เปิดเบื้องลึก!! หลัง KNU ร่อนประกาศชัยชนะ ถึงฝั่งไทย ตีค่ายแตกปุ๊บ!! กองทหารเมียนมา ร่วม 200 หนีทัพมาฝั่งไทย
(11 พ.ค. 68) เหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมาสื่อต่างๆรีบงับข่าวประกาศที่ทาง KNU ที่เมืองมะริดและทวายประกาศยึดฐานได้ อย่างครึกโครม แต่สำหรับเอย่าที่อยู่ในวงการข่าวเมียนมานั้น ประกาศนั้นเหมือนเป็นการส่งสัญญาณเยาะเย้ยไทยเสียมากกว่า เอามาเป็นว่าวันนี้เอย่าจะมาวิเคราะห์ให้ผู้อ่านลองคิดเล่นๆกัน
1. แปลกไหมตีค่ายแตกปุ๊บกองทหารเมียนมาร่วม 200 นายหนีทัพมาฝั่งไทย เพื่อต้องการให้ฝะ่งไทยผลักดันกลับแถมพร้อมกลับทันทีด้วยนะ ฝั่งเมียนมาก็ไม่รอช้ารีบจัดแจงการรับกลับโดยมารับที่ด่านเกาะสองโดยให้ทั้งหมดเนรเทศออกจากไทยที่ด่านระนอง
เอาให้ลึกกว่านี้ดีกว่าเผื่อยังไม่เข้าใจ ในเมียนมาโทษของการหนีทัพคือประหารชีวิต แต่นี่คนกลับก็อยากกลับ ตกลงกลับไปตายหรือเป็นแผนที่ฝั่งเมียนมาต้องการจะทิ้งฐานเพื่อรักษาชีวิตทหารกันแน่
2. ฝั่งกองทัพกะเหรี่ยงอ้างถึงความไม่ปลอดภัยจากการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เอย่าอยากจะบอกนะคะ ไม่ว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าแบบไหนก็ตามเขามีวิศวกร และผู้ชำนาญงานมาควลคุมดูแล เขาไม่ใช่สร้างมั่วๆนะคะ ถามหาความปลอดภัยจริงๆควรบอกพวกตนดีกว่าไหมคะ ไปทำอะไรไม่มีความรู้ตูมตามขึ้นมาอันตรายกว่าไม่รู้กี่เท่า อีกเรื่องคือทวายห่างจากด่านพุน้ำร้อนไทยเกือบ 150 กิโลเมตร เส้นทางคดเคี้ยวเป็นป่าเขา ไม่ต้องห่วงจะกระทบถึงไทยคะ ห่วงพวกตัวเองเถอะไม่ต้องเอาไทยมาอ้าง เพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของเมียนมา
3. ทางกะเหรี่ยงยึดได้แล้วประชาชนมีชีวิตดีขึ้นไหม คนไทยทิ้งแผ่นดินที่อยู่ในบริเวณแถบนั้นมีความเป็นอยู่ดีขึ้นไหม ตลอด 75 ปีที่กะเหรี่ยงพยายามปลดแอกนั้น ประชาชนคนกะเหรี่ยงทะลักเข้าไทยนับล้านสร้างภาระให้แก่ไทย มีอะไรดีขึ้นมาบ้าง นั่นคือสิ่งที่ฝั่งกะเหรี่ยงควรตอบกับประชาชนของตนและนำพาคนของตนไปสร้างประเทศได้แล้ว
4. สุดท้ายสงครามนี้ให้ประโยชน์กับกองทัพไทยอย่างหนึ่งในขณะที่วัยรุ่นไทยไม่อยากเป็นทหารเกณฑ์แต่พวกวัยรุ่นเชื้อสายกะเหรี่ยงที่ได้บัตรไทยอยากเป็นทหารเกณฑ์เพราะเอาความรู้ที่ได้ไปใช้ในการรบจริงในกะเหรี่ยงได้
อีกทั้งล่าสุดมีคลิปว่อนโซเชียลเมียนมาที่มีคุณแม่ชาวกะเหรี่ยงพูดว่าคิดถึงลูกมากไม่ได้เจอนานเพราะลูกไปเป็นทหารเกณฑ์ฝั่งไทย แหม...ดีใจแทนกองทัพไทยและกลาโหมจนน้ำตาไหลเลยคะ
อ้อเอย่าลืมบอกคนกะเหรี่ยงไปรบนี่ได้เงินนะคะ หลายคนรบจนสร้างตัวได้ละก็หนีเข้าไทยมาซื้อบัตรไทยทั้งครอบครัวประกอบสัมมาอาชีพตามชายแดน เดี๋ยวพูดไปข้าราชการแถวนั้นก็จะหากินยากอีกเอาเป็นว่าเอย่าไม่พูดละกัน
วันนี้ก็ขอจบเรื่องราวเพียงเท่านี้ดีกว่าคะ ไว้ว่างๆเมื่อไหร่เอย่าคงได้เล่าเพิ่มเติมอีก
