Sunday, 25 May 2025
TheStatesTimes

ตำรวจสอบสวนกลาง จัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

บนถนนทางหลวงมอเตอร์เวย์สาย 6 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล.พร้อมกำลังจิตอาสา จัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยมุ่งเน้น “เปิดจุดอับ ขยายจุดสว่าง จุดพักรับรองเพื่อความสุขของประชาชน” ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.64 - 4 ม.ค.65

โดยมีจิตอาสาเข้าร่วมกว่า 200 นาย ประกอบด้วยจิตอาสาตำรวจสอบสวนกลาง  เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครราชสีมา , เจ้าหน้าที่ อบต.หนองสาหร่าย , อาสาจราจรตำรวจทางหลวง , จิตอาสาอำเภอปากช่อง ,  ชมรมฮักเขาใหญ่ , วิทยาลัยอาชีวศึกษากุสุมภ์เทคโนโลยี , นักเรียนโรงเรียนบ้านนา (ประสิทธิ์วิทยาคาร), นักเรียนโรงเรียนไตรรัตน์วิทยาคารในพื้นที่ อ.ปากช่อง และประชาชนจิตอาสา ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาด้านการจราจร พร้อมรับเทศกาลปีใหม่ 2565 ณ บริเวณมอเตอร์เวย์ (M6) สายบางปะอิน – นครราชสีมา ต.หนองสาหร่าย  อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยปรับปรุงภูมิทัศน์ สภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เช่น ทาสีเครื่องหมายจราจรให้ชัดเจน ตัดแต่งกิ่งไม้ ตัดหญ้าที่บดบังภูมิทัศน์ เก็บเศษขยะที่อาจทำให้เกิดการกีดขวางการจราจร  และล้างถนน

นอกจากนี้ยังมีการทำกิจกรรมพร้อมกันทั้ง 41 สถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ  ถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ เป็นการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมกันรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ ตามโครงการแจกหมวกนิรภัยแก่เด็กนักเรียน มอบหมวกนิรภัยให้กับเด็กนักเรียน โรงเรียนในพื้นที่ อ.ปากช่อง

สำหรับการดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ในเทศกาลปีใหม่ 2565 นั้น ตำรวจทางหลวง ได้ประสาน กรมทางหลวง ในการคืนพื้นผิวการจราจรในจุดซ่อมสร้างต่าง ๆ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุกในการงดเดินรถบรรทุกในบางเส้นทาง พร้อมเตรียมเปิดช่องทางพิเศษและเส้นทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และอาสาจราจรตำรวจทางหลวง ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมแล้ว มาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน 

สำหรับประชาชนที่ต้องเดินทางไกล ขับรถเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดความเหนื่อย เมื่อยล้า  ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้จัดห้องพักฟรีทั่วไทย จากใจตำรวจทางหลวง ไว้รองรับประชาชน สามารถจอดรถแวะพักได้ หรือจะพักค้างคืนได้เช่นกัน โดยได้จัดห้องพัก อาหาร ห้องน้ำ wifi และเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการ ซึ่งทุกหน่วยบริการฯ จะมีการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด และภายในที่พักยังมีโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ประชาชนสามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้  ขอคำแนะนำจากตำรวจทางหลวงได้ และสามารถนำผลิตผลทางการเกษตรกลับไปได้อีกด้วย ทั้งนี้ ประชาชน ที่สนใจสามารถจองที่พักได้ที่ www.booking.hwpdth.com หรือ สแกนผ่าน QR Code  

 

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. - ผอ.ศปน.ตร. ปรับกลยุทธ์เด็ด!! ‘ทลายแก๊งเจ้าหนี้นอกระบบ’ สนองนโยบายรัฐบาล

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปน.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ของ ศปน.ตร. กระจายกำลังบุกทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ 3 จังหวัด ได้แก่ เลย อุดรธานี และหนองคาย รวม 5 เครือข่าย 9 จุดตรวจค้น เพื่อดำเนินการกับเจ้าหนี้นอกระบบตาม พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560  โดยทำการจับกุม นายอลงกร ผนามอญ อายุ 34 ปี และ นายโชคสวัสดิ์ ลีเพ็ญ อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย เลขที่ 184/2564 และ 185/2564 พร้อมตรวจยึดรถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 31 คัน มูลค่า 7.2 ล้านบาท ตรวจยคดโฉนดที่ดิน 10 ฉบับ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ราคาประเมิน 50 ล้านบาท รวมมูลค่า 57,200,000 บาท

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า เมื่อ 2 ธ.ค.64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งมอบหมายให้เป็น ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ หรือ ศปน.ตร.เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน  ดังนั้นในฐานะ ผอ.ศูนย์ จึงได้กำหนดกลยุทธ์ให้ชุดปฏิบัติการต่าง ๆ วางแผนเพื่อตัดวงจรกลโกงให้ได้และวันนี้ชุดป้องกันและปราบปรามหนี้นอกระบบ ได้เปิดยุทธการปราบปรามจับกุม กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบผิดกฎหมาย พร้อมกัน 3 จังหวัด 9 จุด เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ ที่ถูกฉ้อฉลหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ จากเจ้าหนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปราบปรามในเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อเนื่องเพื่อนำความสงบสุขส่งมอบเป็นของขวัญให้พี่น้องประชาชนในปี พ.ศ 2565 จะมาถึงนี้

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ศปน.ตร.ได้ทำการปราบปรามจับกุม เจ้าหนี้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบและฉ้อฉล ลูกหนี้นอกระบบโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแล้ว จำนวน 310 ราย ช่วยเหลือลูกหนี้มาแล้วมากกว่า 514 ราย รวมมูลค่าทรัพย์สิน จำนวน 91,763,429 บาท และมุ่งมั่นจะช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ อย่างเต็มความสามารถ ขอให้บรรดาลูกหนี้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ดังต่อไปนี้

     1. ถูกเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

     2. มีการทำสัญญาเงินกู้เกินกว่าที่กู้จริง

     3. ถูกเป็นทาส หาเงินมาชำระหนี้โดยไม่รู้จักจบสิ้น

     4. ถูกประจานติดตามทวงหนี้

     5. ถูกข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายในการทวงหนี้

     6. ถูกเจ้าหนี้ใช้กลฉ้อฉลยึดทรัพย์ หรือเอาทรัพย์ไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชี้! นายกนิวซีแลนด์ หนุนมาตรการ ให้ทางเลือกผู้สูบบุหรี่ ยันไม่ปิดกั้นเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “ลาขาดควันยาสูบ” หรือ ECST และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เผยหลังมีข่าวรัฐบาลนิวซีแลนด์เคาะมาตรการเด็ดขาดเพื่อหยุดการสูบบุหรี่ในคนรุ่นใหม่ โดยห้ามเด็กเกิดหลังปี 2551 ซื้อบุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบไปจนตลอดชีวิตว่า “วัตถุประสงค์ของการทำให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศปลอดควันมี 2 ส่วนสำคัญคือ 

1.) การควบคุมผลิตภัณฑ์ไร้ควันและสร้างความแตกต่างจากบุหรี่แบบเผาไหม้เพื่อสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เลิกบุหรี่หรือเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่า

และ 2.) การเข้มงวดกับบุหรี่ซิกาแรตที่มีการเผาไหม้เพื่อค่อย ๆ ให้หมดไป เพราะนิวซีแลนด์ตั้งเป้าหมาย 'Smokefree 2025' เพื่อลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศให้เหลือต่ำกว่า 5% ภายใน ค.ศ. 2025 ซึ่งมาตรการทั้งหมดมาจากการยอมรับแนวทางการลดอันตรายจากยาสูบ (tobacco harm reduction) และชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้จำกัดการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนิวซีแลนด์มองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเลิกบุหรี่”

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิน กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “เรากำลังเห็นการใช้ผลิตภัณฑ์ไร้ควัน (การเวป) เป็นเครื่องมือในการเลิกสูบบุหรี่ของคนจำนวนมาก และนี่ทำให้เราสามารถผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อลดการสูบบุหรี่เพราะมีทางเลือกที่ผู้สูบบุหรี่สามารถใช้เลิกสูบบุหรี่ได้อย่างประสบความสำเร็จ เรารู้ว่าการเวปได้สร้างความแตกต่างให้กับคนเหล่านั้นเพื่อเลิกสูบบุหรี่และเป็นเครื่องมือที่สำคัญ”

กระบี่ - สสจ.กระบี่ยืนยัน! พบนักท่องเที่ยวต่างชาติติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มเข้ม งานเคาท์ดาวน์ อ่าวนางบีช เฟสติวัล 2022 ถ้ามาตรการไม่เป็นไปตามที่กำหนด สามารถพิจารณาให้หยุดงานได้ทันที

วันที่ 28 ธ.ค.64 นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "จากการที่จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 1,900 คนเศษ จากการตรวจทุกราย พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 ราย ในจำนวนนี้เป็นสายพันธ์โอมิครอน 3 ราย จากสายการบิน Finnair 2 ราย อยู่ในระหว่างการรักษา โดยมีกลุ่มเสี่ยง 200 ราย ซึ่งเฝ้าระวังครบ 7 วัน ตรวจเชื้อแล้วไม่พบ ส่วนอีก 1 ราย จากไฟล์ส่วนตัว ที่บินตรงเข้ามา ซึ่งได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว"

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ได้ลงทะเบียนไว้ อีก 1,400 คนที่จะเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่โดยตรง ก็จะต้องใช้หลักเกณฑ์ใหม่ คือเมื่อมาถึงต้องตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการวางแผนว่าใครจะเป็นเจ้าภาพในการตรวจ รวมถึงค่าใช้จ่าย จากเดิมที่ตกลงไว้ คือ ตรวจ RT-PCR ครั้งเดียว ส่วนอีก 1 ครั้งให้นักท่องเที่ยวตรวจเองแบบ ATK และส่งผลมายืนยัน  ด้านมาตรการเฝ้าระวังได้มีการ ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  หรืออยู่ในที่สาธารณะ ส่วนมาตรการอื่น ๆ ได้มีการประชาสัมพันธ์และเข้มข้นตลอดเวลา  ร่วมทั้งเร่งฉีดวัคซีนของคนกระบี่เองให้ได้ครบตามกลุ่มเป้าหมาย

นายนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในที่ประชุมกรมการจังหวัดว่า "งานเคาท์ดาวน์ อ่าวนาง ได้มอบหมายให้ สสจ และผู้บังคับการตำรวจประสานกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพบว่าไม่ทำตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ปิดได้ทันที" ผู้ว่าย้ำ ต้องเข้มงวดเข้าใจว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจแต่ชีวิตก็ต้องรักษาด้วย

ด้านพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่ย้ำ ดูแลการจัดงานเคาท์ดาวน์ อ่าวนางบีช เฟสติวัล 2022 อย่างเข้มงวดในการจราจรและความปลอดภัย โดย จัดทำแผนจราจรบริเวณการจัดงาน จัดทำป้ายบอกเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ไปร่วมงาน ด้านความปลอดภัย ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ดังนี้ จำกัดคนเข้างาน ( 4 ตร.ม.ต่อ 1 คน ร่วมงานได้ไม่เกิน 1,000 คน) และกำหนดแบ่งเป็นโซน คือ โซนคอนเสิร์ตและไม่ใช่คอนเสิร์ต ซึ่งผู้เข้าชมคอนเสิร์ต ให้นั่งชมเท่านั้น) ผู้ที่เข้าร่วมงานต้องลงทะเบียน มีผลการฉีดวัคซีน และผลตรวจ ATK  เป็นลบภายใน 72 ชม.

 

เพชรบูรณ์ - เปิดงานเนื่องในวัน ‘ป้องกันอุบัติเหตุแห่งชาติ ประจำปี 2564’ และพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกัน - ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

ที่บริเวณหน้าพุทธอุทยานเพชรบุระ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์  เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเนื่องในวันป้องกันอุบัติเหตุแห่งชาติ ประจำปี 2564 และพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565  โดยมีนายนพดล คำนึงเนตร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่ายป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนต่าง ๆ ร่วมกิจกรรม 

       

นายนพดล คำนึงเนตร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปี คณะรัฐมนตรีมีมติให้เป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียและผลกระทบจากอุบัติภัย รวมทั้งเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันบูรณาการความร่วมมือในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีกิจกรรม การอ่านสารนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี2564 /จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมสร้างความตระหนัก และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชน /จัดกิจกรรมฝึกทักษะการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อการกู้ชีพกู้ภัยหรือซ้อมแผนตามความเสี่ยงภัยของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งการจัดนิทรรศการ การแสดงสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ มีเป้าหมายให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตลดลงเมื่อเทียบกับสถิติช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง โดยให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้กำหนดเป้าหมายดำเนินงานด้วยตัวเอง เน้นการดำเนินงานในอำเภอที่มีสถิติความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง และไดกำหนดช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 - วันที่ 4 มกราคม 2565 รวม 7 วัน กำหนดแคมเปญในการรณรงค์ว่า “ชีวิตวิถีใหม่ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ”

 

กรุงเทพฯ - ‘นิพนธ์’ มอบแนวทางพัฒนาภาคใต้ชายแดน เน้นพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก – สร้างงาน - สร้างรายได้ ฟื้นเกษตรและท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ประชาชนฝากการบ้านลดความเหลื่อมล้ำทำให้เป็นจริง

ที่โรงแรมรอยัล ปริ้นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ นายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานโครงการของ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ซึ่งมีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงบประมาณสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการภาคใต้

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานของคณะทำงานช่วยอำนวยการพิจารณาและกลั่นกรองแผนงานโครงการของ อ.ก.บ.ภ. ภาคใต้และภาคใต้ชายแดนซึ่งได้ประชุมรวม 5 ครั้ง ทำให้ได้ผลการพิจารณากลั่นกรองมีความครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยพิจารณากลั่นกรองโครงการ 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1  คือโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดในภาคใต้ (11 จังหวัด) และภาคใต้ชายแดน (3 จังหวัด) และโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดในภาคใต้ (2 กลุ่มจังหวัด) และภาคใต้ชายแดน (1 กลุ่มจังหวัด) ส่วนที่ 2 คือ โครงการของส่วนราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่มีความสอดคล้องกับ (ร่าง) ทิศทางการพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดน (พ.ศ.2566-2570)

นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการพิจารณากลั่นกรองโครงการครั้งนี้ ได้เห็นประเด็นปัญหาของการจัดทำโครงการทั้งของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด เช่น โครงการขาดความพร้อมด้านต่าง ๆ และโครงการที่เป็นภารกิจถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น  ทั้งนี้ได้มอบแนวทาคมงการดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน โดยควรดำเนินงานในลักษณะการบูรณาการ โดยใช้แนวคิดเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด รวมทั้งการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ และมีความหลากหลายของประเภทโครงการ ครอบคลุมทุกมิติการพัฒนา โดยวางหลักในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากฐาน การสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ทั้งภาคการเกษตร ภาคการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานลดความเหลี่ยมล้ำทางสังคม  ทางเศรษฐกิจ การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติ  รวมทั้งการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเกิดความเข้มแข็งจากระดับล่าง ประชาชนพึ่งพาตนเองได้

 

 

นราธิวาส – สมาคมกีฬานราธิวาส มอบรางวัลให้ ‘นักกีฬาคว้าแชมป์มวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก’ เพื่อเชิดชูเกียรติให้แก่นักกีฬา และบุคลากรทางการกีฬา พร้อมสนับสนุนมวยไทย

ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธี แสดงความยกย่องยินดีและมอบรางวัลให้นักกีฬาและผู้ฝึกสอนเนื่องในโอกาสคว้าแชมป์มวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2021 โดยมี ดร.สุชาติ ถาวระ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส

นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส นางสุธิดา พะลายะสุต ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนราธิวาส นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส นายนิรัตน์ นราฤทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนราธิวาส ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี

นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ตามที่สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กําหนดจัดการแข่งขันกีฬา มวยไทยสมัครเล่นเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ประจําปี 2564 เพื่อคัดเลือกนักกีฬามวยไทย สมัครเล่นที่ได้ตำาแหน่งชนะเลิศในแต่ละรุ่นเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันมวยไทย สมัครเล่นเยาวชนชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2564 ผลปรากฏว่านายณฐกร จีนขุ้ย นักเรียนโรงเรียนนราธิวาส มัธยมศึกษา ศึกษาปีที่ 4/4 นักมวยนักกีฬามวยไทยสมัครเล่นสังกัดสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส และผู้ฝึกสอนนาย สุเมธ จีนขุ้ย ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนนราธิวาส ประธานชมรมกีฬามวยไทยมวย สากลสมัครเล่นจังหวัดนราธิวาส สังกัดสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาสได้เข้าร่วมการแข่งขัน และสามารถคว้าแชมป์ในรุ่นอายุ 14-15 ปี น้ำหนักไม่เกิน 48 กิโลกรัมและได้เป็นตัวแทนของ ประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมเปี้ยนโลก 2564 ในระหว่างวันที่ 5-11 ธันวาคม 2564 ณ อาคารนิมิบุตรปทุมวัน กรุงเทพฯ

ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งเมื่อนายณฐกร จีนขุ้ย ชนะคู่ชกจากประเทศลัตเวียใน รอบชิงชนะเลิศ คว้าเหรียญทองแชมป์โลกให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ภาคส่วนต่าง ๆ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวและกีฬา นราธิวาส สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส ที่สำคัญคือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันจัดงาน ยกย่องเชิดชูมวยนราคว้าแชมป์โลกขึ้นในครั้งนี้ สําหรับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส ที่ผ่านมาได้ประสานขอรับการสนับสนุน งบประมาณจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีสํานักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยนราธิวาส เป็นผู้ควบคุมดูแล และเพื่อสนับสนุนให้กับชมรมมวยไทยสมัครเล่นและมวยสากลสมัครเล่นมาโดยตลอดต่อเนื่อง ในปี 2564 เป็นจํานวนเงิน 762,570 บาทอีกด้วย

 

‘โอมิครอน’ ไทย พบติดเชื้อพุ่ง 514 คน สธ.เตือนภัย! ระดับ 3 จ่อปิดสถานบริการ - WFH 

‘โอมิครอน’ เริ่มลามไม่หยุด ติดเชื้อพุ่ง 514 คน สธ.สั่ง รพ.ทั่วประเทศ สำรองเตียง-ยา ประเมินสถานการณ์หลังปีใหม่ ถ้าการ์ดตกอาจป่วยวันละ 3-4 หมื่น คลัสเตอร์กาฬสินธุ์กระจายวงกว้าง ติดเชื้อรายวัน 2.4 พันเสียชีวิต 18 ศพ

ไทยติดโควิดรายวัน 2.4 พันราย ตาย 18 ศพ คลัสเตอร์ใหม่โผล่หลายจังหวัด ศบค. ห่วงร้านอาหาร-สถานบันเทิงลอบขายเหล้า โดยเฉพาะเชียงใหม่ ยกระดับคุมเข้มสกัดเชื้อลาม ตรวจเจอสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศแล้ว 514 คน เป็นการติดเชื้อแบบก้าวกระโดด คลัสเตอร์กาฬสินธุ์พุ่ง 125 คน รอยืนยันผลอีก 97 คน ลามไปอีกหลายจังหวัด จี้เร่งฉีดเข็ม 3 ให้ครอบคลุมมากที่สุด แต่ไม่ห้ามจัดปีใหม่ ให้พื้นที่เคร่งครัดมาตรการ

ด้าน สธ. เตือนภัยโควิด-19 ระดับ 3 คาดการณ์สถานการณ์หลังปีใหม่ หากไร้มาตรการ-ไร้ความร่วมมือติดเชื้ออาจพุ่งวันละ 3 หมื่น ตาย 170 ถ้าตั้งการ์ดสูง ฉีดวัคซีนครบ อาจแตะหลักหมื่น ตาย 60-70 ราย

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศบค. แถลงภาพรวมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ รวมถึงความคืบหน้าการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

>> ไทยติดโควิด 2,437 ตาย 18 คน
ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,437 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,327 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,307 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 20 ราย มาจากเรือนจำ 18 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 92 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,212,407 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3,845 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,156,374 ราย อยู่ระหว่างรักษา 34,436 ราย อาการหนัก 752 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 179 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 10 ราย เป็นผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 14 ราย มีโรคเรื้อรัง 3 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ที่จ.เชียงใหม่ 3 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 21,598 ราย

>> ฉีดวัคซีนสะสมกว่า 102 ล้านโดส
ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ฉีดวัคซีนเพิ่ม 120,612 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ทั้งสิ้น 102,681,943 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 280,332,969 ราย เสียชีวิตสะสม 5,416,370 ราย

>> ชลบุรีมาแรง ติดเชื้อแซงขึ้นที่ 2 ของประเทศ 
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 27 ธันวาคม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) 427 ราย นครศรีธรรมราช 450 ราย ชลบุรี 138 ราย ขอนแก่น 96 ราย สมุทรปราการ 88 ราย เชียงใหม่ 57 ราย ตรัง 56 ราย ฉะเชิงเทรา 54 ราย สงขลา 53 ราย และสุราษฎร์ธานี 52 ราย สำหรับประเทศไทยยังพบคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ ทั้งคลัสเตอร์โรงงาน ตลาด พิธีกรรมทางศาสนา เช่น มีผู้เดินทางจาก จ.ขอนแก่น ไปร่วมงานศพที่ จ.เลย คลัสเตอร์สถานศึกษา โรงเรียน ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นนทบุรี ลำปาง

>> ห่วงร้านแอบขายเหล้า - เชียงใหม่สั่งคุมเข้ม
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ร้านอาหารและสถานบันเทิง มีหลายพื้นที่ยังพบลักลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะที่จ.เชียงใหม่ จึงมีการเข้มงวดกวดขันที่ไม่ใช่การขอความร่วมมือ แต่จะกำหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำว่า หากสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการแล้วเกิดพบการติดเชื้อ จะเสนอให้ปิดล็อกได้บางจุด บางถนน หากบางร้านมีความเข้มงวดแต่ร้านอื่นไม่ทำตาม อาจเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงให้สมาคมผู้ประกอบการเหล่านี้ติดตามเฝ้าระวังกันเอง

>> ‘โอมิครอน’ ก้าวกระโดด ติดพุ่ง 514 คน
พญ.อภิสมัย ยังแถลงความคืบหน้าการรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน จากตัวเลขเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 205 ราย ล่าสุดวันนี้ตัวเลขเพิ่มเป็น 514 ราย ถือว่าสัปดาห์นี้ตัวเลขก้าวกระโดด ต้องเน้นย้ำว่าการพบสายพันธุ์โอมิครอนของประเทศยังเป็น 2 ใน 3 คือ ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศและมี 1 ใน 3 ที่เป็นการสัมผัสติดเชื้อจากผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ

>> คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ลามไม่หยุด!! 
สำหรับคลัสเตอร์ที่มีรายงานจากกรมควบคุมโรค กลุ่มใหญ่จะเป็นคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ สามี-ภรรยา เดินทางจากเบลเยียมถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม และจากประวัติไปรับประทานอาหารในผับ ตลาดโรงสี เขตเทศบาลเมือง จ.กาฬสินธุ์ นอกจากผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกที่เป็นสามี-ภรรยาแล้ว ยังพบนักดนตรี พนักงานร้าน และพนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าผู้ใช้บริการร้านเดียวกันอีก 21 ราย และจากการตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีการติดเชื้อผลยืนยันผลเป็นสายพันธุ์โอมิครอนสำหรับคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ขณะนี้เพิ่มเป็น 125 ราย ส่วนอีก 97 ราย รอผลยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ ขณะเดียวกัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ยังเกี่ยวโยงการติดเชื้อที่ จ.อุดรธานี เพราะจากรายแรกที่เป็นครอบครัวของคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ที่มีบ้านอยู่ จ.อุดรธานี และตอนนี้ผู้ติดเชื้อ 1 รายของจ.อุดรธานี ทำให้เกิดติดเชื้อไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิดของเคสแรก โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อ 6 ราย และจ.ลำพูน อีก 4 ราย เป็นการสัมผัสเคสยืนยันจากคลัสเตอร์กาฬสินธุ์

>> คลัสเตอร์แสวงบุญกระจายหลายจังหวัด
นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ของจ.ปัตตานี รายงานผู้ติดเชื้อ 7 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อที่กลับจากการแสวงบุญที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยคลัสเตอร์กลุ่มผู้แสวงบุญ มีรายงานที่จ.นนทบุรี จ.อยุธยา จ.ปทุมธานี และกทม. โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างรอยืนยันสายพันธุ์ว่าเป็นโอมิครอนหรือไม่ แต่ที่ยืนยันแน่นอนคือ ที่กทม. 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่ติดจากสามีที่เป็นนักบินชาวไนจีเรีย จ.ภูเก็ต และจ.กระบี่ 2 ราย มีประวัติเป็นแม่บ้านทำงานในโรงแรมที่ผู้ติดเชื้อพักอาศัย ส่วนคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ จะรายงานไปที่จ.ขอนแก่นและจ.มหาสารคาม และอีกคลัสเตอร์คือผู้ติดเชื้อที่รายงานจากจ.สุรินทร์ เป็นผู้สัมผัสที่ผู้ติดเชื้อรายแรกเดินทางมาจากเดนมาร์ก

>> ไอ - เจ็บคอ - มีไข้ สังเกตอาการยาก
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า จากข้อมูลเบื้องต้นอาการผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 41 ราย พบว่ามีอาการไอมากที่สุดถึงร้อยละ 54 ราย รองลงมาคือ เจ็บคอ และเป็นไข้ ส่วนอาการที่พบน้อยที่สุดคือ การรับรู้กลิ่นน้อยลงมีเพียง 1 ราย โดยโอมิครอนเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบน ไม่ลงปอด จึงยากที่จะสังเกตอาการคนใกล้ชิด สาธารณสุขจึงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นเพื่อป้องกัน

>> ตีปี๊บบูสเตอร์เข็ม 3 ด่วน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โอมิครอนในประเทศไทยทำให้ทั้งไทยและหลายประเทศมีมาตรการตอบโต้ โดยแนะนำให้ประชาชนฉีดบูสเตอร์เข็มสาม เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพและหลายประเทศเห็นพ้องแนวทางนี้ ในส่วนไทยนั้นอัตราการบูสเตอร์เข็มสามยังน้อยมาก มีผู้ฉีดเข็มสามเพียง 6,226,249 รายเท่านั้น คิดเป็น 8.6% ของประชากร จึงขอให้เร่งรณรงค์เรื่องนี้ สำหรับผู้ฉีดเข็มที่หนึ่งและสองเป็นซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ให้ฉีดบูสเตอร์เข็มสามหลังจากฉีดเข็มที่สองแล้ว 4 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่สองแล้ว ให้รอ 3 เดือน จึงไปกระตุ้นเข็มที่สาม เช่นเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อแล้ว ให้รอหลังจากหายแล้ว 3 เดือน และ ศบค.ชุดเล็ก ยังมีความห่วงบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรค จึงขอให้ไปฉีดเข็มที่สี่

>> 26 วันเข้าไทย 2.4 แสน - เยอรมันมากสุด
สำหรับตัวเลขผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศตั้งแต่วันที่ 1 - 26 ธันวาคมมีทั้งสิ้น 240,277 ราย 5 ชาติอันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี 20,620 ราย พบผู้ติดเชื้อ 35 ราย สหราชอาณาจักร 16,470 ราย ติดเชื้อ 131 ราย รัสเซีย 12,297 ราย ติดเชื้อ 43 ราย สิงคโปร์ 9,528 ราย ติดเชื้อ 3 ราย และสหรัฐอเมริกา 9,357 ราย ติดเชื้อ 101 ราย

>> ไม่ห้ามจัดปีใหม่ย้ำจังหวัดเข้มมาตรการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับมาตรการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังพบสายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดเร็วและเริ่มพบเชื้อในประเทศมากขึ้น พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตอนนี้มีหลายจังหวัดที่เข้มงวดกวดขันการจัดเทศกาลปีใหม่ โดยที่ประชุมศบค. เน้นย้ำให้คำนึงถึงประชาชนที่ต้องการดำเนินชีวิตตามปกติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ใช่แค่การฉลอง แต่มีหลายครอบครัวต้องการเดินทางกลับไปดูแลผู้สูงอายุ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ดังนั้น เบื้องต้นยังไม่มีมาตรการห้ามจัดเทศกาลปีใหม่ แต่ขอให้แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะคณะกรรมการโรคติดต่อกทม.คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เข้มงวดมาตรการ

ป.ป.ช. เปิดเซฟ 3 อดีต ผบ.เหล่าทัพ “บิ๊กแอร์บูล” อู้ฟู่ 108 ล้าน ไร้หนี้สิน ภรรยารวยที่ดิน ด้าน “บิ๊กอุ้ย-บิ๊กณัฐ” รวยเท่ากัน 29 ล้าน  

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.พล.อ.อ.แอร์บูล  สุทธิวรรณ กรณีพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ และสมาชิกวุฒิสภา 2. พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน กรณีพ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือและสมาชิกวุฒิสภา 3.พล.อ.ณัฐ  อินทรเจริญ กรณีพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมและสมาชิกวุฒิสภา

 โดย พล.อ.อ.แอร์บูล แจ้งว่า ตนเอง และนางพรรณระพี สุทธิวรรณ คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 108,960,960 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยเป็นทรัพย์สินของ พล.อ.อ.แอร์บูล 20,590,105 บาท เป็นของนางพรรณระพี 88,370,854 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 16,647,858 บาท เงินลงทุนของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 10,579,568 บาท ที่ดินในชื่อของนางพรรณระพี 34,732,500 บาท โดยเป็นที่ดินในเขตพญาไท กทม. อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างในชื่อของนางพรรณระพี 29,700,000 บาท ส่วนรายการทรัพย์สินอื่นของทั้งคู่ แจ้งว่า มี 88 รายการ มูลค่ารวมกัน 10,472,200 บาท โดยมีทรัพย์สินที่น่าสนใจ อาทิ ทองคำแท่ง น้ำหนัก 40 บาท สร้อยคอทองคำ แหวนทองประดับเพชร แหวนทองฝังเพชร พระเลี่ยมทอง เครื่องประดับสตรี

 ผู้ยื่นยังแจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 2,072,000 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน 1,400,000 บาท เบี้ยประชุม 672,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 980,000 บาท ส่วนคู่สมรส แจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 2,018,200 บาท โดยเป็นเงินเดือนและเบี้ยประชุม และมีรายจ่ายต่อปี 960,000 บาท โดยเป็นค่าอุปโภคบริโภค ประกันชีวิต อุปการะมารดา ท่องเที่ยว บริจาค

 ด้าน พล.ร.อ.ชาติชาย แจ้งว่า ตนเอง และนางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน คู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 29,270,306 บาท มีหนี้สิน 2,661,557 บาท โดยเป็นหนี้สินของ พล.ร.อ.ชาติชาย ซึ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น โดยทรัพย์สินแบ่งเป็นของ พล.ร.อ.ชาติชาย 25,398,206 บาท เป็นของนางจุฬารัตน์ 3,872,099 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของทั้งคู่ มูลค่ารวมกัน 3,592,045 บาท ที่ดินของ พล.ร.อ.ชาติชาย 9,894,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างของ พล.ร.อ.ชาติชาย 3,840,000 บาท เงินลงทุนของ พล.ร.อ.ชาติชาย 2,165,670 บาท ส่วนรายการทรัพย์สินอื่นของคู่ แจ้งว่า มี 11 รายการ มูลค่ารวมกัน 5,758,500 บาท โดยมีรายการที่น่าสนใจ อาทิ นาฬิกา ROLEX 2 เรือน สร้อยคอทองคำ พระเลี่ยมทอง สร้อยคอมือ เข็มขัดนาค แหวน 

 ผู้ยื่นยังแจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 2,148,000 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน 970,000 บาท เงินประจำตำแหน่ง เงินค่าตอบแทน 500,000 บาท เบี้ยประชุม เบี้ยเลี้ยงเดินทาง 650,000 บาท เงินปันผลสหกรณ์ 28,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ยื่นและคู่สมรสแจ้งว่า มีรายจ่ายต่อปีรวมกัน 1,751,600 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าผ่อนบ้าน ค่าเล่าเรียนบุตร 

'ราเมศ' ย้ำ 'ปชป' ไม่คิดฮั้วกับใคร ตัดสินใจตามสถานการณ์ความเหมาะสม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีการเลือกตั้งซ่อมหลายเขตที่เกิดขึ้นว่า

พรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองภายใต้กรอบของกฎหมาย ทุกการตัดสินใจเป็นไปตามสถานการณ์และความเหมาะสม การส่งหรือไม่ส่งผู้สมัคร ไม่มีความจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยคำว่าพรรคการเมืองอื่นหรือปัจจัยคำว่าพรรคร่วมรัฐบาล แต่คำนึงถึงสาระสำคัญของความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ คณะกรรมการบริหารพรรคมีดุลยพินิจในการพิจารณาทุกคนและเมื่อตัดสินใจส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งใดแล้วก็สู้กันอย่างเต็มที่ตามครรลองของระบบประชาธิปไตย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top