลุ่ม “กล้าอาสา” ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ติดต่อเข้ามากว่า 7,000 ชีวิต เราได้แจกแมสก์ไปกว่า 5 ล้านชิ้น และได้ตั้งศูนย์พักคอยชุมชนเพื่อแยกผู้ป่วยออกจากชุมชนในการสะกัดการแพร่เชื้อถึง 36 แห่ง ทีมงานและว่าที่ผู้สมัครของเราได้ทำครัวร่วมกับเพื่อนๆ จิตอาสาแจกข้าวกล่องไปกว่า 150,000 มื้อ ให้ผู้ที่เดือดร้อนและผู้ยากไร้ และงานอาสาเราไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เรื่องโควิดแต่ทีมอาสาเรายังได้ช่วยผู้ประสบภัยอื่นๆเช่น น้ำท่วมในภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ หรือช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ 

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากงานอาสาแล้ว งานการเมืองเราก็ทำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจนั้น เราทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอดในการเสนอแนวคิดนโยบายไปทางรัฐบาล ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องการเยียวยาประชาชนหรือเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเราได้เสนอความคิดทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอดเพื่อช่วยให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นเรามีจุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อลดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงการแสดงจุดยืนสนับสนุนสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQ+ 

เลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ส่ง ‘อรรถวิชช์’ ชี้ชะตาพรรคกล้า!! | Click on Clear THE TOPIC EP.119

📌 พลาดไม่ได้!! ‘กล้า’ ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม!! กับ ‘คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ เลขาธิการพรรคกล้า
📌 ใน Topic : เลือกตั้งซ่อมหลักสี่ ส่ง ‘อรรถวิชช์’ ชี้ชะตาพรรคกล้า!! 

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

‘อรรถวิชช์’ มั่น!! เต็งซ่อม ‘หลักสี่-จตุจักร’ ชี้!! เข้าวินปุ๊บ ลุยเคลียร์ปม 2 คลองขัดแย้งทันที 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่า มั่นใจ 100% เพราะเคยเป็นผู้แทนราษฎรในเขตหลักสี่และเขตจตุจักร ปี 2550 และ 2554 มาก่อน วันนี้กลับมาลงเลือกตั้งในเขตนี้อีกครั้ง เสียงตอบรับดีมาก มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะจากการประเมินคู่แข่ง ส่วนตัวคุ้นชินพื้นที่และมีผลงานในพื้นที่ไว้มาก และการเลือกตั้งใหญ่ที่เหลือเวลาอีกแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น สิ่งที่อยากทำคือเป็นคนกลางในการพูดคุยกับประชาชนและประสานงานในการดำเนินการเกี่ยวกับซอยย่อย ถนนทางลัด และตามริมคลอง เพราะเขตนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 2 คลอง คือ คลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร ซึ่งที่ผ่านมาอดีต ส.ส. ไม่กล้าเข้าไปเจรจาแก้ปัญหา 

“อรรถวิชช์” ทำหนังสือหารือ กกต. ขอพรรคการเมือง จัดตั้งศูนย์ประสานงานหาเตียง - ศูนย์พักคอยช่งงโอมิครอนระบาด ได้หรือไม่

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต9 หลักสี่ - จตุจักร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้า ได้ทำหนังสือหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เกี่ยวกับบทบาทพรรคการเมืองในสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนระบาด เนื่องจากที่ผ่านมาที่ทำการพรรคกล้า เป็นศูนย์ประสานงานโครงการกล้าหาเตียง เคยช่วยประสานให้ผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาได้กว่า 7,000 เคส รวมถึงเปิดศูนย์กล้าดูแลร่วมกับชุมชนต่างๆ ได้ถึง 36 ศูนย์

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางศูนย์ยุติการประสานงานชั่วคราว เพราะเข้าสู่ช่วงพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใช้บังคับ แต่สถานการณ์โควิดยังคงระบาดหนักต่อเนื่อง จึงได้ทำหนังสือหารือถึง กกต. ว่า พรรคกล้าจะเป็นศูนย์ประสานงานช่วยหาเตียงและตั้งศูนย์พักคอย โดยเป็นงานของอาสาสมัครที่ทำโดยไม่มีค่าตอบแทน และไม่แจกสิ่งของใดๆ ให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง กกต. ตอบกลับให้ความชัดเจน

"อรรถวิชช์" ชูจุดเด่น "พรรคกล้า พรรคเศรษฐกิจ" เชื่อถ้าประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะ ซื้อเสียงเอาไม่อยู่ มั่นใจคนกรุงกล้าเปลี่ยน 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ - จตุจักร เบอร์ 2 พรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงตลาดและชุมชนย่านชินเขต เขตหลักสี่ ตั้งแต่ช่วงเช้า เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องประชาชนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย พร้อมปราศรัยให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพรรคกล้า 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โควิดระบาด กังวลเรื่องเดียวคือเรื่องคนอาจไม่ออกมาใช้สิทธิ์ ส่วนเรื่องอื่นก็ทำเต็มที่แล้ว โดยวันนี้มารณรงค์หาเสียงในพื้นที่ตลาดย่านชินเขต ก็มาพูดให้ความรู้กับพ่อค้าแม่ค้า เกี่ยวกับแนวทางการเสียภาษีที่ถูกต้อง ซึ่งโครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่ดีมากๆ ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ขายได้มากขึ้น ก็ต้องเสียภาษีเยอะขึ้น ก็เลยมาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำบิลให้ถูกต้อง เพื่อหักลดหย่อนภาษี เพื่ออุดช่องว่างโครงการที่ดีอยู่แล้ว ถือเป็นการรณรงค์หาเสียงที่ได้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและให้ความรู้ไปด้วย เพราะจุดเด่นพรรคกล้าเป็นพรรคเศรษฐกิจ 

ส่วนกระแสข่าวการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในพื้นที่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ตลอดเวลา 17 ปี ของการทำงานการเมือง ไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องการซื้อเสียงที่หนักเท่าครั้งนี้ จำนวนเม็ดเงินที่สูงและทั่วถึง แต่มั่นใจคนกรุงเทพว่า ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็แล้วแต่ คนกรุงเทพมีวิจารณญาณ และต้องดูว่าวันที่ 30 มกราคมนี้ มีคนออกมาใช้สิทธิ์มากหรือน้อย ถ้าออกมาใช้สิทธิ์เกินกว่าร้อยละ 70 เชื่อว่าการซื้อเสียงเอาไม่อยู่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top