Wednesday, 1 May 2024
พรรคกล้า

บิ๊กเซอร์ไพรส์!! ประชุมใหญ่ ‘พรรคกล้า’ เปิดตัว ‘กอร์ปศักดิ์’ อดีตรองนายกฯสมัย ‘มาร์ค’ นั่งประธานยุทธศาสตร์ฯ ด้าน ‘กรณ์’ เสนอ 4 แนวทาง ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้อง หลังโควิด ลั่นพรรคกล้าประชาชนต้องมาก่อน  

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.เวลา 09.30 น. ที่ ห้องวายุภักษ์ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราบาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ  พรรคกล้า ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิกาพรรคกล้า และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน  โดยไฮไลน์การประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า

 โดยนายกรณ์ กล่าวในหัวข้อ ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้องว่า ในการประชุมครั้งนี้เท่ากับเวลาที่เราได้มาทำงานครอบ2ปีพอดี ซึ่งเป็น2ปีที่ประชาชนมีความเดือดร้อนหนักหนาสาหัส เพราะประสบกับสถานการณ์โควิด และปัญหาทางเศรษฐกิจ และที่หนักที่สุดที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความทุกข์มากที่สุดคือการที่เขามองไม่เห็นอนาคตว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ได้อย่างไร พรรคกล้าเราตั้งใจเสนอว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างโอกาสสร้างรายได้  เราต้องชัดเจนว่าจะสร้างกลับคืนมาให้ประชาชนได้อย่าไร 

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า โดยพรรคกล้าขอเสนอ 4 แนวทางและการสร้างรายได้ สร้างโอกาส คือ 1.สร้างอุตสาหกรรมใหม่ จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ ที่เรียกว่ากล้า Green Deal, 2.ยกเลิกสิ่งที่อยู่ใต้ดินให้มาอยู่บนดิน สิ่งที่อยู่ในที่มืดมาอยู่ในแสงสว่าง เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้รัฐบาล โดยเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี, 3. ผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอล สร้างช่องทางการค้าขายออนไลน์ให้กับประชาชน และ4. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์  ซึ่งทั้ง 4 แนวทางหลักนี้ จะนำไปสู่แหล่งรายได้หลักของไทย แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ มี 2 คำ คือเทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างได้ด้วยวิธีคิด และทัศนคติที่ปรับใหม่ ทั้งเรื่องการศึกษา ระบบราชการที่จะต้องปฏิรูปสู่เทคโนโลยี ถ้ายังไม่มีการปฏิรูประบบราชการจะกลายเป็นคอขวดและตัวถ่วงของประชาชนและภาคเอกชน ดังนั้นต้องปฏิรูปนำระบบราชการให้เข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่าง 100 เปอร์เซนต์  นำระบบราชการเข้าสู่โทรศัพท์มือถือได้  ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความฝัน เพราะตอนนนี้คนไทย 30 กว่าล้านคนที่ให้แอปเป๋าตังค์ 

 นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการปครอง ต้องมีการกระจายอำนาจ หมดยุคการรวมศูนย์อำนาจแล้ว เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด สร้างวัฒนธรรมสตาร์ทอัพ พร้อมที่จะผิดพาด พร้อมที่จะเรียนรู้ และเปลี่นแปลงโดยเร็ว  ซึ่งเชื่อว่าถ้าในอนาตเรามีโอกาสทำเรื่องแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความครึกคัก ขวัญกำลังใจ ความหวังของประชาชนจะกลับมา  เพราะเราอยู่ได้ด้วยความหวัง และความหวังต้องมาจากการที่ประชาชนสามารถมองเห็นผู้นำที่เชื่อใจ สนใจใส่ใจ เข้าใจแก้ปัญหาดร้อนของเขาได้อย่างไร  ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราชาวพรรคกล้า และเป็นภารกิจของพรรคกล้า ที่จะต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนมีความเชื่อว่าปัญหาที่เป็นอยู่มันแก้ไม่ได้ ทั้งปัญหาทุจริต ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาด้านการศึกษา ฝุ่น PM 2.5 ปัญหาการปฏิรูปตำรวจ ทั้งนี้แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข แต่ตนเชื่อว่าทุกเรื่องแก้ได้ โดยต้องอาศัยความกล้า นี่คือยุคของโอกาสนิยม ไม่ใช่ประชานิยม ต้องสร้างรายได้สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน ทุนใหญ่ต้องโตได้ทุนเล็กต้องมีที่ยืน รัฐบาลต้องร่วมมือกับเอกชน 

“ตลอด 2ปีที่ผ่านมาเราสัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่คำตอบให้กับสังคม เราลงเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งและเห็นว่าประชาชนให้โอกาสกับเรามากขึ้น และเราต้องทำงานอย่างหนักก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ภายในอีก 10 เดือนข้างนี้  ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือการเมืองแบบใหม่ การเมืองที่มีความสร้างสรรค์ การเมืองที่ทำด้วยคนที่เป็นมืออาชีพ พวกเราจะไม่ป่าวประกาศในฐานะพรรคใหม่ว่าเราจะได้ ส.ส.กี่คน หรือจะแลนด์ไสลด์ เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้เราเป็นพรรคใหม่ยังมีการบ้านที่ต้องทำอีกมาก แต่ที่อยากจะบอกคือเราพร้อมทำงานหนัก พร้อมรับฟังประชาชน และพร้อมที่จะเสียสละ และสำหรับพรรคกล้าประชาชนต้องมาก่อน” นายกรณ์กล่าว

จากนั้นนายกรณ์ ได้เปิดตัวคณะกรรมการเศรษฐกิจ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ จะเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคฯ โดยมีตน และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคฯ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจต่อไป ส่วนนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ฯ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจคนตัวเล็ก และนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษานาคารแห่งประเทศไทย มาเป็นที่ปรึกษานโยบายด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจดิจิตอล ของพรรคฯ มาช่วยงานด้านเศรษฐกิจดิจิตอล รวมทั้งยังมี ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และอดีตคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามาดูแลงานด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาคล้านนา

'กรณ์' เปิดความในใจถึง 'กอร์ปศักดิ์' ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้า อาสาร่วมมือแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจประเทศไทยอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ความในใจถึง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่เข้าร่วมพรรคกล้าและมีการเปิดตัวในงานประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ยินดีต้อนรับมืออาชีพด้านเศรษฐกิจตัวจริง พรรคกล้ามองว่าความท้าทายสูงสุดตอนนี้หนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องแก้ปัญหาของแพง-รายได้ฝืด-หนี้สูง เราอยู่ในช่วงดอกเบี้ยโลกขาขึ้น สงครามและโควิดบีบการค้าระหว่างประเทศ และวัตถุดิบสำคัญของแทบทุกอุตสาหกรรมขาดแคลนและราคาแพง 

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องมียุทธศาสตร์และนโยบายที่ชัดเจน ฐานะการคลังเรายังดี แต่เราต้องเปลี่ยนวิธีใช้เงินกู้และเงินงบประมาณของรัฐ ซึ่งพรรคกล้าเราเสนอว่าต้องเป็นรัฐบาลกู้แต่ต้องเพื่อเอกชนเป็นผู้ได้ใช้ เราต้องมียุทธศาสตร์ภาคอุตสาหกรรมใหม่ที่จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ในประเทศ เราต้องส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม เราต้องลงทุนเพื่อสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นแนวหน้าของโลก เพื่อสร้างงานคุณภาพให้คนรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่สามารถแก้ทุกปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประเทศและพี่น้องประชาชนได้ ระหว่างทางเราต้องตอบโจทย์ปัญหาของแพง ปุ๋ยแพง ภาระหนี้สิน และการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรไทย

'กรณ์' ผุด!! 'ทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า' ใต้พลังนักธุรกิจรุ่นใหม่ รวบหลากประสบการณ์ 'ฟื้นเศรษฐกิจ-แก้วิกฤตปากท้อง'

(2 ..65) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงทีมเศรษฐกิจของพรรคที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ประจำปีเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า...

ภารกิจของพรรคกล้าขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีคนเก่ง มีจิตสาธารณะ อาสาเข้ามาช่วยงานพรรคในฐานะทีมงาน ผู้สมัคร เพรรคกล้าจึงได้คนคุณภาพที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา เชื่อมต่อคนระหว่างรุ่นได้อย่างลงตัว และพร้อมที่จะนำความสำเร็จจากประสบการณ์การทำธุรกิจ มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ต่อยอดภารกิจสำคัญที่สุดของพรรคในขณะนี้คือ “การสร้างรายได้ สร้างโอกาส”

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคกล้าได้แต่งตั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นั่งประธานยุทธศาสตร์ โดยมีตนและนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ มีนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ให้คำปรึกษาในการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมและถูกต้องในการนำประเทศไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับทีมเศรษฐกิจ แต่งตั้งนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค อดีตนายกสมาคมค้าปลีกไทยเป็น เป็นประธานทีมเศรษฐกิจ ร่วมด้วยนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะมาดูแลภารกิจต่างๆ ของพรรคประกอบด้วย ดร.อัครเวช โชตินฤมล นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ดูแล "เศรษฐกิจสีเทา" ด้วยภารกิจการเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ชูนโยบาย "กล้า Green Deal" เพื่อหารายได้เพิ่มเข้าประเทศ

นายเทมส์ ไกรทัศน์ นักธุรกิจภาคบริการ ว่าที่ผู้สมัคร ส..ภูเก็ต ดูแลภารกิจเศรษฐกิจท่องเที่ยว ร่วมกับ ดร.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ที่จะดูแลภารกิจเศรษฐกิจท่องเที่ยวล้านนา

นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ นักธุรกิจส่งออกจิวเวลรี่รายใหญ่ ดูแลภารกิจเศรษฐกิจการส่งออก

นายสืบศิษฏ์ ศานติศาสน์ ดูแลภารกิจการศึกษาเพื่ออาชีพ กำลังคน กำลังแรงงานภาคการผลิตเพื่อให้คนไทยมีทักษะใหม่ตอบโจทย์ระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบันและอนาคต

นายกฤษดา เฉลิมสุข อดีตนายกสมาคมโปรแกรมเมอร์ เทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ มาทำงานด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ เสริมยุทธศาสตร์ของพรรค

นอกจากนี้ยังมีคนหนุ่มรุ่นใหม่อย่าง พีเค พัสกร วรรณศิริกุล ที่เพิ่งเดินเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้า แม้อายุยังน้อยแต่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หลากหลายมิติทั้ง การแสดง อาหาร ภาพยนตร์ โฆษณา แฟชั่น ฯลฯ พีเค จะเข้ามาช่วยตกผลึกวิธีคิดว่าจะส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตอบโจทย์เศรษฐกิจรุ่นใหม่ได้อย่างไร

นางสาวนวลลออ เทอดเกียรติกุล จะเข้ามาดูและภารกิจเศรษฐกิจนวัตกรรมการเกษตร ซึ่งความเป็นจริงคุณนวลลออ ไม่ได้เป็นเกษตรกรมาทั้งชีวิต เคยทำงานออฟฟิศในบริษัทชั้นนำของโลก ก่อนจะลาออกมาใช้ชีวิตเป็นเกษตรแนวใหม่ นำสินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดด้วยตัวเองจนประสบความสำเร็จ ก็จะเอาประสบการณ์เหล่านั้น มาช่วยสร้างเศรษฐกิจพรีเมี่ยม เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

นายกฤษฎา เฉลิมสุข อดีตนายกสมาคมโปรแกรมเมอร์ จะเข้ามาดูแลภารกิจเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ

ดร.กฤษณะ ทองแก้ว ที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นเรื่องเศรษฐกิจชุมชน ก็จะมาดูแลภารกิจส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับฐานราก

นายศิริศักดิ์ เชื้อวงศ์ นักธุรกิจการเงิน ที่จะมาดูแลเรื่องเศรษฐกิจการเงิน การลงทุน เพื่อให้ความรู้กับประชาชนเพราะการลงทุนสำคัญมากที่จะสร้างความมั่นคงในชีวิตระยะยาว

นายบุญสืบ จันทร์แจ่มสี ว่าที่ผู้สมัคร สส.ลาดพร้าว-วังทองหลาง ก่อนมาทำงานการเมืองก็ทำธุรกิจสายมาร์เก็ตติ้ง โฆษณา และแบรนด์เมเนเจอร์ อดีตผู้บริหารซัมซุงโบมาย และมีนางสาวกชกร คีรีโชติ นักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มานั่งเป็นเลขาของทีมเศรษฐกิจด้วย

'พรรคกล้า' ตั้ง 'ดร.บลู' นั่ง ปธ.กก.อำนวยการพื้นที่และสมาชิก นำทัพตัวแทนในทุกภูมิภาค ใกล้ชิดทุกพื้นที่ต่อเนื่อง

คงต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ 'พรรคกล้า' เริ่มก่อตั้งมา 2 ปี ที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนพรรคให้เข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

โดยผู้ที่ขับเคลื่อนพรรคกล้าให้เข้าถึงประชาชนในหลากพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง คือ 'ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี' หรือ 'ดร.บลู' เหรัญญิกและผู้อำนวยการพรรคกล้า เป็นผู้นำทัพ

"2 ปีมานี้ เราไม่เคยหยุดเดินลงไปพบปะพ่อแม่พี่น้องประชาชน รับฟังปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วยตั้งศูนย์พักคอย ศูนย์กล้าดูแล ลงแจกหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ แจกข้าวและเปิดครัวในโครงการกล้าเติมอิ่ม

"นำทีมไปบริจาคโลหิตในภาวะเลือดขาดแคลนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นส่วนหนึ่งในโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น กล้าอาสา, กล้าปลดหนี้, กล้าดูแล เป็นต้น"

‘วรวุฒิ อุ่นใจ’ ย้ำ ‘พรรคกล้า’ ชู แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงแก้วิกฤตชาติ ให้โอกาสคนตัวเล็กเติบโตมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะประธานทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งแม้โควิดที่เข้าสู่ปีที่ 3 จะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็เจอภัยสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ขย่มซ้ำเราเหมือนจะอยู่ในภาวะสงครามโลกทางเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้ว และยังมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะบานปลายได้อีกมาก และการเกิดขั้วอำนาจใหม่ทำให้ไทยต้องปรับตัวขนานใหญ่จากนี้ไป

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ทางออกเศรษฐกิจไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นนโยบายปฏิบัติ ใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.เน้นการพึ่งพาตนเอง เน้นการบริโภคด้วยวัตถุดิบในประเทศ เน้นเทคโนโลยีเป็นของตนเอง เน้นการสร้างตลาดคุณภาพที่ยั่งยืน ทั้งภายในและต่างประเทศ 2.เน้นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จนถึงการใช้ชีวิตในทางประเทศที่ล่อแหลมต่อภาวะสงคราม คือวางตัวเป็นกลางค้าขายได้ทุกฝ่าย พรรคกล้าใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ต่อยอดพัฒนาเป็นแนวทางเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ที่เน้นพัฒนาเอสเอ็มอี และชาวนาเกษตรกรไทย ให้แข็งแรงเติบโตได้ ไม่ถูกจำกัด

'กอร์ปศักดิ์' ทวิตแนะ!! รัฐเครดิตการคลังดี กู้เงินฟื้นฟู ศก.ได้ แค่ต้องมีวินัยจัดสรรงบ

(5 พ.ค. 65) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า ทวิตข้อความระบุเปรียบเทียบศักยภาพ ในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ของเอกชน และรัฐบาล ว่า... 

เอกชนจะกู้เงินจากสถาบันการเงินได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับตัวเลขรายได้ เพราะรายได้ทำหน้าที่เป็นเพดานในการกู้เงิน รัฐบาลกู้เงินง่ายกว่าเอกชน เนื่องจากเครดิตประเทศดี จะกู้มากน้อยแค่ไหนไม่เป็นปัญหา แต่หากรัฐบาลกู้อย่างงมงาย ขาดวินัยทางการเงินการคลัง ประเทศมีสิทธิล่มสลายได้เหมือนกัน

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีพรบ.วินัยทางการเงินการคลัง 2561 กำกับการกู้เงินของรัฐไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง กฎหมายให้มีการกำหนดสัดส่วนการกู้และภาระหนี้ ถ้าเป็นหนี้สาธรณะ กำหนดเพดานที่ 60% ของจีดีพี ส่วนภาระหนี้ของรัฐในแต่ละปี ต้องไม่เกิน 35 % ของรายได้ในปีนั้นๆ ประกาศเมื่อ 7 มิถุนายน 2561 และ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 มีการแก้ไขตัวเลขเพดานการกู้เงินที่นับเป็นหนี้สาธรณะ จาก 60% เป็น70% ของจีดีพี สาเหตุจากการกู้เงินจนทะลุเพดานของรัฐบาล ถ้าไม่ปรับเพดานใหม่ จะเป็นการกู้ทะลุเพดาน ผิดกฎหมาย แก้แล้วจึงไม่ผิด หนี้สาธรณะของรัฐบาลเมื่อ กันยายน 2561 อยู่ที่ 41.70% และสูงขึ้นติดเพดานเมื่อ กันยายน 64 ที่ 58.15 % เพดานกำหนดไว้ที่ 60% ของจีดีพี รัฐไม่มีทางออก รายได้ไม่พอ ต้องกู้เพิ่ม แต่เมื่อกู้เพิ่ม ตัวเลขจะทะลุเพดาน การแก้ปัญหาของรัฐบาลคือ ขยับเพดานให้สูงขึ้นจาก 60% เป็น 70%

'อรรถวิชช์' เสนอรัฐดันร่าง กม.กำกับดิจิทัลแพลตฟอร์มข้ามชาติ ลดซ้ำรอย Lazada แถมช่วยเพิ่มโอกาสแข่งขันบริษัทเล็ก

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ก กรณีโฆษณาไม่เหมาะสมของ Application ขายของออนไลน์ ว่า...

ถึงเวลากำกับบริษัทดิจิตัลแพลตฟอร์มข้ามชาติ รัฐบาลควรใช้แนวทางกฎหมาย DSA ของ EU

ประเด็นโฆษณาใน ​Lazada ที่บูลลี่ล้อเลียนบุคคลในเรื่องสุขภาพ และการทำร้ายจิตใจคนไทย พี่กรณ์​ได้แนะนำกฎหมายที่สหภาพยุโรป EU กำลังให้ความสำคัญ Digital Services Act (DSA) กฎหมายการให้บริการดิจิทัล ไว้น่าสนใจ

ผมขอขยายความต่อจากพี่กรณ์ สถานะปัจจุบันกฎหมาย DSA อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภายุโรป ถูกนำเสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรป European Commission คาดว่าเมื่อผ่านสภายุโรปแล้ว ประเทศในกลุ่มสหยุโรปจะต้องรับไปตรากฎหมาย หรือปรับกฎหมายของตนให้มีความสอดคล้อง ตั้งแต่ ม.ค. 2567 เป็นต้นไป 

ยุโรปเองเผชิญปัญหากับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาสู่ตลาด ทั้งจากอเมริกาและจีน เขาจึงต้องปกป้องสภาพสังคมและเศรษฐกิจของเขาเอง คล้ายกันกับไทยที่การค้าขายออนไลน์ อยู่บนแพลตฟอร์มยักษ์ต่างชาติ

กฎหมาย DSA คือ กำหนดมาตรการให้แพลตฟอร์มออนไลน์ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ โดยการควบคุมเนื้อหา การโฆษณา โดยเฉพาะที่มีเนื้อหาเป็นภัยคุกคามต่อสิทธิขั้นพื้นฐาน และกระบวนวิธีการคิดคำนวณของระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Algorithm Process) สร้างกระบวนการดำเนินการทางกฎหมายที่รวดเร็ว ส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ลดการผูกขาดของธุรกิจรายใหญ่ ประกอบด้วย...

(1) ผู้ให้บริการดิจิทัล ต้องมีระบบการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขายออนไลน์

(2) ผู้ให้บริการดิจิทัล ต้องมีเครื่องมือในการตรวจสอบและลบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม/ข้อมูลที่มีการบิดเบือนความจริงออกทันที โดยผู้ให้บริการต้องให้เหตุผลในการลบข้อมูลนั้นออกแก่ผู้ใช้นั้นด้วย

(3) ผู้ให้บริการ ต้องอธิบายกระบวนวิธีการคิดคำนวณของระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Algorithms) ของแพลตฟอร์ม เพื่อแจ้งผู้ใช้ถึงที่มาที่ไปของผลการค้นหาออนไลน์

(4) ต้องจัดตั้งกลไกจัดการข้อพิพาทนอกศาลยุติธรรม (Out-of-court dispute settlement body) เพื่อรับรายงานเนื้อหาที่เข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายหรือข้อร้องเรียน 

‘วรวุฒิ’ โชว์กึ๋นกูรูการตลาด เผยโอกาสของคนตัวเล็กกับธุรกิจ ‘กัญชา’ มีมูลค่ามหาศาล หากจัดการอย่างถูกต้อง เสนอตั้งสถาบันวิจัยพัฒนาอาหารเปิดทางนักวิจัยคิดค้นแปรรูปจดลิขสิทธิ์ ให้นักธุรกิจมาช็อปไปใช้รัฐได้ค่าไลเซนซ์ 

8 พ.ค. 2565 – นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้าและประธานทีมเศรษฐกิจ ในฐานะอดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวบรรยาย ในงาน “มหกรรมกัญชาทางการแพทย์สุขภาพที่ 6 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี ถึงแนวทางการทำตลาดกัญชาเพื่อคนตัวเล็ก ว่า กัญชาถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่มากต่อประเทศไทย โดยจะเห็นได้จากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กัญชามาแรงมาก บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากออกข่าวว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาหุ้นขึ้นทุกตัว ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าตลาดคาดหวังกับธุรกิจกัญชามาก สำหรับประเทศไทยมีจุดแข็งเรื่องการผลิตอาหารและยาสมุนไพร เนื่องจากมีวัตถุดิบ ทรัพยากรมากมายทั้งผลไม้ พืชผัก อาหารการกินบ้านเราไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่เกษตรกรซึ่งมีจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรประเทศกลับยังยากจน รายได้ภาคการเกษตรเพียง 8% ทั้งที่ควรจะเป็น 35% ตามจำนวนเกษตรกรของประเทศ

อดีตประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวด้วยว่า การสร้างเศรษฐกิจให้กับ กัญชา-กัญชง หากได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง จะทำรายได้อย่างมหาศาล สิ่งที่จะต้องทำคือ ปรับจูนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เหมาะสมและเอื้อต่อการทำธุรกิจ ภาครัฐต้องเข้ามาสนับสนุน ตั้งแต่ระดับต้นน้ำคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์และการเพาะปลูก ระดับกลางน้ำ คือ กระทรวงอุตสาหกรรม ในเรื่องการสกัดและการแปรรูปเพิ่มมูลค่า และระดับปลายน้ำคือ กระทรวงพานิชย์ ในการจัดจำหน่าย หาตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยทั้งสายน้ำ ต้องพึ่งพาข้อมูลและการวิจัยทางการตลาดอย่างเข้มข้น

“แต่ในทางการตลาด ผมมองว่า ต้องเอาปลายน้ำขึ้นมาก่อน คือเอาลูกค้าเป็นหลักว่าเป็นใคร ปริมาณความต้องการมีจำนวนเท่าไร ทั้งในและต่างประเทศ จากนั้นจึงกลับไปที่ต้นน้ำ เพื่อวางแผนการเพาะปลูก ให้สอดคล้องกับความต้องการ และถึงจะไปที่กลางน้ำคือกระทรวงอุตสาหกรรม วางแผนการแปรรูปผลผลิต ปัจจุบันการทำงานระหว่างกระทรวงยังเป็นปัญหา ด้วยระบบโครงสร้างการบริหารงานที่ไม่เอื้อ ดังนั้น ผมขอเสนอตั้งสถาบันวิจัยอาหารและยา เพื่อเปิดโอกาสให้นักวิจัยสามารถค้นค้นแปรรูปอะไรดีๆ แล้วจดลิขสิทธิ์ ผู้ผลิตรายไหนเอาผลงานไปใช้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นต่อจำนวนการผลิต นักวิจัยก็จะรวย ไม่ใช่วิจัยเสร็จแล้วขึ้นหิ้ง ไม่มีใครเอาไปต่อยอด นายทุนไม่สนใจ แต่ถ้าเราเปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาใช้งานวิจัยที่รัฐรวบรวมไว้ รัฐก็จะสามารถเก็บภาษีและไลเซนซ์ได้มหาศาล เรื่องแบบนี้รัฐต้องเปลี่ยนวิธีคิด และเข้าใจระบบกลไกธุรกิจหรือบิสิเนสโมเดลใหม่ ไม่ใช่เป็นระบบราชการแบบเก่าที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา นอกจากนี้ ประเทศไทยยังควรมีนิคมอุตสาหกรรมกัญชง กัญชา ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี เหมือนที่หลายประเทศเขาทำกัน เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน” นายวรวุฒิ กล่าว

'โฆษกพรรคกล้า' ย้ำจุดยืนพรรค เสนอ 'กรณ์' เป็นนายกฯ เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง พร้อมร่วมงานกับพรรคที่มีแนวทางเดียวกัน

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวย้ำจุดยืนพรรคกล้าว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปในอนาคต พรรคกล้าเสนอชื่อหัวหน้าพรรคคือนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีการเสนอชื่อบุคคลภายนอกในบัญชีของพรรคกล้าแน่นอน ตามที่มีสื่อหัวใหญ่บางฉบับนำเสนอข่าว

โฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้เต็มไปด้วยปัญหา ทั้งที่กระทบจากโควิดมา 2 ปีกว่า หลายกิจการต้องปิดตัว ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนเดิม ราคาพลังงานสูงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มสูงตาม หนี้ครัวเรือนก็ทะลุ 90% ของจีดีพี และอีกหลายปัญหาจากผลกระทบทางภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งต้องแก้ไขด้วยการสร้างรายได้ให้ประเทศ สร้างรายได้ให้ประชาชน ดังนั้น ผู้บริหารประเทศควรต้องมีความเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ และมีประสบการณ์การแก้วิกฤติเศรษฐกิจมาก่อน

‘กรณ์’ รับรางวัล ‘ผู้นำพรรคการเมืองผู้รักสัตว์’ พร้อมฝากฝังสวัสดิภาพสัตว์ให้ว่าที่พ่อเมืองใหม่

(12 พ.ค. 65) สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย และ Royal Society for the prevention of cruelty to Animals/RSPCA ประเทศอังกฤษ นำโดยคุณโศรยา บุนนาค นายกสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย คุณโรเจอร์ โลหะนันท์ นางสาวบงกช ศรีมังคละ และคุณมาตรา อัชาวกุล มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะที่เป็นผู้นำพรรคการเมืองผู้รักสัตว์ 

นายโรเจอร์ กล่าวว่า สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยเห็นว่า นายกรณ์ เป็นนักการเมืองที่มีบทบาทเด่นล้ำในการผลักดันพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ร่วมกับสมาคม และเครือข่ายคนรักสัตว์หลายองค์กร และยังมีบทบาทสำคัญในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ รวมถึงสนับสนุนการออกอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมเพื่อสวัสดิภาพสัตว์โดยไม่หวังผลประโยชน์อีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top