Saturday, 27 April 2024
World

‘คนไทยในบรูไน’ เผย วัยรุ่นบรูไนปลื้มชุดนักเรียนไทย หลังเป็นกระแสฮิตที่หลายชาติเริ่มนำมาเป็นแฟชั่น

อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เห็นกันมาพักใหญ่แล้วว่า ‘ชุดนักเรียนไทย’ คว้าใจนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสแต่งชุดนักเรียนไทย ท่องเที่ยวในไทย รวมไปถึงถ่ายรูปและโพสต์อวดโฉมกันผ่านโซเชียล ยิ่งไปกว่านั้น อินฟลูเอนเซอร์ ดารา หรือแม้แต่ซูเปอร์สตาร์ชาวจีนก็ออกมาสลัดลุค แต่งชุดนักเรียนไทยกันมาแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกว่า น่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ

แต่ความฮิตฮอตของชุดนักเรียนไทยก็ไม่ได้เป็นที่นิยมแค่ในจีนเท่านั้น แว่ว ๆ มาว่า นักเรียนเวียดนามก็ชื่นชอบชุดนักเรียนของไทยมากเช่นกัน ถึงขั้นนัดกันใส่ชุดนักเรียนไทยถ่ายรูปในวันจบการศึกษา และลามกลายเป็นธุรกิจรับถ่ายรูปในธีมชุดนักเรียนไทย และถ่ายเลียนแบบซีรีส์ไทยที่ไปโด่งดังในเวียดนามด้วย

ก็กล้าเรียกได้เต็มปากว่า ‘ชุดนักเรียนไทย’ เท่ากับ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ที่แท้จริง

ล่าสุด (25 มี.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยในบรูไนฯ ได้บอกเล่าเกี่ยวกับ ‘ชุดนักเรียนไทย’ ที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นบรูไนฯ โดยระบุว่า…

“ลูกสาวมาเล่าว่า ม่ามีแต่คนอยากใส่ชุดนร.แบบไทยกันใหญ่เลย (ในหมู่วัยรุ่น) ไม่เว้นแม้แต่วัยรุ่นที่บรูไน เป็นเทรนที่กำลังมาแรง Soft Power ของแท้ อย่าให้นายกรู้นะ เดี๋ยวเค้าจะใส่ชุดนร.ไปต่างประเทศโชว์อีก”

‘น้องสาวคิมจองอึน’ เปรย!! หลัง ‘นายกฯ คิชิดะ’ อยากพบพี่ชาย ลั่น!! ไม่ง่าย เพราะขึ้นอยู่กับจุดยืนทางการเมืองของญี่ปุ่น

(25 มี.ค.67) สื่อรัฐบาล KCNA รายงานว่า ‘คิม โยจอง’ น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของ ‘คิม จองอึน’ ผู้นำเกาหลีเหนือ เผยว่า ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงเจตนารมย์ว่าต้องการเข้าพบผู้นำเกาหลีเหนือเร็ว ๆ นี้ ผ่านช่องทางหนึ่ง

ซึ่ง คิม โยจอง บอกว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศขึ้นอยู่กับว่าญี่ปุ่นสามารถตัดสินใจทางการเมืองที่เป็นไปได้จริงหรือไม่

“นายกรัฐมนตรีควรรู้ว่า แค่เพียงเพราะเขาต้องการและได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถพบผู้นำของเราได้” คิม โยจอง กล่าว และเสริมว่า

“สิ่งที่ชัดเจนคือ ญี่ปุ่นเป็นปฏิปักษ์กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และละเมิดสิทธิอธิปไตยของประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูของเรา และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายเรา”

ทั้งนี้ คิชิดะ เคยกล่าวไว้ว่า เขาต้องการหารือกับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยปราศจากเงื่อนไขเบื้องต้นใด ๆ และมีความพยายามส่วนตัวที่ต้องการบรรลุการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี

นอกจากนี้ น้องสาวคิม จองอึน ผู้นำพรรคแรงงาน เผยเมื่อเดือนก่อนว่า อาจมีวันหนึ่งที่คิชิดะได้เยือนเปียงยาง

“ในมุมมองของฉัน ถ้าญี่ปุ่นตัดสินใจทางการเมืองเพื่อเปิดทางเส้นทางใหม่สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน สองประเทศอาจเปิดโอกาสสู่อนาคตใหม่ได้” คิม โยจอง กล่าว

‘รัสเซีย’ แฉ!! 30 แล็บลับสหรัฐฯ ในยูเครน มุ่งพัฒนา 'อาวุธเชื้อโรค' ด้าน สหรัฐฯ ยัน!! มีจริง แต่ถูกกฎหมาย และไม่ได้พัฒนาเพื่อรบ

สหรัฐฯ ยังคงปฏิบัติการห้องปฏิบัติการทางชีวภาพ 30 แห่งในดินแดนยูเครน ส่วนหนึ่งในโครงการชีวภาพทางทหารที่ผิดกฎหมาย จากการเปิดเผยของ ‘เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเนเธอร์แลนด์’ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

“เป็นที่ทราบกันดีมานานแล้วว่ามีห้องปฏิบัติการของอเมริกาจำนวนหนึ่งในดินแดนยูเครน” วลาดิมีร์ ทาราบริน ซึ่งเป็นผู้แทนถาวรของรัสเซีย ประจำองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons) อีกตำแหน่ง ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อิซเวสเตียเมื่อวันอาทิตย์ (24 มี.ค.)

นักการทูตรายนี้ยังได้เท้าความถึงคำพูดของ พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ เคมีและชีวภาพของรัสเซีย ที่เคยอ้างในเดือนมีนาคม 2022 ว่ามีห้องแล็บดังกล่าวอยู่ราว 30 แห่ง 

“กองกำลังของเราพบเอกสารต่าง ๆ ที่ยืนยันว่ามีโครงการชีวภาพทางทหารอย่างกว้างขวางของสหรัฐฯ และบรรดาประเทศสมาชิกนาโต ในดินแดนของยูเครน และสาธารณรัฐต่างๆ ที่เป็นอดีตสหภาพโซเวียต” ทาราบริน กล่าว

แม้ รัฐบาลเคียฟ จะกล่าวว่า พวกเขาเริ่มทำลายเชื้อโรคอันตรายในห้องปฏิบัติการต่าง ๆ และระงับการวิจัยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครน แต่ทาง ทาราบริน กล่าวอ้างว่า โครงการต่างๆ เหล่านั้นได้กลับมาปฏิบัติการอีกรอบ เพียงแต่มีการเปลี่ยนชื่อเท่านั้น

เมื่อถูกถามว่า ห้องปฏิบัติการชีวภาพของสหรัฐฯ ในยูเครน ยังมีจำนวนที่ 30 แห่งใช่หรือไม่? ทางเอกอัครราชทูตรายนี้ตอบว่า “จากข้อมูลของเรา คือ ใช่” พร้อมกล่าวเสริมด้วยว่า...

“มันไม่น่าประหลาดใจเลยที่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานั้น ทำไมวอชิงตันถึงพยายามขัดขวางความคิดริเริ่มของรัสเซีย กับเป้าหมายเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธชีวภาพ (Biological Weapons Convention-BWC) และสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพสำหรับตรวจสอบประเทศผู้เข้าร่วมทั้งหมด ว่าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติต่าง ๆ ของอนุสัญญานี้หรือไม่”

ทั้งนี้ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มอสโกได้หยิบยกความกังวลขึ้นมาซ้ำ ๆ ในเรื่องคำกล่าวหาเกี่ยวกับโครงข่ายห้องปฏิบัติการลับในยูเครน ที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ โดยมอสโกได้เผยแพร่เอกสารต่าง ๆ ที่ยึดมาได้จากเจ้าหน้าที่เคียฟ ซึ่งกล่าวอ้างว่ามีความเชื่อมโยงกับปฏิบัติการของห้องปฏิบัติการเหล่านั้น

เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ บอกว่า “รัสเซียไม่มีข้อสงสัยเลยว่า สหรัฐฯ ได้สวมหน้ากากในการรับประกันความมั่นคงทางชีวภาพโลกไว้ให้ชาวโลกเห็น แต่กลับกันพวกเขาได้ทำการวิจัย 2 ทาง (เพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์) ซึ่งในนั้นได้รวมถึง การสร้างองค์ประกอบของอาวุธชีวภาพใกล้ชายแดนรัสเซีย”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยืนยันเกี่ยวกับการมีอยู่ของห้องปฏิบัติการวิจัยทางชีวภาพในยูเครนจริง แต่ยืนยันว่ามันถูกกฎหมายทั้งหมด และไม่มีเจตนาสำหรับจุดประสงค์ด้านการทหาร แม้ส่วนใหญ่แล้วมันได้เงินทุนผ่านกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ขณะที่วอชิงตันปฏิเสธคำกล่าวอ้างของมอสโก ที่ว่าห้องปฏิบัติการเหล่านี้ถูกใช้ทำงานสร้างอาวุธชีวภาพ โดยบอกว่ามันเป็นยุทธการบิดเบือนข้อมูลของฝ่ายรัสเซีย

‘หนุ่มมะกัน’ เดินแทะขามนุษย์ริมถนนในแคลิฟอร์เนีย ฟาก ‘ตำรวจ’ เผย!! มีประวัติติดยาเสพติดขั้นรุนแรง

กลายเป็นเรื่องราวสยองขวัญทันที เมื่อวิดีโอในโซเชียลว่อนภาพชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดิน พร้อมแทะขามนุษย์ไปด้วย โดยเว็บไซต์ people รายงานว่า ตามบันทึกของ Kern County ที่ people พบ ระบุว่า หนุ่มรายดังกล่าวคือ Resendo Tellez ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ด้วยความผิดลหุโทษในข้อหา ‘นำศพมนุษย์ออกจากสุสาน’ ข้อหาลหุโทษในการครอบครองอุปกรณ์ควบคุมสารเสพติด และข้อหาทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดภาคทัณฑ์

มีรายงานว่า Tellez วัย 27 ปี ได้ถอดชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ออกจากที่เกิดเหตุรถไฟชนกันในเมือง Wasco รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ไม่ปรากฏชื่อ ไม่ชัดเจนว่าขาดังกล่าวเป็นของบุคคลที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่

ผู้เห็นเหตุการณ์ใกล้กับที่เกิดเหตุบอกว่า Tellez กำลังโบกสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นขามนุษย์ไปรอบ ๆ และถูกอ้างว่ากัดมัน

“ฉันไม่แน่ใจว่ามาจากไหน แต่เขาเดินไปมาทางนี้และโบกขาคนคนหนึ่ง และเขาก็เริ่มเคี้ยวมันตรงนั้น กัดมัน และเขาก็กระแทกมันเข้ากับกำแพงและทุกสิ่งทุกอย่าง” โฮเซ อิบาร์รา บอกกับ เคบีเอเค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมและสอบสวนพบว่าเขาติดยาเสพติดอย่างรุนแรง และจะขึ้นศาลในวันนี้ (26 มี.ค.)

‘ศธ.จีน’ ออกแคมเปญ เดินหน้าสอน ‘เด็กนักเรียน’ ปกป้องดูแลตัวเอง ครอบคลุม ‘การกลั่นแกล้ง-ไฟไหม้-ความปลอดภัย-การปฐมพยาบาล’

(26 มี.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการของจีนออกโครงการรณรงค์ด้านการศึกษา ที่มุ่งส่งเสริมการป้องกันอันตรายและการปกป้องดูแลตนเองของนักเรียนชั้นประถมและมัธยม โดยเริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) และจะดำเนินไปตลอดทั้งสัปดาห์

หนังสือเวียนจากกระทรวงฯ กระตุ้นหน่วยงานการศึกษาท้องถิ่นให้คำแนะนำแก่โรงเรียนในการจัดกิจกรรมทางการศึกษา เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยและทำให้เด็กนักเรียนสามารถปกป้องตนเองได้ดียิ่งขึ้น

กิจกรรมเหล่านี้ควรให้ความรู้ครอบคลุมหลายด้าน อาทิ การรับมือความรุนแรงและการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียน การป้องกันอัคคีภัย ความปลอดภัยบนท้องถนน การฝึกอบรมปฐมพยาบาล และอื่นๆ

หนังสือเวียนยังร้องขอให้หน่วยงานการศึกษาท้องถิ่นจัดกิจกรรมทางการศึกษาร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะและหน่วยงานดับเพลิงด้วย

'รัฐฟลอริดา' ชงกม.ห้ามเด็กต่ำกว่า 14 ใช้โซเชียลมีเดีย ป้องเหล่านักล่าทางความคิด โผล่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเด็กๆ

(26 มี.ค.67) รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา เห็นชอบร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี จากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ และบังคับเยาวชนอายุ 14 ถึง 15 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน ถึงสามารถเข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ได้

โดยร่างกฎหมายใหม่นี้ที่มีชื่อว่า House Bill 3 บังคับให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายลบทิ้งบัญชีของบรรดาเด็กๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และอนุญาตให้พวกผู้ปกครองร้องขอระงับบัญชีของบุตรหลานด้วย

"สื่อสังคมออนไลน์ก่ออันตรายแก่เด็ก ๆ ในหลายทาง" เดอซานติสระบุในถ้อยแถลง "House Bill 3 จะมอบอำนาจแก่ผู้ปกครองมากยิ่งขึ้นในการปกป้องเด็ก ๆ ของพวกเขา ขอบคุณประธานสภาฟลอริดา สำหรับขับเคลื่อนกฎหมายประวัติศาสตร์นี้"

เพื่อตรวจสอบอายุของผู้ใช้ กฎหมายฉบับนี้ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2025 ยังบังคับให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลาย ไม่เปิดเผยและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้

"อินเทอร์เน็ตกลายมาเป็นตรอกซอยมืด ๆ สำหรับเด็ก ๆ ที่มีพวกนักล่าคอยล็อกเป้าเล่นงานพวกเขา และสื่อสังคมออนไลน์ที่อันตรายจะนำไปสู่อัตราโรคซึมเศร้า ทำร้ายตนเองและแม้กระทั่งฆ่าตัวตายในระดับสูง" เรนเนอร์ จากรีพับลิกันระบุในถ้อยแถลง

กฎหมายนี้ถือว่าลดระดับความเข้มข้นเล็กน้อยจากร่างกฎหมายที่เสนอก่อนหน้านี้ ซึ่งจะห้ามเยาวชนตั้งแต่อายุต่ำกว่า 16 ปี จากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ทว่ามันถูกคัดค้านจาก เดอซานติส

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกยื่นคัดค้านทางกฎหมาย แบบเดียวกับที่รัฐอื่นๆ ต้องเผชิญ หลังจากรัฐเหล่านั้นผ่านความเห็นชอบกฎระเบียบต่าง ๆ ที่กำหนดกับสื่อสังคมออนไลน์

ยกตัวอย่างเช่นในรัฐอาร์คันซอ ซึ่งผู้พิพากษารายหนึ่งได้ระงับใช้กฎหมายฉบับหนึ่งที่กำหนดให้เด็ก ๆ ต้องได้รับความยินยอมจากพวกผู้ปกครองเสียก่อนถึงจะสามารถสร้างโปรไฟล์ใหม่บนสื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ บริษัทต่าง ๆ อย่างเช่น เมตา บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม แสดงจุดยืนคัดค้านอย่างเปิดเผยต่อกฎหมายของฟลอริดา

"ณ เวลานี้ ด้วยสิ่งต่าง ๆ กับสื่อสังคมออนไลน์ คุณสามารถเจอกับกรณีคุณมีลูก ๆ อยู่ในบ้าน ฟังดูแล้วเหมือนกับปลอดภัย แต่จากนั้นพวกนักล่าก็สามารถโผล่เข้ามาได้โดยตรง เข้ามาภายในบ้านของคุณ"

‘จนท.สหรัฐฯ’ ประกาศยุติการค้นหา 6 ผู้สูญหาย เหตุเรือชนสะพานถล่ม หลังปฏิบัติภารกิจไป 18 ชั่วโมง คาด!! ทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว

(27 มี.ค.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีที่เรือสินค้าขนาดใหญ่พุ่งชนตอม่อสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (The Francis Scott Key Bridge) ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ของสหรัฐฯ ทำให้ส่วนหนึ่งของสะพานพังยับและร่วงลงสู่แม่น้ำปาแทปสโก โดยพบว่าเป็นเรือขนส่งสินค้ายาวประมาณ 300 เมตร 'ต้าลี่' ที่ติดธงชาติสิงคโปร์ กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังกรุงโคลอมโบในศรีลังกา ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายงานว่าสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ 2 ราย โดย 1 ใน 2 ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และยังคงค้นหาผู้สูญหายอีก 6 ราย ซึ่งคาดว่าทั้ 6 รายนั้นซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างกะดึก ทุกฝ่ายจึงสันนิษฐานว่าผู้สูญหายกลุ่มนี้น่าจะเสียชีวิตแล้ว และนับจากนี้จะเน้นไปที่ภารกิจการเก็บกู้ร่างพวกเขาแทน

ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยของสหรัฐยุติปฏิบัติการค้นหาคนงาน 6 คนที่สูญหายจากเหตุการณ์สะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์พังถล่มแล้ว หลังจากการค้นหาผ่านไปแล้ว 18 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ระบุว่า โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตทั้ง 6 คนนั้นไม่มีแล้ว เนื่องจากเวลาผ่านพ้นไปนานแล้วและน้ำมีอุณหภูมิเย็นจัด อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นักประดาน้ำจะลงไปค้นหาอีกครั้งเพื่อนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมา

จับตากฎใหม่ของจีน คาด!! สะเทือนวงการชิปโลก หลังแบน ‘Intel’ และ ‘AMD’ หนุนชิปเมดอินไชน่า

ทางการจีนออกแนวทาง โดยมีเป้าหมายลดการพึ่งพาซีพียูจากสหรัฐอเมริกามีผลให้ทั้ง Intel และ AMD ตลอดจนครอบคลุมถึงระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมฐานข้อมูลที่ผลิตโดยบริษัทต่างชาติด้วย

ไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนประกาศแนวทางการปฏิบัติงานที่มีจุดประสงค์เพื่อหยุดการใช้ชิปประมวลผลความจำซึ่งผลิตโดยบริษัทอินเทล (Intel) และบริษัท AMD ของสหรัฐฯ ในคอมพิวเตอร์และระบบเซิร์ฟเวอร์ของรัฐ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยรัฐบาลจีน เผยว่า หน่วยงานรัฐบาลที่สูงกว่าระดับเมือง จะต้องระบุเงื่อนไขการจัดซื้อชิปประมวลผล รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ 'ปลอดภัยและไว้วางใจได้' ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่นี้ไปด้วย

ทั้งนี้ หากย้อนเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2023 กระทรวงอุตสาหกรรมจีนได้ออกแถลงการณ์พร้อมรายชื่อของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ระบบประมวลผลและระบบฐานข้อมูลส่วนกลาง ที่ถูกระบุว่า 'ปลอดภัยและไว้วางใจได้' เป็นระยะเวลานาน 3 ปีนับตั้งแต่วันที่มีการเผยแพร่ออกมา โดยทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทจีนทั้งหมด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รอยเตอร์ได้ส่งแฟกซ์ไปยังสำนักงานสารสนเทศสภาแห่งรัฐ (State Council Information Office) ซึ่งรับผิดชอบการติดต่อของสื่อกับคณะรัฐมนตรีจีน เพื่อขอความเห็น แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ขณะเดียวกัน ก็จัดทำรายงานข่าวนี้ ไปยัง Intel และ AMD ซึ่งก็ไม่ได้ตอบกลับคำขอความเห็นของผู้สื่อข่าวเช่นกัน

สำหรับพัฒนาการที่ทำให้จีนออกประกาศดังกล่าวขึ้นมานั้น เกิดขึ้นหลังสหรัฐฯ เดินหน้าความพยายามยกระดับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศและลดการพึ่งพาฐานการผลิตในจีนและไต้หวัน ภายใต้กฎหมาย CHIPS and Science Act ปี 2022 ที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผ่านออกมาบังคับใช้

อีกทั้งยัง สกัดกั้นการพัฒนาชิปเอไอของฝั่งจีน ด้วยการห้ามส่งออกชิปไฮเทคไปยังจีน ภายใต้เหตุผลเรื่องความมั่นคงของชาติ

ขณะเดียวกัน ผลพวงแห่งความตึงเครียดในศึกเทคโนโลยีระหว่าง 'สหรัฐฯ' กับ 'จีน' ที่เข้มข้นขึ้น โดยก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งมีรายงานข่าวว่า สหรัฐฯ มีแผนจะขึ้นบัญชีดำบริษัทในเครือข่ายของ 'หัวเว่ย เทคโนโลยีส์' นั้น

ก็ถือเป็นปมสำคัญที่เร่งให้เกิดการตอบโต้จากจีน ด้วยการแบนชิป Intel และ AMD เร็วขึ้นด้วย

สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทชิปอเมริกันอย่างหนัก โดยเฉพาะ Intel เนื่องจากจีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของอินเทลด้วยสัดส่วนถึง 27% ของยอดขายทั้งหมด 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่ AMD มียอดขายในจีน 15% ของยอดขายทั้งหมด 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์  

ขณะเดียวกัน กรุงปักกิ่ง ก็หวังกำจัดระบบปฏิบัติการวินโดว์ส (Windows) ของบริษัทไมโครซอฟท์ รวมทั้งซอฟต์แวร์ที่ผลิตโดยประเทศอื่น ๆ ออกไป เพื่อจะเปิดทางให้กับผลิตภัณฑ์ในประเทศมาเป็นตัวเลือกหลักแทนอีกด้วย

‘ยูเครน’ ส่งสัญญาณ เปิดทางทหารอียูสู้รบกับรัสเซียแทน ขู่!! หากปล่อยยูเครนพ่ายแพ้ ‘ปูติน’ จะไม่หยุดแค่นั้น

ความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอาจไปถึงจุดที่บรรดาชาติสมาชิกอียูจำเป็นต้องประจำการทหารในยูเครน เพื่อต้านทานการรุกคืบของรัสเซีย จากความเห็นของดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวการเมืองสหรัฐฯ ‘โพลิติโก’ เมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) คูเลบา คร่ำครวญต่อกรณีที่ตะวันตกลดความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่เคียฟในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

"กรุณามอบแพทริออตให้เรา" คูเลบากล่าว อ้างถึงระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ซึ่งเขาเน้นย้ำว่ามีความจำเป็นต่อเคียฟ สำหรับเล็งเป้าหมายสกัดฝูงบินขับไล่ของรัสเซีย ที่พึ่งพาระเบิดนำวิถีทางอากาศเป็นหลัก "มอสโกพึ่งพากระสุนอัปเกรดของพวกเขามากยิ่งขึ้น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมทหารยูเครนถึงสูญเสียฐานที่มั่นต่าง ๆ"

เป็นอีกครั้งที่ คูเลบา แสดงความเสียใจที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรีพับลิกันยังคงขัดขวางความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ผลักดันเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะมอบแก่ยูเครน กระนั้นเขาปฏิเสธตอบคำถามกรณีเยอรมนี อีกชาติพันธมิตรลังเลจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกล ‘ทอรัส’ แก่เคียฟ โดยบอกว่าเขา "เหนื่อยหน่ายกับคำถามนี้"

อย่างไรก็ตาม เขาหลีกเลี่ยงวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำแดนน้ำหอมบอกว่าเขาไม่ตัดความเป็นไปได้ของการส่งทหารจากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าไปยังยูเครน

"เรายินดีที่ได้เห็นประธานาธิบดีมาครง มีวิวัฒนาการไปในทิศทางนั้น" รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าว แม้ความเห็นของผู้นำฝรั่งเศส นำมาซึ่งระลอกคลื่นเสียงปฏิเสธจากบรรดาผู้นำรัฐสมาชิกนาโตอื่น ๆ ซึ่งเน้นย้ำว่าไม่มีแผนส่งทหารตะวันตกไปยังยูเครน

"เคียฟไม่เคยร้องขอทหารสู้รบจากยุโรปในภาคสนาม แต่พวกผู้นำอียูอาจจำเป็นต้องรับแนวคิดนี้ เมื่อวันนั้นมาถึง" คูเลบากล่าว "ผมทราบดีว่าเหล่าชาติยุโรปไม่คุ้นเคยกับแนวคิดแห่งสงคราม แต่ยุโรปไม่อาจอยู่ในความประมาท ไม่ว่ากับตัวเองหรือกับเด็ก ๆ ของพวกเขา เพราะว่าหากยูเครนพ่ายแพ้ ปูติน (ประธานาธิบดีรัสเซีย) จะไม่หยุดแค่นั้น"

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุว่าคำกล่าวอ้างของเคียฟและบรรดาผู้สนับสนุนต่างชาติที่บอกว่ารัสเซียจะเล็งเป้าเล่นงานรัฐสมาชิกนาโต เป็นเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ผู้นำรายนี้เน้นย้ำว่ามอสโกจะปฏิบัติกับทหารตะวันตกในฐานะ ‘พวกแทรกแซง’ หากพวกเขาเข้าประจำการในยูเครน และจะตอบโต้อย่างสาสม

รองประธานรัฐสภารัสเซีย ปิออตร์ ตอลสตอย เตือนมาครง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อการสู้รบโดยตรงกับรัสเซียในสนามรบว่า "เราจะสังหารทหารฝรั่งเศสทุกรายที่ย่างเท้าเข้าสู่แผ่นดินยูเครน"

รัฐบาลทหารพม่าไม่หวั่น!! เดินหน้าจัดงานวันกองทัพ ย้ายฤกษ์สวนสนามจาก 'รุ่งอรุณ' เป็น 'อาทิตย์อัสดง'

กองทัพพม่า ยังเดินหน้าจัดงานสวนสนามครั้งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองวันกองทัพ ที่ตรงกับวันที่ 27 มีนาคมของทุกปี ในกรุงเนปิดอว์ ท่ามกลางเสียงนักวิจารณ์ที่ตั้งข้อสงสัยถึงกำลังพลในกองทัพพม่าว่ายังเหลืออยู่เท่าไหร่ หลังถูกกดดันอย่างหนักจากกองกำลังฝ่ายกบฏและถูกมองว่ากองทัพพม่าอยู่ในยุคที่ตกต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี

โดยในปีนี้ กองทัพพม่ายังคงจัดงานฉลองวันกองทัพตามปกติ และ นายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ นายกรัฐมนตรีพม่า จะยังเข้าร่วมเป็นประธานในพิธี แม้กองทัพพม่ากำลังเผชิญสถานการณ์ที่ย่ำแย่ สูญเสียดินแดนจำนวนมากให้กองทัพชาติพันธุ์ เป็นเหตุให้เกิดกระแสขับไล่นายพล มิน อ่อง หล่าย อย่างกว้างขวางแม้ในแวดวงกลุ่มคนสีเขียวก็ตาม

และการจัดงานสวนสนามในปีนี้ มีความพิเศษกว่าทุกปี ที่มักจัดขึ้นในช่วงเช้า ซึ่งปีนี้ รัฐบาลพม่าจะเปลี่ยนมาจัดพิธีสวนสนามในช่วงเย็น โดยอ้างเหตุปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ทำให้ช่วงเช้าอากาศร้อนเกินไป จึงเลือกมาจัดงานในตอนเย็น ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ที่จะช่วยให้การแสดงการบินของกองทัพอากาศมีความตระการตามากขึ้นด้วย

ด้านสำนักข่าวอิรวดี สื่อพม่า ชี้ว่า กองทัพพม่าบรรจงเลือกช่วงเริ่มพิธี ในเวลา 17.15 น. หรือ 5 โมง 15 นาที ตามแนวพิธีกรรมไสยเวทย์ ที่เลือกฤกษ์เวลาที่ประกอบด้วยตัวเลข 3 หลัก คือ 5, 5 และ 1 (5.15 PM) ที่รวมกันแล้วได้ 11 ที่จะช่วยหลีกเลี่ยงภยันตราย 11 ประการ ตามความเชื่อดั้งเดิมของพม่า  รวมถึงการเปลี่ยนช่วงเวลาพาเหรดมาเป็นช่วงเย็นเพราะเชื่อว่าดวงอาทิตย์จะไม่ตกใส่กองทัพพม่า 

แต่บรรยากาศในงานพาเหรดที่มีเป้าหมายเพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทัพในปีนี้ มีความแตกต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเป็นวันกองทัพครั้งแรกหลังจากที่รัฐบาลพม่า เพลี่ยงพล้ำให้กับกองทัพชาติพันธุ์ติดอาวุธ หลังปฏิบัติการ 1027

โดยกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ อันประกอบด้วยกองกำลัง โกก้าง, ตะอ่าง และ อารกัน ได้รวมกลุ่มโจมตีกองกำลังพม่าอย่างฉับพลัน ในแผนปฏิบัติการ 1027 ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ที่ทำให้กองทัพพม่าสูญเสียฐานที่มั่นในพื้นที่เขตปกครองชาติพันธุ์ไปเกือบทั้งหมด ต้องถอยมาปักหลักในเมืองศูนย์กลางที่ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และกรุงเนปิดอว์

ความเสียหายหลังถูกโจมตีโดยปฏิบัติการ 1027 ได้สะท้อนความอ่อนแอภายในกองทัพพม่าอย่างที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมานานหลายปี กลายเป็นแรงกดดันพุ่งสู่ นายพล มิน อ่อง หล่าย ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นผู้นำที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพพม่า และกระแสเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง  

และความระส่ำระสายนี้ ทำให้รัฐบาลพม่าจำเป็นต้องออกกฎหมาย เรียกระดมพลเพิ่ม โดยอนุญาตให้เรียกผู้ชายอายุ 18-35 ปี และผู้หญิงอายุ 18-27 ปีเข้าประจำการเป็นเวลา 2 ปี ทำให้คนหนุ่มสาวในพม่าจำนวนมากพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งจุดหมายแรกของชาวพม่าที่เข้าเกณฑ์ถูกหมายเรียกคือประเทศไทย ที่มีชาวพม่าแห่ขอวีซ่าที่สถานทูตไทยในย่างกุ้งเป็นจำนวนมาก 

ดังนั้น งานสวนสนามประจำปีในวันกองทัพพม่าในวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกองทัพพม่าเหมือนอย่างที่แล้วมา แต่เป็นเหมือนการเรียกขวัญ กำลังใจทหารในกองทัพในยามสิ้นหวัง และอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของนายพล มิน อ่อง หล่าย ที่ต้องพยายามรักษาแสงอาทิตย์ของเขาไว้ให้ได้ แม้ต้องยืนในยามอาทิตย์ใกล้อัสดงก็ตาม 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top