Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนตลาดเทศบาลตำบลอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

วันนี้ (วันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566 ) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และนางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล  ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์  นำทีมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนตลาดเทศบาลตำบลอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี  จำนวน16 ครอบครัว 34 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,000 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว 8 ชุด รายบุคคล 8 ชุด คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 134,000 บาท  (หนึ่งแสนสามหมื่นสี่พันบาทถ้วน) โดยมี นายศิริลักษณ์ เหมาะพิชัย นายอำเภออินทร์บุรี  พร้อมด้วย นางสาวนงเยาว์ เทพศิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมในพิธี ณ  บริเวณชุมชนตลาดเทศบาลตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

ตลอดระยะเวลากว่า 113 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung  

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” 
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

‘กระแต’ เผยเบื้องหลังทำโชว์บนเวที MUT 2023 สู้สุดใจ!! ทุ่มเกือบ 10 ล้าน ทำเองหมดทุกอย่าง

(29 ส.ค.66) หลังจากที่นักร้องสาว ‘กระแต อาร์สยาม’ รังสรรค์โชว์สุดปังอลังการบนเวทีนางงาม Miss Universe Thailand 2023 รอบพรีลิมฯ จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาไลฟ์สดตอบคำถามโดยมีช่วงหนึ่งเผยถึงเบื้องหลังโชว์ที่คนเข้ามาถามว่า ได้ค่าตัวไหม? ทำเอากระแตหลุดยิ้ม พร้อมบอกว่า…

“แม่เป็นสปอนเซอร์ค่ะ เสียตังค์ คือการจะขึ้นไปบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ไม่ได้หมายถึงว่า ฮัลโหลแม่ หนูขอขึ้นเวทีหน่อยแล้วเขาให้เลยนะ มันไม่ใช่ เขาต้องเลือกเรา ต้องไปสู้กับหลายแบรนด์เพราะไม่ใช่แค่แบรนด์แตที่อยากมีโลโก้ติดบนมิสยูนิเวิร์ส เราก็ดีใจและเป็นเกียรติ”

รวมถึงเล่าว่า ตอนแรกเป็นสปอนเซอร์ดูแลความสวยน้องๆ ผู้เข้าประกวด ทีนี้ได้มีการคุยกับ ปุ้ย ปิยาภรณ์ ผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ในเรื่องส่วนของโชว์ เขาก็บอกอยากให้กระแตทำโชว์

“เราก็โอเคค่ะแม่ เป็นสปอนเซอร์ เจ้าของแบรนด์ ซีอีโอ เป็นศิลปินขึ้นเวที ทำทุกอย่างหมด ได้ ลงทุนหมด คือซ้อมกันหนักมากเพราะว่ามันคือไลฟ์ถ่ายทอดสด ลงทุนไปเกือบ 10 ล้าน ครึ่ง เกิน 5 บอกแค่นี้ ครั้งหนึ่งเอาให้สุด จริงๆ อยากทำเยอะกว่านี้แต่ด้วยเวลาไม่มี”

‘จูน นาตาชา’ ได้รับการพระราชทานชื่อใหม่ จากสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันเกิด นับเป็นของขวัญที่มีคุณค่า-เสริมสิริมงคลที่สุดในชีวิต

(29 ส.ค.66) เพิ่งสอบติดปริญญาโท ด้านการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลักสูตรรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต ‘จูน นาตาชา’ นางเอกภาพยนตร์ ปิดป่าหลอน เจ้าของเพลง Boys Don't Cry ยังได้รับการประทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราช เป็น วัณณปวัน มณีสุวรรณ์ เสริมสิริมงคลสูงสุดให้กับชีวิต

ซึ่ง ‘จูน นาตาชา’ กล่าวว่า “ในวันเกิดปีนี้ จูนรู้สึกปลื้มปีติและเป็นสิริมงคลสูงสุดกับชีวิตมากค่ะ  ที่ได้รับการประทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราช เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันเกิด ในชีวิตและการเรียนปริญญาโทการทูตฯ ของจูน นับเป็นวาสนาอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งในวันเกิดปีนี้จูนตั้งใจมาไหว้พระทำบุญที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาลเมื่อ พ.ศ. 2412 สำหรับจูนนับเป็นของขวัญที่มงคลสูงสุดกับชีวิตจูนมากเลยในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะการดำเนินชีวิต การเรียน การงาน และอื่นๆ โดยในวันเกิดปีนี้จูนได้รับการประทานชื่อใหม่จากสมเด็จพระสังฆราช ในชื่อ วัณณปวัน อ่านว่า วัน-นะ-ปะ-วัน แปลว่า ผู้บริสุทธิ์ดุจทองคำ”

>> ชื่อใหม่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตจูนบ้างไหม?

“ก็ถือว่าเกี่ยวโดยตรงค่ะ เพราะครอบครัวจูนก็ปลูกต้นไม้สักทองเป็นไร่ๆ อยู่เหมือนกัน ซึ่งไม้สักทองถือเป็นไม้มงคล ให้ชีวิตมีความเป็นสิริมงคล ยิ่งคำว่า ‘สัก’ ยังมีคำพ้องกับคำว่า ‘ศักดิ์’ หมายถึง ยศถาบรรดาศักดิ์หรือศักดิ์ศรี แถมใช้ทำเป็นเสาเอกของบ้าน เสาในพิธีวางศิลาฤกษ์หรือใช้ในสถานที่สำคัญคู่กับไทยมาอย่างยาวนานด้วยค่ะ ซึ่งในเนื้อไม้สักทองนั้นก็มีแร่ทองคำจริงๆด้วย และตอนนี้จูนก็กำลังดำเนินการผลิตสินค้าที่ทำมาจากไม้สักทองอยู่ ซึ่งเราก็คัดไม้สักทองมาเรียบร้อยแล้ว”

>> ทำไมถึงได้มีโอกาสเปลี่ยนชื่อ?

“จริงๆ จูนอยากได้ชื่อใหม่มาก่อนหน้านี้อยู่แล้วค่ะ พอมาถึงวันเกิดปีนี้ก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จูนตั้งใจมาทำบุญวันเกิดที่วัดราชบพิธแห่งนี้ และผ่านขั้นตอนสำคัญหลายอย่างจนได้ชื่อใหม่ตามที่ใจปรารถนาไว้และปฏิบัติตามบริบทสำคัญหลายอย่างเหมือนกันค่ะ วันเกิดจูนจริงๆ คือวันที่ 23 สิงหาคม แต่เย็นวันที่ 22 จูนก็มาเข้าโบสถ์วัดก่อนเพื่อสวดมนต์นั่งสมาธิทำวัตรเย็นกับพระสงฆ์และลูกศิษย์คนอื่นๆ อีกหลายท่าน เพื่อเตรียมตัววันเกิดในวันรุ่งขึ้น พอถึงวันเกิดที่ 23 สิงหาคม จูนก็ได้มาใส่บาตรตอน 7 โมงเช้า กับพระผู้ใหญ่ระดับสูง 1 องค์ และพระท่านอื่นๆ อีก 8 องค์ รวม 9 องค์และพร้อมรับพรค่ะ หลังวันเกิด วันที่ 24 จูนก็ยังเข้าไปวัดอยู่ค่ะ เรียกได้ว่า ทำบุญทั้งก่อนและหลังกันวันเกิดกันเลยในปีนี้ รับบุญด้วยกันค่ะทุกท่าน พอได้ชื่อ วัณณปวัน มาแล้วจูนดีใจมากค่ะ ถือเป็นชื่อที่ทรงคุณค่าและเป็นสิริมงคลสูงสุดกับชีวิตจูนมากๆ เลยในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะการดำเนินชีวิต การงาน การเรียน และอื่นๆ นับว่าปีนี้จูนได้ของขวัญวันเกิดที่มงคลสูงสุดเลยค่ะ ส่วนในเรื่องการเปลี่ยนชื่อในเอกสารกับทุกหน่วยงาน ก็ต้องรีบดำเนินการเปลี่ยนโดยเร็วที่สุดค่ะเช่น มหาวิทยาลัย และ พาสปอร์ต เพราะตอนนี้จูนเพิ่งเปิดเทอมเรียน ป.การทูต และมหาวิทยาลัยพาไปดูงานการทูต ที่รัฐโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้มหาวิทยาลัยต้องจัดการจองพวกตั๋วเครื่องบินและต่างๆ ล่วงหน้าให้นิสิตแล้ว ก็เลยต้องรีบทำเรื่องเอกสารเหล่านี้ให้เสร็จเร็วที่สุดค่ะ”

>> พอเปลี่ยนชื่อแล้วคุณแม่ท่านว่าอย่างไรบ้าง?

“จริงๆ ทุกท่านในครอบครัวจูนก็ยินดีกับความเป็นสิริมงคลในชื่อที่จูนได้มาอยู่แล้วค่ะ ทุกคนในครอบครัวเลื่อมใสศรัทธาและสักการบูชาในพระสังฆราชอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ท่านทราบดีว่าจูนชอบวัดนี้ และจูนจะมาเข้าโบสถ์สวดมนต์ที่นี่ค่ะ วันเกิดก็มาเข้าโบสถ์สวดมนต์กับพระที่นี่ค่ะ ตอนเช้าก็ใส่บาตรกับพระผู้ใหญ่ที่นี่ จูนมองว่าชื่อมงคลที่ได้มาเป็นความสิริมงคลที่เราศรัทธาให้เกิดสิ่งดีๆ กับชีวิตของเราอยู่แล้วค่ะ แต่ในอีกด้านของชีวิตเราก็ต้องลงมือทำถึงจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งธงไว้ในทุกๆ เรื่อง จูนมองว่าความสิริมงคลเป็นความศรัทธาที่เป็นความรู้สึกทางใจที่เชื่อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนับถือ ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นพลังดีๆ อาจมองไม่เห็น แต่เราเท่านั้นจะสัมผัสได้ แต่ในด้านของการลงมือทำ เป็นเรื่องของหลักการชีวิตจริง ที่อาจจะมาจากความสามารถและความมุ่งมั่นของตัวเราเองส่วนนึง ทั้ง 2 สิ่งที่กล่าวมา จูนศรัทธาทั้งหมดค่ะ ศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ และศรัทธาในตัวเอง”

>> เปลี่ยนชื่อรับความเฮงหรือเปล่า หรือซุ่มทำโปรเจกต์ใหม่ๆ เร็วๆนี้?

“สาธุเลยค่ะ จะว่าเปลี่ยนชื่อรับความเฮงก็ได้ จูนถือโอกาสที่ได้ชื่อใหม่นี้เปิดประตูรับความเฮง ความปังเพิ่มขึ้นแบบเกินต้านก็แล้วกันนะคะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิริมงคลสูงสุดสำหรับจูนจริงๆค่ะ ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาไม่หยุดแล้วกันค่ะส่วนโปรเจกต์ใหม่ มีมาแน่นอนค่ะ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องธุรกิจ และงานวงการบันเทิง หนึ่งในนั้นซิงเกิลเพลงมีแน่นอนค่ะเพราะกำลังซุ่มซ้อมแล้วตอนนี้ ยังไงฝากติดตามให้กำลังใจจูนด้วยนะคะ”

‘Ana Nuria คนรักทุเรียน’ ร้านเด็ดเมืองนราฯ ตรงปก ไม่จกตา!! คัดเนื้อพิเศษ เกรดพรีเมียม การันตีคุณภาพ เปิดขายมากว่า 40 ปี

(29 ส.ค. 66) ใครที่ไปเที่ยวจังหวัดนราธิวาส แล้วยังมองหาร้านทุเรียนในจังหวัดนราธิวาสยังไม่เจอ มาทางนี้ เราจะพาไปกินทุเรียนอร่อยๆ แบบเน้นๆ แบบเนื้อๆ ที่เลือกทานได้และไม่ต้องไปหาไกลหรือสั่งทางไลน์จากต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อเวลาสั่งเรายังไม่รู้เลยว่าจะตรงปกหรือเปล่า

ขอแนะนำร้านนี้เลย ‘ร้าน Ana Nuria คนรักทุเรียน’ เป็นร้านที่เปิดขายที่สืบทอดมาจากพ่อแม่กว่า 35 ปี น้องเรียนจบปริญญาก็รับช่วงต่อ เพราะเป็นความผูกพันช่วยพ่อแม่ขายตั้งแต่เด็กๆ และช่วยเหลือครอบครัวเพราะน้องเขามีพี่น้องร่วม 10 คน และอาชีพนี้ก็เป็นอาชีพหลักของครอบครัว หลังจากที่พ่อเสียไปจึงฝากให้คนในครอบครัวได้สืบทอดการขายต่อ จึงการันตีได้ว่า ร้านนี้เป็นร้านคนที่รู้จักความอร่อยเรื่องทุเรียนได้จริงๆ

‘นูรียา เจะสนิ’ เจ้าของร้าน ‘Ana Nuria คนรักทุเรียน’ ถ่ายทอดไอเดียว่า…

“เริ่มแรกจากการขายทุเรียนจากพ่อกับแม่ก่อนและก็มาสู่รุ่นลูก คือตั้งแต่พ่อกับแม่แต่งงานมาประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว พ่อกับแม่เป็นพ่อค้า แม่ค้า ขายผลไม้โดยทั่วไปและทุเรียนด้วย เฉพาะในฤดูกาล และก็ตอนนี้จะเป็นรุ่นหนูจะเปิดประมาณ 7-8 ปี ตั้งแต่ปี 2559 จนตอนนี้เป็น ปี 2566 ของเราจะขายตลอดทั้งปี ตั้งแต่ทุเรียน จันทบุรี ชุมพร ยะลาและก็มานราธิวาสด้วย ขายทุเรียนทุกสายพันธุ์ หมอนทอง ชะนี พวงมณี ก้านยาว และมูซังคิง จากอำเภอเบตง จะมีแบบขายเป็นลูก และแบบแกะเนื้อและก็จะมีแบบเสริม ข้าวเหนียวทุเรียนแต่ก่อนจะเป็นข้าวเหนียวทุเรียนแบบธรรมดา แต่ตอนนี้ จะเป็นทุเรียนแบบยัดไส้ และแกะเนื้อ ถ้าใครที่ผ่านมา อยากกินทุเรียนอร่อยๆ คัดเกรด เราคัดเนื้อพิเศษๆ อร่อยสวยทุกลูก”

พิกัดร้านสาขา 2 เยื้องโรงพยาบาลราษฎ์บำรุงนราธิวาส ทางไปตันหยงมัส และสาขา 1 อยู่เต๊นซ้ายมือฝั่งเดียวกันกับแขวงการทางหลวงนราธิวาส โทร. 085-8726172 เฟซบุ๊ก ‘Ana Nuria คนรักทุเรียน’ เปิดร้านเวลา 10.00-22.00 น. ขายทุกวัน สำหรับคนในพื้นที่เทศบาลเมืองนราธิวาส เรามีบริการสั่งทางเพจ บริการส่งถึงที่

‘อิงฟ้า-ชาล็อต’ เปิดใจ ปมดรามา ‘ณวัฒน์’ เสิร์ฟจิ้นให้แฟนคลับเกินงาม เผย เล่นกันปกติ แต่ในมุมสังคมอาจไม่เหมาะสม พร้อมน้อมรับคำติชม

(29 ส.ค.66) ‘อิงฟ้า วราหะ’ เปิดใจหลังแรปเปอร์ตัวมัมของเกาหลี ‘เจสซี’ ได้ DM มาชมในอินสตาแกรม หลังได้เห็นโชว์ของอิงฟ้าในคอนเสิร์ตครั้งล่าสุด โดยเจสซี่ส่ง DM มาบอกว่า "Loved ur performance" ซึ่งอิงฟ้าก็บอกว่าตอนเช้าที่ตื่นมาเห็นก็กรี้ดลั่นเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นได้ยังไง เพราะก็ไม่ได้แท็กไปหา คิดว่าแฟนคลับน่าจะแท็กไปหาเจสซี่ เพราะอิงฟ้าก็เอาเพลงของเจสซี่มาร้องด้วย ก็ดีใจที่ศิลปินที่ชอบได้เห็นโชว์ของตัวเองด้วย

นอกจากนี้ ‘อิงฟ้า’ พร้อมด้วย ‘ชาล็อต ออสติน’ ยังได้เปิดใจถึงประเด็นดรามาที่ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ เสิร์ฟจิ้นให้แฟนคลับ ด้วยการดันหัวให้ทั้งสองคนหอมกัน จนโดนวิจารณ์ว่าเกินพอดี ซึ่งทั้งคู่ก็บอกว่าจริง ๆ ก็เล่นกันเป็นปกติอยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีดรามาะไร และกลุ่มแฟนคลับและคนในงานก็เข้าใจ แต่ก็เข้าใจได้ ถ้าในมุมมองคนอื่นอาจจะมองว่าไม่เหมาะสม ก็น้อมรับคำติชมและจะเอาไว้พัฒนาในครั้งต่อไป

ขณะที่ ‘ชาล็อต’ ก็ยังได้เผยถึงประเด็นดรามา คลิปเอามือลูบปาก ตอนเห็น ‘มิว ศุภศิษฎ์’ ถอดเสื้อโชว์ในกองถ่ายละคร มนต์รักลูกทุ่ง 2567 และชาล็อตก็ได้โพสต์ขอโทษไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งชาล็อตก็ได้เปิดใจถึงประเด็นนี้อีกครั้งว่า จริง ๆ เป็นการเล่นกันในกองละคร แต่ด้วยความที่คลิปมันออกมาแบบไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ก็เลยดูเป็นไปในเชิงคุกคาม ซึ่งพอเห็นดรามาปุ๊บ ก็ลบคลิป และได้ไปขอโทษมิวทันที บอกมิวว่าไม่ได้มีเจตนามองไปในทางนั้น ซึ่งเขาก็เข้าใจ บอกว่าไม่เป็นไร เป็นการเล่นกัน บอกว่าตลกดี แต่บางทีคนอื่นก็อาจจะไม่ได้ตลกกับเราด้วย หลังจากนี้ก็พยายามรอบคอบและมีสติให้มากขึ้น

ชาวเน็ตขุดเฟซบุ๊ก ‘โย พงศธร’ ผู้สมัคร สส.ระยอง ก้าวไกล เจอ ‘QR Code ขายเบียร์ - ภาพสัมมนาผู้ถือหุ้น’ ก่อนถูกลบ

(29 ส.ค. 66) จากกรณีที่บนโซเชียลฯ แชร์และวิจารณ์กรณีที่นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย ผู้สมัคร สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดระยอง ออกประกาศเรื่องบัญชีหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งนายพงศธรชี้แจงว่า ตนมีรายได้ไม่ถึง 220,000 บาทต่อปี จึงยื่นใบรับรองตัวเองว่ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ตนไม่ได้กังวล ถือเป็นกระบวนการตามปกติและมีเอกสารรับรองผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาพบว่ามีชาวเน็ตขุดภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพงศธร ขณะที่เจ้าตัวกำลังจะส่งผลิตภัณฑ์เบียร์ยี่ห้อหนึ่ง โดยขนใส่รถยนต์เป็นลัง ๆ รวมถึงการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในลักษณะหรูหรา 

ส่วนเฟซบุ๊กเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ โพสต์ภาพหนังสือจากสถานีตำรวจนครบาลบางนา เรื่อง ส่งสำนวนคดีเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง (ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์) คดีที่บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นผู้กล่าวหา และมีนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ เป็นผู้ต้องหา เมื่อปี 2561 และบรรยายว่า ได้นำเครื่องเสียงของทางบริษัทฯ ไปขาย แล้วไม่นำเงินส่งบริษัทฯ ต่อมามีการตกลงเจรจาคืนเงินกันแล้วถอนคำร้องทุกข์ไป

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2562 นายพงศธร ทำหน้าที่เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว น.ส.เบญจา แสงจันทร์ มีเงินรายได้ประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน เมื่อคำนวณตลอดทั้งปี จะมีรายได้ไม่เกิน 180,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขไม่เกินที่กฎหมายกำหนดให้จ่ายภาษี และถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งนายพงศธรก็ได้ทำแบบฟอร์ม สส.4/7 เพื่อยืนยันว่าตัวเองมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี

ขณะเดียวกัน ยังกล่าวตำหนิถึงการนำเสนอข่าวของสื่อในเครือผู้จัดการ ที่ระบุว่า “โซเชียลทั้งขุดทั้งแฉนายพงศธร ผู้สมัครเขต 3 ระยอง ก้าวไกล ไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พบชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ขายเบียร์ใส่รถกันเป็นลัง ๆ อีกด้านขุดกันไปถึงคดียักยอกปี 61” เป็นพาดหัวค่อนข้างรุนแรง เพราะกรณีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายพงศธรได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนจริง แต่รายได้ไม่ถึงปันผลจนถึงปัจจุบัน จึงไม่เคยยื่นเสียภาษีในกรณีนี้ ส่วนคดีความทางตำรวจมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายพงศธรจึงยังมีคุณสมบัติครบถ้วนลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่าเข้าใจการตรวจสอบ ยินดีที่จะตรวจสอบ แต่เมื่อพิจารณาจากพาดหัวข่าวและประเด็นเกินเลยจากข้อเท็จจริง คิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าจะมีผู้หวังประโยชน์ทางการเมืองจากการดิสเครดิต

ล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก ‘Yo Pongsathon Sonpechnarintr’ ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ หรือโย พบว่าได้ลบโพสต์เก่า ๆ ออกไปจนหมด เหลือโพสต์ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2011

อีกด้านหนึ่ง ยังมีภาพปกเฟซบุ๊ก (Cover) ระบุว่า "พวกแกหวาดกลัวยุคสมัยใหม่มากนักรึไง" ทำให้ชาวเน็ตพากันทัวร์ลง เช่น

- อุ้ย โดนขุดหน่อย ปิดสาธารณะ ปิดทุกอย่าง กลัวความโปรงใสหรอ

- พอมีข่าวไม่เสียภาษี แล้วบอกว่าชี้แจงได้หมด ปิดสาธารณะทำไมครับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เปิดมาตลอด แบบนี้เค้าเรียกวัวสันหลังหวะรึป่าวนะ

- เสียดายจังว่าจะแสดงความคิดเห็นเรื่องภาษีรายได้สักหน่อย

- digital footprint กรรมมุนา วต ตตี โลโก

ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ ยังได้โพสต์ภาพขณะที่มีการขายเบียร์ โดยมีคิวอาร์โค้ดสำหรับสแกนจ่าย และหนึ่งในนั้นภาพขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยืนคู่กับทีมงานเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว โดยระบุว่า "#ทุกคนคะ QR Code ที่ใช้ซื้อขายคราฟต์เบียร์ เป็นของผู้สมัครก้าวไกลชัดเจน ไปตรวจสอบเงินหมุนเวียนในบัญชีได้เลยค่ะ ว่ารายได้ถึงไหม แด๊ดดี้ทิมก็ช่วยโปรโมตด้วยค่าาาาา"

จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า คิวอาร์โค้ดดังกล่าวเป็นหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ของนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ จริง โดยผูกกับบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

ด้านเฟซบุ๊ก Warat Gap ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง โพสต์ข้อความ โดยอ้างจากข่าวในเฟซบุ๊กเพจโต๊ะข่าวการเมืองของเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ (MGR Online Politics) โดยระบุว่า "15,000 x 12 = 180,000 กฎของสรรพากร ถ้ามีรายได้เกินปีละ 120,000 ต้องยื่นภาษีทุกคนนะครับ ซึ่งจริง ๆ จะรายได้เท่าไหร่ก็ควรยื่น เพราะเป็นหน้าที่ ‘ประชาชน’ ที่ดี นี่ไม่รวมขายเบียร์ (การกุศล?) นะครับ ช่วยแถลงใหม่แล้วลดเงินเดือนลงนะครับ บอกว่าคราวที่แล้วเข้าใจผิด เดี๋ยวได้ใบแดงแล้วจะหาว่าโดนกลั่นแกล้งอีก

ป.ล. คุยกับเพื่อนที่สรรพากรแล้ว ทางสรรพากรก็กำลังให้ฝ่ายสำรวจติดตามกรณีนี้อยู่นะครับ"

ผบ.โรงเรียนนายเรือ ให้โอวาทนักเรียนนายเรือ ก่อนเดินทางเข้าร่วมการฝึกปฏิบัติ ในทะเลกับกองทัพเรือจีน

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 เวลา 09.00 น. พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ให้โอวาทแก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 จำนวน 2 นาย ได้แก่ นักเรียนนายเรือ จีรยุทธ วงศ์ไตรรัตน์ และนักเรียนนายเรือ อดิพงษ์ สงฆ์เจริญ ซึ่งเคยเข้ารับการศึกษาที่สถาบันการทหารเรือ ต้าเหลียน เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ของกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นระยะเวลา 3 ปี ณ ห้องรับรอง 2 กองบัญชาการโรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

สำหรับในการฝึกปฏิบัติในทะเล บนเรือของกองทัพเรือจีนในครั้งนี้ จะทำการฝึกตามเส้นทาง ฐานทัพเรือเมืองชิงต่าว  มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึง เมืองสุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกีนี ถึง กรุงซูวา สาธารณรัฐฟิจิ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 - 8 ตุลาคม 2566 ระยะเวลา 38 วัน

การส่งนักเรียนนายเรือ เข้าร่วมการฝึกปฏิบัติบนเรือของกองทัพเรือจีน ทำให้นักเรียนนายเรือ ได้รับประสบการณ์การเดินเรือในทะเลต่างประเทศ และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้กำกับดูแลและเร่งแก้ไขปัญหาข้อพิพาท โดยใช้การบังคับใช้กฎหมายนำการเจรจา ใช้การบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมการปกครอง กรมธนารักษ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถนำเอาพื้นที่ถนนที่ประชาชนใช้ในการสัญจรคืนกลับมาให้กับชุมชนได้ นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อแก้ไขการพิพาทเรื่องที่ดินให้ถูกต้อง รวมทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของชาวเลในพื้นที่เช่น การทำประมงพื้นบ้านในพื้นที่อุทยาน การตรวจสอบรังวัดที่ดินที่ถูกรุกล้ำเพื่อคืนพื้นที่ให้กับชาวบ้าน เป็นต้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (29 ส.ค.66) เวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล พร้อมด้วย นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ต.ท.ประวุฒิ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกรรมการสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะ โดยในที่ประชุมวันนี้ได้มีการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเรือประมงพาณิชย์ซึ่งลักลอบทำประมงในเขตอุทยานจำนวน 15 คดี ได้มีการออกหมายเรียกเจ้าของเรือ ไต๋เรือ และลูกเรือทั้งหมดแล้ว และได้ตรวจยึดเรือประมงของกลางรวม 26 ลำ จากทั้งหมด 28 ลำ อีก 2 ลำกำลังเตรียมการส่งมอบให้เรียบร้อย ในส่วนของการดำเนินคดีกับบุกรุกพื้นที่อุทยานนั้น หลังจากที่ได้ดำเนินการรังวัดพื้นที่โดยชัดเจนเรียบร้อยแล้วนั้น จะพิจารณาหากพบมีส่วนพื้นที่ใดที่ล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่อุทยาน ทางกรมอุทยานจะร้องทุกข์ดำเนินคดีทุกจุดต่อไป ในส่วนของโรงแรมที่พักต่างๆ จะมีการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรงแรมทั้งหมด และจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจนแล้วเสร็จ นอกจากนี้จะยังมีการพิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากพบการกระทำผิดดังกล่าวจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาดทั้งหมด หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจลำรางสาธารณะ และพบปะชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะหลีเป๊ะนั้น ในวันนี้ได้มีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ซึ่งหลายส่วนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว อาทิ คดีการลักลอบทำประมงในเขตอุทยาน ได้มีการตรวจยึดมาแล้วใกล้จะครบ 28 ลำ และจะติดตามผุ้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้ครบถ้วน ส่วนของการบุกรุกพื้นที่อุทยาน ขณะนี้การรังวัดดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จะเห็นภาพชัดเจนว่าจะต้องดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ซึ่งกรมอุทยานจะร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในส่วนนี้ทั้งหมด รวมถึงในส่วนของโรงแรมบนพื้นที่ที่ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรงแรม ก็จะดำเนินคดีทั้งหมดเช่นกัน หลังจากนี้จะเริ่มพิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะดำเนินคดีไม่มียกเว้นให้ถึงที่สุด จากนั้นจะดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูพื้นที่เกาะหลีเป๊ะเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่และประเทศชาติต่อไป

ผบ.ตร. มอบรางวัลแก่ข้าราชตำรวจนักกฎหมาย สำนักงานกฎหมายและคดี ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (29 ส.ค.66) เวลา 11.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ข้าราชการตำรวจ สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) จำนวน 3 นาย ได้แก่ พ.ต.ท.หญิง กัณฑิมา วงศ์ประธาน , ร.ต.อ.นัทธนธรณ์ ปิ่นนาค และร.ต.อ.หญิง ชมบงกช ธนาภรณ์พิบูล

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล”  นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้คือข้าราชการตำรวจสังกัด สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) จำนวน 3 นาย "ทำความเห็นขอให้ฟ้องผู้ต้องหา จนอัยการสูงสุดมีความเห็นสอดคล้องสั่งฟ้องผู้ต้องหา"ด้วย คณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีความผิดนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, เสนอขายฉลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา, โฆษณาอันเป็นเท็จหรือเกินจริงเป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และประกอบธุรกิจตลาดแบบขายตรงโดยไม่ได้จดทะเบียนฯ โดยได้ดำเนินคดีสั่งฟ้องบริษัทจำหน่ายสลากกินแบ่งผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวน 3 คดีโดย ในชั้นพนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องและได้ส่งสำนวนกลับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาตามกฎหมาย ข้าราชการตำรวจ สำนักงานกฎหมายและคดี ทั้ง 3 ราย จึงได้ทำการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม สรุปข้อเท็จจริง ประกอบกับข้อกฎหมาย และทำความเห็นขอให้ฟ้องผู้ต้องหา นำเรียนอัยการสูงสุด จนอัยการสูงสุดเห็นด้วยและมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 คดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 นาย ได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะทุ่มเทความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความละเอียดรอบคอบ เอาใจใส่ต่อหน้าที่เป็นอย่างดี สมควรแก่ การยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ "ทำดีมีรางวัล" เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความละเอียดรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 15,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

‘เสก โลโซ’ ยกลิขสิทธิ์เพลง ‘ก้าวให้ไกลกว่าเดิม’ เป็นของคนไทยทุกคน  ลั่น!! ‘นำไปร้องใหม่-เล่นในผับ-คัฟเวอร์’ ทำได้ตามสบาย ฟรีไม่เสียตังค์

เมื่อวานนี้ (29 ส.ค. 66) 'เสก โลโซ' นักร้องชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แจ้งแฟนคลับว่า “ผมขอมอบลิขสิทธิ์เพลงก้าวให้ไกลกว่าเดิมให้เป็นของประชาชนคนไทยทุกๆ คน ท่านสามารถนำไปร้องใหม่ บันทึกเสียงใหม่ เล่นในผับ คัฟเวอร์ ฯลฯ ได้เลยตามสบายครับ”

จากนั้นได้โพสต์ลิงก์มิวสิควิดีโอ พร้อมข้อความว่า “เพลงนี้เป็นเพลงของประชาชนคนไทยทุกคน ท่านสามารถนำไปขับร้องใหม่ บันทึกเสียงใหม่ นำไปคัฟเวอร์ ไปเปิด ไปเล่นในผับ ฯลฯ ฟรีเลยจ้าาา…”

โดยเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ‘เสก โลโซ’ ได้แต่งเพลงดังกล่าวขึ้น เพื่อให้กำลังใจพรรคก้าวไกล หลังพรรคเพื่อไทยแถลงฉีก MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาล พร้อมประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ซึ่ง ‘เสก โลโซ’ ได้ร้องสดให้กับแฟนคลับได้ฟังผ่านทางเฟซบุ๊ก กระทั่งล่าสุดมีการทำเป็นมิวสิควิดีโอ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top