Thursday, 2 May 2024
TheStatesTimes

ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ แรงงาน เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร "พัฒนา จป. เพื่อเป็นผู้นาการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ" รุ่นที่ 2

วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในการเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาศักยภาพ จป. เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ” ตามโครงการพัฒนาศักยภาพและบทบาทหน้าที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทำงานด้านสุขภาวะองค์กร เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล สามารถประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมของลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ 

รวมทั้ง ให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้ลูกจ้างมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ณ ห้องประชุมมารีน่าเบย์ ชั้น 2 โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงานเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

States TOON EP.59

แลนด์สไลด์!!

ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์ใน…

'บุช' เผลอลั่นประณาม!! รุกรานอิรักไม่ยุติธรรม ก่อนแก้ไขคำพร้อมส่ายหัว "ผมหมายถึงยูเครน"

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จอร์จ ดับเบิลยู บุช บอกการรุกรานอิรักเป็น "ความรุนแรง" และ "ไม่ยุติธรรม" ก่อนที่จะแก้ไขตัวเองโดยอ้างว่าหมายถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

บุชกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างงานอีเวนต์ที่เมืองดัลลาสเมื่อวันพุธ ขณะที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเมืองของรัสเซีย

“ผลที่ตามมาคือไม่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลในรัสเซีย และการตัดสินใจของชายคนหนึ่งในการบุกอิรักอย่างไม่ยุติธรรมและโหดร้าย” บุชกล่าวก่อนที่จะแก้ไขตัวเองและส่ายหัว "ผมหมายถึงยูเครน"

เขาติดตลกตำหนิความผิดพลาดที่อายุของเขาในขณะที่ผู้ชมหัวเราะออกมา

'น้องเทนนิส' ไล่เตะ เมียนมา 29-0 คว้าทองซีเกมส์ 3 สมัยติด

การแข่งขันเทควันโด ในกีฬา 'ซีเกมส์2021' ประจำวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค.2565 ไฮไลท์อยู่ที่รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง เป็นการลงทำการแข่งขันของ "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวไทยเบอร์ 1 ของโลก เจ้าของผลงาน เหรียญทองโอลิมปิก ทำผลงาน เอาชนะ วู ธิ ดุง จากเวียดนาม เจ้าภาพ ในรอบรองชนะเลิศ มาด้วยสกอร์ 24 -4 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศพบกับ นักกีฬาเทควันโด จาก เมียนมา ที่เอาชนะ ติมอร์เลสเต มาได้ 

ผลสรุปว่า 'เทนนิส' พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวไทย เป็นฝ่ายเอาชนะ ดาซี่ อู จูเลียส นักเทควันโด จากเมียนมา ในรอบชิงชนะเลิศ ไปได้อย่างขาดลอย 29-0 คว้าเหรียญทองไปครอง 

ทั้งนี้ทำให้ 'เทนนิส' พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ทำผลงานคว้าเหรียญทองในกีฬา 'ซีเกมส์' 3 สมัยติดต่อกัน คือ ปี 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย, 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และ ครั้งล่าสุด 2021 ที่ประเทศเวียดนาม


ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/515588

'ส.ส.ดร.ยงยุทธ' พร้อม 'นายก อรัญญา' นายกเทศมนตรี สั่งระดมเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำ

ส.ส.ดร.ยงยุทธ' พร้อม 'นายก อรัญญา' นายกเทศมนตรี สั่งระดมเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำ ล่าสุด กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เผย อบจ.สมุทรปราการ ช่วยสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงกลางดึก ของคืนวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทำให้เส้นทางการจราจรในหลายพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการเกิดน้ำท่วมขังและมีน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบทำให้ถนนภายในซอยแพรกษา 15 ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ เกิดน้ำท่วมขังประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากภายในซอยแห่งนี้มีหมู่บ้านขนาดใหญ่รวมถึงมีสถานศึกษาตั้งอยู่ด้านในภายในซอยแห่งนี้ ประกอบกับ พื้นถนนภายในซอยแพรกษา 15 นั้น มีระดับพื้นถนนที่ต่ำอยู่แล้วจึงทำให้มวลน้ำเกิดการสะสมและเกิดน้ำท่วมขังในที่สุด

โดย ทางด้านนายสมบูรณ์ สันหยี รองปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยทางเทศบาลตำบลแพรกษาไม่ได้นิ่งนอนใจและยังได้รับการประสานจากท่าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา เนื่องจากมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ภายในซอยแพรกษา 15 อีกทั้ง เป็นห่วงผู้ปกครองที่ต้องเดินทางมาส่งบุตรหลานเรียนหนังสือในช่วงเช้า จึงได้สั่งการพร้อมทั้งกำชับให้ทางหัวหน้าส่วนราชการรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจสอบและรีบเร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อทำการระบายน้ำอย่างเร่งด่วนและกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการติดตามความคืบหน้าและรายงานผลให้ทราบเป็นระยะ

นายสมบูรณ์ สันหยี รองปลัดเทศบาลตำบลแพรกษา ยังกล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลแพรกษาได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ตลอดทั้งคืน แต่เนื่องจากพายุฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและตกอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากน้ำมีปริมาณมากทำให้เครื่องสูบน้ำที่ทางเทศบาลเตรียมการไว้ไม่เพียงพอ ประกอบกับ มวลน้ำจำนวนมากได้ไหลผ่านออกมาจากทางหมู่บ้านเดอะทรัสต์ เนื่องจากว่าถนนภายในซอยแพรกษา 15 มีระดับที่ต่ำกว่าหมู่บ้านจึงทำให้มวลน้ำไหลมาสะสมอยู่ภายในซอยแพรกษา 15 ส่งผลให้การระบายน้ำลงสู่คลองเล้าหมูล่าช้าเนื่องจากคลองตื้นเขินทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน  

ทางเทศบาลตำบลแพรกษา จึงได้ประสานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ซึ่งทางท่านชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เพื่อมาเพิ่มศักยภาพในการสูบน้ำระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแพรกษาได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ กระทั่ง สามารถระบายน้ำลงสู่ลำคลองได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 

ย้อนอดีต ‘อโนชา ปันจ้อย’ 44 ปีแห่งการหายตัวของหญิงไทย ผู้ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัว

รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับอย่างเป็นทางการจากว่าชาวญี่ปุ่นเพียง 17 คน (ชาย 8 คนและหญิง 9 คน) ถูกลักพาตัวไป

เรื่องของ อโนชา ปันจ้อย หญิงสาวชาวไทย ผู้ซึ่งถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวไปจากอาณานิคมมาเก๊าของโปรตุเกส เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 (วันนี้เมื่อ 44 ปีก่อน) เห็นชื่อเรื่องแล้วผู้อ่านหลายๆ ท่านคงจะสงสัยว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนไทยด้วยหรือ เพราะข่าวส่วนใหญ่มักเกิดกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะในระหว่าง ปี พ.ศ. 2520 ถึง 2526 แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับอย่างเป็นทางการว่า มีชาวญี่ปุ่นเพียง 17 คน (ชาย 8 คนและหญิง 9 คน) ถูกลักพาตัวไป แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจมีชาวญี่ปุ่นอีกหลายร้อยคนที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัว ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับว่า ได้ทำการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่น และขอโทษ ในขณะเดียวกันก็สัญญาว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับว่า ได้ทำการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นไป 13 คน

แม้ว่า ในเดือนตุลาคมปีนั้นผู้ที่ถูกลักพาตัวชาวญี่ปุ่นห้าคนจะได้เดินทางกลับญี่ปุ่น แต่ผู้ถูกลักพาตัวชาวญี่ปุ่นที่เหลือรัฐบาลเปียงยางยังไม่ได้ให้คำอธิบายใด ๆ ที่ยอมรับได้อีกเลย ถึงแม้ว่า เกาหลีเหนือจะมีพันธะสัญญาอย่างชัดเจนจากการประชุมสุดยอดผู้นำญี่ปุ่น-เกาหลีเหนือเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 เพื่อดำเนินการสอบสวนโดยละเอียดในทันทีในการตรวจสอบจำนวนชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวทั้งหมด 

การยืนยันของเกาหลีเหนือเกี่ยวกับประเด็นการลักพาตัวนั้น เกาหลีเหนือไม่ได้ให้หลักฐานที่น่าพอใจหรือที่น่าเชื่อใดๆ ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นจึงไม่ยอมรับ 

สำหรับการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นนั้น ทางรัฐบาลญี่ปุ่นถือเป็นปัญหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่น ชีวิตและความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่น หากไม่มีการแก้ไขปัญหานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีเหนือก็จะยังไม่ถือว่าเป็นปกติ 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นให้คำมั่นแก่ชาวญี่ปุ่นที่จะพยายามอย่างที่สุดในการติดตามและนำผู้ถูกลักพาตัวทั้งหมดกลับมายังประเทศญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด และรัฐบาลเกาหลีเหนือได้ยอมรับอย่างเป็นทางการว่า ได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นไป 13 คน

ชาวเกาหลีใต้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ที่ถูกลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ระหว่างสงครามเกาหลีกว่าแปดหมื่นคน

มาที่ด้านของเกาหลีใต้ ผู้ที่ถูกลักพาตัวชาวเกาหลีใต้โดยเกาหลีเหนือ แบ่งออกเป็นสองกลุ่มได้แก่ 1.) ผู้ที่ถูกลักพาตัวในระหว่างช่วงสงครามเกาหลี และ 2.) ผู้ที่ถูกลักพาตัวหลังจากสงครามเกาหลี โดยในช่วงระหว่างสงครามเกาหลี มีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 84,532 คนถูกนำตัวไปยังเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีการศึกษาหรือมีทักษะอยู่แล้ว เช่น นักการเมือง ข้ารัฐการ นักวิชาการ นักการศึกษา แพทย์ ผู้พิพากษา นักข่าว หรือนักธุรกิจ ตามคำให้การของสมาชิกในครอบครัวที่เหลืออยู่ การลักพาตัวส่วนใหญ่ถูกจับกุมโดยทหารเกาหลีเหนือซึ่งมีชื่อเฉพาะและบัตรประจำตัวของผู้ที่ถูกลักพาตัวอยู่ในมืออยู่แล้วเมื่อพวกเขามาปรากฏตัวที่บ้าน อันเป็นข้อบ่งชี้ว่า การลักพาตัวเกิดขึ้นโดยเจตนาและเป็นไปในลักษณะที่มีความเป็นระบบ 

สาธุคุณ Kim Dong-shik (ผู้จัดตั้งที่พักพิงในจีนสำหรับชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์) หนึ่งในผู้ที่ถูกลักพาตัว

นับตั้งแต่ข้อตกลงสงบศึกเกาหลีในปี พ.ศ. 2496 เกาหลีเหนือได้ทำการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ราว 3,800 คน (ส่วนใหญ่ในช่วงปลายทศวรรษ 1970) ชาวเกาหลีใต้ที่ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวในดินแดนเกาหลีใต้หรือต่างประเทศหลังจากการสงบศึกลงนามในปี พ.ศ. 2496 เป็นที่รู้จักในชื่อเรียกว่า “ผู้ถูกลักพาตัวหลังสงคราม” โดยส่วนใหญ่จะถูกจับในขณะตกปลาใกล้เขตปลอดทหารเกาหลี (DMZ) แต่บางคนถูกลักพาตัวโดยสายลับเกาหลีเหนือในเขตเกาหลีใต้ที่ลึกเข้ามา 

เกาหลีเหนือยังคงลักพาตัวชาวเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่องในยุค 2000 ดังที่เห็นได้จากกรณีของสาธุคุณ Kim Dong-shik (ผู้จัดตั้งที่พักพิงในจีนสำหรับชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์) ซึ่งถูกลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2543 และ Jin Gyeong-suk ชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์ไปอยู่ยังเกาหลีใต้ ซึ่งถูกลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ขณะที่เธอกลับไปยังเขตชายแดนจีน-เกาหลีเหนือโดยใช้หนังสือเดินทางเกาหลีใต้ ซึ่งในปี พ.ศ. 2549 ชาวเกาหลีใต้จำนวน 489 คนยังคงไม่ได้รับการปล่อยตัว 

'รัสเซีย' พร้อมส่งน้ำมันให้ 'เอเชีย-ภูมิภาคอื่น' หากบางชาติยุโรปไม่เอา เพราะแผนคว่ำบาตร

สำนักข่าวรอยเตอร์ - รัสเซียจะส่งน้ำมันที่ถูกปฏิเสธโดยประเทศในยุโรปไปยังเอเชียและภูมิภาคอื่น ๆ รองนายกรัฐมนตรี อเล็กซานเดอร์ โนวัค ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี และเสริมว่ายุโรปจะต้องหาน้ำมันทดแทนที่จะมีราคาแพงกว่า

คณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันพุธ (18พ.ค.) เปิดเผยแผนมูลค่า 210,000 ล้านยูโร (220,00 ล้านดอลลาร์) สำหรับยุโรปที่จะยุติการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียภายในปี 2570 และใช้เรื่องนี้เป็นการสลัดตัวจากการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียว

ยุโรปได้รับน้ำมันรัสเซียประมาณ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) โนวัค กล่าว และเสริมว่ารัสเซียพร้อมที่จะเปลี่ยนเส้นทางเสบียงเหล่านั้นออกจากยุโรป และยุโรปต้องแทนที่น้ำมันดิบที่มีราคาแพงกว่าจากแหล่งอื่น

มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่บังคับใช้กับรัสเซียหลังจากกองทหารบุกเข้าไปในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ บีบให้ผู้ซื้อน้ำมันจำนวนหนึ่งต้องชะลอหรือปฏิเสธการขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้การผลิตน้ำมันของรัสเซียลดลง

หน.รวมไทยยูไนเต็ด ยก ‘ชัชชาติ’ คนของประชาชน วอนหยุดสร้างวาทกรรม สร้างความเกลียดกลัว

หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด มั่นใจ ‘ชัชชาติ’ เป็น “คนของประชาชน” จะพากรุงเทพ ก้าวข้ามความแตกแยก ขอหยุดปลุกระดมความเกลียด กลัวโยงขั้วการเมืองระดับชาติ ที่ทำลายความหวัง กทม.

วันที่ 20 พ.ค. 2565 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Voranai Vanijaka-วรนัยน์ วาณิชกะ เรื่อง “ก้าวข้ามความแตกแยก : Man of the People” โดยระบุว่า ตนรู้จักคน Gen X ยัน Baby Boomer เยอะมาก ที่ทั้งชีวิตลงคะเเนนเสียงให้ขั้วอนุรักษ์นิยม ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าและทั้งชีวิตของพวกเขา ก็คงลงคะแนนเสียงให้ขั้วอนุรักษ์นิยม แต่การเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้ พวกเขาจะลงคะแนนเสียงให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

เหตุผลคือ พวกเขาไม่ไหวแล้วที่เมืองหลวงของเราจะต้องหยุดชะงักและพังอย่างต่อเนื่อง เพราะการบริหารไม่เอาไหน ซึ่งสืบทอดมาจากการที่กรุงเทพตกเป็นเหยื่อในสนามรบของขั้วการเมืองระดับชาติ ที่ต่อสู้กันบนความเกลียดและความกลัว กรุงเทพจะเดินไปข้างหน้าได้ ผู้ว่ากรุงเทพต้องเป็นคนที่ก้าวข้ามความแตกแยก ก้าวข้ามขั้วการเมือง

ตนพักอาศัยอยู่แถวบ่อนไก่ ข้างหน้าคือถนนวิทยุ ตรงข้ามคือสวนลุมพินี นายชัชชาติมักจะมาวิ่งตอนเช้าในสวนลุมพินี และแวะเข้ามาที่สโมสรกีฬาในบ่อนไก่ ตนได้พูดคุยกับชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบนายชัชชาติมาก อัธยาศัยดี เป็นกันเอง ใส่ใจ ถามทุกข์สุขตลอด ตนพูดว่า “ก็เขาหาเสียงอยู่นิ” ชาวบ้านก็บอกผมว่า เขาทำแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลายปีแล้ว

นั่นหมายความว่า ในบรรดานักการเมืองในประเทศนี้ มีไม่กี่คนหรอก ที่จะพูดได้ว่าเป็น Man of the People (คนของประชาชน) ที่แท้จริง หนึ่งในนั้นคือ นายชัชชาติ และสิ่งที่กรุงเทพต้องการ ไม่ใช่ขั้วการเมือง แต่เป็น Man of the People

นับถอยหลัง เลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ 22 พ.ค.65

หมายเลข 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล กับแนวคิด “เมืองที่คนเท่ากัน” พร้อมชนกับต้นตอของปัญหา และจะทำให้ปัญหาของทุนคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม นโยบายหาเสียง ได้แก่

1. เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 60 เป็น 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มสวัสดิการเลี้ยงดูเด็กเป็น 1,200 บาทต่อเดือน เพิ่มเบี้ยคนพิการเป็น 1,200 บาทต่อเดือน 

2. ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ให้บริการวัคซีนฟรี เช่น วัคซีนโรคปอดอักเสบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก 

3. เพิ่มงบชุมชนปีละ 500,000-1,000,000 บาท ตามขนาดของชุมชน ตั้งงบประมาณ 200 ล้านบาทในการพัฒนากรุงเทพฯ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าจะนำไปพัฒนาด้านใดบ้าง

4. สร้างที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง 10,000 ยูนิต ภายใน 4 ปี ให้คนกรุงเทพฯ เช่าได้ระยะยาว 30 ปี 

5. จัดให้มีรถเมล์คุณภาพ ทำตั๋วคนเมืองที่จ่ายในราคา 70 บาท แต่สามารถใช้เป็นค่าโดยสารได้ 100 บาท ผลักดัน “ตั๋วร่วม” ขึ้นรถไฟฟ้าในราคา 15-45 บาทได้ตลอดสายแบบไร้รอยต่อ 

6. ขึ้นค่าเก็บขยะห้างใหญ่ไม่ต่ำกว่า 10 เท่าของที่จ่ายอยู่ในปัจจุบัน เพื่อนำไปปรับปรุงการเก็บขยะครัวเรือน ปรับปรุงจุดทิ้งขยะทั่วกรุงเทพฯ และแก้ไขกลิ่นเหม็นจากโรงงานขยะ

7. ลงทุนศูนย์ดูแลเด็กเล็กศูนย์ละ 5 ล้านบาท ยกระดับให้มีคุณภาพเทียบเท่าเอกชนจัดให้มีครูสำหรับเด็กพิเศษที่พัฒนาการช้า เพิ่มศูนย์รับเลี้ยงเด็กที่ยังขาดแคลนรวมถึงดูแลสวัสดิการครูและพี่เลี้ยงเด็กต้องมีสัญญาจ้างงานประจำ 

8. ด้านการศึกษา เสนอตัดวิชาที่ไม่จำเป็นออก เพิ่มการเรียนรู้นอกห้องเรียน ทำให้เป็นโรงเรียนปราศจากการรังแก (Bullying-Free School)

9. ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง เปลี่ยนงบประมาณอุโมงค์ยักษ์ปีละ 2,000 ล้านบาท เป็นงบปรับปรุงระบบระบายน้ำเพื่อให้ระบายได้เร็วขึ้น 

10. เปลี่ยนที่รกร้างเป็นสวนสาธารณะ ออกข้อบัญญัติให้หน้าอาคารที่จะก่อสร้างใหม่ทุกแห่งต้องมีพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนทั่วไปสามารถใช้ได้ และเปิดพื้นที่สาธารณะให้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับการชุมนุม

11. ทางเท้าดี เท่ากันทั้งกรุงเทพฯ ให้ประชาชนเป็นพยานตรวจรับงาน หากมีการขุดทางต้องคืนกลับมาในสภาพดีเหมือนเดิม ทางเท้าที่แคบกว่า 3.2 เมตร ห้ามตั้งแผงลอย แต่หาพื้นที่ใกล้เคียงให้ค้าขาย และทางม้าลายต้องปลอดภัย

12. เจอส่วยแจ้งผู้ว่าฯ สร้างกรุงเทพฯโปร่งใส ไร้คอร์รัปชั่น การขอใบอนุญาตให้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้บุคคลที่สาม (Third Party) ประเมินการขอใบอนุญาตและตรวจรับงาน

หมายเลข 3 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ สโลแกน “กทม.More ทำกรุงเทพฯ ให้ดีกว่านี้ได้” กับนโยบายหลัก 6 ด้าน ได้แก่...

1.ยกระดับศูนย์สาธารณสุข 69 ศูนย์ และสำนักอนามัยให้ครอบคลุมการบริการอย่างทั่วถึง เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง

2.โรงเรียนคุณภาพใกล้บ้าน เพิ่มหลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาจีนในโรงเรียนปรับให้เป็นโรงเรียน 2 ภาษา จัดตั้งโรงเรียนผสมและเฉพาะทาง มีหลักสูตรเรียนตามความถนัดหรือความชอบ เช่น โปรแกรมเมอร์ ดนตรี ภาพยนตร์ โภชนาการอาหารฟรี มีหลักสูตรหลังเลิกเรียนเพื่อเพิ่มทักษะการใช้ชีวิตและหารายได้เสริม โดย กทม.สนับสนุนประสานภาคเอกชน

3.เชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ล้อ ราง เรือ Free Feeder ทั่วเมือง ระบบตั๋วเชื่อมที่ใช้ได้ทุกเส้นทาง เพิ่มความปลอดภัยด้วยการกำจัดจุดเสี่ยงจราจร นำเทคโนโลยี Ai มาควบคุมระบบการจราจรให้การปล่อยรถเป็นระบบมากขึ้น

4.บริการ Free WiFi ทุกชุมชนและที่สาธารณะ ขอยื่นพิจารณาการอนุญาตต่างๆ จบในที่เดียวภายในเวลาไม่เกิน 30 วันด้วยระบบ AI

5.ลด แยกขยะ จัดแนวทางการเก็บขยะเพื่อเตรียมเป็น กทม. Net Zero จัดระเบียบ Zoning อุตสาหกรรม พาณิชย์ ที่อยู่อาศัย จัดทำสวนทุกเขตพร้อมนักรุกขกรมืออาชีพเพื่อดูแลต้นไม้ใหญ่ทั่วเมือง สนับสนุนปลูกต้นไม้หักภาษีทั่วเมือง ทำบึงหนองบอนให้เป็นกีฬาทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดของ กทม. เสนอสร้าง 50 สวน 50 เขต เพิ่มจำนวนกล้องซีซีทีวีให้ครอบคลุม ลดจุดบอด จุดอับ จัดทำโครงการ Smart pole เสาไฟที่ให้มากกว่าความสว่าง มีเครื่องวัดคุณภาพอากาศ กล้องวงจรปิด เพิ่มสถานีดับเพลิง ปรับปรุงสาธารณูปโภคเอื้อต่อผู้พิการ ผู้ใช้รถเข็น ผลักดันโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำด้วยวิธีดันท่อลอด pipe jacking เพิ่มเติม เพื่อประสิทธิภาพการระบายน้ำในกรุงเทพฯ รวมถึงอุโมงค์ระบายน้ำต่างๆ

6.การหารายได้เข้ากรุงเทพฯ สร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์ที่ไม่พัฒนา แปลงสินทรัพย์เป็นทุน เช่น เปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่ของ กทม. เพื่อให้ กทม.มีรายได้เข้ามาบริหารเมือง นอกจากรองบกลางจากรัฐบาล เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง จัดระบบงบดุลใหม่ ตั้งกองทุน Social Impact Fund โดยซักชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนเพื่อผลตอบแทนทางสังคม จับมือเอกชนเพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่แปลงให้เป็น BOT (Build Operate Transfer) ทุกโครงการโปร่งใส ใช้ระบบ Blockchain และจัดกิจกรรมท่องเที่ยว ถนนคนเดิน 50 เขต ทุกเขตตามอัตตลักษณ์ชุมชน พิจารณาส่งเสริม Street food ไม่กระทบต่อการเดินเท้า ส่งเสริมสนับสนุนเพิ่มโอกาสจ้างงานผู้พิการ และส่งเสริมอาชีพคนพิการ

 

หมายเลข 4 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ กับสโลแกน “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” เปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสวัสดิการที่ดูแลประชาชนเป็นเมืองที่มีความทันสมัย และเป็นเมืองต้นแบบแห่งอาเซียน โดยได้เสนอนโยบาย ได้แก่...

1. ตั้งกองทุนเพื่อการจ้างงานชุมชนในทุกชุมชน

2. ติดตั้งอินเทอร์เน็ตไวไฟ (Wi-Fi) 150,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ

3. จัด 12 เทศกาลใหญ่ และ 50 เทศกาลเขต เพื่อให้กรุงเทพฯ มีรายได้จากการท่องเที่ยว

4. ส่งเสริมศูนย์บริการสาธารณสุขให้มีอุปกรณ์การแพทย์ทันสมัย และมีแพทย์เฉพาะทางประจำการ-โรงเรียนดี อยู่ใกล้บ้าน มีโรงเรียนประจำเขต 50 เขต 50 โรงเรียนสาธิต หลักสูตรการเรียนรู้ขั้นต่ำ 2 ภาษา รู้โคดดิ้ง รู้ AI และมีครูที่ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้

5. ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เอไอควบคุมสัญญาณไฟจราจร เอาเกาะกลางถนนออกเพิ่มช่องจราจร

6. สร้างทางเท้าที่มีมาตรฐานสากล สร้างทางจักรยานลอยฟ้า เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถขี่รถจักรยานไปทำงานได้

7. สร้างแก้มลิงใต้ดิน ใช้เครื่องสูบน้ำแบบอัตโนมัติ แก้ปัญหาการระบายน้ำ

8. ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดมลพิษทางอากาศบริเวณที่มีการก่อสร้าง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดสำหรับการก่อสร้างที่สร้างมลพิษเกินมาตรฐาน ประกาศสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 ระงับการให้บริการรถโดยสารที่สร้างมลพิษเกินค่ามาตรฐาน

9. ส่งเสริมการแยกขยะในครัวเรือน จัดจุดบริการขยะแลกเงินไม่ให้มีขยะตกค้าง

10. เปลี่ยนพื้นที่รกร้างของเอกชนเป็นสวนสาธารณะฉบับกระเป๋า หรือ Pocket Park ให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ ลดภาษีที่ดินให้กับเอกชนที่ให้ กทม.ได้เข้าใช้พื้นที่

'วันชัย' เชื่อ!! รบ.ใหม่หลังเลือกตั้ง ไม่สวิงอำนาจไปสุดขั้ว แต่ต้องสร้างสมดุล ประนอมอำนาจได้กับทุกฝ่าย

นายวันชัย สอนศิริ หรือ 'ทนายวันชัย' สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก 'ทนายวันชัย สอนศิริ' หัวข้อ 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แล้วไง' ว่า...

“เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แล้วไง...

ถึงขนาดเรียกคนเสื้อแดงกลับมาบอกว่าเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ และถ้าเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง จะเป็นรัฐบาล ใครจะขวางได้ 

ก็พูดเอามันไปเรื่อยเพื่อปลุกใจตัวเองและพรรคพวกให้ดูคึกคัก เสมือนหนึ่งว่าจะได้เป็นรัฐบาลในเร็ววันนี้ อำนาจรัฐกำลังจะใกล้มือเข้ามาแล้ว 

เที่ยวปลุกคนกรุงเทพคนต่างจังหวัดไปทั่วตามประสาคนที่ละอ่อนทางการเมืองและไม่เข้าใจในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 272 เขาไม่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยึดบ้านยึดเมืองมีอำนาจรัฐแต่ฝ่ายเดียว จะแลนด์สไลด์ขนาดไหนก็เป็นรัฐบาลโดยลำพังไม่ได้ จะคุยโม้คุยโตนั่นพอได้ แต่จะเป็นจริงๆ คงไม่ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top