Wednesday, 14 May 2025
World

'จีน' ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ จนฟิล์มแรปปกป้องสีรถยนต์บวมเป่ง แต่ไม่ก่อความเสียหาย 'ด้านกลไก' หรือข้อบกพร่อง 'ด้านการผลิต'

ท่ามกลางอุณหภูมิที่พุ่งสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในจีน ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่รู้สึกถึงความร้อน รถยนต์ก็เช่นกัน หลังปรากฏภาพรถยนต์หลายคันสีบวมเป่ง สืบเนื่องจากอากาศอันร้อนระอุ ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์เรียกขานมันว่า ‘รถตั้งครรภ์’

ผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับคลิปวิดีโอหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพรถยนต์หลายคันบวมโป่งขึ้นมา คล้ายกับกำลังตั้งท้อง

ปรากฏการณ์ที่เรียกขานกันว่า ‘รถตั้งครรภ์’ เร้าความอยากรู้อยากเห็นและความกังวลแก่ผู้คนในวงกว้าง กระตุ้นให้หลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้

ในวิดีโอเผยให้เห็นว่ารถยนต์หลายคันบวมจากภายนอก ทำให้พวกมันรูปร่างเหมือนกับตั้งท้อง ขณะที่ เจนนิเฟอร์ เจิง ผู้สื่อข่าวที่มีถิ่นฐานในสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันอยู่ในจีน แชร์วิดีโอลงบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมเขียนว่า "ไม่ใช่เรื่องตลก! รถยนต์ผลิตในจีนตั้งครรภ์ เมื่อสภาพอากาศมันร้อนเกินไป"

วิดีโอนี้กลายเป็นที่พูดถึงและส่งต่อกันอย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีผู้เข้าชมแล้วอย่างน้อย 757,000 วิว ในนั้นรวมไปถึงคลิปรถออดีคันหนึ่ง ซึ่งจอดในที่โล่งแจ้ง มีสภาพฟิล์มปกป้องหรือฟิล์มแรปรถโป่งพองขึ้นมา

รายงานข่าวสันนิษฐานว่า ท่ามกลางอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในจีน ฟิล์มแรปปกป้องสีรถยนต์เกิดบวมขึ้นมา และผู้คนพากันเรียกขานมันว่า ‘รถตั้งครรภ์’

ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคนทั้งแสดงความคิดเห็นติดตลก แสดงความกังวลและคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ในนั้นรวมถึงรายหนึ่งซึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณภาพของกาวที่ใช้ในการแรป บางคนสอบถามเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้ฟิล์มแรปที่บวมขึ้นมาแฟบลง ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็เบาใจได้ประมาณหนึ่ง เนื่องจากภาพเหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายด้านกลไกหรือข้อบกพร่องด้านการผลิตรถยนต์ แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในจีน

แม้ฟิล์มแรปรถยนต์จะมีชั้นปกป้องรังสียูวี สำหรับปกป้องสีรถจากปัญหาดังกล่าว แต่อุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในจีน พิสูจน์แล้วว่ามันหนักหนาสาหัสเกินไปสำหรับฟิล์มแรปบางยี่ห้อ

เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด พวกผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เจ้าของรถใช้ฟิล์มแรกคุณภาพสูงและกาวคุณภาพดี รวมถึงหลีกเลี่ยงจอดรถตากแดดในชั่วโมงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด

จีนพบ 'ปลาสเตอร์เจียน' หายากใกล้สูญพันธุ์ในแม่น้ำแยงซี ผลจากคำสั่งห้ามทำการประมงอย่างครอบคลุมในพื้นที่นี้

(21 ส.ค. 67) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า หน่วยงานการเกษตรท้องถิ่นของจีนรายงานพบปลาสเตอร์เจียนแยงซี ซึ่งเป็นปลาที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองระดับสูงสุดของจีน บริเวณแม่น้ำแยงซีตอนบนในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน 

หลัวซิ่งกั๋ว หัวหน้าสถานีประมง สังกัดสำนักเกษตรและกิจการชนบทของเมืองสุ่ยฟู่ ระบุว่าคลิปวิดีโอที่บันทึกโดยกลุ่มช่างภาพเผยว่าปลาสเตอร์เจียนแยงซีอยู่ร่วมกับปลาชนิดอื่นๆ ได้อย่างกลมกลืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกของคำสั่งห้ามทำการประมงอย่างครอบคลุมในพื้นที่นี้

หลัวเสริมว่า เมืองสุ่ยฟู่ได้ติดตามปลา 62 สายพันธุ์ตั้งแต่ปี 2023 ในจำนวนนี้เป็นปลาหายากบางสายพันธุ์ ซึ่งเผยให้เห็นว่าความหลากหลายของปลาหายากและพันธุ์ปลาเฉพาะถิ่นยังคงเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้

อนึ่ง ปลาสเตอร์เจียนแยงซี หรือที่เรียกว่าปลาสเตอร์เจียนแดบรี เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

'ดิสนีย์' เปิดทางเคสแพทย์หญิงไทยดับจากแพ้อาหาร ฟ้องศาลได้ หลังก่อนหน้าใช้ข้ออ้างเงื่อนไขในสัญญา Disney+ กีดกันการฟ้อง

(21 ส.ค.67) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ตกลงยอมเปิดทางให้สามีของ พญ.กนกพร แต่งสวน สามารถยื่นฟ้องในชั้นศาลได้แล้ว กรณีที่แพทย์หญิงชาวไทยรายนี้เสียชีวิตจากการแพ้อาหารที่สวนสนุกดิสนีย์ในฟลอริดาเมื่อปีที่แล้ว แต่ดิสนีย์ปฏิเสธการฟ้องศาล โดยยกเงื่อนไขในข้อตกลงบริการสตรีมมิ่ง Disney+ มาใช้กับเคสนี้ 

ทั้งนี้ พญ.กนกพร จากศูนย์การแพทย์แลนกอน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้รับประทานอาหารที่ร้าน Raglan ในดิสนีย์ สปริงส์เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โดยมีการแจ้งย้ำกับพนักงานหลายครั้งว่ามีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรงในถั่วและนม จึงขอให้มีการทำอาหารที่ปราศจากวัตถุดิบที่แพ้ ซึ่งพนักงานเสิร์ฟตกลงรับทราบ

แต่หลังจากนั้น พญ.กนกพร มีอาการแพ้อย่างรุนแรงและเสียชีวิตภายในวันเดียวกัน ซึ่งผลชันสูตรศพที่ระบุในเอกสารฟ้องร้องของเจฟฟรีย์ เจ พิกโคโล ผู้เป็นสามีพบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง และพบระดับของนมและถั่วในร่างกายในปริมาณมาก

สามีของ พญ.กนกพร ยื่นฟ้องทางร้านและดิสนีย์เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 50,000 ดอลลาร์ แต่ทางดิสนีย์ใช้ข้ออ้างที่ผู้เป็นสามีเคยสมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่ง Disney+ เมื่อปี 2562 ที่มีเงื่อนไขห้ามฟ้องร้องบริษัทเอาไว้ จึงอ้างว่าไม่สามารถฟ้องร้องในกรณีนี้ได้ และขอไปใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยยอมความนอกศาลแทน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 จอร์จ ดามาโร ประธานแผนก Disney Experiences ได้เปิดเผยกับรอยเตอร์สผ่านทางอีเมลว่า “เราเชื่อว่าสถานการณ์นี้ควรได้รับการดำเนินการอย่างละเอียดอ่อน เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้กับครอบครัวผู้ที่สูญเสียอย่างเจ็บปวด”

“ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจสละสิทธิในการใช้กลไกอนุญาโตตุลาการและให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวในศาล” ดามาโร กล่าวเสริม 

ทั้งนี้หลังจากถูกยื่นฟ้อง ในช่วงแรกเดือน เม.ย. ทางดิสนีย์ยังปฏิเสธโดยอ้างว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีนี้ เนื่องจากดิสนีย์เป็นเพียงเจ้าของที่ และไม่มีส่วนในการควบคุมการดำเนินงานหรือบริหารงานของร้าน Raglan

ทว่าต่อมาในเดือน พ.ค. ดิสนีย์ได้อ้างข้อต่อสู้ใหม่เรื่องเงื่อนไขในสัญญาให้บริการสตรีมมิ่ง Disney+ รวมถึงเงื่อนไขที่ผู้เป็นสามีได้ใช้เว็บไซต์ของดิสนีย์ในการซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกในปี 2566

อย่างไรก็ตาม โจเซฟ เซลเลอร์ส ทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งเคยมีผลงานการฟ้องคดีเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ระบุว่า การที่ดิสนีย์ตัดสินใจไม่ใช้สิทธิอนุญาโตตุลาการไกล่เกลี่ยนอกศาลถือเป็นเรื่องผิดปกติ และบ่งชี้ว่าทนายฝ่ายของดิสนีย์เชื่อว่าข้อตกลงใน Disney+ ไม่สามารถใช้กับกรณีนี้ได้

‘ดร.อักษรศรี’ ชี้!! EU ปรับเรทเก็บภาษีรถ EV จากจีน ดูฉาบฉวยและเลือกปฏิบัติ เอื้อค่ายรถฝรั่งผลิตในจีน แต่ยังโหดกับรถค่ายจีน

(21 ส.ค. 67) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณี อียูลดภาษีนำเข้า EV ผลิตในจีน 🇨🇳 จากอัตราเดิมที่เคยประกาศไว้ ดูฉาบฉวยก็เหมือนจะดี แต่จริง ๆ แล้วยังคงเป็นการเลือกปฏิบัติกับจีนอยู่ดี ว่า...

รถ EV ที่ผลิตโดยค่ายรถฝรั่ง 🇪🇺 อียูจะลดภาษีให้ตรึมนะ

- ค่ายเทสล่า ลดจาก 20.8% เหลือ 9%
- ค่ายโฟล์คสวาเกน ลดจาก 37.6% เหลือ 21.3%

ส่วนรถ EV ผลิตโดยค่ายรถสัญชาติจีน 🇨🇳 จะได้รับการลดภาษีพอเป็นพิธี 😅
-ค่าย BYD จาก 17.4% เหลือ 17%
-ค่ายรถ Geely จาก 19.9% เหลือ 19.3%
-ค่ายรถ SAIC จาก 37.6% เหลือ 36.3% 

'สิงคโปร์' แหกกฎ!! เตรียมแจกเงินคนตกงาน 1.5 แสนบาท แต่ต้องรับเงื่อนไข 'อบรมเพิ่มทักษะ' เพื่อกลับสู่ตลาดงานต่อไป

คนตกงานในสิงคโปร์เตรียมเฮ เมื่อ 'ลอเรนซ์ หว่อง' นายกรัฐมนตรีประกาศอัดฉีดงบประมาณก้อนใหม่ ลงในโครงการ SkillsFuture Jobseeker Support เตรียมแจกเงินช่วยเหลือแรงงานที่ว่างงานในประเทศ หลังจากที่เคยคัดค้านว่าเป็นนโยบายประชานิยมที่ส่งเสริมให้คนหวังพึ่งแต่สวัสดิการรัฐจนขาดแรงจูงใจในการหางานทำ

SkillsFuture Jobseeker เป็นโครงการภาครัฐที่สนับสนุนผู้หางาน ด้วยการจัดฝึกอบรม เพิ่มทักษะแรงงาน พร้อมบริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ และจัดหางานให้ ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือ ช่วยให้แรงงานยกระดับทักษะด้านอาชีพของตัวเอง เพื่อหางานให้ได้เร็วที่สุด

แต่เมื่อวันอาทิตย์ (18 ส.ค.67) ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ลอเรนซ์ หว่อง ได้ประกาศระหว่างการปราศรัยเนื่องในวันชาติ รัฐบาลสิงคโปร์จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่กำลังว่างงานในสิงคโปร์ด้วย

โดยโครงการ SkillsFuture ใหม่นี้ รัฐจะให้เงินช่วยเหลือแก่คนงานรายได้น้อย - ปานกลาง ที่ตกงานเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในค่าครองชีพ ซึ่งเป็นเงินสูงถึง 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.57 แสนบาท) เป็นระยะเวลาสูงสุดที่ 6 เดือน 

ตัวเลขเงินจำนวนนี้ นักเศรษฐศาสตร์และนักสังคมวิทยามองว่า 'เหมาะสม' สำหรับแรงงานที่มีเหตุต้องว่างงานโดยไม่สมัครใจ และไม่เกินพอดี จนอาจเกิดปัญหาการหวังพึ่งพาสวัสดิการรัฐในระยะยาว หากอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม

ส่วนเงื่อนไข ก็คือ ผู้ว่างงานต้องลงทะเบียนเข้าโครงการพัฒนาแรงงาน SkillsFuture Jobseeker ตามมาตรฐานของกรมส่งเสริมแรงงานของสิงคโปร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ย้ำว่า การเข้าฝึกอบรมในโครงการนี้ถือเป็นการลงทุนที่จำเป็นสำหรับแรงงาน เพื่อโอกาสในการได้งานที่ดีกว่าในอนาคต ซึ่งบุคคลที่ผ่านเกณฑ์ประเมินรายเดือน จึงจะมีสิทธิ์รับเงินชดเชยรายได้ 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในระยะเวลา 6 เดือน 

สำหรับการรับเงินช่วยเหลือของแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งต้องปฏิบัติตามขั้นตอนภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุมนั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านแรงงานครั้งสำคัญของประเทศสิงคโปร์ ที่ไม่เคยมีสวัสดิการสำหรับคนว่างงานมาก่อน เพราะเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะส่งเสริมให้ประชาชนขาดความกระตือรือร้น แล้วเลือกที่จะรับสวัสดิการมากกว่าการทำงาน

ทั้งนี้การปฏิเสธแนวคิดเรื่องรัฐสวัสดิการสำหรับแรงงาน มีมาตั้งแต่สมัยที่สิงคโปร์แยกตัวจากมาเลเซียในปี 1965 และจัดตั้งรัฐบาลปกครองตนเองภายใต้การนำของ ลี กวนยู ซึ่งประกาศอย่างชัดเจนว่า เขาละทิ้งแนวคิดเรื่องรัฐสวัสดิการ เพราะรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายตามแนวคิดดังกล่าวจะบั่นทอนความสามารถในการพึ่งพาตัวเองของประชาชน และความมุ่งมั่นในการสร้างตัวเพื่อความสำเร็จในชีวิต 

ดังนั้น ผู้นำที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากนายลี กวนยู ตั้งแต่ โก๊ะ จ๊กตง และ ลี เซียนลุง ก็ไม่เคยผลักดันนโยบายด้านสวัสดิการช่วยเหลือผู้ว่างงานเช่นกัน

ทว่า ลอเรนซ์ หว่อง กลับมีความเห็นว่า อาจถึงเวลาแล้วที่สิงคโปร์ต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อช่วยเหลือแรงงาน ในยุคสมัยที่มีความท้าทายทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงยืนยันว่า การรับสวัสดิการรัฐอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ส่งผลดีเชิงบวกต่อแรงจูงใจในการแสวงหางานของแรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลสิงคโปร์ระวังมาโดยตลอด 

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ จึงมองหาทางเลือกอื่น โดยใช้แบบแผน 'Workfare' แทนที่จะใช้คำว่า 'Welfare' ซึ่งหมายถึงสวัสดิการที่รัฐต้องเป็นผู้รับประกันการว่างงาน ที่นำไปสู่ความคาดหวังในการพึ่งพาแต่สวัสดิการรัฐ ซึ่งหมายถึงการใช้ภาษีจากการทำงานของประชาชนคนอื่น

Workfare เป็นแนวทางที่รัฐบาลสิงคโปร์นำมาใช้เป็นครั้งแรกในปี 2005 โดยแรกเริ่มเดิมที เป็นโครงการที่สนับสนุนกองทุนแก่ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งรัฐจะเติมเงินให้กับกองทุนบำเหน็จบำนาญ แต่มีเงื่อนไขว่าผู้มีรายได้น้อยจะต้องมีงานทำ

แต่สำหรับโครงการล่าสุดนี้ รัฐบาลสิงคโปร์จะพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ว่างงาน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้ว่างงานต้องเข้าสู่กระบวนการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ต้องผ่านคะแนนประเมิน และ ต้องเข้าโปรแกรมจัดหางาน เพื่อกลับสู่ตลาดแรงงานต่อไป 

ลอเรนซ์ หว่อง กล่าวว่า โครงการนี้มีไว้เพื่อสนับสนุนแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง และช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพที่จำเป็นระหว่างเข้าโครงการ แต่คนงานก็ต้องมีส่วนร่วม ด้วยการแสดงรับผิดชอบต่ออนาคตของตนเอง  และพยายามดึงตัวเองขึ้นมาให้ได้

ก็ถือเป็นโครงการแจกเงินอย่างมีวิสัยทัศน์ ตามสไตล์สิงคโปร์จริง ๆ ที่ยึดว่า 'เกิดเป็นคน ต้องทำงาน' และสวัสดิการรัฐมีไว้สำหรับผู้ที่เสียภาษีเท่านั้น

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

'WHO' ชี้!! การระบาด 'ฝีดาษลิง' ไม่รุนแรงแบบ 'โควิด-19' เหตุ!! เจ้าหน้าที่รู้วิธีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

(21 ส.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ด่วนยืนยันว่า 'ไวรัสฝีดาษลิง' หรือ 'Mpox' นั้น ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือเก่า ไม่ได้รุนแรงเหมือนกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รู้วิธีการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

องค์การอนามัยโลก กล่าวต่ออีกว่า ทุกฝ่ายจะเลือกวางระบบเพื่อควบคุมและกำจัดโรคฝีดาษลิงทั่วโลก หรือโลกจะเข้าสู่วัฏจักรแห่งความตื่นตระหนกอีกครั้ง วิธีการตอบสนองในปัจจุบันและอนาคตจะเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับยุโรปและทั้งโลก

โรคฝีดาษวานรเป็นการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดแผลเป็นหนอง และมีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ มักมีอาการไม่รุนแรง แต่สามารถเสียชีวิตได้ การระบาดของไวรัสฝีดาษลิง สายพันธุ์ เคลด1บี ทำให้เกิดความกังวลทั่วโลก เนื่องจากแพร่ระบาดได้ง่ายมากผ่านการสัมผัสใกล้ชิดตามปกติ ซึ่งผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ ได้รับการยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในสวีเดน และเชื่อมโยงกับการระบาดที่เพิ่มมากขึ้นในแอฟริกา ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของการระบาดนอกทวีปแอฟริกา

โรคฝีดาษลิงติดต่อกันผ่านการสัมผัสทางกายภาพใกล้ชิด รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ แต่ต่างจากโรคระบาดทั่วโลกครั้งก่อน ๆ อย่างเช่นโควิด-19 ที่ไม่มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าฝีดาษลิงสามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ง่าย

ขณะนี้มีรายงานว่า มีผู้ป่วยฝีดาษลิงสายพันธุ์ เคลด 2 รายใหม่ประมาณ 100 รายในยุโรปเป็นประจำทุกเดือน และชี้ว่า การมุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์ใหม่ เคลด 1 จะช่วยในการต่อสู้กับสายพันธุ์ เคลด 2 ที่มีความรุนแรงน้อยกว่า ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2565

โดยเมื่อไม่นานนี้ องค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคฝีดาษวานรเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี เนื่องจากโรคฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ เคลด 1บี ระบาดอย่างรวดเร็วในแอฟริกา ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 27,000 ราย และเสียชีวิตมากกว่า 1,100 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกก่อนจะลุกลามระบาดเข้าอีกหลายประเทศ

‘โรนัลโด’ ทุบสถิติโลกหลังเปิดช่องยูทูบ UR·Cristiano ยอดผู้ติดตามทะลุ 1 ล้านซับ ทำเวลาเร็วสุด 90 นาที

เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.67) ‘โรนัลโด’ นักเตะที่มียอดฟอลโลเวอร์ในอินสตาแกรมสูงที่สุดในโลกกว่า 636 ล้านฟอลโลเวอร์ ตัดสินใจเปิดช่องยูทูบในชื่อ ‘UR’ ที่เจ้าตัวเผยว่า จะมีการสัมภาษณ์แขกรับเชิญที่หลากหลาย และจะมี ‘จอร์จิน่า โรดริเกซ’ แฟนสาวของเขาเข้ามาร่วม

“ในช่องทางใหม่นี้ คริสเตียโน่ จะแบ่งปันคอนเทนต์ลูกหนังที่เขาลุ่มหลงเช่นเดียวกับความสนใจด้านอื่น ๆ ทั้งครอบครัว โภชนาการ การเตรียมความพร้อม การฟื้นร่างกาย การศึกษา และธุรกิจ ช่องทางนี้คุณจะได้เห็น คริสเตียโน่ สนทนากับแขกในหัวข้อต่าง ๆ”

ด้าน โรนัลโด้ ได้เปิดใจว่า “ผมมีความสุขที่ได้ทำโปรเจกต์นี้ มันอยู่ในใจของผมมานานแล้ว และสุดท้ายเราก็มีโอกาสทำให้มันเป็นจริง”

อย่างไรก็ตาม สำหรับช่อง UR · Cristiano ได้โพสต์วิดีโอลงในช่องยูทูบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีทำลายสถิติโลก คนติดตาม 1 ล้านคนเร็วสุดด้วยเวลา 90 นาทีด้วย และหลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมง ยอดผู้ติดตามก็ปาไปแล้ว 3.5 ล้านคน

‘นายกฯ จีน’ ส่งสารยินดี 'อุ๊งอิ๊ง' รับตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ ลั่น!! พร้อมทำงานสานต่อมิตรภาพดั้งเดิมที่มีอนาคตร่วมกัน

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.67 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘หลี่เฉียง’ นายกรัฐมนตรีจีน ส่งสารแสดงความยินดีกับ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ สำหรับการเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย

โดย หลี่เฉียง ระบุว่า จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านฉันมิตรที่ใกล้ชิดและประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน โดยตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษก่อน ความสัมพันธ์จีน-ไทย ยังคงพัฒนาอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ไม่ว่าภูมิทัศน์ระหว่างประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ หลี่เฉียง เผยความพร้อมทำงานร่วมกับแพทองธาร เพื่อสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม ‘จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน’ และผลักดันผลสำเร็จในการสร้างประชาคมจีน-ไทย ที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อนำพาผลประโยชน์มาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศยิ่งขึ้น ขณะปี 2025 จะตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย

'สเวน โกรัน อีริคส์สัน' กล่าวอำลาหลังใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พร้อมขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้างมาตลอดทุกช่วงเวลา

(22 ส.ค. 67) สยามสปอร์ต รายงานว่า 'สเวน โกรัน อีริคส์สัน' ตำนานกุนซือชาวสวีดิช ส่งข้อความสุดท้ายเพื่อเป็นการสั่งลาทุก ๆ คน หลังเจ้าตัวป่วยหนักเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

อีริคส์สัน มีโอกาสได้กุมบังเหียนหลายสโมสรได้แก่ โกเตเบิร์ก, เบนฟิก้า, โรม่า, ฟิออเรนติน่า, ซามพ์โดเรีย, ลาซิโอ, แมนฯ ซิตี้ และ เลสเตอร์ รวมทั้งยังได้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษด้วย

หลังจากวางมือจากการกุมบังเหียน อีริคส์สัน ก็เงียบหายไปจากวงการลูกหนัง แต่เมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวตกเป็นข่าวใหญ่หลังออกมายอมรับว่าถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน

ตำนานกุนซือวัย 76 ปี ซึ่งเพิ่งจะสานฝันให้เป็นจริงในการคุม ลิเวอร์พูล ทีมรักในเกมการกุศลพบ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อช่วงต้นปีนี้ เปิดใจผ่านสารคดีที่ชื่อว่า ‘Sven’ ทางช่อง Amazon Prime เพื่อเป็นการสั่งลาหลังรู้ตัวว่าใกล้ถึงเวลาที่จะจากโลกนี้ไป

"ผมหวังว่าพวกคุณจะจดจำผมในฐานะคนที่มองโลกในแง่ดีซึ่งพยายามทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ยิ้มเข้าไว้ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทั้งโค้ช, นักเตะ, แฟนบอล มันช่างน่าเหลือเชื่อ ดูแลตัวเองและดูแลชีวิตของคุณ ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ลาก่อน" อีริคส์สัน ระบุ

สำหรับสารคดี SVEN จะออกอากาศทาง Amazon Prime ในวันที่ 23 ส.ค. นี้

‘ชาวอินโดฯ’ ประท้วง!! หลังรัฐบาลพลิกคำตัดสินศาล รธน. ส่อเจตนาเอื้อประโยชน์ต่อพรรครัฐบาลผสมของ ‘โจโกวี’

เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.67) ชาวอินโดนีเซียจำนวนมากออกมารวมตัวกันประท้วงรัฐบาลที่พยายามพลิกคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเปิดโอกาสให้คู่แข่งจากพรรคการเมืองเล็ก ๆ เข้ามาร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยได้

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียวินิจฉัยว่า พรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องมีผู้แทนอย่างน้อย 20% ในสภานิติบัญญัติระดับภูมิภาคของตนจึงจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในสนามที่ใหญ่ขึ้นได้

คำวินิจฉัยดังกล่าวหมายความว่า พรรคเล็กที่มีฐานเสียงไม่มากจะมีโอกาสในการแข่งขันทางการเมืองกับพรรคใหญ่ที่มีอิทธิพลได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังคำวินิจฉัยดังกล่าว รัฐสภากลับยื่นร่างกฎหมายผ่านญัตติฉุกเฉินเพื่อพลิกคำตัดสินดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดการประณามอย่างกว้างขวาง เพราะเกรงว่าจะเป็นวิกฤตการณ์ทางรัฐธรรมนูญ

ผู้ประท้วงรวมตัวกันนอกรัฐสภาในกรุงจาการ์ตา รวมถึงเมืองใหญ่ ๆ อื่น ๆ เช่น ปาดัง บันดุง และยอกยาการ์ตา คาดว่ากฎหมายฉบับเร่งด่วนที่จะพลิกคำตัดสินบางส่วนของศาลจะผ่านสภาในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ส.ค.

กฎหมายดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองในรัฐบาลผสมของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด หรือ ‘โจโกวี’ ที่กำลังจะลงจากตำแหน่ง รวมถึง ปราโบโว สุเบียนโต ว่าที่ประธานาธิบดีที่กำลังจะขึ้นตำแหน่งในเดือน ต.ค. นี้

ถ้าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถูกพลิก จะทำให้ อานีส บาสวีดัน อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย และเป็นผู้ที่มักวิจารณ์รัฐบาล จะไม่สามารถลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาได้

รัฐบาลอินโดนีเซียยังพยายามหาทางยกเลิกการตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะคงอายุขั้นต่ำผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ที่ 30 ปี เพราะจะทำให้ กาเอซาง ปังงาเรพ ลูกชายวัย 29 ปีของวิโดโดลงเลือกตั้งระดับภูมิภาคในชวาตอนกลางไม่ได้

ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การงัดอำนาจกันระหว่างศาลรัฐธรรมนูญของประเทศ กับรัฐสภาอินโดนีเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยอิทธิพลของผู้สนับสนุนวิโดโด อาจก่อให้เกิดวิกฤตทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม วิโดโดได้พยายามลดความสำคัญของข้อพิพาทนี้ลง โดยกล่าวว่า การแก้ไขคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่รัฐบาล ‘การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ’

ผู้ประท้วงคนหนึ่งที่ชื่อ โจโก อันวาร์ กล่าวว่า ผู้นำของประเทศดูเหมือนจะตั้งใจที่จะรักษาอำนาจของตนเองเอาไว้ ‘ในที่สุด เราจะกลายเป็นเพียงกลุ่มวัตถุที่ไร้อำนาจ แม้ว่าเราจะเป็นผู้มอบอำนาจให้กับพวกเขาก็ตาม ... เราต้องออกมาเดินขบวนบนท้องถนน เราไม่มีทางเลือกอื่น’

ตีตี อังไกรนี นักวิเคราะห์การเลือกตั้งจากมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย กล่าวว่า การที่รัฐสภาตัดสินใจเพิกถอนคำตัดสินของศาลถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ‘นี่คือการขโมยรัฐธรรมนูญ’


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top