รองโฆษกฯ ย้ำ ให้ยึดสถานการณ์เป็นตัวตั้ง หลัง ส.ส.ใต้ ร้อง รัฐบาล เปิดด่านชายแดนไทย-มาเลย์ เป็นของขวัญปีใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อข้อเรียกร้องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่อยากให้รัฐบาลเปิดด่านชายแดนเพื่อการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดำเนินการเปิดประเทศทางด่านชายแดนอยู่แล้ว และในการประชุมศบค.
วันเดียวกันนี้ มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ใน 5 จังหวัด คือ สงขลา สตูล นราธิวาส ยะลา และปัตตานี และตั้งเป้าหมายการเปิดประเทศทางด่านไทย-มาเลเซียในวันที่ 16 ธ.ค. 64 ทั้งนี้จะพิจารณาระดับการเปิดตามสถานการณ์ ณ ห้วงเวลาน้ัน ส่วนด่านชายแดนที่ศบค. ส่วนหน้าได้พิจารณาในเบื้องต้น คือ ด่านสะเดา จ.สงขลา ด่านโกลก จ.นราธิวาส ด่านบตง จ.ยะลา และด่านวังประจัน จ.สตูล ซึ่งในการประชุม ศบค.ครั้งหน้า จะได้คำตอบที่ชัดเจน ควบคู่กันไป ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานให้ทางการมาเลเซียได้รับทราบแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเมื่อได้เปิดด่าน เศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน การดำเนินการด้านสาธารณสุขยังคงเดินหน้าต่ออย่างเข้มงวดและเข็มข้น เพื่อให้จังหวัดดังกล่าวมีความพร้อมอย่างสูงสุด ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำเรื่องการเร่งรัดการฉีดวัคซีนทั้งรูปแบบ On Site และรูปแบบ Mobile Unit ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายปฏิบัติการได้ใช้กลไกสนับสนุน เพิ่มเติมจากกลไกของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข อาทิ พบปะผู้นำศาสนาขอให้ช่วยพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน เน้นย้ำกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยติดตามลูกบ้านเข้ารับการฉีด ประสานผู้ประกอบการ จัด Campaign จูงใจ ได้แก่ การแจกคูปองลดราคา เป็นต้น
น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ผนึกกำลังสู้กับโรคโควิด-19 และเป็นความตั้งใจของรัฐบาลอยู่แล้วที่ต้องการเปิดประเทศทางด่านชายแดนใต้ให้เป็นของขวัญปี 2565 ซึ่งการเปิดด่านจะนำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์มาไทยเพิ่มขึ้น ขณะนี้ทางการไทยและมาเลเซียได้ติดตามสถานการณ์สาธารณสุขและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด