Friday, 23 May 2025
TheStatesTimes

“คุณหญิงกัลยา” เปิดโครงการเยี่ยมชมวิถีเกษตร นำร่องวิทยาลัยเกษตรฯ มหาสารคาม สร้างโมเดลผลิตผู้ประกอบการด้านเกษตรครบวงจร 

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เปิดโครงการเยี่ยมชมวิถีเกษตร นำร่องวิทยาลัยเกษตรฯ มหาสารคาม สร้างต้นแบบแหล่งผลิตผู้ประกอบการด้านการเกษตรแบบครบวงจร ก่อนขยายไปทุกวิทยาลัยเกษตรฯ ทั่วประเทศ

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เเละนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) นายณรงค์ ดูดิง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช) และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เปิดโครงการเยี่ยมชมวิถีเกษตร พร้อมติดตามการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ และหลักสูตรชลกร ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 9-10 มกราคม 2565   

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการมีเป้าหมายที่จะยกระดับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ทั้ง 47 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างโอกาส และผลิตผู้ประกอบการด้านการเกษตรครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงเชิงพาณิชย์ โดยการเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านการเกษตรและแต่ละพื้นที่ ผนวกกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะและสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ได้จริง โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคามจะเป็นต้นแบบนำร่องในการเป็นแหล่งสร้างผู้ประกอบการด้านการเกษตรแบบครบวงจร 

“วิทยาลัยเกษตรฯ จะเป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านการเกษตรรูปแบบใหม่ โดยการนำทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในวิทยาลัยฯ มาผนวกกับการท่องเที่ยวเกษตรผสมผสานด้วยระบบการบริหารจัดการที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของบุคลากร นักเรียน นักศึกษา เป็นการต่อยอดนำวิถีเกษตรของวิทยาลัยฯ ไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างการเรียนรู้วิถีเกษตรและสร้างรายได้ ให้กับนักศึกษาในวิทยาลัย เป็นการต่อยอดอาชีพในอนาคต เรามีเป้าหมายที่จะยกระดับผู้เรียนอาชีวศึกษาเกษตรให้มีอาชีพที่มั่นคง สร้างผู้ผลิต สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่”ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว 

นายปรัชญา ตะภา ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม กล่าวว่า  วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม พร้อมรับนโยบายดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการส่งเสริมให้นักศึกษาอาชีวะเกษตรได้รับการพัฒนาศักยภาพ  คุณภาพ และยกระดับให้เป็นอาชีพที่มั่นคงสู่การเป็นต้นแบบของเกษตรกรยุคใหม่ ตลอดจนพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรแก่ชุมชน สำหรับโครงการเยี่ยมชมวิถีเกษตรที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จะเป็นการเยี่ยมชมวิถีชีวิตเกษตรชุมชน และเกษตรสมัยใหม่ชีววิถี ซึ่งเป็นผลงานของนักศึกษาปัจจุบันของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม

“โฆษกรัฐบาล” สวน เพื่อไทย ลั่น รัฐบาลพร้อมแจงสภาฯ ยื่นซักฟอก ปมบริหารจัดการโควิดเหลว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าจะเสนอให้พรรคเพื่อไทยเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 เรื่องการบริหารจัดการโควิดที่ล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในสัปดาห์หน้า ว่า เป็นสิทธิ์ที่ฝ่ายค้านสามารถดำเนินการได้ตามกรอบรัฐธรรมนูญ โดยรัฐบาลพร้อมชี้แจงและจะถือโอกาสอธิบายให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง หลังจากที่ฝ่ายค้านสลับหน้ากันดิสเครดิตรายวันจนประชาชนสับสน 

ยืนยันว่ารัฐบาลมีการวางแผนสถานการณ์โควิด-19 ไว้ล่วงหน้า ตามการคาดการณ์ของ ศบค.ไม่ได้ล่าช้าหรือสับสน ถ้าจะสับสนคงเป็นฝ่ายค้านที่ออกมาด้อยค่าวัคซีน แต่วันรุ่งขึ้นกลับรีบไปฉีดวัคซีนก่อนประชาชน

EEC + SEC อนาคตไทยหลังโควิด!! | Click on Clear THE TOPIC EP.122

📌 พลาดไม่ได้!! ชวนคิดเศรษฐกิจไทย กับ ‘อ.ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์’ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

📌 ใน Topic : EEC + SEC อนาคตไทยหลังโควิด!!

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

‘อัษฎางค์’ ถาม ‘ธนาธร’ ใช้วิถีของอภิสิทธิ์ชน จนลืมข้อเรียกร้องความเท่าเทียมไปแล้วหรือ?

10 ม.ค. 65 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค เรื่อง “วิถีของอภิสิทธิ์ชนกับความเท่าเทียมแบบเทียมๆ” ธนาธร ผู้ทรงไว้ซึ่งทรัพย์ เป็นธนาธร ที่ไม่ต้องทอน รวยแล้วไม่โกง จริงหรือ? ระบุว่า 18 มกราคม 2564 นายธนาธรตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 และการเข้ามาเกี่ยวข้องของ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ประธานคณะก้าวหน้ากล่าวว่า เหตุที่เขาออกมาตั้งข้อสังเกตในเรื่องนโยบายและแนวทางการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลเป็นเพราะ…. ***การได้วัคซีนล่าช้าและ ***ไม่ครอบคลุมกลุ่มประชากรส่วนใหญ่

ในเวลาต่อมา….29 พฤษภาคม 2564 สื่อได้รายงานข่าวจากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก ใจความตอนหนึ่งว่าหากยังจำกันได้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมได้ออกมาแสดงความกังวลเรื่องแผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าการจัดการแบบนี้ ช้า ไม่ทันการณ์ แทงม้าตัวเดียว เสี่ยงต่อการที่วัคซีนจะมาช้า และ***ไม่หลากหลายเพียงพอกับความต้องการของประชาชน***การลงทะเบียนรับวัคซีน ที่ในตอนแรก รัฐบาลประกาศให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพียงช่องทางเดียว เริ่ม 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดปัญหาแอปล่ม 
*** ประชาชนเข้าไม่ถึง
*** ท่ามกลางความสับสนอลหม่านนี้ ผลลัพธ์สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นก็คือ ไทย
*** ได้วัคซีนน้อย ช้า

ตำรวจเตือนภัย ‘สมัครงานออนไลน์’ ระวังถูกหลอกเอาบัญชีไปโกงเงินผู้อื่น

10 ม.ค. 65 - พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีประชาชนตกเป็นเหยื่อคนร้ายนำบัญชีธนาคารจากที่สมัครงานทางออนไลน์ไปใช้ว่า พฤติการณ์ของคนร้ายเริ่มต้นจากการประกาศรับสมัครงานผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อ้างว่าเป็นงานที่รายได้สูง สามารถทำงานจากที่บ้านได้ แค่เพียงมีคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งหากสนใจสมัคร คนร้ายก็จะอธิบายรูปแบบของการทำงาน 

โดยงานดังกล่าวจะเป็นการรับโอนเงิน อ้างว่าเป็นตำแหน่งบัญชี รับเงินจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ เมื่อมีเงินเข้าบัญชี จะให้โอนเงินต่อไปยังบัญชีที่คนร้ายกำหนด และจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินตามจำนวนครั้งที่ทำรายการ ซึ่งเงินที่เข้ามาในบัญชีจริงๆ แล้วเป็นเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้อื่นหรือได้มาจากการกระทำความผิด ส่งผลให้เจ้าของบัญชีถูกแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิด

ตร. เตือน!! สมัครงานออนไลน์ ระวังถูกหลอกเอาบัญชีไปโกงผู้อื่น เสี่ยงถูกดำเนินคดี

วันที่ 10 ม.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ปัจจุบัน พบว่ามีพี่น้องประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของอาชญากร อย่างไม่รู้ตัวในรูปแบบของการสมัครงานทางออนไลน์ โดยขอให้นำบัญชีธนาคารของตนเองมาใช้ในการทำงาน สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายเริ่มต้นจาก การประกาศรับสมัครงานผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ อ้างว่าเป็นงานที่รายได้สูง สามารถทำงานจากที่บ้านได้ แค่เพียงมีคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งหากสนใจสมัคร คนร้ายก็จะอธิบายรูปแบบของการทำงาน

โดยงานดังกล่าวจะเป็นการรับโอนเงิน อ้างว่าเป็นตำแหน่งบัญชี รับเงินจากผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ เมื่อมีเงินเข้าบัญชี จะให้โอนเงินต่อไปยังบัญชีที่คนร้ายกำหนด และจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินตามจำนวนครั้งที่ทำรายการ ซึ่งเงินที่เข้ามาในบัญชีจริง ๆ แล้วเป็นเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้อื่นหรือได้มาจากการกระทำความผิด ส่งผลให้เจ้าของบัญชีถูกแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิด

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ได้กล่าวต่อไปอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก จึงอยากจะประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังในการสมัครงานผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้บัญชีธนาคารของท่านในการรับโอนเงินจากผู้อื่น เพราะท่านอาจ ตกเป็นเครื่องมือของคนร้ายในการหลอกลวงผู้อื่น หรือคนร้ายอาจนำบัญชีธนาคารของท่านไปใช้ในการกระทำความผิดอื่น เช่น ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง การพนัน ยาเสพติด หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ เจ้าของบัญชีธนาคารอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้ในกรณีดังต่อไปนี้

1.ในฐานะตัวการร่วมในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

2.ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วน ของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

 

เติร์กเมนิสถาน เล็งดับไฟ ‘ประตูสู่นรก’ หลังไฟลุกไหม้มานานนับครึ่งศตวรรษ

ผู้นำเติร์กเมนิสถานมีคำสั่งให้ผู้เชี่ยวชาญไปค้นหาวิธีที่จะดับไฟในหลุมก๊าซธรรมชาติดาร์วาซา (Darvaza) ซึ่งเกิดการลุกไหม้มานานนับ 50 ปี จนได้รับฉายาว่าเป็น “ประตูสู่นรก” (Gateway to Hell)

ประธานาธิบดี กูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ม.ค.) โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาวิธีดับไฟในหลุมก๊าซดาร์วาซา กลางทะเลการากุม เนื่องจากส่งผลกระทบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ผู้นำเติร์กเมนิสถานเคยออกคำสั่งให้มีการดับไฟ และปิดหลุมก๊าซดาร์วาซามาแล้วรอบหนึ่งเมื่อปี 2010

เบอร์ดีมูคาเมดอฟ ย้ำว่า หลุมที่มนุษย์สร้างขึ้นนี้ “ก่อผลเสียทั้งต่อสภาพแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง” พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ “ไปหาวิธีที่จะดับไฟให้ได้”

“ราเมศ” ไม่ให้ราคา ส.ส.พปชร. หลังออกมาอัดรมต.ปชป. ย้ำ นักการเมืองต้องมีวุฒิภาวะช่วยกันแก้ ไม่ใช่สร้างปัญหา

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมากล่าวพาดพิงการทำหน้าที่ในส่วนรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ว่าโดยส่วนตัวไม่ให้ราคากับนักการเมืองประเภทนี้ และไม่อยากถามหาคำว่ามารยาททางการเมือง เพราะพิสูจน์มาแล้วหลายครั้งว่าคำนี้ไม่สามารถสร้างได้ภายในไม่กี่วัน เนื่องจากต้องมาจากจิตใต้สำนึกที่แท้จริง ซึ่งในเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค ทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาลและภาคเอกชนกำลังเร่งแก้ปัญหา ไม่มีใครปล่อยปละละเลย 

รัฐบาล ชี้ ข้อมูล 'เดลตาครอน' ยังไม่ชัด ‘บิ๊กตู่' วอนให้เชื่อมั่นสาธารณสุขไทย

10 ม.ค. 2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้จากกรณีของความห่วงกังวลเกี่ยวกับการพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ในสาธารณรัฐไซปรัส ที่มีการตั้งชื่อว่า “เดลตาครอน (Deltacron)” ซึ่งเป็นการผสมผสานพันธุกรรมระหว่างสายพันธุ์เดลตากับสายพันธุ์โอมิครอน และพบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 25 ราย นั้น กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลรายงานที่เป็นทางการออกมา อย่างไรก็ดี ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการติดตามข้อมูลจากทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจำนวน 25 ตัวอย่างจากฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” ซึ่งทางไซปรัสได้อัปโหลดไว้ มาวิเคราะห์และพบว่ารหัสพันธุกรรมทั้ง 25 ตัวอย่างบ่งชี้ว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนสารพันธุกรรมของโอมิครอนเข้ามาระหว่างการถอดรหัสพันธุกรรม ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ข้อมูลดังกล่าวยังคงไม่ชัดเจน จึงอาจต้องใช้เวลาเก็บรวบรวมข้อมูลสักระยะ

ศร.ชล เร่งตรวจสอบที่พบเรือ Fin Shui Yuan 2 ในพื้นที่รับผิดชอบทัพเรือภาคที่ 2 เพราะเกรงว่าจะเป็นเรือที่ทำผิดกฎหมาย แต่ยืนยันว่า  ปัญหาปริมาณน้ำมันตกค้างไม่น่ากังวล เนื่องจากพบคราบน้ำมันไม่หนาแน่น และยังไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

พลเรือตรี อิทธิพัทธ  โฆษกศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน0ของชาติทางทะเล (ศรชล.) แถลงกรณีเรือ Fin Shul Yuan 2 ลอยตามกระแสน้ำมาบริเวณพื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.ภาค 2 จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า  หลังได้แจ้งพบเรือลำนี้ ก็ได้บูรณาการตรวจสอบทันที ซึ่งขณะนี้เรือได้จมลงแล้ว แต่กองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เร่งตรวจสอบที่มาของเรือตามข้อมูลต่างๆ 

พร้อมทั้งได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อจัดการเรื่องคราบน้ำมันซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนกังวลใจ เบื้องต้นตรวจพบคราบน้ํามันลอยเหนือผิวน้ํา โดยคราบน้ํามันมีลักษณะเจือจางไม่มีแผ่นหนามาก และจะสลายไปจากคลื่นลมธรรมชาติ 

ทั้งนี้แม้เรือจะจมแล้ว แต่กองทัพเรือยังคงติดตามการเคลื่อนตัวกับทิศทางของเรือ หากมีแนวโน้มส่งผลกระทบ จะเร่งขจัดคราบน้ํามันต่อไป โดยการดําเนินการติดตามของ ศรชล. กรณีเรือ Fin Shui Yuan 2 ได้ประสานให้กรมเจ้าท่า พิจารณาออกคําสั่งตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ําไทย อาจจะพิจารณาในการกู้เรือ และ จัดตั้งคณะทํางานสืบสวนสอบสวนที่มาที่ไปของเรือต่อไป  ทั้งนี้จะกองทัพเรือพยายามจะลากเรือมาตรวจสอบ เพราะเกรงว่าจะเป็นเรือผิดกฎหมาย แต่เรือได้จมลงก่อน โดยไม่ได้มีเจตนาปิดบังซ่อนเร้นใดๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top