คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น
คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว
เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น
- พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) -

คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว
เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร มันก็ไม่ดีทั้งนั้น
- พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) -
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 เวลา 09.09 น. พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ) เจ้าคณะภาค 1 ประธานฝ่ายสงฆ์ และพลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานฝ่ายฆราวาส เข้าร่วมพิธีบวงสรวง เทฉนวนมวลสาร วัตถุมงคลยอดนิยม จากพระเกจิอาจารย์ 108 รูปทั่วประเทศ สำหรับพญาครุฑ รุ่นเหนือดวง ณ วัดบางนา โดยมีเถรคณาจารย์ร่วมพิธีจำนวนมาก
และในโอกาสนี้ พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ) เจ้าคณะภาค 1 ได้มอบทุนสนับสนุนอาหารกลางวันแก่โรงเรียนวัดบางนา (เส็งเลิศประชานุกูล) โดยมีนายพุฒินันท์ แสงสิริวัฒน์ ผู้แทนผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางนา (เส็งเลิศประชานุกูล) เป็นผู้รับมอบ อีกทั้ง พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนเรียนดี ยากจน ในระดับชั้นอนุบาล - ระดับชั้นประถมศึกษาอีกด้วย
และในเวลา 16.09 น. สมเด็จมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลางกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายสรศักดิ์ จันเกษม ประธานศาลอุธรณ์ ภาค 7, นายชาตรี พงษ์อาภา รองอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 3 และนางรุ่งทิพย์ ไชยนาแพง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ประธานร่วมฝ่ายฆราวาส ร่วมเป็นประธานพิธีมหานำฤกษ์ พญาครุฑ รุ่นเหนือดวง ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
เมื่อ 22 ม.ค. 2565 คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ร่วมเปิดงานสัมมนา “LINK Professional Infrastructure for IP CCTV” สำหรับกลุ่มผู้รับเหมาติดตั้ง CCTV ทั่วประเทศ โดยมีคุณประกอบ จ้องจรัสแสง อุปนายกสมาคมกล้องวงจรปิดอัจฉริยะไทย (iCA) พร้อมด้วยทีมวิทยากรมืออาชีพ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการออกแบบ และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด สายสัญญาณ และอุปกรณ์การเชื่อมต่อ มาแบ่งปันความรู้ เล่าผ่านประสบการณ์ เพื่อเจาะลึกระบบโครงสร้างภายนอกอาคาร และบนถนนสาธารณะ
ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 280 คน จากทั่วประเทศ โดยบรรยากาศในงาน เต็มอิ่มไปด้วยสาระความรู้
อัดแน่นด้วยความสนุกสนาน ผ่านกิจกรรมแจกของรางวัลกันทั่วหน้าตลอดทั้งงาน
🔴 LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ
เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มค. 65 ที่ผ่านมา ณ.เรือนคุณปู่ บ้านพูล @ พานทอง ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี
นางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) "สกพอ.เดินหน้าต่อเนื่องสร้างการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านคนทุกช่วงวัย" ลงพื้นที่และชุมชน จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ชลบุรี เพื่อส่งมอบของที่ระลึกจากอีอีซี ให้กับ ผู้นำชุมชน พลังสตรี อีอีซี และคณะทำงานพื้นที่และชุมชนที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนอีอีซี ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาและยังรับฟัง พูดคุยหารือแนวทางการขับเคลื่อนด้านพื้นที่และชุมชน EEC กับการเติบโตที่ดีในทุกมิติ ในปี 2565
ทั้งนี้ สกพอ.ได้เน้นย้ำถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ อีอีซี ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือ พี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วนใน อีอีซี จะต้องมีความเข้าใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน อีอีซี ไปด้วยกันโดย สกพอ.ยังคงเดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมการขับเคลื่อน อีอีซี ผ่านกลุ่มคนทุกช่วงวัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา สกพอ.ได้ดำเนินกิจกรรมสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ผ่านกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ตั้งแต่ระดับเยาวชน ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย ผู้นำชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยระดับประถมศึกษา จัดค่ายเยาวชนอาสาเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวด้านพฤกษศาสตร์ในอีอีซี ร่วมกับโครงการป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และทัศนศึกษาด้านนวัตกรรมใน อีอีซี เพื่อให้เยาวชนตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนา มีเยาวชนระดับประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 400 คน
ระดับมัธยมศึกษา จัดทำโครงการอีอีซี สแควร์ ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เพื่อส่งเสริมศักยภาพเครือข่ายเยาวชนระดับมัธยมศึกษา สู่การเป็นเยาวชนแกนนำ (EEC2 Young Leaders) สร้างทักษะการทำงาน เพิ่มองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ อีอีซี ควบคู่ไปกับการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมามีเยาวชนจังหวัดระยอง และชลบุรี เข้าร่วมโครงการ จำนวน 26 โรงเรียน 104 คน
(23 ม.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีปล่อยกุ้งก้ามกรามและสัตว์น้ำ คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 1ล้าน 5แสนตัว ณ คลองนาคราช ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จัดโดยกรมประมง เพื่อเพิ่มแหล่งอาหาร สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่ชาวประมง และ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19รวมทั้ง เป็นการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำและ คืนความหลากหลายของชนิดสัตว์น้ำ ทำให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศน์โดยมีนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นำเยี่ยมชมบูธพร้อมทั้งบรรยายสรุปสถานการณ์การทำประมงในพื้นที่
พร้อมทั้ง นายสราวุธ อ่อนละมัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชุมพร เขต 2, นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ, นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชุมพร เขต 1, นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมือง สมาชิกสภาอบจ. นายกอบต. และกำนันตำบลตากแดด ร่วมด้วยส่วนราชการ, ภาคประชาชน, ภาคเอกชน, อสม., ครู, นักเรียนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
พร้อมกันนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ยังได้ติดตามความคืบหน้าของการพัฒนาระบบชลประทานเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค รวมทั้งโครงการป้องกันอุทกภัยของจังหวัดชุมพร ซึ่งดำเนินการโดยกรมชลประทานและหน่วยงานอื่นๆ ใช้งบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2567 เพื่อแกัปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากหลายปีติดต่อกันสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับชุมพรตลอดมา ซึ่งส.ส.มีส่วนสำคัญในการประสานงานอย่างต่อเนื่องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวในระหว่างพิธีเปิดว่า ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมากมีรายได้ต่อหัวของประชากรกว่า 2 แสนบาทต่อปีอยู่ในกลุ่มท็อป 20 ของประเทศ โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2565 เป็นกว่า 1 แสนล้านบาทโดยมีภาคเกษตรเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญซึ่งมีพืชเศรษฐกิจหลักทำรายได้ให้จังหวัด เช่น ทุเรียน, ปาล์มน้ำมัน, ยางพารา, มะพร้าว และกาแฟโรบัสต้า รวมทั้งเศรษฐกิจภาคบริการด้านการท่องเที่ยว จึงได้วางนโยบายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชุมพรให้ก้าวสู่เป้าหมายใหม่ของการพัฒนาอย่างน้อยใน 3 ด้าน...
1. นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นมหานครผลไม้ภาคใต้เช่นเดียวกับจันทบุรีในภาคตะวันออก ซึ่งการส่งออกผลไม้ของไทยกำลังเติบโดยอย่างรวดเร็วในปี 2564 เพียง 11 เดือนเราส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นปีแรกที่ทุเรียนส่งออกได้เกิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งชุมพรเป็นจังหวัดที่ผลิตทุเรียนได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางขนส่งผลไม้ทางรถไฟสายจีน-ลาว จะเพิ่มการส่งออกผลไม้ได้มากขึ้นในปีนี้ จึงต้องเร่งยกระดับการพัฒนาชุมพรเป็นฮับผลไม้ภาคใต้
2. นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นฮับกาแฟโรบัสต้าของประเทศโดยสร้างแบรนด์สร้างมูลค่ากาแฟโรบัสต้าที่ชุมพรผลิตได้มากเป็นอันดับ 1 สู่กาแฟมูลค่าสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ เพราะตลาดกาแฟกำลังขยายตัวเติบโตทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จะพัฒนาคู่ขนานกับกาแฟอะราบิก้าของภาคเหนือ
3. นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นประตูท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้ เพราะนอกจากชุมพรเป็นประตูสู่ภาคใต้แล้วยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเลมีท่าเรือบริการเชื่อมเกาะและหมู่เกาะในอ่าวไทยเช่นเกาะสมุยและหมู่เกาะอ่างทองโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติชุมพรมีเกาะกว่า 40 เกาะ เช่นเกาะทะลุ, เกาะงามใหญ่, เกาะง่ามน้อย, เกาะลังกาจิว ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เราต้องเตรียมความพร้อมรองรับโอกาสทันทีที่วิกฤติโควิดคลี่คลายและนักท่องเที่ยวกลับมา
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุมพรทุกคนพร้อมสนับสนุนจังหวัดชุมพรในทุกด้านเพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน
เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 ท่ามกลางงานรื่นเริงรับเทศกาลวันตรุษจีน ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในวันนั้นได้มีการจัดงาน ‘ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์’ โดยจัดขึ้นในช่วงวันที่ 23-29 มกราคม พ.ศ. 2555 มี นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี
โดยเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นในเวลา 19.30 น. ในระหว่างการแสดงพลุดอกไม้ไฟไพโรเทคนิคชุด ‘ปีทองมังกรสวรรค์อวยชัยให้พรตรุษจีน’ ได้เกิดเหตุพลุจำนวนมากระเบิดขึ้นพร้อมกัน จนสามารถเห็นเป็นลำแสงที่พุ่งสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืนและเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกไฟได้ตกใส่บ้านเรือนของประชาชนที่ตั้งติดกันอยู่กันนับร้อยหลังคาเรือนจนเกิดไฟโหมไหม้กว่า 50 หลัง ทั้งยังมีผู้ได้บาดเจ็บกว่า 75 ราย และเสียชีวิต 4 ราย นอกจากนี้หลังจากเหตุการณ์ได้มีผู้มาแจ้งความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด 435 หลัง ซึ่งมีกว่า 71 ราย ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเช่นกัน
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ติดตามตรวจสอบปริมาณสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มงวด โดยเป็นการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่พาณิชย์ ซึ่งตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 23 ม.ค. กรมปศุสัตว์ รายงานว่า ได้มีการดำเนินการทั้งหมดไปแล้ว 539 แห่ง (ตัวเลขสะสมนับตั้งแต่วันที่ 20-23 ม.ค.) พบเนื้อสุกรรวม 13.41 ล้านกิโลกรัม และทางกรมฯจะเดินหน้าตรวจสอบห้องเย็นที่มีสินค้าปศุสัตว์ที่เหลือให้ครบ ซึ่งจะมีอีกประมาณห้าร้อยกว่าแห่ง หากตรวจสอบโดยละเอียดพบมีการกักตุน ผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และเนื้อสุกรจะถูกสั่งให้จำหน่ายตามราคาที่ทางการกำหนดต่อไป
น.ส.รัชดา กล่าวว่า สำหรับข้อมูลการเลี้ยงสุกรในปัจจุบัน ณ เดือน ม.ค. 2565 กรมปศุสัตว์รายงาน มีเกษตรกรผู้เลี้ยง 1.07 แสนราย จำนวนสุกร 10.84 ล้านตัว แบ่งเป็น สุกรพ่อพันธุ์ 4.9 หมื่นตัว สุกรแม่พันธ์ุ 9.79 แสนตัว และสุกรขุน 9.56 ล้านตัว และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า จำนวนสุกรทั้งหมดลดลงร้อยละ 11.81 แยกเป็น สุกรพ่อพันธุ์ลดลงร้อยละ 41.1 สุกรแม่พันธ์ุลดลงร้อยละ 11.16 จำนวนสุกรขุนลดลง ร้อยละ 13.9 และในปีนี้ มีการขยายการเลี้ยงสุกรในพื้นที่ใหม่ ส่วนพื้นที่เดิมที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญมีการเลี้ยงลดลง ฟาร์มขนาดกลางมีจำนวนเกษตรกรเพิ่มขึ้นและขยายการเลี้ยงเพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม ส่วนฟาร์มขนาดใหญ่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่แต่เป็นการเลี้ยงที่ลดความหนาแน่นของสุกรในฟาร์ม
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ควบคู่ไปกับการป้องกันการกักตุนเนื้อสุกร รัฐบาลยังเร่งดำเนินการหลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเนื้อสุกรราคาแพง ซึ่งประกอบด้วยมาตการหลายระยะ กล่าวคือ 1) งดส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลาสามเดือน 2) ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์แก่เกษตรกร 3) สถาบันการเงินจัดสินเชื่อพิเศษเพื่อให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงใหม่ เรื่องเตรียมเข้า ครม. 4) ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุน 5) เพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน 6) ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 7) เร่งศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคระบาด 8) ยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด และ 9) ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรค
พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ชื่อ ป. อันดามัน 2 ซึ่งจอดทอดสมอและอับปางลง บริเวณ แลต.10 องศา 35.06 ลิปดา น. ลอง.99 องศา 38.35 ลิปดา อ. (ระยะห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล) เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา โดยภายในเรือ มีน้ำมันอยู่ประมาณ 5 แสน ลิตร ซึ่งในวันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือได้ประชุมร่วมกับกรมเจ้าท่า ทัพเรือภาคที่ 1 กรมอุทกศาสตร์ กรมควบคุมมลพิษ และเจ้าของบริษัทเรือได้ข้อสรุปจากการประชุมว่า จากการประเมินคราบน้ำมันที่รั่วไหล จากการตรวจสอบพบว่ามีความรุนแรงระดับ 1 น้ำมันรั่วไหลมีขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน ซึ่งกรมเจ้าท่าจะเป็นหน่วยควบคุมและกำกับการปฏิบัติในภาพรวม ทั้งนี้ หากกรณีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มมากขึ้น เป็นขนาดกลาง ตั้งแต่ 20-1,000 ตัน ซึ่งเข้าสู่ความรุนแรงระดับ 2 (Tier 2) จะประสานให้กองทัพเรือจัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ รับผิดชอบกำหนดแผนและยุทธวิธีในการขจัดคราบน้ำมัน
สำหรับในส่วนของกรมเจ้าท่า ได้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.เดินเรือ มาตรา 121 ออกประกาศ โดยสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดชุมพร แจ้งให้เรือต่างๆ ระมัดระวังในการเดินเรือในบริเวณที่มีเรืออับปาง รวมทั้งแจ้งให้บริษัทไทยแหลมทองค้าน้ำมันประมงจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือ ป.อันดามัน2 ห้ามใช้เรือและดำเนินการกู้เรืออับปางโดยเร็วโดยจะทำการเก็บกู้น้ำมัน (ดีเซล) เป็นลำดับแรก ภายใน 7 วัน หลังจากนั้นจะให้กู้เรือภายในเวลา 15 วัน รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน ประกอบด้วย ทุ่นกักเก็บน้ำมัน (Boom) ความยาว 800 เมตร และสาร Dispersant จำนวน 700 ลิตร นอกจากนั้น ทางกรมควบคุมมลพิษ และกรมทรัพยากรธรรมชาติและชายฝั่ง ได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุและเตรียมการรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในกรณีคราบน้ำมันรั่วไหลเข้าชายฝั่ง
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพเรือได้สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 1 จัด เรือหลวงสงขลา เรือหลวงมันนอก และเรือหลวงแสมสาร เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือจะสั่งการ พร้อมทั้งจัดเตรียมตู้คอนเทนเนอร์บรรจุอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน จำนวน 2 ตู้ กับให้หมู่เรือสำรวจของกองเรือทุนระเบิด กองเรือยุทธการ โดยใช้เรือหลวงบางระจันซึ่งมี ยาน seafox-i ยานล่าทำลายทุ่นระเบิด(mine disposal vehicle:MDV) มีขีดความสามารถในการค้นหา พิสูจน์ทราบและทำลายทุ่นระเบิด สามารถปรับมาใช้ในภารกิจนี้ได้
พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ร.อ. สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้แสดงความเป็นห่วงพร้อมทั้งสั่งการให้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดและรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยืนยันว่า กองทัพเรือ มีความพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์และกำลังพล ในการขจัดคราบน้ำมันในทะเล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการฝึกซ้อมกันเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญของกองทัพเรือ เพื่อพิทักษ์รักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องทะเล ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งผลประโยชน์ของชาติที่สำคัญของประเทศ ให้คงไว้อย่างยั่งยืน โดยความคืบหน้า ในส่วนของการจัดการขจัดคราบน้ำมันทางกองทัพเรือจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อสรุปจากการประชุม จากการประเมินคราบน้ำมันที่รั่วไหล จากการตรวจสอบพบว่ามีความรุนแรงระดับ 1 น้ำมันรั่วไหลมีขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน กรมเจ้าท่าจะเป็นหน่วยควบคุมและกำกับการปฏิบัติในภาพรวม
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเสนอ 3 แนวทางในการแก้ปัญหาโศกนาฏกรรมบนท้องถนน หลังเกิดเหตุเศร้า ส.ต.ต.ขี่บิ๊กไบค์ชนแพทย์หญิงเสียชีวิต
จากกรณีข่าวสุดสลด เมื่อ ส.ต.ต.ควบจักรยานยนต์ big bike ducati สีแดง ชนขณะที่ พญ.วราลัคน์เดินข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย หน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เป็นเหตุให้ พญ.วราลัคน์เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ตำรวจนครบาลเผยแจ้ง 5 ข้อหา "ส.ต.ต." ขี่บิ๊กไบค์ชนแพทย์หญิงเสียชีวิต "ขับรถโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย" และข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในข้อหา นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย และไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) และพ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหา ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (23 ม.ค.) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเพจ "เอ้ สุชัชวีร์" เสนอทางแก้ปัญหาเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยได้ระบุข้อความว่า
"แค่เสียใจ คงไม่พอ สามทางแก้ ผมขอเสนอ โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญบนถนนใจกลาง กทม. เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ชนคุณหมอเสียชีวิตขณะข้ามทางม้าลาย”
ผม เอ้ สุชัชวีร์ ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุด ต่อครอบครัวคุณหมอกระต่าย และเพื่อนร่วมงานทุกท่าน แต่แค่เสียใจ คงไม่พอ เมื่อผมอาสามารับใช้ กทม. ก็ต้องมาพร้อมการแก้ปัญหา ไม่ให้ความสูญเสียเกิดขึ้นอีก ในฐานะวิศวกร อดีตนายกวิศวกรรมสถานฯ และอดีตนายกสภาวิศวกร ผมขอเสนอ (อีกครั้ง) ว่า ในประเทศที่อุบัติเหตุบนถนนน้อยมาก เขาทำอย่างไร ทำไมเราต้องเปลี่ยนถนน กทม. ให้ปลอดภัย
1.) "ต้องไม่ยอมให้ผ่านไปเหมือนไฟไหม้ฟาง มีหน่วยงานหาความจริง"
เมื่อมีอุบัติเหตุบนถนน เขาจะตั้งกรรมการผู้เชี่ยวชาญเพื่อถอดบทเรียนจริงจัง ไม่รอข่าวเงียบ เพื่อหาต้นตอปัญหา ไม่ใช่แค่รู้ว่าใครชน คนนั้นรับผิดชอบ เพราะมันอาจเกิดจากปัจจัยอื่นด้วย ดังนี้ "เกิดจากถนน และสิ่งแวดล้อม" หรือ "เกิดจากยานพาหนะ" หรือ "เกิดจากคน ผู้ขับขี่" หรือทุกปัจจัย เพื่อนำไป "แก้ไขที่ต้นเหตุ!!!" ลดความเสี่ยง หยุดการสูญเสียในอนาคต
กทม. จะต้องมีหน่วยงานกลางเพื่อไต่สวนหาสาเหตุที่แท้จริง ถอดบทเรียนเพื่อนำมาดำเนินลดความเสี่ยง หน่วยงานนี้ต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านถนนและวิศวกรรมจราจร ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญอิสระภายนอก ดำเนินการเก็บข้อมูลหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถวิเคราะห์สาเหตุได้ถูกต้อง แล้วเสนอทางแก้ไข ทั้งด้วยการเปลี่ยนกายภาพถนน ใช้เทคโนโลยี และใช้กฎหมายเข้มข้น กทม. มีสำนักจราจร มีสำนักโยธา มีสำนักการแพทย์ มีคณะวิศวะ คณะแพทย์ มีคนเก่ง พร้อมครับ ต้องทำ #เราทำได้
📌 ฟ้าหลังฝน...!! มองเศรษฐกิจไทยปี 65 กับ ‘คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
📌 ใน Topic : เศรษฐกิจไทยปี 65!! เหนื่อย…แต่ดีกว่าปี 64 จริงหรือ!?
ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC
ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES
.
.