Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

11 เมษายน พ.ศ. 2436 ‘ในหลวง ร.5’ เสด็จฯ เปิดทางเดินรถไฟสายแรกของสยาม เส้นทาง ‘กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ’ ระยะทาง 21 กิโลเมตร

ครบรอบ 131 ปี เปิดทางเดินรถไฟสายปากน้ำ ระหว่างกรุงเทพฯ - สมุทรปราการ รถไฟสายแรกในสยามประเทศ

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2429 รัฐบาลสยามได้อนุมัติสัมปทานแก่ กอมปานีรถไฟ หรือ บริษัทรถไฟปากน้ำ บริหารงานโดยพระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดู เปลซี เดอ ริเชอลิเออ) ชาวเดนมาร์ก และพระนิเทศชลธี (แอลเฟรด ยอนลอบเตอด เยฟอานีเอช) ได้รับสัมปทานตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2429

บริษัทชาวเดนมาร์คสร้างทางรถไฟสายแรก ขึ้นในประเทศไทย ระหว่าง กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ ระยะทาง 21 กิโลเมตร เพราะเล็งเห็นว่าทางรถไฟสายนี้จะอำนวยคุณประโยชน์ทางเศรษฐกิจและด้านยุทธศาสตร์ แม้ว่าบริษัทชาวเดนมาร์คจะได้รับอนุมัติสัมปทาน แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถดำเนินก่อสร้างได้เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยืมทุนทรัพย์ไปสมทบด้วยส่วนหนึ่ง นับเป็นพระปรีชาสามารถลึกซึ้งที่รัฐสนับสนุนยอมให้เป็นครั้งแรกในโครงการอุตสาหกรรมขนส่งที่เอกชนลงทุน

ต่อมาวันที่ 16 กรกฏาคม พ.ศ. 2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินแซะดินเป็นปฐมฤกษ์สร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ-สมุทรปราการ และจากนั้นวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2436 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดบริการ และเสด็จขึ้นประทับโดยสารขบวนรถไฟพระที่นั่ง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ในพิธีเปิดการเดินรถครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส ปรากฏความตอนหนึ่งว่า

"...เรามีความยินดีที่ได้รับหน้าที่อันเป็นที่พึงใจ คือจะได้เป็นผู้เปิดรถไฟสายนี้ ซึ่งเป็นที่ชอบใจและปรารถนามาช้านานแล้วนั้น ได้สำเร็จสมดังประสงค์ลงในครั้งนี้ เพราะเหตุว่าเป็นรถไฟสายแรกที่จะได้เปิดในบ้านเมืองเรา แล้วยังจะมีสายอื่นต่อ ๆ ไปอีกจำนวนมากในเร็ว ๆ นี้ เราหวังว่าจะเป็นการเจริญแก่ราชการและการค้าขายในบ้านเมืองเรายิ่งนัก..."

อย่างไรก็ตาม แต่เดิมทางรถไฟสายปากน้ำมีทั้งหมด 10 สถานี ต่อมาจึงเพิ่มเติมเป็น 12 สถานี และหลังสิ้นสุดสัมปทานในเวลา 50 ปี เส้นทางรถไฟดังกล่าวตกอยู่ในการบริหารกิจการของกรมรถไฟต่อ ครั้นในรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยกเลิกเส้นทางรถไฟสายปากน้ำเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2503 โดยได้มีการสร้างถนนแทน ปัจจุบัน คือ ถนนพระราม 4 และถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ

12 เมษายน พ.ศ. 2476 ‘ปรีดี พนมยงค์’ เดินทางออกนอกประเทศไทย ก่อนไปพำนักที่ฝรั่งเศส ตามคำสั่งของรัฐบาล

12 เมษายน เป็นวาระครบรอบ 91 ปีที่ ‘ปรีดี พนมยงค์’ หรือ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษอาวุโสของไทย ต้องเดินทางไปพำนักที่ประเทศฝรั่งเศสตามคำสั่งของรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2476 ภายหลังการเสนอร่าง ‘เค้าโครงการเศรษฐกิจ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘สมุดปกเหลือง’ แต่แนวคิดของปรีดีกลับถูกคัดค้านด้วยเสียงส่วนใหญ่ในสภา รวมถึงยังมีการออก ‘สมุดปกขาว’ ซึ่งเป็นข้อวินิจฉัยที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ตอบโต้ร่างเค้าโครงการเศรษฐกิจฉบับนี้ว่า เป็นแนวคิดที่ลอกเลียนพรรคบอลเชวิคของรัสเซีย อีกทั้งยังเกิดข้อกล่าวหาว่าปรีดีเป็นคอมมิวนิสต์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปรีดีตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางออกนอกประเทศในที่สุด

นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของกฎหมายต่อต้านคอมมิวนิสต์ยังเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปรีดีต้องถูกเนรเทศออกจากประเทศ ไปยังประเทศฝรั่งเศสในช่วงนั้น รวมถึงคณะผู้ก่อการคณะราษฎรถูกจำกัดบทบาทให้หมดอำนาจหน้าที่ไป แต่ในท้ายที่สุดปรีดีก็ได้กลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้งภายหลังเหตุการณ์รัฐประหารครั้งที่ 2 โดยพระยาพหลพลพยุหเสนาได้ทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ.2476 และเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ได้เชิญปรีดีกลับมาช่วยเหลืองานรัฐบาลต่อไป โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องไม่รื้อฟื้นเค้าโครงการเศรษฐกิจอีก

‘ประธานกลุ่มประชาภักดิ์ฯ’ แจ้งความ ‘เนติวิทย์และพวก’ หลังกระทำ ‘อารยะขัดขืน’ หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร

เมื่อวานนี้ (8 เม.ย. 67) นายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน นำเอกสารคำร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และพวก ตาม ป.อาญา มาตรา 116 (2) (3) ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (2) (5) ยื่นต่อ พันตำรวจเอกอิศราพงศ์ จินา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรห้วยยอด จังหวัดตรัง กรณีนายเนติวิทย์และพวกรวม 3 ราย ร่วมกันกระทำการอ้าง ‘อารยะขัดขืน’ หลีกเลี่ยงเพื่อให้ตนไม่ต้องเข้ารับการคัดเลือกทหารประจำปี 2567

ทั้งนี้ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรห้วยยอด พร้อมฝ่ายสอบสวนได้เข้าร่วมรับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษฯ และร่วมกันสอบคำให้การอย่างละเอียด ใช้เวลาการสอบคำให้การกว่า 3 ชั่วโมง

โดยนายทรงชัยกล่าวว่า ชุดสอบสวนของ สภ.ห้วยยอด สอบคำให้การผมยิ่งกว่าผู้ต้องหาเสียอีก แต่เข้าใจเพราะหากผิดพลาดจุดไหนคนที่ซวยคือผม ต้องขอบคุณผู้กำกับกับ รองผู้กำกับ และพนักงานสอบสวน ที่ให้ความใส่ใจต่อคดีที่กระทบต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรไทย ส่วนผมก็แจ้งชุดสอบสวนแล้วว่าไม่ขอถอนแจ้งความทุกกรณีตราบจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ก่อนเดินกลับ นายทรงชัยทิ้งท้าย “น้องเนเน่ก็รู้ดีทุกอย่างนี่ว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมาย แต่ทำไมถึงทำ น้องเรียนมาร่วม 8 ปี น้องต้องมีความรู้มากเพราะเรียนมากกว่าเพื่อนคนอื่น พี่ไม่รู้ว่าน้องเรียนเสริมด้านหมวดวิชาไหนบ้าง ป่านนี้ไม่จบเสียที ความเห็นพี่ขอฝากถึงน้อง น้องออกมาทำกิจกรรมแบบนี้นานมากหลายปีแล้วนะ น้องเรียนให้จบแล้วมาลงสมัครเลือกตั้ง เข้าไปเป็น สส. แล้วอยากแก้กฎหมายอะไรก็ไปแก้ในสภาเถอะ ตรงนั้นเขาทำเรื่องฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรง อะไรที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อประชาชนไปตรงนั้น เสนอตรงนั้น ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน”

‘หนุ่ม’ กอบกู้หน้าคนไทย!! ตามหา ‘Beer รัก Mayvy’ จนเจอ ลงทุน 700 เยน ลบให้จนเกลี้ยง หลังมือบอนเขียนบนสะพานในญี่ปุ่น

(9 เม.ย. 67) กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ทันที หลังจากที่ ช่างภาพโพสต์ภาพ การเขียนข้อความบอกรักลงบนสะพานจุดชมวิวซากุระชื่อดังข้อความว่า ‘Beer รัก Mayvy’ ลงกลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น พร้อมระบุว่า “วันนี้ผมไปถ่ายรูปที่ Nakameguro แล้วเจอกับสิ่งนี้ครับ อยากรู้เหมือนกันว่าชาติไหน?” ทำให้คนไทยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวจำนวนมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊ก ‘เพชรทอง กองท้วมหัว’ ได้แชร์โพสต์ของ ‘Poetry of Bitch’ ซึ่งเป็นต้นเรื่องของภาพที่เป็นดรามาดังกล่าว โดยระบุว่า “ผมตามหาจนเจอเเล้วนะครับ กำลังไปซื้อยางลบครับ”

ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ตัวเองว่า โดยบอกว่า “ผมทำมันสำเร็จเเล้ว กอบกู้ความสุขให้ชาวไทย”

โดยเจ้าตัวได้ลงคลิปในเรียล พร้อมระบุว่า “ผมได้ทำลายความรักของ เบียร์และเมย์รี่ เพื่อคนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกได้สบายใจกันถ้วนหน้าแล้วนะครับ”

ซึ่งเป็นคลิป ระบุว่า คู่รักคู่นี้ ได้เขียนแสดงความรักของพวกเขาที่ Naka-Meguro ซึ่งตนเห็นแล้วตนรู้สึกไม่ดี เลยมีความตั้งใจที่จะไปลบข้อความดังกล่าว ก่อนจะถ่ายให้ดูว่าข้อความนี้ยังอยู่ จากนั้นเจ้าตัวก็ได้นำน้ำยาล้างเล็บที่เพิ่งซื้อมาในราคา 400 เยน กับทิชชู่เปียกที่ซื้อมาในราคา 300 เยน ออกมา

‘ดร.สามารถ’ พ้อ!! ‘สะพานเชื่อมเกาะสมุย’ คงเป็นได้แค่ฝัน ชี้!! ชาวสมุยตั้งตาเฝ้ารอ แต่ไม่เห็นวี่แวว ‘นายกฯ’ ผลักดัน

(9 เม.ย. 67) นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte’ ระบุว่า ‘เศรษฐา’ ลุย ‘สมุย’ ไร้วี่แวว ‘สะพานเชื่อมเกาะ’

โดยเนื้อหาระบุว่า นายกฯ เศรษฐา เยือนสมุย ชาวเกาะสมุยที่รอคอยสะพานเชื่อมเกาะด้วยความหวังว่านายกฯ จะมากรุยทางสร้างสะพานเชื่อมเกาะต่างผิดหวัง เพราะท่านไม่ได้มาผลักดันสะพาน แต่กลับมาผลักดันท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ และหาแนวทางการขยายสนามบินสมุย ปล่อยให้โครงการสะพานเชื่อมเกาะริบหรี่ !

9 เม.ย. 2567 - น่าดีใจที่เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว. คลัง ไปเยือนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แม้ว่าพรรคเพื่อไทยที่นายกฯ สังกัดอยู่ จะไม่มี ส.ส. ใน จ.สุราษฎร์ธานีเลยก็ตาม ช่างสมกับคำกล่าวอ้างของนายกฯ ในสภาฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “ผมเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ไม่เคยแบ่งแยกพื้นที่ตามคะแนนเสียงที่ได้รับ”

ชาวสมุยและพื้นที่ใกล้เคียงต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยการมาเยือนของนายกฯ หลายคนมีความหวังว่านายกฯ จะมาผลักดันการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย เพื่อจะทำให้การสัญจรระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย แต่ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะนายกฯ มาผลักดันการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ และหาแนวทางการขยายสนามบินสมุย ไร้วี่แววการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะ

ผมเป็นผู้ริเริ่มโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุย โดยได้เสนอความเห็นไว้ในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560

ปัจจุบันการเดินทางไปสู่เกาะสมุยมี 2 ทาง ประกอบด้วยทางอากาศและทางน้ำ แต่การเดินทางทางอากาศหรือเครื่องบินมีค่าโดยสารแพง ส่วนการเดินทางทางน้ำต้องใช้เวลานาน กล่าวคืออาจเลือกใช้บริการสายการบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี แล้วนั่งรถไปลงเรือ (เฟอร์รี่) ที่ท่าเรือดอนสักเพื่อไปเกาะสมุย ซึ่งเสียค่าเดินทางถูกกว่า แต่ต้องใช้เวลานานกว่ามาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญจะต้องรอเฟอร์รี่นานมาก เพราะมีผู้โดยสารหนาแน่น อีกทั้ง ในหน้ามรสุมก็ไม่สามารถใช้เฟอร์รี่ได้

ด้วยเหตุนี้ สะพานเชื่อมเกาะสมุยจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญในการสัญจรด้วยรถยนต์สู่เกาะสมุย ซึ่งจะทำให้การเดินทางสะดวกสบาย และรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่เกาะสมุยและพื้นที่ใกล้เคียง และยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวเกาะสมุยในเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งก็คือการเจ็บไข้ได้ป่วย ในกรณีเกินขีดความสามารถในการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลในเกาะสมุย จำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งมีศักยภาพสูงกว่า หากมีสะพานเชื่อมเกาะสมุยจะทำให้สามารถส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว หรือในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการเดินทางไปรักษาที่อื่นนอกเกาะสมุย ก็สามารถเดินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม บางคนเกรงว่าสะพานเชื่อมเกาะสมุยจะทำให้ผู้โดยสารเครื่องบินและเฟอร์รี่ลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ 

โครงการสะพานเชื่อมเกาะสมุยได้รับการตอบสนองอย่างดีจากรัฐบาลประยุทธ์ โดยได้มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งในเวลานี้ กทพ. กำลังศึกษาความเหมาะสมอยู่

มาถึงรัฐบาลเศรษฐา ในการตรวจราชการที่สมุยครั้งนี้ น่าเสียดายที่นายกฯ ไม่ได้ไปดูพื้นที่ที่จะก่อสร้างสะพาน ผมเข้าใจดีว่านายกฯ มีภารกิจมาก แต่ก็น่าจะแบ่งเวลาเพียงน้อยนิดให้สะพานเชื่อมเกาะสมุยได้บ้าง ชาวสมุยที่ลุ้นการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะอยู่คงน้อยใจที่เห็นนายกฯ สามารถเจียดเวลาไปตรวจเยี่ยมสนามบินสมุยได้ แต่ไม่มาตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่จะก่อสร้างสะพาน

เมื่อเป็นเช่นนี้ จะให้คิดเป็นอื่นไม่ได้ คาดว่าโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะสมุยซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวเกาะสมุยได้มากมายมหาศาลคงเป็นหมัน เป็นฝันค้างที่ชาวเกาะสมุยไม่อยากประสบ แต่ก็หนีไม่พ้น ! เป็นเพราะอะไร ? ใครรู้บ้าง ? วานบอกผมด้วย

‘ดร.อานนท์’ แจง!! ตนเป็นลูกหลานคนจีนที่เกิดบนแผ่นดินไทย การให้ข้อมูล ‘ปกป้องสถาบัน’ ทำโดยสมัครใจ ไม่มีใครชี้นิ้วสั่ง

(9 เม.ย. 67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Arnond Sakworawich’ ระบุข้อความว่า ผมเขียนหรือพูดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด

ไม่ว่าจะเรื่องภาษีกู ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และเรื่องอื่น ๆ ที่มีคนไม่หวังดีใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็นำความจริงและข้อมูลมาพูดมาเขียนมาเผยแพร่มาโดยตลอด

ไม่เคยแอบอ้างว่าตนเองเป็นราชสกุลหรือราชินิกุลใด ๆ

ผมเป็นแค่ลูกหลานคนจีนที่เกิดบนแผ่นดินไทยเท่านั้นครับ

ไม่เคยมีใครสั่งให้ผมพูดหรือเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เลยครับ ผมทำของผมเองจริง ๆ ครับ และไม่ได้ค่าจ้างค่าแรงแม้แต่บาทเดียวครับ

ผมไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใด ๆ ในการเขียนหรือพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ครับ และก็ไม่เคยมีใครหรือหน่วยงานใด มาบอกหรือมาสั่งให้ผมขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

ขอโทษนะครับ ไอ้พวกล้มเจ้า มันเขียนมันพูดมันทำงานศิลปะด่าแซะเสี้ยมสถาบันพระมหากษัตริย์ มันก็ไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนะครับ

ถ้าทุกคนที่ต้องการจะเขียนและพูดความจริงเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต แบบนั้นจะมีใครกล้าเขียนกล้าพูดความจริงเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์กันละครับ

ผมเชื่อว่าหากเจตนาเราพูดเราเขียน เราทำงานด้วยความจริง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเหมาะสมแก่กาลเทศะและถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทำไปเลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปทุกเรื่องหรอกครับ

พวกล้มเจ้าเขาชอบอ้างสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์

คนที่ต้องการปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ หากทำด้วยเจตนาดีและเจตนาบริสุทธิ์ คำนึงถึงความถูกต้องแม่นยำเหมาะสม ก็ทำไปเลยครับ ไม่ต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพราะเราก็มีสิทธิและเสรีภาพในการปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นกันครับ

ขออภัยที่แสดงความในใจออกมา หลังจากวันนี้เกิดดราม่าว่าผมนำรายชื่อราชสกุลและราชินิกุลออกมาเขียน วิเคราะห์ เพื่อสร้างองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ โดยไม่ได้ขออนุญาต

ผมถือว่าผมทำเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยหลักวิชาการและหลักสุจริต และผมไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใด ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว และก็ไม่เคยมีใครหรือหน่วยงานไหนมาสั่งให้ผมทำในสิ่งที่ผมทำ

เพราะฉะนั้นผมมีเจตนาดีต่อราชสกุลและราชินิกุล ผมก็คงไม่ขออนุญาตและไม่สามารถขออนุญาตได้ทุกคนจริง ๆ เพราะเป็น non-finite population ประชากรอนันต์ ที่ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปที่ไหนบ้าง หากจะต้องขออนุญาตทั้งหมดก็คงไม่สามารถพูดหรือเขียนอะไรเกี่ยวกับราชสกุลหรือราชินิกุลได้เลยครับ

‘ขนส่งทางบก-ศูนย์อาชีวะอาสา’ ร่วมมืออำนวยความสะดวกช่วง ‘สงกรานต์’ เปิดบริการ ‘ตรวจรถ-ซ่อมรถฟรี’ 104 จุดทั่วประเทศ ดีเดย์ 11-17 เมษายนนี้

(9 เม.ย.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี พ.ศ. 2567 รัฐบาล โดยกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดทำโครงการบูรณาการตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน  โดยจะจัดกิจกรรมตั้งจุดบริการตรวจรถ/ซ่อมรถ ‘ฟรี’ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 -17 เมษายน 2567 เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน สร้างจิตสำนึกการขับขี่อย่างปลอดภัย 

นายคารม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เพื่อดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในทุกมิติ ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางในช่วงเทศกาลฯ โดยกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาหรือ ศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน (Fix it Center) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมการจัดตั้งจุดบริการร่วมฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยกำหนดให้มีจุดบริการร่วมฯ จำนวน 104 จุดทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่นและสายรอง โดยจุดบริการดังกล่าวจะให้บริการตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย ให้ความช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก (บางพื้นที่) บริการนวดผ่อนคลาย บริการผ้าเย็น น้ำดื่ม ข้อมูลเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยว รายชื่ออู่รถที่เปิดให้บริการ เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้เป็นการให้บริการ ‘ฟรี’ 

“สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้จัดนักเรียน นักศึกษาปฏิบัติหน้าที่ ในการให้บริการอำนวยความสะดวก แต่ละจุดอย่างน้อยจุดละ 5 คน และในการเดินทางของประชาชน ให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้เดินทาง เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ที่เกิดจากความบกพร่องของตัวรถ ตรวจรถ ซ่อมรถ และผู้ขับรถที่เหนื่อยล้าและง่วงนอน และยังมีบริการ กาแฟ น้ำดื่ม ผ้าเย็น ทุกอย่างบริการฟรี ณ ทุกจุดบริการ ซึ่งความร่วมมือกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นการแสดงเจตจำนงในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจัง อีกทั้ง ยังช่วยส่งเสริมและพัฒนาทักษะนักเรียน/นักศึกษา ให้นำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำกิจกรรมที่นำไปสู่การลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งร่วมกันกำหนดแนวทางและเป้าหมายในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนให้มีความสอดคล้องกันทั่วประเทศ” นายคารม กล่าว

‘นารายา’ ประกาศตามหาสาวน้อยแฟนคลับทีม eSport ‘Bacon Time’ หลังชูป้ายเชียร์หากชนะจะซื้อนารายา 1 ใบ ล่าสุดเจอตัวแล้ว

เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.67) นารายา กระเป๋าผ้าชื่อดัง ประกาศตามหาสาวชูป้าย 'Bacon Time แชมป์ ซื้อนารายาใบนึง' ในงาน Pro League Summer โดยโพสต์ในเฟซบุ๊กเพจ NaRaYa ว่า...

“นารายาขอแสดงความยินดีกับ Bacon Time ที่คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ของ Pro League Summer มาฝากพวกเราได้สำเร็จ เจ้าต้าวหมูเบค่อนทั้ง 5 พวกนายเก่งมาก ๆ เยี่ยมจริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ 

เมื่อวานนี้ ทีมนารายาได้ไปร่วมให้กำลังใจ BAC ที่ BITEC Bangna มาด้วย บรรยากาศสนุกสนานสุด ๆ การแข่งขันเมื่อวานนี้เดือดมาก ๆ BAC ทำสุด ทำถึง ทำดีมาก สู้กันสุดใจสุด ๆ ทีมเชียร์ก็เชียร์กันสุดใจมากเช่นกัน แมทช์ต่อไป International League ช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ทีมนารายา ทีม BAC เตรียมเกาะขอบจอให้กำลังใจกันต่อได้เลย 

เราเจอสาวน้อยคนหนึ่งชูป้าย 'Bacon Time แชมป์ ซื้อนารายาใบนึง' ทีมนารายาอยากเจอตัวมาก แสดงตัวมาเดี๋ยวนี้ หรือถ้าใครรู้จักฝากบอกให้ทักมาหาเราทีนะคะ เราจะทำให้ฝันของน้องเป็นจริงค่ะ 

Last but not least ขอแอบสปอยล์นิดนึงว่า มีโปรเจกต์ลับ NaRaYa x Bacon Time ที่จะปล่อยช่วงมิถุนายน นี้เช่นกัน เกาะจอรอไว้นะ!! เพราะพลาดแล้ว พลาดเลย rare item ไม่ได้มีเยอะ และไม่ได้มีตลอด!!”

เมื่อโพสต์ดังกล่าวออกสู่สาธารณะ ปรากฏว่า ชาวโซเชียลช่วยกันกระหน่ำตามหาสาวน้อยคนนั้น และผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็สามารถตามหาสาวน้อยคนนั้นเพื่อสานฝันน้องในการเป็นเจ้าของกระเป๋านารายาได้สำเร็จ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการนัดหมายน้องมาทำการเลือกกระเป๋าด้วยตัวเอง 

นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของ ‘พลังโซเชียลมีเดีย’ และกระแสตอบรับของน้อง ๆ ที่มีต่อทีมเบคอนและนารายาผู้สนับสนุนเบคอนอย่างเป็นทางการ

'เชียงราย' ส่งกลับ!!ปกครองแม่สายร่วมกับสืบสวน ตม.เชียงรายผลักดันต่างด้าวสัญชาติเมียนมากลับประเทศ

วันที่ 9 เมษายน2567 นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย มอบหมายให้นายปวเรศ ปัญญายงค์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.อ.แม่สายที่ 5 ผู้ใหญ่บ้านชุมชนร่มโพธิ์งาม หมู่ 9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร่วมกับฝ่ายสืบสวนด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จว.เชียงราย และตำรวจ สภ.แม่สาย จัดทำประวัติและผลักดันชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวนมากออกนอกประเทศ ภายหลังจากค่ำวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ชุมชนร่มโพธิ์งาม ว่าที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในชุมชนมีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก ส่งเสียงดังก่อความเดือดร้อน สร้างความรำคาญอย่างมาก

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาเป็นจำนวนมากและสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ 41 คน ทั้งหมดมีเอกสารบัตรผ่านแดนชั่วคราวมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ 40 คน และมีเด็กติดตามอีก 1 คน 

ภายในบ้านพบมีอุปกรณ์ทำครัว ขยะ สัมภาระเดินทาง กองเกะกะอยู่เป็นจำนวนมาก สอบถามทราบว่าได้เข้ามาในราชอาณาจักร ในระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นมีคนพาไปอยู่รวมกันที่บ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าเป็นการเตรียมเคลื่อนย้ายเข้าสู่ชั้นในของประเทศโดยผิดเงื่อนไขการอนุญาต จึงได้เชิญคนทั้งหมดไปยังด่าน ตม.จว.เชียงราย และผลักดันออกนอกประเทศดังกล่าว

'ม.ศรีปทุม' คว้าแชมป์ดวลสวิงระดับอุดมศึกษา  'ช้าง กอล์ฟ ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' สนามแรก

(9 เม.ย.67) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ร่วมกับ เดอะ เจ็นซ์ เปิดศึกดวลสวิงระดับอุดมศึกษา รายการ 'ช้าง กอล์ฟ ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' ประเดิมสนามแรกที่เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 6-7 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ ทาง 'น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง' มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการกอล์ฟไทย ทั้งในระดับเยาวชน และระดับอุดมศึกษา จึงได้จัดรายการแข่งขันนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อส่งเสริมนักกีฬากอล์ฟในระดับอุดมศึกษาให้มีเวทีการแข่งขันที่ต่อเนื่อง และสร้างโอกาสให้กับนักกอล์ฟในระดับอุดมศึกษาได้มีพื้นที่ในการแข่งขันเพื่อพัฒนาศักยภาพสู่การเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศตอบรับร่วมแข่งขันเพื่อชิงทุนการศึกษารวม 10 มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ 'ช้าง กอล์ฟ ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' ทำการแข่งขันรอบคัดเลือก 2 สนาม และรอบชิงชนะเลิศ  1 สนาม แข่งขันประเภททีม 4 คน (คิดคะแนนดีที่สุด 3 คน) ซึ่งในรอบคัดเลือกเป็นการแข่งขันแบบสะสมคะแนน 2 สนาม แข่งขันแบบ Stroke Play 36 หลุม เพื่อจัดอันดับ คัด 8 ทีมเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ โดยรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันแบบ Match Play ทำการแข่งขัน 2 วัน แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 Division แข่งรอบละ 18 หลุม โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็นทีมละ 2 คู่ คือ Foursomes 1 คู่ และ Four-Ball 1 คู่ ซึ่งทีมที่ชนะเลิศในอันดับต่างๆ จะได้รับทุนการศึกษาพร้อมรางวัลเกียรติยศ

สำหรับการแข่งขัน 'ช้าง กอล์ฟ ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' รอบคัดเลือก สนามแรก แข่งขันในวันที่ 6-7 เมษายน 2567 มีมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมชิงชัยรวม 10 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

หลังจบการแข่งขันในรอบคัดเลือก สนามที่ 1 ปรากฏว่า 'ทีมมหาวิทยาลัยศรีปทุม' คว้าแชมป์ตามคาด ส่วน 'ทีมมหาวิทยาธรรมศาสตร์' รับรองแชมป์ และ 'ทีมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย' จบที่ 3 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกสนามที่ 1

อันดับ 1 มหาวิยาลัยศรีปทุม ภายใต้การควบคุมทีมของ โปรจำลอง นาเมือง นักกีฬาสามารถทำผลงานตามเป้าคว้าแชมป์สนามแรกได้สำเร็จ ด้วยสกอร์รวมทีม 440 (223-217) โดยปีนี้ส่งผู้เล่นรุ่นใหม่ฝีมือดีอย่าง พรหมพจน์ ทรงกลด ที่ทำสกอร์ดีสุด จบสองรอบที่ 1 อันเดอร์พาร์ 143 (71-72), ปริญยาภรณ์ รุ่งระวี สกอร์ 2 โอเวอร์พาร์ 146 (75-71), ชนินทร์ ทองไพจิตร สกอร์ 7 โอเวอร์พาร์ 151 (77-74) และกฤษฎา เล็กเรืองสินธุ์ สกอร์ 18 โอเวอร์พาร์ 162 (80-82)  

อันดับ 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คว้ารองแชมป์ ภายใต้การนำทีมของ ศุภวิช ทรงกลด ที่ทำสกอร์ดีสุดในทีม สองรอบที่ 1 โอเวอร์พาร์ 145 (69-76), สกรรจ์พัส มาลา สกอร์ 5 โอเวอร์พาร์ 149 (77-72) ที่ 3 ชาครีย์ โรจนสมิต สกอร์ 17 โอเวอร์พาร์ 161 (82-79) และจิรภัทร ประเสริฐกุล สกอร์ 18 โอเวอร์พาร์ 162 (83-79) สกอร์รวมทีม 455 (228-227)   

อันดับ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีมโดย กันต์พศุตม์ วงศ์สกุลวิวัฒน์ สกอร์ 12 โอเวอร์พาร์ 156 (75-81), เตชินทร์ วิชัยณรงค์ สกอร์ 13 โอเวอร์พาร์ 157 (78-79), จุฑามาศ กฤษติยานฤวัต สกอร์ 13 โอเวอร์พาร์ 157 (78-79) และภุชิสส์ เงาแก้ว สกอร์ 19 โอเวอร์พาร์ 163 (87-76) สกอร์รวมทีม 465 (231-234)  

สรุปผลการแข่งขันกอล์ฟ 'ช้าง กอล์ฟ ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' รอบคัดเลือก สนามที่ 1 มีดังนี้...

อันดับ 1 ทีมมหาวิทยาลัยศรีปทุม สกอร์รวม 440 (223-217) คะแนนสะสม 100 คะแนน
อันดับ 2 ทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สกอร์รวม 455 (228-227) คะแนนสะสม 80 คะแนน
อันดับ 3 ทีมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สกอร์รวม 465 (231-234)  คะแนนสะสม 70 คะแนน
อันดับ 4 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สกอร์รวม 471 (235-236)  คะแนนสะสม 60 คะแนน
อันดับ 5 ทีมมหาวิทยาลัยศิลปากร สกอร์รวม 473 (231-242)  คะแนนสะสม 50 คะแนน
อันดับ 6 ทีมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกอร์รวม 475 (236-239) คะแนนสะสม 45 คะแนน
อันดับ 7 ทีมมหาวิทยาลัยรังสิต สกอร์รวม 492 (241-251)  คะแนนสะสม 40 คะแนน
อันดับ 8 ทีมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สกอร์รวม 503 (250-253) คะแนนสะสม 35 คะแนน
อันดับ 9 ทีมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า สกอร์รวม 519 (274-245) คะแนนสะสม 30 คะแนน

'ช้าง กอล์ฟ ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ 2024' รอบคัดเลือก สนามที่ 2 จะทำการแข่งขันที่สนามพานอราม่า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ในวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2567 ติดตามความเคลื่อนไหวและผลการแข่งขันได้ที่ Facebook: Chang Golf Club 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top