Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

“นิพนธ์” เชื่อ เสถียรภาพรัฐบาลยังอยู่ได้ ชี้ จะผ่านศึกซักฟอก ทุกพรรคต้องผิดชอบร่วมกัน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมว.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้า การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกำหนดการจะเป็นไปตามเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสถียรภาพของรัฐบาล น่าเป็นห่วงหรือไม่ เนื่องจากมีเหตุสภาฯล่มบ่อยครั้ง นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องประชุมสภาฯเป็นหน้าที่ส.ส.ต้องช่วยกันรับผิดชอบในเรื่อง ต้องช่วยกันดูแลเรื่ององค์ประชุม

วาเลนไทน์ “บิ๊กตู่” บอกรักคนไทยห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความรัก สามัคคีของไทยทุกคน

ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถือโอกาสวันวาเลนไทน์ เนื่องในวันแห่งความรัก นี้ บอกรักคนไทยห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความรัก สามัคคีของไทยทุกคน ขอให้คนไทยมีความสุข มีความรัก สุข สดชื่นในจิตใจ เพื่อเป็นพลังเกื้อหนุนในการดำเนินชีวิต

“นายกฯ” สั่งเร่งวางโรดแมปสานต่อความร่วมมือไทย-ซาอุดีอาระเบีย บุกตลาดสินค้าไทย พร้อมเสริมกำลังแรงงานไทย เชื่อมั่นต่อยอดความร่วมมือได้อีกทุกด้านที่มีศักยภาพ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งวางโรดแมปเพื่อสานต่อความร่วมมือไทย-ซาอุดีอาระเบีย ภายหลังการเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน และด้านแรงงาน ซึ่งเป็นด้านที่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน โดยได้พิจารณาจัดตั้งกลไกความร่วมมือทวิภาคีเพื่อผลักดันกรอบนโยบายและแผนความร่วมมือต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม 

“โดยการฟื้นความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ ได้ขยายความร่วมมือผ่านการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ โดยด้านการค้าการลงทุน จะเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าและธุรกิจของไทย ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกของไทยไปยังซาอุดีอาระเบียในปี 2565 จะมีการขยายตัวกว่า 6.2% สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่คาดการณ์ว่า ในปี 2565 ไทยจะมีโอกาสเติบโตได้ถึงร้อยละ 15 และจะมีมูลค่าการส่งออกกว่า 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการส่งออกสินค้าไปยังซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการค้าการลงทุน การทำธุรกิจและการท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อต่อยอดไปยังสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักและทำการตลาดได้มากขึ้น เนื่องจากสินค้าไทยมีคุณภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของซาอุดีอาระเบียได้โดดเด่นที่สุดในอาเซียน

โดยมีสินค้าเป้าหมาย 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. สินค้าเกษตร โดยเฉพาะอาหารฮาลาล เช่น ข้าว อาหารทะเลแปรรูป ไก่สด ผลไม้ กาแฟ ขนมจากน้ำตาล เครื่องปรุงรส อาหารปรุงแต่งจากธัญพืช 2. สินค้าอุตสาหกรรม ประเภทยานยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้า 3. ภาคบริการ ผ่านโรงพยาบาลและบริการทางการแพทย์ ตลอดจนโรงแรมหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งไทยล้วนมีศักยภาพในการผลิตและพร้อมส่งออก รวมถึงผ่านซาอุดีอาระเบียไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง “โฆษกรัฐบาลกล่าว

นานธนกร กล่าวว่า ด้านความคืบหน้าแรงงานไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อตกลงความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานไทยเข้าทำงานในซาอุดีอาระเบีย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานงานกับสำนักงานแรงงานของประเทศซาอุดีอาระเบีย ในการหารายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงาน ประเภทงาน ระดับทักษะฝีมือ และคุณสมบัติเบื้องต้นของแรงงานที่นายจ้างซาอุดีอาระเบียมีความต้องการ รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพและปรับเพิ่มทักษะฝีมือแก่แรงงานไทย (upskill & reskill) เพื่อให้สอดรับกับความต้องการแรงงานของซาอุดีอาระเบีย

เชียงใหม่ - ‘ซิลเวีย’ ศิรดา โล บูลโย่ นักศึกษาแพทย์ มช. คว้ามงกุฎนางสาวเชียงใหม่!! ประจำปี 2565

นางสาวศิรดา โล บูลโย่ ‘ซิลเวีย’นักศึกษาแพทย์ มช.  คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 พ่วงรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน พร้อมทำหน้าที่ทูตสายสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

บรรยากาศช่วงค่ำวันที่  13 กุมภาพันธ์ 2565  นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานปิดการประกวด นางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ปีที่ 89 ของการเฟ้นหาผู้หญิงไทยเชื่อมโยงอัตลักษณ์ความเป็นล้านนาสู่สากล ในรอบชิงชนะเลิศ ณ บริเวณลานกิจกรรมตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกัน มาให้กำลังใจและรับชมการ ประกวดอย่างคึกคัก

นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เรามีประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมล้านนารวมถึงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ อันเป็นอัตลักษณ์ทรงคุณค่า มีเสน่ห์ที่โดดเด่น เป็นปัจจัยที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งมาสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมกัน เกิดการประชาสัมพันธ์กันในวงกว้าง จนติดอันดับต้น ๆ ในการจัดอันดับเมือง ที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกเป็นประจำทุก ๆ ปี

จังหวัดเชียงใหม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกวดครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมที่จะช่วยประชาสัมพันธ์เชียงใหม่ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ (แลนด์มาร์กแห่งใหม่ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา)ขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ตามคอนเซปต์ 89 ปี นางสาวเชียงใหม่ ความงามล้านนาสู่สากลได้เป็นอย่างดี ขอแสดงความยินดีกับนางสาวเชียงใหม่คนที่ 89 และผู้ที่ได้รับตำแหน่งทุก ๆ ตำแหน่ง

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า"การประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565"เพื่อขับเคลื่อนการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งรองรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลและนโยบายการเปิดเมืองของ จังหวัดเชียงใหม่ (CHARMING Chiang Mai) องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีความพร้อมอย่างยิ่งในการจัดงาน "นางสาวเชียงใหม่ 2565" การประกวดในครั้งนี้เป็นปีที่ 89 ซึ่งถือว่าเป็นเวทีการประกวดที่ยาวนานที่สุดระดับต้นๆของประเทศไทย

การประกวดในครั้ง นี้ได้เปิดรับสมัครสาวงามทั่วประเทศ ได้ลงชิงชัย และแสดงศักยภาพของผู้หญิงไทยในการเชื่อมโยงอัตลักษณ์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านการท่องเที่ยว ในช่วงเก็บตัวได้มีการประชาสัมพันธ์สินค้า บริการ ของผู้ประกอบการท้องถิ่น ผ่านสื่อต่าง ๆ ไปยังผู้ชมทั่วประเทศ สนับสนุนเชิงพาณิชย์ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม เมืองแห่งมรดกโลก นำไปซึ่งการกระตุ้นในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ของเชียงใหม่ต่อไป

ขอแสดงความยินดีกับนางสาวเชียงใหม่ คนที่ 89 และผู้ได้รับตำแหน่งทุกตำแหน่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการสนับสนุนจากทุก ๆ ท่านอีกครั้ง ในโอกาสต่อไป

และผู้ชนะเลิศการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 30 นางสาวศิรดา โล บูลโย่ คว้ามงกุฎเพชร พร้อมสายสะพาย ป้ายเกียรติคุณ และเงินรางวัล 100,000 บาท ไปครอง นอกจากนี้ ยังคว้ารางวัลพิเศษ รางวัลขวัญใจสื่อมวลชนไปครองอีกด้วย

สำหรับรางวัลรองอันดับ 1 นางสาวเชียงใหม่ ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 10 นางสาววิชญฎา วิชญพงษ์กุล พร้อมคว้ารางวัลขวัญใจมหาชน

รางวัลรองอันดับ 2 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18 นางสาวสุพรรณิการ์ จำเริญชัย

รางวัลรองอันดับ 3 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 26 นางสาวปฏิมาภรณ์ ขยันชม

และรางวัลรองอันดับ 4 ได้แก่ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 29 นางสาวปิยมน ปกปิงเมือง

‘คนรุ่นใหม่’ คิดอย่างไรกับความสัมพันธ์ไทยจีน!! | Click on Clear THE TOPIC EP.147

📌มองสัมพันธ์ ‘ไทย-จีน’ ผ่านสายตาคนรุ่นใหม่!! ไปกับ ‘สรวง สิทธิสมาน’ ตำแหน่งนายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน!!

📌ใน Topic : ‘คนรุ่นใหม่’ คิดอย่างไรกับความสัมพันธ์ไทยจีน!!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

ระยอง - ความคืบหน้าในการขจัดคราบ ‘น้ำมันรั่ว’! หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์และความคืบหน้าในการขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2 เมื่อ 10 ก.พ. ซึ่งน้ำมันลอยอยู่กลางทะเลลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง เจ้าหน้าที่ได้นำ Boom ล้อมคราบน้ำมันบริเวณจุดเกิดเหตุและใช้สาร dispersant ฉีดพ่นเพื่อสลายคราบน้ำมันที่รั่วไหล ซี่งคราบน้ำมันยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเนื่องจากไม่มีกระแสลม จุดพิกัด 12°36'36"N  101°18"23E มีระยะห่างจากชายฝั่ง 3.67 กิโลเมตร ห่างจากชายหาดแม่รำพึงประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งเกาะเสม็ด 15 กิโลเมตร ซึ่งมีบูมที่ทำการล้อมคราบฟิล์มน้ำมัน รวมพื้นที่ 0.36 ตารางกิโลเมตร บริเวณดังกล่าวมีเรือเฝ้าระวังประจำจุดรั่วไหล จำนวน 11 ลำ ประกอบด้วย เรือ Boom จำนวน 6 ลำ และเรือพ่นสารเคมี จำนวน 5 ลำ และมีการกั้น Boom จำนวน 3 ปาก และมีการกั้น Boom บริเวณหน้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จำนวน 2 ปาก

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจติดตามเส้นทางการแพร่กระจายน้ำมันทางชายหาด และ คืนที่ผ่านมา กำลังพลจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ สำรวจชายหาด ทำความสะอาด เก็บขยะบริเวณโดยรอบชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง

'กอบศักดิ์' ชี้ 3 ปัจจัยเสี่ยงในโลกเศรษฐกิจ หากเหตุ 'รัสเซีย-ยูเครน-พันธมิตร' ปะทุ!!

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊กถึงปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจหากเกิดสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ว่า ...

ถึงเวลาที่เราต้องคิดเรื่อง Plan B ในกรณีของยูเครน !!!

ไม่มีใครอยากให้เกิดความขัดแย้ง ไม่อยากให้เกิดสงคราม อยากให้มีทางลงสวยๆ ที่ทุกคนตกลงยอมความกันได้ 

แต่จากสัญญาณต่างๆ ที่ออกมา ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

1.) การอพยพคนออกจากยูเครนของสถานทูตต่างๆ ซึ่งล่าสุด อิสราเอล ที่มีหน่วยข่าวกรองดีที่สุดประเทศหนึ่ง กำลังเร่งนำคนอิสราเอลออกยูเครนภายในวันอังคารที่จะถึงนี้ เช่นกัน 

2.) การเคลื่อนไหวของกองทัพและยุทโธปกรณ์ของรัสเซียรอบๆ ยูเครน

3. การประชุมล่าสุด 62 นาทีระหว่างประธานาธิบดี Biden และ Putin ก็ไม่ได้มี breakthrough ซึ่งส่งผลอะไรที่จับต้องได้ในเชิงการเปลี่ยนใจ แต่ได้เป็นโอกาสในการส่งสัญญาณเตือนตรงๆ ว่า US will react decisively and impose swift and severe costs if Russia invade Ukraine.  

ทั้งหมดหมายความว่า เราควรจะเตรียมคิดไว้เบื้องต้นว่า จะต้องปรับตัวอย่างไร หากสถานการณ์ที่ยูเครนลุกลามมากขึ้น

สิ่งที่จะตามมาในเชิงเศรษฐกิจ ที่เราต้องรับมือ เมื่อปัญหาเริ่มลุกลามขึ้น คือ

1.) ความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งในส่วนหุ้น และ สินทรัพย์ทางเลือก

2.) ราคาน้ำมันและราคา Commodities บางตัวที่จะเพิ่มขึ้น (น้ำมันอาจจะทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล) จากการที่รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกในน้ำมัน ก๊าซ ที่ยุโรปพึ่งพา และเป็นแหล่งผลิตสินค้า Commodities บางตัว เช่น พาลาเดี่ยม ที่จะมีนัยไปถึงการผลิต Chip ในตลาดโลก  

ทั้งหมดนี้ จะมีผลต่อเนื่องไปยังปัญหา Global supply disruption รวมทั้ง เพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและทิศทางนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ 

3.) การไหลเวียนของ Fund Flows ในโลกไปยัง Safe Haven ต่างๆ ทั้งในส่วนของ ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะ ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีความลึกมีสภาพคล่องที่ดี และจะส่งผลไปถึงค่าเงินดอลลาร์ต่อไป

‘ทิพานัน’ ซัด ‘เพื่อไทย’ จงใจบิดเบือน ปัดรัฐบาลถังแตก ยันติดโควิดยังรักษาฟรี

“ทิพานัน” ซัดเพื่อไทยฆ่าคนทั้งแผ่นดิน จงใจสื่อสารบิดเบือนรัฐบาลปลดโควิดจากการรักษาฟรี ชี้เข้าข่ายผิดพรบ.คอมพ์ฯ - ผิดมนุษยธรรม ยันหากปรับออกจากภาวะฉุกเฉิน (UCEP) เพราะสถานการณ์คลี่คลาย ย้ำผู้ป่วยโควิดยังรับการรักษาฟรีทุกคน ตามสิทธิเดิมที่มีได้

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีการเผยแพร่รูปภาพตัดตอนบิดเบือนข้อความให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดว่าจะมีปลดโควิดจากการรักษาฟรีว่า เป็นการสื่อสารที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ที่นอกจากจะแสดงถึงมาตรฐานการสื่อสารของพรรคเพื่อไทยที่ตกต่ำลงแล้ว ยังส่งผลเสียหายอย่างประเมินไม่ได้ต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนที่หลงเชื่อข้อความดังกล่าว แล้วไม่ยอมเข้ารับการรักษาเพราะคิดว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำเพื่อประชาชนตามที่มักชอบกล่าวอ้าง 

“พรรคเพื่อไทยต้องระวังการตัดตอนข้อความไปสื่อสารเป็นภาพ แม้จะมีข้อความด้านใน แต่สะท้อนความจงใจบิดเบือนและสร้างความเข้าใจผิด เพียงแค่หวังจะโจมตีทางการเมืองอย่างนั้นหรือ อาจทำให้ประชาชนรู้สึกสิ้นหวัง หมดสิ้นหนทาง ไม่กล้าไปรักษา จนอาจเป็นการฆ่าคนทั้งแผ่นดินให้ตายทั้งเป็น เป็นการผิดหลักมนุษยธรรมที่ควรพึ่งมีต่อชีวิตมนุษย์ทั้งสิ้น" น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ที่สำคัญกรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดมาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” 

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงคือ แม้ในอนาคตอาจมีการปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ออกจากภาวะฉุกเฉินวิกฤติรักษาทุกที่ (UCEP) มาเป็นการรักษาตามสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพ ผู้ป่วยโควิดก็ยังสามารถเข้ารับการรักษาฟรีทุกคน สามารถเข้ารักษาตามระบบตามสิทธิสุขภาพของแต่ละคน ได้แก่ สิทธิสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม บัตรทอง ฯลฯ และหากป่วยเป็นโควิดแล้วมีอาการฉุกเฉินด้วย เช่น มีไข้สูง หายใจไม่สะดวก หอบเหนื่อย ความดันต่ำ ไม่ค่อยรู้สึกตัว รู้สึกจะเป็นลม ก็สามารถเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบได้ด้วยอาการฉุกเฉินวิกฤตินั้น ทางกองทุนสุขภาพของผู้ป่วยรายนั้นๆ จะตามไปดูแลให้

‘วอลมาร์ต’ รัฐฟลอริด้า ใช้มาตรการเด็ด ล่าม แพ็กเนื้อสเต๊ก ด้วยลวดเหล็กกันขโมยฉก

รายงานข่าว เผยว่าห้างวอลมาร์ต รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ปกป้องแพ็กบรรจุริบอายสเต็กราคา 20 ดอลลาร์ ด้วยลวดตาข่ายโลหะหุ้มห่ออีกชั้น เพื่อไม่ให้ถูกฉกฉวย หรือขโมยออกไปง่ายๆ ท่ามกลางอัตราการเกิดอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Florida Walmart ให้กับแพ็กเนื้อริบอาย (ribeyes) ในราคา 20.83 ดอลลาร์ (682 บาท) ด้วยการใช้ลวดตาข่ายโลหะหุ้มห่อไว้อีกชั้น “ตาข่ายและแท็กความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้องกันการโจรกรรมเนื่องจากอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ”

ตามรายงานข่าว  Michael Fromhold ซึ่งเป็นลูกค้าจากฟลอริด้า พอเห็นแล้วตกตะลึงเมื่อสังเกตว่าแพ็กเนื้อสัตว์ ถูกล็อกด้วยเหล็กลวดหุ้มไว้อีกชั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นการพยายามอย่างมากที่จะหยุดยั้งจากการถูกขโมย

“เทพไท” หนุนเลื่อนปลดโควิด ออกจากโรคฉุกเฉิน ชี้สวนทาางสภาพความเป็นจริง ส่งผลกระทบต่อปชช.ที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟสบุ๊กว่า เห็นด้วยกับแนวความคิดของนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่จะเสนอให้รัฐบาลเลื่อนการยกเลิกโรคโควิด-19 ออกจากกลุ่มโรคฉุกเฉิน ตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ในวันที่ 1 มีนาคม เป็นวันที่ 1 เมษายน  ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่า รัฐบาลไม่ควรกำหนดห้วงเวลา การรักษาโรคโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉิน อยากให้รัฐบาลได้รักษาพยาบาล ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จะลดลงเหลือยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งประเทศ วันละไม่เกิน 3,000 คน

และหากพิจารณายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 4กุมภาพันธ์ จนถึงวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นจำนวนหลักหมื่นทุกวัน และนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ยังมียอดผู้ติดเชื้อสูงถึง 14,900 คน การจะยกเลิกการรักษาโรคโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉินนั้น เป็นแนวความคิดที่สวนทาง กับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

“ผมอยากให้รัฐบาลได้ชะลอ และรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ออกไปก่อน จนกว่ามีความมั่นใจแล้วว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริงๆ ถึงจะยกเลิกการรักษาโรคโควิด-19 ออกจากกลุ่มโรคฉุกเฉิน หากรัฐบาลยังตัดสินใจยกเลิกอย่างเร่งด่วนแบบนี้ ก็จะเกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ไม่สามารถเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลที่มีคุณภาพได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top