Monday, 28 April 2025
TheStatesTimes

‘เสรีพิศุทธ์’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ โกหกประชาชนไปเรื่อย ไม่เชื่อ 120 วันเปิดประเทศได้ ชี้ควรลาออกตั้งนานแล้ว

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ประกาศว่าจะมีการเปิดประเทศภายใน 120 วันว่า ตนถามว่ายังจะเชื่อพล.อ.ประยุทธ์ กันอีกหรือ เพราะไม่มีใครเขาเชื่อหรอก ทุกวันนี้มีเรื่องโกหกหลอกลวงประชาชนอยู่เรื่อย เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วก็ประกาศว่าปีนี้จะเป็นวาระแห่งการปราบทุจริต โดยพล.อ.ประยุทธ์ พูดตั้งแต่ปฏิวัติ พูดมาทุกปีแต่การทุจริตก็มากขึ้น ตั้งแต่แต่งเพลงขอเวลาอีกไม่นานจะคืนความสุขให้ได้หรือไม่ ความสุข 7 ปียังไม่พอใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นที่วางกรอบเวลาอย่าไปสนใจเลย ไม่มีทางทำอะไรได้หรอก กฎหมายสักตัวยังไม่รู้เลย ทำอะไรก็ผิดๆ ตลอด

เมื่อถามว่าหากทำไม่ได้ตามกรอบระยะเวลา 120 วัน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ควรจะไปตั้งนานแล้ว เรื่องลาออกคงไม่มีใครไปจับมือให้เขาเซ็นใบลาออก หรือจับปากให้พูดว่าลาออกได้ อยู่ที่ตัวเขาว่ามีจิตสำนึก รับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติมากน้อยแค่ไหน ไม่รู้หรือว่าตอนนี้คนเขาไล่กันทั้งประเทศ

เมื่อถามต่อว่าแต่นายกฯ บอกว่ายิ่งไล่ก็จะยิ่งต่อสู้ต่อไป พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นอย่างนี้ แทนที่จะสำนึกว่าคนเขาเกลียดเขาชัง คิดว่าตนเองมีอำนาจมีส.ว. 250 คนสนับสนุนอยู่

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/253562


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ครอบครัวผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเรียกร้องให้รัฐบาลพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ จนถึงเดือนมิถุนายนมีผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” 196 ราย

ครอบครัวผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเรียกร้องให้รัฐบาลพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ จนถึงเดือนมิถุนายนมีผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” 196 ราย

“ตั้งตัวไม่ทัน ทำใจไม่ได้ ” คือความในใจของสามีของผู้หญิงวัย 73 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิดได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ทั้งคู่ไปฉีดวัคซีนด้วยกันที่โรงพยาบาลในเมืองโกเบเมื่อวันที่ 28 พ.ค. หญิงผู้เป็นภรรยาเป็นโรคเบาหวานมานาน 15 ปี แต่ว่าไม่มีอาการรุนแรง และในวันที่ไปฉีดวัคซีนก็ไม่มีความผิดปกติของสุขภาพ หลังฉีดวัคซีนเสร็จก็ได้รอดูอาการที่โรงพยาบาล 30 นาที และไม่พบผลข้างเคียงอะไรจึงได้กลับบ้านไป

สามีของผู้เสียชีวิตเล่าว่า หลังจากพักผ่อนดูโทรทัศน์ ภรรยาบอกว่าเจ็บหน้าอกขอตัวไปพักผ่อน...นี่คือคำพูดสุดท้าย เพราะหลังจากนั้นภรรยาก็เกิดหายใจไม่ออกจนต้องเรียกรถฉุกเฉินนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เธอเสียชีวิตลงก่อนเพราะหัวใจและปอดหยุดทำงาน ระยะเวลาเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนได้เพียง 3 ชั่วโมงครึ่ง

คุณลุงผู้เป็นสามีบอกว่า ภรรยาเสียชีวิตอย่างกะทันหันมาก จนอดคิดไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่

แพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำการฉีดวัคซีนระบุว่า ตกใจมากเมื่อได้รู้ข่าวการเสียชีวิตของหญิงรายนี้ เพราะหลังฉีดวัคซีนหญิงรายนี้ดูแข็งแรงดีไม่มีความผิดปกติอะไร จึงได้อนุญาตให้กลับบ้านไป อย่างไรก็ตาม แพทย์ยังลังเลที่จะบอกว่าการเสียชีวิตเป็นผลจากวัคซีนหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่า คุณป้าคนนี้ใช้ชีวิตตามปกติ สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปก็คือได้รับวัคซีน และเสียชีวิตลง

196 ชีวิตดับหลังฉีดวัคซีน แต่ไร้คำตอบ

กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานว่า ตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ประชาชนเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ถึง 4 มิ.ย. มีผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน 196 ราย ทั้งหมดได้รับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ไบโอเอนเทค

รายงานของทางกระทรวงระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป สาเหตุการเสียชีวิตคือ เลือดออกในอวัยวะสำคัญ, หัวใจและปอดหยุดทำงาน, หัวใจล้มเหลว, หัวใจขาดเลือด, ติดเชื้อในปอด, สมองขาดเลือด และโลหิตเป็นพิษ เป็นต้น

กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ระบุว่า จนถึงวันที่ 30 พ.ค. วินิจฉัยกรณีเสียชีวิตแล้ว 139 ราย ทั้งหมดไม่สามารถระบุว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน เพราะข้อมูลไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ผ่าศพเพื่อวินิจฉัยทางนิติเวช โดยให้เหตุผลว่า ยากที่จะพบรายละเอียดมากไปกว่านี

คุณป้าวัย 73 ปีที่เสียชีวิตรายนี้อยู่ในกลุ่มที่กระทรวงสาธารณสุข “กำลังวินิจฉัย” แต่ผู้เป็นสามีได้ยินยอมที่จะให้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยใหญ่ทำการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดของภรรยา

คุณลุงผู้เป็นสามีบอกว่า “รู้ว่ารัฐบาลพยายามฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน แต่จำเป็นต้องพิสูจน์ผลจากการฉีดวัคซีนให้แน่ชัด ไม่ใช่บอกว่าใครๆ ก็ฉีดวัคซีนได้”

ในฐานะรัฐบาล การปกป้องประชาชนจากโรคระบาดเป็นหน้าที่สำคัญ แต่การทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้สูญเสียก็เป็นความรับผิดชอบเช่นเดียวกัน

 

ที่มา : https://mgronline.com/japan/detail/9640000058415


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘จุรินทร์’ ออนทัวร์อีสาน ลุยแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร มอบเช็ค-แจกโฉนดคืนเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟู

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี

นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะได้มาพิธีมอบเช็คชําระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดอุดรธานี ณ ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ อําเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งนายนายจุรินทร์ เป็นประธาน 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 2 (สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี) และผู้ที่มีส่วนในการเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูคนหนึ่งคือตนร่วมด้วยซึ่งกองทุนฯ ดำเนินงานกิจกรรมสำคัญ 2 เรื่อง

1.) เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้กับพี่น้องเกษตรกร ไปช่วยรับซื้อหนี้หรือรับซื้อทรัพย์สินที่ถูกยึดจากการเป็นหนี้คืน แล้วมาผ่อนคืนกับกองทุนฯ ช่วยให้เกษตรกรไม่สูญเสียที่ดินทำกิน

2.) ช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของเกษตรกร 

ในช่วงปีกว่าที่ตนเข้ามามีการปรับปรุงแก้ไขพัฒนาปัญหาของพี่น้องเกษตรกรเช่น

1.) มีสำนักงานครบเกือบทุกจังหวัดและมีการตั้งคณะอนุกรรมการประจำจังหวัดครบทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งเกษตรกรจะได้รับการดูแลทั่วถึงทั้ง 76 จังหวัด

2.) แก้ไขปัญหาหนี้บุคคลค้ำที่เมื่อก่อนเข้าไปจัดการไม่ได้ มีการแก้ไขกฎหมายให้ซื้อหนี้บุคคลค้ำได้ ส่วนใหญ่เป็นหนี้รายย่อยไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย มีจำนวนหลาย 38,000 รายที่ขึ้นทะเบียน

3.) หนี้ที่เกิน 2.5 ล้านบาท สามารถขยายเพดานช่วยเหลือจาก 2.5 ล้านบาทเป็นไม่เกิน 5 ล้านบาท

4.) จัดเงินงบประมาณเพื่อฟื้นฟูอาชีพและคุณภาพชีวิต เตรียมไว้ 340 ล้านบาท และสำหรับจังหวัดอุดรธานี 7,500,000 บาทในการช่วยฟื้นฟูอาชีพให้กับเกษตรกรชาวอุดรจำนวน 200 คน 15 โครงการ และช่วยจัดซื้อหนี้ของเกษตรกรจำนวน 5 รายเป็นหนี้สหกรณ์ 2 สหกรณ์เป็นเงิน 5,600,000 บาท และคืนโฉนดออกใบประกาศนียบัตรรับรองให้กับเกษตรกรที่เป็นหนี้กองทุนฟื้นฟูและชำระหนี้หมดแล้วจำนวน 30 ราย 

“ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องเกษตรกรทุกคนและขอมอบนโยบายให้กับอนุกรรมการจังหวัดและสำนักงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดได้เร่งรัดดำเนินการตามนโยบายของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ตนเป็นประธาน ที่สำคัญขอให้เอาใจใส่และลงลึกในการเข้าไปช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้สินและฟื้นฟูเกษตรกรอย่างแท้จริงรวมทั้งให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ที่เข้ามาเป็นอีกภาคส่วนหนึ่งที่จับมือกับกองทุนฟื้นฟูในการช่วยฟื้นฟูเกษตรกรโดยใช้ระบบการตลาดช่วยแก้ปัญหา” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

รายงานข่าวสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ระบุว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์กำกับดูแลในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นคนมีความตั้งใจและใส่ใจในการกำกับดูแลเป็นอย่างมากซึ่งการมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินคืนให้แก่เกษตรกรสมาชิกกองทุนมีทั่วประเทศและนายจุรินทร์เร่งรัดกำกับนโยบายเพื่อช่วยเกษตรกรให้เร็วที่สุดเป้าหมายคือ ‘ทำได้ไว ทำได้จริง’

ศาลฎีกาพิพากษาแก้ลดโทษ ‘ลุงวิศวะยิงนักเรียน ม.4’ จากฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เป็นป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ จำคุก 3 ปี 4 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี ทำกิจกรรมบริการสังคม 30 ชั่วโมง

ศาลจังหวัดชลบุรีอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 3544/2561 หรือ ‘คดีลุงวิศวะยิงเด็กนักเรียน ม.4’ ที่พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี และ น.ส.มณีพร ผึ่งผาย โจทก์และโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง ‘นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์’ เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จากกรณีที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ‘นายนวพล’ หรือ ‘ปอนด์ ผึ่งผาย’ ถึงแก่ความตาย

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2560 ที่บริเวณแยกครกใหญ่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานพาอาวุธปืนฯ ส่วนความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน

คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานพาอาวุธปืนฯ และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามฟ้อง ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2.000 บาท รวมจำคุกจำเลยเป็นเวลา 10 ปี ปรับ 2,000 บาท ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

ต่อมา โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 10 ปี ปรับ 2,000 บาท และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

จำเลยยื่นฎีกา

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มูลเหตุคดีเริ่มต้นเมื่อพวกของผู้ตายจอดรถยนต์ตู้ซ้อนคันกับรถยนต์ของจำเลย โดยไม่ได้สนใจว่ารถยนต์ของจำเลยที่จอดริมฟุตพาทจะออกไปได้หรือไม่

เมื่อภริยาจำเลยแจ้งให้ทราบว่ารถยนต์ของจำเลย กำลังจะออก แต่พวกของผู้ตายไม่ขยับให้ กลับบอกให้รอก่อน การจอดรถซ้อนคันขวางทางออกถนนของรถยนต์คันอื่น ทั้งมิยอมรีบขยับรถให้รถคันที่ตนจอดขวางอยู่ออกไปได้ จึงมิใช่เรื่องที่คนทั่วไปกระทำกัน

เหตุการณ์เช่นนี้ คนทั่วไปไม่ว่าใครก็ตามพบเจอ ย่อมต้องรู้สึกโกรธเป็นธรรมดา

จำเลยกล่าวถ้อยคำหยาบคายหลายครั้ง แต่มีเพียงถ้อยคำเดียวที่พวกของผู้ตายได้ยินก่อนที่จะพากันขึ้นรถยนต์ตู้ไป

ส่วนถ้อยคำหยาบคายอื่น จำเลยกล่าวในรถยนต์ของตนเอง ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้พวกของผู้ตายรู้สึกว่าจะต้องเอาเรื่องกับจำเลย ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแต่ทำให้จำเลยเสียเวลาไปบ้างเล็กน้อย จึงมิใช่เรื่องใหญ่โตถึงขนาดต้องฆ่ากัน

และเชื่อได้ว่าในขณะที่รถยนต์ของทั้งสองฝ่ายเคลื่อนออกจากบริเวณหน้าร้านขายอาหารทะเลแห้ง ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความคิดที่จะเอาเรื่อง อีกฝ่ายเพราะเหตุจากการมีปากเสียงกัน

ส่วนเหตุการณ์ระหว่างทางตั้งแต่รถยนต์ของทั้งสองฝ่ายออกจากร้านขายอาหารทะเลแห้งจนถึงเวลาก่อนจะถึงแยกครกใหญ่ พวกของผู้ตายเพียงแต่เปิดไฟสูงใส่จำเลย ไม่ได้ขับแข่ง ขับแซง หรือปาดหน้า ทั้งที่อยู่ในวิสัย ที่สามารถกระทำได้โดยง่าย ส่วนฝ่ายจำเลย พฤติการณ์ภายในรถแสดงให้เห็นได้ว่า ภายหลังจากออกจากหน้าร้านขายอาหารทะเลแห้งไม่นาน จำเลยและภริยาต่างระงับความโกรธได้และเกรงว่าจะถูกฝ่ายผู้ตายทำร้าย จึงมีความคิดจะไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานตำรวจหรือบุคคลอื่น

เมื่อรถยนต์ของทั้งสองฝ่ายไปถึงแยกครกใหญ่ จำเลยมิได้ขับรถปาดหน้ารถของผู้ตาย เพื่อไปจอดรถที่ริมฟุตพาทและมีได้มีพฤติการณ์ยั่วยุให้คนในกลุ่มผู้ตายมาวิวาทต่อสู้กันอีก

เมื่อมีคนในกลุ่มของผู้ตายหลายคนอยู่ ล้อมรอบรถยนต์ของจำเลย ผู้ตายมุดศีรษะเข้ามาในรถยนต์ของจำเลย พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่า “มึงจะรบป่าว” หลายครั้งและมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ตายจะเข้ามาทำร้ายจำเลยในชั่วเวลาอีกไม่นาน

ขณะเดียวกัน จำเลยยังถูกพวกของผู้ตายชกต่อยจากทางด้านหลัง ย่อมถือได้ว่ามีอันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะเกิดขึ้นแก่ชีวิตและร่างกายของจำเลยแล้ว ประกอบกับจำเลยนั่งอยู่ที่ที่นั่งคนขับอันเป็นการอยู่ในที่จำกัดและเคลื่อนไหวร่างกายได้ยาก การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงออกไป จึงเป็นทางเดียวที่จะให้จำเลยพ้นจากการถูกทำร้าย โดยผู้ตายและพวกได้

ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนให้พ้นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่เมื่อจำเลยเห็นอยู่แล้วว่าผู้ตายและพวกไม่มีอาวุธ หากจำเลยเพียงนำอาวุธออกมาขู่ว่าจะยิง หรือยิงออกไปโดยไม่จำเป็นต้องให้ถูกผู้ตายหรือยิงไปที่อวัยวะอื่นที่ไม่สำคัญของผู้ตาย ก็ย่อมเพียงพอที่จะยับยั้งมิให้ผู้ตายและพวกเขามาทำร้ายได้แล้ว แต่จำเลยกลับใช้อาวุธปืนยิงไปที่หน้าอกซ้ายของผู้ตาย แม้ยิงเพียงนัดเดียวก็ไม่เป็นการได้สัดส่วนกับภยันตรายที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นกับจำเลย

การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เหตุคดีนี้เกิดจากฝ่ายผู้ตายจอดรถยนต์ขวางทางรถยนต์ของจำเลยจนเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย อันเป็นความผิดของฝ่ายผู้ตายด้วยส่วนหนึ่ง การรอการลงโทษให้แก่จำเลยน่าจะเป็นประโยชน์แก่จำเลยและสังคมส่วนรวมมากกว่าการลงโทษจำคุกไปเสียทีเดียว

พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน

เมื่อรวมกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืนฯ แล้ว รวมจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ให้จำเลยไปเข้ารับการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการระงับควบคุมอารมณ์ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนและให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์มีกำหนด 30 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ เป็นการอ่านคำพิพากษาฎีกาลับหลังจำเลย เนื่องจากลุงวิศวะ ยื่นฎีกา แต่หนีไม่มาฟังฎีกาตั้งแต่นัดฟังฎีกาครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมมาฟังคำพิพากษาได้ภายใน 1 เดือน

 

ที่มา: https://mgronline.com/crime/detail/9640000058582


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ธิษะณา" ชี้ ร่างแก้ไขรธน.พปชร. หวังแก้ระบบเลือกตั้งเอื้อพรรคใหญ่ก่อนยุบสภา อัด ส.ว. ไม่จำเป็นต่อการเมืองไทย ทำประชาชนเปลืองภาษี เลี้ยงเสียข้าวสุก

น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ แกนนำกลุ่ม Re-solution กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22-23 มิ.ย. เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้มีร่างที่เสนอโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีหลักการสำคัญ คือ การเปลี่ยนระบบเลือกตั้งแต่ไม่มีเรื่องการตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้ระบุว่า หากร่างของพรรคพลังประชารัฐได้รับความเห็นชอบวาระรับหลักการจากรัฐสภา จะเข้าสู่ขั้นตอนตั้งคณะกรรมาธิการมาพิจารณาวาระ 2 ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือนน่าจะได้ข้อสรุป เพราะเป็นการแก้แค่รายมาตรา และนำเข้าสู่การโหวตวาระ 3 ได้ในเดือน ส.ค. ซึ่งอาจจะพิจารณาเสร็จก่อนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 นอกจากนี้ยังมีสมาชิกวุฒิสภาประกาศว่า ส.ว.จะไม่ให้ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอตัดอำนาจ ส.ว.ในการร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีตาม มาตรา 272

น.ส.ธิษะณา กล่าวต่อว่า การเร่งดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐยิ่งตอกย้ำว่าไม่ได้มีเจตนาเพื่อขจัดการสืบทอดอำนาจของ คสช. และระบอบประยุทธ์ ซึ่งเป็นต้นตอปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 เพราะเป็นการแก้ในประเด็นรายละเอียดยิบย่อย ไม่ใช่สาระสำคัญและอาจเอื้อผลประโยชน์ให้กับพรรคของตนเอง ทำให้ตีความได้ว่าบันไดขั้นต่อไปหลังจากนี้ คือ การแก้ไขระบบเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นระบบที่จะได้ประโยชน์ต่อพรรคการเมืองของพวกเขาและพันธมิตรภายใต้ร่มเดียวกันมากที่สุด เพื่อทำให้ระบอบประยุทธ์มีกติกาที่ได้เปรียบในทุกประตูก่อนจะยุบสภาเพื่อการเลือกตั้งในครั้งถัดไป การพยายามจะอธิบายอย่างรวบรัดว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนระบบเลือกตั้งจากบัตร 1 ใบ เป็นบัตร 2 ใบ ก็เป็นการจงใจที่จะให้รายละเอียดไม่ครบ เพราะถึงแม้สังคมบางส่วนอาจเห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ระบบเลือกตั้งที่มีบัตร 2 ใบ ก็มีหลายรูปแบบ แต่นายไพบูลย์เลือกเสนอรูปแบบที่เอื้อต่อพรรคการเมืองใหญ่ให้ได้สัดส่วน ส.ส. ในสภาที่สูงกว่าสัดส่วนคะแนนที่ได้จากการเลือกตั้ง และทำให้อาจมีคะแนนตกน้ำกว่า 20 ล้านเสียง

น.ส.ธิษะณา กล่าวต่อว่า ปัญหาหลักของการเมืองไทยปัจจุบัน รวมถึงปัญหาที่สืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งปี 2562 ไม่ใช่เรื่องระบบเลือกตั้ง แต่คือการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ถูกสังคมตั้งคำถามว่าได้ปฏิบัติงานด้วยความเป็นกลางหรือไม่ ฉะนั้น เรื่องที่เร่งด่วนกว่าการแก้ระบบเลือกตั้ง คือ การแก้ที่มาของ กกต. รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการองค์กรอิสระทุกคน ซึ่งข้อเสนอนี้มีอยู่ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ Re-solution ในขณะที่ร่างแก้ไขฉบับอื่นไม่ได้พูดถึง และยิ่งเห็นความพยายามของ ส.ว. ที่ประกาศกร้าว ไม่เห็นหัวประชาชนว่าจะโหวตไม่ให้ผ่านร่างที่เสนอตัดอำนาจ ส.ว.ในการร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ผ่านสนามเลือกตั้งมา ไม่ได้ยึดโยงจากประชาชน แต่ยึดโยงกับคณะรัฐประหาร คสช. พวกเขายังจะไร้ยางอายมาลดทอนเสียงของเจตจำนงประชาชนทั้งประเทศ เป็นสภาที่เลี้ยงเสียข้าวสุกจากภาษีของประชาชนอย่างแท้จริง แม้ว่าประชาชนจะไม่ได้อยากเลี้ยงก็ตาม สิ่งที่ ส.ว.ทำมาตั้งแต่เข้าสู่อำนาจ จนได้รับฉายาว่าเป็น “สภาปรสิต” คือ การถูกใช้เป็นเครื่องมือของระบอบประยุทธ์ในการสืบทอดอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ในแต่ละปีงบประมาณจากภาษีประชาชนถูกผลาญไปกับสภาปรสิตจำนวนมหาศาล ส.ว.อาจไม่มีความจำเป็นต่อการเมืองไทยอีกต่อไป 

“แนวคิดที่ว่า ส.ว.คือสภาพี่เลี้ยงเป็นสมมติฐานที่ไม่ถูก เพราะสถานการณ์ของประเทศไทยและของโลกเปลี่ยนไปมากแล้ว ประชาชนตื่นตัวทางการเมืองและรู้จักเรียกร้องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนและสังคม อีกทั้งประเทศไทยก็เป็นรัฐเดี่ยว ไม่ใช่มลรัฐ จึงไม่จำเป็นต้องมี ส.ว.เพื่อเป็นตัวแทนของมลรัฐเข้ามาอยู่ในสภา และที่ผ่านมา ส.ว. ที่แต่งตั้งหลังการรัฐประหาร มักมีหน้าที่สำคัญเพียงอย่างเดียวคือการสืบทอดอำนาจให้คณะรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันการตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ เพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะ ส.ว. ยังมีอำนาจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการโหวตกฎหมายปฏิรูป ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีอำนาจชี้ขาดในการแต่งตั้งองค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องพิจารณาการยกเลิก ส.ว. แล้วมีสภาเดี่ยวซึ่งเป็นข้อเสนอที่มีอยู่ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่ม Re-Solution เช่นกัน” น.ส.ธิษะณา กล่าว

กรมการขนส่งทหารเรือ​ ร่วมกับ​กลุ่มอาสาสมัคร​ ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน จัดกิจกรรมช่วยเหลือชุมชนวัดหงส์รัตนาราม​ราชวรวิหาร

พล.ร.ต.สาธิต​ นาคสังข์​ เจ้า​กรมการขนส่งทหารเรือ​ ร่วมกับ​ กลุ่มอาสาสมัคร ​"ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน" ​นำโดย​ เล็ก ฝันเด่น​ จรรยาธนากร และ​นักศึกษา​ หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ (พสบ.ทร.รุ่นที่18 ) โดยกลุ่ม​ "เรือหลวงแม่กลอง​" ร่วมกันจัดกิจกรรม​ "ทหารเรือ​ ช่วยเหลือชุมชนวัดหงส์"​ บริเวณชุมชนวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร​ เขตบางกอกใหญ่​ กรุงเทพ โดยชุมชนดังกล่าวมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ประมาณ 400 ครอบครัว  

นอกจากนี้ยังมี​ผู้ป่วยติดเตียง​และ​ ผู้สูงอายุจำนวนมาก​ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้​ ในการนี้​ กองทัพเรือ โดย กรมการขนส่งทหารเรือ กลุ่ม​อาสาสมัครใจ​"ถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน" และ​ นักศึกษา​พสบ.ทร.รุ่นที่ 18 กลุ่ม​"เรือหลวงแม่กลอง​" ได้ร่วมกันมอบ​ เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป​​ และของที่จำเป็น​ให้กับพี่น้องประชาชนชุมชนวัดหงส์​ รัตนารามราชวรวิหาร

“ผบ.ทสส.” ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.กาญจนบุรี พร้อมเน้นย้ำหน่วยในพท.เฝ้าระวัง การหลบหนีเข้าเมืองอย่างเคร่งคัด 

ที่ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งการบริหารจัดการชายแดนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จ.กาญจนบุรี

โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปจาก กองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ ที่ ค่ายสุรสีห์ และเดินทางไปหารือข้อราชการกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รับฟังการบรรยายสรุปจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ศาลากลาง จังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและรับฟังการชี้แจงสถานการณ์รวมถึงมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเยี่ยมชมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ที่ช่องทางออกด่านศุลกากร บ้านน้ำพุร้อน ตำบลบ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 

จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางไปรับฟังการบรรยายสรุป และพบปะกำลังพล ณ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้นำคำขอบคุณจาก พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มายังเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนด้วยความทุ่มเท เสียสละโดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ดำรงความเข้มงวดในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง  

โดยเฉพาะการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องไม่ละเลย รู้เห็น มีส่วนร่วม หรือสนับสนุนขบวนการลักลอบเข้าเมือง ผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด เพราะจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง  

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้หน่วยในพื้นที่บูรณาการความร่วมมือในการเฝ้าระวัง ติดตาม และแจ้งเหตุการณ์ลักลอบเข้าเมืองให้ฝ่ายความมั่นคงได้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจัดเตรียมความพร้อมของสถานกักกันโรคในพื้นที่ให้เพียงพอ เพื่อเตรียมการรองรับเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการในอนาคต ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขกำหนดทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป

จากกรณีคดีเลี่ยงภาษีนำเข้ารถโตโยต้า พรีอุส ที่มีปัญหาเลี่ยงภาษีเป็นเงินมหาศาล 11,000 ล้านบาท และมีการกล่าวหาบิ๊กตุลาการรับสิบบนช่วยล้มคดีให้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นั้น ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานว่า...

จากกรณีคดีเลี่ยงภาษีนำเข้ารถโตโยต้า พรีอุส ที่มีปัญหาเลี่ยงภาษีเป็นเงินมหาศาล 11,000 ล้านบาท และมีการกล่าวหาบิ๊กตุลาการรับสิบบนช่วยล้มคดีให้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นั้น ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานว่า

"...เว็บไซต์ taxnotes ยังได้รายงานต่อไปว่า การเปิดเผยข้อมูลความเป็นไปได้ว่าจะมีการให้สินบนในเว็บไซต์ LAW360 นั้น แท้จริงแล้วเกิดขึ้นหลังจากที่มีการฟ้องร้องกันระหว่างบริษัทที่ชื่อว่าไฮร์คอนเซล (HC2) ที่ถูกว่าจ้างมาจากบริษัทวิลเมอร์เฮลอีกต่อหนึ่ง เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนภายในให้กับบริษัทโตโยต้ากับนายแอนดรูว์ เดลานีย์..."

ประเด็นตรวจสอบกรณีเว็บไซต์ LAW360 ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข่าวและวิเคราะห์ด้านกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ออกมาเผยแพร่ข้อมูลลับกรณีบริษัท โตโยต้า คอร์ปฯ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น รายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) รวมถึงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เมื่อ เม.ย. 2563 ว่า มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทลูกแห่งหนึ่งของโตโยต้าในไทย อาจกระทำการละเมิดกฎหมายต่อต้านการติดสินบน (Anti-Bribery Laws) ของสหรัฐฯ โดย LAW360 มีการกล่าวอ้างผลการสอบสวนพาดพิงถึงบุคลากร อดีตผู้พิพากษาระดับสูงในศาลฎีกา ผู้พิพากษาในศาลฎีกา สำนักงานกฎหมาย และบุคคลที่เกี่ยวข้องในแวดวงกระบวนการยุติธรรมไทยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการจ่ายสินบน ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในขณะนี้นั้น 
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข้อมูลเชิงลึกในต่างประเทศไปแล้วว่า นายแอนดรูว์ เดลานีย์ อดีตทนายความจากสำนักกฎหมายบิ๊กลอว์ (Big Law) ที่เคยทำงานในฐานะทีมงานที่ถูกว่าจ้างและกำกับดูแลจากบริษัทวิลเมอร์เฮล ให้ดำเนินการสอบสวนภายในบริษัทโตโยต้า ได้ออกมาเปิดโปงว่า นายไมเคิล โพซาด้า หนึ่งในที่ปรึกษาด้านกฎหมายของประธานาธิบดีโจ ไบเด้น ผู้ที่เคยเป็นอดีตทนายความของบริษัทวิลเมอร์เฮลนั้นมีพฤติกรรมการปกปิดการกระทำอันไม่ถูกกฎหมายของบริษัทโตโยต้าในประเทศไทย และมีการฟ้องร้องเป็นคดีความที่ศาลแขวงรัฐฟลอริดา โดยนายไมเคิล โพซาดา ถูกเรียกตัวมาให้การเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา และมีรายงานว่าอดีตนักกฎหมายคนอื่นที่ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ทำเนียบขาวนั้นก็ถูกเรียกตัวมาให้ปากคำต่อหน้าศาลแขวงรัฐฟลอริดาเช่นกัน  

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นฐานข้อมูลในต่างประเทศ พบรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้เพิ่มเติม มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับคดีความการเลิกจ้างนายแอนดรูว์ เดลานีย์ อดีตทนายความจากสำนักกฎหมายบิ๊กลอว์ (Big Law) ที่เคยทำงานในฐานะทีมงานที่ถูกว่าจ้างและกำกับดูแลจากบริษัทวิลเมอร์เฮล ให้ดำเนินการสอบสวนภายในบริษัทโตโยต้า บนเว็บไซต์ taxnotes.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์การรายงานข่าวด้านกฎหมายของสหรัฐอเมริกา 
รายงานข่าวชิ้นนี้ เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 เม.ย. มีชื่อว่า “บริษัทโตโยต้าที่ถูกต้องสงสัยว่ามีการให้สินบนในประเทศไทย จากคำกล่าวอ้างของนักกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา” (Toyota Caught Up in Thai Bribery Claims Made by U.S. Lawyer)  

เนื้อหารายงานในช่วงแรก มีการกล่าวอ้างถึงข่าวลงวันที่ 5 เม.ย. ว่านายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าจะมีการดำเนินการตรวจสอบในข้อครหาสินบนที่ปรากฎทางเว็บไซต์ LAW360 เมื่อช่วงวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง ณ เวลานั้น ยังไม่ปรากฎข้อมูลว่า มีการจ่ายสินบนให้กับใครบ้าง

เว็บไซค์ taxnotes ยังได้รายงานต่อไปว่า การเปิดเผยข้อมูลความเป็นไปได้ว่าจะมีการให้สินบนในเว็บไซต์ LAW360 นั้น แท้จริงแล้วเกิดขึ้นหลังจากที่มีการฟ้องร้องกันระหว่างบริษัทที่ชื่อว่าไฮร์คอนเซล (HC2) ที่ถูกว่าจ้างมาจากบริษัทวิลเมอร์เฮลอีกต่อหนึ่ง เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนภายในให้กับบริษัทโตโยต้ากับนายแอนดรูว์ เดลานีย์

โดยย้อนไปในเดือน ก.ย. 2562 บริษัท HC2 ได้มีการว่าจ้างนายแอนดรูว์ เดลานีย์ ทนายความที่สามารถแปลภาษาไทยได้ให้มาทำงานตรวจสอบเอกสารที่สำนักงานในนครนิวยอร์ก    

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงเดือน มี.ค. 2563 นายเดลานีย์ส่งอีเมลไปหาบริษัท HC2 และบริษัทสำนักกฎหมาย (ไม่ระบุชื่อ) แห่งหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาในอีเมลนั้นเป็นการบ่นถึงสภาพการณ์ว่าเพื่อนร่วมงานของเขามีอาการคล้ายกับเป็นหวัด เขาจึงขอให้ทำงานทางไกล หรือทำงานที่บ้านแทน แต่ปรากฏว่าทาง HC2 ตอบกลับมาว่าไม่สามารถให้ทำงานทางไกลได้ และลูกค้าของบริษัท HC2 ก็ได้มีการระงับโครงการการตรวจสอบเอกสารแล้ว หลังจากนั้นไม่นานนายเดลานีย์และเพื่อนร่วมงานของเขาก็ถูกเลิกจ้าง

ต่อมาในช่วงเดือน เม.ย. 2563 บริษัท HC2 ได้มีการยื่นฟ้องคดี (1:20-cv-3178-LJL) ที่ศาลแขวงสหรัฐสำหรับเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก
โดยกล่าวหาว่านายเดลานีย์ซึ่งมีความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการระงับโครงการ และการที่เขาถูกเลิกจ้าง นั้นมี “พฤติกรรมการสร้างข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ” 

ข้อมูลสรุปคดีระหว่างบริษัท HC2 กับนายแอนดรูว์ เดลานีย์ (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บ CASETEXT.COM) โดยในการยื่นฟ้องคดีนั้น  บริษัท HC2 ระบุว่า นายเดลานีย์ได้กล่าวหาว่าบริษัทที่ทำหน้าที่จัดหาบุคลากรด้านกฎหมายได้มีการสมคบคิดกับบริษัทสำนักกฎหมายแห่งหนึ่ง และบริษัทลูกค้า เพื่อที่จะดำเนินการเลิกจ้างนายเดลานีย์ 

ขณะที่ นายเดลานีย์ได้มีการส่งจดหมายไปถึงบริษัทสำนักกฎหมายที่รับงานให้กับบริษัทลูกค้าเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2563

ในจดหมายมีการเรียกร้องเงินจำนวนทั้งสิ้น 450,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (14,017,500 บาท) และนายเดลานีย์ยังได้ข่มขู่ว่าจะมีการฟ้องร้องและเปิดโปงข้อมูลลับถ้าหากยังไม่ได้รับเงินจำนวนที่เรียกร้องในวันถัดมา  

เมื่อมีการปฏิเสธการจ่ายเงิน นายเดลานีย์จึงได้ฟ้องร้องต่อบริษัทของลูกค้าในชื่อของ จอห์นโด ที่ศาลรัฐฟลอริดา 

ต่อมาวันที่ 31 ส.ค. 2563 ทนายความของนายเดลานีย์ได้มีการยื่นบันทึกทางกฎหมายเพื่อคัดค้านต่อกรณีที่บริษัท HC2 ได้เรียกร้องให้ยกคำร้องที่นายเดลานีย์ที่โต้แย้งต่อการฟ้องร้องของบริษัท 

หน้าเว็บไซต์บริษัทไฮร์คอนเซล หรือ HC2 ผู้จ้างให้นายแอนดรูว์ เดลานีย์เข้ามามีส่วนในการแปลเอกสารภาษาไทย

นายเดลานีย์ ระบุว่า บริษัท HC2 นั้นมีพฤติกรรมเป็นตัวแทนและนายหน้าให้กับทั้งบริษัทโตโยต้าและบริษัทวิลเมอร์เฮล และยังกล่าวหาอีกว่าบริษัทจัดหาบุคลากร (HC2) ได้มีการเปิดโปงเขาในฐานะจอห์นโดฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องคดีที่รัฐฟลอริดา    

ทนายความของนายเดลานีย์ ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ไปยังศาลว่า “กระบวนการทบทวนเอกสารที่กำลังจะสิ้นสุดลงและการจัดเก็บฐานข้อมูลเอกสารซึ่งอยู่ ณ ที่ทำการของบริษัทโตโยต้าที่ประเทศญี่ปุ่น ก็เพื่อจะมีการควบคุมเบ็ดเสร็จ และกระบวนการสอบสวนในประเด็นอันมีความเสี่ยงสูงว่าจะมีพฤติกรรมการทุจริตเกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงระยะเวลานานหลายปี การสืบสวนดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นถึงมีกิจกรรมการทุจริตและความเสี่ยงทางการเงิน ต่อบุคลลที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงในสถานประกอบการประเทศไทย”

ทนายความของนายเดลานีย์ กล่าวด้วยว่า ในช่วงเดือน พ.ย. 2562 นั้นนายเดลานีย์ยังได้รับอีเมลอันน่าสงสัยฉบับหนึ่งที่ส่งมายังอีเมลส่วนตัว ซึ่งที่มาของอีเมลก็มาจากทนายความทางด้านภาษีที่ค่อนข้างจะมีอิทธิพลรายหนึ่ง ระบุว่าผลประโยชน์ทางอาชีพของทนายคนนี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากการสอบสวนดังกล่าวนี้ (ระบุว่าเป็น “อีเมลไทย”)

จากข้อมูลในกระบวนการพิจารณาคดีแสดงให้เห็นว่าอีเมลไทยฉบับดังกล่าวนั้นถูกส่งมาถึงนายเดลานีย์เป็นระยะเวลาหนึ่งวันหลังจากที่โตโยต้าได้ตัดสินใจอย่างปุบปับว่าจะกลับมาผลิตรถยนต์พรีอุสในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

และการส่งอีเมลดังกล่าวยังเป็นข้อบ่งชี้ว่ามีประเด็นเกี่ยวกับทั้งการล็อบบี้ การให้สินบนเกิดขึ้น โดยคาดการณ์กันว่าสำนักงานกฎหมายผู้ส่งอีเมลมาถึงนายเดลานีย์นั้น ต้องการให้นายเดลานีย์ได้ช่วยเหลือในการทวงถามติดตามค่าธรรมเนียม และค่าจ้างบริการ ที่ยังคงค้างจ่ายต่อสำนักงานกฎหมายแห่งนี้เป็นเงินมูลค่าหลายล้านบาท

นายเดลานีย์ได้กล่าวอ้างต่อไปว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของเขานั้นถูกไปใช้อย่างไม่ถูกต้องในการล่วงละเมิดข้อผูกพันด้านการรักษาความลับที่บริษัท HC2 มีต่อลูกค้าของบริษัท  

“นี่เป็นเพราะว่าบริษัทโตโยต้าซึ่งต้องการที่จะทำธุรกิจที่มีความทุจริตต่อไปในประเทศไทย กำลังจะหาหนทางที่จะขจัดการสืบสวนนี้ออกไป โดยในที่สุดแล้ว พวกเขาก็ประสบความสำเร็จ” ทนายความของนายเดลานีย์กล่าวกับศาลและกล่าวต่อไปด้วยว่า “หนทางเดียวที่บุคคลเหล่านี้ในประเทศไทยจะได้รับรู้เกี่ยวกับงานทบทวนเอกสารของนายเดลานีย์นั้นก็เปิดโปง เปิดเผยข้อมูลจากมันเอง

ทั้งนี้ นายเดลานีย์ซึ่งเป็นคนไทยมีความตั้งใจว่าจะกลับประเทศไทย และไม่ต้องการที่จะให้เรื่องที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลอันเป็นที่ถกเถียงกันอยู่นั้น ถูกรับรู้จากที่ประเทศไทยเอง”

ต่อมาในวันที่ 18 ธ.ค. 2563 นายลูอิส ลิมาน ผู้พิพากษาได้มีการยกเลิกคำโต้แย้งของนายเดลานีย์ และในวันที่ 9 ก.พ. บริษัท HC2 ก็ได้แจ้งข้อมูลให้กับผู้พิพากษาลิมานให้รับทราบว่านายเดลานีย์ยื่นฟ้องให้ตัวเองเป็นบุคคลล้มละลายในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 พอมาถึงช่วงวันที่ 22 ก.พ. ผู้พิพากษาลิมานก็ได้ชะลอคดีระหว่าง HC2 ที่ร้องต่อนายเดลานีย์เอาไว้ก่อน เนื่องจากรอผลคำร้องการยื่นล้มละลายดังกล่าว 

ส่วนทางบริษัทโตโยต้า สำนักกฎหมายวิลเมอร์เฮล ก็ปฏิเสธที่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่นเดียวกับทนายความของนายเดลานีย์ที่รัฐนิวยอร์ก และที่รัฐฟลอริดาก็ปฏิเสธจะให้ความเห็นเช่นกัน    

(สิ้นสุดบทความของเว็บไซต์ taxnotes ที่ลงวันที่ 21 เม.ย. 2564)

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ taxnotes เพิ่มเติม พบว่ามีรายงานอีกหนึ่งชิ้นลงวันที่ 4 พ.ค. 2564  โดยเว็บไซต์ taxnotes ได้ไปสัมภาษณ์กับนายแอนดรูว์ เดลานีย์ โดยตรงเกี่ยวกับเนื้อหารายงานของเว็บไซต์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่  21 เม.ย. 2564 ดังกล่าว 
โดยนายเดลานีย์กล่าวว่า

“ผมปฏิเสธหลักฐานในบทความของคุณ (“บริษัทโตโยต้าที่ถูกต้องสงสัยว่ามีการให้สินบนในประเทศไทย จากคำกล่าวอ้างของนักกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา” ลงวันที่ 21 เม.ย.) จากเท่าที่ผมได้รับรู้มา ไม่มีการให้สินบน หรือการประพฤติโดยมิชอบ โดยผู้พิพากษาไทยคนไหน หรือว่าทนายไทยคนไหนอันเกี่ยวข้องกับคดีรถพรีอุสเกิดขึ้น มันไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่เป็นความพยายามที่จะด้อยค่ากระบวนการตุลาการและทนายในประเทศไทย ผมไม่เกี่ยวข้องใดๆทั้งสินเกี่ยวกับแถลงการณ์อันเป็นเท็จที่ถูกจัดทำโดยบริษัทโตโยต้าหรือบริษัทวิลเมอร์เฮล ผมไม่ใช่ลูกจ้างของพวกเขา และผมไม่เห็นด้วยกับพวกเขา”   

(สิ้นสุดบทความของเว็บไซต์ taxnotes ที่ลงวันที่ 4 พ.ค. 2564)


 
ทั้งหมดนี้ คือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีการจ่ายสินบนของบริษัทโตโยต้า ในต่างประเทศที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด ซึ่งมีหลายประเด็นที่จะต้องติดตามกันต่อไป อาทิ สิ่งที่นายแอนดรูว์ เดลานีย์กล่าวอ้างมานั้นเป็นความจริงหรือไม่ พฤติกรรมการทุจริตของบริษัทโตโยต้าที่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีที่รัฐนิวยอร์กมีรายละเอียดอย่างไร และบริษัทโตโยต้ากับบริษัทวิลเมอร์เฮลอาศัยหลักฐานอะไร ถึงได้มีการกล่าวหาว่าทางบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ว่ามีการจ่ายสินบนให้กับผู้พิพากษาไทยตามที่ปรากฎเป็นข่าว  

เพื่อให้เรื่องนี้ปรากฎความจริงชัดเจนโดยเร็วที่สุด    

เรียบเรียงจาก : https://www.taxnotes.com/entities/organization/wilmer-cutler-pickering-hale-and-dorr-llp?id=19hl
ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews/99449-Toyotatta05.html


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พลพรรคแข้ง ยูเครน ร่วมใจกันคว้า 3 แต้มแรกในศึก ยูโร 2020 สำเร็จ หลังจัดการเฉือนชนะ มาซีโดเนียเหนือ แบบหวุดหวิด 2-1 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสอง เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

พลพรรคแข้ง ยูเครน ร่วมใจกันคว้า 3 แต้มแรกในศึก ยูโร 2020 สำเร็จ หลังจัดการเฉือนชนะ มาซีโดเนียเหนือ แบบหวุดหวิด 2-1 ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดสอง เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เกมนัดสองของกลุ่ม C ยูเครน อันดับ 3 ไม่มีแต้ม ลงเตะที่โรมาเนีย เจอ มาซีโดเนียเหนือ บ๊วยที่ไม่มีแต้มเหมือนกัน เกมนี้ ยูเครน วาง 3 ประสาน รัสลาน มาลินอฟสกี, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โรมัน ยาเร็มชุก ลงยิง ส่วน มาซีโดเนีย พึ่งพาคู่หน้า เอลจิฟ เอลมาส กับ โกรัน ปานเดฟ

เริ่มเกม นาที 7 ยูเครน ทักทาย อังเดร ยาร์โมเลนโก้ เงยหน้าลองซัดไกลแต่บอลข้ามคาน ก่อนที่ นาที 28 ยูเครน เอาจนได้จากเตะมุม โอเล็กซานเดอร์ คาราเยฟ กระโดดตอกส้นให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ พุ่งชาร์จเสาแรก 1-0

นาที 29 เม็ดสองก็มา อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ตบบอลขึ้นหน้าให้ โรมัน ยาเร็มชุค พุ่งไปยิงเบียดเสาตุง 2-0 ต่อมา นาที 39 มาซีโดเนีย ตีไข่แตกแต่เฮเก้อ โกรัน ปานเดฟ แตะบอลหลุดขึ้นหน้าแล้วชิปข้ามนายประตูเข้าไปแล้ว แต่ดันล้ำหน้าก่อน จบครึ่งแรก ยูเครน นำสองลูก

ครึ่งหลัง นาที 54 มาซีโดเนีย ได้จุดโทษหลัง โกรัน ปานเดฟ เจอเตะล้มที่สุดเส้นหลัง รัสลาน มาลินอฟสกี ยิงติดเซฟครั้งแรกแต่บอลเด้งกลับมาให้วอลเลย์ซ้ำไล่ตาม 1-2 ต่อมา นาที 68 มาซีโดเนีย จะตีเสมอ บอลไหลคืนหลังมาถึง อเล็กซานเดอร์ ทราจคอฟสกี ยิงเต็มเท้าแต่ข้ามคาน

นาที 74 โอกาสทองของยูเครน วิคเตอร์ ซีกานคอฟ เก็บบอลได้ทางซ้าย แต่ดันยิงไม่แม่นหลุดกรอบ ส่วนท้ายเกม นาที 83 ยูเครน ได้จุดโทษหลัง ดาเนียล อาวรามอฟสกี พลาดทำแฮนด์บอลแต่ สโตล ดิมิตริเอฟสกี โชว์หนึบเซฟลูกยิงของ รัสลาน มาลินอฟสกี แต่ก็ได้แค่นั้น จบเกม ยูเครน เก็บ 3 แต้ม เท่ากับ ออสเตรีย กับ เนเธอร์แลนด์ส ส่วน มาซีโดเนีย แพ้รวด 2 นัดไม่มีแต้ม

สำหรับ ยูเครน นัดสุดท้ายจะดวลกับ ออสเตรีย วันที่ 21 มิถุนายน ส่วน มาซีโดเนีย ปะทะ เนเธอร์แลนด์ วันเดียวกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ยูเครน - จอร์จี บูชาน, มีโกล่า มาติเยนโก้, อิลลา ซาบาร์นยี, วิตาลี มิโกเลยโก้, โอเล็กซานเดอร์ คาราเยฟ, ทาราส สเตปาเนนโก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, มิโกล่า ชาปาเรนโก้, รัสลาน มาลินอฟสกี, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โรมัน ยาเร็มชุก

มาซีโดเนียเหนือ - สโตล ดิมิตริเอฟสกี, ดาร์โก เวลโกสกี, วิซาร์ มุสลิอู,, เอนิส บาร์ดี, สเตฟาน สปิรอฟสกี, อาร์ยาน อาเดนมี, เอซยาน อาลิออสกี, โบบัน นิโคลอฟ, เอลจิฟ เอลมาส, โกรัน ปานเดฟ

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058786


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เบลเยียม ต้อนรับการกลับมาของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพตัวปั้นเกม ก่อนโชว์ซัดประตูช่วยให้ ‘ปีศาจแดงแห่งยุโรป’ พลิกกลับมาเฉือน เดนมาร์ก คาบ้าน 2-1 พร้อมตีตั๋วเข้าน็อคเอาท์ศึก ยูโร 2020 เป็นที่เรียบร้อย เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เบลเยียม ต้อนรับการกลับมาของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพตัวปั้นเกม ก่อนโชว์ซัดประตูช่วยให้ ‘ปีศาจแดงแห่งยุโรป’ พลิกกลับมาเฉือน เดนมาร์ก คาบ้าน 2-1 พร้อมตีตั๋วเข้าน็อคเอาท์ศึก ยูโร 2020 เป็นที่เรียบร้อย เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เกมนัดสองของกลุ่ม B เดนมาร์ก บ๊วยไม่มีแต้ม เป็นเจ้าภาพเจอ เบลเยียม จ่าฝูงมี 3 แต้ม เกมนี้นักเตะและแฟนบอลทั้งสองฝั่ง ต่างส่งเสียงเชียร์เป็นกำลังใจให้แก่ คริสเตียน อีริกเซน ดาวเตะเจ้าถิ่นที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จากอาการหัวใจวายเฉียบพลันที่เกิดขึ้นในเกมนัดแรก

เริ่มเกมแวบเดียว 2 นาที เดนมาร์ก ยิงนำก่อนเลย ปิแอร์-เอมิลล์ ฮอยเบิร์ก วิ่งมาตัดบอลหน้าประตูแล้วป้ายให้ ยุสซุฟ โพลเซน แปตุง 1-0 ขณะที่ นาที 10 นักเตะเบลเยียม ทำการหยุดบอลกับที่ หยุดเกมเพื่อแสดงกำลังใจถึง คริสเตียน อีริกเซน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม

กลับมาเล่นต่อ เดนมาร์ก บดต่อเนื่อง นาที 34 มิกเกล แดมสการ์ด หักเข้าซ้ายแล้วยิงเหน่งๆ แต่บอลหลุดเสาไกล ต่อมา นาที 43 ฟรีคิกทางขวาของเบลเยียม แยนนิค คาร์ราสโก้ เล็งเป้าแล้วตะบันไกลแต่บอลหลุดกรอบนิดเดียว จบครึ่งแรก เดนมาร์ก ขึ้นนำทีมเบอร์ 1 ของโลกอยู่ 1 เม็ด

ครึ่งหลัง นาที 54 เบลเยียม สู้จนตีเสมอได้ โรเมลู ลูกากู เลื้อยมาจากขวา ตบให้ เควิน เดอ บรอยน์ ชิ่งต่อถึง ธอร์แกน อาซาร์ ยิงเผาขน 1-1 และนาที 71 เบลเยียม ก็เป็นฝ่ายพลิกแซง เอเดน อาซาร์ แปะออกซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ พุ่งมาตะบันโล่งๆ เสียบเสา 2-1

นาที 86 เดนมาร์ก ชวดตีเสมอ อันเดรียส โอลเซน ตักโด่งทางขวาเข้ากบาล มาร์ติน เบรธเวต โหม่งเต็มศรีษะแต่โชคร้ายชนสามเหลี่ยม สุดท้ายไม่มีประตูแล้ว จบเกม เบลเยียม ชนะ 2 นัดรวด เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม เข้ารอบน็อคเอาท์ไปอีกทีม นัดสุดท้ายเจอ ฟินแลนด์ วันที่ 21 มิถุนายน ส่วน เดนมาร์ก นัดสุดท้ายปะทะ รัสเซีย วันเดียวกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เดนมาร์ก - แคสเปอร์ ชไมเคิล, ซิมง เคียร์, แยนนิค เวสเตอร์การ์ด, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โธมัส เดอลานีย์, มิกเกล แดมสการ์ด, โจอาคิม เมเฮิล, ปิแอร์-เอมิลล์ ฮอยเบิร์ก, ดาเนียล วาสส์, มาร์ติน เบรธเวต, ยุสซุฟ โพลเซน

เบลเยียม - ธิโบต์ คูร์ตัวส์, เจสัน เดนาเยอร์, แยน แฟร์ตองเกน, โทบี อัลเดอร์เวเรลด์, ยูริ ตีเลอมองส์, เลอันเดอร์ เดนด็อกเกอร์, ธอร์แกน อาซาร์, โธมัส มูนิเยร์ แยนนิค คาร์ราสโก้, ดรีส์ เมอร์เทนส์, โรเมลู ลูกากู

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058812


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top