Monday, 6 May 2024
TheStatesTimes

สหรัฐฯ วิเคราะห์ข้อมูลกล่องดำ ‘ไชน่าอีสเทิร์น’ ชี้ เหตุเครื่องบินโหม่งโลก เกิดจาก ‘ความจงใจ’

2 เดือนหลังเครื่องบินไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลนส์ตกในภูเขาดับยกลำ สหรัฐฯ วิเคราะห์กล่องดำ พบ “ใครบางคนในห้องนักบิน จงใจนำเครื่องบินดิ่งพสุธา”

หลายคนอาจยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. เกิดเหตุโศกนาฏกรรม เครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่น 737-800 ของสายการบินไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส ตกบนภูเขาทางตอนใต้ของจีน เที่ยวบินที่ MU 5735 ขณะเดินทางจากเมืองคุนหมิงไปกวางโจว จนเป็นเหตุให้ 132 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด

จากข้อมูลของ FlightRadar24 เครื่องบินกำลังแล่นที่ระดับความสูง 29,100 ฟุต (ประมาณ 9,000 เมตร) แต่หลังจากนั้น 2 นาที 15 วินาทีก็ร่วงลงมาอยู่ที่ 9,075 ฟุต ซึ่งคาดว่าการตกเป็นลักษณะเครื่องเอาหัวดิ่งลงมา

โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเก็บกู้กล่องดำของเครื่องบินลำดังกล่าวได้ และได้นำไปตรวจสอบหาสาเหตุการตก

ล่าสุด ผ่านไปเกือบ 2 เดือนหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นจากกล่องดำ และพบว่า “มีใครบางคนในห้องนักบิน จงใจนำเครื่องบินดิ่งพสุธา”

แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ บอกว่า ข้อมูลจากกล่องดำที่กู้คืนได้ บ่งชี้ว่า ตอนเกิดเหตุ “มีการอินพุต (ใส่คำสั่ง) ไปยังส่วนควบคุม ให้เครื่องบินทิ้งดิ่งลงมา”

แหล่งข่าวเสริมว่า “เครื่องบินทำตามที่คนในห้องนักบินบอกให้ทำ”

นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จีนซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวน ยังไม่ได้ระบุพบปัญหาทางกลไกหรือการควบคุมการบินใด ๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนผลการประเมินของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

ชุมชนในตำนานฉากหลักของหนังอินเดียสุดปัง “Gangubai Kathiawadi หญิงแกร่งแห่งมุมไบ”

พาไปรู้จักกับ “กามธิปุระ” ย่านโสเภณีชื่อดังในเมืองมุมไบ ที่เป็นฉากหลักในหนังอินเดียสุดปังเรื่อง “Gangubai Kathiawadi หญิงแกร่งแห่งมุมไบ” ซึ่งกำลังโด่งดัง มีคนแต่งตัวเลียนแบบคังคุไบกันว่อนโซเชียล

“Gangubai Kathiawadi” เป็นหนึ่งในภาพยนตร์บอลลีวูดของยุคนี้ พ.ศ.นี้ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปในหลายประเทศทั่วโลก

Gangubai Kathiawadi (คังคุไบ กฐิยาวาฑี) หรือที่ภาษาไทยใช้ชื่อว่า “หญิงแกร่งแห่งมุมไบ” เป็นหนังอินเดียยุคใหม่สร้างขึ้นมาจากนิยายเรื่อง “Mafia Queen of Mumbai” เขียนโดย “ฮุสเซน ไซดี” (Hussain Zaidi) ซึ่งได้อ้างอิงเรื่องราวชีวิตจริงของ “Gangubai Harjeevandas” (คังคุไบ ฮาร์จีวันดัส) โสเภณีคนดังแห่งเมืองมุมไบ ที่เป็นทั้ง “แม่พระ” และ “มาเฟีย” ในคน ๆ เดียวกัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาวประมาณ 150 นาที เข้าฉายครั้งแรกในเทศกาลหนังเบอร์ลินเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่อินเดียเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และสามารถกวาดรายได้เบื้องต้นไปเกือบ ๆ 900 ล้านบาท จากต้นทุนประมาณ 500 ล้านบาท

จากนั้นหนังเรื่องนี้มาตอกย้ำความปังไปอีกขั้น หลังถูกนำมาออกอากาศทาง Netflix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง มีคนสนใจในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงในบ้านเรา ชนิดที่ว่ามีการแต่งคอสเพล์ยเลียนแบบคังคุไบกันว่อนโซเชียล

Gangubai Kathiawadi นำเสนอเรื่องราวของ “คังคุไบ” ตั้งแต่ในวัยเยาว์ที่เติบโตมากับความฝันอยากเป็นนักแสดง แต่ทว่า...เธอกลับถูกสามีหลอกไปขายให้กับซ่องโสเภณีในมุมไบตั้งแต่มีอายุเพียง 16 ปี เพื่อแลกกับเงินไม่กี่ร้อยบาท

แต่คังคุไบก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเธอต่อสู้ฟันฝ่าจากโสเภณี ไต่เต้าขึ้นมาเป็นแม่เล้า จนกลายเป็นหญิงเจ้าของซ่องผู้ร่ำรวย และมีอิทธิพลคนหนึ่งของอินเดีย จนได้ชื่อว่า “ราชินีมาเฟียแห่งมุมไบ”

TOPIC 5 | 'อังกฤษ' โชว์พาว!! พร้อมส่งทหารปกป้อง หาก 'สวีเดน-ฟินแลนด์' เจอรัสเซียบุก

ใครแหยมเจอดีแน่!! 'อังกฤษ' โชว์พาว!! พร้อมส่งทหารปกป้อง หาก 'สวีเดน-ฟินแลนด์' เจอรัสเซียบุก

Click on Clear Original 
โดย ปริม THE STATES TIMES (กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา) 

.


 

SME D Bank เติมวงเงิน 'สินเชื่อ 3D' อีก 4 พันล้าน หนุนผู้ประกอบการขยายโอกาสรับเปิดประเทศ

SME D Bank อัดฉีดวงเงิน “สินเชื่อ 3D” เพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 19,000 ล้านบาท หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน เดินหน้าธุรกิจได้เต็มที่ รับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศ แถมขยายหลักเกณฑ์ เปิดกว้างกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากหลักประกันไม่พอ สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้

น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า ทางธนาคาร เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนขานรับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล โดยเพิ่มวงเงิน “สินเชื่อ 3D” อีก 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท รวมเป็น 19,000 ล้านบาท รวมถึงขยายเกณฑ์เปิดกว้าง กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากหลักประกันไม่พอสามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้

สำหรับ “สินเชื่อ 3D” ครอบคลุมทุกความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี วงเงินกู้สูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี ประกอบด้วย...

'ก.อ.' เชือด 'เนตร นาคสุข' ให้ออกจากราชการ ชี้ ใช้ดุลพินิจไม่รอบคอบ สั่งไม่ฟ้องคดี ‘บอส อยู่วิทยา’

ก.อ.มีมติเอกฉันท์ เชือด ‘เนตร นาคสุข’ กรณีไม่สั่งฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ ขับรถชน ตร.ตาย โดยกำหนดโทษให้ออกจากราชการ ลดจากโทษ ‘ปลดออกจากราชการ’ เหตุเพราะรับราชการมา40 ปี ทำประโยชน์ให้ราชการมามาก 

18 พ.ค.2565 - ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ. )เป็นประธาน การประชุม ก.อ. โดยในที่ประชุมได้มีลงมติ ผลสอบคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อเสียชีวิต ซึ่งได้มีการส่งผลการสอบสวนให้ นายพชร ประธาน ก.อ.เมื่อช่วงหลังหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

โดยภายหลังการประชุม นายพชร กล่าวว่าในวันนี้ที่ประชุม ก.อ.มีผู้เข้าร่วมประชุม 14 คน ลา 1 คน ซึ่งมี ก.อ.ที่เคยถูกตั้งเป็นกรรมการสอบสวนวินัย นายเนตรจำนวน6 คนที่ประชุมจึงให้งดออกเสียงโดยกรรมการที่มีสิทธิลงมติจึงเหลือ 8 คน

กรรมการทั้ง 8 มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่า นายเนตรขาดความระมัดระวังละเอียดรอบคอบในการรับฟังข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่สำคัญในคดีและ ไม่ให้ความสำคัญกับสำนวนทุกประเภท ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา ของพนักงานอัยการ (อันเป็นระเบียบที่ใช้บังคับในขณะกระทำความผิดตามที่ ถูกกล่าวหา) เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง อันเป็นการกระทำความผิด ฐานไม่ปฏิบัติ หน้าที่ราชการด้วยความระมัดระวัง เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ ไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผนของทางราชการ ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ อย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 และความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความระมัดระวัง เป็นเหตุ ให้เสียหายแก่ราชการ และฐานไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ตาม แห่งพรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 เป็นความผิด วินัยไม่ร้ายแรง 

ส่วนความผิดฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำครั้งเดียวผิดวินัย หลายฐาน จึงเห็นควรลงโทษในสถานความผิดวินัยอย่างร้ายแรงที่มีโทษหนักกว่า แต่ทางสอบสวน ไม่ ปรากฏพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จึงยังไม่ถึงขนาดที่จะต้องถูกไล่ออกจากราชการ เห็นพ้องกันว่าควรลงโทษผู้ถูกกล่าวหา “ปลดออกจากราชการ” แต่เมื่อพิจารณา ถึงประวัติการรับราชการพบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยถูกลงโทษในการกระทำความผิดทางวินัยมาก่อน และกรณีดังกล่าวนี้เป็นการกระทำความผิดทางวินัยครั้งแรก ผู้ถูกกล่าวหาเองได้รับราชการมาเป็น ระยะเวลานานกว่า 40 ปี ทำคุณประโยชน์แก่ราชการไว้มาก กรณีมีเหตุอันควรลดหย่อนโทษให้แก่ ผู้ถูกกล่าวหาคณะกรรมการ ก.อ.ทั้ง 8 ซึ่งรวมตนด้วยจึงมีมติเเละคำสั่งให้ ลงโทษนายเนตร นาคสุข ผู้ถูกกล่าวหา ในสถาน “ให้ออกจากราชการ” ตาม พรบ. ข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 85,87

นายพชร กล่าวต่อว่า มติก.อ.วันนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้วในส่วนของการดำเนินการทางวินัย หากนายเนตรไม่เห็นด้วย กับมติ ก.อ.ก็ยังสามารถใช้วิธีทางปกครองโดยการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ ทั้งนี้คำสั่งให้ออกจากราชการมีผลตั้งแต่วันที่มีการอนุมัติให้ลาออกจากราชการแล้วในส่วนการดำเนินคดีอาญากับนายเนตร ในส่วนของสำนักงานอัยการ นั้นคงไม่มีแล้ว คงให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น อย่างไรก็ตามในส่วนของนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์นั้น เราก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยมี นายประพัฒน์พงศ์ สุคนธ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง เป็นประธานสอบ แต่จะเป็นความผิดสถานใดก็ต้องรอดูผลสอบสวน

เมื่อถามว่า การลงโทษนายเนตร นาคสุข แค่ให้ออกจากราชการมองว่าเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่

นายพชรยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือกัน เพราะนายเนตร นั้นในหมู่อัยการรู้นิสัยกันดีว่าจริงๆแล้วนายเนตรไม่ควรจะขาดความรอบคอบ แต่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การสั่งคดีนั้นมีการทุจริตตรงไหน นายเนตรถือเป็นอัยการที่มือสะอาด แต่การใช้ดุลพินิจในขณะนั้นจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ถือว่าขาดความรอบคอบจากมาตรฐานของคนที่ทำคดีมายาวนาน ซึ่งต้องมีความรอบคอบมากขึ้น และต้องสอบพยานคนกลางที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้เป็นที่ยอมรับของสังคม

“องค์กรอัยการเราอยู่มาถึง 140 กว่าปี ถ้าเราไม่ได้รับความเชื่อถือต่อสังคม เรารับไม่ได้ เพราะองค์กรจะต้องอยู่ต่อไป เราเป็นทนายแผ่นดิน เป็นข้าแผ่นดิน ถ้าทนายแผ่นดินเชื่อถือไม่ได้ ก็ไม่รู้จะสรรหากระบวนการยุติธรรมไหนที่เชื่อถือได้อีกแล้ว” ประธานก.อ.ระบุ

'กรณ์ - อรรถวิชช์' นำ 12 ส.ก. ลงนามสัตยาบรรณ ถือคำมั่น ปฏิบัติหน้าที่โปร่งใส - ไร้เงินทอน

"กรณ์ - อรรถวิชช์" นำผู้สมัคร ส.ก.พรรคกล้า 12 เขต ลงนามสัตยาบรรณต่อ "องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)" ปฏิบัติหน้าที่ ส.ก.ยุคใหม่ โปร่งใส ไร้เงินทอน พร้อมร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณเขต "มานะ" ย้ำ สัตยาบันถือเป็นคำมั่นสัญญา ต้องปฏิบัติหน้าที่โปร่งใส

15.30 น. 18 พ.ค. 65 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า, นายสมัย เจริญช่าง นำผู้สมัคร ส.ก.พรรคกล้า ทั้ง 12 คน เข้ายื่นหนังสือลงนามสัตยาบัน พร้อมให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณเขตพื้นที่ หากผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 12 เขตพื้นที่ ได้รับเลือกตั้งเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ตามแนวคิด "ส.ก.ยุคใหม่ ต้องโปร่งใส ไร้เงินทอน" โดยมี ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เป็นผู้รับมอบหนังสือ

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหากรุงเทพมหานครมีเยอะหลายเรื่อง วันก่อนที่ตนเองไปรณรงค์เรื่องใบอนุญาตการสร้างสูง หรือเมื่อคืนนี้ที่เลขาธิการพรรคต้องลงพื้นที่ไปติดตามการระบายน้ำ รวมถึงอีกหลายปัญหาที่ได้รับฟังจากประชาชนระหว่างการหาเสียง ส่วนหนึ่งก็มาจากการทุจริตคอรัปชั่น แต่หากผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 12 คนของพรรคกล้า ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส และมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้าทำงาน รวมถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจในการใช้งบประมาณ จะทำให้การทุจริตคอรัปชั่นมีโอกาสเกิดได้ยากขึ้น

‘ดร.อานนท์’ ยัน เพลง ‘พ่อมึง’ ไม่มีอะไร แค่รุ่นใหญ่สั่งสอน ‘เด็กขนอุย’ งง ทำไมต้องดิ้น

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์นิด้า สงสัยเหตุใด 3 กีบของขึ้น หลังฟังเพลง ‘พ่อมึง’ ของ ‘ไทยเทเนียม’ ชี้เพลงก็ไม่มีอะไร แค่รุ่นใหญ่สั่งสอนเด็กขนอุย อย่าคิดว่าแน่นักหนา

จากกรณี ‘ไทยเทเนียม’ ปล่อยเพลงใหม่ออกมากับเพลงที่มีชื่อว่า ‘พ่อมึง’ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งเป็นซิงเกิลล่าสุดที่สมาชิก ขัน, เดย์, เวย์ กลับมารวมตัวกันทำเพลงอีกครั้ง หลังจากประกาศแยกวง ปิดตำนานไทยเทเนียมไปแล้วเมื่อปีก่อน แต่หลังจากที่แฟนๆ ได้ฟังเพลง พ่อมึง ทางยูทูบช่อง THAITANIUM แล้วล้วนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันถ้วนหน้า เช่น เนื้อเพลงไม่สร้างสรรค์เลย เอาจริงๆ พันช์ไลน์ก็ไม่คมเพราะไม่มีใครเขาไปดิสคุณ อันนี้เหมือนคุณอยู่ดีๆ ก็ไปดิสเหมารวมเขาโดยการเหยียดเจเนอเรชัน โดยส่วนใหญ่กลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์ก็คือกลุ่มสามกีบ

‘จีน’ ฟาด!! G7 ควรใส่ใจปัญหาของตน หยุดบังคับชาติอื่นคว่ำบาตรตามคำสั่ง

ไม่นานมานี้ กลุ่มมหาอำนาจ G7 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ, อังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี และญี่ปุ่น ได้ออกมากดดันให้ ‘รัฐบาลจีน’ ให้แสดงท่าทีกระตุ้นให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน และยุติความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการทหารกับรัสเซีย รวมทั้งเรียกร้องให้จีนต้องสนับสนุนเอกราชและอิสรภาพของยูเครนด้วย

ทันทีที่ G7 แสดงท่าทีดังกล่าว ฟากรัฐบาลจีน ก็ได้ออกมาตอบโต้ท่าทีดังกล่าวทันที โดย จ้าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.65) ที่ผ่านมาว่า…

กลุ่ม G7 ควรจะหยุดความพยายามในการบีบบังคับให้ชาติอื่นคว่ำบาตรตามคำสั่งของตน และควรหันไปสนใจปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศของตนเอง มากกว่าที่จะเข้าไปแทรกแซงประเทศอื่นให้ทำตามคำสั่ง

‘วันอาภากร’ วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

วันอาภากร ตรงกับวันที่ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงได้รับสมัญญาเป็น องค์บิดาแห่งกองทัพเรือ ซึ่งทหารเรือยกย่องและเทิดทูนพระเกียรติคุณอย่างสูงสุด เนื่องจากพระองค์ทรงริเริ่มวางรากฐานกิจการทหารเรือและนำความเจริญมั่นคงและรุ่งเรืองมีสมรรถภาพสู่กองทัพเรือเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ทำให้ทัพเรือไทยทันสมัยมีมาตรฐาน และเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยะประเทศ กองทัพเรือจึงกำหนดให้ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น วันอาภากร ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เพื่อเป็นการเทิดทูน เผยแพร่พระเกียรติคุณ และแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน

พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อ 19 ธันวาคม 2423 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ผู้บัญชาการทหารเรือวังหลวง

ทรงเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษ ทรงมีจุดประสงค์แรงกล้าจะฝึกให้ทหารเรือไทยเดินเรือทะเลได้อย่างชาวต่างประเทศ และสามารถรบทางเรือได้ เนื่องจากอดีตประเทศไทยต้องว่าจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้บังคับการเรือโดยตลอด

บ.เยอรมนี เซ็นซื้อก๊าซ บ.รัสเซียต่ออีก 10 ปี ด้านมะกะโรนีจ่อตามรอยเบียร์ติด ๆ

สหรัฐฯ กุมขมับ หลังส่อแววอดขายก๊าซแพง เมื่อ Uniper ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีประกาศเลิกเล่นละครลิง เดินหน้าสู่วิถีคนจริง ยอมรับกันตรง ๆ ว่าจะนำเข้าก๊าซจากรัสเซียต่อไปอีกอย่างน้อย 10 ปีแม้สหภาพยุโรปจะมีมติหรือหรือการรณรงค์ให้คว่ำบาตรพลังงานรัสเซียก็ตาม

World Maker เผย ล่าสุดเยอรมนีเซ็นสัญญาค้าก๊าซกับรัสต่ออีก 10 ปี โดยไม่ฟังคำสั่งสหรัฐฯ ที่เริ่มเสื่อมอำนาจ และยังกล่าวอีกว่า จนถึงตอนนี้บริษัท Gazprom ของรัสเซียก็ยังถือเป็น Supplier ที่ไว้ใจได้เสมอ ทำให้เยอรมนีไม่อาจตัดขาดก๊าซจากรัสเซียได้

Klaus-Dieter Maubach ซีอีโอ ของ Uniper ซึ่งถือเป็น 1 ในผู้ซื้อก๊าซรัสเซียรายใหญ่ที่สุดของทวีป ประกาศว่าล่าสุดได้ทำสัญญากับ Gazprom PJSC ต่ออีก 10 ปี (จะหมดอายุในกลางทศวรรษที่ 2030)

อย่างไรก็ตาม Klaus ก็ยังมีฟอร์มอยู่เล็กน้อย โดยเขากล่าวว่า Uniper จะไม่ขยายสัญญาเหล่านี้ หรือเริ่มต้นสัญญาใหม่ใด ๆ ในตอนนี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top