Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

'บิ๊กโจ๊ก'​ ลุย!! ตรวจเรือประมงพาณิชย์ทั้งประเทศ 10,000 ลำ วางระบบให้มีมาตรฐาน สร้างความมั่นใจ ประมงไทยไร้ IUU

(3 ก.พ.65)​ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.​ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง IUU เป็นประธานการประชุม การตรวจเรือประมงแบบบูรณาการ ณ ห้องประกุลาดำ ชั้น​ 7 อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมงโดยมีหน่วยงานเข้าร่วมประกอบด้วย กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)

ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 กำหนดให้เรือประมงพาณิชย์ที่จะออกทำการประมงต้องได้ใบอนุญาตจากกรมประมง คราวละ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 31 มีนาคม โดยได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมา 3 ครั้งแล้ว ได้แก่ ช่วงปี 2559-2561 ช่วงปี 2561-2563 และช่วงปี 2563-2565 โดยที่ใบอนุญาตทำการประมงกำลังจะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 31 มีนาคม 2565 เจ้าของเรือประมงพาณิชย์จึงต้องยื่นขอใบอนุญาตรอบใหม่ (2565-2567 ) ซึ่งกรมประมงจะต้องออกใบอนุญาตให้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565

ในการยื่นขอใบอนุญาตทำการประมงดังกล่าว ปกติกรมประมงจะดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานเครื่องมือประมงและจัดเก็บข้อมูลเรือประมงทุกลำ แต่ยังมีข้อมูลบางประการที่ต้องการความรู้ ความชำนาญ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มาร่วมเติมเต็มให้ระบบตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นในการขอรับใบอนุญาตทำการประมงของเรือประมงพาณิชย์​ ทาง​ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  จึงได้ประสานงานให้บูรณาการการตรวจเรือประมงพาณิชย์จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งระบบ ครบวงจร โดยกรมประมงรับผิดชอบการตรวจมาตรฐานเครื่องมือประมง  กรมเจ้าท่ารับผิดชอบการตรวจอัตลักษณ์เรือประมง และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานรับผิดชอบการตรวจเรือประมงเพื่อให้แรงงานบนเรือประมงมีสภาพการจ้างที่สอดคล้องตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ยิ่งไปกว่านั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผช.ผบ.ตร. ยังได้จัดชุดปฏิบัติการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมการตรวจเรือประมงในครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ประมงไทย ไร้ IUU อย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายการตรวจเรือประมงพาณิชย์ทุกลำที่ขอรับใบอนุญาตทำการประมง จำนวนกว่า 10,000 ลำ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2565 นี้ ซึ่งเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ทุกท่านสามารถนัดหมายการตรวจได้ที่ ศูนย์แจ้งเข้าออกเรือประมง (PIPO) หรือสำนักงานประมงจังหวัดทุกแห่ง

"เฉลิมชัย" มอบ "อลงกรณ์" แจงมาตรการรับมือผลไม้ปี 65ต่อคณะกรรมาธิการสภา
 เผย! ไทยครองตลาดผลไม้จีนเป็นอันดับ1 พร้อมพิจารณาเยียวยาชาวสวนลำไย ด้าน “ณัฐวุฒิ” พอใจการทำงานของฟรุ้ทบอร์ดเตรียมทำข้อเสนอสู่ที่ประชุมFruit Board17 ก.พ.นี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผลไม้ล่วงหน้าทั้งระบบ ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าประชุมกับคณะกรรมธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม ในวันนี้(3ก.พ.)ที่รัฐสภาเพื่อตอบข้อซักถามและร่วมหารือแสดงความคิดเห็นโดยมี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เป็นประธาน ดร.ประกอบ รัตนพันธ์คณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วย นายวีระกร คำประกอบที่ปรึกษากรรมการ และคณะกรรมาธิการฯ 

นายขจร เราประเสริฐ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ผู้แทนกรมวิชาการเกษตร ร่วมประชุมหารือให้ข้อมูล และผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมทุเรียนไทย ผู้แทนสมาคมผูประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด และผู้แทนสมาคมผู้ค้าและส่งออกลำไยภาคตะวันออก เข้าร่วมประชุม

โดยนายอลงกรณ์ชี้แจงถึงศักยภาพผลไม้ไทยและผลงานรัฐบาลโดยใน ปี2564ประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดผลไม้ในจีน45% เป็นอันดับ1 และส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า1.6แสนล้านบาท(ม.ค-พ.ย2564)โดยเฉพาะทุเรียนส่งออกทะลุแสนล้านเป็นครั้งแรกแม้จะเผชิญปัญหาด่านและการขนส่งจากผลกระทบโควิด19โดยยึดแนวทางและมาตรการการบริหารจัดการผลไม้ 

รวมทั้ง การปฏิรูปเชิงระบบภายใต้5ยุทธศาสตร์ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ และแนวทางการพัฒนาผลไม้ไทย พ.ศ. 2565 – 2570 นอกจากนี้นายอลงกรณ์ยังชี้แจงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องเช่นโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรและผลไม้ ,โครงการ1กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารสู่เกษตรมูลค่าสูง (กรกอ.), ศูนย์AIC(ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม:Agritech and Innovation Center) 77 จังหวัด 

และ ศูนย์ความเป็นเลิศ 23 แห่งสนับสนุนด้านR&D การอบรมบ่มเพาะ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เน้นMade in Thailand เช่น เทคโนโลยีจุลินทรีย์ขจัดการปนเปื้อนและคงสภาพความสดของผลไม้ได้เพิ่มขึ้นโดนAICจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเทคโนโลยีไนโตรเจน( Nitrogen Technology ), การบริหารข้อมูลโดยศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Big Data Center :NABC) ,การบริหารLogistics ผลไม้ และสถานการณ์ด่านรวมทั้งการขนส่งเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยขบวนรถไฟขนสินค้าเกษตรของไทยไปจีนเที่ยวปฐมฤกษ์ออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้ 27ม.ค.2565

ส่วนการขนส่งผลไม้ไทยเหลือเพียงการก่อสร้างด่านตรวจพืชของจีนที่ด่านรถไฟโมฮ่านก็เริ่มใช้บริการได้ ในขณะที่สถานการณ์ด่านและการขนส่งมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้ง4ด่านหลักเปิดบริการยกเว้นช่วงตรุษจีนแต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการZero Covid ส่วนค่าระวางเรือเริ่มลดลงมีสายการเดินเรือเพิ่มขึ้น 
นายอลงกรณ์ยังได้นำเสนอตัวเลขการส่งออกปี 2564 ซึ่งสามารถส่งออกทำสถิติสูงสุด ทุเรียนทะลุแสนล้านทั้งนี้ 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.)ของปี 2564 ส่งออกผลไม้ 7 ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่และมะม่วง จำนวน1,992,751ตันคิดเป็นมูลค่า 165,624ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40.75% 

เทียบกับปี 2563 ที่ส่งออก1,718,228 ตัน มูลค่า 117,673ล้านบาท สำหรับทุเรียนส่งออก 903,700ตัน ปริมาณเพิ่มขึ้น38.29% คิดเป็นมูลค่า115,459ล้านบาทเติบโต59.11%เทียบกับปี2563ส่งออก653,476ตันมูลค่า72,566ล้านบาท ทางด้านฤดูกาลผลิตปี2565คาดว่าจะมีผลผลิตออกมา5,200,009ตันเพิ่ม11.39%หรือเพิ่มกว่า5แสนตันเทียบกับปี2563ที่มีปริมาณ4,668,435ตัน โดย 17 มาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2565 

เพื่อดูแลบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบ เป็นมาตรการหลักในการขับเคลื่อน เช่น

1.มาตรการเร่งรัดตรวจและรับรอง GAP ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 120,000 แปลง

2.มาตรการช่วยผู้ประกอบการหรือเกษตรกรหรือล้งกระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท ปริมาณ 80,000 ตัน

3.มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกโดยจะช่วยเหลือดอกเบี้ย 3 %และช่วยผู้ส่งออกที่ส่งออกผลไม้อีกกิโลกรัมละ 5 บาท ปริมาณ 60,000 ตัน

4. กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนให้มีการใช้พระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญา การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านผลไม้ โดยจะสนับสนุนให้มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเกษตรกรได้ทราบว่าขายผลไม้ได้เท่าไหร่ มีคนซื้อที่มีหลักประกัน เซ็นสัญญาตามกฎหมายชัดเจนไม่ต่ำกว่า 30,000 ตัน 

5.มาตรการส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในประเทศเป็นต้น
ส่วนในกรณีเกิดวิกฤติได้มีการออก5มาตรการแก้ไขปัญหาล่วงหน้าทั้งระบบ ปี 2565ได้แก่
1) มาตรการป้องกันเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเหตุการณ์ไม่ปกติ
2) มาตรการช่วยเหลือในการกระจายสินค้า ควบคุม คุณภาพและกระตุ้นการบริโภคผลไม้
3) มาตรการช่วยเหลือสนับสนุนการส่งออกผลไม้ไทย
4) มาตรการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้
5) มาตรการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ

“นายกฯ” ขอบคุณ หน่วยงานขานรับใช้เทคโนโลยี หนุน อำนวยความสะดวก-ท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการดำเนินนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ให้ความสำคัญด้านการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมด้านการท่องเที่ยว ทั้งการปรับมาตรการให้สอดรับตามสถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์ในโลก และเพื่อให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจควบคู่กับมาตรการทางสาธารณสุขควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยต่างขานรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ดำเนินโครงการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ได้อยู่ระหว่างการผลักดันระบบแพลตฟอร์มกลางเพื่อให้บริการชาวต่างชาติ ถือเป็นกลไกสำคัญเพื่อขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ในส่วนของการอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติ ได้แก่ นักท่องเที่ยว แรงงานต่างชาติ นักธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติ นักศึกษาต่างชาติและผู้อยู่อาศัยระยะยาวที่ได้วีซ่าสำหรับพำนักในไทยระยะยาว ทำให้บุคคลเหล่านี้สามารถเข้ามาใช้บริการภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัล ทำให้รับบริการได้ง่ายขึ้น เชื่อมโยงให้เกิดบริการสาธารณะแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว หรือวันสต็อปเซอร์วิส ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสามารถรับบริการได้ตลอดเวลา ตอบโจทย์ความต้องการและความคาดหวังของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯขอบคุณการสนับสนุนของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พร้อมดำเนินการตามนโยบายที่ได้วางไว้ เชื่อมั่นว่า พอร์ทัลกลางนี้ เมื่อสำเร็จจะเป็นอีกส่วนในการจูงใจให้ชาวต่างชาติสนใจมาเยือนประเทศไทยมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งผลงานนำเสนอศักยภาพของไทยให้ชาวต่างชาติ ได้เห็น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรมของไทย ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก ทั้งมาตรการทางสาธารณสุข ที่พร้อมดำเนินอย่างเข้มแข็งรัดกุม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยจะท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ในปี 2565 ไทยตั้งเป้าว่าจะมีการท่องเที่ยวของคนในชาติ ประมาณ 160 ล้านคน/ครั้ง และตั้งเป้าว่าจะมีชาวต่างชาติมาไทย 5-15 ล้านคน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ในปี 2565 นี้ ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 1.3-1.8 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้าด้วยการให้ความจริงจังกับการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน BCG Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) ซึ่งเน้นเรื่องการท่องเที่ยวสีขาว (White Tourism) ภายใต้ความสะอาด ความยั่งยืน ความเป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

‘วาดา’ ปลดล็อกแบนธงชาติไทยแล้ว ยก ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ สางปัญหาจนสำเร็จ

“ทิพานัน” ชี้ “วาดา” ปลดล็อกแบนธงชาติไทย ในกีฬานานาชาติ ยก “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” สางปัญหาจนสำเร็จ

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) ปลดไทยออกจากรายชื่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของวาดา และที่ผ่านมา Doping Control Agency of Thailand (DCAT) ดำเนินการครบถ้วนในการปฏิบัติตามข้อกำหนด ทำให้ระบบการต่อต้านสารต้องห้าม โดยสอดคล้องกับวาดา 2021 ทางคณะกรรมการบริหารของ

วาดา จึงตัดสินโดยการเวียนให้มีการลงคะแนนและสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา และมีมติให้ DCAT ได้รับการปลดออกจากรายชื่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของวาดา โดยมีผลทันที

"เลขาคกก.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กทม.ปชป." มั่นใจ "ดร.เอ้" แจงได้ทุกประเด็นเรื่องทรัพย์สิน -พร้อมรับการตรวจสอบ สงสัยทำไมมาร้องช่วงนี้ ขอสังคมให้ความเป็นธรรมด้วย

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกและเลขาคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากกรณีที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ร่ำรวยผิดปกตินั้น เชื่อว่านายสุชัชวีร์ สามารถตอบคำถามได้ชัดเจนทุกประเด็น ตั้งแต่เรื่องที่มาของรายได้ต่าง ๆ หลักเกณฑ์ในการพิจารณารับเงินเดือนสมัยดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตลาดกระบัง(สจล.)และที่สำคัญได้มีการยื่นทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบอยู่เป็นระยะ จึงมีความเชื่อมั่นว่านายสุชัชวีร์ จะชี้แจงทุกฝ่าย รวมทั้งกมธ.ฯ ได้เป็นอย่างดี เพราะมีเจตนาสุจริตในการทำหน้าที่ และพร้อมรับการตรวจสอบจากทุกฝ่าย เพราะได้ทำมาโดยตลอดตั้งแต่เป็นอธิการบดี สจล.

นางดรุณวรรณกล่าวว่า ตนอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรม และรับฟังข้อมูลโดยรอบด้าน ส่วนการถูกร้องให้ตรวจสอบ นายสุชัชวีร์ในช่วงนี้ ที่มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ ส่วนตัวไม่อยากตั้งข้อสงสัยว่าทำไมเกิดขึ้นในช่วงนี้ เพราะการที่นายสุชัชวีร์ เป็นบุคคลสาธารณะ และอาสามาทำหน้าที่เป็นผู้ว่าของคนกรุงเทพฯ จึงต้องพร้อมรับการตรวจสอบอยู่แล้ว

'กระทรวงแรงงาน' เตือน 'แรงงานไทย' อย่างหลงเชื่อนายหน้าเถื่อนแอบอ้างพาทำงานซาอุฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการ กรมการจัดหางาน แนะวิธีเดินทางทำงานต่างประเทศถูกกฎหมาย หลังนายหน้าเถื่อน ระบาดเหนือ – อีสาน หลอกคนหางาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการร่วมคณะกับท่านนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย และได้มีการเจรจาหารือ เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานไทยได้เดินทางไปทำงาน ซึ่งทางการของซาอุดีอาระเบียให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยที่ซาอุดีอาระเบียมีความต้องการแรงงานจากต่างชาติเข้าไปทำงานถึง 8 ล้านคน

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อตกลงความร่วมมือด้านการจัดส่งแรงงาน ในส่วนของประเทศไทย กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน มีการพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ หากได้ข้อสรุปก็จะมีการลงนามระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม แห่งซาอุดีอาระเบีย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

“การดำเนินการเพื่อให้เกิดการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานซาอุดีอาระเบีย เป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญมาก เพราะถือเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย และแรงงานไทยจำนวนมากที่ต่างรอคอยการเดินทางไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทำให้มีกลุ่มมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสหลอกลวงคนหางานว่าสามารถพาไปทำงานต่างประเทศได้ โดยกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้กำลังระบาดมากแถบภาคเหนือและอีสาน ซึ่งล่าสุดได้สั่งการกรมการจัดหางานประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการหลอกลวงดังกล่าวในทุกช่องทาง”

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มอบหมาย  นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ประชุมการเตรียมความพร้อมในการจัดส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และแนวทางป้องกันการหลอกลวง รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องกลวิธีที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้หลอกลวงประชาชนคนหางาน ร่วมกับกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กองบริหารแรงานไทยไปต่างประเทศ สำนักงานจัดหางานจังหวัดภาคเหนือและสำนักงานจัดหางานจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือทุกจังหวัด

โดยเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน จะลงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการถูกหลอกลวงสูง เพื่อให้คำแนะนำ และชี้แจง ให้ความรู้กับประชาชนที่สนใจการไปทำงานต่างประเทศ และผู้นำท้องถิ่นให้มีความเข้าใจขั้นตอนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้อง ทราบถึงกลวิธีการหลอกลวงของกลุ่มผู้หลอกลวงคนหางาน โดยเป็นการสร้างแนวร่วมระหว่างชุมชนกับหน่วยราชการเพื่อทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลให้ แก่ประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนสอดส่องดูแล แจ้งข้อมูล เบาะแส พฤติการณ์ของสาย / นายหน้าเถื่อน 

ชวนคิดเรื่อง ‘หวยแพง’ ปัญหา ‘ตัวแรง’ ของทุกรัฐบาล | MEET THE STATES TIMES EP.59

📌ชวนคิดเรื่อง ‘หวยแพง’ ปัญหา ‘ตัวแรง’ ของทุกรัฐบาล!!
📌เมาท์มอยเรื่อง ‘หวย ๆ’  ปัญหาจิตป่วยที่ทำยังไงก็ ‘แก้ไม่ตก’!!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

‘อ่างเก็บน้ำใต้ดิน’ ใครไม่ทำ ‘ในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ทำ!! | MEET THE STATES TIMES EP.60

📌 ‘อ่างเก็บน้ำใต้ดิน’ ใครไม่ทำ... ‘ในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ทำ!!
📌 กษัตริย์นักพัฒนา!! ผู้ทรงสรรค์สร้าง ‘ชลประทาน’

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.

ส่องหลายประเทศ เริ่มคลายล็อก-ใช้ชีวิตกับโควิดเร็ว ความน่ากังวล ‘ยอดป่วย-ตาย’ ขยับหวนคืน

ปัจจุบันหลายประเทศกำลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด เพื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตปกติ ล่าสุดนิวซีแลนด์ประกาศเปิดประเทศ ยกเลิกกักตัวคนเดินทาง ส่วนบริษัทใหญ่เกาหลีใต้ขอให้พนักงานตรวจหาเชื้อก่อนมาทำงาน หรืองดมาทำงาน 2 สัปดาห์ ขณะที่บังกลาเทศขยายการปิดโรงเรียนต่อไปอีก เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

แม้ในความเป็นจริง การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 จะยังคงดำรงอยู่ แต่ขณะนี้มีหลายชาติเพิ่มมากขึ้นที่ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนกลับไปใช้ชีวิตด้วยการปาร์ตี้ในไนต์คลับ นั่งดูภาพยนตร์ติดกัน และไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอีกครั้ง

แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งประเทศจำนวนมากค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด ท่ามกลางความหวังว่าการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนน่าจะผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว ซึ่งอาจถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังการแพร่ระบาดที่ยาวนานเกือบสองปี และอาจนำไปสู่การรับมือกับโควิดในวิธีเดียวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัด

ยุโรปซึ่งเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดมานานหลายเดือน มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มมากที่สุด ไม่ว่าจะในอังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงหลายประเทศที่ได้ยุติหรือผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม เช่นเดียวกับในสหรัฐฯ ที่หลายเมืองได้มีการยุติคำสั่งให้ผู้คนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่ยังบังคับให้มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยในโรงเรียนและระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่วโลกมากกว่า 370 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5.6 ล้านคน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกข้อบังคับให้ผู้คนเข้ารับการกักตัวเมื่อเดินทางมาถึงนิวซีแลนด์รวมถึงเปิดประเทศอีกครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับเสียงตอบรับด้วยความยินดีจากชาวนิวซีแลนด์หลายพันคนที่ยังคงติดค้างอยู่ในต่างประเทศ และเฝ้ารอที่จะเดินทางกลับบ้าน ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 นิวซีแลนด์กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบังคับใช้มาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวดมากที่สุด โดยผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องกักตัวในโรงแรมที่กำกับดูแลโดยทหารเป็นเวลา 10 วัน

ขณะที่บริษัทใหญ่ในเกาหลีใต้บางแห่งใช้มาตรการสกัดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการขอให้พนักงานตรวจหาเชื้อก่อนมาทำงานในวันนี้ หรืองดมาทำงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากคนจำนวนมากเพิ่งกลับจากการเดินทางวันหยุดปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ ตัวอย่างเช่น กาเกาคอร์ป บริษัทแอปพลิเคชันแชตรายใหญ่ ห้ามพนักงานเข้าสำนักงานจนถึงวันที่ 18 ก.พ. โดยจะยกเว้นให้เป็นบางกรณี ซึ่งต้องตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองในพื้นที่ที่จัดไว้และมีผลตรวจเป็นลบเท่านั้น และหลังจากวันที่ 18 ก.พ. พนักงานต้องตรวจหาเชื้อก่อนมาทำงาน ด้านเอสเคอินโนเวชัน บริษัทด้านพลังงาน และแอลจีเอเนอร์จีโซลูชัน ผู้ผลิตแบตเตอรี ได้แจกชุดตรวจให้พนักงานตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และขอให้ตรวจก่อนกลับมาทำงานตั้งแต่วันนี้ ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลเกาหลีใต้ก็ใช้มาตรการลักษณะเดียวกัน

อัตลักษณ์กรุงเทพฯ คืออะไร? ภูมิปัญญาแบบไหนที่ควรรักษา !! | Click on Clear THE TOPIC EP.141

📌 ‘อัตลักษณ์กรุงเทพฯ’ แบบไหน ที่ต้องคงไว้และรักษา!! พูดคุยไปกับ ‘คุณรสนา โตสิตระกูล’ ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค

📌ใน Topic : อัตลักษณ์กรุงเทพฯ คืออะไร? ภูมิปัญญาแบบไหนที่ควรรักษา !!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top