Wednesday, 11 June 2025
TheStatesTimes

“แรมโบ้” ซัด “ณัฐชา-หมอชลน่าน” อย่ามั่วนิ่ม กล่าวหารัฐบาล หากมีหลักฐานภาครัฐแฮคข้อมูลนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวให้นำมาเพื่อตรวจสอบ อย่ากล่าวหาลอยๆ เช่นตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่อง IO จนถูกกองทัพแจ้งความจับพบเอกสารปลอม

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดแฮค ข้อมูลส่วนตัว นักวิชาการ นักกิจกรรม หลังบริษัทแอปเปิ้ลแจ้งเตือนกรณีแฮคเกอร์ว่าหากมีข้อมูลว่าภาครัฐมีส่วนเกี่ยวข้องก็ขอให้นำหลักฐานมาแสดงก่อน เพื่อที่จะได้ทำการตรวจสอบ โดยทั้ง 2 คนไม่ควรที่จะออกมาโวยวายหรือตำหนิ กล่าวหาโจมตีรัฐบาล

อีกทั้งตนเองมองว่าหากมีการโดนแฮคข้อมูลส่วนตัวจริงก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะนักวิชาการที่สนับสนุนม็อบหรือนักกิจกรรมที่ออกมาเคลื่อนไหวทำลายประเทศชาติ และสถาบัน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนก็ถือเป็นธรรมดาที่คนทั้งประเทศจะไม่ชอบอยู่แล้ว  

“หากยังไม่นำหลักฐานมาแสดง ก็ไม่ควรที่จะใช้โอกาสนี้มาเหมาว่ารัฐบาลเป็นคนทำเรื่องนี้ ทั้งนี้คนอย่างนายณัฐชาก็เชื่อถือไม่ได้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็นำข้อมูลเท็จมาอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องปฏิบัติการ IO ของกองทัพบก จนถูกกองทัพแจ้งความจับเนื่องจากเอกสารเท็จ มีการปลอมแปลง รูปแบบไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งการลงลายมือชื่อไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง

'บิ๊กป้อม' ถก คกก.ป้องกัน-ลดอุบัติเหตุ เตรียมแผนรับมือเทศกาลหยุดยาว 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ครั้งที่ 2/2564 เตรียมความพร้อมแผนรองรับการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสของประชาชน 

โดยที่ประชุมรับทราบ การบูรณาการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนนทั้งในช่วงปกติ ช่วงเทศกาลและช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยกำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่เกิน 12 คน ต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2570 และให้มีการปฏิบัติงานร่วมกันภายใต้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด อำเภอ ที่เน้นย้ำ การจัดเก็บวิเคราะห์ข้อมูลถอดบทเรียนให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ และติดตามการดำเนินงานตามมติ ครม.ในประเด็นสำคัญ

ได้แก่ การผลักดันให้สวมหมวกนิรภัยและการแก้ปัญหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด การกำหนดแนวทางในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่การเร่งรัดนำระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่มาใช้การปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับขี่รถทุกประเภท การจัดทำแนวทางใช้งบประมาณท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งการสร้างการมีส่วนร่วมและความตระหนักเรื่องความปลอดภัยทางถนน ทั้งนี้จะเริ่มระบบตัดแต้มตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2564 กับกลุ่มรถรับจ้างและรถสาธารณะก่อนเป็นอันดับแรก

นอกจากนี้ที่ประชุมยังพิจารณาและเห็นชอบ แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ปี 2565 โดยมีสาระสำคัญ ร่วมรณรงค์ “ชีวิตใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ที่มุ่งเน้นลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและอุบัติภัย แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง ช่วงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ก่อน 7 วัน และช่วงดำเนินการ คือ 7 วันคุมเข้มและ อีก 7 วันหลังคุมเข้ม โดยประเมินความเสี่ยงระดับพื้นที่เป็น 4 ระดับสี กำหนดตัวชี้วัด ทั้งระดับภาพรวม ระดับหน่วยและระดับพื้นที่ ภายใต้ 5 มาตรการด้านต่างๆ

'ที่ปรึกษา ศบค.' เตือน!! โควิดสายพันธุ์ใหม่พบที่แอฟริกาใต้ กลายพันธุ์ถึง 32 ครั้ง แนะรีบฉีดวัคซีนป้องกัน

'ดร.วรัชญ์ ที่ปรึกษาศบค.' เผย โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 พบที่แอฟริกาใต้ กลายพันธุ์ถึง 32 ครั้ง คนที่ฮ่องกง ติดแล้ว ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมาถึงไทย แนะใครที่ยังลังเลไม่อยากฉีดวัคซีน รีบไปฉีดป้องกันไว้ก่อน

26 พ.ย. 64 - ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ว่า

มาอีกแล้ว โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 พบที่แอฟริกาใต้ บอตสวานา แต่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือฮ่องกง ใกล้บ้านเรานิดเดียว (คนที่ติดที่ฮ่องกง ติดจากการไปแอฟริกาใต้)

ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ สายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ถึง 32 ครั้ง (เดลตายังกลายพันธุ์แค่ 16 ครั้ง) มากที่สุดเท่าที่เคยพบมา ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าทำให้มีการแพร่กระจายง่ายกว่าเดิม หรืออาการรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่

'อัษฎางค์' ชี้เป็นเรื่องดีที่ไทยไม่ได้ร่วมถกปชต. หวั่นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แถมเข้าหน้าจีนไม่ติด

'อัษฎางค์' ลากไส้สหรัฐอเมริกาติดกลุ่มประเทศประชาธิปไตยเสื่อมถอย ระบุ การที่ไม่เชิญไทยร่วมประชุมฯ เป็นผลดีกับไทย เพราะถ้าเราได้รับเชิญ รัฐบาลไทยจะเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และจะเข้าหน้าจีนไม่ติด

26 พ.ย. 64 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีประเทศสหรัฐอเมริกาไม่เชิญประเทศไทยไปร่วมประชุมประเทศสุดยอดประชาธิปไตย ว่า

สามกีบและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เยาะเย้ยว่า อเมริกาจัดประชุมเรื่อง ‘ประชาธิปไตย’ แต่ไม่เชิญไทย

แต่ความจริงอีกครึ่งที่ไม่ยอมพูด คือ ประเทศมหามิตรอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา ทั้งซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ ตุรกี และสิงคโปร์ ก็ไม่ได้รับบัตรเชิญเหมือนไทย

สหรัฐอเมริกาจัดประชุมสัมมนาเรื่องประชาธิปไตย, ในขณะที่สถาบันระหว่างประเทศเพื่อประชาธิปไตย จัดอันดับให้ “อเมริกาติดกลุ่มประเทศประชาธิปไตยเสื่อมถอย”
สนุกมั้ยล่ะ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมออนไลน์ “เกี่ยวกับประชาธิปไตย” (Summit for Democracy) ร่วมกับผู้นำหลายประเทศและดินแดน ระหว่างวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมคุณค่าทางประชาธิปไตย และการยกระดับสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยมีการทยอยส่งบัตรเชิญออนไลน์ให้แก่ผู้เข้าร่วม 110 คน

ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่มีชื่อของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เพราะจีนไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย และจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่สหรัฐอเมริกาจงใจใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือทางการเมือง

นอกจากนี้ยังไม่มีชื่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย

สามกีบและกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ที่มักพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว ออกมาพูดว่า สหรัฐอเมริกาไม่เชิญไทย และไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับพม่า เพื่อจะใช้ภาพพม่าว่าเป็นประเทศเผด็จการทหารมาเปรียบเทียบกับรัฐบาลไทย

แต่ความจริงอีกครึ่งที่ไม่ยอมพูดคือ นอกจากที่ไม่เชิญไทยแลนด์แล้ว ยังไม่มีซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ อียิปต์ และตุรกี อีกด้วย

ซึ่งซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ ตุรกี สิงคโปร์ และไทยแลนด์ คือมหามิตรอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านช่วงเวลาของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาด้วยกันนานกว่าครึ่งศตวรรษเป็นอย่างน้อย

แบบนี้สามกีบจะบอกว่า ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ ตุรกี สิงคโปร์และไทยแลนด์ อยู่ในกลุ่มเผด็จการทหารเหมือนพม่าหรืออย่างไร

รองโฆษกฯ ย้ำ ให้ยึดสถานการณ์เป็นตัวตั้ง หลัง ส.ส.ใต้ ร้อง รัฐบาล เปิดด่านชายแดนไทย-มาเลย์ เป็นของขวัญปีใหม่ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อข้อเรียกร้องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่อยากให้รัฐบาลเปิดด่านชายแดนเพื่อการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดำเนินการเปิดประเทศทางด่านชายแดนอยู่แล้ว และในการประชุมศบค.

วันเดียวกันนี้ มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ใน 5 จังหวัด คือ สงขลา สตูล นราธิวาส ยะลา และปัตตานี และตั้งเป้าหมายการเปิดประเทศทางด่านไทย-มาเลเซียในวันที่ 16 ธ.ค. 64 ทั้งนี้จะพิจารณาระดับการเปิดตามสถานการณ์ ณ ห้วงเวลาน้ัน ส่วนด่านชายแดนที่ศบค. ส่วนหน้าได้พิจารณาในเบื้องต้น คือ ด่านสะเดา จ.สงขลา ด่านโกลก จ.นราธิวาส ด่านบตง จ.ยะลา  และด่านวังประจัน จ.สตูล ซึ่งในการประชุม ศบค.ครั้งหน้า จะได้คำตอบที่ชัดเจน ควบคู่กันไป ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานให้ทางการมาเลเซียได้รับทราบแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเมื่อได้เปิดด่าน เศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน การดำเนินการด้านสาธารณสุขยังคงเดินหน้าต่ออย่างเข้มงวดและเข็มข้น เพื่อให้จังหวัดดังกล่าวมีความพร้อมอย่างสูงสุด ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเรื่องการเร่งรัดการฉีดวัคซีนทั้งรูปแบบ On Site และรูปแบบ Mobile Unit  ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายปฏิบัติการได้ใช้กลไกสนับสนุน เพิ่มเติมจากกลไกของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข อาทิ พบปะผู้นำศาสนาขอให้ช่วยพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน เน้นย้ำกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยติดตามลูกบ้านเข้ารับการฉีด ประสานผู้ประกอบการ จัด Campaign จูงใจ ได้แก่ การแจกคูปองลดราคา เป็นต้น

"เพื่อไทย" อัด รบ.ไม่จัดการระบบสธ.ให้ดี หลังผู้ป่วยเส้นเลือดสมองแตกหาเตียงกว่า 6 ชม.จนเสียชีวิต ชี้ ส่งสัญญาณระบบสธ.ใกล้ล่มสลาย ขู่ ยื่นฟ้อง "ประยุทธ์" ถ้าไม่แก้ปัญหา

ที่รัฐสภา นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้ป่วยวิกฤตเส้นเลือดสมองแตก หลังถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาและต้องส่งตัวไกล 156 กม. จนเสียชีวิต โดยนพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า หลังผู้ป่วยหมดสติที่บ้าน ญาติพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านแต่ถูกปฏิเสธว่าเตียงเต็มและส่งต่อไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองของผู้ป่วยแต่ก็ได้รับแจ้งว่าเตียงเต็มเช่นกัน ญาติจึงประสานโรงพยาบาลต่างๆ อีก 5-6 แห่ง ทั้งในเชียงใหม่และลำพูน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่าเตียงเต็ม สุดท้ายก็ได้โรงพยาบาลที่รับรักษา

โดยเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ห่างไกลถึง 150 กม. ทั้งนี้ ญาติผู้ป่วยเสียเวลาในการติดต่อประสานและเดินทางรวม 6 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการตรวจและระบุว่าเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดออกไปกดทับส่วนต่างๆ ของสมอง ทำให้อาการรุนแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าการจัดระบบสาธารณสุขของไทยในปัจจุบันล้มเหลว ทั้งเรื่องโครงการผู้ป่วยฉุกเฉินรักษาใกล้บ้านที่สามารถรักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ รวมถึงเรื่องบัตรทองที่โรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองปฏิเสธผู้ป่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ถ้ารัฐบาลบริหารจัดการตามบริการสาธารณสุขได้ดีกว่านี้ ผู้ป่วยรายนี้อาจจะไม่เสียชีวิต

ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเคยแถลงข่าวว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในเชียงใหม่เริ่มแตกเต็มที ซึ่งในรอบเดือนที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยโควิดในเชียงใหม่อยู่ที่ลำดับ 2 แม้ขณะนี้ลำดับจะลดลง แต่จำนวนผู้ป่วยไม่ได้ลดลง ซึ่งสถานการณ์ความพร้อมด้านสาธารณสุขก็เริ่มมีปัญหา เราเคยเตือนรัฐบาลแล้วแต่ก็ไม่มีการแก้ไข สัญญาณที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นสัญญาณแรกของการล่มสลายของระบบสาธารณสุข และจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ หากรัฐบาลยังไม่ทำอะไร พวกตนก็ต้องหากลไกทางสภาฯ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เข้าไปแก้ไข โดยจะยื่นเรื่องให้กมธ.สาธารณสุข เพื่อดำเนินการหาว่าจุดบกพร่องอยู่ที่ไหน ทำไมสิ่งที่เราเคยทำมาดีๆ วันนี้ถึงใกล้ล่มสลาย เราต้องหาคำตอบเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“บิ๊กตู่” ยอมรับปัญหาแอมเนสตี้เคลื่อนไหว “ลั่น” จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายประเทศอย่างแน่นอน “สั่ง “ สตช.มท. ดูข้อกฎหมาย

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีกลุ่มคนรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ขับไล่ องค์การนิรโทษกรรมสากล (แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย) ว่ากำลังให้มีการดำเนินการและให้ตรวจสอบทางกฏหมายดูอยู่ว่ามีความผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ที่มีการจดทะเบียนไว้หรือไม่อย่างไร ซึ่งถ้าผิดก็ต้องยกเลิก ยอมรับว่าเป็นแรงกดดันพอสมควรซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ในการที่จะมาให้ร้ายกับประเทศของเรา

‘ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน’ เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจ้างงานในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างและหลังการระบาดของโควิด-19

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการจ้างงานในประเทศไทย “การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างและหลังการระบาดของ COVID-19” Employment in Thailand Labour Market Transitions during and post the COVID-19 pandemic ณ ห้องประชุมมารีน่า แกรนด์ บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมโนโวเทลมารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

โดยกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแรงงาน และเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อบริบทด้านแรงงาน ดังนี้

1) แรงงานถูกเลิกจ้าง

2) ชั่วโมงการทำงานลดลง

3) รายได้ของแรงงานลดลง และ

4) ความก้าวหน้าและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีดิจิทัล

ส่งผลให้แนวโน้มอาชีพและรูปแบบการจ้างงานเปลี่ยนแปลงไป กระทรวงแรงงานได้มีการดำเนินงานเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้าง ว่างงาน และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานและการจ้างงาน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการจัดหางาน มีอาชีพ มีงานทำ และมีคุณภาพชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงได้กำหนดมาตรการการส่งเสริมการจ้างงาน และมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้

1.การเตรียมความพร้อมแก่กำลังแรงงานให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกกลุ่มให้ทราบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน และใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษา และเลือกประกอบอาชีพ

2.จัดทำมาตรการเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและการประกอบอาชีพ โดยมีผลการดำเนินงาน ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่

โดยภาครัฐและภาคเอกชน (Co - Payment) ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งวันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 31 ธันวาคม 2564 เป้าหมาย 50,000 คน ผลการดำเนินงานปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564) อนุมัติการจ้างงานแล้ว จำนวน 55,735 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจรวมจำนวน 3,213,122,750 บาท และให้ความช่วยเหลือนายจ้าง/สถานประกอบการในกลุ่มธุรกิจ SMEs เพื่อส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อลดปัญหาการว่างงาน ผลการดำเนินงานปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564) มีนายจ้างในธุรกิจ SMEs เข้าร่วมโครงการ จำนวน 223,838 ราย รักษาระดับการจ้างงาน และส่งเสริมการจ้างงานใหม่ลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 3,068,152 คน เป็นต้น 3.พัฒนาระบบการให้บริการจัดหางาน ซึ่งกระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางาน ยกระดับการให้บริการจัดหางานและจ้างงานผ่านระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” เพื่อให้คนหางานเข้าถึงการจ้างงานที่สะดวกรวดเร็ว จับคู่ตำแหน่งงานว่างและคนหางานที่สอดคล้องกับความต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำตอบโจทย์การทำงานในยุคดิจิทัลและการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ได้รับการบรรจุงานแล้ว จำนวน 192,948 คน

อย่างไรก็ดี ยังเห็นว่ามีการดำเนินงานด้านการพัฒนาแรงงานด้านอื่น ๆ และประเด็นท้าทายที่จะส่งผลให้เกิดการจ้างงานและรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานและสอดคล้องกับแรงงานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ต้องให้ความสำคัญและมีการวางแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงต่อไป เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสนับสนุนให้มีการจ้างงานกลุ่มเปราะบาง และประชากรเฉพาะกลุ่ม การปรับตัวของแรงงานทั้งในและนอกระบบของไทยให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงโดยการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะและสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคปัจจุบัน หรือ Up-Skill และ Re-Skill ในสาขาที่เป็นที่ต้องการของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการบริการที่มีความต้องการแรงงานที่มีทักษะ การคุ้มครองแรงงานเพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่าเพื่อให้แรงงานได้รับโอกาสในการจ้างงานจ้างและมีความมั่นคงในชีวิตตลอดจนมีหลักประกันทางสังคม

นายสุรชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยและองค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ร่วมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาแรงงานของประเทศ และหวังว่าผลการประชุมจะนำมาซึ่งข้อเสนอเชิงนโยบายด้านแรงงานด้านการจ้างงานที่มาจากความเห็นของทุกภาคส่วนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาแรงงานของประเทศต่อไป

 

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีด - รอวัคซีนทางเลือก

'อนุทิน' สั่งเปิด 3 จุดฉีดวัคซีน mRNA รองรับผู้ไม่เคยฉีดมาก่อนและยังรอวัคซีนทางเลือก คาดฉีดวัคซีนโควิดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นพ.ย.

26 พ.ย. 64 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 47 ล้านคน จากเป้าหมาย 50 ล้านคน ยังมีผู้ไม่ได้รับวัคซีนอีก 3 ล้านคน คาดว่าจะฉีดครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยทุกแห่งจะเร่งรัดฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ยังไม่ได้รับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และขยายไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าว เนื่องจากผู้ไม่ได้รับวัคซีนมีความเสี่ยงติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิต ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนทุกชนิดที่กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลลดความเสี่ยงติดเชื้อ ป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิตได้

นายกฯ ให้ทำวัคซีนพาสปอร์ตฟรี มอบ เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย

ผอ.ศบค. ให้ทำวัคซีนพาสปอร์ตฟรี มอบ เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย - สั่งเพิ่มช่องทางเข้าประเทศ บก-เรือ แต่เข้มมาตรการ - มอบ รมว.แรงงาน ถก ผู้ประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หาทางเยียวยาก่อนยืดผ่อนคลาย

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวตอนหนึ่ง ว่า ในที่ประชุมศบค. นายกรัฐมนตรีในฐานะผอ.ศบค. ได้ให้กระทรวงแรงงานไปสำรวจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ ว่ามีอยู่จำนวนเท่าไหร่ มีผลกระทบที่เกิดขึ้น หากยังไม่มีการเปิดผ่อนคลายของกิจการกิจกรรมนี้ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการคลัง สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณาเยียวยากันต่อไปทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รายงานต่อที่ประชุมว่าในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ได้ขอนัดที่ประชุมกับผู้ที่ประกอบการ ทางด้านกิจการและกิจกรรมดังกล่าว เพื่อปรึกษาหารือหาทางออก ในการดำเนินงานนี้ด้วยกัน 

ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในช่วงปีใหม่นี้ มีความสำคัญสูงมาก ถ้าเราประคับประคองดูแลซึ่งกันและกัน ทำให้การฉลองปีใหม่เกิดเป็นภาพระดับประเทศ สามารถดำเนินการได้ก็จะส่งเสริมอีกหลาย ๆ ธุรกิจ อีกหลาย ๆ ด้านที่จะทำให้ประเทศไทยมีชื่อชั้นว่ามีศักยภาพในการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี นี่คือเหตุผลของที่ประชุม

อีกเรื่องหนึ่งคือการปรับมาตรการ ป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยผอ.ศบค. มีนโยบายให้มีแซนด์บอกซ์ ให้มีการเข้ามาในประเทศ เกิดชุดพฤติกรรมทำให้ง่าย นำไปสู่การปฏิบัติโดย ศปก.ศบค., อีโอซีสาธารณสุข นำไปสู่การปฏิบัติร่วมกันกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปรากฏผลออกมาว่าผู้ที่เดินทาง เข้าโปรแกรมเทสแอนด์โก เข้ามาแล้วไม่ต้องกักตัว และเดินทางต่อไปได้ ซึ่งปรากฏว่ามีการติดเชื้อน้อยมาก ค่าเฉลี่ย 0.08% จากจำนวนคนเดินทางเข้ากว่าแสนคน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top