Wednesday, 28 May 2025
TheStatesTimes

ถอดบทเรียน ‘เกาหลีใต้ - ญี่ปุ่น’ กฎหมายเข้ม!! เมาแล้วขับ | Click on Clear THE TOPIC EP.113

📌 พลาดไม่ได้!! พบกับแขกรับเชิญพิเศษ ‘คุณชาร์ต สืบศิษฏ์ ศานติศาสน์’ เจ้าของเพจ “คิดแบบ Global Citizen" และคณะทำงานการศึกษา พรรคกล้า

📌 ใน Topic : ถอดบทเรียน ‘เกาหลีใต้ - ญี่ปุ่น’ กฎหมายคุมเข้ม!! ‘เมาแล้วขับ’ ต้องเป็นอย่างไร!?

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

นราธิวาส - ผู้ว่านราฯ ปรุงอาหารมื้อเย็น ลุยน้ำแจกชาวบ้าน พร้อมเหมาลูกชิ้นแจกเด็ก พร้อมช่วยบรรเทาทุกข์ชาวนราธิวาส จากภัยน้ำท่วม

นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ได้เดินทางมายังพื้นที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อปรุงอาหารมื้อเย็นเป็นผัดเผ็ดไก่กับไข่ต้ม จำนวน 1,800 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม แจกจ่ายให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในตลาดมูโนะ พร้อมทั้งได้เดินลุยน้ำแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ไม่สามารถเดินลุยน้ำมารับอาหารในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการเดินลุยน้ำในครั้งนี้ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ได้ถือโอกาสพูดคุยปรับทุกข์กับชาวบ้าน ถึงในบ้านพักที่ถูกน้ำท่วมขัง เพื่อเป็นการสำรวจความเสียหายไปในตัว หากสภาพน้ำท่วมกลับคลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติ ก็จะได้เร่งตั้งงบประมาณในการช่วยเหลือได้ทันที

ซึ่งการเดินลุยน้ำแจกอาหารกล่องของผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาสในครั้งนี้ พบว่ายังมีระดับน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงของมวลน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ที่บริเวณจุดพนังกั้นน้ำพังเสียหาย แถมมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากกว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ต้องนำเชือกผูกมัดไว้กับเสาไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าออกตลาด เนื่องจากเกรงว่าอาจจะถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัดจนได้รับอันตรายถึงชีวิต ซึ่งภาพรวมระดับน้ำท่วมขังสูงจากช่วยเช้าประมาณ 20 ซ.ม.โดยอยู่ในระดับ 80 ถึง 90 ซ.ม.

และในระหว่างที่นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส เดินลุยน้ำแจกอาหารกล่องและน้ำดื่มแล้วเสร็จ ได้ถือโอกาสเหมาลูกชิ้นปิ้งของประชาชน ที่ตั้งร้านค้าในน้ำเป็นเงิน 2,000 บาท เพื่อแจกจ่ายให้กับเด็กและเยาวชนที่กำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำ และได้มีผู้ปกครองท่านหนึ่ง พูดทีเล่นที่จริงกับท่านผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ว่า ท่านสมเป็นกับผู้ว่าติดน้ำและติดดิน และมีเสียงหัวเราะตามมาสร้างความคลายเครียดในช่วงน้ำท่วมครั้งนี้

 

วันนี้ในอดีต ‘ทหารอังกฤษ - เยอรมัน’ วางปืนหยุดการต่อสู้! เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 1

โดยปกติแล้วในค่ำคืนของวันที่ 24 ธันวาคม ถือเป็นวันคริสต์มาสอีฟ ความจริงแล้วชาวคริสต์ส่วนใหญ่จะต้องกินมื้อเย็นกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า แต่ปี 1914 แตกต่างออกไป ซึ่งในวันนั้นทหารอังกฤษและเยอรมัน ซึ่งเข่นฆ่าทำสงครามกัน ได้วางอาวุธและลงเตะฟุตบอลร่วมกันเพื่อฉลองวันคริสต์มาส โดยมีการตั้งวงดื่มฉลอง ร้องรำทำเพลง รวมถึงการแลกเปลี่ยนของขวัญตามธรรมเนียมเทศกาลคริสต์มาสทุกประการ 

ของขวัญชิ้นหนึ่งที่มีการมอบให้กันคือ ลูกฟุตบอล ที่นำมาใช้ในการแข่งขันเพื่อความสนุกของทหารอังกฤษและทหารเยอรมัน ทำให้มีการแข่งขันฟุตบอลกันระหว่างทีมทหารอังกฤษกับทีมทหารเยอรมันครั้งนั้น ทีมทหารเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ 3 ต่อ 2 แข่งกันที่ผืนดินทำการเกษตรในเมืองเซ็นต์ อีฟส์ (Saint Yves) ประเทศเบลเยียม 

‘เออร์นี่ย์ วิลเลี่ยมส์’ ทหารผ่านศึกชาวอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เล่าถึงฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ครั้งนั้นว่า ตอนนั้นเขาอายุ 19 ปี เป็นหนึ่งในทีมที่ลงเตะฟุตบอลด้วย โดยเล่าว่า ลูกฟุตบอลที่ใช้แข่งวันนั้นเป็นลูกฟุตบอลสภาพดี มีการสมมุติเขตประตูและเตะกันเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้เอาผลแพ้ชนะอย่างจริงจัง ทุกคนเล่นฟุตบอลกันอย่างมีความสุข

ชัยภูมิ - ชวนเที่ยวเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” พร้อมโต้ลมหนาวชมธรรมชาติที่มอหินขาว จ.ชัยภูมิ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ เผยว่า จังหวัดชัยภูมิได้ร่วมกันจัดงานเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” ปี2564 และเทศกาลท่องเที่ยว “มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ” ปี 2564-2565 จังหวัดชัยภูมิ ได้ประสบภัยธรรมชาติจากอุทกภัยครั้งใหญ่ และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนทางสภาพกายและจิตใจ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 จังหวัดชัยภูมิ จึงได้อนุมัติให้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ยังคงมีมาตรการเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ซึ่งในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 15.30 น. จะมีการจัดงานเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” ปี2564 ณ วัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่มีการละเล่นสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานของชาวบ้านตำบลกุดตุ้ม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2489  “ตีคลีไฟ”  เป็นการละเล่นโดยใช้เหง้าไม้ใผ่ และท่อนไม้งิ้วเป็นอุปกรณ์ละเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 6 ทีม ทีมละ 4-12 คน ใช้กฎกติกาคล้ายกับการเล่นกีฬาฮอกกี้ เล่นในช่วงหัวค่ำเพราะลูกคลีไฟเป็นไม้งิ้วทำเป็นลูกกลม ๆ มาเผาไฟและมีน้ำหนักเบา เมื่อนำมาตีจะทำให้มองเห็นลูกคลีไฟพุ่งเป็นดวงอย่างสวยงามไม่ต่างจากไฟประทัด หรือไฟพะเนียง จังหวัดชัยภูมิได้เล็งเห็นความดีงามของประเพณีที่ประชาชนได้ร่วมกันสืบทอดมายาวนาน และมีความมุ่งหวังจะสืบทอดประเพณีให้คงอยู่และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งประชาชนทั่วไปในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงขยาย ผลถึงชาวต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักงานเทศกาล "มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟที่ชัยภูมิ" หนึ่งเดียวในโลก จึงได้ส่งเสริมและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามมาตั้งแต่เดิมให้อยู่คู่เมืองชัยภูมิตลอดไป

และอีกเทศกาลเด่น ที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศรู้จักกันดี ก็คือ เทศกาลท่องเที่ยว “มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ” อำเภอเมืองชัยภูมิร่วมกับส่วนราชการ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหินโงม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนตำบลท่าหินโงม ได้จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวมอหินขาว

โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ ประจำปี 2564-2565 โดยกำหนดเปิดงานในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณลานหินห้าแท่ง มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยแหล่งท่องเที่ยวมอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มหินในบริเวณนี้เป็นหินทรายสีขาวเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก การผุพังและกัดเซาะของทางน้ำ ลม และแสงแดด มาเป็นเวลานานนับล้านปี จนปรากฎเป็นหินรูปทรงต่าง ๆ แปลกตา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากมาก แหล่งท่องเที่ยว มอหินขาวได้ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2565

นายอนุชา เจริญรักษ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องมีมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด จึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ในช่วงเวลาเช้า-ค่ำไม่เกินเวลา 19.00 น. เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือมีการตรวจคัดกรองแบบ ATK (Antigen Test) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้มีการกางเต้นท์พักแรมในบริเวณของมอหินขาว หากต้องการพักค้างแรมหรือกลางเต้นท์นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปพักได้ที่บริเวณผาหัวนาค ซึ่งเดินทางขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

 

รัฐวางกรอบเป้าหมายบริหารการคลัง 4 ปี จีดีพีโตสูงสุดแค่ 4.2%

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง ปีงบประมาณ 66 – 69 โดยรัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวผ่านการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน และมีผลต่อเนื่องถึงภาคการคลัง ทำให้เกิดภาระที่สะสมต่อภาคการคลังของไทยได้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดกลับมารุนแรงได้อีก จนอาจส่งผลกระทบให้ภาครัฐจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบเพิ่มเติมอีกในอนาคต 

นอกจากนี้ในการกำหนดเป้าหมายและนโยบายการคลัง ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก หรือเมกะเทรนด์ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ทั้ง การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัย ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งการจัดเก็บรายได้และการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐ

ทั้งนี้ตามแผนฯ กระทรวงการคลังได้กำหนดสถานะและประมาณการเศรษฐกิจในปี 66 คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวอยู่ในช่วง 3.2 – 4.2% ส่วนในปี 67 คาดว่า จีดีพี จะขยายตัวอยู่ในช่วง 2.9 – 3.9% ขณะที่ในปี 68 - 69 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 2.8 – 3.8% ส่วนสถานะและประมาณการการคลัง มีการประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 66 อยู่ที่ 2.49 ล้านล้านบาท, ปี 67 อยู่ที่ 2.56 ล้านล้านบาท, ปี 68 อยู่ที่ 2.64 ล้านล้านบาท และปี 69 อยู่ที่ 2.72 ล้านล้านบาท

ญี่ปุ่น ผวา 'โอมิครอน' แพร่สู่ชุมชน หลังพบคลัสเตอร์ใหม่ ในฐานทัพโอกินาวา 

คลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เชื่อมโยงกับฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น ขยายวงกว้างมากขึ้นเป็นอย่างน้อย 180 รายแล้ว จากการเปิดเผยของรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ (20 ธ.ค.) ก่อความกังวลว่ามันอาจแพร่กระจายเชื้อไวรัสสู่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนั้นพบเคสตัวกลายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 1 ราย

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คนงานชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ค่ายแฮนเซน บนเกาะโอกินาวา ทางภาคใต้ของประเทศ มีผลตรวจเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอนออกมาเป็นบวกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17 ธ.ค.)

ฮิโรคาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าวระหว่างแถลงข่าวประจำวัน ว่าเวลานี้คลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับฐานทัพพบแล้ว 180 เคส แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าในนั้นมีจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก

"รัฐบาลญี่ปุ่นขอเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายสหรัฐฯ รับประกันว่าพนักงานทุกคนที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น จะปฏิบัติตามคำสั่งและใช้มาตรการที่หนักหน่วงหากมีการฝ่าฝืนใดๆ" มัตสึโนะ กล่าว

โอกินาวา จังหวัดทางใต้สุดของญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ ราวๆ 70% ที่อยู่ในญี่ปุ่น และก่อนหน้านี้ เคยเผชิญการแพร่ระบาดที่เชื่อมโยงกับค่ายทหารเหล่านี้มาแล้วหลายครั้ง

จังหวัดโอมิกานา ถึงขั้นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเดือนมกราคม ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่คลัสเตอร์ล่าสุดนั้นมีทั้งคนงานชาวญี่ปุ่น และบุคลากรของสหรัฐฯ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น

เดนนิ ทามากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (17 ธ.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนการแพร่ระบาดของโอมิครอน และร้องขอให้กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรม เพื่อสรุปว่าผู้ที่ติดเชื้อนั้นเป็นตัวกลายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่

'บิ๊กตู่' ย้ำ ไทยระงับ เทสแอนด์โก ชั่วคราว เน้นความปลอดภัยของคนไทยสูงสุด สั่ง ผวจ. ตำรวจ ทหาร คุมเข้มปีใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งมีแนวโน้มการระบาดที่สูงขึ้นในหลายประเทศ ถึงแม้ว่าไทย จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่า 3,000 ราย เป็นวันที่ 4 โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวันนี้ (22 ธันวาคม 2564) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,532 ราย

แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,484 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 48 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 31 ราย ผู้ที่กำลังรักษาตัว 38,202 ราย และมียอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 3,191 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 จำนวน 2,170,198 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยสะสมจำนวน 2,111,962 ราย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับหน่วยงานสาธารณสุขเร่งฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น โดยให้เพิ่มจุดให้บริการฉีด ที่ สถานีขนส่ง ท่าเรือ หรือท่าอากาศยานในจังหวัดที่มีผู้เดินทางเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดนครราชสีมา และเชียงใหม่ เป็นต้น เพื่อลดการแพร่เชื้อจากเมืองสู่ภูมิภาคด้วย

นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนภายในประเทศ โดยได้ระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test and Go และ Sandbox ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขอยืนยันว่าผู้ที่ได้อนุมัติในระบบ Test and Go ไว้ก่อนแล้ว ประมาณ 200,000 คน ยังคงสามารถทยอยเดินทางเข้าประเทศตามแผนการเดินทางได้จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2565 ภายใต้มาตรการคัดกรองที่เข้มข้น ทั้งตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT- PCR เป็นจำนวน 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 โดยในการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย สำหรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร แบบ Test and Go เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา โดยอนุญาตให้ผู้เดินทางมาจาก 63 ประเทศ/พื้นที่ ทางอากาศเข้าไทยแบบไม่กักตัว โดยจะต้องเลือกจองโรงแรมที่เป็นสถานกักกันทางเลือก (AQ) /SHA+ 1 วัน เพื่อรอผลตรวจ RT-PCR ต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส 

“บิ๊กตู่” ฟุ้ง ปีเศษดันกันชง กัญชา เป็นพืชเศรษฐกิจสำเร็จ “ย้ำ”คนไทยต้องมีสติใช้ขีวิตอยู่กับโควิดให้ปลอดภัย

ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน  กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 18 ว่า วันนี้ยินดีกับความสำเร็จในการที่รัฐบาล สนับสนุนเรื่องการปลูกพืช ที่เพิ่มมูลค่าได้ อย่างกันชงและกัญชาเป็นเรื่องที่น่ายินดีจากนโยบายของรัฐบาล โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ผลักดันเรื่องนี้มา ซึ่งเป็นมติให้เรารับผิดชอบร่วมกัน สิ่งสำคัญที่สุดมีทั้งคุณและโทษมีประโยชน์แต่ก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้นในการใช้ เพราะขณะนี้ทุกประเทศในโลกให้ความนิยม และให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ ประเด็นสำคัญทำอย่างไรให้ฐานรากเศรษฐกิจของเราดีขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการเพาะปลูกพืชเหล่านี้ แต่ไม่ใช่แค่เฉพาะกันชงและกัญชา ยังมีพืชสมุนไพรอีกหลายอย่างที่มีศักยภาพ เราจะต้องหารายได้จากความหลากหลาย ทางชีวภาพของประเทศไทย 

“ถือเป็นอีกเมนูหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาความยากจน รายครัวเรือนซึ่งจะเห็นว่าทุกอย่างดีขึ้นเยอะมาก ภายในระยะเวลาปีเศษๆ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการพูดบนเวที ในวันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรีย้ำหลายครั้งในเรื่องของการมีสติ ต้องการสื่อความหมายอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ อยากให้ระมัดระวังในเรื่องของโควิดและเรื่องต่างๆ เป็นการเตือนสติในการรับรู้รับทราบ โดยเฉพาะในมาตรการต่างๆเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาด เราต้องเดินไปด้วยกันเราต้องเราต้องอยู่กับเขาอย่างมีสติ เข้าใจหรือไม่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในประเทศไทยถ้าเราเตรียมความพร้อมไว้ให้พร้อม และเราต้องเชื่อมั่นในระบบของเรา ถ้าเกิดขึ้นเราก็รักษาพยาบาล ต้องแก้ไขให้ได้เพราะมันพันกันไปหลายส่วนด้วยกัน เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน เพราะอีกฝ่ายต้องการเรื่องรายได้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก เราต้องดูทั้งสองทาง แต่สุขภาพสำคัญที่สุด”

"วิโรจน์" ซัด "กลาโหม"  งดรับนักท่องเที่ยวคุมโอมิครอน แต่ยังให้ รด. ฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ถาม กองทัพเตรียมมาตรการป้องกันไว้หรือยัง ฉะ "ประยุทธ์" ถ้าเกิดคลัสเตอร์ใหม่ต้องรับผิดชอบ 

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ว่า ปัจจุบันรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขต่างก็ตระหนักและกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นอย่างดี เพราะเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้อย่างรวด ทั้งในสหรัฐ อังกฤษ และอีกหลายประเทศใน EU ที่กำลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยที่อังกฤษ สายพันธุ์โอมิครอนใช้เวลาเพียงแค่ 14-21 วัน หลังจากที่พบการติดเชื้อภายในประเทศ ก็ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในการแพร่ระบาด

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นรายแรกแล้ว เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนเสริมภูมิเข็มที่ 3 ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสกัดการแพร่ระบาดของโอมิครอนยังฉีดไปได้เพียง 7.98% เท่านั้น (ข้อมูลจากระบบหมอพร้อม เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64) และเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศบค. เพิ่งมีมติให้ระงับการลงทะเบียนขอเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์และ Test&Go ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยเริ่มตั้งแต่ 21 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค. 65 สะท้อนว่า รัฐบาลตระหนักดีถึงอัตราการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ที่ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำมากและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนได้ทราบจากพ่อแม่ผู้ปกครองและนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ว่ากระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบก ยังมีแนวคิดที่จะจัดการฝึกภาคสนามให้แก่นักศึกษาวิชาทหารที่เขาชนไก่ ทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจน รด. มีข้อสงสัยว่า กองทัพบกยังคงยืนยันที่จัดการฝึกภาคสนามอยู่หรือไม่ และกรณีที่ทางกองทัพบกยืนยันที่จะจัดการฝึก ก็ต้องตั้งข้อสงสัยต่อว่ากองทัพบกได้เตรียมมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่างๆ ไว้อย่างรัดกุมแล้วหรือไม่ เช่น การตรวจคัดกรอง รด. ก่อนเข้ารับการฝึกภาคสนาม การปรับรูปแบบการฝึกให้มีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน การเตรียมแพทย์สนามไว้ดูแลนักศึกษาที่เจ็บป่วยและต้องสงสัยว่าอาจเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างการฝึก ตลอดจนการดูแลเรื่องสุขอนามัยต่างๆ ภายในสถานที่ฝึก นอกจากนี้ ต้องตั้งคำถามเพิ่มเติมด้วยว่า หากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นจากการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ กองทัพบกได้เตรียมมาตรการในการรับผิดชอบต่อสังคมเอาไว้อย่างไร ซึ่งในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ศูนย์การนักศึกษาวิชาทหารจะมีการจัดประชุมเรื่องการฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ประจำปีการศึกษา 64 ห้วงเดือนม.ค.-มี.ค. 65 เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก และไม่ได้เกี่ยวข้องกับแค่พ่อแม่ผู้ปกครองและรด.เท่านั้น เพราะหากมีการแพร่ระบาดของโอมิครอนในวงกว้าง ก็จะกระทบกับชีวิต และปากท้องของประชาชนทุกคนในประเทศ

“เรื่องนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กระทรวงกลาโหม จะต้องชี้แจงให้กับสาธารณชนได้รับทราบอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่า การจัดฝึกภาคสนามให้แก่นักศึกษาวิชาทหารที่จะเกิดขึ้น กองทัพบกได้มีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไว้อย่างรอบคอบแล้ว และหากการฝึกภาคสนามดังกล่าวกลายเป็นคลัสเตอร์แพร่ระบาดโควิด-19 ไปสู่สังคมในวงกว้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เตรียมแผนในการจำกัดวงในการแพร่ระบาดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับประชาชน” นายวิโรจน์ กล่าว 

ฟังให้เคลียร์!! ปมดราม่าดูถูกคนลาว 'รถไฟลาว-จีน' ที่แท้เทียบ ‘ค่าบริการยุคนี้’ ทำคนทั่วไปเข้าถึงยาก

อย่าฟังความข้างเดียว 'ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้' ปมดราม่า 'รถไฟลาว-จีน' คนลาวจะไม่มีปัญญาได้นั่งเพราะราคาตั๋วรถไฟแพง ที่แท้เทียบเคียงรถไฟใต้ดิน-บนดินของไทยที่ค่าโดยสารแพง คนไทยไม่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าได้ทุกคน 

ดูคลิปเต็มได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=y_qFePulPDY&feature=youtu.be

(22 ธ.ค. 64) หลังจากกรณีที่สื่อรัฐบาล สปป.ลาว ออกมาตำหนิถึงการนำเสนอข่าวของ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ รายการ ‘ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้’ จัดโดย ‘นายถนอม อ่อนเกตุพล’ ที่กล่าวถึงการเปิดให้บริการเดินรถไฟลาว-จีน ทำนองว่าคนลาวจะไม่มีปัญญาได้ขี่ เพราะคนลาวมีเงินเดือนน้อย แต่ราคาตั๋วรถไฟแพง จนทำให้นายถนอม ต้องออกมากล่าวขอโทษชาวลาวไปแล้วนั้น

ล่าสุดนายถนอม ได้โพสต์คลิปรายการดังกล่าว ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 64 พร้อมระบุว่า “ทั้งสื่อไทย สื่อลาว ว่าผมดูหมิ่นคนลาว โปรดฟังชัดๆ ถ้าหมิ่นเขาแล้วทำประเทศเสียหาย ผมยินดีขอโทษ! เพราะไม่มีใครที่ไม่ผิด ขอว่า อย่าฟังความข้างเดียว”

สำหรับ รายการ ‘ฟังชัดๆ ถนอมจัดให้’ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายถนอม กล่าวถึง ขบวนรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวรอบปฐมฤกษ์ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา 1,035 กม. กรุงเวียงจันทน์ถึงมณฑลยูนนาน ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน อัตราค่าโดยสารจากเวียงจันทน์ - บ่อเต็น 680 - 1,510 บาท

นายถนอม กล่าวว่า...ยินดีกับพี่น้องลาวด้วยที่มีรถไฟฟ้าความเร็วสูงวิ่งบริการในประเทศทั้งขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร นี่คือสิ่งที่คนไทยรู้สึกว่าทำไมเรายังเปิดไม่ได้ ประเทศไทยเพิ่งสร้างได้ 3.5 กม. กรุงเทพ-โคราช 3.5 กม. แล้วเมื่อไหร่จะแล้วเสร็จ และจากโคราชระยะที่ 2 ไปถึงหนองคาย อีก 356 กม. แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top