Tuesday, 20 May 2025
World

‘สาวไทย’ แชร์ประสบการณ์ใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ ‘ของแพง-สังคมเร่งรีบ’ เหมาะแค่มาเที่ยวระยะสั้น

(29 ส.ค. 66) ในโลกโซเชียล ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อกชื่อ ‘monajung23’ ได้โพสต์วิดีโอบรรยายถึงประสบการณ์ใช้ชีวิตที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีหลายแง่มุมที่รู้ว่า ‘ประเทศไทย’ ดีกว่า ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายนี้ระบุในวิดีโอว่า

“ประเทศเกาหลีน่าอยู่จริงป่าว??? ความคิดเห็นส่วนตัว เป็นประเทศน่าอยู่ระยะสั้นๆ (ไม่ใช่ตลอดชีวิต) มาเรียน มาเที่ยว มาลองอยู่สัก 2 ปีได้ แต่ไม่ได้ถึงกับน่าอยู่ตลอดชีวิต ค่าครองชีพที่เกาหลีแพงมาก เรียกว่าทำงานเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถซื้อบ้านได้ ส่วนเรื่องการแต่งงานก็ใช้เงินสูงมากเช่นกัน”

“ส่วนอาหารการกินก็ถือว่ากินได้ แต่อร่อยสู้ประเทศไทยไม่ได้ คนแปลกที่เกาหลีเยอะมาก โดยเฉพาะบนรถไฟ ใครมาเกาหลีก็ต้องระวังตัวมาก ๆ (เพิ่งจะมีข่าวสุ่มแทงไป ต้องระวังขึ้นอีก) อากาศดีกว่าประเทศไทย แต่ถ้าหนาวก็หนาวมาก ร้อนก็ร้อนมาก เรียกว่าอากาศแปรปรวนและ PM2.5 ก็เยอะเอาเรื่อง”

“การคมนาคมถือว่าดี แต่ต้องรีบร้อนไปทั้งหมด ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่เมืองไทยก็ไม่ได้แย่เนาะ”

ในช่วงท้ายของวิดีโอ ผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อกรายนี้ได้ทิ้งข้อความไว้ด้วยว่า “ถ้าไม่ติดเรื่องเงิน อยู่ไทยก็ถือว่าไม่ได้แย่ เพราะอยู่เกาหลีได้เยอะกว่าก็จริง แต่ก็ต้องใช้เยอะด้วยเช่นกัน”

ต่อมาได้มีผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อกรายอื่น ๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น 

-มหาเศรษฐีบางท่านที่เคยอยู่ต่างประเทศสุดท้ายก็ต้องกลับประเทศไทยประเทศไทยน่าอยู่ที่สุดแล้วล่ะครับ

-เคยถามคนเกาหลีที่มาอยู่ไทยเขาบอกอยู่ไทยเพราะชีวิตไม่เหนื่อยเหมือนอยู่ประเทศเขา

-ชอบมาก พูดมีเหตุผล ไม่อวยเกิน ขอบคุณค่ะ 🙏

-จริงค่า ทั้งเกา ญี่ปุ่น งงมากเหมือนต้องรีบเดินตาม ๆ เขา ตาลาย 5555

-มาเรียน 4 ปี สนุกมากค่ะ แต่อยู่ไทยสนุกกว่า😂

-จริงไปเที่ยวเกาหลีทุกปี รอบล่าสุดอยากอยู่นาน ๆ จัดไป 19 วัน อยู่ไป 7 วันอยากกลับบ้านแล้ว ยิ่งอยู่นานยิ่งไม่ชอบ แต่ชอบไปเที่ยวไม่เกินอาทิตย์ แพงทุกอย่าง

-จากใจคนอยู่เกาหลี คถ.ไทยทุกวันค่ะ อาหาร ที่เที่ยว ทะเล

-จริงมาก เรามีสามีเกาหลี ทุกวันนี้สามีอยากย้ายไปไทยตลออด แต่ตอนนี้ตั้งใจเก็บเงินกลับไปไทย เราดีที่สุด ขนาดคนเกา ยังอยากไปอยู่ไทยค่ะ

-จริงค่ะ เหมาะกับการไปเที่ยวแต่ไม่น่าใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ แต่แอบชอบการทำงานจริงจังของ ตร. กม. บ้านเขามาก ๆ การคมนาคมดี แต่ค่าครองชีพแพง

-จริงค่ะ สามีเคยพาไปอยู่ช่วงโควิด ระหว่างไทยกับเกาหลี สามีเลือกไทยเพราะค่าครองชีพไทยยังสามารถประหยัดได้ อยู่ไทย 7 ปี แต่เกาหลีอยู่ได้ 1 ปี😅😅

‘อดีตนักเดินเรือเก่า’ แอบหวั่น!! อาหารทะเลนำเข้าจากญี่ปุ่น ความปลอดภัยที่ยังถูกตั้งคำถาม หลังน้ำปนเปื้อนล่องทะเล

(29 ส.ค.66) ข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Naruphun Chotechuang’ โดย ‘คุณนฤพันธ์ โชติช่วง’ อดีตนักเรียนวิทยาลัยยามชายฝั่งญี่ปุ่น ได้โพสต์ให้ความรู้กรณีญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกันตรังสีสู่ทะเลไว้ว่า...

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปทานโอโทะโระลายสวย ๆ จากรูปภาพที่ 1 ในราคา 10 ชิ้น 399 บาท (ตกเฉลี่ยชิ้นละ 40 บาท) เมื่อทานแล้วคุณภาพไม่ต่างจากโอโทะโระที่ญี่ปุ่นระดับราคา 3 ชิ้นพันเยนเลย (ตกเฉลี่ยชิ้นละ 33.3 บาท) ก็ถือว่าทานทิ้งทวนก่อนจะลดการทานอาหารทะเลสักพัก อันเนื่องจากข่าวการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ได้รับการบำบัดแล้วลงสู่ทะเลของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา

ขอเกริ่นต้นเหตุของเรื่องก่อนนะครับ เมื่อ 12 ปีที่แล้วเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น จนทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงผลิตไฟฟ้าฟุคุชิมะหมายเลขหนึ่งเกิดการเมลท์ดาวน์ จึงต้องนำที่ใช้หล่อเย็นแกนพลังงานของเตาปฏิกรณ์และน้ำเหล่านั้นก็ปนเปื้อนกัมมันตรังสี ปริมาณน้ำเหล่านั้นคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 ปีในการทยอยปล่อยน้ำที่บัดบำแล้วจนกว่าจะหมด แต่ถึงแม้จะได้รับการอนุญาตจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) แล้วว่าปริมาณการปนเปื้อนกัมมันตรังสีนั้นอยู่ใน ‘ระดับที่มองข้ามได้’ ว่าแต่มันปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล ธรรมชาติ และมนุษย์จริงหรือไม่ ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ดี 

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการลดการทานอาหารทะเลสักพักของผม? ด้วยอาชีพเก่าอย่างนักเดินเรือ ที่จำเป็นต้องเรียนในศาสตร์วิชาอุตุนิยมวิทยา และสมุทรศาสตร์ ให้เข้าใจหลักการพยากรณ์อากาศ การเกิดพายุ การเกิดคลื่น และกระแสน้ำในทะเลเพื่อใช้ในการนำเรืออย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกระแสน้ำในทะเลบนโลกเรานั้น ผมจำได้ขึ้นใจเนื่องจากตอนสอบภาคทฤษฎีในตำแหน่งนายเรือ และสอบสัมภาษณ์ในตำแหน่งนายประจำเรือเจอคำถามเกี่ยวกับเรื่องกระแสน้ำนี้ด้วย

จากรูปภาพที่ 2 เป็นภาพทิศทางของกระแสน้ำบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกที่แบ่งได้เป็นสองแบบคือ กระแสน้ำอุ่นแทนด้วยสีแดง และกระแสน้ำเย็นแทนด้วยสีน้ำเงิน การปล่อยน้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วลงสู่ทะเล ณ จุดเกิดเหตุมีโอกาสที่กระแสน้ำอุ่นจะพัดเอาน้ำเหล่านั้นไปยังทวีปอเมริกาแล้วแยกออกเป็นสองสาย ไปทางเหนือแล้ววนกลับไปที่ญี่ปุ่น หรือลงทางใต้แล้ววนกลับไปยังเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) นั่นหมายความว่า มีโอกาสที่สัตว์ทะเลที่อาศัยบริเวณนั้นได้รับกัมมันตรังสี ซึ่งก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัดว่าจะไม่มีการกลายพันธุ์ และมนุษย์ก็จะรับเอาสารกัมมันตรังสีจากสัตว์ทะเลเหล่านั้นมาอีกต่อหนึ่ง 

เพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ ผมแคปเอาภาพที่ 3 จากเว็บที่แสดงกระแสน้ำทั่วโลกแบบ Real time มาให้ดูกัน ใครสนใจดูเองเชิญตามลิงก์นี้
https://earth.nullschool.net/#current/ocean/surface/currents/equirectangular=-169.89,11.90,510 

โพสต์นี้ไม่ได้ต้องการให้ทุกคนแตกตื่น แต่ต้องการให้ตื่นตัวกับสถานการณ์ของโลก ประเทศจีนเองก็มีมาตรการยกเลิกการนำเข้าสัตว์ทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมดแล้ว เกาหลีก็มีการประท้วงต่อรัฐบาลญี่ปุ่นในการทำเช่นนี้ ส่วนไทยที่มีหลายคนรักในปลาส้ม และโอมากาเสะนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นยังอาจไม่รับรู้ถึงเรื่องเหล่านี้ ก็อยากให้รับรู้ถึงความเสี่ยงที่มี และพิจารณาความเสี่ยงนั้นด้วยตัวเองครับ

ปล. ที่จริงคนเราก็กินสัตว์ทะเลที่ปนเปื้อนไมโครพลาสติกมาสักพักแล้วนะ ต่างประเทศค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แล้ว แต่ไทยยังทำตัวเหมือนท่านฮุคเพลง ‘ความซื่อสัตย์’ ของบอดี้สแลมต่อไป

'โตโยต้า' สั่งระงับการผลิตรถยนต์ 12 โรงงาน ในญี่ปุ่น หลังพบระบบขัดข้อง ทำให้ยังไม่สามารถสั่งซื้อชิ้นส่วนได้

(29 ส.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดเผยการระงับการดำเนินงานในโรงงานประกอบยานยนต์ 12 แห่ง จากทั้งหมด 14 แห่งในญี่ปุ่นเมื่อเช้าวันอังคารนี้ เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องซึ่งทำให้ไม่สามารถสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ได้ ส่วนเวลาที่จะกลับมาดำเนินการอีกครั้งยังไม่ชัดเจน

โรงงานทั้งหมดใน 25 สายการผลิตได้รับผลกระทบ ยกเว้นโรงงานมิยาตะในจังหวัดฟุกุโอกะ และโรงงานของไดฮัทสุ มอเตอร์ จำกัด (Daihatsu Motor Co.) บริษัทรถยนต์ในเครือโตโยต้า ในจังหวัดเกียวโต

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โตโยต้าระงับการปฏิบัติงานที่โรงงานทุกแห่งในญี่ปุ่นหนึ่งวัน หลังจากที่บริษัท โคจิมะ อินดัสทรีส์ คอร์ป. (Kojima Industries Corp.) ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ในประเทศของบริษัทฯ ประสบปัญหาระบบขัดข้อง ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตในญี่ปุ่นของโตโยต้าทั้ง 28 สาย ในโรงงาน 14 แห่ง และกระทบผลผลิตราว 13,000 คัน

‘ฝรั่งเศส’ จ่อแบนชุด ‘อาบายะห์’ ของชาวมุสลิมในโรงเรียนรัฐฯ อ้าง!! ลดการบ่งบอกศาสนาที่นับถือ ผ่านการแต่งกาย-สัญลักษณ์

(29 ส.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส ออกประกาศว่า เด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนรัฐบาลทุกแห่ง จะถูกห้ามไม่ให้ใส่ชุดคลุมยาวอาบายะห์ มาตรการนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีในภาคการศึกษาใหม่ โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 4 กันยายนที่จะถึงนี้ โดยรัฐบาลจะประกาศแนวทางปฏิบัติในระดับประเทศต่อไป

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสมีข้อบังคับเข้มงวด และห้ามไม่ให้มีการสวมใส่เครื่องแต่งกาย หรือแสดงสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเชื่อทางศาสนาอย่างชัดเจนในโรงเรียนรัฐฯ รวมถึงหน่วยงานราชการ มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 เพื่อไม่ให้ขัดต่อหลักปรัชญาโลกิยนิยม และไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก หรือไม่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซึ่งข้อบังคับนี้ครอบคลุมไปถึงไม้กางเขนของศาสนาคริสต์ด้วย

‘กาเบรียล อัตตัล’ (Gabriel Attal) รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้สัมภาษณ์กับ TF1 TV ว่า “เมื่อคุณเดินเข้ามาในห้องเรียน คุณไม่ควรจะรู้ศาสนาที่นักเรียนคนนั้น ๆ นับถือได้ทันทีจากการแค่มองดู ผมจึงตัดสินใจว่าไม่ควรให้สวมชุดคลุมอาบายะห์ในโรงเรียนอีกต่อไป”

ด้าน CFCM องค์กรที่เป็นตัวแทนชาวมุสลิม ระบุว่า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเพียงอย่างเดียว ไม่ถือเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา

'ครูสาว' ผันตัวเป็น 'ดาว OnlyFans' เผยอาชีพเดิมมีแต่อึดอัด ลั่น!! เป็นดาวโป๊แล้วมีอิสระ รู้สึกเป็นตัวของตัวเองกว่าเยอะ

(30 ส.ค.66) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ‘ชาแนล ยุย (Chanel Yui)’ ผู้สร้างเนื้อหาบน OnlyFans ได้ออกมาเปิดใจถึงการตัดสินใจลาออกจากอาชีพคุณครูมาเข้าสู่การคอสเพลย์และวงการ 18+

โดยชาแนลเปิดเผยว่า การเป็นคุณครูโรงเรียนมัธยมค่อนข้างกดดันและอึดอัด ทำอะไรตามใจไม่ได้นัก เพราะผลที่ตามมาคือการโดนตำหนิและโดนร้องเรียน จนทำให้เธอฉุกคิดว่า “ทำไมถึงจะเป็นตัวของตัวเองไม่ได้?”

ด้านเหตุผลที่เลือกเข้าร่วมเส้นทางอาชีพที่ ‘เป็นที่ถกเถียง’ และ ‘ไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง’ นั้น ชาแนลเผยว่าเป็นเพราะ ‘ซากุระ’ เพื่อนสนิทคนหนึ่งค่อนข้างประสบความสำเร็จในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ และแนะนำให้เธอรู้จักอินฟลูเอนเซอร์มากมาย ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นมักสร้างเนื้อหาบน OnlyFans ประจำ

แน่นอนว่าซากุระก็เข้าร่วม OnlyFans ด้วยเช่นกัน ชาแนลจึงเริ่มเข้าสู่วงการด้วยการช่วยงานเบื้องหลัง ตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงการช่วยจองเที่ยวบินสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งหลังจากสัมผัสประสบการณ์เบื้องหลังมานาน ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจลองทำ OnlyFans ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากวิดีโอเปิดใจถูกเผยแพร่ ค่อนข้างมีกระแสตอบรับเชิงลบต่อการเปลี่ยนอาชีพของเธอ “น่าอับอาย กระทรวงศึกษาธิการเป็นต้องปรับปรุงการคัดเลือกครูในอนาคตจริงๆ”, “รัฐจ่ายเงินเดือนครูให้น้อยจนทำให้เธอต้องออกมาโชว์เนื้อหนังหรอ?”

'จีน' ออกแคมเปญดุ!! 'ปราบละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์' ปกป้อง 'ลิขสิทธิ์-คอนเทนต์' หลุดแพลตฟอร์มเถื่อน

(30 ส.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนริเริ่มโครงการรณรงค์ใหม่ เพื่อออกปฏิบัติการพิเศษปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ทั่วประเทศ ระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน นี้

โครงการดังกล่าวเปิดตัวโดยสำนักบริหารลิขสิทธิ์แห่งชาติจีน ในความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และหน่วยกำกับดูแลไซเบอร์สเปซของจีน

ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ จะเพิ่มการคุ้มครองลิขสิทธิ์สำหรับการออกอากาศงานแข่งขันกีฬา ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเผยแพร่รายการแข่งขันกีฬาแบบไม่ได้รับอนุญาตและผิดกฎหมาย อาทิ การแข่งขันกีฬาหางโจว เอเชียนเกมส์ และเอเชียน พารา เกมส์ ที่กำลังจะมาถึง

โดยหน่วยงานเหล่านี้ จะยกระดับการกำกับดูแลลิขสิทธิ์สำหรับโรงภาพยนตร์ตามความต้องการและห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัวภายในบ้าน อีกทั้งเสริมสร้างการคุ้มครองลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และห้องสมุด

ตลอดการรณรงค์ข้างต้น เว็บไซต์และแอปพลิเคชันสตรีมมิงวิดีโอ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เว็บเบราว์เซอร์ และโปรแกรมค้นหาข้อมูล จะต้องได้รับการตรวจสอบลิขสิทธิ์เช่นกัน

อนึ่ง สำนักบริหารฯ ให้คำมั่นว่าจะกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ทางออนไลน์

‘รัสเซีย’ บรรจุ ‘ภาษาจีน’ ในหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัย อ้าง!! หวังเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์

เมื่อไม่นานมานี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันเอ็กแซมมิเนอร์ของสหรัฐฯ รายงานว่า อันเดร เฟอร์เซนโก (Andrei Fursenko) ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเครมลินซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีการศึกษาและเทคโนโลยีรัสเซียกล่าวมีใจความว่า

“จะไม่มีความรุนแรงพวกเราจะหว่านล้อมแต่ในเวลาเดียวกันพวกเราจะมุ่งหน้าสู่แนวทางนี้หากว่าพวกเราต้องการที่จะสามารถแข่งขันได้” เขากล่าวในรายงานของสื่อ RIA Novosti ของรัสเซีย

ทั้งนี้ สื่อยูเครนสกายา ปราฟดา (Ukrainska Pravda) ที่รายงานเช่นเดียวกันระบุว่า ได้มีการบรรจุภาษาแมนดารินเข้าสอนในหลักสูตรตามมหาวิทยาลัยภายในรัสเซีย

เฟอร์เซนโก ชี้ว่า หนทางนี้จะช่วยให้บรรดานักศึกษาสามารถเข้าสู่ความเข้าใจทางสาขาวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยชี้ว่า 30% ของงานวิจัยวิทยาศาสตร์โลกนั้นถูกตีพิมพ์เป็นภาษาจีน

วอชิงตันเอ็กแซมมิเนอร์ชี้ว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยรัสเซียชื่อดังอย่างน้อย 1 แห่งออกมาต่อต้านคำสั่งโดยชี้ว่า “แปลกประหลาดและส่งผลร้าย”

ซึ่งเฟอร์เซนโกยืนยันว่า มันมีความสำคัญจากการที่จีนมีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง มองว่า นี่เป็นหนทางที่จะทำให้ 2 ชาติสหายมีความใกล้ชิดผูกพันมากขึ้น

เฟอร์เซนโกกล่าวในการประชุมฟอรัมการศึกษาเยาวชนรัสเซีย

“พวกเราต้องการที่จะอยู่ในเทรนด์วิทยาศาสตร์กันอยู่หรือไม่? มุ่งไปข้างหน้ากันเถิด” เขากล่าว และเสริมต่อว่า “ปัญหาคือแน่นอนที่สุดมันมีความจำเป็นที่ต้องทำให้มั่นใจว่า ภาษารัสเซียยังคงอยู่ท่ามกลางไม่กี่ภาษาของด้านวิทยาศาสตร์”

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ดร.เซอร์เก โพโพป (Dr.Sergei Popov) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อฝรั่งเศส Le Monde เมื่อต้นปีว่า สำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มีภาษาเดียวเท่านั้นคือภาษาอังกฤษ และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงในอนาคตระยะใกล้

“ราว 100% ของสิ่งที่ผมได้อ่านและ 90% ของสิ่งที่ผมได้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาจีนที่เป็นคำถามนั้นอาจขึ้นมา แต่พบน้อยกว่าในแวดวงวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี”

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า บรรดานักศึกษารัสเซียประจำสถาบันการศึกษาฟิสิกส์และเทคโนโลยีแห่งมอสโก MFTI (The Moscow Institute of Physics) ได้ออกมาโต้ว่า ความร่วมมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์รัสเซียและนักวิทยาศาสตร์จีนไม่ถึงระดับที่จะทำให้การศึกษาภาษาจีนนั้นมีความสำคัญ

ยูเครนสกายา ปราฟดา ชี้ว่า มีการประท้วงเกิดขึ้นในหมู่นักศึกษาเมื่อมีนาคมต้นปี หลังจากทางสถาบันการศึกษาได้สั่งถอดวิชาภาษาต่างประเทศทั้งสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศสออกจากหลักสูตร และใส่วิชาภาษาแมนดารินในหลักสูตรสำหรับภาคการศึกษา 2023-24 แทนด้วยเหตุผลด้านค่าใช้จ่าย

และเมื่อมีนาคมต้นปีเช่นเดียวกัน ธนาคารแห่งรัสเซีย (Bank of Russia) กำหนดให้พนักงานของตัวเองต้องเรียนภาษาแมนดาริน โดยอ้างว่าเพื่อการติดต่อทางธุรกิจกับเพื่อนร่วมงานจากจีน

โดยหนังสือพิมพ์มอสโกไทม์สได้รายงานเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ว่า เป็นผลมาจากการเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดกับตะวันตกหลังเครมลินเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เครมลินได้หันไปมุ่งสู่เอเชียแทน ความต้องการเรียนภาษาแมนดารินเพิ่มขึ้นจากการที่รัสเซียได้เพิ่มการพึ่งพาทางเศรษฐกิจต่อจีน

หนังสือพิมพ์มอสโกแสดงภาพน่ารักของบรรดาสาว ๆ รัสเซียแต่งกายในชุดจีนโบราณสำหรับพิธีน้ำชาอย่างคึกคัก รวมถึงการศึกษาพู่กันจีน

ในขณะเดียวกัน จำนวนนักศึกษาระดับไฮสกูลรัสเซียได้เลือกภาษาจีนเป็นภาษาต่างประเทศในการสอบไล่ปลายปีเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปี มาอยู่ที่ 17,000 คน ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะยังคงเป็นภาษาต่างประเทศที่เลือกเป็นอันดับ 1 สำหรับเวลานี้

มีนักเรียนรัสเซียตั้งความหวังจะไปศึกษาต่อในจีนหลังมีความหวังน้อยลงในการเข้าสู่สถาบันการศึกษาโลกตะวันตก และมีอีกบางส่วนมองหาลู่ทางที่จะเดินทางไปทำงานในจีนจากเหตุค่าตอบแทนสูงสำหรับชาวยุโรป

นักบินมีหนาว!! ‘เกาหลีใต้’ พัฒนาหุ่นยนต์นักบินตัวแรกของโลก ควบคุมเครื่องได้แม่นยำ หวังตีตลาดการบิน ‘ทหาร-พลเรือน’

เมื่อไม่นานนี้ วงการนักบินต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อทีมนักวิจัยจากสถาบันขั้นสูงทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ (The Korean Advanced Institute of Science and Technology : KAIST) ได้พัฒนา ‘ไพบ็อต’ (PIBOT) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ที่มีลักษณะเป็นนักบินตัวแรกของโลก ที่นอกจากจะสามารถควบคุมเครื่องบินในห้องนักบินได้ไม่แพ้มนุษย์ แต่ยังสามารถจดจําแผนภูมิการบิน และกระบวนการรับมือเหตุฉุกเฉินได้ ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกด้วย

ที่ผ่านมา มีการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ด้านการบินมาบ้างแล้ว ตั้งแต่ระบบลูกเรือในห้องนักบินอัตโนมัติ (Aircrew Labor In-Cockpit Automation System) ขององค์กรนวัตกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศแห่งอนาคตของสหรัฐฯ หรือ ‘DARPA’ ในปี 2016 ไปจนถึงโรโบไพบ็อต (ROBOpilot) หุ่นยนต์นักบินของห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศ สหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งเคยทดลองบินเป็นเวลา 2 ชั่วโมงมาแล้วในปี 2019

ความแตกต่างระหว่างหุ่นยนต์นักบินตัวก่อนหน้ากับตัวล่าสุดนี้ คือการที่ PIBOT นั้นเป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้เทคโนโลยี AI ในการขับเครื่องบิน ทั้งยังเป็นหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์สำหรับขับเครื่องบินตัวแรกของโลกอีกด้วย

‘เดวิด ฮยอนชุล ชิม’ (David Hyunchul Shim) ผู้นำโครงการ PIBOT กล่าวว่า นวัตกรรมนี้มีประโยชน์เนื่องจากมันไม่จําเป็นต้องดัดแปลงเครื่องบินที่มีอยู่ และสามารถนําไปใช้กับเที่ยวบินอัตโนมัติได้ทันที

นอกจากนี้ นักวิจัยยังกล่าวว่า การผสมผสานปัญญาประดิษฐ์อย่างแชตจีพีที (ChatGPT) ช่วยทําให้ PIBOT มีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน เพราะเทคโนโลยีนี้ทำให้ PIBOT จดจําแผนภูมิการนําทางทางอากาศได้ทั่วทุกมุมโลก รวมถึงขั้นตอนการรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เหนือความสามารถของนักบินที่เป็นมนุษย์ ด้วยความสามารถเหล่านี้ ทีมงานจึงกล่าวว่า PIBOT อาจจะสามารถขับเครื่องบินได้โดยที่มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เร็วกว่านักบินที่เป็นมนุษย์

ด้วยรูปลักษณ์ที่คล้ายมนุษย์ PIBOTสามารถควบคุมสวิตช์ต่าง ๆ ในห้องนักบินของเครื่องบินได้อย่างแม่นยํา แม้ในช่วงเวลาที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ อีกทั้งกล้องที่ถูกติดตั้งยังช่วย PIBOT ในการวิเคราะห์สถานการณ์ภายในห้องนักบินและสภาพแวดล้อมภายนอกได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดีการทดสอบ ความสามารถในการขับเครื่องบินของ PIBOT ที่ผ่านมาได้รับการทดสอบโดยใช้เครื่องจําลองการบินเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยวางแผนที่จะทดสอบศักยภาพของหุ่นยนต์ด้วยเครื่องบินเบาในโลกแห่งความเป็นจริงในไม่ช้า โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2026 ซึ่งนักวิจัยวางแผนที่จะตีตลาด ทั้งการบินทางทหารและการบินพลเรือน

‘Country Garden’ ยักษ์อสังหาจีนส่อวิกฤต หลังครึ่งปีขาดทุน 2.3 แสนลบ. อาจผิดนัดชำระหนี้

Country Garden Holdings Co. เตือน อาจผิดนัดชำระหนี้ และอยู่ในธุรกิจต่อไปยาก เพราะครึ่งปีแรกของปี 2566 ขาดทุน เกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.31 แสนล้านบาท) หวั่นเสียหายหนักกว่า China Evergrande Group 

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (31 ส.ค.) Country Garden Holdings Co. ออกมาเตือนว่า อาจผิดนัดชำระหนี้ และกล่าวถึงความกังวลในความสามารถของการอยู่ในธุรกิจต่อไป หลังจากรายงานการขาดทุนมากเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.31 แสนล้านบาท) ในครึ่งปีแรกของปี 2566

โดย ผู้บริหารของ Country Garden กล่าวว่า หากผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทยังคงตกต่ำลง กลุ่มบริษัทอาจไม่สามารถชำระมูลหนี้ทั้งหมดได้ “ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้” ตามเอกสารที่ยื่นเมื่อวันพุธ 

พร้อมเสริมว่า “ความไม่แน่นอนที่มีนัยสำคัญ” หรือ Material Uncertainties ที่อาจก่อให้เกิด “การตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถของกลุ่มในการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต”

ด้านบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า คำเตือนดังกล่าวเน้นย้ำว่า วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่หลายแห่ง 

โดย Country Garden ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ หากประเมินตามยอดขาย ทว่ากลับประสบปัญหาหนี้สินที่อาจเลวร้ายกว่าคู่แข่งอย่าง China Evergrande Group เนื่องจากมีโครงการอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 4 เท่า

กองทัพทหาร บุกยึดอำนาจ ‘อาลี บองโก ออนดิมบา’ หลังคว้าชัยเลือกตั้งใหญ่ ล้มอำนาจผู้นำ 3 สมัยแห่งกาบอง

คลื่นกระแสการรัฐประหารในทวีปแอฟริกา ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุด กองทหารระดับสูงแห่งกาบอง ได้ประกาศผ่านช่อง Gabon 24 เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 66 แถลงข่าวยึดอำนาจประธานาธิบดี ‘อาลี บองโก ออนดิมบา’ ผู้นำกาบอง 3 สมัย หลังจากเพิ่งคว้าชัยจากการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงขาดลอยถึง 63.4%

นับเป็นการเลือกตั้งที่มีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์อย่างรุนแรงจากพรรคฝ่ายค้าน และชาวกาบอง ถึงความไม่โปร่งใส และทุจริต

แต่ทันทีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของกาบองได้รับรองผลการนับคะแนน และประกาศให้ ประธานาธิบดี อาลี บองโก ผู้นำคนปัจจุบัน เป็นผู้ชนะได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็มีกลุ่มกองทหารบุกยึดสถานีโทรทัศน์พร้อมออกแถลงการณ์ว่า “ได้ยึดอำนาจ ประธานาธิบดี อาลี บองโก แล้ว” โดยอ้างว่า “การเลือกตั้งที่ผ่านมาขาดความน่าเชื่อถือ จึงเป็นเหตุให้คณะทหาร ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทัพที่หน้าที่ดูแลความมั่นคง และป้องกันประเทศ จำเป็นต้องยึดอำนาจรัฐบาล ให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และยุบสถาบันฝ่ายบริหารทั้งหมดในกาบอง”

ล่าสุด มีรายงานว่ามีการปิดพรมแดนของประเทศกาบอง และมีเสียงปืนดังขึ้นที่กลางกรุงลีเบรอวิล เมืองหลวงของกาบอง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้

นับเป็นการรัฐประหารครั้งที่ 8 ในระยะเวลาเพียง 3 ปี ที่เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะในโซนภูมิภาคซาเฮล และประเทศใกล้เคียงอย่างกาบอง ที่ส่วนมากเป็นประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน

และหากรัฐประหารครั้งนี้สำเร็จ จะเป็นการสิ้นสุดการปกครองของตระกูลบองโก ที่ครองอำนาจในกาบองมานานถึง 56 ปี โดยประธานาธิบดี อาลี บองโก ผู้นำคนปัจจุบันที่ถูกรัฐประหารในวันนี้ ดำรงตำแหน่งมาแล้วถึง 14 ปี และสืบทอดอำนาจต่อจาก ‘โอมาร์ บองโก ออนดิมบา’ อดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งเป็นพ่อของเขาเอง

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี อาลี บองโก เคยเกือบถูกรัฐประหารมาแล้ว เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 โดยกองทหารกลุ่มหนึ่งบุกยึดสถานีวิทยุแห่งชาติ ณ ใจกลางกรุงลีเบรอวิล ประกาศยึดอำนาจรัฐบาล ในขณะที่ อาลี บองโก ยังพักรักษาตัวจากอาการโรคหลอดเลือดสมองในประเทศโมร็อกโก แต่ครั้งนั้นทำการไม่สำเร็จ

แต่หากรัฐประหารในวันนี้ของกาบอง สามารถโค่นล้ม อาลี บองโก ผู้นำ 3 สมัยลงได้ ทวีปแอฟริกาคงสั่นสะเทือนแรงอีกครั้ง หลังจากเกิดรัฐประหารล่าสุดที่ไนเจอร์ ที่จะส่งผลต่อดุลอำนาจในภูมิภาคอย่างมาก

เนื่องจาก กาบองเป็นอีกหนึ่งชาติที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝรั่งเศส และในด้านทรัพยากร ก็ยังเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยก๊าซธรรมชาติ แร่แมงกานีส และป่าไม้  อีกทั้งยังสะท้อนปัญหาการเมืองในหลายประเทศของแอฟริกา ที่สถาบันรัฐยังเปราะบาง สุ่มเสี่ยงต่อการถูกโค่นล้มจากคลื่นกระแสรัฐประหารในแอฟริกา เชื่อว่าจะไม่จบลงที่กาบองอย่างแน่นอน

เรื่อง : ยีนส์ อรุณรัตน์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top