Saturday, 24 May 2025
TheStatesTimes

“ชัชชาติ” วิ่งไหว้พระ9วัด รับปีใหม่ เพื่อสิริมงคล พร้อม ดูปัญหาเมืองกทม. ฟุตบาท กันสาด ทางข้าม คนไร้บ้าน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หนึ่งในว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ทำกิจกรรมวิ่งไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ 2565  โดยได้ถือโอกาสดูเมืองเส้นทางท่องเที่ยว ทางเดินเท้า ถนน บริเวณรอบเมืองชั้นใน โดยเริ่มจากวัดเทพศิรินทร์ฯ วัดสระเกศฯ วัดเทพธิดารามฯ วัดราชนัดดารามฯ วัดบวรนิเวศฯ วัดชนะสงครามฯ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดราชบพิธฯและวัดสุทัศน์ฯ

นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ได้มาวิ่งกับกลุ่มนักวิ่งที่วิ่งด้วยกันอยู่ประจำ โดยส่วนใหญ่พวกเราก็จะวิ่งตอนเช้าและที่มาวิ่งในวันที่ 1 มกราคมหรือปีใหม่ก็เพื่อศิริมงคลและไหว้พระ 9 วัด ส่วนทำไมต้องวิ่ง 9 วัดนั้นเพราะเป็นความเชื่อ แต่จริงๆจะกี่วัดก็ได้ทั้งนี้การมาวิางวันนี้สนุกมากและมีประโยชน์แฝงอยู่หลายอย่าง ทั้งเรื่องสุขภาพและการได้เห็นเมือง อย่างที่วันนี้ได้วิ่งเข้ามาในกรุงเทพฯชั้นในได้เห็นปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องถนน ฟุตบาท คนไร้บ้าน ซึ่งในเขตพระนครมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก และตนคิดว่าปีนี้เป็นที่เศรษฐกิจจะลำบาก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาตนเห็นว่าเรามีแหล่งวัฒนธรรมที่มีคุณค่าในกรุงเทพฯแล้วเราจะทำอย่างไรให้คนในประเทศท่องเที่ยวกันมากขึ้น แม้จะทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็จะทำให้เศรษฐกิจกระตุ้นขึ้น คนกรุงเทพฯออกไปเที่ยวต่างจังหวัดคนต่างจังหวัดมาเที่ยวในกรุงเทพฯ

อย่างวันนี้ที่ตนได้วิ่ง 9 วัดก็ได้รู้ว่าแต่ละวัดมีประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่และเป็นเสน่ห์ คนที่อยู่ต่างจังหวัดตอนนี้โรงแรมกรุงเทพฯว่างมหาศาลสามารถหาโอกาสเข้ามาเที่ยวได้ โดยการท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีราคาแพงมาก มาดูประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ และคนกรุงเทพฯมีเวลาก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด อย่างน้อยก็จะช่วยเรื่องเศรษฐกิจเพราะตนเชื่อว่าปีนี้เรื่องเศรษฐกิจจะหนักมาก เรื่องสุขภาพเป็นเทรนของคนกรุงเทพฯและคนทั้งประเทศที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น และเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะไม่ควรรอให้เป็นโรคถึงมารักษาออกกำลังกายทุกวันให้แข็งแรง ส่วนเศรษฐกิจก็ช่วยกันประคับประคองไป อย่างวิ่งวันนี้ก็ได้ประโยชน์หลายอย่างทั้งสุขภาพและดูเมืองดูปัญหาเศรษฐกิจดูการกระตุ้นและการใช้จ่ายของประชาชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่ได้มาวิ่งพบปัญหาใดชัดเจนบ้าง นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องฟุตบาทกับทางข้ามนั้นชัดเจน อย่างพวกตนที่เป็นนักวิ่งจะมีปัญหาเรื่องทางข้ามถนนเยอะเพราะทางข้ามบางทีไม่มีจุดว่าเมื่อไหร่จะให้คนข้ามก็ต้องวัดใจกันว่าตกลงไฟเขียวหรือไฟแดงฉะนั้นตนคิดว่าทางแยกทางข้ามทุกจุดควรจะมีจังหวะให้คนข้ามและมีสัญญาณบอกให้ชัดเจน ส่วนเรื่องฟุตบาท คือ ฟุตบาทไม่เรียบและยังมีกันสาดที่มาเกะกะทางเดินคนยิ่งถ้าเป็นคนแก่หรือผู้พิการก็จะใช้ทางได้ยาก โดยพวกเราก็ได้รวบรวมข้อมูลและดูว่าจุดไหนต้องเร่งดำเนินการก่อน 

"สมศักดิ์" วอน ชาวสุโขทัย ร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีรับนักท่องเที่ยว สร้างความประทับใจ เกิดรายได้ให้ท้องถิ่น ร่วมใจ ฝ่าทุกวิกฤตไปด้วยกัน 

ที่ จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในงานทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ "รับบุญแรกแห่งเมืองสุโขทัย" นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ประเทศชาติของเราต้องประสบปัญหาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง จนต้องปิดเมือง ปิดประเทศ ประชาชน ค้าขายลำบาก ส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ รายได้ของประชาชนไม่พอต่อการดำรงชีวิต

'มัลลิกา' เผย ราคาข้าวขยับขึ้น! จ่ายส่วนต่างลดลง “ข้าวเปลือกเจ้า” รับชดเชยสูงสุด ตามด้วย “ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชาวนายิ้มแป้น! "จุรินทร์" เดินหน้า จ่ายงวดที่ 11-12 ข้าวฤดูนี้ ชดเชย 5 ชนิดเหมือนเดิม v

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรต่อเนื่อง ล่าสุดให้แจ้งเกษตรกรโดยเฉพาะพี่น้องชาวนาที่แจ้งการเก็บเกี่ยวตรงกับงวดที่ 11-12 การเพาะปลูกข้าวปี 2564/2565 ในขอบล่าสุดซึ่งเป็นการจ่ายส่วนต่างราคาข้าวผู้ที่ทราบ ซึ่งโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 3 ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน

สำหรับงวด 12 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงได้ประกาศอนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 24-30 ธ.ค.2564 จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว 

สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 12 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,221.50 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,778.50 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,895.61 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,104.39 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,925.94 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,074.06 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,191.25 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,808.75 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 9,511.47 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,488.53 บาท โดยงวด12 เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 12 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 52,899 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 49,670.24 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,851.50 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 54,262.50 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 39,816.48 บาท

ส่วนงวดที่ 11 มีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 17-23 ธ.ค.2564 และประกาศราคากลางฯเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2564 หรือก่อนหน้านี้งวดล่าสุด 1 สัปดาห์ โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,200.61 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,799.39 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,867.60 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,132.40 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,936.67 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,063.33 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,154.29 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,845.71 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 9,316.15 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,683.85 บาท โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 11 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 53,191.46 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 50,188.40 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,583.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 55,371.30 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 42,941.60 บาท

“ชวน”คาด ปี 65 กม.เข้าสภามากขึ้น แนะ รมต.เข้าสภาฟังอภิปราย – ตอบกระทู้ เชื่อเป็นประโยชน์ปชช. ชี้เรื่องที่กมธ.พิจารณาแล้วไม่ผ่าน เท่ากับไม่มีผลงาน ปัด ประเมินอายุรัฐบาลอยู่ครบเทอมหรือไม่ แต่สภาไม่เป็นอุปสรรคให้ฝ่ายบริหาร

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติในปี65 ว่าช่วงที่ผ่านมากฎหมายของฝ่ายบริหารทุกฉบับผ่านไปได้ด้วยดี ในส่วนที่ยังค้างการพิจารณาอยู่ส่วนใหญ่เป็นญัตติทั่วไปประมาณ 200 ญัตติ และคิดว่าปี 65 จะมีกฎหมายใหม่ๆเข้ามามากขึ้น ส่วนเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ถือเป็นผลงานของทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล ซึ่งเรื่องเหล่านี้ควรจะผ่านการพิจารณา ถ้าไม่ผ่านเท่ากับผลงานไม่ออกมาเลย 

นายชวน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีปัญหาบ้าง และแนะนำเป็นการภายใน เป็นเรื่องของการตั้งกระทู้ถาม ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสภาฯก็ไม่มีตัวอย่างในการตั้งกระทู้ ทำให้มีการตั้งกระทู้ลักษณะขัดต่อข้อบังคับ เพราะการตั้งกระทู้ไม่ใช่ลักษณะของการอภิปราย แต่เป็นการตั้งคำถามเพื่อต้องการคำตอบ ที่ผ่านมามีสมาชิกส่วนหนึ่งไม่เข้าใจ แต่การตั้งกระทู้ถามตรวจสอบฝ่ายบริหารในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิม เดิมเป็นกระทู้ถามทั่วไป แต่ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ และข้อบังคับ ให้มีกระทู้ถามสดด้วยวาจา

ซึ่งรัฐมนตรีไม่มีโอกาสทราบคำถามล่วงหน้า เพราะเป็นเรื่องด่วน เรื่องที่ประชาชนสนใจ และกระทบผลประโยชน์ของประเทศ และยังมีกระทู้ถามแยกเฉพาะ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะที่ เฉพาะเรื่อง รวมทั้งยังมีกระทู้ทั่วไป ที่เป็นเรื่องในอดีตที่เคยทำมา ซึ่งสมาชิกมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบฝ่ายบริหารด้วยการใช้กระทู้เพิ่มขึ้นใน 2 ระบบ ทั้งนี้ เรื่องกระทู้ต่างๆ ถือเป็นวาระที่รัฐมนตรีจะต้องเตรียมตัว ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติจะทำหน้าที่ตรวจสอบ และสอบถามข้อมูล

ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า ในภาวะวิกฤตโควิด – 19 ที่ผ่านมา ส.ส.ถือว่าเป็นส่วนที่ช่วยได้มาก ตนขอชื่นชมทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน จากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง จึงได้เห็นการช่วยเหลือจากทั้งส่วนรวม และส่วนตัว จากนั้น ได้นำปัญหาเข้ามาหารือในที่ประชุมสภาฯ ดังนั้นแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนช่วงวิกฤตโควิด – 19 ส.ส.ถือเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนมาที่ตน ประมาณ 1 พันกว่าเรื่องในรอบปีที่ผ่านมา

ซึ่งสมัยก่อนไม่มีคนร้องทุกข์มากขนาดนี้ แสดงว่าประชาชนหวังให้สภาฯเป็นที่พึ่งในหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มการประชุมในปี 65 จะมีการนัดประชุมชดเชยวันหยุดช่วงปีใหม่ โดยนัดประชุมนัดพิเศษวันที่ 14 ม.ค.และ 28 ม.ค.65 และในวันพุธ พฤหัสบดี ของการประชุมสภาฯ จะเพิ่มเวลาการประชุมขึ้นอีกประมาณ 2 ชม. ซึ่งคาดว่าในปี 65 จะพิจารณาเรื่องที่ค้างอยู่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ ขณะที่ การประชุมรัฐสภา มีเรื่องที่ค้างอยู่ 3 เรื่อง โดยจะมีการหารือเพื่อกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาต่อไป 

เมื่อถามว่า มองว่าสถานการณ์ทางการเมืองในปี 65 จะเป็นอย่างไร เพราะยังมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นพอสมควร นายชวน กล่าวว่า ในส่วนของสภาฯส่วนตัวคิดว่าความคิดเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกันนั้นยังคงมีอยู่ แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูการทำงาน เชื่อว่าระบบนี้ยังสามารถเดินไปได้ปกติ ไม่น่าจะมีอะไรเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน การปฏิบัติภารกิจของนักการเมืองก็อยู่ในสายตาของประชาชนมากขึ้น ใครที่สร้างปัญหา ประชาชนจับตาดูอยู่ ซึ่งในสมัยนี้ก็ปฏิเสธยาก เพราะมีการสื่อสารในหลายรูปแบบ แต่ถึงจะมีความขัดแย้งไม่พอใจเรื่องใดก็ตาม ก็ควรต้องอยู่ในกรอบที่สามารถควบคุมได้ 

เมื่อถามว่า ประเมินแล้วรัฐบาลจะสามารถอยู่จนครบวาระหรือไม่ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่สามารถประเมินฝ่ายบริหารได้ แต่ในส่วนของสภาฯคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของฝ่ายบริหาร และฝ่ายอื่น ๆ และเชื่อว่าในระบบนี้ เราสามารถที่จะผ่านการปฏิบัติภารกิจของแต่ละฝ่ายไปได้ด้วยดี ตนได้ย้ำเตือนทุกครั้ง เมื่อพบฝ่ายบริหารก็ได้ย้ำว่าถึงอย่างไรก็ต้องมาตอบกระทู้ของสภาฯ และเมื่อมีการเสนอญัตติในสภาฯ ฝ่ายรัฐบาลต้องมาชี้แจงต่อสภาฯ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ และโอกาสที่จะได้ชี้แจงข้อมูลความจริงที่มีการตั้งประเด็น หากฝ่ายบริหารไม่ตอบสภาฯ ประชาชนก็ไม่รู้ข้อมูล “อย่างน้อยรัฐมนตรีควรเข้ามานั่งฟัง จะได้รู้ว่าเขากล่าวหาอย่างไร และใช้สิทธิชี้แจงว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่จริง” นายชวน กล่าว

“วิษณุ” ชี้ การเมือง'65 ร้อนแรงตั้งแต่เดือน พ.ค. เปิดซักฟอกรัฐบาลได้ - ย้ำ กฎหมายลูกห้ามถูกคว่ำ หวั่น กระทบเลือกตั้ง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานระหว่างการทำงานของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรในปี 2565 มีอะไรน่ากังวลหรือไม่โดยเฉพาะการแก้กฎหมายต่างๆ ท่ามกลางปัญหาสภาล่มในปีที่ผ่านมา ว่า สภาฯในสมัยประชุมนี้จะจบในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 กฎหมายที่จะต้องเข้า พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ 2555 หรือ วาด้า กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. รวมทั้งกฎหมายอีกหลายฉบับที่เสนอต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูป ดังนั้นสมัยประชุมนี้จึงไม่มีอะไรตื่นเต้นโลดโผน แม้จะมีอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติก็ตาม 

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนสมัยประชุมหน้าที่เปิดในเดือนพ.ค.2565 นั้น มีกฎหมายงบประมาณปี 2566 และมีกฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายปฏิรูปที่เสนอเข้าสภาเดียว ซึ่งถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องว่ากัน รวมทั้งมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติก็จะเข้าสมัยประชุมหน้า 

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าเดือนว่าพฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป เป็นช่วงตื่นเต้นของรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่าเดือนพฤษภาคม แต่หมายถึงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนกันยายนเป็นเวลา 120 วัน เป็นสมัยประชุมที่สามารถมีกิจกรรมทางการเมืองหลายอย่างเกิดขึ้น

เมื่อถามว่าหากกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งผ่านการพิจารณาในช่วงสมัยประชุมเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จะทำให้เกิดกระแสเรียกร้องยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กระแสเรียกร้องมีแน่และมีทุกวัน ซึ่งวันนี้ก็มีอยู่แล้ว แต่จะสามารถตอบสนองต่อกระแสดังกล่าวได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะบางที่อยากสนองก็สนองไม่ได้ เพราะกฎหมายลูกแม้มีผลบังคับใช้แล้วก็ยังมีรายละเอียดว่าจะต้องทำอะไรต่อไปภายในระยะเวลาที่กำหนด ส่วนจำนวนวันที่ระบุไว้จะทำให้เห็นว่าหากยุบสภาไปก่อนก็คงยากลำบาก เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้งก็ต้องแบ่งใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าต้องแบ่งภายใน 90 วัน ใช่หรือไม่ ดังนั้นจะเกิดอะไรก่อน 90 วันนั้นคงไม่ได้ ตนยังไม่พูดถึงเรื่องการประชุมเอเปคและจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ แต่พูดถึงระยะเวลาตามปกติ ดังนั้นต้องรอผลของกฎหมายลูก 

เมื่อถามย้ำว่า หากกฎหมายลูกยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยุบได้ แต่ยุบแล้วเกิดปัญหา กติกาต่างๆ ยังไม่มีอะไรชัดเจน รัฐธรรมนูญเป็นเพียงแม่บทวางเอาไว้ ซึ่งเดิมกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นคนวางรายละเอียด แต่ได้มีการตัดออกไปก่อน จึงยังไม่มีใครกำหนดได้ ดังนั้นต้องรอกฎหมายลูกเท่านั้น 

เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุยุบสภา รัฐบาลจะสามารถออกพ.ร.ก.มาแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นความเสี่ยงมาก เพราะการออกพ.ร.ก. รัฐบาลกำหนดฝ่ายเดียว สภาจะยอมหรือไม่ที่จะให้รัฐบาลวางกติกาสำหรับเขาในการไปเลือกตั้งฝ่ายเดียว โดยที่เขาไม่มีสิทธิร่วมพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และหากไม่เห็นด้วยขึ้นมาแต่เลือกตั้งผ่านไปแล้วจะให้ทำอย่างไร หรือหากพ.ร.ก.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แล้วการเลือกตั้งที่ผ่านไปแล้วและกกต. ได้แจ้งมาว่าใช้เงินประมาณ 5,600 ล้าน จากเดิม 3,000 ล้าน แต่ขณะนี้ตัวเลขขึ้นมาแล้วก็จะเป็นปัญหา

‘อลงกรณ์’ เปิดวิสัยทัศน์ ลุยปฏิรูปเกษตรไทย ชี้ ต้องปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่

วันที่ 4 ม.ค. 64 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีต ส.ส. 6 สมัย และอดีตรัฐมนตรี เขียนบทความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย” “ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่” เป็นตอนที่ 2 ของซีรีส์ ”ก้าวใหม่ประเทศไทย” โดยระบุว่า องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โครงการอาหารโลก (World Food Program) องค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานผลการประชุมสุดยอดระบบอาหารโลก (UN Food System Summit 2021) โดยสรุปว่า โลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารจากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชากรโลกประสบปัญหาการเข้าถึงอาหารและราคาอาหารจะแพงขึ้นเป็นวิกฤติของโลกแต่ก็เป็นโอกาสของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารชั้นนำของโลก 

ประเทศไทยของเรามีศักยภาพการผลิตและการตลาดด้านเกษตรและอาหารสูงมาก
ปี 2560 เราเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับ 14 ของโลก
ปี 2561 ขึ้นเป็นอันดับ 12 ของโลกซึ่งมีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ปีเดียวขึ้น 2 อันดับและเป็นครั้งแรกที่ขึ้นเป็นที่ 2 ของเอเชียรองจากประเทศจีนเท่านั้น
ปี 2562 ขยับต่อเนื่องขึ้นเป็นอันดับ 11 ของโลกและยังครองอันดับ 2 ของเอเชีย
นับเป็นประเทศ “หนึ่งเดียวในโลก” ที่ 2 ปีขึ้น 3 อันดับ
ไทยแลนด์ โอนลี่ครับ

หลังโควิดคลี่คลาย เราจะสานฝัน “ครัวไทย ครัวโลก” สู่อันดับท็อปเท็นของโลกตามนโยบายของรัฐบาล

วันนี้สินค้าเกษตรสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมของไทยติดท็อปเท็นของโลกจำนวนไม่น้อย เช่น ยางพารา ยางรถยนต์ ถุงมือยาง น้ำตาล ทุเรียน ข้าว สับปะรดกระป๋อง อาหารทะเล ทูน่ากระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง เอทานอล มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ

ส่วนใหญ่ส่งออกในรูปวัตถุดิบและสินค้าแปรรูปขั้นต้นมูลค่าต่ำแบบที่เรียกว่า “ทำมากได้น้อย (More for Less)” ประเทศและเกษตรกรจึงมีรายได้น้อยมาอย่างยาวนาน เราจึงต้องเปลี่ยนใหม่สู่การ “ทำน้อยได้มาก (Less for More)”

ถ้าทำแบบเดิมๆ จะไม่สามารถยกระดับอัปเกรดภาคเกษตรเทคออฟสู่เพดานใหม่ได้

อย่างไรก็ตามแม้โจทย์จะชัดเจนในตัวเอง แต่คำถามคือ แล้วเราจะทำอย่างไร

ผมจะยกตัวอย่างการถอดสมการนำมาสู่การออกแบบโมเดลการปฏิรูปภาคเกษตรไทย

ถ้าเราย้อนมองบริษัท เช่น Amazon Alibaba Google Apple Tesla จะได้คำตอบว่าทำไมบริษัทเหล่านี้จึงสามารถทะยานขึ้นสู่บริษัทแนวหน้าของโลกภายในเวลา 20 ปี โดยเฉพาะ Apple เป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (มากกว่างบประมาณไทย 30 ล้านเท่า)

คำตอบคือ วิสัยทัศน์ เทคโนโลยีและการบริหารจัดการใหม่ๆ

อีกตัวอย่างเช่น ประเทศจีนที่พัฒนาตัวเองจากประเทศยากจนด้อยพัฒนาสู่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 และมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีภายใน 30 ปี

คำตอบก็เหมือนกัน

การถอดบทเรียนจากตัวอย่างเหล่านี้ช่วยให้การดีไซน์การปฏิรูปง่ายขึ้น

การปลดกระดุมแล้วกลัดใหม่จึงเกิดขึ้นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เป็นกระบวนการปฏิรูปการบริหารจัดการเชิงโครงสร้างและระบบ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นแก่นกลาง

2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งรัดการปฏิรูปภาคเกษตรเดินหน้าภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ. (จบปริญญาเอกด้านยุทธศาสตร์โดยตรง) และนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ (เจ้าของสโลแกน “ทำได้ไวทำได้จริง”) ด้วยการสร้างกลไก 4 แกนหลัก คือภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคเกษตรกร เป็น 4 เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ยุทธศาสตร์ 3S (Safety-Security-Sustainability) เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง เกษตรยั่งยืน ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนและยุทธศาสตร์บูรณาการทำงานเชิงรุก นโยบายโลจิสติกส์เกษตร นโยบายอาหารแห่งอนาคต รวมทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการ 22 หน่วยงาน เพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรและพัฒนาต้นน้ำการผลิตด้วยการเพิ่มผลิตภาพ (productivity) ลดต้นทุน การพัฒนาคนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) ของประเทศ

เคลียร์แล้วส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ก.เกษตรประสานเปิดด่าน 4 ม.ค. เน้นตรวจเข้มโควิด19

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศจีนได้ออกมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เข้มงวด ณ ด่านนำเข้าจีน ส่งผลต่อการส่งออกผลไม้ของไทยในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกการขนส่งผลไม้ไทย และทูตเกษตรได้ประสานงานกับทางการจีนมาโดยตลอด ขณะนี้ประเทศจีนได้เปิดด่านรถไฟผิงเสียง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง)แล้ว

โดยกำหนดให้นำเข้าผลไม้ไทยได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เพื่อคลี่คลายปัญหากรณีด่านตงซิง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง)ปิดด่าน ส่งผลให้ทุเรียนและลําไยสดปริมาณมากต้องติดค้างอยู่ที่ด่าน โดยทางการจีนพร้อมอํานวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการผลไม้ไทยทําการเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชจากด่านตงชิงเป็นด่านรถไฟผิงเสียง จะได้ขนส่งเข้าประเทศจีนได้ และต้องระมัดระวังอย่าให้มีการปนเปื้อนโควิด19 ทั้งคนขับ รถและสินค้าเพราะถ้าพบทางการจีนจะปิดด่านทันที รัฐบาลจึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันเข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่ 

นางสาวรัชดา ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ไทย กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำเอกสารประกอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับระเบียบใหม่ของสำนักงานศุลกากรจีน ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา เอกสารประกอบด้วย 1) คู่มือการเข้าใช้ระบบฉบับภาษาไทย 2) คู่มือการดำเนินงานการให้บริการของทางการ “การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการผลิตอาหารในต่างประเทศที่นำเข้ามายังสาธารณรัฐประชาชนจีน” ฉบับภาษาไทย และ 3) เอกสารรวบรวมประเด็นข้อคำถามของผู้ผลิตอาหารที่พบบ่อยในการปฏิบัติตามระเบียบฯ จากการประสานงานกับศุลกากรจีน หากผู้ประกอบการผลิตอาหารต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ https://www.moac.go.th/site-home หรือ https://www.opsmoac.go.th/news-preview-432991791570

“ศปฉ.ปชป.” ห่วงประชาชนติดเชื้อโควิดเพิ่มหลังหยุดยาว พร้อมช่วยประสานเตียง ยันมั่นใจระบบสาธารณสุขไทยรองรับได้ 

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าทีมประสานข้อมูลผู้ติดเชื้อเพื่อการส่งต่อ ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 พรรคประชาธิปัตย์ (ศปฉ.ปชป.) เปิดเผยว่าตามที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มมากขึ้นหลังจากเทศกาลหยุดยาวในช่วงปีใหม่ ที่ประชาชนจะมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะมีการรวมกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมาก เป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดแพร่ระบาดระลอกใหม่ และอาจส่งผลต่อระบบสาธารณสุข รวมถึงในขณะนี้เริ่มมีผู้ติดเชื้อบางรายประสานขอความช่วยเหลือมายัง ศปฉ.ปชป. เพื่อให้ช่วยหาเตียง

ทีมประสานเตียงของ ศปฉ.ปชป. ยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเฉพาะในเขตพื้นกรุงเทพมหานครที่พบมีอัตราการแพร่ระบาดสูงสุด ผ่านเครือข่ายผู้สมัคร ส.ก. ของพรรค ทั้ง 50 เขต ที่ได้ทำงานใกล้ชิดพื้นที่มาโดยตลอด รวมทั้งอดีต ส.ส. ของพรรค แต่ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าระบบสาธารณสุขของไทยยังสามารถรองรับได้จากการเตรียมความพร้อมในการรับมือล่วงหน้าที่ได้มีการวางแผนไว้ 

อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันตนเอง และคนในครอบครัว ภายใต้มาตรการการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยมีความสุขกันถ้วนหน้าและชีวิตหลังปีใหม่ได้อย่างเป็นปกติสุข

รัฐบาล ปัดยกเลิกรักษาโควิดในรพ.เอกชน ยืนยัน ยังดูแลทุกคนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

โฆษกรัฐบาล ยัน ครม.ไม่ได้มีมติ ยกเลิกรักษาผู้ป่วยโควิดในรพ.เอกชน ย้ำรัฐบาลมีนโยบายดูแลคนไทยทุกคนฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 65 กรณีมีการมีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียระบุว่า “ครม.มีมติให้ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนโควิด หากตรวจเจอโควิดจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วแต่ติดเชื้อจะต้องใช้สิทธิ์ตามสถานพยาบาลที่มีสิทธิ์ (ประกันสังคม หรือบัตรทอง) หากจะพักรักษาใน Hospital หรือ รพ.เอกชนจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง หรือใช้ประกันเอกชนที่ตนมี นอกจากนี้ ครม.ยังพิจารณาปรับเกณฑ์ให้ผู้มีอาการน้อย หรือไม่ผ่านเกณฑ์การรักษาในโรงพยาบาล ให้กักตัวรักษาที่บ้าน หรือ Community Isolation ในทุกจังหวัด”

“เทพไท” เชื่อ มีทหาร จุ้นเลือกตั้งซ่อมจริง ดูได้จากลต.ซ่อมเขต 3 เมืองคอน แนะ ผบ.ทบ.ส่งคนไปฝังตัวในพื้นที่ ความจริงจะปรากฎ ไม่ไช่สอบแบบรูปหน้าปะจมูก ซัดอย่าอ้างพวกเดียวกัน เพราะพรรคแกนนำมีอำนาจมากสุด

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประสานงานส่วนกลาง ออกมาเปิดโปงว่า มีทหารกลุ่มหนึ่ง เข้าไปแทรกแซงและกดดันในพื้นที่การเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จังหวัดชุมพรนั้น ว่า  ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีมูลความจริง เพราะมีการอ้างอิงถึง ชื่อนายทหาร “เสธ.ต”และทหารอีก จำนวน 100 นาย พฤติกรรมเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมา ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตนได้มีประสบการณ์ตรงในการเลือกตั้งมาแล้ว เพราะมีนายทหารนอกแถวบางกลุ่ม ลงพื้นที่เดินกำกับ ควบคุมการซื้อเสียง มีการกดดันผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และมีกลุ่มมือปืน นักเลงบางกลุ่ม เข้ากดดันหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม และมีการซื้อเสียงกันอย่างโจ่งแจ้ง โดยใช้กลไกรัฐ มีทั้งทหารและตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกการซื้อเสียงอย่างเต็มที่

นายเทพไท กล่าวต่อว่า การที่พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.บท.)มีคำสั่งให้กองทัพภาค 4 เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้น ต้องขอขอบคุณที่ ผบ.ทบ.มีความกระตือรือร้น เข้ามาแก้ปัญหาการเลือกตั้งซ่อม ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และจัดการกับพวกทหารนอกแถวบางกลุ่ม ที่อิงอำนาจรัฐ ซึ่งจะทำให้ผลการเลือกตั้ง ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม กองทัพต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนมีการเลือกตั้งซ่อม เพราะหากการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่อยากจะร้องเรียนกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในภายหลัง เพราะอาจจะถูกข้อกล่าวหาว่า เป็นพวกขี้แพ้ชวนตีอีก

“ขอให้กองทัพเร่งตัดไฟ ตั้งแต่ต้นลม อย่าให้เป็นเหมือนการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครั้งที่ผ่านมา”นายเทพไท กล่าว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top