Friday, 27 June 2025
TheStatesTimes

เพลงรักต้นฤดูฝน| คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.15

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.

นครนายก - พระนักพัฒนา มอบข้าวสารวันละ 100 ถุง 13 วัน 13 หมู่บ้าน ช่วยภัยโควิด -19

ที่วัดดงละคร ต.ดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก จัดโครงการ”โคกหนอง วัดดงละคร”มอบข้าวสาร วันล่ะ 100 ถุง เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด -19

โดย ดร.พระมหาสิริวัฒนา สีลสาโร เจ้าอาวาสวัดดงละคร ร่วมกับ พุทธศาสนิกชนศัทธาวัดดงละคร ได้ทำตามหลักทฤษฎีในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 คือให้ทำทานหรือแจกทานกับผู้ยากไร้หรือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านและอสม. เช็ครายชื่อลูกบ้านของแต่ล่ะหมู่ ในเขต ต.ดงละคร โดยจะทำการแจกข้าวสารทั้ง ต.ดงละคร วันล่ะ 100 ถุง แจกทั้งสิ้น 13 วัน 13 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 1,300 ครัวเรือน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชนในเขต ต.ดงละคร ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพราะเราจะไม่ทิ้งกัน เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านและ อสม. จะเป็นผู้ประสานนำชาวบ้านมารับมอบข้าวสารที่วัดดงละคร ทั้งนี้ได้ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด สวมแมส วัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และลงทะเบียนเข้ารับมอบข้าวสารทุกคน

ทั้งนี้ ดร.พระมหาสิริวัฒนา สีลสาโร เจ้าอาวาสวัดดงละคร และผู้รับใบอนุญาต/ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาสิริวัฒน์ เป็นพระนักพัฒนา หาปัจจัยสร้างโรงเรียนให้เด็กได้เรียนฟรี ใครอยากบวชแต่ไม่มีเงินก็บวชให้ฟรี เสียชีวิตไม่มีเงินทำศพก็เผาให้ฟรี จัดหารถวิลแชร์และเตียงผู้ป่วยให้กับผู้ป่วยติดเตียงฟรี และที่วัดดงละครยังได้จัดทำโคกหนองนาโมเดล ซึ่งผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ และเป็นแหล่งเรียนรู้ ของจังหวัดนครนายก (สัมภาษณ์ ดร.พระมหาสิริวัฒนา  สีลสาโร เจ้าอาวาสวัดดงละคร)


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่ / ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

พูดชื่อ ‘คลองดำเนินสะดวก’ สำหรับคนไทยถือเป็นสถานที่อันคุ้นเคย และเคยเดินทางไปเยี่ยมชมกันมากมาย โดยวันนี้เมื่อ 153 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทำพิธีเปิดใช้ ‘คลองดำเนินสะดวก’ เป็นครั้งแรก

คลองดำเนินสะดวก เป็นคลองที่เชื่อมระหว่าง แม่น้ำท่าจีน และ แม่น้ำแม่กลอง เข้าด้วยกัน จุดเริ่มต้นของคลองแห่งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริเห็นว่า การคมนาคมที่ไปมาระหว่างพระนครกับสมุทรสาคร ที่มีคลองภาษีเจริญเป็นเส้นทางการสัญจรนั้นมีความสะดวก แต่ถ้ามีคลองระหว่างพระนคร สมุทรสงคราม และราชบุรี เชื่อมถึงกัน จะทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น

ต่อมา จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) พระสมุหกลาโหม ณ ขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการขุดคลอง โดยขุดเชื่อมจากแม่น้ำท่าจีน เริ่มจากปากคลองบางยาง ตำบลบางยาง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ไปจนถึงแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

การดำเนินงานครั้งนี้ ใช้งบประมาณราว 1,400 ชั่ง หรือคิดเป็นเงิน 112,000 บาท จนเมื่อขุดคลองสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าเป็นคลองที่มีเส้นตรง ได้รับความสะดวกในการสัญจร จึงพระราชทานนามคลองที่ขุดใหม่นี้ว่า ‘คลองดำเนินสะดวก’ และได้ทำพิธีเปิดใช้คลองนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2411

กาลเวลาผ่านมา คลองดำเนินสะดวก กลายเป็นเส้นทางหลักที่สำคัญของชาวบ้าน โดยมีคลองซอยแยกย่อยออกไปมากกว่า 200 สาย มากไปกว่านั้น ยังเกิดตลาดน้ำดำเนินสะดวก แหล่งทำมาค้าขายของผู้คนในละแวกดังกล่าว จนต่อมากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีผู้มาเยือนมากมาย นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางคลองดำเนินสะดวก ยังเต็มไปด้วยวิถีชุมชนเก่าแก่ วัดวาอาราม และโบราณสถานที่ควรค่าแก่การศึกษา จึงถือได้ว่า คลองดำเนินสะดวก เป็นคลองอีกหนึ่งแห่งที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน

 

ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/คลองดำเนินสะดวก

‘นโยบาย - ค่านิยม - ความเชื่อ' รากลึกแห่ง ‘ความไม่เท่าเทียมทางเพศ’ ในแดนมังกร | LOCK LENS GURU EP.22

 ???? GURU : คุณสรวง สิทธิสมาน นักเรียนไทยในเซี่ยงไฮ้ ที่ผ่านประสบการณ์ใช้ชีวิตในประเทศจีนมานานกว่า 5 ปี

▶️ หัวข้อ : ‘นโยบาย - ค่านิยม - ความเชื่อ' รากลึกแห่ง ‘ความไม่เท่าเทียมทางเพศ’ ในแดนมังกร

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050106

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES 

.

ความเหลื่อมล้ำ​จาก​ ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย​ อ.ต้อม -​ กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง 

คลิปนี้ชวนคิดไปกับเรื่อง 'วัคซีนพาสปอร์ต'​ ที่อาจจะทำให้เกิดชนชั้นใหม่​ แบ่งแยกผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนและยังไม่ได้ฉีด​ จน​อาจจะนำมาสู่​ 'ความเหลื่อมล้ำ'​ บางอย่างทางสังคม

ในประเด็น​ น่าห่วง!! ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ อาจสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ให้แก่โลก’ 
.

.

‘ศรีนวล’ แจงดราม่าติดป้ายคู่ ‘อนุทิน’ ปัดหาเสียง หวังแค่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันฉีดวัคซีน ล่าสุดรื้อป้ายออกแล้ว หวั่นถูกเกมการเมือง-ป้ายแยงตาคนอื่น

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวชี้แจงถึงกรณีการขึ้นป้ายเชิญชวนให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ สันป่าตอง จอมทอง และอ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีรูปของตนกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กระทั่งเป็นที่วิพากษ์ว่า ตนเองทำป้ายนี้ขึ้นมาเพื่อเชิญชวนประชาชนให้มารับวัคซีนกันเยอะ ๆ จะได้หยุดเชื้อเพื่อชาติ

โดยในพื้นที่เขต 8 ประกอบด้วย 4 อำเภอ มีประชากร 1.6 แสนคน มีประชาชนมารับวัคซีนเพียง 1,000 คน ยังไม่ถึง 1% จึงอยากช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนก็เท่านั้น นี่คือสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ และอยากสร้างแรงจูงใจ กรณีที่ใส่รูปนายอนุทินบนป้ายประชาสัมพันธ์ด้วยนั้น เพราะเห็นว่านายอนุทินเป็นรมว.สาธารณสุข ไม่ได้มองเรื่องการหาเสียง ขอย้ำว่าเป้าหมาย คือต้องการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ

และตั้งแต่ติดป้ายประชาสัมพันธ์ไป 7 วัน ตอนนี้ประชาชนมารับวัคซีนทะลุเป้า ชาวบ้านมีความกระตือรือร้นขึ้นมาก ถ้าตนไม่ประชาสัมพันธ์ชาวบ้านก็ไม่รู้ กลัวฉีดแล้วตาย กลัวฉีดแล้วพิการ หรือบางคนคิดว่าการฉีดวัคซีนจะต้องเสียเงินเอง เราประชาสัมพันธ์ตรงนี้เพื่อบอกให้เขารู้ ซึ่งการทำป้ายดังกล่าวเป็นเงินของตนเองทั้งหมดโดยที่นายอนุทินไม่รู้เรื่องด้วย” น.ส.ศรีนวล กล่าว

ทั้งนี้ ป้ายดังกล่าวได้ประชาสัมพันธ์มา 7-8 วันแล้ว และล่าสุดได้เอาออกไปแล้ว เพราะถ้าติดป้ายไว้ต่อไปอาจจะหาย รวมอาจมีการกลั่นแกล้งหรือเล่นเกมการเมือง และกลัวไปแยงลูกตาคนอื่น จึงเห็นว่าควรจะเก็บดีกว่า

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า นอกจากนางศรีนวลแล้ว ยังมี ส.ส. และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกหลายราย มีการติดป้ายที่เป็นภาพตนเองคู่กับนายอนุทิน ในการเชิญชวนให้คนฉีดวัคซีน ซึ่งมีรูปแบบและข้อความคล้ายกัน เช่น นายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 20 พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

กรมการขนส่งทางบก เน้นย้ำประชาชนที่ใช้บริการรถสาธารณะต้องให้ความร่วมมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจล และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่จังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแต่ละจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบัน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระบบขนส่งสาธารณะอย่างเคร่งครัด

กรมการขนส่งทางบก ได้ยกระดับความเข้มข้นมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T-A เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย มาตรการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ entry scan และ exit scan ในรถโดยสารสาธารณะ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ การจัดที่นั่งภายในรถเว้นระยะห่างและต้องมีจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด หรือให้เหมาะสมตามประเภทของพาหนะ ตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา 100% มาตรการเว้นระยะห่าง จัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลสำหรับทำความสะอาดมือ เพิ่มความถี่ในการทำสะอาดพื้นที่สาธารณะตลอดทั้งวัน ให้พนักงานขับรถ ผู้บริการ และผู้โดยสาร ลงทะเบียนเข้าใช้แพลตฟอร์ม “SAVE THAI” และเช็คอิน-เช็คเอาท์ “ไทยชนะ” ทุกครั้งในการเดินทาง โดยในวันที่ 23 พ.ค. 2564 สำนักงานขนส่งจังหวัด เช่น อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน ราชบุรี กำแพงเพชร เชียงราย พังงา พิษณุโลก อุดรธานี ลำพูน กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครราชสีมา อุตรดิตถ์ สระบุรี เลย มุกดาหาร ชัยภูมิ หนองคาย ชุมพร นครสวรรค์ ได้ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่รับผิดชอบ และประชาสัมพันธ์การปฏิบัติตามมาตรการ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด รวมถึงได้ประชาสัมพันธ์พร้อมให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ เพื่อลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้บริการขนส่งสาธารณะตามเจตนารมณ์ของกระทรวงคมนาคม

ในส่วนของการให้บริการที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง มีการปรับรูปแบบดำเนินการแบบ New Normal ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบก แจ้งงดการอบรมและทดสอบ ด้านใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยผู้ขอใบอนุญาตขับรถรายใหม่ให้รอจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ส่วนการต่ออายุใบอนุญาตขับรถสามารถนำผลการอบรมออนไลน์มาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้ โดยจองคิวดำเนินการล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เท่านั้น เพื่อบริหารจัดการจำนวนผู้ใช้บริการภายในสำนักงาน  ตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิประชาชน ก่อนเข้าอาคารสำนักงาน ที่นั่งพักคอยของประชาชนมีการเว้นระยะอย่างเหมาะสม ติดตั้ง Table Shield กั้นระหว่างผู้มาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ พร้อมแนะนำการให้บริการชำระภาษีรถประจำผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดการสัมผัสและไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง เช่น เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ หรือ แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax  ดาวน์โหลดฟรีทั้งระบบปฏิบัติการ iOS: https://apple.co/3iAx6Dd และแอนดรอยด์: https://bit.ly/2XXQLVT
 

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์เปรียบเทียบมุมมองคนจีนว่าทำไมถึงสามารถสร้างอนาคตและรายได้มหาศาลตั้งแต่อายุยังน้อย สะท้อนแก่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการรายได้สูงตั้งแต่แรกเริ่มทำงาน แต่วิถีการดำเนินชีวิตต่างกันลิบลับดังนี้...

จากเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ของนายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า ได้โพสต์เปรียบเทียบมุมมองคนจีนว่าทำไมถึงสามารถสร้างอนาคตและรายได้มหาศาลตั้งแต่อายุยังน้อย สะท้อนแก่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการรายได้สูงตั้งแต่แรกเริ่มทำงาน แต่วิถีการดำเนินชีวิตต่างกันลิบลับดังนี้...

โพสต์ไปตะกี๊เรื่องมุมมองเด็กรุ่นใหม่ (บางกลุ่ม) ฝึกงานก็อยากได้เงินเดือนเยอะ ๆ พอแค่เริ่มทำงานก็อยากได้เงินเดือนแบบผู้บริหาร

เลยขอแชร์เรื่องทำไมเด็กจีนถึงเก่งมาเพื่อเปรียบเทียบ

เด็กจีนมองว่าก่อนอายุ 30-35 ต้องเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวให้มากที่สุด ฝึกงาน อ่าน ดู ศึกษา เรียนออนไลน์ ตั้งกลุ่มคิด เอาทุกอย่างเพื่อจะเตรียมลุยเอง เปิดกิจการ ทำ Startup และ “ล้ม” ให้เจ็บน้อยที่สุดภายในอายุ 35

คนจีนมองว่าคนเก่งต้องเดินเป็นขั้นบันได เรียนรู้แบบบ้าคลั่งเพื่อเตรียมทำ เรียนจากมหาลัย เรียนจากรอบตัว จบแล้วก็ยังต้องเรียน เรียนจากงานจริง ไม่ใช่ไปนั่งเล่น Facebook เล่น IG ที่ทำงาน

เรียนแล้วต้องกล้าทำ คนที่ทำแล้วเก่ง คือมึงต้องเคยล้ม คนไม่เคยล้ม แปลว่าไม่เคยเจอปัญหา จากนั้นเปิดกิจการเองให้ได้ เล็กก็ได้ ใหญ่ยิ่งดีตอนอายุ 40

ออฟฟิศเก่าพี่ เคยมีคนจีนมาทำงานด้วย ส่วนใหญ่จบมหาวิทยาลัยตามปักกิ่ง และเมืองใหญ่อื่น ๆ ขยันขันแข็ง

ตี 1 ตี 2 เวลาเมืองไทย ตื่นมาดู WWDC (การประชุมระดับโลกของนักพัฒนา Apple) โดยไม่ต้องให้ใครสั่ง เพราะอยากติดตามนวัตกรรมฝั่งอเมริกา ตี 4 ค่อยนอนอีกรอบ

9.30 น.มาถึงออฟฟิศอย่างสดชื่น แล้วมาแชร์กันว่าได้อะไรจาก WWDC

ตอนเย็นทานข้าว ทำความรู้จักสังคมไทยให้มาก แล้วเริ่มประชุมอีกครั้ง 4 ทุ่ม เพราะอยากทำงานให้เสร็จ ให้พร้อม เพื่อชนะในวันถัดไป

ถ้าพรุ่งนี้ไม่ชนะ อาทิตย์หน้าต้องชนะ

อาทิตย์นึง จะมีกินเหล้าแบบ “ฉิบหาย” สไตล์คนจีน อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

สั่งเบียร์ทีละลัง เพราะทันใจ เหล้าทีละ 2 ขวด เพราะไม่ชอบเทช้า แต่วันรุ่งขึ้น ส่งงาน ตอบงานใน WeChat ตรงเวลาเป๊ะ

พี่เคยไปทำโครงการที่เซี่ยงไฮ้อยู่ 2 ปี!!

เด็กฝึกงานนั่งอ่านหนังสือ อ่านหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจตอนพัก จนต้องถามว่าอ่านทำไมมากมายขนาดนั้น

เด็กฝึกงานตอบว่า “กลัวไม่เก่ง” ไม่เก่งแล้วเดี๋ยวไม่รวย”

คำตอบโคตรโดน!!

ในเวลาว่าง ในมือเด็กจีน วัยรุ่นจีนจะมี “หนังสือ” ใช่ละครับ คนในประเทศผู้นำดิจิทัล ยังอ่านหนังสือเล่ม ๆ กันทั้งเมือง ร้านหนังสือยังขายดี เพราะ 95% ของหนังสือในร้าน ไม่มีในออนไลน์

มือถือเอาไว้ทำงาน ความฉลาดหาจากรอบตัว รวมถึงหนังสือเล่ม ๆ

หนังสือที่ว่า จะแยกตามความชอบส่วนตัว

ตั้งแต่ Digital, อรรถชีวะประวัติคนเก่ง ๆ ไปจนถึงสถาปัตยกรรมศาสตร์ยุคบาโร้ค

ถ้าไม่เชื่อ ถามใครก็ได้ ว่าเด็กจีน วัยรุ่นจีนยุคใหม่เป็นยังไง?

อยากขับ Porsche เต็มเมืองแบบเค้า ก็ต้องทำให้ได้แบบเค้า

ถ้าอยากให้ตัวเองเจริญ ชาติไทยเจริญ มาช่วยกันสร้างชาติคนไทยขยันกับพี่ น่าสนกว่ามั้ย?

 

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4317070361636402&id=100000004424101


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“อาคม” ตีมึน ไม่ตอบ พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้าน ด้าน “วิษณุ” บอกเที่ยงวันนี้ชัดเจน ส่วน "สุพัฒนพงษ์" ให้รอฟังแถลงหลังครม.

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติพ.ก.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านเป็นวาระลับเมื่อวันอังคารที่ 18 พ.ค. จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยรัฐบาลมอบหมายให้ นายอาคม เติมพิมชัยสิทธิ์ รมว.คลัง เป็นผู้ชี้แรงรายละเอียดแต่เพียงผู้เดียว 

กระทั้งเวลา 08.40 น. ที่ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอาคม ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ความชัดเจน กรณีดังกล่าวโดยชี้นิ้วแสดงท่าทีรีบขึ้นประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อถามย้ำว่าจะชี้แจงเรื่องดังกล่าวเมื่อใด นายอาคม ก็ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด 

ต่อมาเวลา 08.45น. นายวิษณุ เครืองาม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ให้นายอาคม เป็นผู้ชี้แจง เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่านายอาคม ไม่ยอมชี้แจง นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อรมว.คลังไม่พูดตนจะพูดได้อย่างไร เมื่อถามว่า พ.ร.ก.กู้เงิน7 แสนล้าน จะเดินหน้าได้หรือไม่เพราะถูกวิจารณ์จากหลายฝ่าย นายวิษณุ กล่าวว่า พวกคุณวิจารณ์เพราะยังไม่เห็นตัวร่างพ.ร.ก. ขอให้ดูตัวร่างเสียก่อนว่ามันจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อถามว่าจะเปิดเผยได้เมื่อใด นายวิษณุ กล่าวว่า เดี๋ยวฟังคณะรัฐมนตรีวันนี้เที่ยงก็รู้ว่าจะออกมาอย่างไร 

ด้าน​ นายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์มีเชาว์​ รองนายกรัฐมนตรี​ และรมว.พลังงาน​ กล่าว ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี​ (ครม.)​ ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท​ว่า รอฟังแถลงการณ์ก็แล้วกันเมื่อถามว่าในที่ประชุมครม.วันนี้ จะมีการหารือถึงมาตรการเยียวยาประชาชนอย่างไรบ้าง​ นายสุพัฒนพงษ์​ กล่าวว่า หลังการประชุมครม.จะมีแถลง ตนอยู่แถลงด้วย

‘เสกสกล’ โต้ ‘หญิงหน่อย’ ปูด 7 ปี รัฐบาลตู่ ใช้เงิน 20 ล้านล้าน ชี้ ลดงบประจำข้าราชการ-เพิ่มเงินเข้าบัญชีปชช. 14 ล้านคน โว พัฒนาโครงการพื้นฐานในรอบ 50 ปี

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ระบุว่าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่มา 7 ปี ใช้เงิน 20 ล้านล้าน กู้ 4.9 ล้านล้านบาท ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ หยิบประเด็นนี้มาโจมตีเหมือนไม่รู้เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ไปเอายอดวงเงินงบประมาณแผ่นดินแต่ละปีมารวมกันแล้วโจมตี สะท้อนว่าบวกเลขเป็นแต่ไม่ได้ดูว่าประเทศได้ทรัพย์สินอะไรเพิ่มมาบ้างในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศ

นายเสกสกล กล่าวว่า ตัวเลข 20 ล้านล้านบาท ประมาณ 77 เปอร์เซ็นต์ เป็นรายจ่ายประจำ ที่ไม่สามารถนำไปลงทุนทำอย่างอื่นได้ เช่น เงินเดือนข้าราชการ หรือประมาณ 15.7 ล้านบาท ตามโครงสร้างงบประมาณที่รัฐบาลก่อนทิ้งไว้ให้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ พยายามลดสัดส่วนรายจ่ายประจำลง จากเดิมสัดส่วนรายจ่ายประจำเคยสูงถึง 79.2 เปอร์เซ็นต์ ในงบปี 2556 สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ให้เหลือ 76.1 เปอร์เซ็นต์ ในงบประมาณปี 2565 และพยายามลดรายจ่ายประจำในงบประมาณแผ่นดินลง เพิ่มรายจ่ายที่จ่ายตรงเข้ากระเป๋าประชาชน เช่น จ่ายตรงเข้าบัญชี 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตัดหัวคิว ตัดวงจรทุจริต ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก้ปัญหา เพิ่มสิทธิ์ เพิ่มวงเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด-คนชรา-คนพิการ-เบี้ยตอบแทนอสม.เป็นต้น

นอกจากนั้นยังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ เช่น รถไฟฟ้า 9 สาย ระยะทาง 327 กม. เปิดบริการแล้ว 3 สาย คือ สายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีทอง และทยอยเปิดอีก คือ สายสีแดง สายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีส้ม รถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง ที่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้พัฒนา เปิดใช้ช่วงจิระ-ขอนแก่น 187 กม. ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอย 106 กม. รถไฟความเร็วสูงอีก 2 สายที่กำลังสร้าง คือ หนองคาย-กทม (ช่วง กทม - โคราช) และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 

สถานีกลางบางซื่อถูกยกระดับการพัฒนาให้ใหญ่ที่สุด ทันสมัยที่สุดในอาเซียน ที่เตรียมเปิดให้บริการในเร็วๆนี้ ถนนมอเตอร์เวย์อีก 3 สายกำลังสร้าง คือ บางปะอิน-โคราช. บางใหญ่-กาญจนบุรี และล่าสุด พัทยา- มาบตาพุด สนามบินเบตง รอเปิดใช้ และสนามบินต่างจังหวัดได้รับการพัฒนา สร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ เช่น ขอนแก่น เมืองคอนฯ เรือสมาร์ท เฟอร์รี่ เจ้าพระยา เรือไฟฟ้าคลองผดุงฯเป็นต้น 

นายเสกสกล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มงบรายหัวให้ทุกปี เพราะเห็นความสำคัญของชีวิตประชาชน พัฒนาต่อยอดไปไกลกว่ายุคคุณหญิง เคลมเป็นผลงานอยู่ตลอด ปีนี้เพิ่มเป็น 3,853 บาทต่อหัว (สมัยคุณหญิงเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข งบรายหัวแค่พันกว่าบาท) ที่สำคัญ ยุคนี้เพิ่ม 50 สิทธิ์ UCEP 1669 รักษาทันที ทุกที่ทุกโรงพยาบาล ฟรี 72 ชั่วโมง ยกระดับอสม.(อาสาสมัครสาธารณสุข)งบเพื่อการสาธารณสุขในงบประมาณปี 65 สูงกว่า งบทหารเกือบแสนล้านบาท หากไม่เพราะความรักความจริงใจต่อประชาชน ฝีมือการบริหารจัดการของพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีทีมเศรษฐกิจ ทีมที่ปรึกษามืออาชีพ  

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าคุณหญิงฯคิดแต่จะโจมตีทางการเมือง จำได้หรือไม่ว่าก้อนแรกที่พล.อ.ประยุทธ์ใช้ คือ จ่ายหนี้ค่าข้าวชาวนา 9 หมื่นล้านบาท ให้ธกส. ใช้คืนหนี้จำนำข้าวไปแล้วกว่า 7 แสนล้านบาท ตอนนี้เหลืออีก 2.8 แสนล้านบาท ภาระที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทิ้งไว้ นักการเมืองที่โกงจำนำข้าวอยู่ในคุก บางคนหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ในงบปี 65 ที่จัดสรรงบเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้มากที่สุดกว่ายุคไหน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว เพื่อให้การบริหารจัดการมีวินัยทางการเงินการคลัง ในภาวะบ้านเมืองแบบนี้ อยากขอร้องให้ลดอคติ ลดอัตตา ลดความอยากจะเป็นนายกฯ มาเริ่มต้นเป็นพลเมืองดี เพื่อช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองให้ผ่านวิกฤตโควิดครั้งนี้ แล้วสร้างอนาคตร่วมกันกับพล.อ.ประยุทธ์ และประชาชนคนไทย จะดีกว่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top