Tuesday, 20 May 2025
World

‘ทรัมป์’ เข้ามอบตัว หลังแพ้คดีล้มล้างผลการเลือกตั้ง ปี 2020 นับเป็น ปธน.สหรัฐฯ คนแรก ที่ถูกบันทึกภาพประวัติอาชญากรรม

(25 ส.ค. 66) นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน เข้ามอบตัวที่รัฐจอร์เจียแล้วเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น และสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกบันทึกภาพเพื่อประกอบแฟ้มคดี

ทรัมป์เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวจากรัฐนิวเจอร์ซีไปยังเรือนจำที่ฟูลตันเคาน์ตี ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เพื่อเข้ามอบตัวในข้อหาวางแผนล้มล้างผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2020 โดยเขาอยู่ในเรือนจำดังกล่าวราว 20 นาที ท่ามกลางผู้สนับสนุนหลายสิบคนที่รวมตัวอยู่ด้านนอกเรือนจำ

ในบันทึกที่มีการโพสต์บนเว็บไซต์ของเรือนจำ ทรัมป์ถูกบรรยายว่าเป็นชายผิวขาว สูง 6 ฟุต 3 นิ้ว หนัก 97 กิโลกรัม ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า และมีหมายเลขผู้ต้องหาคือ ‘P01135809’

ทรัมป์ได้วางเงินประกันตัว 200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 7,000,000 บาท เพื่อให้เขาได้รับการปล่อยตัวขณะรอการพิจารณาคดี แม้ว่านี่จะเป็นข้อหาในคดีอาญาครั้งที่ 4 ที่ทรัมป์เจอในปีนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทรัมป์ถูกถ่ายภาพเพื่อประกอบการทำแฟ้มคดีอย่างเป็นทางการ

ก่อนเดินทางกลับบ้าน ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินว่า เขามีสิทธิ์ที่จะคัดค้านผลการเลือกตั้ง เพราะเขาคิดว่ามีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้น ดังนั้น เขาจึงมีสิทธิ์ทุกประการที่จะทำเช่นนั้น และมีคนจำนวนมากที่ทำแบบเดียวกัน ไม่ว่าฮิลลารี คลินตัน หรือสเตซีย์ อับรามส์ (อดีตผู้สมัครผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย) หรือคนอื่นๆ อีกมากมาย

ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า คดีที่มีการกล่าวหาเขาในครั้งนี้เป็นเพียงความยุติธรรมจอมปลอม ต่อมาเขาโพสต์บน X เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 โดยนำภาพที่เขาถูกถ่ายประกอบแฟ้มคดีมาลงพร้อมระบุว่า “การแทรกแซงการเลือกตั้ง อย่ายอมแพ้!!”

ทรัมป์แย้งว่าคดีที่เขาถูกฟ้องร้องมีแรงจูงใจทางการเมือง เพราะเขาเป็นผู้นำในการแข่งขันชิงตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน เพื่อท้าสู้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปีหน้า

เมื่อสัปดาห์ก่อน ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐจอร์เจียร่วมกับจำเลย 18 คน หลังจากที่เขาพ่ายแพ้แก้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่า 12,000 เสียงในรัฐดังกล่าว โดยผู้ต้องหาที่ได้ไปมอบตัวเพื่อถ่ายทำประวัติในรัฐจอร์เจียครั้งนี้ยังรวมถึงนายรูดี จูเลียนี อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก และนายมาร์ก มีโดวส์ อดีตหัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว

‘ปูติน’ เคลื่อนไหวครั้งแรก หลังเครื่องบินวากเนอร์ดิ่งตก เผย ‘พริโกซิน’ เป็นคนเก่ง-มีพรสวรรค์ แต่ทำผิดพลาดร้ายแรง

ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุเครื่องบินส่วนตัวของ ‘นายเยฟเกนี พริโกซิน’ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ กองกำลังทหารรับจ้างสัญชาติรัสเซีย ดิ่งตกใกล้หมู่บ้านคูเซนกิโนในแคว้นตเวียร์ ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นการกำจัดผู้คิดคดก่อกบฏต่อรัฐบาลรัสเซีย

ภายหลังนายพริโกซินนำกำลังวากเนอร์บุกยึดเมืองรัสเซีย รวมถึงมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงมอสโก เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อดีตมิตรรักของนายพริโกซิน กล่าวเป็นครั้งแรกราว 24 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุเครื่องบินตกว่า “หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างผู้มีความสามารถคนนี้ ทำผิดพลาดร้ายแรงในชีวิต” แต่ไม่ได้มีการยืนยันอย่างชัดเจน ว่านายพริโกซินเสียชีวิต

โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (เพนตากอน) ระบุว่าสหรัฐเชื่อว่านายพริโกซินเสียชีวิตในเหตุเครื่องบินตก เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยกับซีบีเอสนิวส์ว่า สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดที่เครื่องตก น่าจะเป็นการลักลอบนำวัตถุระเบิดซุกซ่อนขึ้นไปไว้บนเครื่องบิน

ส่วนกลุ่มวากเนอร์ระบุผ่านบัญชีเกรย์โซนบนเทเลแกรม ว่าเครื่องบินถูกระบบต่อต้านอากาศยานของรัสเซียยิงตกอย่างไรก็ตาม ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้ยังไม่มีการยืนยัน

ด้านหน่วยงานสืบสวนรัสเซียกำลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว ซึ่งเป็นต้นทางที่เครื่องบินของนายพริโกซินขึ้นบิน เพื่อมุ่งหน้าไปนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด

วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่ากองทัพสกัดกั้นโดรนของยูเครน 42 ลำที่พุ่งเป้าโจมตีในพื้นที่ไครเมีย ทางตอนใต้ของยูเครน และในจำนวนนี้ 33 ลำถูกกำจัดโดยการสงครามอิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่สื่อนอร์เวย์รายงานว่า รัฐบาลนอร์เวย์จะสนับสนุนเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 แก่ยูเครนเพื่อยกระดับการปกป้องอธิปไตยจากการรุกรานของรัสเซีย แต่ยังไม่มีแถลงอย่างเป็นทางการ โดยความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรีโยนาส การ์ สเตอร์ ผู้นำนอร์เวย์ เดินทางเยือนกรุงเคียฟกะทันหันในวันวันประกาศอิสรภาพยูเครน เมื่อวันที่24 ส.ค.ที่ผ่านมา

‘เทปโก้’ เผย ผลตัวอย่างน้ำทะเล ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ’ หลังทำการปล่อยน้ำเสียสู่ทะเล ยัน!! ยังอยู่ในระดับปลอดภัย

เมื่อวานนี้ (25 ส.ค.66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ หรือ ‘เทปโก้’ ผู้เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ในประเทศญี่ปุ่นเผยเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมว่า ผลตรวจตัวอย่างน้ำทะเลหลังการเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ที่ผ่านการบำบัดแล้วของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเลเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) แสดงให้เห็นว่าระดับกัมมันตภาพรังสีในน้ำยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย

นายเคสุเกะ มัตซึโอะ โฆษกของเทปโก้กล่าวในการแถลงข่าวว่า “เรายืนยันว่าค่าที่วิเคราะห์ได้นั้นต่ำกว่า 1,500 เบ็กเคอเรลต่อลิตร” โดยหน่วยวัด เบ็กเคอเรลต่อลิตร จะถูกใช้ในการวัดระดับกัมมันตภาพรังสี ซึ่งค่ามาตรฐานความปลอดภัยแห่งชาติได้ระบุไว้ที่ 60,000 เบ็กเคอเรลต่อลิตร

นายมัตซึโอะกล่าวอีกว่า การตรวจตัวอย่างน้ำดังกล่าวได้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับผลการทดสอบก่อนหน้านี้ และได้ค่าที่ต่ำกว่าระดับมาตรฐานความปลอดภัยที่ระบุไว้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นแล้ว ทางหน่วยงานจะทำการวิเคราะห์ต่อไปทุกวันตลอด 1 เดือนข้างหน้าและหลังจากนั้น รวมถึงหวังว่าการให้คำอธิบายที่เข้าใจง่ายและรวดเร็วนี้ จะช่วยคลายความกังวลของหลายคนได้ ด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นก็ได้มีการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลจาก 11 แห่งเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เพื่อนำไปตรวจสอบและจะมีการประกาศผลที่ได้ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้

นอกจากนั้นแล้ว สืบเนื่องจากที่ประเทศจีนได้มีคำสั่งแบนการนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ หลังเริ่มปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล ล่าสุด รายงานของเทอิโคคุ ดาตาแบงก์ บริษัทวิจัยตลาดเผยว่า บริษัทผู้ส่งออกอาหารของประเทศญี่ปุ่นไปยังประเทศจีนจำนวน 727 แห่ง ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนดังกล่าวของจีน ซึ่งคิดเป็นราว 8% ของบริษัทญี่ปุ่นทั้งหมดที่ส่งสินค้าไปยังจีน

ประเทศญี่ปุ่นส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลไปยังประเทศจีนในปี 2022 เป็นมูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 21,066 ล้านบาท ถือเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยการส่งออกไปยังประเทศจีนและฮ่องกงคิดเป็นสัดส่วน 42%  ของการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่นในปี 2022

นายยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม ผู้รับผิดชอบในด้านนโยบายนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ได้วิงวอนให้นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเรียกร้องให้จีนยกเลิกการแบนดังกล่าว

มือปืนเหยียดเชื้อชาติ กราดยิงคนผิวดำดับ 3 รายในแจ็กสันวิลล์ สลด!! เหตุเกิดตรงกับวันครบรอบสุนทรพจน์ ‘มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์’

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 66 ตามเวลาท้องถิ่น มือปืนรายหนึ่งก่อเหตุกราดยิงใส่คนผิวสี 3 ราย จนเสียชีวิตในแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ของสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ฆ่าตัวตายตาม ถือเป็นเหตุสลดใจล่าสุดที่เกิดขึ้นเพราะการเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐฯ

มือปืนถูกระบุว่าเป็นคนผิวขาว อายุ 20 ต้นๆ ได้เข้าไปในร้านดอลลาร์เจเนอรัล และเปิดฉากยิงใส่คนผิวสีจนเสียชีวิต 3 ราย ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับตำรวจที่เข้าระงับเหตุ แต่คนร้ายได้จบชีวิตตนเองในท้ายที่สุด

‘นายอำเภอที เค วอเตอร์ส’ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 รายและหญิง 1 ราย โดยมือปืนซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ ใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติที่มีน้ำหนักเบา และปืนพกในการก่อเหตุ

นายอำเภอวอเตอร์สเชื่อว่า มือปืนลงมือก่อเหตุตามลำพังและมีข้อมูลระบุว่า เขาต้องการฆ่าตัวตาย โดยมือปืนรายนี้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขาในเคลย์เคาท์ตีของแจ็กสันวิลล์ โดยปืนอย่างน้อย 1 กระบอกของเขามีเครื่องหมายสวัสดิกะอยู่บนนั้น

ขณะที่ ‘ดอนนา ดีแกน’ นายกเทศมนตรีแจ็กสันวิลล์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความเกลียดชังทางเชื้อชาติ และว่าแค่เหตุยิงเพียงครั้งเดียวก็มากเกินไป ยิ่งการกราดยิงหมู่เช่นนี้ยิ่งเป็นเรื่องเหลือที่จะรับได้

‘รอน เดอซานติส’ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา กล่าวว่า เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องน่ากลัว มือปืนพุ่งเป้าไปที่คนโดยดูจากเชื้อชาติของพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง และฆ่าตัวตายแทนที่จะเผชิญหน้า และรับผิดชอบในสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป เขาเลือกทางออกอย่างคนขี้ขลาด

ด้านทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวแล้ว

เหตุกราดยิงดังกล่าวเกิดขึ้นในวันครบรอบ 60 ปีที่ ‘มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์’ ได้กล่าวสุนทรพจน์อันโด่งดัง “I have a dream” เพื่อเรียกร้องสิทธิพลเมืองให้กับคนผิวสีในสหรัฐฯ

‘ทรัมป์’ ระดมเงินทุนจากผู้สนับสนุนได้มากกว่า 248 ล้านบาท หลังแพ้คดีล้มผลการเลือกตั้ง และถูกเก็บภาพผู้ต้องหาในจอร์เจีย

(27 ส.ค. 66) หลังสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกถ่ายภาพเพื่อทำประวัติผู้ต้องหา ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ก็ยังสามารถระดมทุน เพื่อสนับสนุนการรณรงค์หาเสียง ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เพิ่มเติมไม่หยุด

นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายประกอบคำฟ้อง ที่ทรัมป์ต้องเข้าไปถ่ายในเรือนจำ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ยอดเงินระดมทุนสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์นั้น เพิ่มขึ้นถึง 7.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 248.5 ล้านบาท

ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีคำฟ้องทรัมป์ในหลายกรณี ทั้งจากคดีของรัฐบาลกลางและคำฟ้องของรัฐต่างๆ ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการกล่าวอ้างอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2020

‘สตีเวน ชุง’ โฆษกทีมหาเสียงของทรัมป์ระบุว่า ทรัมป์สามารถระดมทุนได้เป็นเงินเกือบ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 700 ล้านบาท

ชุงระบุว่า ในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมเพียงวันเดียว มีผู้บริจาคเงินให้กับการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์สูงถึง 4.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 146 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยได้รับบริจาคมาในวันเดียว

ขณะที่ภาพถ่ายประกอบการทำแฟ้มคดีของทรัมป์ ซึ่งมีการเผยแพร่โดยศาลของรัฐจอร์เจีย ถูกนำไปพิมพ์ลงเสื้อยืด แก้วน้ำ แก้วกาแฟ โปสเตอร์ ไปจนถึงหัวตุ๊กตาทั้งจากฝ่ายที่นิยมชมชอบและฝ่ายที่เห็นต่าง

นับจนถึงขณะนี้ ทรัมป์เผชิญกับการฟ้องร้อง 5 คดี ซึ่งรวมถึงคดีการกล้าวอ้างเป็นเท็จว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ทำให้เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ 2 คดี รวมถึงคดีที่กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และย้ำว่าคดีทั้งหมดมีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง

สื่อจีน เล่นแรง!! ยก 24 ส.ค.2023 'วันภัยพิบัติจากนิวเคลียร์โลก' หลัง รบ.ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีสู่ทะเลเป็นครั้งแรก

(28 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ลึกชัดกับผิงผิง’ สื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมจากรัฐของจีน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีของญี่ปุ่น โดยระบุว่า…

#สัตว์บาปเริ่มแก้แค้นทั่วโลก

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่มหาสมุทรเป็นครั้งแรก โดยไม่นำพาการคัดค้านอย่างรุนแรงของประชาคมโลก โดยเฉพาะชาวจีนและเกาหลีใต้

นาย ‘ฮูเหอฉีหลิน’ (乌合麒麟) จิตรกรชื่อดังชาวจีน เสนอผลงานภาพการ์ตูนล่าสุดชื่อภาพ ‘สัตว์บาปเริ่มแก้แค้นทั่วโลก’ โดยมีคำบรรยายภาพ “มันจะทำให้ชาวโลกเสียชีวิตพร้อมกันหรือ” นับเป็นภาพที่แรงมาก แต่แสดงออกถึงอารมณ์โกรธและความกังวลอย่างยิ่งของชาวจีน

การวิจัยที่เกี่ยวข้องของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า น้ำเสียที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่ปล่อยจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ จะไหลไปยังมหาสมุทรทั่วโลกใน 10 ปีนับจากนี้ ขณะที่โครงการปล่อยน้ำเสียนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นจะดำเนินการเป็นเวลา 50 ปี และสารกัมมันตรังสีส่วนหนึ่งจะอยู่ได้เป็นเวลาหมื่นปี

น้ำปนเปื้อนนิวเคลียร์ดังกล่าวมีสารกัมมันตรังสีกว่า 60 ชนิด ทางการญี่ปุ่นบอกว่าเป็นน้ำที่ได้รับการบำบัดมาแล้ว เราเป็นชาวบ้าน ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ทำไมญี่ปุ่นไม่เก็บไว้ใช้เอง อย่างน้อยก็เอาไปใช้ในการเพาะปลูกพืชที่รับประทานได้ ปลูกหญ้าและปลูกป่าก็ได้  แต่จะมุ่งมั่นปล่อยลงสู่ทะเล น้ำเหล่านี้ปลอดภัยจริงหรือ

สื่อจีนระบุ วันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2023 เป็น ‘วันภัยพิบัติจากนิวเคลียร์โลก’

‘ญี่ปุ่น’ โวย!! ถูก ‘จีน’ ขู่ หลังปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีลงทะเล ด้าน ‘ฮ่องกง’ แบนนำเข้าอาหารทะเล ฉุดธุรกิจร้านอาหารดิ่ง 30%

(28 ส.ค. 66) สำนักข่าวรายงานว่า ภาคธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในเกาะฮ่องกงคาดหมายว่า ธุรกิจร้านอาหารของตนจะตกลงมากถึง 30% ได้ หลังจากทางการสั่งแบนนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น ที่มีผลแล้วในวันที่ 24 สิงหาคม จากการที่ญี่ปุ่นทำการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี ที่ผ่านการบำบัดเรียบร้อยแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

‘นายไซม่อน หว่อง’ ประธานสหพันธ์ร้านอาหารและการค้าที่เกี่ยวข้องของฮ่องกง กล่าวว่า เราคาดว่าธุรกิจร้านอาหารจะปรับลดลงไปราว 20-30% หรืออาจมากกว่านั้นสำหรับร้านอาหารไฮเอนด์ ที่ส่วนใหญ่นำเข้าวัตถุดิบที่บินส่งตรงจากญี่ปุ่นมายังฮ่องกงภายในวันเดียวกันเลย และหากวัตถุดิบที่เป็นอาหารทะเลดังกล่าวไม่มีความหลากหลาย หรือไม่มีปริมาณเพียงพอสำหรับร้านอาหาร ธุรกิจก็จะได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าการขาดแคลนอุปทานจะไม่ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากผู้ค้าให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าไว้เป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกอาหารทะเลใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น รองจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งได้ออกมาตรการห้ามนำเข้าอาหารทะเล รวมถึงเกลือและสาหร่ายทะเล จาก 10 จังหวัดที่มีความเสี่ยงของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม รวมถึงจากโตเกียว, จังหวัดฟุกุชิมะ และนางาโนะ ซึ่งคิดเป็น 10% ของอาหารทะเลญี่ปุ่นที่นำเข้ามาในฮ่องกง

ส่วนมาเก๊า เกาะเพื่อนบ้านที่อยู่ใต้อาณัติปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ ก็สั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่นเช่นกัน ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่สั่งแบนนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งหมด

วันเดียวกัน ‘นายฮิโรคาสุ มัตสึโนะ’ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง กรณีที่มีโทรศัพท์ข่มขู่เข้ามาอย่างมาก โดยมีต้นสายจากจีนในการข่มขู่คุกคามที่เกี่ยวเนื่องกับการปล่อยน้ำเสีย จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงทะเลของญี่ปุ่น

โดยนายมัตสึโนะกล่าวว่า พัฒนาการเหล่านี้เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งและเรามีความเป็นห่วง กังวล

ด้านกระทรวงต่างประเทศของจีนยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อท่าทีนี้ของโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น

ยึดรถไอศกรีมฉาว กลางย่านท่องเที่ยวดังในกรุงลอนดอน หลังกร่างขวางถนน ไร้ใบอนุญาต แถมค้ากำไรเกินควร 

(28 ส.ค. 66) ทำเสียชื่อเมืองผู้ดีเก่าอย่าง ‘กรุงลอนดอน’ ประเทศอังกฤษอย่างนี้ ต้องโดนสักที สำหรับรถเร่ขายไอศกรีมตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ตอนนี้ โดนสื่ออังกฤษรุมแฉว่า “เป็นร้านที่ขายไอศกรีมแพงที่สุดในอังกฤษแล้ว”

เมื่อตำรวจลอนดอนใน 2 พื้นที่ทั้ง ‘Lambeth Council’ และ ‘Westminster City’ ได้บุกเข้ายึดรถเร่ขายไอศกรีมคันหนึ่ง ที่จอดขายไอศกรีมโคนสไตล์อังกฤษ ที่เรียกว่า ‘99 Flake’ ให้แก่นักท่องเที่ยวบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ เพราะจอดรถบนสะพานกีดขวางเลนจักรยาน ผิดกฏจราจร สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ และยังพบว่ารถขายไอศกรีมคันนี้ ไม่มีใบอนุญาติในการจำหน่ายอาหาร ผิดระเบียบด้านอนามัยอีกต่างหาก

แต่ที่แสบยิ่งกว่านั้นคือ ก่อนที่ตำรวจลอนดอนจะบุกมายึดรถไอศกรีมคันนี้ไป มีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งว่า รถเร่คันนี้ ขายไอศกรีมโคนในราคาแพงลิว เข้าข่ายขูดรีดนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว

เพราะร้านนี้ ขายไอศกรีม 99 Flake ขนาดมาตรฐาน ซึ่งเป็นไอศกรีมโคนไอคอนของเกาะอังกฤษ ในราคาสูงถึงโคนละ 7 ปอนด์ (ประมาณ 310 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าร้านทั่วไปเกือบ 5 เท่า

หากคิดว่าไอศกรีมโคนละ 7 ปอนด์ ราคาแพงมากแล้ว แต่ล่าสุด ‘โจแอน ซิมบอร์’ นักท่องเที่ยวสาวรายหนึ่ง ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวและลูกๆ ยืนยันว่าได้ซื้อไอศกรีมโคนกับรถคันนี้ในราคาแพงกว่า 7 ปอนด์เสียอีก โดยเธอได้สั่งไอศกรีมไปทั้งหมด 4 โคน โดนไป 30 ปอนด์ (ประมาณ 1,330 บาท) ตอนที่เจ้าของร้านบอกราคา เธออึ้งจนงง!! แม้จะเข้าใจว่าค่าครองชีพในลอนดอนนั้นสูงมาก แต่ไม่นึกว่าจะสูงถึงขนาดนี้

สิ่งที่ผิดปกติคือ ทางร้านก็ไม่ยอมติดป้ายราคาอาหารที่หน้าร้านเลย แม้คนทั่วไปจะสอบถามราคาก่อนซื้อ แต่บางครั้งหลายคนก็ชะล่าใจ ไม่นึกว่าไอศกรีมโคนเล็กๆ จะมีราคาแพงได้ถึงขนาดนี้

สำหรับไอศกรีมโคน 99 Flake ชื่อดังนี้ ถือกำเนิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่บริษัทผู้ผลิตช็อกโกแลต Cadbury ในเมืองเบอร์มิงแฮม ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในปี 1920 ที่ชื่อว่า ‘Flake’ มีลักษณะเป็นแท่งช็อคโกแลตอบกรอบ คล้ายตังเม และไม่ละลายในอากาศร้อน ต่อมานิยมใช้ในการตกแต่งบนหน้าขนมหวาน

โดยร้านที่อ้างว่าเสิร์ฟเมนู 99 Flake เป็นร้านแรก คือร้านไอศกรีมของ ‘นายสเตฟาโน อาร์คารี’ ซึ่งร้านของเขาตั้งอยู่บ้านเลขที่ 99 บนถนน Portobello High Street ในสก็อตแลนด์ ได้ใช้ช็อกโกแลต Flake ครึ่งแท่งปักในไอศกรีมซอฟท์ครีม 1 โคนออกขายในปี 1922 ซึ่งเชื่อว่า 99 Flake มาจากเมนูนี้ที่ร้านของเขา และเป็นเมนูไอศกรีมที่ดังมาก และมีหลายร้านนำไอเดียไปขายบ้าง และกระจายไปทั่วอังกฤษ จนบริษัท Cadbury ต้องออกช็อกโกแลต Flake ในขนาดครึ่งแท่งมาวางจำหน่ายสำหรับนำไปประดับเป็นไอศกรีม 99 Flake โดยเฉพาะในเวลาต่อมา

ดังนั้น 99 Flake จึงเป็นไอศกรีมโคนระดับมาตรฐาน สตรีทฟู้ดทั่วไปในอังกฤษ โดยมากขายในราคาเริ่มต้นเพียง 1.5 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นหลายปี ขายในราคา 99 เซนท์ตามชื่อไอศกรีมด้วยซ้ำไป

เมื่อเป็นไอศกรีมระดับตำนานของอังกฤษ ก็มีนักท่องเที่ยวหลายคนสนใจอยากลองเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอมาเจอราคาของรถเร่ไอศกรีม ที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ดูเข้าถึงง่าย แต่หลอกขายไอศกรีมในราคาที่เรียกได้ว่าขูดรีด หลอกลวงผู้บริโภค เห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยวก็คิดจะขายในราคาแบบตีหัวเข้าบ้าน ก็ทำนักท่องเที่ยวเข็ดได้เหมือนกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็โดนยึดรถ โดนออกสื่อทั่วอังกฤษประจานไปตามระเบียบ แต่ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวก็ต้องพึงระวังในการซื้อของกิน ของใช้เวลาเดินทางต่างแดน ต้องถามราคาก่อนสั่งเสมอ จะได้ไม่โดนโขกราคาเลือดซิบเช่นนี้

มกุฎราชกุมารซาอุฯ ผุดแผนสร้าง ‘ศูนย์โลจิสติกส์’ กว่า 50 แห่ง หนุนความหลากหลายเศรษฐกิจท้องถิ่น-อีคอมเมิร์ซ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว เผยว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เปิดตัวแผนสร้างศูนย์โลจิสติกส์กว่า 50 แห่ง เพื่อเปลี่ยนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ระดับโลก

สำนักข่าวซาอุดีอาระเบีย รายงานว่าแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาคโลจิสติกส์ สร้างความหลากหลายของเศรษฐกิจท้องถิ่น และเสริมสร้างสถานะของซาอุดีอาระเบียในฐานะจุดหมายการลงทุนชั้นนำ

รายงานระบุว่าแผนการนี้ประกอบด้วยศูนย์ 59 แห่งบนพื้นที่รวมกว่า 100 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่ในกรุงริยาด 12 แห่ง เมกกะ 12 แห่ง ภูมิภาคตะวันออก 17 แห่ง และส่วนอื่นๆ ของซาอุดีอาระเบียอีก 18 แห่ง

ศูนย์โลจิสติกส์ดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2030 จะเปิดทางให้อุตสาหกรรมท้องถิ่น ส่งออกผลิตภัณฑ์ของซาอุดีอาระเบียได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และสนับสนุนอีคอมเมิร์ซ โดยเกื้อหนุนการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว ระหว่างศูนย์โลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้าทั่วซาอุดีอาระเบีย

‘อินเดีย’ เตรียมส่ง ‘อาดิตยา แอล 1’ สำรวจดวงอาทิตย์ 2 ก.ย.นี้ หลังสร้างประวัติศาสตร์พิชิตดวงจันทร์สำเร็จเป็นชาติแรกของโลก

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, นิวเดลี รายงานว่า องค์การวิจัยอวกาศอินเดีย (ไอเอสอาร์โอ) เปิดเผยกำหนดการปล่อยดาวเทียม ‘อาดิตยา แอล 1’ (Aditya L1) เพื่อทำภารกิจสำรวจดวงอาทิตย์ครั้งแรก ว่าน่าจะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.ย.นี้

‘นิเลช เอ็ม เดไซ’ ผู้อำนวยการศูนย์ประยุกต์อวกาศ (SAC) ในเมืองอาห์เมดาบัด ระบุว่า ดาวเทียมอาดิตยา แอล 1 อยู่บนแท่นปล่อยจรวดและพร้อมสำหรับการปล่อยแล้ว

ดาวเทียมดวงดังกล่าวจะบรรทุกเครื่องมือ 7 รายการ เพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ พายุสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบโลก โดยจะถูกส่งไปวงโคจรรัศมีรอบจุดลากรางจ์ 1 (L1) ของระบบดวงอาทิตย์-โลก ซึ่งอยู่ห่างจากโลกราว 1.5 ล้านกิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม อินเดียทูเดย์ รายงานว่า โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึก ที่ไม่เคยมีมาก่อนของดวงอาทิตย์ และผลกระทบที่มีต่อสภาพอากาศ ตั้งชื่อตามแกนของดวงอาทิตย์ แต่ไม่ได้เดินทางไปดวงอาทิตย์จริงๆ แบบที่หลายคนเข้าใจ

ดาวเทียม ‘อาดิตยา แอล 1’ จะวางตำแหน่งตัวเองในวงโคจรรัศมีรอบจุดลากรางจ์ ของระบบดวงอาทิตย์-โลก ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 1.5 ล้านกิโลเมตร ซึ่งตำแหน่งนี้จะช่วยให้สามารถสังเกตดวงอาทิตย์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ถูกขัดขวางโดยสุริยุปราคา และช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ ศึกษากิจกรรมแสงอาทิตย์ และผลกระทบต่อสภาพอากาศในแบบเรียลไทม์

ภารกิจอาดิตยา แอล 1 จะใช้เวลามากกว่า 100 วันโลก หลังจากปล่อยสู่อวกาศ เพื่อไปถึงวงโคจรรัศมีรอบจุดแอล 1 ดาวเทียมมีน้ำหนัก 1,500 กิโลกรัม บรรทุกสิ่งของวิทยาศาสตร์ 7 ชิ้น

เอ็นดีทีวี ของอินเดีย เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวถูกสร้างด้วยต้นทุนเกือบครึ่งหนึ่งของ ‘จันทรายาน -3’ โดยรัฐบาลอนุมัติเงิน 378 ล้านรูปี ในปี 2019 สำหรับการศึกษาบรรยากาศของดวงอาทิตย์ แต่ไม่มีข้อมูลที่มากกว่านั้น

ไม่นานมานี้ ‘จันทรายาน 3’ ของอินเดีย เพิ่งจะลงจอดลงในขั้วโลกใต้ของอินเดียได้สำเร็จเป็นชาติแรกของโลก โดยมูลค่าของโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 600 ล้านรูปี ซึ่งเทียบกับการสร้างภาพยนตร์บอลลีวูดฟอร์มยักษ์ 2 เรื่อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top