Monday, 19 May 2025
World

รัฐฟลอริด้าประกาศ มหันตภัยจาก 'วัคซีน mRNA' ที่แท้ถูกสร้างมาเป็นอาวุธชีวภาพทำลายชีวิตผู้คน .

(21 ก.ค.66) ผู้ใช้ Blockdit 'ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

รัฐฟลอริด้ามีความกล้าหาญมากที่ออกมาแถลงว่าวัคซีน mRNA ที่ใช้ฉีดแก้โควิด-19 นั้น เป็นอาวุธชีวภาพที่เป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ถูกฉีดมากกว่าเป็นคุณและกำลังดำเนินการเพื่อประกาศให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายภายในรัฐ (Florida declare mRNA Covid shots a ‘Bio-Weapon’.  Legislation looking to be passed to make it ILLEGAL to administer any mRNA Covid-19 Vaccine to anybody in the state)

เห็นหรือยังครับ? คำว่า *ทฤษฎีสมคบคิด* (Conspiracy Theory) เป็นวาทกรรมที่ CIA สร้างขึ้นมาเพื่อสกัดมิให้คนเชื่อเมื่อมีคนแฉอาชญากรรมของยิวไซออนิสต์ที่คิดครองโลก 

ข่าวใดก็ตามที่ถูกตราว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด วิญญูชนไทยต้องศึกษาให้ลึกหรือต้องวิจัย แล้วจะเข้าใจความจริงเอง ไม่ต้องรอให้ฝรั่งมาชี้นิ้วว่าควรจะเป็นอย่างไร จักรวรรดิ์นิยมอเมริกานี้เติบโตมาพร้อม ๆ กับนโยบายลดจำนวนประชากรโลก 

ถือว่าทีมผู้บริหารรัฐฟลอริด้ากล้าหาญมากครับ กล้าหาญมากว่าประเทศไทยที่นักการเมืองส่วนใหญ่ถูกล้างสมองด้วยข่าวโฆษณาชวนเชื่อ ไม่มีวิจารณญาณมากพอจะแยกแยะ 

น่าจะเรียกว่าเป็น *ประเทศฟลอริด้า* กันได้แล้วนะครับเพราะนโยบายแตกต่างจากรัฐบาลกลางอย่างสิ้นเชิง เมื่อเปโตรดอลล่าร์ล่มสลายลง ถ้าจะแยกตัวไปเป็นเอกราช ก็ขอให้สำเร็จ

ตอนนี้ เชื่อหรือยังว่าโควิด-19 มาพร้อมๆ กับนโยบายลดจำนวนประชากรโลก? แน่นอนครับ ขอให้ค้นคว้ากันเองและตัดสินใจเองว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

ลือสนั่น!! ความสัมพันธ์ ‘เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน’ เริ่มสั่นคลอน หลังวงในอ้างทั้งคู่ห่างกันสักพักแล้ว ด้านแฟนคลับออกโรงป้อง

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 66 ‘ดิ อินดิเพนเดนท์’ สื่ออังกฤษ รายงานว่า แฟนๆ ที่ชื่นชมออกมาปกป้อง ‘เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน’ ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าทั้งคู่แยกทางกันแล้ว

โดยมีกระแสข่าวว่า หลังจาก ‘Spare’ หนังสือบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รี แห่งราชวงศ์อังกฤษ วางแผง ก็เริ่มมีการคาดเดาว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน พระชายา ที่เข้าพิธีเสกสมรสกันในปี 2018 อาจไม่มั่นคงอย่างที่เคยเป็นมา ตามรายงานของ ‘Entertainment Tonight’ ระบุว่า…

“เจ้าชายแฮร์รี พระชันษา 38 ปี ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อพักผ่อนและใช้เวลาห่างจากพระชายาของพระองค์”

ส่วน ‘RadarOnline’ รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยอ้างคนวงในบอกว่าทั้งคู่ได้ห่างกันสักพักแล้ว “พวกเขากำลังพยายามทบทวนว่าอะไรที่เป็นปัญหาของพวกเขา” และว่า “เจ้าชายแฮร์รี ไม่เหมาะกับโลกมายาของเมแกน”

ขณะที่มีรายงานว่าเมื่อข้อตกลงมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนทำกับ ‘Spotify’ ได้สิ้นสุดลงเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นอีกครั้ง บลูมเบิร์กรายงานถึงความยุ่งยากของเมแกนในการเลือกแขกที่จะเชิญมาในรายการ โดยขณะที่เจ้าชายแฮร์รีทรงอยากให้เชิญ โดนัลด์ ทรัมป์, วลาดิมีร์ ปูติน และมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก มาร่วม แต่ผู้บริหารดูจะไม่กระตือรือร้นกับไอเดียเหล่านี้ของพระองค์

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอีกรายบอกกับ ‘Page Six’ ว่า “เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ยังคงอยู่ด้วยกันและแต่งงานอย่างมีความสุข”

ด้านแคที นิโคล ผู้เขียนเรื่อง ‘The New Royals’ กล่าวกับ ET ว่า “ประสบการณ์ของฉันกับแฮร์รีและเมแกน เมื่อใดก็ตามที่ฉันอยู่กับพวกเขา ในฐานะคู่รักที่สนิทกันมากๆ ประกายแห่งความมีชีวิตชีวาของพวกเขา ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงเสมอ”

แฟนคลับอีกรายหนึ่งที่สนับสนุนคู่รักต่างฐานันดรคู่นี้ ทวีตว่า “โปรดรู้ไว้ว่าฉันเป็นแฟนตัวยงของเมแกน ตั้งแต่เรื่อง ‘Suit’ และเจ้าชายแฮร์รีตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และฉันเข้าร่วมในทวิตเตอร์ เพราะฉันกำลังมองหาวิธีที่จะปกป้องและสนับสนุนพวกเขา เป็นเรื่องดีที่รู้ว่าพวกเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง”

‘รถไฟหัวกระสุนฟู่ซิง’ เปิดตัวแล้ว ที่นครฉางชุน ประเทศจีน ออกแบบพิเศษสำหรับ ‘เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19’ โดยเฉพาะ

ยลโฉม ‘รถไฟหัวกระสุนฟู่ซิง’ ขบวนออกแบบพิเศษสำหรับการแข่งขันกีฬาหางโจว เอเชียน เกมส์ ครั้งที่ 19 ซึ่งถูกนำออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.)

รายงานระบุว่า รถไฟหัวกระสุนฟู่ซิงขบวนนี้ผลิตโดยบริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ วีฮิเคิลส์ จำกัด (CRRC Changchun Railway Vehicles) ในนครฉางชุน มณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

(บันทึกภาพวันที่ 21 ก.ค. 2023)
 

‘สมเด็จฯ ฮุนเซน’ ยิ้มร่า เข้าคูหาเลือกตั้ง แบบไร้คู่แข่ง เตรียมส่งไม้ต่อให้ลูกชายขึ้นแท่นเป็นนายกฯ คนใหม่

(23 ก.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ชาวกัมพูชาเดินทางออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในวันนี้ (23) ในการเลือกตั้งที่ ‘สมเด็จฯ ฮุนเซน’ ผู้นำกัมพูชาที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนานใกล้จะคว้าชัยชนะอีกครั้ง ขณะที่เขาพยายามจะรักษามรดกของเขาไว้ด้วยส่งต่อบังเหียนให้ลูกชายคนโต

อดีตทหารเขมรแดงวัย 70 ปี ที่ปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 2528 ไม่ได้เผชิญกับการแข่งขันที่แท้จริงใดๆ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านถูกตัดสิทธิ คู่แข่งหลายคนจำต้องหลบหนี และเสรีภาพในการแสดงออกถูกจำกัด

พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของเขามีแนวโน้มที่จะรักษาที่นั่งทั้งหมด 125 ที่นั่งในสภาล่าง ที่ขยายเวลาการกุมอำนาจออกไปและปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น ที่นักวิจารณ์บางคนเปรียบเทียบกับการเมืองเกาหลีเหนือ

พรรคฝ่ายค้านที่จริงจังเพียงพรรคเดียวถูกตัดสิทธิด้วยเหตุผลด้านเอกสารในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจหากพรรคเล็กๆ อีก 17 พรรค ชนะได้ที่นั่งในสภาฯ

ฮุนเซนเดินทางมายังหน่วยเลือกตั้งชานกรุงพนมเปญ พร้อมภริยา เพื่อลงคะแนนเสียงไม่นานหลังหน่วยเลือกตั้งเปิดในเวลา 7.00 น. ตามการรายงานของนักข่าว

สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ ปฏิเสธที่จะส่งเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง โดยระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ขาดเงื่อนไขที่ทำให้การเลือกตั้งมีความเสรีและเป็นธรรม ทำให้มีเพียงเจ้าหน้าที่จากรัสเซีย จีน และกินี-บิสเซา เท่านั้นที่เข้าร่วมสังเกตการณ์

ประชาชนมากกว่า 9.7 ล้านคน ลงทะเบียนเพื่อลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่ 7 นับตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรกที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนเกิดขึ้นในปี 2536 หลังจากประเทศอยู่ภายใต้ความขัดแย้งนานหลายปี ที่รวมถึงยุคของเขมรแดงที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทำให้ประเทศเสียหายยับเยิน

ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ความหวังใดๆ ก็ตามที่ประชาคมระหว่างประเทศอาจมีต่อระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคที่สดใสในกัมพูชา ถูกบั่นทอนลงจากการปกครองของฮุนเซน

ฮุนเซนเริ่มมองไปยังอนาคต โดยกล่าวว่าเขาจะส่งมอบให้ลูกชายของเขา ‘ฮุน มาเนต’ นายพลระดับ 4 ดาว ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

“เราใช้สิทธิและความรับผิดชอบของพลเมืองออกมาลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกพรรคที่เรารักให้เป็นผู้นำประเทศ” ฮุน มาเนต วัย 45 ปี กล่าวกับนักข่าวหลังหย่อนบัตรเลือกตั้ง

หลายคนสงสัยว่า ฮุน มาเนต ที่ได้รับการศึกษาจากทั้งในสหรัฐฯ และอังกฤษ จะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศหรือไม่ แม้ว่า ฮุนเซน จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาตั้งใจที่จะใช้อิทธิพลอำนาจอยู่ต่อไป แม้ลูกชายของเขาจะเข้าครองอำนาจแล้วก็ตาม

ในขณะที่ฮุน มาเนต ที่นำการเดินขบวนหาเสียงครั้งสุดท้ายของพรรค CPP ในกรุงพนมเปญเมื่อวันศุกร์ บอกกล่าวกับฝูงชนว่าเป็นวันแห่งชัยชนะของประเทศ แต่นักวิจารณ์จะไม่เห็นด้วย และกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้

ในวันก่อนการเลือกตั้ง แนวร่วม 17 องค์กร ที่รวมถึงเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (ANFREL) และสหพันธ์สากลเพื่อสิทธิมนุษยชน (FIDH) ระบุว่า การเลือกตั้งมีความน่าวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง

“การใช้สิทธิเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นบ่งชี้ว่าไม่ปรากฏถึงความโปร่งใส ความเป็นธรรม และความครอบคลุมในกระบวนการเลือกตั้ง” กลุ่มพันธมิตรระบุในคำแถลงที่ออกในวันเสาร์

ความท้าทายที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวสำหรับพรรค CPP มาจากพรรคแสงเทียน แต่ในเดือน พ.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติปฏิเสธที่จะจดทะเบียนพรรค ทำให้พรรคไม่มีสิทธิร่วมลงเลือกตั้ง

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพรรคแสงเทียนทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดไว้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นปีก่อน โดยได้คะแนนนิยมถึง 22%

ก่อนการเลือกตั้ง พรรคแสงเทียนกล่าวกับเอเอฟพีว่าคำตัดสินเกี่ยวกับการลงทะเบียนดังกล่าวหมายความว่าไม่มีทางที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเสรีและเป็นธรรม

“ทุกคนรู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ” รง ชุน รองหัวหน้าพรรคแสงเทียน กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีบรรยากาศแห่งความสิ้นหวังในหมู่ประชาชนที่มาลงคะแนนเสียงภายใต้การปรากฏตัวของตำรวจตามหน่วยเลือกตั้งในกรุงพนมเปญ

“ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะไม่มีพรรคฝ่ายค้านเหลืออยู่เลย” ชาวกัมพูชาวัย 51 ปี กล่าว

ก่อนการเลือกตั้ง เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นถูกจำกัดอย่างหนัก โดยหนึ่งในสำนักข่าวอิสระที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งของประเทศถูกปิดตัวลงในปีนี้

และเมื่อเดือนที่ผ่านมา ฮุนเซนยังสั่งปรับแก้กฎหมายเลือกตั้ง โดยกำหนดห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ความเคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อคู่แข่งของเขา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘สม รังสี’ ที่ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศสเป็นเวลาเกือบทศวรรษเพื่อเลี่ยงความผิดทางอาญาที่เขากล่าวว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง และแกม สุขา หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ที่ถูกกักบริเวณในบ้านพักหลังจากถูกตัดสินจำคุก 27 ปี ฐานกบฏในข้อหาวางแผนกับชาวต่างชาติเพื่อโค่นล้มรัฐบาลฮุนเซน ทั้งนี้ การเลือกตั้งได้ปิดหีบลงคะแนนในเวลา 15.00 น.

วงจรหายนะของ ‘ฝรั่งเศส’ ที่ฉุด ‘เศรษฐกิจ’ ให้ถดถอย หลังตัวจุดชนวน ‘การประท้วง’ ปะทุบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้ติ๊กต็อกบัญชี ‘@spacebarmediath’ ซึ่งเป็นช่องที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับข่าวเศรษฐกิจ สำหรับ EP. นี้ จะเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศสที่กําลังเดินวนอยู่ในวงจรหายนะ ยิ่งวนอยู่ในวงจรนี้นานเท่าไร เศรษฐกิจก็ยิ่งถดถอย แล้ววงจรนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? ‘คุณทราย-โศธิดา โชติวิจิตร’ พิธีกรดำเนินรายการ ได้ออกมาอธิบายเอาไว้ว่า…

“1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คือ มูลค่าความเสียหายคร่าว ๆ เฉพาะภาคการท่องเที่ยวสําหรับการประท้วงฝรั่งเศสครั้งนี้ เพราะว่านักท่องเที่ยวต้อง ‘ยกเลิก’ ทริปการท่องเที่ยวทั้งหมด เพราะผู้ชุมนุมประท้วงได้ทุบทําลายและปล้นซูเปอร์มาร์เก็ตไปมากกว่า 250 แห่ง เผาธนาคารไป 250 แห่ง ทำลายร้านค้าเล็ก ๆ ไปอีก 250 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ที่ถูกเผาไปรวมกันมากกว่า 5,000 คัน จากความเสียหายเหล่านี้ ทำให้มีตัวเลขที่จะออกมา ‘กดดันเศรษฐกิจ’ คือ ‘ค่าเคลมประกัน’ ที่ตอนนี้ยอดสูงถึง 305 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเคลมประกันถึง 5,900 เคส 

จุดที่เป็นตัวกระตุ้นของการประท้วงครั้งนี้ เกิดจากที่ตํารวจไปยิงเด็กวัยรุ่นเสียชีวิตก็จริง แต่ความอัดอั้นทุกข์ทนที่ทําให้คนออกมาเผาบ้านเมืองตัวเองได้ขนาดนี้ มันเกิดจาก ‘ความยากจน’ ต่างหาก ซึ่งในประเทศฝรั่งเศส เด็ก ๆ ไม่มีบ้านอยู่กันมีมากกว่า 3 หมื่นคน และอาศัยอยู่ในสลัมอีกมากกว่า 9 พันคน รวมถึงทุก ๆ ปี จะมีเด็กมากกว่า 140,000 คน ต้องออกจากโรงเรียนเพราะว่า ‘ไม่มีเงิน’ สําหรับอัตราความยากจนของประเทศฝรั่งเศสตอนนี้พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากถึง 15.6% นอกจากนี้ ความรุนแรงที่ตำรวจใช้ในการขับไล่คนไร้บ้านก็ยังถูกพาดหัวข่าวให้เห็นกันอยู่เสมอ

สําหรับตอนนี้ PMI Service Sector ที่ได้แก่ การท่องเที่ยว การขายส่ง แฟชัน ตกลงจาก 52.5 มาอยู่ที่ 48 ซึ่งถือว่าเยอะมาก ตั้งแต่เปิดโควิดเป็นต้นมา และ Service Sector นับเป็นอัตราส่วน 80% ของเศรษฐกิจประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเกิดความเสียหายมากที่สุดในตอนที่มีคนมาชุมนุมประท้วง เพราะว่าคนไม่มาเที่ยว คนไม่ซื้อของหรู ไม่ซื้อหลุยส์ วิตตอง ไม่ไปดินเนอร์หรู ไม่ไปปาร์ตี้บนเรือยอร์ช หรือไม่เช่ารถลีมูซีน

ซึ่งการประท้วงในฝรั่งเศสดูจะบ่อยมากขึ้น เพราะนอกจากครั้งนี้ หากย้อนกลับไปครั้งล่าสุดก็ 3 เดือนที่แล้วนี้เอง และถ้าย้อนกลับไปแค่ประมาณปีกว่า ๆ ก็คือภายในปี 2022 ฝรั่งเศสประท้วงมาแล้ว 4 ครั้ง 

หากมองเป็นภาพวงจร ก็คือ คนจน > โกรธ > ประท้วง > เศรษฐกิจเสียหาย > เงินก็ยิ่งน้อย > คนก็จนลงไปอีก ทีนี้จึงเกิดความรู้สึกโกรธ และก็เกิดการประท้วงวนลูปอยู่อย่างนี้ต่อไป ยิ่งวนเศรษฐกิจก็ยิ่งหดตัว 

ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศสเองก็มีปัญหาใน ‘การใช้จ่าย’ คือ ใช้เงินเกินรายได้ และตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา รัฐบาลใช้จ่ายเงินเกินรายได้ไปเยอะมากมาโดยตลอด ส่วนอัตราภาษีตอนนี้ก็อยู่ที่ 45% แล้ว ถ้าจะไปขูดรายได้เพิ่มจากการเก็บภาษีประชาชน ก็คงดูจะทำได้ลําบากยิ่งขึ้น ทำให้ประธานาธิบดี ‘แอมานุแอล มาครง’ จึงต้องไปจีบทั้งจีนและบริดจ์ โดยที่ไม่สนใจการแตกแถวจากสหรัฐอเมริกา

แต่ประเทศฝรั่งเศสที่ปัจจุบันร่ำรวยเป็นอันดับ 7 ของโลกจะเดินออกมาจากวงจรแห่งความหายนะนี้ได้หรือไม่? เราก็คงทำได้แค่เอาใจช่วย

‘ซูโจว’ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ หมุดหมายสำคัญอุตสาหกรรมทั่วโลก ผสานจุดเด่น 'ประวัติศาสตร์-วัฒนธรรม-วิทยาศาสตร์

เพจเฟซบุ๊ก ลึกชัดกับผิงผิง ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ เมืองซูโจว และยกย่องว่าเป็นเมืองแห่ง สวรรค์ในโลก โดยได้ระบุว่า ...

เมืองซูโจว สวรรค์ในโลก

จีนมีสำนวนโบราณที่ว่า 'บนฟ้ามีสวรรค์ ในโลกมีซูโจวและหางโจว' ความหมายคือ เมืองซูโจว (苏州)และหางโจว(杭州)เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่เปรียบเสมือนแดนสวรรค์ของมนุษย์ 

จีนมีเมืองใหญ่พิเศษ 4 แห่ง ที่ใช้คำย่อ 'เป่ยซ่างกว่างเซิน' (北上广深) ได้แก่ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองกว่างโจวและเมืองเซินเจิ้น 

รองลงมาคือเมืองแนวหน้าใหม่ที่มีทั้งหมด 15 เมืองได้แก่ เฉิงตู ฉงชิ่ง หางโจว ซีอาน หวู่ฮั่น ซูโจว เจิ้งโจว หนานจิง เทียนจิน ฉางชา ตงกวน หนิงโป ฝอซาน เหอเฟย์ ชิงเต่า

เมืองซูโจวไม่ใช่เมืองเอกของมณฑลใด แต่สามารถเข้ารายชื่อ '15 เมืองแนวหน้าใหม่' ของจีน เมืองซูโจวมีอะไรบ้าง 

เมืองซูโจวอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซู ภาคตะวันออกของจีน เป็น 'เมืองแห่งความฝัน' สำหรับชาวจีน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์กว่า 2,500 ปี เคยเกิด 'จอหงวน' จำนวน 50 คน ('จอหงวน' สำเนียงกลางว่า จฺวั้ง-ยฺเหวียน สำเนียงแต้จิ๋วว่า จ่อง้วง เป็นตำแหน่งราชบัณฑิตซึ่งได้คะแนนอันดับหนึ่งในการสอบขุนนางของประเทศจีนสมัยที่จีนปกครองโดยกษัตริย์ ในประเทศจีนปัจจุบัน คำนี้ใช้เรียกนักเรียนที่ได้คะแนนมากเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย)

ปัจจุบัน เมืองซูโจวมีสมาชิกสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนจำนวนกว่า 100 คน นับเป็นหนึ่งในแหล่งวัฒนธรรมสำคัญของจีน มีบุคคลชื่อดังจำนวนมาก

งิ้วคุณฉงี่ (昆曲)ของซูโจวได้ชื่อว่าเป็น 'บรรพบุรุษของงิ้วร้อยชนิดในจีน' คุนฉวี่ ผ้าไหมสมัยซ้ง  ขิมโบราณ และสถาปัตยกรรมพื้นเมืองโบราณ เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองซูโจว

เมืองซูโจวอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสามเหลี่ยมแม่น้ำแยงซี ที่เป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดของจีน เป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำของจีน ที่ดินจะปลูกข้าวได้เป็นอย่างดี มีผลิตภัณฑ์อุดมสมบูรณ์ ทำให้เมืองซูโจวได้ชื่อว่า 'คลังธัญญาหารของประเทศ' และ 'เมืองแห่งการพาณิชย์อันดับ 1 ของจีน'  

ปี 2022 ผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือจีดีพีของเมืองซูโจวติด 10 อันดับแรกของจีนอย่างต่อเนื่อง จีดีพีของอำเภอต่างๆ ในเมืองซูโจวส่วนใหญ่ติด 100 อันดับแรกของจีน อย่างเช่นอำเภอคุนซาน (昆山) จัดอยู่อันดับ 1 ของอำเภอที่เข้มแข็งของจีนติดต่อกันหลายปีแล้ว  

ในสายตาของผู้คน ซูโจวเป็นเมืองที่มีความอ่อนโยน เขตนี้มีแม่น้ำลำคลองและทะเลสาบจำนวนมาก หมู่บ้านริมน้ำที่สวยงามกระจายไปทั่ว ทำให้กลายเป็น 'เวนิสตะวันออก' และทำให้นิสัยใจคอชาวซูโจวมีความอ่อนโยนเหมือนน้ำใส 

แต่ในอีกด้านหนึ่ง เมืองซูโจวในปัจจุบันจัดอยู่อันดับต้นๆ ของเมืองอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญของจีน มีโครงการลงทุนจากบริษัทที่อยู่ใน 500 อันดับแรกของโลกจำนวนมากมาย มีบริษัทเอกชนหลายล้านบริษัท คุณไม่ได้อ่านผิด..หลายล้านบริษัทจริงๆ 

ปัจจุบัน ซูโจวมีเขตพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติจำนวน 14 แห่ง นิคมอุตสาหกรรมซูโจวเป็นผู้นำของนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศจีน ปีนี้ บริษัทแอร์บัสได้มาเปิดศูนย์วิจัยและการผลิตที่จีน ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมซูโจว บริษัทเทคโนโลยีด้านต่างๆ อาทิ  สารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ ยาชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ เป็นต้น อันเป็นองค์ประกอบทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เมืองซูโจวกำลังกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอุตสาหกรรมทั่วโลก 

นี่คือซูโจวที่ได้รับการขนานนามว่า 'สวรรค์ในโลก' 'เมืองแห่งสวนโบราณ' 'บ้านเกิดของจอหงวน' 'หมู่บ้านของสมาชิกสภาวิทยาศาสตร์' ที่นี่มีหมู่บ้านโจวจวงที่ได้ชื่อว่า 'หมู่บ้านในน้ำที่สวยงามอันดับ 1 ของจีน' มีวัดหานซาน (寒山寺) ที่มีชื่อเสียงในจีน มีคุนซานที่เป็น 'อำเภอเข้มแข็งที่สุดของจีน' เก๋งจีนที่มีประวัติศาสตร์กว่าพันปี ปริมาณผลิตผ้าไหมเป็นอันดับ 1 ของจีน เป็นเมืองแห่งหัตถกรรมและศิลปะพื้นเมือง และมีอาหารโอชาแบบภาคตะวันออกของจีน เมืองซูโจวห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้น มีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ การคมนาคมสะดวกมาก

ขอขอบคุณข้อมูล : เพจเฟซบุ๊ก ลึกชัดกับผิงผิง

‘อีลอน มัสก์’ เล็งเปลี่ยนโลโก้ทวิตเตอร์เป็น ‘X’ มุ่งสู่แพล็ตฟอร์มการสื่อสาร-ชำระเงินเต็มรูปแบบ

(24 ก.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า อีลอน มัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ และลินดา ยัคคาริโน ซีอีโอคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว ประกาศนำพาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมระดับโลกมุ่งสู่ยุคใหม่ทางธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ

มัสก์และยัคคาริโนต่างประกาศว่า โลโก้นกสีฟ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของทวิตเตอร์มาอย่างยาวนานจะถูกโละทิ้งเร็ว ๆ นี้ ก่อนรีแบรนด์แพล็ตฟอร์มใหม่ในชื่อ 'X'

ทวิตเตอร์ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2549 และใช้คำว่า 'ทวีต' ตามเสียงนกคุยกัน ได้ใช้การสร้างตราสินค้าเป็นรูปนกมาตั้งแต่ยุคแรก ๆ ภายหลังบริษัทได้ซื้อสัญลักษณ์รูปนกสีฟ้าอ่อนในราคา 15 ดอลลาร์จากเว็บไซต์ออกแบบแห่งหนึ่ง และใช้นกสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทั้งนี้ 'X' จะเป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นธุรกิจรับชำระเงิน, การธนาคาร และการค้าอย่างเต็มรูปแบบ นอกเหนือไปจากการสนทนาและแบ่งปันข้อมูล

ยัคคาริโน อดีตผู้บริหารโฆษณาคนเก่งจากเอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล (NBCUniversal) กล่าวว่า ทวิตเตอร์กำลังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนและขยายขอบเขต และจะมีการนำ AI เข้ามาขับเคลื่อนเชื่อมโยงในระบบธุรกิจ

"X จะเป็นอนาคตของการสื่อสารไม่จำกัด ทั้งในรูปแบบของเสียง, วิดีโอ, การส่งข้อความ, การชำระเงิน, การธนาคาร รวมไปถึงการสร้างการตลาดระดับโลกสำหรับแนวคิด, สินค้า, บริการ และโอกาส" ยัคคาริโนกล่าวผ่านทวิตเตอร์ และเสริมว่า "การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่มีขีดจำกัด และ 'X' จะเป็นแพลตฟอร์มที่ส่งมอบได้...ทุกอย่าง"

ตั้งแต่อีลอน มัสก์ ซื้อทวิตเตอร์ด้วยมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ธุรกิจโฆษณาของแพลตฟอร์มก็มีแต่ร่วงลงๆ พร้อมด้วยปัญหาด้านการดำเนินงานและบุคลากร เขาจึงต้องผลักดันช่องทางหารายได้ใหม่ให้กับทวิตเตอร์

อีลอน มัสก์ วัย 52 ปีเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าการครอบครองทวิตเตอร์ของเขามีจุดประสงค์เพื่อสร้างแอปสำหรับทุกอย่าง ซึ่งอ้างอิงถึงบริษัท X.com ที่เขาก่อตั้งในปี 2542 และกลายมาเป็น PayPal ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินในปัจจุบัน

นอกจากนี้ มัสก์ยังได้ตั้งชื่อบริษัทแม่ของทวิตเตอร์ใหม่แล้วด้วยว่า 'X Corporation' และกำลังดำเนินการหาสัญลักษณ์ (โลโก้) ให้กับ 'X'

คาดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำทวิตเตอร์ก้าวไปสู่ยุคใหม่ที่ไม่ยึดติดกับการหาโฆษณาและให้บริการแบบไม่คิดเงิน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง 'เธรดส์' ของมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก และการนำเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่าง AI เข้ามาปรับใช้อย่างจริงจัง

สุดล้ำ!! ‘จีน’ ลุยส่ง ‘ดาวเทียม’ สู่ห้วงอวกาศจำนวน 4 ดวง ใช้รับข้อมูล-บริการเชิงพาณิชย์-การสื่อสารผ่านดาวเทียม

(24 ก.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) จีนปล่อยจรวดขนส่งลองมาร์ช-2ดี (Long March-2D) พร้อมส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรที่กำหนด จำนวน 4 ดวง

รายงานระบุว่าจรวดขนส่งลองมาร์ช-2ดี ทะยานออกจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมไท่หยวน มณฑลซานซีทางตอนเหนือของจีน ตอน 10.50 น. ตามเวลาปักกิ่ง

ดาวเทียมสามดวงจะถูกใช้รับข้อมูลการสำรวจระยะไกลและให้บริการสำรวจระยะไกลเชิงพาณิชย์ ส่วนดาวเทียมอีกดวงหนึ่งจะใช้ตรวจสอบเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านดาวเทียม

อนึ่ง การส่งดาวเทียมดังกล่าวนับเป็นภารกิจครั้งที่ 479 ของจรวดขนส่งตระกูลลองมาร์ช

'นางแบบไต้หวัน' ปั้นคอนเทนต์สยิว เติมกำลังใจให้นักรบยูเครน ร่วมเพศทัพอาสา ถ่ายทุกท่วงท่าปลุกใจทหารกล้าให้ฮึกเหิม

สร้างความฮือฮา กลางสนามรบกันเลยทีเดียว เมื่อ 'ฟ่าน เพ่ยกุง' นางแบบสาว ไต้หวัน-อเมริกัน วัย 33 ปี ยอมลงทุน เปลื้องผ้า สร้างคอนเทนต์เซ็กซี่ โพสต์ท่ายั่วยวน ในชุดทหาร กับขีปนาวุธ และ อาวุธสงครามลงในโซเชียลและ OnlyFans แพลตฟอร์มสำหรับผู้ใหญ่เพื่อระดมทุนและส่งกำลังใจให้กับกองทัพยูเครน โดยเธอได้ให้นิยามคอนเทนต์ในครั้งนี้ว่า เป็นการกลั่นกำลังใจจากเต้าเพื่อทหารยูเครนและบรรดาอาสาสมัครในการต่อต้านปูติน

ฟ่าน เพ่ยกุง นางแบบสาวเจ้าของไอเดียสุดสยิวกิ้วคนนี้มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา จากสาวไต้หวันสัญชาติอเมริกันในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ที่สามารถคว้ามงกุฎนางงาม Miss Taiwanese American Princess เวทีประกวดสาวงามของชุมชนชาวไต้หวันในสหรัฐอเมริกา ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีใน ลอสแอนเจลิส ได้สำเร็จ ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นนางแบบ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลและเป็นศิลปิน 

อีกทั้งยังมีข้อมูลระบุว่า เธอเคยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเยล หนึ่งในสถาบันไอวี่ ลีกของสหรัฐฯ และยังได้คะแนนอันดับต้นๆ จากการแข่งขัน NASA Hackathon อีกด้วย แต่มาเอาดี จริงจังในการทำคอนเทนต์เซ็กซี่ใน OnlyFans 

แต่เมื่อราวๆ เดือนพฤศจิกายน 2565 ฟ่าน เดินทางมายังยูเครนในฐานะอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสงคราม และได้มาประจำที่ศูนย์อาสาสมัครในเมืองลวิว ทางตะวันตกของยูเครน ซึ่งถือว่าห่างไกลจากสมรภูมิรบแถวหน้า เธอจึงได้รับหน้าที่ทำงานพื้นๆ ซึ่งไม่ต่างที่เธอเคยทำตอนอยู่ในสหรัฐอเมริกา 

เพื่อต้องการแสวงหาความท้าทายกว่านี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฟ่านตัดสินใจย้ายไปประจำอยู่ในเมืองคาห์คีฟ ทางฝั่งตะวันออกที่เป็นศูนย์กลางการสู้รบระหว่างทหารทั้งสองฝั่ง ซึ่งเธอเห็นว่าสามารถช่วยสนับสนุนกองทหารยูเครนได้โดยตรงมากกว่า 

และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างคอนเทนต์เซ็กซี่กลางสนามรบ โดยหวังใจว่าจะเป็นการปลุกจิตใจทหารกล้าชาวยูเครนให้ฮึกเหิมมากขึ้น และยังมีโอกาสได้พบกับทหารหนุ่มๆ จากทั่วโลก ที่อาสามาช่วยรบในยูเครน 

ซึ่ง ฟ่าน เพ่ยกุง ก็เล่าผ่านสื่อสหรัฐฯ อย่างเปิดเผยว่า เธอมีความสัมพันธ์กับอาสาสมัครในกองทัพยูเครนหลายคน ตั้งแต่ ทหารอาสาจากอังกฤษ เจ้าหน้าที่ควบคุมโดรนชาวยูเครน ช่างไฟ และ เจ้าหน้าที่ไอที อีก 2 คน เป็นต้น 

และเธอได้โพสต์ภาพถ่ายสุดเซ็กซี่ กับอาวุธในสนามรบลงในช่องทาง OnlyFans ให้กองทหาร และ อาสาสมัครของยูเครนชมฟรี และเปิดรับบริจาคจากผู้ที่เข้าชมคอนเทนต์ของเธอเพื่อระดมเงินสมทบกองทุนช่วยเหลือชาวยูเครน ที่ทำให้สื่อหลายสำนักสนใจไอเดียสุดแหวกแนวของฟ่านเป็นจำนวนมาก 

แต่ถึงกระนั้น ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ที่เธอจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน ทั้งจากกลุ่มชาวอาสาสมัครคนอื่น และ ผู้คนในโลกโซเซียล ที่มองว่าภาพ และเนื้อหาของเธอเข้าข่ายอนาจาร และไม่เหมาะสม เพราะที่นั่นคือสนามรบจริง มีทหารมากมายเสียชีวิตจริงๆ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ชวนหดหู่ และเศร้าใจมากกว่าจะนำมาใช้ในเนื้อหาเชิงอีโรติก

แต่สำหรับฟ่าน เธอยังพอใจ และ มีความสุขในสิ่งที่เธอทำ โดยเชื่อว่า เนื้อหาของเธอ ช่วยเยียวยาจิตใจนักรบแถวหน้าที่ต้องไปสละชีพเพื่อชาติได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้คลายเครียด สร้างความกระชุ่มกระชวย ซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับชายชาติทหารเหมือนกัน 

ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนว่าเห็นสมควรอย่างไร ใครถนัดช่วยสนับสนุนแบบไหน ทางยูเครนก็ไม่ขัดข้อง ขออย่าทำทหารวอกแวกเวลาออกสนามรบจริงเป็นใช้ได้  

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

พรรคฝ่ายค้านสเปนได้เสียงอันดับ 1 ส่อตั้งรัฐบาลไม่ได้ หลังคะแนนเสียงไม่เด็ดขาด

(24 ก.ค. 66) การเลือกตั้งสเปนไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก พรรคฝ่ายขวาได้ที่นั่งไม่มากพอขับนายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชส พ้นจากอำนาจ ต้องหาทางจับมือพรรคเล็กตั้งรัฐบาลผสม ถ้าไม่ได้จริง ๆ อาจต้องเลือกตั้งใหม่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน การเลือกตั้งสเปนเมื่อวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) นับคะแนนครบถ้วน 100% แล้วเมื่อเวลา 1.30 น. วันจันทร์ (24 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พรรคประชาชน (PP) แนวกลางขวา ได้ ส.ส. 136 คน จาก ส.ส. ในสภา 350 คน พรรคสังคมนิยม (PSOE) ของนายกรัฐมนตรีซานเชส ได้ ส.ส. 122 คน ซึ่งทั้งสองพรรคไม่มีใครทำได้ถึง 176 คนเพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ แต่พรรคสังคมนิยมทำผลงานได้ดีเกินคาด ขณะที่พรรค PP ไม่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดตามที่ประเมินกันไว้ แถมยังสร้างดรามาเรื่องการนับคะแนน

พรรคการเมืองที่มีแนวโน้มถูกดึงมาร่วมรัฐบาลมากที่สุด ได้แก่ พรรคขวาจัด Vox ได้ สส. 33 คน และพรรคซ้ายจัด Sumar สส. 31 คน

ผลการเลือกตั้งทำให้ซานเชสไม่ถึงกับหมดสิทธิเป็นนายกฯ เสียทีเดียว อาจเป็นผู้ตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ทั้งยังเป็นการทำลายโอกาสพรรคการเมืองฝ่ายขวาเข้ามาเป็นรัฐบาลยุโรปอีกหนึ่งประเทศ หลังจากโพลหลายสำนักระบุว่า สเปนจะได้รัฐบาลผสมฝ่ายขวาระหว่างพรรค PP กับ Vox

ตอนนี้สองพรรคใหญ่ต้องเจรจาทำข้อตกลงตั้งรัฐบาลผสม แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจตั้งไม่ได้จนต้องเลือกตั้งใหม่

บริษัทที่ปรึกษา Teneo มั่นใจว่าซานเชสจะเป็นฝ่ายตั้งรัฐบาลได้มากกว่าอัลเบอร์โต นุญเญซ เฟย์โฆโอ หัวหน้าพรรค PP โดยมองว่ามีโอกาส 45% ที่ซานเชสจะจับมือกับพรรคซ้ายจัด Sumar และพรรคเล็กอีกจำนวนหนึ่ง แต่มองว่าโอกาสที่สเปนต้องจัดเลือกตั้งใหม่ก็มี 45% เช่นกัน

การเลือกตั้งที่ไม่มีผู้ชนะเด็ดขาดนี้ส่งผลต่อสถานะการเป็นประธานสภาสหภาพยุโรปของสเปนในปัจจุบันและสร้างความหวั่นไหวให้ตลาด

ถัดจากนี้กษัตริย์เฟลิเป ที่ 6 จะทรงเชิญเฟย์ฆิโอ ผู้นำพรรคที่ได้เสียงเป็นอันดับหนึ่ง ให้รวบรวมเสียงเป็นนายกรัฐมนตรี สถานการณ์คล้าย ๆ กันนี้เคยเกิดขึ้นในปี 2558 มาริโอ ราฮอย ผู้นำพรรค PP ปฏิเสธไม่เป็นนายกฯ เพราะรวบรวมเสียงได้ไม่มากพอ

สำหรับครั้งนี้ถ้าเฟย์ฆิโอทำไม่ได้ กษัตริย์อาจทรงขอให้ซานเชสตั้งรัฐบาล กฎหมายไม่ได้กำหนดเส้นตายว่าต้องตั้งรัฐบาลได้เมื่อใด แต่ถ้าไม่มีใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ภายในสองเดือนนับจากการลงมติเลือกนายกฯ ครั้งแรกก็ต้องจัดเลือกตั้งใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top