Saturday, 24 May 2025
TheStatesTimes

เลขา ป.ป.ส. ส่งทีมอินทรีย์ 19 พร้อมรถหุ้มเกราะกันกระสุน สนับสนุนไล่ล่าคนร้ายยิง ตร.

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึง กรณีเหตุยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ในท้องที่บ้านสันป๋อธง ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ “สารวัตรบอล” พันตำรวจตรีพิบูลพันธ์ สุขุมนนท์ สารวัตรสืบสวน สภ.ฝาง ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส และต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแม่อาย นั้น 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่อาย ขอให้ศาลจังหวัดฝางออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย 1.นายอนุชิต อายุ 34 ปี 2.นายจตุพล อายุ 26 ปี 3.นายจะยี อายุ 46 ปี ทั้ง 3 คน เป็นราษฎรบ้านป่าแดงอภิวัฒน์ หมู่ 9 ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ 4.นายจะเย อายุ 43 ปี ราษฎรบ้านโป่งใน ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 

ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งได้ปฏิบัติตามหน้าที่, ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้า, ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

“สำหรับการดำเนินการในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ส ได้สนับสนุนโดยชุดปฎิบัติการ และชุดปฏิบัติการพิเศษ อินทรีย์ 19 รวม 40 นาย พร้อมรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุน 3 คัน ซึ่งชุดปฏิบัติการอินทรีย์ 19 เป็นชุดปฏิบัติการที่ได้รับการฝึกฝน มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและยุทธวิธีพิเศษ ตามแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ร่วมปฎิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ อ.แม่อาย จ. เชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 บช.ปส และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อ”นอปจากนี้ ตนได้ประสานข้อมูลหมายจับทั้ง 4 รายไปยัง เลขาธิการป.ป.ส เมียนมาร์ (CCDAC) เพื่อขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังกล่าวต่อไป 
นายวิชัย ฯ กล่าว 

ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่!! “อลงกรณ์” เปิดวิสัยทัศน์ “ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย”

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส.6สมัยและอดีตรัฐมนตรี เขียนบทความในเฟซบุ๊กวันนี้ เรื่อง “ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย”

“ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่”

เป็นตอนที่ 2 ของซีรี่ย์ “ก้าวใหม่ประเทศไทย” อย่างน่าสนใจ…….

ก้าวใหม่ประเทศไทย (ตอนที่2)

เรื่อง“ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย”

“ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่”

โดย อลงกรณ์ พลบุตร

4 มกราคม 2564

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO) โครงการอาหารโลก(World Food Program) องค์การสหประชาชาติ(UN) และองค์การอนามัยโลก(WHO)รายงานผลการประชุมสุดยอดระบบอาหารโลก(UN Food System Summit 2021)โดยสรุปว่า โลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารจากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและการ

แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชากรโลกประสบปัญหาการเข้าถึงอาหารและราคาอาหารจะแพงขึ้น

เป็นวิกฤติของโลกแต่ก็เป็นโอกาสของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารชั้นนำของโลก

ประเทศไทยของเรามีศักยภาพการผลิตและการตลาดด้านเกษตรและอาหารสูงมาก

ปี 2560 เราเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับ 14 ของโลก

ปี 2561 ขึ้นเป็นอันดับ 12 ของโลกซึ่งมีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ปีเดียวขึ้น 2 อันดับ และเป็นครั้งแรกที่ขึ้นเป็นที่2ของเอเชียรองจากประเทศจีนเท่านั้น

ปี 2562 ขยับต่อเนื่องขึ้นเป็นอันดับ 11 ของโลก และยังครองอันดับ 2 ของเอเชีย

นับเป็นประเทศ “หนึ่งเดียวในโลก” ที่ 2 ปีขึ้น 3 อันดับ

ไทยแลนด์ โอนลี่ครับ

หลังโควิดคลี่คลาย เราจะสานฝัน”ครัวไทย ครัวโลก”สู่อันดับท็อปเทนของโลกตามนโยบายของรัฐบาล

วันนี้สินค้าเกษตรสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมของไทยติดท็อปเทนของโลกจำนวนไม่น้อย เช่น ยางพารา ยางรถยนต์ ถุงมือยาง น้ำตาล ทุเรียน ข้าว สับปะรดกระป๋อง อาหารทะเล ทูน่ากระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง เอทานอล มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ

ส่วนใหญ่ส่งออกในรูปวัตถุดิบและสินค้าแปรรูปขั้นต้นมูลค่าต่ำแบบที่เรียกว่า”ทำมากได้น้อย(More for Less)” ประเทศและเกษตรกรจึงมีรายได้น้อยมาอย่างยาวนาน เรา จึงต้องเปลี่ยนใหม่สู่การ”ทำน้อยได้มาก(Less for More)”

   ถ้าทำแบบเดิม ๆ จะไม่สามารถยกระดับอัปเกรดภาคเกษตรเทคออฟสู่เพดานใหม่ได้

   อย่างไรก็ตามแม้โจทย์จะชัดเจนในตัวเอง แต่คำถามคือ แล้วเราจะทำอย่างไร

    ผมจะยกตัวอย่างการถอดสมการนำมาสู่การออกแบบโมเดลการปฏิรูปภาคเกษตรไทย

ถ้าเราย้อนมองบริษัทเช่น  Amazon Alibaba Google Apple Teslaจะได้คำตอบว่าทำไมบริษัทเหล่านี้จึงสามารถทะยานขึ้นสู่บริษัทแนวหน้าของโลกภายในเวลา20ปีโดยเฉพาะAppleเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ3ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(มากกว่างบประมาณไทย30ล้านเท่า)

คำตอบคือ วิสัยทัศน์ เทคโนโลยีและการบริหารจัดการใหม่ ๆ

อีกตัวอย่างเช่น ประเทศจีนที่พัฒนาตัวเองจากประเทศยากจนด้อยพัฒนาสู่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ2และมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีภายใน30ปี

คำตอบก็เหมือนกัน

    การถอดบทเรียนจากตัวอย่างเหล่านี้ช่วยให้การดีไซน์การปฏิรูปง่ายขึ้น

    การปลดกระดุมแล้วกลัดใหม่จึงเกิดขึ้นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

    เป็นกระบวนการปฏิรูปการบริหารจัดการเชิงโครงสร้างและระบบ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นแก่นกลาง

2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งรัดการปฏิรูปภาคเกษตรเดินหน้าภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ.(จบปริญญาเอกด้านยุทธศาสตร์โดยตรง)และนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์(เจ้าของสโลแกน”ทำได้ไวทำได้จริง”)ด้วยการสร้างกลไก4แกนหลักคือภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการและภาคเกษตรกรเป็น4เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร4.0 ยุทธศาสตร์3S(Safety-Security-Sustainability)เกษตรปลอดภัยเกษตรมั่นคงเกษตรยั่งยืน ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนและยุทธศาสตร์บูรณาการทำงานเชิงรุก นโยบายโลจิสติกส์เกษตร นโยบายอาหารแห่งอนาคต รวมทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการ22หน่วยงานเพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรและพัฒนาต้นน้ำการผลิตด้วยการเพิ่มผลิตภาพ(productivity)ลดต้นทุน การพัฒนาคนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน(Competitiveness) ของประเทศ

ผมจะเล่าให้ฟังโดยสังเขปว่า 2 ปีมานี้ เราทำอะไรไปบ้าง ขอยกตัวอย่างเพียง 10 เรื่อง

1.เราจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(Agritech and Innovation Center)เรียกสั้น ๆ ว่า ศูนย์ AIC 77 จังหวัดเป็นฐานเทคโนโลยีของทุกจังหวัดและยังมีศูนย์AICประเภทศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้าน(Center of Excellence:COE)อีกกว่า 20 ศูนย์ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนา(R&D)และเป็นศูนย์อบรมบ่มเพาะเกษตรกรผู้ประกอบการและถ่ายทอดนวัตกรรมเน้นเมดอินไทยแลนด์(Made In Thailand)เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีของเราเองโดยคิกออฟพร้อมกันทุกศูนย์ทุกจังหวัดทั่วประเทศเมื่อ1มิถุนายน2563 วันนี้มีเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมกว่า624ชิ้นงานพร้อมถ่ายทอดต่อยอดสู่แปลงนาแปลงสวนแปลงไร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่องกว่า7,000ราย

เราจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ(National Agriculture Big Data Center:NABC)ภายใต้แพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)เริ่มตั้งแต่มีนาคม2563 เพราะเทคโนโลยีข้อมูล(Information Technology)คือเครื่องมืออเนกประสงค์ของทุกภารกิจและทุกหน่วยงานโดยกำลังเชื่อมต่อกับBig Dataของหน่วยงานรัฐ เอกชนและศูนย์AICทุกจังหวัด

เราปฏิรูปกระทรวงเกษตรฯ.ภายใต้คอนเซปต์ GovTechให้เป็นกระทรวงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี(TechMinistry) 22 หน่วยงาน ในสังกัดกำลังพัฒนาตัวเองโดยโครงการดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่น(Digital Transformation)เพื่อ เปลี่ยนบริการอนาล็อคเป็นบริการออนไลน์ เปลี่ยนการลงนามอนุมัติด้วยมือเป็นลายเซ็นดิจิทัล(Digital Signature) การเชื่อมโยงตามโครงการNational Single Window การบริการออนไลน์และแพลตฟอร์มแผนที่เกษตร(Agrimap)แบบmobile users

2.เราขับเคลื่อนฟาร์มอัจฉริยะ(smart farming)ตามแผนปฏิบัติการเกษตรอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเช่น ระบบเซนเซอร์ตรวจวัดดินน้ำอากาศและการอารักขาพืช การปรับระดับพื้นแปลงเกษตร(Land Leveling) ระบบเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์(Sead Technology) ระบบชลประทานอัจฉริยะรวมทั้งการใช้โดรนการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและแพลตฟอร์มแผนที่เกษตรดิจิทัล(Agrimap platform)

3.เราริเริ่มโครงการใหม่ ๆ เช่นการส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง(urban Farming)อย่างเป็นระบบเป็นครั้งแรกตอบโจทย์Urbanization(ประชากรไทยในเมืองมากกว่าในชนบทตั้งแต่ปี2562) การจัดตั้งสภาเกษตรอินทรีย์PGSแห่งประเทศไทย การขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์1.3ล้านไร่ การวางหมุดหมายแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่บนฐานศาสตร์พระราชาทุกตำบล การจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น2พันองค์กร การฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทย การพัฒนาเกลือทะเลไทย การพัฒนาวัคซีนจากโปรตีนพืชสำหรับสัตว์ โครงการเกษตรแม่นยำ(Recision Agriculture)2ล้านไร่ โครงการพลังงานทดแทนโซล่ารถเซลล์ในฟาร์มกุ้งฟาร์มปลา โครงการธนาคารสีเขียว(Green Bank)ตอบโจทย์Climate Changeโดยเพิ่มต้นไม้ลดก๊าซเรือนกระจกโครงการCold Chainตลอดห่วงโซ่อุปทานและระบบแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลวแบบNitrogen Freezer เป็นตัวอย่าง

4.เราริเริ่มและขับเคลื่อนนโยบายอาหารแห่งอนาคต พืชแห่งอนาคต(Future Food Future Crop)เช่นการส่งเสริมโปรตีนทางเลือกจากพืช(Plant base Protein) มีบริษัทstartupเกิดขึ้นจำนวนมาก การสนับสนุนโปรตีนทางเลือกจากแมลง(Edible Inseat base Protein)ปัจจุบันมีกว่า2หมื่นฟาร์ม(FAOประกาศเมื่อ3ปีที่แล้วว่าแมลงกินได้Edible Insectคืออนาคตใหม่ของโปรตีนโลก)

เราเปลี่ยนวิสัยทัศน์และแนวทางใหม่โดยโฟกัสการผลิตและการตลาดใหม่แบบคลัสเตอร์เช่น คลัสเตอร์อาหารเจอาหารVeganและอาหารFleximiliamอาหารใหม่(Novel food) คลัสเตอร์อาหารฮาลาลซึ่งมีลูกค้ากลุ่มประชากรมุสลิมและไม่ใช่มุสลิมกว่า2พันล้านคน มูลค่าตลาด48พันล้านบาท และการส่งเสริมการตลาดแบบไฮบริดแพลตฟอร์ม(hybrid marketing platform)ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ทั้งออนไลน์ (on-line)ออฟไลน์(off-line)และออนไซต์(on-site)ด้วยโครงการLocal HeroทุกจังหวัดมีทีมE-Commerceรับผิดชอบเป็นต้น

5.เราได้วางโรดแม็ปเส้นทางโลจิสติกส์เกษตรเชื่อมไทยเชื่อมโลกในระบบการขนส่งหลายรูปแบบ(Multimodal Transportation)ทั้งทางรถทางรางทางน้ำและทางอากาศ(Low Cost Air Cargo)เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงตลาดทั่วโลกและตลาดเป้าหมายใหม่เช่น

โครงการดูไบคอริดอร์-ไทยแลนด์ คอริดอร์ (Dubai Coridor- Thailand Corridor),เส้นทางรถไฟอีต้าอีลู่(BRI)เชื่อมไทย-ลาว-จีนสู่จีนทุกมณฑล-เอเชียใต้-เอเชียตะวันออก-เอเชียกลาง-ตะวันออกกลาง-รัสเซียและยุโรป และกำลังเปิดประตูใหม่จากอีสานสู่แปซิฟิกไปทวีปอเมริกาเหนืออเมริกาใต้และเปิดประตูตะวันตกประตูใต้สู่ทะเลอันดามัน-อ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียสู่เอเชียใต้ แอฟริกา ตะวันออกกลางและยุโรป

6.เรากำลังปรับเปลี่ยนเกษตรแปลงย่อยเป็นเกษตรแปลงใหญ่(Big Farm)ซึ่งขณะนี้ขยายเพิ่มเป็นกว่า8,000แปลงเป็นพื้นที่รวมกว่า7ล้านไร่แล้วโดยมีการสนับสนุนเครื่องจักรกลเกษตรและระบบเกษตรอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

7.เราพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่เป็นyoung smart farmerได้กว่า 20,000คนและส่งเสริมพัฒนาศูนย์ศพก.เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ระดับอำเภอพร้อมกับยกระดับเกษตรกรที่มีประสบการณ์สู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพโดยร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

8.เรานำระบบทรัพย์สินทางปัญญา(Intellectual property)มาใช้ในการสร้างเกษตรมูลค่าสูงสร้างผลิตภัณฑ์สร้างแบรนด์ภายใต้แนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์(Creative Economy)โดยมีทีมงานรับผิดชอบโดยตรง

9.เราบริหารการพัฒนาเชิงพื้นที่(Area base)ควบคู่กับการบริหารการพัฒนาเชิงคลัสเตอร์เช่น โครงการ1กลุ่มจังหวัด1นิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหารทั้งหมด18กลุ่มจังหวัดเป็นศูนย์การแปรรูปผลผลิตเกษตรเพื่อกระจายการพัฒนาทุกภาคทุกจังหวัดไม่ให้เจริญแบบกระจุกตัวซึ่งก่อให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาโดยปี2565 รัฐมนตรีเกษตรฯ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรระดับอำเภอ878อำเภอทั่วประเทศและคณะทำงานเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล7,255ตำบลเพื่อสร้างจุดเปลี่ยนระดับพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด

10.ความก้าวหน้าของงานแต่ละด้านเกิดจากการบริหารแบบเปิดกว้างสร้างหุ้นส่วน(Partnership platform)ในการทำงานกับทุกภาคีภาคส่วนเช่นสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมต่าง ๆ สถาบันอาหาร มหาวิทยาลัยและวิทยาลัย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย เครือข่ายองค์กรเอกชน ทุกกระทรวงและทุกพรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล การยึดประโยชน์บ้านเมืองมาก่อนประโยชน์ทางการเมืองได้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจนำมาซึ่งความร่วมมืออย่างจริงจังและจริงใจ ประการสำคัญคือการทำงานอย่างทุ่มเทของคนกระทรวงเกษตรฯ

งานหนักและอุปสรรครออยู่ข้างหน้าอีกมาก แต่ด้วยก้าวใหม่ ๆ ตามโรดแม็ปที่วางไว้ เราเดินเข้าใกล้เป้าหมายในทุกก้าวที่กล้าเดิน

 

ห้าวันดับรวม 263 ราย เจ็บ 2 พันกว่าราย ศปถ.เข้มถนนสายหลักหลัง ปชช.แห่เข้ากรุง

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ศปถ.) กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 ม.ค.ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 34 ราย ผู้บาดเจ็บ 311 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ  34.85 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 29.32 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.02 รองลงมา คือ รถปิกอัพ/กระบะ ร้อยละ 8.14 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 83.40 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.69 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.57 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 21.82 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 15.97 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,903 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,014 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 436,162 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 91,720 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,860 ราย ไม่มีใบขับขี่ 23,639 ราย 

นายบุญธรรม กล่าวต่อว่า โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตรัง (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และอุดรธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (15 คน)  จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 53 จังหวัด ในส่วนของสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.64 – 2 ม.ค.65) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,221 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 263 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,198 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (82 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (17 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (78 คน) 

นายบุญธรรม กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่าง ๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ ศปถ.ได้ประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการดูแลความปลอดภัยบนเส้นทางสายหลัก สายรองเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ/จังหวัด รวมถึงทางลัดทางเลี่ยง เพิ่มความถี่ในการการเรียกตรวจ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ เน้นการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนของผู้ขับขี่ ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง ในส่วนของการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ประสานการเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดประสานการปฏิบัติและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชน 

‘บลูเทค ซิตี้’ ร่วมสนับสนุนถุงยังชีพ สำหรับการดำรงชีพผู้สูงอายุ ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา

วันนี้ (4 มกราคม 2565) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นแก่ผู้สูงอายุ อาทิเช่น น้ำดื่ม 50 แพ็ค ,หน้ากากอนามัย จำนวน 50 กล่อง ,แผ่นรองซับ จำนวน 20 แพ็ก

โดยมี ว่าที่ร้อยโท ดร.สมโพชน์ กวักหิรัญ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน เป็นผู้รับมอบ เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะอ้าน

 

“บิ๊กตู่”มอบการกีฬาแห่งประเทศไทยเร่งประสาน WADA ปลดล็อคบทลงโทษไทย หลัง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่ 30 ธ.ค. 64

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 64  ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 พ.ศ. 2564 แล้ว หลังจากที่ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา แสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาข้อกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency) หรือ WADA ทั้งนี้ พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาฯ มีผลใช้บังคับนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเร่งประสานไปยัง WADA เพื่อชี้แจ้งว่าประเทศไทยได้แก้ไขปัญหาข้อกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ WADA ได้ปลดล็อคมาตรการต่างๆที่ดำเนินลงโทษกับประเทศไทย ทั้งในส่วนการไม่ให้ตัดสิทธิประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬา รวมถึง การปลดล็อคเรื่องการชักธงชาติไทยในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และในเรื่องอื่นๆ ต่อไป

กระบี่ - หน.อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี เผย!เทศกาลปีใหม่ 1- 3 ม.ค.65 มีนทท.เข้าชมอ่าวมาหยา 12,375 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวประทับใจ ‘อ่าวมาหยาราชินีแห่งอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี’ แม้ไม่ได้ลงเล่นน้ำ

4 มกราคม 2565 นายปราโมทย์ แก้วงาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอ่าวมาหยา เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา โดยจองผ่านคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อน และสามารถเข้าชมอ่าวมาหยาได้ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 นาฬิกา ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงต่อรอบ รวม 11 รอบ ๆ ละ 375 คน 4,125 ต่อวัน ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาดเพราะต้องการที่จะรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ เช่นฉลามหูดำ ที่มีมากกว่า 100 ตัว และกุ้งมังกร 7 สี แต่สามารถเดินเล่นและนอนหน้าชายหาดได้ หาดผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับตามอัตราที่กรมกำหนด

ซึ่งนักท่องเที่ยวรวมทั้งไกด์นำเที่ยว เรือนำเที่ยวต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวก็เข้าใจในเรื่องของกฎระเบียบ ข้อบังคับของทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก่อน ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้ ส่วนใหญ่ยังเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 -3 มกราคม ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมอ่าวจำนวน 12,375 คน

นอกจากนั้นทางอุทยานฯยังได้เตรียมความพร้อมตั้งในเรื่องของกำลังเจ้าหน้าที่ ไว้คอยดูแลนักท่องเที่ยว เมื่อเดินทางมายังอ่าวมาหยาตั้งแต่ท่าเทียบเรือ เดินทางเข้ามายังจุดบริการนักท่องเที่ยว ที่จะต้องตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย ตามขันตอนที่ได้กำหนดเอาไว้  มีทางเดิน ทางเท้า ทางลาดสำหรับผู้พิการ ป้ายบอกทาง ห้องปฐมพยาบาล ห้องสุขา ทุกอย่างได้จัดเตรียมไว้รอรับนักท่องเที่ยวไว้หมดแล้ว

นางรวินันท์ พุทธชาติ นักท่องเที่ยวชาวไทย จากจังหวัดสงขลา กล่าวว่า มีความประทับใจมาก ที่ได้มาเยือนอ่าวมาหยาอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คอยมาอ่าวมาหยามีแล้วครั้งหนึ่ง แต่มาครั้งนี้สภาพหาดอ่าวมาหยา มีการฟื้นฟูธรรมชาติสมบูรณ์ มีระบบนิเวศทางทะเลที่สมบูรณ์อีกครั้ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามระดับโลก สมฉายาราชินีอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี  ที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต้องการมาเยือนสักครั้งในชีวิต 

 

"กรณ์" สรุปผลงานพรรคกล้า 1 ปี ทำงานอาสาสู้โควิด เคียงข้างพี่น้องประชาชน แจกแมสก์ 5,000,000 ชิ้น แจกข้าวกล่อง 150,000 มื้อ ช่วยเหลือประชาชนกว่า 7,000 ราย ตั้งศูนย์พักคอย 36 ศูนย์ พร้อมขับเคลื่อนการเมืองสร้างสรรค์ 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงการทำงานในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ว่าเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับพวกเราทุกคน  โควิดเล่นกับเราแรงมาก ขอแสดงความเสียใจกับทุกๆท่าน ที่ต้องสูญเสียญาติพี่น้องให้กับโควิด ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังพยายามที่จะฟื้นตัวจากการติดเชื้อ และใครที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่าลังเล ส่วนใครที่มีโอกาสฉีดเข็ม 3  ถ้าหมอแนะนำให้ฉีด ก็ขอให้ฉีดทันที  วันนี้โอมิครอนคืบเข้ามาสู่ประเทศไทยเราแล้ว ปลอดภัยไว้ดีกว่า ส่วนประเด็นเรื่องของเศรษฐกิจ ก็ยังมีความน่าเป็นห่วง หลายๆท่านสูญเสียโอกาสในการทำมาหากิน รายได้ลดลง  ประเด็นปัญหาเรื่องหนี้สินเพิ่มมากยิ่งขึ้น  ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่ทุกคนต้องมีสติในการดูแลเรื่องค่าใชhจ่าย  อย่าเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น เพราะว่าประเด็นปัญหาเศรษฐกิจยังไม่จากเราไป 

ตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา พวกเราพรรคกล้าได้เลือกที่จะเน้น “งานอาสา” แทน “งานการเมือง” กลุ่ม “กล้าอาสา” ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ติดต่อเข้ามากว่า 7,000 ชีวิต เราได้แจกแมสก์ไปกว่า 5 ล้านชิ้น และได้ตั้งศูนย์พักคอยชุมชนเพื่อแยกผู้ป่วยออกจากชุมชนในการสะกัดการแพร่เชื้อถึง 36 แห่ง ทีมงานและว่าที่ผู้สมัครของเราได้ทำครัวร่วมกับเพื่อนๆ จิตอาสาแจกข้าวกล่องไปกว่า 150,000 มื้อ ให้ผู้ที่เดือดร้อนและผู้ยากไร้ และงานอาสาเราไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เรื่องโควิดแต่ทีมอาสาเรายังได้ช่วยผู้ประสบภัยอื่นๆเช่น น้ำท่วมในภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ หรือช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ 

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากงานอาสาแล้ว งานการเมืองเราก็ทำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจนั้น เราทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอดในการเสนอแนวคิดนโยบายไปทางรัฐบาล ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องการเยียวยาประชาชนหรือเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเราได้เสนอความคิดทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์มาโดยตลอดเพื่อช่วยให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นเรามีจุดยืนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อลดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงการแสดงจุดยืนสนับสนุนสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQ+ 

“บิ๊กตู่” ห่วง ปชช.ย้ำขับขี่เคารพกฏจราจร งดดื่มแอลกอฮอล์ ขอความร่วมมือ Work from Home 1 สัปดาห์ หลังจากกลับมาจากการไปท่องเที่ยวหรือภูมิลำเนา

ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (pmoc ) เผยแพร่ข้อความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยย้ำผู้ขับขี่ยานพาหนะต่างๆ ให้เคารพและปฏิบัติตามกฎจราจร รวมทั้งงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ระหว่างขับขี่ยานพาหนะ  เพื่อให้การเดินทางไปสู่ที่หมายอย่างปลอดภัยเพื่อจะได้ร่วมฉลองปีใหม่อยู่กับครอบครัวและญาติพี่น้องอย่างมีความสุข 

พร้อมย้ำทุกฝ่ายต้องป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ขั้นสูงสุด ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขแบบครอบจักรวาล Universal Prevention และให้สถานประกอบกิจการและร้านอาหารต่าง ๆ เข้มงวดในการปฏิบัติตาม COVID Free Setting รวมทั้งการฉีดวัคชีนให้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างน้อย 2 เข็ม แม้ในภาพรวมของประเทศไทยเริ่มดีขึ้นแล้ว  แต่ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น  

‘ธนาธร’ ติดโควิด!! ยืนยัน ผลตรวจออกมาเป็นบวก หลังเพิ่งกลับจากต่างประเทศ

วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ระบุว่า ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ

โพสต์ดังกล่าวระบุว่า เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) ผมเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ได้กักตัวและตรวจโควิดตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข เวลาประมาณ 15.00 น. ผลออกมาเป็นบวก

"ปิยบุตร" เผย 3 ภารกิจ "คณะก้าวหน้า" ปี 65 หนุนผู้สมัครชิงนายกเมืองพัทยา-ปักธงความคิดสร้างความหวังการเมืองท้องถิ่น-เปิดอะคาเดมีนักการเมือง-รณรงค์แก้ ม.112 รูปแบบใหม่ น่ารักสดใสยิ่งขึ้น

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงภารกิจของคณะก้าวหน้าในปี 2565 ว่า คณะก้าวหน้ามี 3 ภารกิจใหญ่ๆ คือ 1.เรื่องท้องถิ่น คณะก้าวหน้าคงจะสนับสนุนผู้สมัครชิงนายกเมืองพัทยา ส่วนระดับเทศบาลและอบต.ที่มีผู้บริหารที่เราสนับสนุน ก็จะเข้าไปช่วยให้คำปรึกษา แนวทางการทำนโยบายต่างๆ และจะมีการจัดงานซิมโพเซียมโชว์ โดยนำนโยบายท้องถิ่นดีๆ ในหลากหลายที่มาโชว์ การเดินหน้ารณรงค์เรื่องนี้เพื่อเปลี่ยนความคิดคนให้เห็นว่า เราสามารถมีความหวังกับการเมืองในระดับท้องถิ่นได้ และเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนได้ 2.เรื่องการรณรงค์ทางความคิด เราจะเดินหน้าคอมมอน สคูล ซึ่งมีทั้งโครงการยืมหนังสือฟรี การทำค่ายเยาวชน Awaken Land  การบรรยายในตลาดวิชาอนาคตใหม่ และจะทำอะคาเดมีสำหรับนักการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เพื่อคัดเลือกผู้สมัครและหลอมรวมคนที่คิดแบบเดียวกัน มีการฝึกอภิปรายในสภาฯ และความรู้พื้นฐานในทางการเมือง ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ตรงนี้จะเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำของคนที่อยากเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ขององค์กรของพวกเรา 

"ผมหวังว่าอะคาเดมีนี้จะคู่ขนานไปกับสารพัดหลักสูตรของภาครัฐ ที่สร้างขึ้นมาโดยใช้งบประมาณแผ่นดิน เพื่อดึงคนมาสร้างเครือข่ายคอนเนกชั่น ไม่ได้คิดเรื่องความรู้อย่างลึกซึ้ง และเสียค่าใช้จ่ายแพง แต่ของเราคนที่มาเรียนจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ซึ่งจะเป็นการแข่งขันกันในอนาคตระหว่างหลักสูตรของภาครัฐที่มีทรัพยากรอุดหนุนตลอด และมีโอกาสที่จะได้เจอคอนเนกชั่นมากมาย ขณะที่หลักสูตรของเราค่อยๆ เริ่มทำ เพื่อหวังจะสร้างบุคลากรเข้าไปอยู่ในสนามการเมืองมากยิ่งขึ้น ฝันไกลที่สุดคือผมอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมืองเพิ่มมากขึ้น โดยมีพื้นฐานความรู้ในแบบอนาคตใหม่" นายปิยบุตร กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top