Tuesday, 29 April 2025
TheStatesTimes

'อลงกรณ์' เกรง!! วงการข้าวสับสน!! นโยบายกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันไม่เคยสั่งการให้กรมการข้าวปลูกข้าวบัสมาตี เพื่อส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 30 ล้านตัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลงวันนี้ (16 มิ.ย) ว่า ตามที่มีสื่อมวลชนฉบับหนึ่งเสนอข่าวทำนองว่า กรมการข้าวจะปลูกข้าวบัสมาตีเพื่อส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 30 ล้านตันตามนโยบายของที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรหลังจากเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียนั้น ขอชี้แจงว่า ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้และไม่เคยบอกกรมข้าวให้ผลิตข้าวบัสมาติเพื่อส่งออกข้าวบัสมาตี 30 ล้านตันไปซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเกรงว่าจะก่อให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดในนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งแม้แต่โฆษกรัฐบาลก็ยังอ้างอิงข่าวที่ผิดพลาดดังกล่าวนำไปแถลงข่าวในนามนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าวโดยเฉลี่ยปีละไม่เกิน 10 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว ข้าวนึ่งและข้าวหอมมะลิ ประเทศไทยไม่เคยผลิตข้าวบัสมาตีเพื่อการส่งออกแม้แต่ตันเดียว จะมีเพียงการทดลองวิจัยในอดีตนานมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีนโยบายปลูกข้าวบัสมาตีเพื่อการส่งออกเพราะสภาพภูมิอากาศและพื้นที่ของประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่เหมาะสมกับพันธุ์ข้าวดังกล่าว 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะตรวจประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 สน.บางยี่ขัน 

เมื่อวานนี้(16 มิ.ย.65) เวลา19.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0  ของ สน.บางยี่ขัน ซึ่งเป็นสถานีตำรวจนำร่องของโครงการฯ โดยมี พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม รอง ผบก.น.7, พ.ต.อ.จารุวัตร สิงหศรีชัย ผกก.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ภาวัต วรรธสุภัทร รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ศุกพีระ สังข์ด้วงยา รอง ผกก.จร.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ฐิติวุธ  ร่อนแก้ว รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน

ร่วมกับภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ ประกอบด้วย กต.ตร.สน.บางยี่ขัน, ส.ทท.3 กก.1 บก.ทท.1, ภาคประชาชน, ภาคธุรกิจ, หน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชน ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมชั้น 3 สน.บางยี่ขัน โดยประเมินผลการดำเนินโครงการ ดังนี้ 

18 มิถุนายน พ.ศ.2507 วันเปิดเรียนวันแรกของ ‘มหาวิทยาลัยเชียงใหม่’ มหาวิทยาลัยแห่งแรกในส่วนภูมิภาคของไทย

วันนี้เมื่อปีพ.ศ. 2507  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเรียนวันแรก โดยมี 3 คณะเริ่มต้น ได้แก่ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นในส่วนภูมิภาคของประเทศไทย ตามโครงการพัฒนาการศึกษาในส่วนภูมิภาค พ.ศ.2501 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งอยู่ ณ ดินแดนล้านนา อันเป็นแหล่งสะสมวัฒนธรรมอันล้ำค่ามานานกว่า 700 ปี มีสภาพภูมิประเทศงดงามท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันเป็นธรรมชาติ บริเวณเชิงดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

นับตั้งแต่มีการเรียกร้องให้ขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาออกสู่ภูมิภาค โดยขอให้รัฐบาลจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 ในที่สุดการเรียกร้องก็สัมฤทธิ์ผลก่อให้เกิดความภูมิใจและดีใจเป็นอย่างยิ่งแก่ชาวล้านนา

วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขึ้น โดยกำหนดให้เปิดสอนในปีการศึกษา 2507 และให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี ม.ล.ปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเตรียมการจัดตั้ง

'กรณ์ พรรคกล้า ' ขอบคุณรบ. ขานรับรวดเร็ว เตรียมเก็บกำไรโรงกลั่น 2 หมื่นลบ. พยุงราคาน้ำมัน

'กรณ์' ขอบคุณรัฐบาล แก้ปัญหาราคาน้ำมัน เก็บกำไรโรงกลั่น ลดเบนซิน เตรียมเสนอทางออกช่วยประชาชนต่อ ก่อนประชุมครม.สัปดาห์หน้า

ภายหลังที่รัฐบาลประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจฉุกเฉิน เมื่อวันที่ (16 มิ.ย. 65) โดยมีมติว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องราคาน้ำมัน รัฐบาลจึงได้เก็บกำไรโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ 8 พันล้านบาทต่อเดือน โดยลดภาระเบนซิน 1 บาทต่อลิตร และอุดหนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจนั้น นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ซึ่งเป็นผู้เรียกร้องในเรื่องนี้ ได้โพสต์ขอบคุณรัฐบาลที่ขานรับประเด็นเรื่องค่าการกลั่นโดยเร็ว โดยระบุว่าขอให้ถือว่าเรามาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง ทีมทำงาน พรรคกล้า - KLA Party ดีใจที่วันนี้ประชาชนได้เงินกลับมา 24,000 ล้านบาททันที

‘LGBTQ+’ ตรวจสุขภาพเฉพาะทางได้ที่ไหนบ้าง มาดูกัน!!

เนื่องจากเดือนมิถุนายนของทุกปีถือเป็น Pride Month สำหรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ+ ซึ่งปัจจุบันมีการรณรงค์สนับสนุนความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจในตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการดูแลสุขภาพนับเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชนทุกคนรวมถึงกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ
การตรวจสุขภาพ คือ การตรวจร่างกายในภาวะที่ร่างกายเป็นปกติดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย โดยมีวัตถุประสงค์ในการค้นหาปัจจัยเสี่ยงและภาวะผิดปกติ เพื่อให้ทราบแนวทางป้องกันการเกิดโรคร้ายแรง ในทุกช่วงอายุควรเข้ารับการตรวจสุขภาพ ซึ่งสามารถเลือกตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนก็ได้

>> การตรวจสุขภาพในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น
มุ่งเน้นไปที่การตรวจร่างกายทั่วไป (ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง) เพื่อค้นหาความผิดปกติ ประเมิน การเจริญเติบโตตามวัย และเฝ้าระวังด้านพัฒนาการ รวมไปถึงการรับวัคซีนต่าง ๆ ตามกำหนดเวลา เพื่อป้องกันการเกิดโรค



>> การตรวจสุขภาพในกลุ่มวัยทำงาน
สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 - 60 ปี โดยการซักประวัติเพื่อค้นหาความเสี่ยงของโรค โดยเฉพาะในกลุ่มที่ครอบครัวเคยมีประวัติป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เบาหวาน ประกอบกับการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต เพื่อช่วยในการคัดกรองภาวะเสี่ยงของโรค ซึ่งควรตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง


 

- ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
- ตรวจการได้ยินปีละ 1 ครั้ง
- แบบประเมินสภาวะสุขภาพ เช่น ภาวะซึมเศร้า การใช้ยาและสารเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์ การติดนิโคตินในผู้สูบบุหรี่ เป็นต้น
- การตรวจตา สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจวัดสายตาและตรวจคัดกรองโรคต้อหิน ภาวะความดันลูกตาสูง และความผิดปกติอื่นๆ โดยทีมจักษุแพทย์ อย่างน้อย 1 ครั้ง
- การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest x-ray) โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก หรือมีอาการสงสัยว่าเป็นวัณโรคและมะเร็งปอด
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ช่วยคัดกรองภาวะโลหิตจางหรือความผิดปกติอื่นของเม็ดเลือดหรือเกล็ดเลือด

ศาลปค.สั่งลูก-เมีย 'สมัคร' ชดใช้แทน 587 ล. คดีทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิง กทม.

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน สั่งเมีย-ลูกอดีตผู้ว่าฯกทม. ‘สมัคร สุนทรเวช’ ชดใช้ 587 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย โดยไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอด ปมทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิง กทม.

(16 มิ.ย.65) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนสั่งให้คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางกาญจนากร ไชยลาโภ นางกาญจนาภา มุ่งถิ่น บุตรสาว ในฐานะทายาทของนายสมัคร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 587,580,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย 53-วันที่ 10 เม.ย. 64 และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปีหรืออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ซึ่งออกตามความในมาตรา 7 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.64 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จโดยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ หากคดีที่กรุงเทพฯฟ้องบริษัทสไตล์เออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายเรียกทรัพย์คืนตามคดีหมายเลขดำที่กค.155/2552 โดยศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้คู่กรณีกับคืนสู่ฐานะเดิม หรือคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC มีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้คู่กรณีตกลงกันด้วยดีทำให้ค่าความเสียหายลดลงเพียงใด ก็ให้ทายาททั้ง 3 รับผิดตามอัตราส่วนตามที่ศาลกำหนดให้นายสมัครรับผิดชอบเพียงนั้น ทั้งนี้ทายาททั้ง 3 ต้องรับผิดต่อกรุงเทพฯเพียงไม่เกินทรัพย์มรดกของนายสมัครที่ตกทอดแก่ตน

กรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานคร ได้ยื่นฟ้องบุคคลทั้ง 3 ให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่นายสมัครต้องรับผิดชอบจากกรณีการทุจริตในโครงการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานครกับบริษัทสไตล์เออร์ เมื่อปี 47-48 ซึ่งกระทรวงการคลังกำหนดให้นายสมัครซึ่งเป็น 1 ใน 6 ของผู้ร่วมกระทำผิดต้องรับผิดชดใช้เป็นเงิน 956,931,442 บาท

'นายกฯ' ปลื้ม!! สเปรย์ยับยั้งเชื้อ-วัคซีนโควิดสัญชาติไทย จ่อขึ้นทะเบียน ‘อย.’ คาดผลิตสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

'บิ๊กตู่' ชื่นชม ผลงานคนไทยพัฒนาสเปรย์ยับยั้งเชื้อโควิด19 สำเร็จ ผลิตสู่ตลาดปีนี้ ด้าน วัคซีน 'Chula Cov19' จ่อขึ้นทะเบียน อ.ย.

(17 มิ.ย. 65) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ที่ได้ร่วมมือพัฒนานวัตกรรม 'สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด 19' ซึ่งเป็นอีกนวัตกรรมจากคนไทยสามารถผลิตขึ้นใช้ได้เองในประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ที่มีมาตรฐานยอมรับในระดับสากล สำหรับสเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 คาดว่าจะสามารถผลิตออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ใน ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมองค์การเภสัชกรรมที่ได้พัฒนาวัคซีนโควิด HXP-GPOVac ฝีมือคนไทย ซึ่งผ่านการทดลองในมนุษย์เฟส 1 และเฟส 2 แล้ว จากผลการพัฒนาสูตรวัคซีน HXP-GPOVac สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมีแผนจะนำวัคซีนตัวนี้ กลับไปทำการทดลองเฟส 2 อีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เมื่อสำเร็จได้ผลดี จะดำเนินการทดลองในเฟส 3 ต่อไป คาดว่าจะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้กลางปี 2566

'สุวินัย' มองการโดนคดีม.112ของ 'ปิยบุตร' เป็นโอกาสทองพิสูจน์ความเป็น 'คนจริง'

'สุวินัย' มองอีกมุมการโดนคดีม.112ของ 'ปิยบุตร' คือโอกาสทองที่จะได้พิสูจน์ความเป็น'คนจริง'ชี้ต้องรับผิดชอบในความคิดและการกระทำของตนเอง เหน็บคิดเป็นนักปฏิวัติได้มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่าลวงโลกเป็นวิญญูชนจอมปลอม

(17 มิ.ย.65) ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กภายหลังนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เรื่อง "เมื่อผมกลายเป็นผู้ต้องหาในความผิด 112 " มีเนื้อหาดังนี้

ผมว่าคนแต่ละคนมีจุดพีคในชีวิตไม่เหมือนกันนะ

ในกรณีของอาจารย์ปิยบุตร จุดพีคของเขาน่าจะเป็นช่วงปี 2018-9

ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้นำทางความคิดเรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศสเพื่อเปลี่ยนแปลงสถาบันกษัตริย์ไทย ที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อคนรุ่นใหม่ในตอนนั้น ... จนเป็นที่มาของขบวนการ"ชูสามนิ้ว(เพื่อล้มเจ้า)" ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในวันที่ 10 สิงหาคม 2020

วันนี้ อาจารย์ปิยบุตรถูกตั้งข้อหาคดี ม.112 ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่อาจารย์ปิยบุตรจะยืดอกไปพิสูจน์ตัวเองในศาล เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกลูกศิษย์สาวกจำนวนหนึ่งที่โดนคดี ม.112 ไปก่อนแล้ว ... เพราะอย่างน้อยนี่คือความรับผิดชอบเชิงจริยธรรมของคนที่เคยเป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

TOPIC 14 : 'งานวิจัย' ชี้!! พื้นที่ต้นกำเนิดการเลี้ยงไก่แห่งแรกของโลก พิกัด 'บ้านโนนวัด' ประเทศไทย ราว 3,500 ปีก่อน

'งานวิจัย' ชี้!! พื้นที่ต้นกำเนิดการเลี้ยงไก่แห่งแรกของโลก พิกัด 'บ้านโนนวัด' ประเทศไทย ราว 3,500 ปีก่อน

Click on Clear Original 
โดย ปริม THE STATES TIMES (กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา) 

เพศไหนก็คน!! เข้าใจ 'LGBTQIA' ให้มากขึ้น ผ่านมุมมองของ 'บุ๊ค-ธีรชยา'

สัมภาษณ์พิเศษ : “บุ๊ค-ธีรชยา พิมพ์กิติเดช” อดีตรองอันดับ 1 Miss Tiffany's Universe 2018

พอได้หรือยัง กับความ (ไม่) เท่าเทียม
เพศไหน “ก็คนเหมือนกัน” 

สวัสดีค่ะ บุ๊คนะคะ ธีรชยา พิมพ์กิติเดช ตอนนี้เป็น Senior Writer อยู่ที่ นิตยสาร Vogue Beauty Thailand 

1.) Love is Love คิดอย่างไรกับคำนี้? 
บุ๊ค : สำหรับตัวบุ๊คแล้วจริง ๆ วลีนี้ หรือประโยคนี้มันเกิดขึ้นช่วง Movement ของกลุ่ม LGBTQIA แต่จริง ๆ มันก็คือนิยายความรักของทุกคนเลยนะ ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศเท่านั้น รักมันก็คือรักนั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องจำกัดหรือไปนิยายแบบเจาะจงว่าคนนี้จะต้องคู่กับคนนี้ ก.ไก่ ต้องคู่กับ ข.ไข่ หรือเพศชายจะต้องคู่กับเพศหญิง แค่เรารู้สึกดีกับใคร เราก็สามารถอยู่กับเขาอย่างมีความสุขได้ ทำอะไรได้ แค่ต้องอยู่ในความถูกต้องของกฎหมาย เพราะคำว่า Love is Love มันก็แค่นี้จริง ๆ 
 
2.) เรื่องที่สังคมมักจะเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับ “LGBTQIA+” คืออะไร? 
บุ๊ค : จริง ๆ แล้ว บุ๊คคิดว่าสังคมชอบคิดว่า กลุ่ม LGBTQIA เนี่ย ชอบเรียกร้องเป็นแบบ Sensitive ต้องการสิทธิพิเศษแต่จริง ๆ แล้วเปล่าเลย เราแค่เรียกร้องในสิ่งที่เราควรได้รับ โดยที่แทบไม่ต้องออกมาเรียกร้องด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นเรื่องขั้นพื้นฐานเลย และส่วนเรื่องของคาแรคเตอร์ บุคลิกลักษณะนิสัย ที่มันอาจจะมีภาพจำจากสังคมว่า “เหมารวม” อะไรแบบเนี่ยว่าเราจะต้องเป็นแบบวี้ดว้ายเสียงดังอะไรแบบนี้ คนก็อาจจะเข้าใจผิดอยู่ในกลุ่มบางกลุ่มเนอะ จริง ๆ บุ๊คคิดว่าไม่ว่าเป็นใคร ก็สามารถมีทั้ง Extrovert หรือ Introvert อยู่เหมือนกัน 

3.) จากการที่ ครม.เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต แต่ก็มีกระแส พ.ร.บ.ชีวิตคู่ ไม่เท่ากับ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม มีความเห็นอย่างไรบ้าง? 
บุ๊ค : จริง ๆ ตอนนี้มันก็ไม่เท่ากันจริง ๆ เราเองก็เห็นหลายสื่อหลายสำนักเลยเนี่ย ที่เขาตีแผ่ออกมาให้ได้ดูเลยว่า อะไรที่เราได้ อะไรที่เราไม่ได้จริง ๆ ตรงนี้เนี่ย บุ๊คมองว่ามันเป็นก้าวแรกมากกว่า หลังจากที่เรามีการเรียกร้องกันมาเนิ่นนานมาก เลยอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือ แก้ไข อย่างน้อย ๆ ตรงนี้มันก็คือก้าวแรกที่เราได้รับชัยชนะ ถึงแม้อาจจะไม่ได้ชัยชนะแบบ 100% ถือว่าเป็นก้าวแรกที่จะมีการก้าวต่อไปเรื่อย ๆ จะไม่ใช่ก้าวแรกและก้าวสุดท้ายอย่างแน่นอน เราเองก็ยังต้องช่วยกันเรียกร้อง ช่วยกันอธิบายให้อีกหลากกลุ่มคนหรือคนที่มีอำนาจได้เข้าใจ ว่าอะไรที่เรายังขาดอยู่ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top