Sunday, 18 May 2025
TheStatesTimes

“บิ๊กตู่” พอใจประมาณการภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 64 ขยายตัวร้อยละ 1.2 ขณะที่ปี 65 คาดขยายตัวร้อยละ 4.0 โฆษกรัฐบาลเผยยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยเดินมาถูกทาง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อปประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปี 2564 และ 2565 ที่รายงานโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.9 ถึง 1.4) ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อน ณ เดือนตุลาคม 2564 ที่ร้อยละ 1.0 ต่อปี โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ 

ขณะที่ในปี 2565 นั้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ในช่วงร้อยละ 4.0 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5 ถึง 4.5) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายในประเทศที่ขยายตัวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ที่ทำให้การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศมีผลกระทบในวงจำกัด ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง รายงานด้วยว่า บทบาทของการดำเนินนโยบายของรัฐบาลมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยภาพรวมด้านเศรษฐกิจที่ผ่านมาในปี 2564 เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวอันเนื่องมาจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้า และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการประคับประคองเศรษฐกิจไทย และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศที่ปรับดีขึ้น และการเร่งกระจายวัคซีนที่มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวที่ร้อยละ 0.2 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -0.1 ถึง 0.4) และการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.7 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.4 ถึง 3.9) 

'กองทัพเรือ' แจง 'ภาพเก่าปี 56' คราบน้ำมันดำมืดน่ากลัว ยัน! ปัจจุบันเป็นคราบแผนฟิล์มบางๆ ย้ำ!เดินหน้าเตรียมจัดทีมลุยเก็บคราบน้ำมัน เผยกลุ่มคราบน้ำมันก้อนใหญ่เริ่มเข้าใกล้ฝั่ง มั่นใจควบคุมได้

ที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) จ.ระยอง  พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เเถลงความคืบหน้าเรื่องการเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยองว่า ขณะนี้ยังมีเรือจากบริษัท และหน่วยงานต่างๆร่วมกันดำเนินการปฏิบัติการทางทะเล เพื่อดำเนินการขจัด กักเก็บและควบคุมทิศทางคราบน้ำมัน

จากรายงานข่าวล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. เมื่อวานนี้ ทางทีมเก็บกู้คราบน้ำมัน และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้ตรวจพบว่ามีคราบน้ำมันเข้าพื้นที่ชายฝั่งบริเวณหาดแม่รำพึงแล้ว มีลักษณะฟิล์มบางๆ ยังไม่มีความหนามาก ซึ่งจะขัดแย้งกับภาพที่ปรากฎตามสื่อต่างๆเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่มีภาพคราบน้ำมันจำนวนมหาศาลขึ้นสู่ฝั่ง จากการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นภาพเก่าเหตุการณ์เมื่อปี 2556  โดยคราบปัจจุบันไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่เห็น ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าความรุนแรงไม่น่าจะเกิดขึ้น

ขณะที่พล.ร.ต.อาทร ชะระภิญโญ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะรองศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 หรือ ศคปน.ทรภ.1 กล่าวว่า การปฏิบัติช่วงที่ผ่านมายังคงมีการดำเนินการอย่างยิ่งยวดทั้งภาคทะเล โดยมีเรือบริษัท เอสพีอาร์ซี มาบตาพุด และบริษัท ไออาร์พีซี จำนวน 10 ลำ เร่งฉีดสเปรย์ และกางบูม เพื่อกักเก็บคราบน้ำมัน

อีกทั้งเมื่อวานนี้ได้มีปฏิบัติการทางอากาศบิยโปรยสารเคมีด้วย สำหรับการลาดตระเวนทางอากาศกองทัพเรือจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังและติดตามการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน โดยเรามีบูมที่กางและดักคราบน้ำมัน แต่ยอมรับว่ามีคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบางๆเล็ดรอดเข้ามาสู่ชายฝั่งบ้าง ซึ่งล่าสุดสถานการณ์การเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันจากการตรวจสอบทางอากาศว่าคราบน้ำมันกลุ่มหลักยังอยู่บริเวณที่เดิม และเริ่มเคลื่อนที่ช้าๆเข้าใกล้ฝั่ง โดยเราพยายามขจัดและดำเนินการลดจำนวนลง ส่วนบนบกเราก็มีทีมเก็บคราบน้ำมันกรณีขึ้นหาด ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมกำลังพล 200 นาย จากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เพื่อรับความพร้อม โดยทุกคนผ่านการอบรมวิธีเก็บคราบน้ำมัน และมีการแต่งกายด้วยชุดป้องกันอย่างรัดกุม ส่วนคราบน้ำมันฟิล์มบางๆบริเวณหาดแม่รำพึงนั้นมีจำนวนไม่มาก ทางทีมได้เข้าเก็บเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้มีเพียงคราบน้ำมันที่เป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ที่เล็ดลอดนั้นก็มีที่จุดหินดำ และบริเวณสบาย สบาย รีสอร์ท ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการ 
 

'ปศุสัตว์' กำชับทั่วประเทศตรวจสินค้าเข้ม! หลังพบรายงานเจอไส้กรอกอันตราย

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังปศุสัตว์เขตและจังหวัดทั่วประเทศให้เข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าปศุสัตว์ ให้มีความปลอดภัยอาหาร รักษาคุณภาพมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน หลังพบรายงานทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับไส้กรอกที่ไม่มีแหล่งที่มาแน่ชัดกำลังระบาด คือ ไส้กรอกไม่มียี่ห้อ ทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายเนื่องจากมีสารตกค้างพวกไนไตรท์และไนเตรทเกินปริมาณที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เมื่อบริโภคเข้าไปทำให้ป่วยและมีความเสี่ยงเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ ได้กำกับดูแลระบบการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตลอดทั้งกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี GAP โรงฆ่าสัตว์ที่ถูกกฎหมาย โรงงานแปรรูปได้มาตรฐาน มีกระบวนการผลิตที่ถูกสุขอนามัย สินค้าที่ได้มีคุณภาพมาตรฐานปลอดภัย จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าปศุสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ มีการตรวจสอบและกำกับดูแลตลอดห่วงโซ่การผลิต ไม่มีสารอันตรายตกค้าง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน 

‘โฆษกรัฐบาล’ ย้ำ! ผลสำเร็จการเปิดเที่ยวบินพาณิชย์สนามบินเบตง ‘นายกฯ’ มอบความสุขให้คนใต้ มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำถึงผลสำเร็จการเปิดใช้ท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ให้เที่ยวบินพาณิชย์แบบเช่าเหมาลำ โดยสายการบินนกแอร์  เส้นทางดอนเมือง - เบตง - ดอนเมือง ใช้สนามบินเบตงเป็นเที่ยวบินแรกเมื่อวานนี้ (29 ม.ค. 65) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับอำเภอเบตง ว่า เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ถือเป็นผลงานของรัฐบาลที่ต้องการดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มว่า ผลสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพี่น้องชาวเบตงและพื้นที่ใกล้เคียง ที่นอกจากจะเพิ่มทางเลือกการเดินทางมากกว่าเดิมแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น ถือเป็นการมอบความสุขให้พี่น้องภาคใต้ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สนามบินเบตงเกิดประโยชน์สูงสุด ให้เตรียมความพร้อมรองรับการให้บริการอำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเดินทางสัญจรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ภายใต้มาตรการการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อย่างเคร่งครัดด้วย 

1 ก.พ. นี้ เตรียม "เป๋าตัง" ให้พร้อม! 28 ล้านสิทธิเดิมกด “ยืนยัน” ใช้คนละครึ่งเฟส 4 ได้ทันทีทั่วประเทศ “นายกฯ” กำชับคลังเตรียมระบบให้พร้อมรองรับการใช้งาน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ สั่งการเร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 กรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากต่อเนื่อง ให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับประชาชน จำนวนสิทธิรวม 29 ล้านสิทธิ โดยสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และบริการ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน ล่าสุดกระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้เร็วขึ้น เริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 (กลุ่มเดิม) มีจำนวน 27.98 ล้านสิทธิ กลุ่มนี้สามารถกดยืนยันสิทธิในแอพเป๋าตังค์ได้เลย ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิโดยสิทธิที่เหลืออาจจะนำมา พิจารณาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งหากยังประสงค์จะเข้าโครงการฯ จะต้องลงทะเบียนเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ทั้งนี้หากยืนยันสิทธิและใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนด สามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และกลุ่ม 2 ) ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มให้อีก 1 ล้านกว่าสิทธิ เพื่อให้ครบ 29 ล้านสิทธิ  โดยกลุ่มใหม่นี้สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์  2565 และสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2565 ซึ่งสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังมีมาตรการช้อปดีมีคืน 2565 ที่ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและค่าบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2565 (ยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566) ที่ใช้ได้ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยประชาชนที่ใช้โครงการช้อปดีมีคืนก็สามารถใช้โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้ด้วย 

โฆษกภูมิใจไทย เผย '4 ส.ส.' ติดเชื้อโควิด -19 

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีส.ส.ติดเชื้อโควิด - 19  หลายคน และหลายพรรค โดยในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ได้รับรายงาน ยืนยันติดเชื้อแล้ว คือ นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี  นายอำนาจ วิลาวัลย์ ส.ส.ปราจีนบุรีและ นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ส.ส.ระนอง รวมถึงนายสิริพงศ์  อังคสกุลเกียรติ ส.ส. ศรีสะเกษ  ที่ติดไปก่อนหน้านี้

แสดงให้เห็นว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้นไม่แสดงอาการ อย่างนายสิริพงศ์ เขาก็ป้องกันตัวเอง ตรวจATKวันละ 2 ครั้ง และก่อนวันที่จะตรวจว่ามีผลติดเชื้อ ก็พบว่ายังคงมีผลเป็นลบ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุแต่เชื่อว่าในอนาคต การติดเชื้อจะมากขึ้น พร้อมกับตั้งคำถามถึงมาตรการของสภาฯ ว่าจะต้องเข้มข้นขึ้นหรือไม่อย่างไร โดยส.ส.ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรง จึงเชื่อว่าผู้ที่ได้รับวัคซีน 3 เข็มไปแล้ว อาจทำให้ความรุนแรงของโรคน้อยลง

 "บิ๊กตู่" ติดตามการฉีดวัคซีนเด็ก ขณะที่ ศธ. และ สธ. จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้เด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งไทยสามารถรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ และสัดส่วนการฉีดวัคซีนของประชากรก็เพิ่มขึ้น  ขณะนี้ ไทยยังมีความพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์  สำหรับเด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี ในประเทศไทย โดยล็อตแรกได้มาถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2565 ทั้งนี้  กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารสุขจะดำเนินการให้การบริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่เด็กอายุ 5 ปี ไม่เกิน 12 ปี หรือ 11 ปี 11 เดือน 29 วัน คาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ และเข็มที่ 2 จะฉีดในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า   นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงนักเรียนและเด็กเล็ก กำชับการควบคุมการแพร่ระบาดในสถานศึกษา ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม อาทิ การจัดแข่งขันกีฬา ปัจฉิมนิเทศ มีการรับประทานอาหารร่วมกันในลักษณะเดียวกับคลัสเตอร์งานเลี้ยงอื่น ๆ จึงกำชับให้ทุกสถานศึกษาปฏิบัติมาตรการสถานศึกษาปลอดโควิด – 19 ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม  และ 7 มาตรการเข้มงวด   ได้แก่ การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การคัดกรองวัดไข้ การลดการแออัด และการทำความสะอาด

6 มาตรการเสริม ได้แก่ การดูแลตนเอง การใช้ช้อนกลางส่วนตัว การกินอาหารปรุงสุกใหม่ การลงทะเบียนเข้าออก การสำรวจตรวจสอบด้วยแบบสอบถาม และการกักกันตัวเอง และ 7 มาตรการเข้มงวด ได้แก่ ประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน Thai Stop Covid Plus และรายงานผลอย่างต่อเนื่อง การทำกิจกรรมแบบกลุ่มย่อย (Small Bubble) รวมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุซักซ้อมเพื่อรองรับสถานการณ์  ในกรณีพบผู้ติดเชื้อสามารถจัดให้มีระบบ School Isolation และดูแลการเดินทางของนักเรียนในรูปแบบ Seal Route เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน ครูและบุคคลากรในโรงเรียนทุกคนด้วย

'พิธา' กร้าว!! เลิกจี้​ 'ก้าวไกล-ทหาร'​ ปฏิปักษ์กัน หลังคะแนนเสียงจากค่ายทหารเทให้มากกว่าเดิม

'ก้าวไกล'​ แถลงยินดี 'สุรชาติ'​ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน "กรุณพล" ลุยต่อ-มั่นใจเลือกตั้งใหญ่ได้ ส.ส. ด้าน 'พิธา'​ เผยเปอร์เซ็นต์คะแนนดีขึ้น-ชนะเพิ่มในค่ายทหาร 

พรรคก้าวไกล แถลงข่าวผลการเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตจุตจักร-หลักสี่ เบอร์ 6 โดยมี ส.ส. พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. และทีมอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งของพรรค ร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก 

พิธา กล่าวว่า ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคุณสุรชาติ เทียนทอง และพรรคเพื่อไทย รวมถึงยินดีกับพี่น้องจตุจักร-หลักสี่ ที่จะได้คุณสุรชาติเข้าไปทำงาน ในส่วนพรรคก้าวไกล ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้​ 'เพชร กรุณพล'​ และพรรคก้าวไกล แม้เรายังไม่ได้เป็นผู้ชนะ แต่ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว และผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล การมีอยู่ของนักการเมืองแบบนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ และเมื่อดูจากเปอร์เซ็นต์คะแนนเสียงที่ได้รับ ในการเลือกตั้งปี 2562 เราได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้ได้ 24 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าครั้งที่แล้ว ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ให้ความไว้วางใจ 

"นอกจากนี้ นโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ก็ถือว่าเป็นที่ตอบรับดีมาก เพราะคะแนนเสียงจากในค่ายทหารในสมัยอนาคตใหม่เราได้ 26 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้เพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ นั่นแสดงให้เห็นว่า พี่น้องทหารเห็นด้วยกับสิ่งที่เราจะทำให้กองทัพทันสมัย เป็นทหารมืออาชีพ ชีวิตของทหารชั้นผู้น้อยดีขึ้น ชัดเจนว่า นโยบายปฏิรูปกองทัพที่เรานำเสนอดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีใครพยายามสร้างภาพว่าพรรคก้าวไกลกับทหารเป็นปฏิปักษ์กัน คิดว่าเลิกพูดแบบนั้นได้แล้ว เพราะแท้จริงเราพยายามทำให้ทหารมีสวัสดิการสวัสดิภาพที่ดีอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งนี้ เราตั้งใจที่จะทำงานอย่างมุ่งมั่นต่อไปสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศนี้" พิธา กล่าว 

พรุ่งนี้ เปิดลงทะเบียน Test & Go อีกครั้ง! นายกฯ กำชับ ทุกหน่วยงานเข้มแข็ง รัดกุม พร้อมต่อยอด ท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้ให้ประเทศ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายให้เดินหน้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุขที่รัดกุม เพื่อให้ประชาชนในหลายๆ สาขาอาชีพ มีงาน มีรายได้ เพื่อตนเองและครอบครัว แต่ไม่ขัดต่อสถานการณ์การควบคุมโรคโควิด -19 ของทั่วโลก จึงได้วางนโยบายกำหนดให้ประเทศไทยเริ่มให้ผู้เดินทางจากทุกประเทศทั่วโลกลงทะเบียน เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศไทยโดยระบบ Test & Go ได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565 เป็นต้นไป ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายขายรับแนวทางการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรี ยืนยันพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศอย่างเต็มที่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขขั้นสูงสุด

นายธนกร กล่าวว่า สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถือเป็นด่านหน้าต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ภายใต้มาตรการคัดกรองที่เข้มงวด และตามแนวทางโควิดฟรีเซ็ตติ้ง โดยได้บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซี่งในขณะเดียวกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ปรับมาตรการเพิ่มเติมด้านสาธารณสุข รวมทั้ง ได้มีการเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอนาคต

นายธนกร กล่าวว่า ในด้านการท่องเที่ยว ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 2-3 แสนคน ใกล้เคียงกับเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนมีนาคม ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินนโยบายชู Soft Power ของไทย ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้โดดเด่น ให้เป็นส่วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้ง นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ไทยมี Soft Power ที่โดดเด่นในอีกหลายด้าน ได้แก่ กีฬา อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี เพลง การแสดง และศิลปะ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และให้เป็นที่รู้จักและเผยแพร่ในระดับโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยแล้วนั้น soft power ดังกล่าวยังจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย

นายธนกร กล่าวว่า หนังสือพิมพ์ Washington Post ยังได้เปิดเผยว่า ประเทศไทย คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสําหรับการเดินทางในปี 2022 ของชาวอเมริกัน เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มกลับมาดีขึ้นในหลายประเทศ แม้ในช่วงหลังมานี้ชาวอเมริกันให้ความสนใจภูมิภาคเอเชียน้อยลง แต่ประเทศไทยถือเป็นข้อยกเว้น ชาวอเมริกันยังมีความต้องการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น โดยส่วนใหญ่มีความสนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่มาพร้อมกับกิจกรรม อาทิ การฝึกโยคะ และมวยไทย 

 

'พรรคกล้า'​ ปลื้ม!! แม้เป็นพรรคใหม่ แต่กระแสดีขึ้นเรื่อยๆ เผยผลรอบนี้​ ชี้!! 'การเมืองไม่เหมือนเดิม'​ อีกต่อไป

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 2 แถลงหลังทราบผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดยนายกรณ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนนอันดับ 1 โดยหวังว่าจะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส. พร้อมกันนี้ยังกล่าวในฐานะหัวหน้าพรรค ขอบคุณจากใจกับทุกคะแนนที่มอบให้นายอรรถวิชช์ และได้กำลังใจจากคะแนนเสียงที่ได้มา ขอบคุณทีมงาน สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรคกล้าทุกคน เพราะเราทุ่มเทกันสุดตัว แน่นอนที่สุดเราไม่ชนะ เราก็รู้สึกผิดหวัง เพราะทุกครั้งที่ลงเลือกตั้ง เราก็ตั้งใจที่จะชนะเพื่อที่จะสามารถเข้าไปทำหน้าที่ในสภาได้ 

พรรคเราเป็นพรรคใหม่ เราพูดแต่แรกว่าเราเป็นพรรคสตาร์ตอัป ซึ่งความหมายคือ รุกแรงทุกครั้ง รุกเร็วทุกครั้ง เรียนรู้และปรับตัว ซึ่งครั้งนี้ก็เหมือนกัน เรามีบทเรียนและประสบการณ์จากการลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ที่ทำให้เรามีกำลังใจว่าเรามาถูกทางแล้วในการนำเสนอการเมืองคุณภาพที่ชัดเจนที่สุดของการเลือกตั้งครั้งนี้ คือพี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการเห็นการเมืองที่มีคุณภาพ ต้องการเห็นการเมืองที่ดีขึ้น ต้องการเห็นผู้มีอำนาจตอบโจทย์การแก้ปัญหาและใส่ใจในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้น สัญญาณที่ชัดเจนของพี่น้องประชาชนคือความต้องการเปลี่ยนแปลง 

“พรรคกล้าเราถือว่าเรามาถูกทางในการนำเสนอการเมืองคุณภาพ การเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเป็นการเมืองที่จะสามารถสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนได้ สร้างโอกาสให้กับประเทศชาติได้ ขอกราบพระคุณทุกท่านที่ให้คะแนนกับเรา” นายกรณ์ กล่าว

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กล่าวขอบคุณทุกคะแนนจากหัวใจ พร้อมแจ้งข่าวดีให้ชาวพรรคกล้าทราบว่า ฐานเสียงเดิมของพรรคกล้าที่เขตจตุจักร มาเป็นอันดับ 1 แน่นอนคุณสุรชาติ เป็นแชมป์เก่าอยู่ที่หลักสี่อยู่แล้ว จึงชนะในเขตหลักสี่ไป แต่จตุจักรเรายังรักษาตำแหน่งที่ 1 ของเราได้ เป็นเรื่องที่ดี ที่สำคัญ การเลือกตั้งคราวนี้ คะแนนทางการยังไม่สรุปว่าเราเป็นที่ 2 หรือ 3 แต่เราก้าวไปเป็นพรรคการเมืองในระดับที่มีคะแนนเทียบกับพรรคก้าวไกลที่มี ส.ส. ในสภา 50 คนแล้ว และถ้าการเมืองคุณภาพที่เราอยากเห็น เราเห็นชัดเจนว่าการเมืองใหม่เกิดขึ้นแล้วในกรุงเทพมหานคร ผลจะเริ่มสะท้อนชัดเจนว่าการทำการเมืองในวิถีแบบใหม่แบบที่พรรคกล้าเป็น ทำให้พรรคเราขึ้นมายืนได้ขนาดนี้ เลือกตั้งเที่ยวหน้าการเมืองคุณภาพแนวนี้ มันจะเป็นเทรนด์การเมืองใหม่ที่หลายพรรคจะต้องเดินตาม และนี่เป็นความภูมิใจ ที่เราสู้มาตลอดเวลา 30 วันนี้

นายอรรถวิชช์ยังกล่าวถึงการประเมินคะแนนเสียงเบื้องต้น นอกจากฐานเสียงเดิมที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือความเป็นพรรคกล้าที่แจ้งเกิดได้ ว่า ปัญหาตอนนี้ ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเฉพาะเขต ตอนนี้มีการเปลี่ยนตัวหน่วยในหลายจุด ทำให้การสัญจรไปมาลำบาก คาดว่าอยู่ 30% ของผู้มาใช้สิทธิ์ แต่หลักสี่มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมาก ขณะที่จตุจักรน้อยมากบางหน่วยเงียบเหงา ต้องฝากทางกรุงเทพมหานครต้องกระจายข่าวสารให้ทั่วถึงมากขึ้น และถือว่าพรรคกล้าแจ้งเกิดทางการเมืองในกรุงเทพมหานคร เห็นได้ชัดว่าการเมืองใหม่เกิดขึ้นแล้ว การเมืองคุณภาพ การนำเสนอแบบนี้มีโอกาส ตราบใดที่ไม่เสนอการเมืองแบบแบ่งค่าย แต่เป็นการบอกว่าแนวคุณภาพคืออะไรมันไปได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top