Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

“ไผ่" เผย “พรรคเศรษฐกิจไทย” จ่อแถลงเปิดตัวเร็วนี้ โว ฟัง “ธรรมนัส” หนุน “บิ๊กตู่” ต่อหรือไม่ 

การเมือง/ 3 กพ./ 

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงการเข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย ภายหลังจากถูกขับออกจากพรรคพปชร. ว่า ขณะนี้มี ส.ส.จำนวน 18 คน ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ซึ่งขั้นตอนขณะนี้อยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  จะส่งเรื่องไปยังสภาผู้แทนราษฎรเมื่อไหร่

ส่วนเรื่องร้องเรียนกระบวนการขับออกจากพรรคพลังประชารัฐที่อาจจะไม่ถูกต้องนั้น ส่วนตัวไม่กังวล เพราะคิดว่าน่าจะถูกต้องและจบแล้ว ขณะเดียวกันได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่จะมาสังกัดพรรคเดียวกันหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ซึ่งนายสมศักดิ์เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะ หัวหน้าพรรคพปชร. ยืนยันว่าขั้นตอนการขับออกจากพรรคนั้นจบไปแล้ว ซึ่งคิดว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน รวมถึงนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส. ขอนแก่น อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกัน 

เมื่อถามถึง แนวทางพรรคเศรษฐกิจไทย ที่จะทำงานให้กับประชาชนนั้นจะเป็นอย่างไร นายไผ่  กล่าวว่า จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และที่ผ่านมาได้ทำถูกต้องมาตลอด แต่ต้องดูถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ส่วนการโหวตลงมติในสภา รวมถึงการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ตอนนี้ยังไม่ขอตั้งธงว่าจะต้องโหวตเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผู้อภิปรายต้องบอกว่าไม่ดีตรงไหน เช่นเดียวกับกฎหมายงบประมาณ ที่ต้องดูตามหน้างาน เพราเรื่องงบประมาณจะเอามาเป็นเรื่องการเมืองไม่ได้ เนื่องจากต้องทำงบประมาณไปทำประโยชน์ให้กับประชาชน 

เกาะติดสถานการณ์ เหตุน้ำมันรั่วจังหวัดระยอง พร้อมเปิดลงทะเบียนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.39

✨ 00:26 เกาะติดสถานการณ์ เหตุน้ำมันรั่วจังหวัดระยอง พร้อมเปิดลงทะเบียนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

✨ 03:48 ไทย-จีน กระชับความสัมพันธ์ ผ่านมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง สะท้อน ‘จีน-ไทย’ ใช่อื่นไกลพี่น้องกัน พร้อมทั้งความปลื้มปิติของชนชาวจีนที่กรมสมเด็จพระเทพฯ มิตรเก่าและมิตรแท้ของประชาชนจีน เสด็จฯ เยือนและยินดียิ่งที่จะเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้

✨ 06:24 Spotify เตรียมจัดการข่าวปลอม หลังข้อมูลเท็จ ‘วัคซีนโควิด’ ลุกลาม ท่ามกลางเสียงคัดค้าน 'ขัดต่อเสรีภาพ'

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.

‘พรรคกล้า’ หนุนตัดอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ ชี้ รัฐตั้งได้ด้วยเสียง ส.ส. ข้างมาก โดยไม่ต้องพึ่ง ม.272 อยู่แล้ว

"พรรคกล้า" ร่วมหนุน คณะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ย้ำเพื่อรักษาหลักปฏิบัตินิยม ยุติปมความขัดแย้ง ไม่ควรอาศัยเสียง ส.ว. แต่งตั้ง จัดตั้งรัฐบาล ชี้ต้องแก้ก่อนเลือกตั้ง

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร แกนนำคณะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 พร้อมคณะ อาทิ นางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย, นางสาวณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหว เข้าเชิญชวนนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ร่วมลงชื่อสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี

โดยนายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้รวบรายชื่อผู้สนับสนุนได้เกือบ 80,000 รายชื่อแล้ว โดยจะส่งรายชื่อผู้สนับสนุน 70,000 รายชื่อแรก ให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจความถูกต้อง เพื่อบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยประชุมหน้า 22 พ.ค. 65 โดยจะเปิดให้ลงชื่อต่อไปจนกว่าสภาฯ จะมีการพิจารณาวาระนี้ พร้อมมอบป้าย QR Code เพื่อลงชื่อสนับสนุนและเสื้อยืดรณรงค์ ให้นายกรณ์ เพื่อให้พรรคได้เชิญชวนประชาชนร่วมสนับผ่านทางช่องทางการสื่อสารของพรรค

 

นายกรณ์ กล่าวว่า ยินดีร่วมสนับสนุน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญในการแสดงหลักความถูกต้องของกฎหมายบ้านเมือง ทำให้คนไว้วางใจร่วมลงชื่อสนับสนุนจำนวนมาก ซึ่งตนเองเคยแสดงความคิดเห็นตั้งแต่ก่อนเริ่มลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2560 และการรณรงค์เรื่องนี้สอดคล้องกับจุดยืนของพรรคมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรค หากมองตามหลักปฏิบัตินิยม มาตรานี้ไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐบาลต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร  แม้มีเสียง ส.ว. สนับสนุน แต่หากไม่มีเสียงข้างมากในสภาฯ รัฐบาลก็ทำงานไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล โดยเฉพาะการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี และยังเกิดข้อครหาความไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองโดยไม่จำเป็น ดังนั้นการจะลดเงื่อนไขความขัดแย้ง ต้องยกเลิกมาตรา 272

“ผบ.ทร.” ประณามนายทหารชั้นยศนาวาตรี สังกัดกองทัพเรือ ซ่อนกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง สั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ลงโทษให้ถึงที่สุด

พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่มีกำลังพลกองทัพเรือชั้นยศ “นาวาตรี” ตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง ภายในสำนักงาน โดยผู้ตกเป็นเหยื่อประกอบด้วยข้าราชการพนักงานลูกจ้างและนักเรียนฝึกงาน โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ  จังหวัดชลบุรีไปแล้วนั้น
     
พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ได้ถูกเปิดเผย เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ภายหลัง มีผู้พบกล้อง 2 ตัวติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดานห้องน้ำ ในสำนักงานของหน่วยงานราชการในสังกัดกองทัพเรือ  ขณะทำการซ่อมแซมระบบสายไฟ ซึ่งเมื่อตรวจสอบจึงพบว่ามีการซ่อน กล้องต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ของ ว่าที่ นาวาตรีเกียรติกร มั่งคั่ง สังกัดแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  กรมแพทย์ทหารเรือ ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์

พบหลักฐานคลิปวีดีโอของผู้เสียหายขณะทำภารกิจส่วนตัวซึ่งถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558  ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดของ ว่าที่ นาวาตรี  เกียรติกรทได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยได้ทำการกักควบคุมตัว ว่าที่ นาวาตรี เกียรติกูล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ ไปข่มขู่ผู้เสียหายและมิให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ระหว่างสอบสวน ซึ่งผลการสอบสวนเบี้องต้นพบว่า ว่าที่ นาวาตรี เกียรติกรกระทำความผิดจริง 

“ผบ.ทบ.” เยือนราชอาณาจักรกัมพูชา สานสัมพันธ์ ความร่วมมืองานความมั่นคง

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมคณะ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของ กองทัพบกกัมพูชา ระหว่าง 3-4 ก.พ. 2565  นับเป็นการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มอาเซียนครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง ในโอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้เข้าเยี่ยมคำนับผู้นำประเทศและผู้บริหารระดับสูงของกองทัพกัมพูชา สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา, สมเด็จพิชัยเสนาเตียบันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา, พล.อ.วงษ์ ปิเซน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา และพบปะแลกเปลี่ยนประสานความร่วมมือกับ พล.อ.ฮุน มาเน็ต ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา  

โดยเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือของกองทัพบกทั้งสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายแดนและด้านสิ่งแวดล้อม การฝึกศึกษา การแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ในทุกระดับ 

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า ประเทศไทยกับกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เป็นมิตรแท้ที่จริงใจต่อกัน ความสามัคคีและความร่วมมือถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้ทั้งสองประเทศ สามารถเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ได้อย่างมั่นคง รวมทั้งกองทัพบกจะผลักดันและส่งเสริมในความร่วมมือต่างๆตามกลไกที่มีอยู่ต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ทั้งเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือการพัฒนาหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ ตลอดจนการช่วยเหลือผู้ป่วยเจ็บตามแนวชายแดน เป็นต้น 

'บีโอไอ' ไฟเขียว เปิดประเภทกิจการใหม่หนุนภาคเกษตร

น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้เปิดประเภทกิจการใหม่ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ Bio Hub ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน รองรับการขยายตัวในอุตสาหกรรมเกษตร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีการแข่งขันสูงมากในตลาดโลก ประกอบด้วย

1.กิจการศูนย์การค้าผลิตผลทางการเกษตรระบบดิจิทัล เพื่อเป็นการยกระดับภาคเกษตรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ต้องมีแพลตฟอร์มสำหรับให้บริการเกษตรกรและผู้ประกอบการ และสนับสนุนให้เกิดระบบการติดตามและปรับปรุงควบคุมคุณภาพผลผลิต โดยจะต้องจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรในรูปแบบ B2B (Business-to-Business) เท่านั้น

‘ปูติน’ เริ่มของขึ้น!! ออกสื่ออัด ‘สหรัฐฯ-ยุโรป’ หลังตั้งใจดึงรัสเซียเข้าสู่สงครามให้ได้

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ฉุนขาด!! ออกมาอัดยับ เหล่าบรรดาชาติตะวันตกที่กำลังสร้างสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน เพื่อดึงรัสเซียเข้าสู่สงครามให้ได้ โดยไม่สนใจข้อต่อรองขั้นพื้นฐานของรัสเซียในเรื่องความมั่นคงภายในของยูเครนและรัสเซียเลยแม้แต่น้อย

ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัสเซียเตรียมนำกองทัพบุกยึดยูเครนในไม่ช้านี้ที่หลุดออกมาสะพัด แต่จนแล้วจนรอดรัฐบาลเครมลินก็ปฏิเสธในทุกทีไป เฉกเช่นเดียวกันกับปูตินเอง ที่ไม่ได้ออกสื่อแสดงความเห็นโดยตรงเกี่ยวกับความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครน-รัสเซียมานาน 

อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตรตะวันตก ซึ่งได้ส่งกองทหารหนุนยูเครน กดดันรัสเซียอย่างหนัก โดยล่าสุด โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมส่งกองหนุนเพิ่มให้อีกกว่า 3,000 นาย เข้าไปในเยอรมัน, โรมาเนีย และโปแลนด์ นอกเหนือจากกองกำลังต่างหากของ NATO โดย จอห์น เคอร์บี โฆษกของแพนทากอน ได้กล่าวว่า กองกำลังส่วนนี้มีภารกิจเพื่อสกัดการรุกราน และเสริมกำลังให้กับกองรบแถวหน้าให้กับพันธมิตรของเรา ซึ่งพร้อมเคลื่อนพลประจำการได้ในทันทีเร็วๆ นี้

พอมาถึงจุดนี้ ก็เหมือนจะทำให้ผู้นำรัสเซียเริ่มเดือด และดูท่าจะไม่อดทนอีกต่อไป จนได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวขณะไปเยือนนายกรัฐมนตรีฮังการีว่า “จนถึงตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ชาติพันธมิตรตะวันตกไม่ได้สนใจข้อเรียกร้องของรัสเซียเรื่องความมั่นคงเลย”

'โค้ชเช' เฮ 'บิ๊กตู่' เซ็นมอบสัญชาติไทย หลังทุ่มเทเพื่อวงการกีฬาไทย  

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้ลงนามคำสั่งมอบสัญชาติไทยเพิ่มเติมประจำปีตามวาระ ซึ่งวันนี้นายยอง ซอก เช หรือโค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย  ก็ได้รับสัญชาติไทยเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นคนไทยตามที่เขาข้อร้องมา เพราะเขาดูแลการกีฬาให้ประเทศไทยมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร 

เพจดัง ‘LOOK Myanmar’ โต้ ‘ศิโรตม์’ แจงเมียนมาไม่ร้าง-ปชช.ยังใช้ชีวิตปกติ

เพจ LOOK Myanmar ได้โพสต์ข้อความโต้ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ คอลัมน์นิสต์และพิธีกรรายการทีวี ที่โพสต์ข้อความ “เมียนมาปิดประเทศต้านทหาร หยุดทุกกิจการจนแทบทุกเมืองเป็นเมืองร้าง โชว์พลังประท้วงอ่องลายแบบไม่ลงถนน” โดยระบุ ว่า เพจ FB ของ Sirote Klampaiboon ได้โพสต์ถึงสถานการณ์ในเมียนมา แอดในฐานะคนทำงานในเมียนมาขอชี้แจงดังนี้นะ

1.) ทหารเมียนมาจะรบกับชนกลุ่มน้อยไม่ว่าจะเป็นคะฉิ่น กะเหรี่ยง ไทใหญ่ ว้า ปะหล่อง ปะโอะ หรือ ชาวอาระกัน ทุกปีหลังมรสุม พอมรสุมก็จะหยุดยิงกันไป ถามคนในพื้นที่ก็จะพอทราบ เหตุผลมีมากมายตามแต่ละชาติพันธุ์

2.) ปัจจุบันคนพม่าใช้ชีวิตปกติ แต่ความรุนแรงมีมากขึ้นหลังรัฐประหาร ซึ่งมาจากการกระทำของทั้งสองฝ่าย แต่ส่วนใหญ่คนพม่าก็ยังใช้ชีวิตกันปกติเหมือนทุกๆ วัน ดูจากคลิปของคุณ Prasan Barua ได้
 

รู้จักและระวังภัย!! “ระเบิดแสวงเครื่อง” (Improvised Explosive Device : IED) ระเบิดทำลายล้าง ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้!!

คืนวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยและระเบิดรวม 14 จุด สามารถเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดได้ 3 ลูก เพื่อให้ได้รู้จัก เข้าใจ และเป็นการระวังภัยจากระเบิดที่ใช้ที่ในครั้งนี้ จึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับ
รู้จักกับระเบิดแสวงเครื่อง Improvised Explosive Device : IED มาเล่าให้ทราบพอสังเขปดังนี้

ระเบิดแสวงเครื่อง Improvised Explosive Device : IED เป็นระเบิดที่ถูกใช้กันมากในกลุ่มผู้ก่อการร้าย (โดยเฉพาะในตะวันออกกลางและอัฟกานิสถาน) โดยเป้าหมายหลักในการทำลาย คือ กลุ่มกองกำลังทหาร และ ยานพาหนะ รวมถึง รถถังขนาดใหญ่ สถานที่ชุมชน กลุ่มก่อการร้าย สามารถทำการวางกับระเบิดชนิดนี้ไว้ได้ในหลายพื้นที่ เช่น ข้างทาง บนถนน ในพุ่มไม้ หรือในที่ ๆ กองกำลังศัตรู ใช้เป็นทางผ่านอยู่เป็นประจำ เมื่อศัตรูเข้าใกล้เป้าหมาย กลุ่มก่อการร้ายก็จะทำการจุดชนวนระเบิดทันที ความเสียหายที่ได้รับมีมากมาย ถ้าเป็นทหารก็คงเหลือแค่ชิ้นส่วนอวัยวะเศษเล็กเศษน้อย หากเป็นยานพาหนะก็อาจทำให้เสียหายทั้งคัน รวมถึงรถถังก็ไม่อาจต้านทานระเบิดแสวงเครื่องได้ เพราะจุดอ่อนของรถถังก็คือบริเวณใต้ท้องเมื่อเกิดการระเบิดจึงทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

>> ระเบิดแสวงเครื่องคืออะไร ระเบิดแสวงเครื่อง (Improvised Explosive Devices : IED) จัดเป็น รูปแบบหนึ่งของกับระเบิด (Booby Traps) เป็นการนำเอาวัสดุที่มีอยู่หรือวัสดุที่สามารถหาได้ง่าย เช่น ปุ๋ยยูเรีย ดินระเบิด นำมาประดิษฐ์เป็นระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่  ในปัจจุบัน เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ทำให้การทำระเบิดแสวงเครื่องมีความซับซ้อนมากขึ้น และสามารถควบคุมการทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอการตั้งเวลาแบบเดิม สามารถกำหนดการระเบิดได้ตามต้องการผ่านวิธีการควบคุมระยะไกล (Remote control) ด้วยการใช้วิทยุหรือโทรศัพท์จุดชนวน

คำว่า “ระเบิดแสวงเครื่อง” คือ การประกอบระเบิด ในส่วนกำเนิดการจุด ที่ไม่ได้ใช้วัสดุมาตรฐานการผลิตจากโรงงาน มาประกอบกันให้ครบวงจรการระเบิด โดยเสาะแสวงหาวัสดุต่าง ๆ ที่หาได้ทั่ว ๆ ไป มาดัดแปลง หรือประยุกต์ ใช้งานตามที่ต้องการ

ระเบิดแสวงเครื่อง ในวิทยุรับ - ส่ง

ยกตัวอย่างเช่น การวางกับระเบิดแสวงเครื่องในวิทยุทรานซิสเตอร์ โดย เอาดิน C4 (ดินหลัก) มาอัดใส่หลังลำโพง แล้วเสียบเชื้อปะทุไฟฟ้า(ดินขยาย) แล้วลากสายไฟ ไปที่รังถ่านแบตเตอรี่ของวิทยุ(ส่วนกำเนิดการจุด) ที่ใส่ถ่านไว้ โดยมีสวิตช์เปิดปิดวิทยุ เป็นสะพานไฟ พอมีบุคคลเป้าหมาย มาเปิดวิทยุฟังก็ระเบิดทันที เช่นนี้คือ การวางระเบิดแสวงเครื่อง เพราะตัววิทยุ กับวงจรไฟฟ้าที่วิทยุมีอยู่ ไม่ใช่วัสดุมาตรฐานจากโรงงานผลิตระเบิดโดยเฉพาะ แต่เป็นวัสดุที่ผู้ใช้แสวงหามาจากของใช้ทั่ว ๆ ไป

Mines (ทุ่น/กับระเบิด ที่ผลิตจากโรงงานมาตรฐาน)

ส่วน Mines คือ ทุ่นระเบิด ที่ผลิตจากโรงงานมาตรฐาน มีรุ่น ขนาด การใช้แบบเดียวกันหมด ในภาษาราชการเรียกแบบนี้ เพราะต้องการแยกไม่ให้เหมือนกับระเบิด ซึ่งเป็นการดัดแปลงการใช้งานให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม และความต้องการ

>> ระเบิดแสวงเครื่องทำงานแบบบังคับชุด เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่สามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกล (Remote Control) การที่ระเบิดแสวงเครื่อง สามารถประดิษฐ์จากวัสดุที่มีอยู่โดยทั่วไป ทำให้รูปแบบของระเบิดแสวงเครื่องมีหลายรูปแบบ และไม่มีลักษณะที่แน่นอน บางทีมาในรูปแบบของโทรศัพท์มือถือ กระถางต้นไม้ ถังขยะ รถมอเตอร์ไซค์ ทำให้ง่ายสำหรับผู้ก่อการร้ายในการจัดหาวัตถุดิบ การซุกซ่อนพกพา การประดิษฐ์ และการนำมาใช้ แต่จะเป็นการยากสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ในการตรวจค้นและเก็บกู้วัตถุระเบิด

>> ระเบิดแสวงเครื่อง สามารถแบ่งประเภทตามลักษณะของระบบการทำงาน ได้ 3 ระบบ คือ
1.) ระบบสารเคมี เป็นการใช้สารเคมีซึ่งเป็นส่วนผสมของระเบิดผสมกัน ทำให้เกิดปฏิกิริยากันแล้วเกิดการระเบิดขึ้น
ระบบนี้ไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะขั้นตอนการประดิษฐ์ยุ่งยาก ไม่สามารถควบคุมเวลาที่จะทำให้เกิดการระเบิด
ได้แน่นอน และที่สำคัญคือเป็นอันตรายต่อผู้ประดิษฐ์

2.) ระบบกลไก เป็นการใช้อุปกรณ์ทางกลต่าง ๆ เป็นตัวทำให้เกิดการทำงานของระเบิดแสวงเครื่อง ระบบนี้ส่วนใหญ่
จะต้องอาศัยสิ่งอื่น ๆ มากระทำต่ออุปกรณ์ระเบิด ระเบิดจึงจะเริ่มทำงาน เช่น การใช้ระบบนาฬิกาเป็นกลไก ระเบิดวิธีนี้นิยมใช้ข่มขู่ หรือประสงค์ให้เสียชีวิตเฉพาะบุคคล

3.) ระบบไฟฟ้า เป็นการใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์มาควบคุมการจุดระเบิด เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ โทรศัพท์ไร้สาย รีโมตคอนโทรล รถยนต์ รถ หรือเครื่องบินวิทยุบังคับ นำมาประกอบเชื้อปะทุไฟฟ้าและวัตถุระเบิด ระเบิดแสวงเครื่องแบบนี้เป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากประดิษฐ์ได้ง่าย สามารถกำหนดเวลา, ควบคุมจังหวะการทำงานได้แน่นอน, ควบคุมการทำงานได้ในระยะไกล และสามารถสร้างความซับซ้อนตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของผู้ประดิษฐ์ได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของผู้ประดิษฐ์

ระเบิดแสวงเครื่องทำงานแบบถ่วงเวลา ใช้อุปกรณ์ตั้งเวลาการทำงาน เช่น ใช้นาฬิกา หรือวงจรนับแบบอิเล็กทรอนิกส์
 

>> ระเบิดแสวงเครื่องทำงานอย่างไร
1.) ทำงานจากการกระทำ ของเหยื่อ เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ต้องอาศัยบุคคลหรือ สิ่งอื่น ๆ มากระทำเพื่อให้ เกิดการระเบิด เช่น ยกระเบิด เปิดระเบิด หรือเอียงระเบิด

2.) การทำงานแบบบังคับชุด เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่สามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกล (Remote Control) เช่น วิทยุรับ-ส่ง, โทรศัพท์มือถือ ผู้ที่ประดิษฐ์ระเบิดแบบนี้จะต้องมีความรู้ พื้นฐานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างดี ทั้งนี้โทรศัพท์ที่นิยมนำมาใช้ในการทำระเบิดคือมือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 3310 เนื่องจากแผงวงจรสามารถทำระเบิดได้ง่ายไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างอื่นมาพ่วง แต่มือถือรุ่นอื่น ก็ใช้ในการทำระเบิดได้ เพียงแต่ต้องหาอุปกรณ์พ่วงหรือบางรุ่นกำลังไฟมีไม่พอ นอกจากนี้ในการเปิดให้ประชาชนสามารถซื้อมือถือใช้ได้โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนทำให้เกิดความยากในการติดตามจับกุม ซึ่งหากมีการลงทะเบียนการเปิดใช้มือถือ ทั้งหมดจะสามารถช่วยติดตามจับกุมคนร้ายที่ใช้มือถือได้ทันที แต่ในขณะที่ยังไม่มีการควบคุม เมื่อคนร้ายใช้มือถือเสร็จ ก็สามารถไปซื้อมือถือเครื่องใหม่ มาใช้ทำระเบิดแสวงเครื่องได้อีก

3.) การทำงานแบบถ่วงเวลา ใช้อุปกรณ์ตั้งเวลาการทำงาน เช่น ใช้นาฬิกา หรือวงจรนับแบบอิเล็กทรอนิกส์

4.) การทำงานแบบอาศัย สภาพแวดล้อม เช่น เมื่อโดนแสงสว่าง หรือมีเสียงดัง

ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในหม้ออัดแรงดันทำงานแบบถ่วงเวลา ใช้อุปกรณ์ตั้งเวลาการทำงาน
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top