ส่องหลายประเทศ เริ่มคลายล็อก-ใช้ชีวิตกับโควิดเร็ว ความน่ากังวล ‘ยอดป่วย-ตาย’ ขยับหวนคืน

ปัจจุบันหลายประเทศกำลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด เพื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตปกติ ล่าสุดนิวซีแลนด์ประกาศเปิดประเทศ ยกเลิกกักตัวคนเดินทาง ส่วนบริษัทใหญ่เกาหลีใต้ขอให้พนักงานตรวจหาเชื้อก่อนมาทำงาน หรืองดมาทำงาน 2 สัปดาห์ ขณะที่บังกลาเทศขยายการปิดโรงเรียนต่อไปอีก เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

แม้ในความเป็นจริง การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 จะยังคงดำรงอยู่ แต่ขณะนี้มีหลายชาติเพิ่มมากขึ้นที่ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนกลับไปใช้ชีวิตด้วยการปาร์ตี้ในไนต์คลับ นั่งดูภาพยนตร์ติดกัน และไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอีกครั้ง

แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งประเทศจำนวนมากค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด ท่ามกลางความหวังว่าการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนน่าจะผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว ซึ่งอาจถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังการแพร่ระบาดที่ยาวนานเกือบสองปี และอาจนำไปสู่การรับมือกับโควิดในวิธีเดียวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัด

ยุโรปซึ่งเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดมานานหลายเดือน มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มมากที่สุด ไม่ว่าจะในอังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงหลายประเทศที่ได้ยุติหรือผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม เช่นเดียวกับในสหรัฐฯ ที่หลายเมืองได้มีการยุติคำสั่งให้ผู้คนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่ยังบังคับให้มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยในโรงเรียนและระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่วโลกมากกว่า 370 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5.6 ล้านคน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกข้อบังคับให้ผู้คนเข้ารับการกักตัวเมื่อเดินทางมาถึงนิวซีแลนด์รวมถึงเปิดประเทศอีกครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับเสียงตอบรับด้วยความยินดีจากชาวนิวซีแลนด์หลายพันคนที่ยังคงติดค้างอยู่ในต่างประเทศ และเฝ้ารอที่จะเดินทางกลับบ้าน ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 นิวซีแลนด์กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการบังคับใช้มาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวดมากที่สุด โดยผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องกักตัวในโรงแรมที่กำกับดูแลโดยทหารเป็นเวลา 10 วัน

ขณะที่บริษัทใหญ่ในเกาหลีใต้บางแห่งใช้มาตรการสกัดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการขอให้พนักงานตรวจหาเชื้อก่อนมาทำงานในวันนี้ หรืองดมาทำงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากคนจำนวนมากเพิ่งกลับจากการเดินทางวันหยุดปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ ตัวอย่างเช่น กาเกาคอร์ป บริษัทแอปพลิเคชันแชตรายใหญ่ ห้ามพนักงานเข้าสำนักงานจนถึงวันที่ 18 ก.พ. โดยจะยกเว้นให้เป็นบางกรณี ซึ่งต้องตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองในพื้นที่ที่จัดไว้และมีผลตรวจเป็นลบเท่านั้น และหลังจากวันที่ 18 ก.พ. พนักงานต้องตรวจหาเชื้อก่อนมาทำงาน ด้านเอสเคอินโนเวชัน บริษัทด้านพลังงาน และแอลจีเอเนอร์จีโซลูชัน ผู้ผลิตแบตเตอรี ได้แจกชุดตรวจให้พนักงานตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และขอให้ตรวจก่อนกลับมาทำงานตั้งแต่วันนี้ ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลเกาหลีใต้ก็ใช้มาตรการลักษณะเดียวกัน

ส่วนบังกลาเทศ ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศปิดโรงเรียนเป็นเวลา 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 6 ก.พ. แต่ล่าสุด ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศว่า จะขยายการปิดโรงเรียนต่อไปอีก ครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงธากาไม่พอใจที่นักเรียน 500 คน ต้องกลับมาเรียนออนไลน์ เพราะเด็กจะไม่ได้รับความรู้เหมือนการเรียนในชั้นเรียน และครูผู้สอนต้องใช้อุปกรณ์การสอนเพิ่มเติมเพื่อให้เด็กเข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้การที่เด็กไม่ได้มาเจอเพื่อนที่โรงเรียน ทำให้เสียโอกาสเรื่องการพัฒนาทักษะในการเข้าสังคม ทั้งนี้ หลายฝ่ายรู้สึกแปลกใจที่ทางการบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียน แต่ให้จัดงานทางธุรกิจ เช่น งานจัดแสดงสินค้านาน 1 เดือนที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนก่อน มีคนจำนวนมากแห่แหนเข้าไปดูสินค้าทุกวัน โดยไม่ใส่ใจต่อระเบียบด้านสาธารณสุข และในเดือนนี้ยังจะมีเทศกาลหนังสือนาน 1 เดือนในกรุงธากาที่คาดว่าจะมีคนไปร่วมงานหนาแน่นยิ่งขึ้นไปอีก

บังกลาเทศมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 28,000 คน เดือนม.ค. ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 200,000 คน และเสียชีวิต 322 คน เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ถึง 9,000 คน และเสียชีวิต 92 คน ขณะนี้ยังมีผู้ใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยมากกว่า 4 ล้านคน และมีคนฉีดครบโดสแล้วเพียงร้อยละ 35 เท่านั้น 


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/633133