Saturday, 24 May 2025
TheStatesTimes

กองทัพไทย จัดแสดงกิจกรรมของทหารในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 รูปแบบออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “เด็กไทย ใจเป็น 1” พร้อมร่วมตอบปัญหาความรู้รอบตัว และรับของรางวัลมากมายส่งตรงถึงหน้าบ้าน 

พันเอกหญิง ฉัตรรพี พูนศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า กองบัญชาการกองทัพไทยคำนึงถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งเป็นพลังสำคัญพัฒนาประเทศชาติในอนาคต จึงได้จัดกิจกรรมตอบปัญหาชิงรางวัลในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ของกองบัญชาการกองทัพไทยผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 5 ม.ค. เวลา 12.00 น. โดยมีเงื่อนไขการร่วมสนุกดังนี้

1.เข้าไปที่เว็บไซต์ https://childrenday2022.rtarf.mi.th/childday/index.php/home เพื่อศึกษาความรู้รอบตัว อาทิ ศาสตร์พระราชา ประวัติศาสตร์ชาติไทย โบราณราชพระเพณี อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร เครื่องจักรกลในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ และการบรรเทาภัยพิบัติ ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และฐานวิถีชีวิตใหม่ (นิวนอร์มอล) ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

2.ลงทะเบียนเพื่อตอบปัญหาความรู้ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. เวลา 12.00 น. ถึงวันที่ 5 ม.ค. เวลา 12.00 น. ที่เว็บไซต์  https://childrenday2022.rtarf.mi.th/childday/index.php/home  โดยให้ระบุชื่อ-นามสกุล/วันเดือนปีเกิด/เพศ และภูมิลำเนาที่พักอาศัย โดยผู้ร่วมกิจกรรมฯ สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เว้นแต่มีภูมิลำเนาที่พักอาศัยเดียวกัน (บ้านเลขที่เดียวกัน) แต่ต้องมิใช่บุคคลเดียวกันกับผู้ที่ได้ลงทะเบียนแล้ว

ครม.อนุมัติกรอบวงเงิน 4,180 ล้านบาทให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo ณ จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน EXPO 2028 – Phuket, Thailand

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 4,180 ล้านบาท ให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Specialised Expo ณ จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ชื่องาน EXPO 2028 – Phuket, Thailand โดยครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 อนุมัติในหลักการให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน EXPO 2028 – Phuket, Thailand และนายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564

ครม. เห็นชอบ วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566  จำนวน 3,185,000 ล้านบาท มอบหมาย หน่วยงานดำเนินการตามข้อสั่งการนายกฯ สร้างกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เร่งติดตามการขับเคลื่อนมาตรการของรัฐบาล

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3,185,000 ล้านบาท และ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1)เห็นชอบกรอบวงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบประมาณรายจ่าย จำนวน 3,185,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 ประกอบด้วยประมาณการรายจ่าย ดังต่อไปนี้ (1)รายจ่ายประจำ จำนวน 2,390,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 16,990.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.72 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75.04 ของวงเงินงบประมาณ (2)รายจ่ายลงทุน จำนวน 695,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 83,066.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.57 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.82 ของวงเงินงบประมาณ (3)รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้จำนวน 100,000 ล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.14ของวงเงินงบประมาณ

2) รายได้สุทธิจำนวน 2,490,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 90,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.75 

3) งบประมาณขาดดุล จำนวน 695,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 5,000 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 0.71 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.89 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ทั้งนี้วงเงินงบประมาณรายจ่าย จำนวน 3,185,000 ล้านบาท ดังกล่าว เท่ากับกรอบวงเงิน ตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2566 – 2569) ที่ครม. ได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 สำหรับงบประมาณรายจ่ายลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนด ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

เฮ แรงงานประกันสังคมได้รับบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้น 

น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเป็นการเฉพาะในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ เพื่อกำหนดอัตราการจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตนในช่วงที่มีการลดอัตราเงินสมทบ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 2564 

ทั้งนี้กำหนดให้การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค. 2564 ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.45ของค่าจ้าง และกำหนดให้การจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งออกเงินสมทบเข้ากองทุนในช่วงเวลาที่มีการลดอัตราเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. -31 มี.ค. 2564 ให้คำนวณจากอัตราเงินสมทบเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.3 ของค่าจ้าง

ครม.อนุมัติกรอบวงเงิน 6.78 พันล้าน จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ.2569 และนครราชสีมา พ.ศ.2572 พร้อมยื่นประมูลเป็นเจ้าภาพ 7 ม.ค.นี้

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติกรอบวงเงินจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 วงเงิน 2,500 ล้านบาท และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2572 วงเงินงบ 4,281 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้น 6,781 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาด้านพืชสวนของไทย 2)กระตุ้นเศรษฐกิจด้านธุรกิจการนำเข้า – ส่งออกผลผลิตการเกษตรและธุรกิจท่องเที่ยว 3)ส่งเสริมการต่อยอดการวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการเกษตร ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีกำหนดยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 ในวันที่ 7 มกราคม 2565 และจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2572 ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 สำหรับรายละเอียดการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด มีดังนี้

1.งานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 (ระดับ B) วงเงิน 2,500 ล้านบาท กำหนดสถานที่จัดงานเป็นบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี รวม 1,030 ไร่ ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าชมงาน 3.6 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติร้อยละ 30 ตลอดระยะเวลาจัดงาน 134 วัน (ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2569 - 14 มี.ค. 2570) และมีประเทศเข้าร่วมงาน 20 ประเทศ สำหรับประเภทงานระดับ B หรือ International Horticultural Exhibition จะต้องใช้พื้นที่จัดแสดง 250,000 ตารางเมตร มีระยะเวลาจัดงาน 3-6 เดือน มีผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 10 ประเทศ 

2.งานมหกรรมพืชสวนโลก จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2572 (ระดับ A1) วงเงินงบ 4,281 ล้านบาท กำหนดสถานที่จัดงานเป็นบริเวณพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์โคกหนองรังกา ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา รวม 678 ไร่ ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าชมงาน 2.6 ล้านคน เป็นชาวต่างชาติร้อยละ 15 ตลอดระยะเวลาจัดงาน 110 วัน (ระหว่างวันที่ 10 พ.ย. 2572 - 28 ก.พ. 2573) และมีประเทศเข้าร่วมงาน 30 ประเทศ สำหรับประเภทงานระดับ A1 หรือ World Horticultural Exposition จะต้องใช้พื้นที่จัดแสดง 500,000 ตารางเมตร มีระยะเวลาจัดงาน 3 - 6 เดือน มีผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศ ไม่ต่ำกว่า 10 ประเทศ

‘ดร.อานนท์’ วอนช่วยอุดหนุน ‘ไก่ย่างโฆษะ’ หลังปรับตัวสู้พิษโควิด ขายไก่อุ้มพนักงาน

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ให้กำลังใจเจ้าของโรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น ว่า สุดสายป่าน ต้องผ่านโควิด โดยไม่เลย์ออฟพนักงาน ด้วยไก่ย่างโฆษะ

วันก่อนพี่โจอี้ มิตรร่วมอุดมการณ์ยาวนานของอานนท์ ช่วยกันทำงานปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำสาธารณกุศล เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน โทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจอย่างที่สุด ขอให้ผมช่วย ปลายสายนั้นน้ำเสียงสั่นเครือ ความที่รู้จักกันมานาน มั่นใจว่าปลายสาย เครียดมาก และเชื่อว่ามีน้ำตาของลูกผู้ชาย

ใครๆ ก็ทราบกันดีว่าโรงแรมโฆษะที่ขอนแก่น ทำหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างยืนหยัดมั่นคง มายาวนาน ผมกับพี่โจอี้ ทำงานหลายอย่างร่วมกันแบบปิดทองหลังพระ เราจึงสนิทและเข้าใจกันดีมาก พี่โจอี้ไม่ต้องเอ่ยอะไรมาก ผมก็เข้าใจได้ทันที

วิกฤติโควิดเที่ยวนี้ สองปีกว่าแล้ว พี่โจอี้โทรมาว่า โดนยกเลิกการจองโรงแรม และการจัดเลี้ยงปีใหม่ทั้งหมด ทำให้รู้สึกเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดกลางหน้า หน้ามืดเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายเงินพนักงานโรงแรมโฆษะ ที่มีนโยบายไม่เลย์ออฟพนักงานแม้แต่คนเดียว

อาการแบบนี้ คนทำธุรกิจ รู้กันดีว่าสุดสายป่าน หมุนเงินกันไม่ทันแล้ว ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็คงต้องเลย์ออฟพนักงาน ที่จะทำให้คนทำงานเดือดร้อนในท้ายที่สุด 

'ทักษิณ' ยัน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเพื่อไทย! ปัดไม่รู้เรื่อง กรณี 'พัลลภ' ถูกเขี่ยพ้นพรรค

4 ม.ค. 65 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ The Room 44 โดยช่วงหนึ่งกล่าวถึงคำถามที่ว่าช่วงนี้มีคนจ้องยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยบอกว่านายทักษิณ แทรกแซง ทั้งที่อยู่ต่างประเทศ ว่า มีบางคนได้ประโยชน์ ถ้าพรรคเพื่อไทยถูกยุบ มีพรรคได้ประโยชน์อยู่

"อย่างกรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษานายกฯ และอดีตนายทหารยังเติร์ก ที่ออกมาระบุเรื่องถูกขับออกจากพรรคเพื่อไทย ผมไม่รู้เรื่อง ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับพล.อ.พัลลภ มาหลายปีแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นก็สงสัย ทำไมมาโวยเช่นนี้ ผมไม่ทราบเลย งานประชุมพรรคที่จ.ขอนแก่น เป็นงานประชุมสมาชิกพรรค ไม่ใช่การประชุมกรรมการบริหารพรรค หลังมีข่าวดังกล่าวออกมา ผมก็ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับพล.อ.พัลลภแต่อย่างใด" นายทักษิณ กล่าว

สงขลา - มรภ.สงขลา ผนึกองค์กรท้องถิ่น 3 สถาบันการศึกษาสตูล ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการ สร้างนวัตกรรมจัดการขยะ

มรภ.สงขลา เดินหน้าพัฒนาการศึกษารับศักราชใหม่ นำทีมบริหารสัญจร “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” พร้อมลงนามความร่วมมือ ทต.กำแพง วก.ละงู วท.สตูล วชช.สตูล ยกระดับการศึกษา กำหนดทิศทางพัฒนาหลักสูตรด้านท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ควบคู่สร้างนวัตกรรมจัดการขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร

รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มรภ.สงขลา นำคณะกรรมการบริหารและบุคลากรร่วมศึกษาฐานการเรียนรู้ “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” พร้อมรับฟังการบรรยายเรื่อง “โคก หนอง นา ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” โดย ผศ.ดร.เกียรติศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้ช่วยอธิการบดี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการประจำสำนักงานวิทยาเขตสตูล ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและด้านนวัตกรรมการจัดการขยะ ร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดสตูล รวม 4 องค์กร ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพละงู (วก.ละงู) วิทยาลัยเทคนิคสตูล (วท.สตูล) วิทยาลัยชุมชนสตูล (วชช.สตูล) และ เทศบาลตำบลกำแพง (ทต.กำแพง) จังหวัดสตูล เพื่อร่วมกันยกระดับการศึกษา การวิจัย บริการวิชาการด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ รวมถึงด้านการจัดการขยะมูลฝอยของชุมชนและศูนย์กำจัดขยะแบบครบวงจร พร้อมเปิดระดมความคิดเห็นจากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาหลักสูตร และสร้างแนวทางความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในจังหวัดสตูล

รศ.ดร.ทัศนา กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือด้านวิชาการร่วมกับ 3 สถาบันการศึกษาในพื้นที่ จ.สตูล ได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันดังนี้

1. ให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวด้านบริหารธุรกิจ/การจัดการธุรกิจในยุคดิจิทัลและอื่น ๆ ผ่านการเรียนการสอนทั้งในระดับรายวิชาและสาขาวิชา

2. มรภ.สงขลา จะจัดส่งอาจารย์สาขาวิชาการท่องเที่ยวนวัตกรรมการจัดการและอื่น ๆ เพื่อร่วมพัฒนาหลักสูตรการท่องเที่ยวและหลักสูตรบริหารธุรกิจ/การจัดการ/ธุรกิจดิจิทัลหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับทางวิทยาลัย เพื่อประโยชน์ในการเข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และสามารถเทียบโอนรายวิชาได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด

3. ส่งเสริมให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง (ปวส.) เข้ารับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย

4. สร้างกิจกรรมเพื่อก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาทักษะประสบการณ์วิชาชีพให้แก่กันทั้งกับนักศึกษาและอาจารย์

5. ให้มีผู้แทนเป็นผู้ดำเนินงาน ประสานงาน และตกลงรายละเอียดในการปฏิบัติงานตามข้อตกลงความร่วมมือนี้ โดยจะได้มีการจัดทำข้อกำหนดและเงื่อนไขในการนำเนื้อหาของวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการท่องเที่ยว และหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการ

6. มหาวิทยาลัยร่วมพัฒนาหลักสูตรความร่วมมืออื่น ๆ ตามความต้องการของท้องถิ่น รวมถึงร่วมจัดทำโครงการ/กิจกรรม และร่วมมือด้านการวิจัย การบริการวิชาการ และการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมร่วมกัน

7. บันทึกข้อตกลงนี้ให้มีผลใช้บังคับระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันทำบันทึกข้อตกลง

  

 

‘ดร.อนันต์’ แย้ง ‘หมอมนูญ’ ปม ‘โอมิครอน’ ชี้ ติดเชื้อแล้วมีภูมิจริง - แต่ไม่ใช่วัคซีน

จากกรณี นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี พร้อมระบุว่า หลังการระบาดของเชื้อโอมิครอนครั้งใหญ่ จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติ อนาคตไม่ต้องมาฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 กันอีก 

ล่าสุด เฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” ของ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้โพสต์แย้งว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ทำไมไม่เร่งแยกเชื้อโอมิครอนมาฉีดให้ประชาชนหล่ะครับ ได้เชื้อบริสุทธิ์ ปริมาณเหมาะสมด้วย เป็นวัคซีนที่ต้องการอยากได้ไงครับ

“กรณ์ - อรรถวิชช์” ลงพื้นที่ตลาดบางเขน-ตลาดอมรพันธ์ รับฟังปัญหาปากท้อง แนะก.พาณิชย์ ควบคุมราคาสินค้าพุ่ง กังวลอำนาจเงิน แทรกแซงเลือกตั้ง ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรณรงค์อย่าซื้อสิทธิ์ขายเสียง อ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า , นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เลือกตั้งซ่อม หลักสี่-จตุจักร พร้อมทีมงานพรรคกล้า ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาที่ตลาดบางเขน ตลาดอมรพันธ์ โดยพ่อค้าแม่ค้าให้ความสนใจทักทายให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมสะท้อนปัญหาสินค้าราคาแพง โดยเฉพาเนื้อหมูที่ราคาพุ่งสูงมากในช่วงนี้

นายกรณ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องท้าทาย สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมีภาระหน้าที่สำคัญในการแก้ปัญหาปากท้อง และต้องดูว่าเป็นเรื่องกลไกการตลาด หรือการบริหารจัดการ มีอะไรที่สามารถทำให้ราคาสินค้าลดลงได้ พร้อมเสนอไปยังกระทรวงพาณิชย์ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล ซึ่งต้องดูว่าไม่มีใครเอารัดเอาเปรียบ อ้างกลไกตลาดในการปรับขึ้นราคาสินค้า 

ขณะที่นายอรรถวิชช์ ยืนยันถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ว่าตั้งใจกลับมาทำงานสานต่อพัฒนาสาธารณูปโภคย่อยๆ ในซอย ทางลัด ระบบระบายน้ำสายย่อย ไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งมีความทรุดโทรมไปมาก ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ก็พยายามไปพบปะพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด และในบรรดาผู้สมัครทุกคน เชื่อว่าตนมีความผูกพันกับเขตนี้มากที่สุด ทั้งหลักสี่-จตุจักร เดินพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2548 ช่วงโควิดก็มีการตั้งศูนย์กล้าอาสา ช่วยคนหาเตียง 7,000 คน ตั้งศูนย์พักคอย 36 ศูนย์ จุดที่เป็นเซ็นเตอร์ อยู่เขตเลือกตั้งนี้ 

“ผมทำงานทุกวัน เจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาก็ทักทาย มั่นใจว่าเราจะนำชัยชนะมาได้ แม้ว่าพรรคกล้าจะเป็นพรรคใหม่ แต่เกณฑ์ชี้วัดครั้งนี้ ต้องถามพี่น้องประชาชนว่า การเมืองคุณภาพ การเมืองสร้างสรรค์  เกิดได้ไหมในกรุงเทพมหานคร มั่นใจว่าวิธีการคิดโครงสร้างหลักของชาติ ศาสตร์ กษัตริย์เป็นเรื่องสำคัญ แต่เป้าหมายของชาติในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ การเป็นมืออาชีพในด้านนี้ อยากเห็นประเทศดีขึ้น” 

ส่วนข้อเสนอการแก้ไขกฎหมายลูก ที่มีข้อเสนอใน 2 แนวทาง คือการใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศกับหนึ่งเขตหนึ่งเบอร์ นายกรณ์ กล่าวว่าขอให้ยึดหลักประชาชนเป็นที่ตั้ง หากแต่ละพรรคมีเบอร์เดียวกันหมดจะง่ายที่สุด ประชาชนไม่สับสน และในอดีตเมื่อปี 48 ก็ใช้บัตร 2 ใบ  เบอร์เดียวทั่วประเทศ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคกล้าส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมทั้ง 3 เขต คือ กทม. ชุมพร และสงขลา ยอมรับว่าต่างจังหวัดมีอิทธิพลเรื่องเงินอย่างมหาศาล ทำให้อดกังวลไม่ได้ว่าการใช้เงินจำนวนมาก โดยไม่มีใครสามารถเอาผิดกับใครได้ เป็นการบิดเบือนเจตนารมย์ ความตั้งใจ และความต้องการตามระบอบประชาธิปไตยของพี่น้องประชาชน คนดีเข้ามาทำงานการเมืองยากขึ้น ฝากถึงผู้มีอำนาจ ขอให้ใส่ใจในเรื่องนี้ ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน พบว่าซื้อสิทธิ์ขายเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยก่อน 50-100 บาท เดี๋ยวนี้ 2,000-3,000 บาท ที่ผ่านมาพบเยอะมาก ขอให้สื่อลงไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จะทราบข้อเท็จจริง ว่ามีการใช้เงินมากขึ้น และโจ่งแจ้งมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ ยังไม่มีใครมีมาตรการลงไปปราบปรามแก้ไข 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top