Thursday, 15 May 2025
TheStatesTimes

“นายกฯ” เร่ง เบิกจ่ายงบประมาณ สั่ง รมต.ติดตามให้ตรงเป้า ลดปัญหาเบิกจ่ายพลาด 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบ ตามที่สำนักงบประมาณ รายงานภาพรวมการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2565 ไตรมาสที่1 เดือนต.ค.-ธ.ค.2564 พบว่างบประมาณรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน มีการเบิกจ่าย ก่อหนี้ผูกพันสูงกว่าเป้าหมาย โดยสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19ส่งผลให้หลายหน่วยงานต้องปรับแผนการปฏิบัติงาน การใช้จ่ายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทำให้บางส่วนเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ประมาณเป็นไปตามเป้าหมาย 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกฯกำชับให้แต่ละกระทรวง หรือหน่วยงาน พิจารณาแนวทางดำเนินงาน กำหนดโครงการที่สอดคล้องกับปริบทใหม่ โดยให้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสำนักงบประมาณ คือ เร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง งบลงทุนรายการปีเดียว ให้ก่อหนี้ผูกพันให้เสร็จภายในไตรมาสที่2ของปีงบประมาณ เดือนม.ค.-มี.ค.2565 และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด รัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย กำกับหน่วยรับงบประมาณ ดูแล เร่งรัด ติดตามและประเมินการปฏิบัติงานการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งสำนักงบประมาณนำผลการเบิกจ่ายที่เกิดขึ้นมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณางบประมาณปี 2566 

“เทพไท" หนุนรัฐเปิดคนละครึ่งเฟส 5 ให้วงเงิน 5 พันบาท กระตุ้นศก. ช่วยเหลือปชช.จากโควิดที่อาจเกิดรอบใหม่ได้ เผยเข้าร่วมสิทธ์เช่นกัน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากการที่รัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งเฟส 4 รับวงเงินใช้จ่ายคนละ 1,200 บาท ที่เว็บไซต์ คนละครึ่ง และแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ครบ 1 ล้านสิทธิ์แล้ว เมื่อเวลา 15.55 น.ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นั้น นับว่าเป็นความสำเร็จที่การใช้สิทธิ์ลงทะเบียนของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ครบตามเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ คือ 29 ล้านคน (จากยอดผู้ที่เคยเข้าร่วมคนละครึ่งเฟส 3 จำนวน 27.98 ล้านคน) แสดงให้เห็นว่าโครงการคนละครึ่ง ยังเป็นที่นิยมของพี่น้องประชาชน เป็นจำนวนมาก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชน มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งผู้ซื้อสินค้า และกลุ่มแม่ค้า ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเป็นจำนวนมาก 

“ส่วนตัวก็ได้ใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ด้วย เพราะตอนเปิดให้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ยังขาดจำนวนผู้ใช้สิทธิ์อยู่ประมาณ 2 ล้านคนอยู่หลายวัน จึงได้ทดลองใช้สิทธิ์ ในโครงการคนละครึ่งในเฟส 3 ด้วย แต่ได้ใช้สิทธิ์ไม่ครบตามวงเงิน4,500บาท และตอนนี้ได้ลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมโครงการ ผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" รับวงเงินใช้จ่าย 1,200 บาท แล้ว ได้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งกับร้านค้าขายกล้วยปิ้ง ร้านขนมหวาน อยู่เป็นประจำ”นายเทพไท ระบุ

“โฆษกรัฐบาล” โว “บิ๊กตู่” ปลื้มปชช.แห่ใช้คนละครึ่ง เฟส 4 เผย ลงทะเบียนเต็ม 29 ล้านสิทธิ ใช้จ่าย 10 วัน 2.3 หมื่นล้านบาท 

นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยินดีที่มีกระแสตอบรับจากประชาชน พอใจและชื่นชอบมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ของรัฐบาล  3 โครงการ หลังเปิดให้ใช้จ่ายเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าการใช้จ่ายถึงวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้สิทธิสะสม  34.42 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 23,032.55 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 22.23 ล้านคน

ยอดใช้จ่ายสะสม 20,612.3 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 10,433.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 10,178.5 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 11.32 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,248.45 ล้านบาท และ 3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 0.87 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 171.80 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่เปิดลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไป ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ลงทะเบียนครบแล้วจำนวน 29 ล้านสิทธิ ซึ่งประชาชนทั่วไปฯที่ลงทะเบียนโครงการฯ ระยะที่ 4 สำเร็จ จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.-30เม.ย. ส่วนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ได้ต่อเนื่อง และต้องเริ่มใช้สิทธิ ภายในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ

"บิ๊กตู่" ชวน คนไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม "เอเปค 2022" กำชับ หน่วยงานขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตลอดปี 2565 ของไทย (APEC 2022)ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวในการประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ว่าการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยเริ่มต้นแล้ว โดยให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่เจ้าภาพ ร่วมมือกันขับเคลื่อนผลประชุมให้เป็นรูปธรรม และเชื่อมั่นว่าความร่วมมือ และความตั้งใจจะทำให้การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยประสบความสำเร็จและบรรลุผลลัพธ์ดังที่มุ่งหวังไว้

นายธนกร กล่าวว่า การประชุมเอเปค และการประชุมที่เกี่ยวข้อง มีหัวข้อหลักของการประชุม คือ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.” ประเด็นสำคัญ คือ ทำให้เอเปคเปิดกว้างสู่ทุกโอกาส เชื่อมโยงในทุกมิติ สร้างสมดุลในทุกด้าน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาความไม่สมดุลที่เห็นเด่นชัดขึ้นจากวิกฤติโรคระบาด และการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy เน้นการค้าการลงทุนแบบเสรี และ การกระชับความร่วมมือในการรวมกลุ่มเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมโยงในภูมิภาค อย่างปลอดภัย ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนการทำงานในทุกมิติ 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯเชื่อมั่นว่าความร่วมมือ บูรณาการการทำงานเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม จะส่งผลให้การดำเนินงานมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมจากคณะอนุกรรมการทุกด้าน และในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย ผลักดันและส่งเสริมผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนคนไทย ทั้งด้านการค้าการลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยีและดิจิทัล การพัฒนาชุมชน สตรี สิ่งแวดล้อม

“ธนกร” ซัด "เพื่อไทย" มโน รัฐบาลอยู่ไม่ถึงจัด ”เอเปค” ยัน “นายกฯ” ไม่คิดยุบสภาฯ ชี้ ทำเสียเงินจัดลต.อื้อ เย้ย ฝ่ายค้านงัดข้อมูลตัดแปะ-ซักฟอกไร้นำ้หนัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะอยู่ถึงเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC 2022)ต้อนรับผู้นำนานาชาติสู่ไทยในเดือนพ.ย.นี้ เพราะเจอทั้งศึกในและศึกนอก ว่า การที่พรรคการเมือง มีหลายกลุ่ม หลายก๊วน และแยกตัวออกไปอยู่กับพรรคอื่น ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง

เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยน่าจะเข้าใจดีที่สุด เพราะสมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย ก็มีหลายกลุ่มหลายก๊วน จนต้องแยกแกนนำพรรคแต่ละคนไปคุมแต่ละก๊วน เกิดปัญหามากกว่าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่อยากให้นายประเสริฐ รีบมโนว่าพรรคพปชร. จะต้องเป็นเหมือนพรรคเพื่อไทย เพราะอุดมการณ์ทางการเมือง ความเด็ดขาดกับการทุจริตคอรัปชั่น ไม่เหมือนกับพรรคเพื่อไทย ที่มีอดีตรัฐมนตรีถูกตัดสินจำคุก อย่างแน่นอน

นายธนกร กล่าวว่า ยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์ ยังทำหน้าที่นายกฯบริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยุบสภาฯเพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชน มีแต่จะเสียงบประมาณจัดการเลือกตั้งใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของพรรคการเมืองบางพรรค คนบางกลุ่ม ที่แอบหวังว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาบริหารประเทศบ้าง ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล ยังเหนียวแน่น มีแต่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่พยายามยุยงรายวัน หวังจะให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองให้ได้ ทั้วที่รู้อยู่เต็มอกว่า เป็นแค่ความฝัน แต่ก็ขอให้ได้ฝัน

"โฆษกรัฐบาล" เผย เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ เด็ก-ครู-บุคลากรทางการศึกษา ให้ ร.ร.เป็นพื้นที่ปลอดภัย  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในภาพรวม ว่า ขณะนี้ เด็กนักเรียน อายุ 12-18 ปี รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 4,129,663 คน คิดเป็น 95.11 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จำนวน 3,100,458 คน คิดเป็น 71.41 เปอร์เซ็นต์ ส่วนครูและบุคลากรทางการศึกษา รับวัคซีน จำนวน 1,027,269 ราย เข็มที่ 1 แล้ว99.99 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 แล้ว 79.45 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเน้นย้ำให้ทุกโรงเรียน เป็นพื้นที่ปลอดภัย 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯเน้นว่าการเปิดเรียนในที่ตั้ง(onsite)  ให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยยึดหลัก 6-6-7เพื่อดูแลเด็กนักเรียนให้ครอบคลุมที่สุด และจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด คือ 6มาตรการหลัก DMHT-RC ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก, ล้างมือ,คัดกรองวัดไข้ ,ลดการแออัด ,ทำความสะอาด  

"แรมโบ้" หนุน "สมชาย” แนะ4 ข้อ ยื่นสอบส.ส.ทิ้งหน้าที่ อ้าแขน พร้อมช่วยปชช.ร้องป.ป.ช.ตรวจสอบ ชี้ ผิดจรรณยาบรรณร้ายแรง ลั่น ต้องดัดหลังส.ส.สันหลังยาว อย่าให้มีที่ยืนในสภาฯ  

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กถึงการประชุมสภาฯโดยฝ่ายค้านขอตรวจสอบองค์ประชุมรัฐบาล จนเกิดปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง โดยระบุว่าแก้ไม่ยาก ไม่ต้องยุบสภา แต่ให้มีคนรวบรวมข้อมูลนำข้อกฎหมาย ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงและส่งดำเนินคดีต่อศาลฎีกา

ซึ่งมีแนวทางดำเนินการ 4 ขั้นตอน ว่า ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของนายสมชาย และถึงเวลาที่ประชาชน ผู้เป็นนายจ้างตัวจริงเสียงจริง ต้องดำเนินการจัดการกับพวก ส.ส.สันหลังยาว เพราะทุกคนรับเงินเดือน ครบทุกบาททุกสตางค์ แต่ไม่ยอมทำงานตามที่นายจ้างได้ว่าจ้าง แบบนี้ส.ส.เหล่านี้ทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง ผิดต่อจรรยาบรรณ การทำหน้าที่ส.ส. ที่ได้ชื่อว่าผู้ทรงเกียรติ แต่เวลานี้หลายคนทำตัวยิ่งกว่ากุ๊ยข้างถนน ถึงเวลาทำงานก็ไม่ทำงาน และยังเอาหน้าที่การงานมาเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและนายใหญ่ แบบนี้จะอยู่ไปทำอะไร  

“หากมีนักกฎหมายคนใด หรือประชาชน ที่พร้อมจะเดินหน้าดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผมพร้อมที่สนับสนุนเต็มที่ จะต้องให้บทเรียนกับส.ส.สันหลังยาว ว่าถึงเวลานายจ้างตัวจริงไม่ทนอีกต่อไป ถึงเวลาที่ประชาชนต้องแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการส.ส. ที่ทำเพื่อตนเอง และพวกพ้อง แต่ต้องการ ส.ส. และนายกฯที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แบบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯ หากมีนักกฎหมาย หรือ ประชาชน จะดำเนินการเรื่องนี้ สามารถประสานมาที่ผมได้ตลอดเวลา ยินดี ช่วยเหลือสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อจัดการ กับสส.บางคนบางพรรคที่ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบต่อประชาชนเหล่านี้ไม่ให้มีที่ยืนในสภาฯอันทรงเกียรติต่อไป ”นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอ4 ข้อ คือ 1.ยื่นคำร้องต่อสภาฯเพื่อตรวจสอบรายชื่อและพฤติกรรมว่ามีใครบ้าง ที่ไม่ร่วมประชุมไม่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมหรือลงมติ เป็นประจำ จนถือเป็นการจงใจทำให้สภาผู้แทนราษฎรล่ม17ครั้ง และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายหรือขัดขวางให้สภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทางนิติบัญญัติได้ 2.ตรวจสอบและสรุปการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนั้นว่า เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 234(1) และมาตรา 235 (1) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28 (1) และมาตรา 87 และมีความผิดร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระฯ พ.ศ.2561 หมวด 1 ข้อ 7 หมวด 2 ข้อ 12 ข้อ 17 ข้อ21 และข้อ22  และข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรราษฎรและกรรมาธิการ พศ. 2563 ข้อ 4 ข้อ7 ข้อ8 ข้อ14 หรือไม่

“บิ๊กตู่” หนุนเอกชนใช้ประโยชน์ RCEP เพิ่มยอดการค้า

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนให้ภาคเอกชนใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) อย่างสูงสุด ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาแล้วในหลายด้านด้วยกัน ทั้งการสร้างความเข้าใจกฎเกณฑ์ทางการค้าต่าง ๆแก่ผู้ประกอบการ การช่วยวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การชี้แนะแนวทางพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด RCEP อย่างเต็มที่ และกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน

สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิก RCEP จะได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งจากการช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและโอกาสส่งออกสินค้าและบริการ เกษตรกรไทยมีโอกาสขายสินค้าเกษตรได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจะมีทางเลือกซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลาย และส่งเสริมบทบาทของไทยในฐานะห่วงโซ่การผลิตที่สำคัญของภูมิภาค 

ทั้งนี้ ประเทศสมาชิก จะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย จำนวน 39,366 รายการ โดยลดภาษีเหลือ 0% ทันที จำนวน 29,891 รายการ อาทิ ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง น้ำผลไม้ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสทางการส่งออกให้กับสินค้าไทย 

“จุรินทร์” ควง “ดร.เอ้-ผู้การแต้ม” ออนทัวร์หลักสี่  ยันส่ง “สุชัชวีร์” ลงชิงผู้ว่าฯ กทม.แน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง ประกาศ ปชป.ทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่โจมตี ไม่ด้อยค่าใคร เผยส่ง “พล.ต.ต.วิชัย” ลงส.ส.เขตหลักสี่

ที่เคหะแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคฯ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคฯ นายธราธพ ชาตรี  ว่าผู้สมัคร สก. เขตหลักสี่ และ นายอนันตชาติ บัวสุวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร สก. เขตจตุจักร ลงพื้นที่หลักสี่ ร่วมมอบ “ถุงน้ำใจ ปชป.” ให้กับพี่น้องในชุมชนเคหะแจ้งวัฒนะ

นอกจากนั้นยังมีแกนนำพรรค ทั้งนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯดูแลกม. ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคฯ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค นางเยาวลักษณ์ โตอนันต์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดปราจีนบุรี นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท นายแทนคุณ จิตต์อิสระ นายศิววงศ์  วงศ์พิชญา ว่าผู้สมัคร ส.ก. เขตดอนเมือง นายเรวัตร  คงชาติ ว่าผู้สมัคร ส.ก. เขตบางซื่อ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักด้วยความอบอุ่น มีประชาชนมารอต้อนรับ พร้อมขอถ่ายรูปร่วมกับแกนนำของพรรคอย่างใกล้ชิด 

โดยนายจุรินทร์ กล่าวกลับชาวเคหะฯ ว่า ตนรู้ว่าไม่กี่ตังค์ แต่ซาบซึ้งประทับใจ เพราะคนให้มากระซิบบอกว่า ไม่มีดอกไม้ เลยไม่รู้จะเอามาแทนดอกไม้ ก็เลยให้ขนมเวเฟอร์ไว้ก็แล้วกัน ต้องขอขอบคุณด้วยความประทับใจอย่างยิ่ง

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการส่งตัวผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ ในการเลือกตั้งสมัยหน้าว่า ได้พูดคุยกันไว้ในเบื้องต้นแล้ว ต่อไปก็จะนำเข้าสู่กระบวนการตามข้อบังคับพรรคไปตามปกติว่าจะส่ง พล.ต.ต.วิชัย ลงสมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ส่วนผู้สมัคร ส.ก. เขตจัตุจักร และเขตหลักสี่ ก็ได้ประกาศตัวแล้ว คือ นายอนันตชาติ และนายธราธพ ส่วนผู้ว่าฯกทม. ก็มีความชัดเจนอยู่แล้วคือ นายสุชัชวีร์ 

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า จากการที่นายสุชัชวีร์ ถูกเล่นงานทางการเมือง จนมีข่าวลือจากคนนอกพรรคว่าอาจมีการพิจารณาเปลี่ยนตัวผู้สมัครนั้น นายจุรินทร์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยน เพราะก่อนที่จะเปิดตัว “ดร.เอ้” ได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการตามข้อบังคับพรรคจบสิ้นแล้ว จนกระทั่งคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบจึงนำไปสู่การเปิดตัว ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของพรรคครบถ้วนแล้ว และพรรคก็ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนตัว ตรงนี้ต้องขอยืนยัน ถัดจากนี้รอว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทมเมื่อไหร่ ก็จะไปสมัครตามนั้น รวมทั้ง ส.ก. อีก 50 เขต ที่ได้เปิดตัวไปแล้วด้วย

"กองทัพเรือ" สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมันทะเลระยองอีกครั้ง

พล.ร.ท..ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ท่อน้ำมันของบริษัท SPRC รั่วไหลอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา  กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยจัด เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ขึ้นบินนำสารเคมี DASIC international SLICKGONE ไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และได้จัดกำลังพลจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) จำนวนผลัดละ 40 นาย เข้าประจำพื้นที่บริเวณหาดแม่รำพึง จ.ระยอง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากเกิดกรณีคราบน้ำมันที่รั่วไหลมาถึงบริเวณชายหาดอีกครั้ง โดยจะทำการสำรวจบริเวณชายหาดตลอด 24 ชั่วโมง และเก็บขยะร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัท SPRC ซึ่งกำลังพลกองทัพเรือ ได้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนปฏิบัติการอีกครั้งตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top