Monday, 19 May 2025
TheStatesTimes

ศาลให้ประกันตัว’สรศักดิ์’ 1 แสนบาท!! พร้อมขอ ‘พรเพชร’ เป็นพยานคดี ’วัชระ’ ฟ้องผิดม.157,172 กรณีแจ้งเท็จ-ไม่ส่งเอกสารตามหมายเรียกของศาลอาญา

(21ม.ค.65)ว่าที่ร้อยตรี สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ ทนายความของนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า ตามที่นายวัชระ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานแจ้งความเท็จและประพฤติมิชอบ อันเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญาม. 157 และ 172 นั้น

 ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ 702 นัดสอบคำให้การของนายสรศักดิ์ เพียรเวช จำเลยว่าจะให้การรับสารภาพผิดหรือปฏิเสธสู้คดี ซึ่งจำเลยได้ให้การปฏิเสธ โดยร้องขอต่ออัยการจากสำนักงานอัยการฝ่ายแก้ต่าง ให้มาเป็นทนายความแก้ต่างให้จำเลย พร้อมอ้างขอพยานจำนวน 8 ปากคือ นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาฯ อ้างตนเองเป็นพยานน.ส.สิริธร ลิมปะพยอม ผอ.สำนักรายงานการประชุมฯ นายณัฐวัชร์ มังคละคุปต์ ผบ.กลุ่มงานพัฒนาระบบ นายนัฑผาสุข อดีตเลขาฯสนง.เลขาฯวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นางอศยา วังวล ผบ.กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป นางอารยะหญิง จอมพลาพล ผอ.สำนักบริหารงานกลาง และนายจักรพันธ์ จันทรเจริญ ผอ.สำนักกฎหมาย 

ศาลมีคำสั่งให้คู่ความดำเนินการดังต่อไปนี้ภายใน 45 วัน นับแต่วันนี้

1. ตรวจสอบพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งและทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลว่ายอมรับหรือโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าว หากโต้แย้งให้แสดงเหตุแห่งการโต้แย้งโดยชัดแจ้ง มิฉะนั้นถือว่ายอมรับพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่ง

2. แถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานในประเด็นที่ยังโต้แย้งกัน ทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร พยานบุคคลและหลักฐานอื่นที่คู่ความจะสืบพยานให้คู่ความมาศาล เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวร่วมกับเจ้าพนักงานคดี ให้นัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดีรวม 1 นัด ในวันที่ 17 ก.พ.65 เวลา 9.00 น.กรณีที่คู่ความไม่มาในวันนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดี หรือไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลดังกล่าว ถือว่าคู่ความมีความพร้อมดำเนินกระบวนพิจารณา และไม่มีข้อขัดข้องใด  ศาลจะพิจารณาตรวจพยานหลักฐานไปตามรูปคดีที่ปรากฎในสำนวนและตามรายงานของเจ้าพนักงานคดีต่อไป ให้ประกันตัวจำเลยโดยวางหลักทรัพย์จำนวน 1แสนบาทและให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 16 มี.ค. 65 เวลา 9.30 น. 

 

คดีนี้นายวัชระ โจทก์ได้บรรยายคำฟ้องว่า นายสรศักดิ์ เป็นหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการของสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ มีอำนาจสั่งการ อนุญาต และอนุมัติ และกระทำการแทนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และยังได้รับการแต่งตั้งจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

‘พาณิชย์’ เผยส่งออกปี 64 โต 17.1% มองปี 65 คาดขยายตัวเพิ่มอีก 3-4%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกของประเทศในเดือนธ.ค. 64 ว่า การส่งออกของไทยในเดือนธ.ค. ยังเป็นบวกอยู่ที่ 24.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 24,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ทำให้ตัวเลขการส่งออกทั้งปีเติบโตถึง 17.1% โดยเป็นยอดส่งออกทั้งสิ้น 271,173 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 8.5 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเดือนธ.ค. ถือว่า เป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้การส่งออกของโลกดีขึ้นตาม แม้ปัญหาโควิดในเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนจะแพร่ระบาดแต่ไม่น่าจะรุนแรงไปมากกว่านี้ ทำให้ภาครัฐและเอกชนยังคงเดินหน้าร่วมกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงเร่งเจาะตลาดในหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่ โดยเฉพาะในตลาดรัสเซียในกลุ่มซีไอเอส เอเชียใต้ อาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา เกาหลีใต้ กลุ่มซีแอลเอ็มอี สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และยุโรป 

“เฉลิมชัย” มอบ “อลงกรณ์” ลงพื้นที่หน้าด่านหนองคาย-อุดรฯ สัปดาห์หน้า ประสานผู้ประกอบการ ”ไทย-ลาว-จีน” ร่วมมือส่งออกข้าว-ยางพารา-ผลไม้ บนเส้นทางรถไฟสายใหม่รับมือฤดูกาลผลิตปี 2565

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กรกอ.)และประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบเปิด

เผยวันนี้(21ม.ค.)ว่า ในวันพฤหัสบดีสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปหนองคาย-อุดรฯ เพื่อหารือกับผู้ประกอบการ ”ไทย-ลาว-จีน” ด้านโลจิสติกส์เพื่อร่วมมือกันในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ผัก ผลไม้กล้วยไม้ สินค้าประมงและสินค้าปศุสัตว์บนเส้นทางรถไฟลาว-จีน 

สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2565 ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีทางด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรอาหารและโครงการโลจิสติกส์ปาร์คตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ไนโตรเจนฟรีสเซอร์และระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อการส่งออก

“ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 500 ตันโดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวโดยมีจุดหมายปลายทางที่มหานครฉงชิ่ง (Chongqing)ในภาคตะวันตกของจีนเป็น Shipment แรกซึ่งสามารถผ่านการตรวจตราและออกใบรับรองจากด่านตรวจพืชที่หนองคายขนส่งถึงท่าบกท่านาและผ่านการเห็นชอบของด่านศุลกากรลาวแล้วรอขบวนรถขนส่งสินค้าเพื่อเดินทางออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้ไปมหานครฉงชิ่ง ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานคลาดเคลื่อนจากหน่วยงานว่าขนส่งไปฉงชิ่งแล้วรวมทั้งจำนวนน้ำหนักซึ่งได้ช่วยประสานงานกับทางลาวและได้รับความร่วมมืออย่างดีในการอนุมัติผ่านด่านศุลกากรและกระทรวงเกษตรของลาว เมื่อขบวนรถไฟขนส่งมาถึงก็พร้อมออกเดินทางได้ทันที

การขนส่งระบบรางเป็นระบบใหม่จากไทยผ่านแดนลาวเพื่อขยายโอกาสทางการค้าภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชนตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งทั้ง 2 ท่านได้ดำเนินการเจรจากับทางการจีนและลาวทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการตลอดมาโดยเฉพาะในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่าซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกฝ่ายจึงสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้และถอดบทเรียนปัญหามาสู่การขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกัน” 

‘โอมิครอน’ ยึดพื้นที่ทั่วไทย 80% สธ.คาด สิ้นเดือนนี้เข้าแทนที่ ‘เดลตา’ 

นายแพทย์ศุภกิจ เผย ทุกจังหวัดในไทยล่าสุดติดเชื้อโอมิครอนครบแล้ว คาดปลายเดือนนี้เชื้อดังกล่าวเพิ่มเป็น 98% เข้ามาแทนที่จนเดลตาหายไป 

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อโควิด-19 ที่ระบาดในประเทศไทย วันนี้ไม่มีจังหวัดไหนที่ไม่พบเจอเชื้อโอมิครอน โดยพบแล้วทุกพื้นที่ ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 17,021 ราย จังหวัดที่สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ และ เชียงใหม่ เพิ่มขึ้นกว่า 200 ราย และเป็นการติดเชื้อในพื้นที่ร้อยกว่าราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ ร้อยละ 97 เป็นการติดเชื้อโอมิครอน ดังนั้น คนที่ตรวจหาเชื้อพบผลบวก ก็เชื่อได้เลยว่าเป็นโอมิครอนเกือบทั้งหมด

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มในประเทศก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา จะตรวจโดยตรวจกลุ่มเดินทางมาจากต่างประเทศ และเดินทางผ่านชายแดนเข้ามาทุกราย ด้วยวิธี RT-PCR และจำนวนหนึ่งจะส่งมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว โดยสุ่ม 140 ตัวอย่าง ต่อศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมี 15 แห่งทั่วประเทศ และครึ่งหนึ่งจะถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น การสุ่มในภาพรวมจากผลบวกในแต่ละวัน คลัสเตอร์การระบาด กลุ่มที่ได้วัคซีนแล้ว และกลุ่มที่มีอาการเสียชีวิต บุคลากรการแพทย์ คนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

“ข้อมูลในช่วงวันที่ 11-17 มกราคม 2565 ภาพรวมประมาณ ร้อยละ 87 แต่เฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ร้อยละ 97 จาก 1,437 ตัวอย่าง ขณะที่ในประเทศตรวจ 2,274 ตัวอย่าง พบเป็นเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 80 เชื้อเดลตา ร้อยละ 20 เป็นสัดส่วนที่น่าจะใกล้ความเป็นจริงในภาพรวมของประเทศ” นพ.ศุภกิจ กล่าว

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสายพันธุ์ย่อยในประเทศไทย ในกลุ่มคนทั่วไป วันนี้สัดส่วนที่เจอเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 85 เชื้อเดลตา ร้อยละ 15 แต่มีเชื้อเดลตาสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มติดเชื้ออาการรุนแรง หรือเสียชีวิต พบประมาณ ร้อยละ 33 หรือ 2 เท่า ของกลุ่มแรก อันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเชื้อเดลตาแน่นอน

“ส่วนกลุ่มที่วัคซีนครบถ้วน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มฉีด 2 เข็ม พบเชื้อเดลตาพอสมควร บุคลากรการแพทย์ร้อยละ 25 เป็นเชื้อเดลตา และสุดท้ายที่น่าสนใจ 8 ราย ที่มีการติดเชื้อซ้ำเป็นเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 100 จากเดิมคนที่ติดเชื้อเดิม เช่น เชื้อเดลตา จะมีภูมิสูง แต่ยังสามารถติดเชื้อซ้ำเป็นเชื้อโอมิครอนได้ สะท้อนว่า ภูมิเดิมที่มีต่อเชื้อเดิมป้องกันเชื้อโอมิครอนไม่ได้” นพ.ศุภกิจ กล่าวและว่า ในเชิงพื้นที่ตามเขตสุขภาพต่างๆ หลายเขตขึ้นไป ร้อยละ 70-80 ที่เพิ่มมาก คือ เขตฯ 4,6,7 ขึ้นไปเกือบ ร้อยละ 90 และเขตฯ 13 กรุงเทพฯ ร้อยละ 86 ส่วนใหญ่เป็นเชื้อโอมิครอน ที่เหลือลดลง แต่ที่น่าสังเกตคือเขตฯ 12 หรือชายแดนใต้ ครึ่งหนึ่งเป็นเชื้อเดลตา ดังนั้น พื้นที่นี้มีลักษณะชุมชนแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น ไม่มีสถานบันเทิง และไม่มีการรั่วไหลมาจากมาเลเซีย คนมาจากต่างประเทศก็ไม่ได้ไปในพื้นที่มากมาย ทำให้ครึ่งหนึ่งยังเป็นเชื้อเดลตา แต่ในที่สุดจะถูกแทนที่ด้วยเชื้อโอมิครอนอยู่ดี

สิงคโปร์เอาจริง ‘จับ-ปรับ’ ดาวรุ่ง OnlyFans ไม่สน!! แม้สังคมตะวันตกมองเป็นเรื่องปกติ

ดาราหนุ่ม OnlyFans ชาวสิงคโปร์งานเข้า เมื่อทางการสิงคโปร์ออกหมายจับข้อหาส่งรูปโป๊ อนาจาร ขายให้กับกลุ่มแฟนคลับผ่านบัญชี OnlyFans ของเขา ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายสื่อลามกอนาจารของสิงคโปร์ และมีสิทธิ์ได้รับโทษทั้งจำ ทั้งปรับ

ติตัส โลว์ ดาราหนุ่มนักสร้างคอนเทนต์ผู้ใหญ่วัย 22 ผ่านสื่อโซเชียลชื่อดัง OnlyFans ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสิงคโปร์ มีผู้ติดตามผลงานภาพถ่ายส่วนตัวของเขาบนเพจหลายพันคน ถูกจับกุมและตั้งข้อหาโดยทางการสิงคโปร์ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2021 จากการกระทำผิดดังกล่าว

เนื่องจากตามหลักกฎหมายของประเทศสิงคโปร์นั้น การส่งภาพที่เข้าข่ายลามกอนาจารผ่านสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเพื่อแสวงหาผลกำไรหรือไม่ก็ตาม ยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ทั้งผู้ส่ง และผู้รับ ซึ่งแม้จะอนุญาต หรือยินยอมพร้อมใจ ก็ยังถือว่าผิด

จากคดีนี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสิงคโปร์ว่าการสร้างคอนเทนต์แนวผู้ใหญ่อย่างเปิดเผย สมควรถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ผิด กฎหมายหรือไม่ เพราะ ติตัส โลว์ เอง ก็เป็นดาว OnlyFans คนแรกของสิงคโปร์ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาดังกล่าว ซึ่งหากศาลตัดสินว่าทำผิดจริง ตัวเขาก็อาจต้องรับโทษจำคุกนานถึง 6 เดือน และปรับเงินอีก 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ อันจะส่งผลถึงเส้นทางของผู้สร้างคอนเทนต์ใน OnlyFans รายอื่นๆ ในสิงคโปร์อีกกว่า 100 คนที่มีโอกาสสูงที่จะถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน

สำหรับคดีของ นายติตัส โลว์ นั้น ทางตำรวจสิงคโปร์รายงานว่า ได้เริ่มมีการตักเตือนมาก่อนหน้านี้ หลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของเขาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม (ปี 64) และมีการยึดบัญชี OnlyFans รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไอโฟน และไอแพดของเขา และยังแจ้งเตือนให้เขายุติกิจกรรมใน OnlyFans 

แต่ต่อมานาย โลว์ ได้ติดตามขอบัญชีผู้ใช้คืนจาก OnlyFans และยังเปิดบัญชีสำรองเพื่อโพสต์ภาพนู้ดส่วนตัวผ่านหน้าเพจอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง โดยนาย โลว์ ได้อ้างว่าตัวเขามีรายได้เลี้ยงชีพจากการขายคอนเทนต์บน OnlyFans เท่านั้น ซึ่งการปิดบัญชีผู้ใช้ ทำให้เขาขาดรายได้

นั่นจึงเป็นเหตุให้ทางตำรวจสิงคโปร์ตัดสินใจจับกุมตัวเขาในเดือนธันวาคม ด้วยความผิด 2 กระทง คือ การส่งภาพลามกอนาจารผ่านบัญชี OnlyFans ทั้ง 2 บัญชี และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่ให้ยุติการเคลื่อนไหวในบัญชีผู้ใช้ของเขา 

ต่อมา นายติตัส โลว์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า ถูกตำรวจสิงคโปร์ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดี และยังจับเขาใส่กุญแจมือ และขังคุก ทำให้เขากลัวมาก และไม่เข้าใจว่าตัวเขาทำความผิดร้ายแรงถึงขนาดนั้นเชียวหรือ

'นายกฯ' สั่งเข้ม ห้ามกักตุนสินค้า ระหว่างที่ รัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาหมูแพง หวั่น ซ้ำเติมความเดือดร้อนประชาชน  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการแก้ปัญหาราคาหมูแพง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการปัญหาเกี่ยวกับหมูทั้งระบบ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้มีหลายมาตรการต่างๆ ควบคู่กัน เพื่อลดปัจจัยปัญหาราคาหมูแพง ทั้งการห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรทุกกรณี เป็นเวลา 3 เดือน  ผู้เลี้ยง ผู้จำหน่าย ผู้ส่งออก ผู้ครอบครองต้องจัดทำบัญชีคุมสินค้า แสดงปริมาณการเลี้ยง ปริมาณการซื้อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณคงเหลือ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกเวลา  ทั้งนี้ หากพบเห็นว่า มีการฉวยโอกาสหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด 

นายธนกร กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ ได้รายงานการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบกรณีอาจมีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกรเพื่อผลประโยชน์ทางการค้านั้น ซึ่งล่าสุด ชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ โดยด่านกักกันสัตว์สงขลา ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา พบ ณ วันที่เข้าตรวจสอบมีซากสุกรคงเหลือในคลัง 201,650.90 กิโลกรัม โดยไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของซากสุกรได้ จึงได้อายัดซากสุกรไว้  พร้อมมีแผนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบห้องเย็นทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดสงขลาระหว่างวันที่ 21-31 มกราคม นี้ ด้วย วานนี้ (20 ม.ค. 2565) ชุดเฉพาะกิจด่านกักกันสัตว์จันทบุรี ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นเอกชนแห่งหนึ่ง พบซากสุกรแช่แข็งเข้าพักฝากที่ห้องเย็น ยอดคงเหลือ ณ. 20 มค.65 จำนวน 267,650.62 กก. ถือว่ามีความผิดปกติ 

นายธนกร กล่าวว่า ยังมีรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี พบมีการกักตุนเนื้อสุกร เกินกว่า 5,000 กิโลกรัม โดยไม่ได้แจ้งให้พาณิชย์จังหวัดทราบ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542  มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการขนย้ายซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558  มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน  20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจะได้มีการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

"ก้าวไกล" ปล่อยคลิปโหมกระแสก่อนเปิดตัวแคนดิเดตชิงผู้ว่าฯ กทม. 23 ม.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่าน เฟซบุ๊กแฟนเพจและทวิตเตอร์พรรคก้าวไกล ได้เผยแพร่คลิปความยาวกว่า 2 นาที ภายใต้สโลแกน “หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลาเลือกผู้ว่าที่พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพ” โดยเนื้อหาคลิปนำเสนอปัญหาที่คนกทม.เผชิญมาเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นรถติด ขนส่งมวลชนคุณภาพแย่ ราคาแพง ฟุตบาธไม่ดี น้ำท่วม โครงการก่อสร้างที่สร้างไม่เสร็จ 

นอกจากนี้ คลิปดังกล่าวตั้งคำถามว่า เป็นเวลา 47 ปีมาแล้ว ที่กรุงเทพฯ มีผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง ในขณะที่เกือบทุกจังหวัดของประเทศไทยยังไม่มีโอกาสได้เลือกผู้ว่าฯ ของตนเอง แต่ทำไมผู้ว่าฯ ที่มาจากประชาชน ควรมีหน้าที่รับใช้ประชาชน กลับทิ้งให้ประชาชนตกอยู่ภายใต้ปัญหาเดิมๆ ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

พรรคก้าวไกล ระบุว่า พรรคมีภารกิจสำคัญคือการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ ที่พร้อมชนทุกปัญหา รื้อขยะที่อยู่ใต้พรมกทม.ขึ้นมาจัดการ แก้ไขอย่างตรงไปตรงมา เพราะตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอ ก็ไม่มีทางทำให้ชีวิตคนกรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้ 

รมว.แรงงาน แจงผลการดำเนินการโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 65 จ้างงานเกินเป้า 40%

กระทรวงแรงงาน ร่วมมือสถานประกอบการภาคเอกชน ส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม สร้างโอกาสมีงานทำให้คนพิการ มีงานทำ 1,400 คน สร้างรายได้ร่วม 160 ล้าน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศอย่าง "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยกระทรวงแรงงานพร้อมสนองต่อนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยเน้นสร้างโอกาสแก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเปราะบาง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานจัดทำโครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ประเภทจ้างเหมาบริการ เพื่อเชิญชวนนายจ้าง สถานประกอบการที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 ให้ดำเนินการให้สิทธิแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 โดยจ้างงานคนพิการเป็นพนักงานเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนในหน่วยบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ชุมชนใกล้บ้าน เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ ศูนย์บริการคนพิการของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกล ได้รับโอกาสมีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป โดยมีการกำหนดเป้าหมายการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 2565 ไว้ จำนวน 1,000 คน และเตรียมขยายการมีงานทำให้คนพิการฯ มีงานและรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 20% ภายใน 4 ปี 

อย่างไรก็ดีต้องขอบคุณความร่วมมือของสถานประกอบการภาคเอกชน จำนวน 181 แห่ง อาทิ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ บมจ.แคล - คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) สาขาเพชรบุรีและสาขาสมุทรสาคร กลุ่มบริษัท อเด็กโก้ ประเทศไทย และบริษัท รักษาความปลอดภัย การ์ดฟอร์ซ (ประเทศไทย) จำกัด  ที่ได้ให้สิทธิคนพิการฯ ตามโครงการส่งเสริมจ้างงานคนพิการเชิงสังคมในปีนี้ ถึง 1,400 คน เพิ่มจากเป้าหมายร้อยละ 40 ก่อให้เกิดรายได้ 159,943,425 บาทต่อปี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ปูนบำเหน็จ “ตำรวจกล้า” เลื่อนยศเป็น พลตำรวจตรี พร้อมเงินเยียวยาครอบครัวกว่า 1,500,000 บาท ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับดูแลสิทธิประโยชน์อย่างดีที่สุดและรวดเร็ว

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากเหตุการณ์อันน่าสลดใจ ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.หนองปลิง สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้ออกติดตามคนร้ายผู้ก่อเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุแล้วคนร้ายได้คลุ้มคลั่งยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จึงได้กำชับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นของ ร.ต.อ.ชัยปติณญาแสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ให้ดูแลสวัสดิการต่าง ๆ แก่ครอบครัวของนายตำรวจผู้เสียสละอย่างดีที่สุดและรวดเร็ว

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ครอบครัวของ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จะได้รับสิทธิประโยชน์เบื้องต้น ดังนี้ 

- เลื่อนยศจาก ร้อยตำรวจเอก เป็นพลตำรวจตรี

- การบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจ

- เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

- เงินกองทุนสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

- เงินบำเหน็จตกทอด และเงินสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เบื้องต้นรวมประมาณ 1,500,000 บาท

กลางปีเจอกัน!! เผยภาพ รถไฟบริจาคจากญี่ปุ่น ลงราง คาดเปิดใช้ในเส้นทางท่องเที่ยวกลางปีนี้

รถ KIHA 183 ลงรางเรียบร้อย มุ่งหน้าสู่โรงงานมักกะสัน การรถไฟฯ เร่งปรับปรุงรถไฟ Kiha-HOKKAIDO ตามแผน เพื่อใช้หนุนเส้นทางการท่องเที่ยว คาดกลางปีนี้เริ่มทดลองใช้ได้ 4 คันในเส้นทางท่องเที่ยวระยะสั้น 

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการบริหารจัดการรถไฟดีเซลราง JR Hokkaido Kiha 183 จากญี่ปุ่น จำนวน 17 คัน ที่ไทยได้รับมอบจากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงอุปกรณ์หลักของตัวรถ พร้อมดัดแปลงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในตู้โดยสารให้พร้อมรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ พร้อมกระตุ้นรายได้ให้กับท้องถิ่น ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภาพรวมให้กลับมาคึกคัก 

ทั้งนี้ ภายหลังจากการรถไฟฯ ได้ดำเนินการปรับขนาดเพลาล้อ จาก 1.067 เมตร (มาตรฐานญี่ปุ่น) เป็น 1 เมตร (มาตรฐานไทย) เสร็จเรียบร้อยและนำรถไฟลงรางที่สถานีแหลมฉบังแล้ว โดยในวันนี้ (21 มกราคม 2565) ขบวนรถ Kiha-HOKKAIDO ได้เคลื่อนขบวนออกจากสถานีแหลมฉบัง เมื่อเวลา 09.00 น. เพื่อเตรียมนำไปปรับปรุงสีใหม่ ที่โรงงานมักกะสัน เพื่อจะกลับมาให้บริการภายในปีนี้  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top