Friday, 27 June 2025
TheStatesTimes

ยะลา – บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจ สื่อมวลชน ในพื้นที่อำเภอเบตง ฉีดวัคซีนซิโนแวคกันโควิด-19 เข็มแรก

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา  แพทย์หญิงปัทมพันธ์  อนันตาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง  นายวงศ์วิทย์  อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง นำสื่อมวลชนใน อ.เบตง จ.ยะลา รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร นำโดย พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตงและ  ร.อ.เอกชัย ชัยสาลี ผู้บังคับกองร้อย ป้องกันชายแดนที่ 4  นำกำลังพลชุดเฝ้าตรวจชายแดน เข้ารับวัคซีนซิโนแวคป้องกันโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่และประชาชน กลุ่มเสี่ยง มารับการฉีดวัคซีนในวันนี้จำนวน 240 คน

ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนขาวอำเภอเบตงทุกท่านได้ร่วมมือร่วมใจกันมา ลงทะเบียนจองวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ต่อต้านกับไวรัสโควิด -19 และเมื่อวัคซีนมาถึงก็จะได้รับการฉีดวัคซีนกันทุกคน โดยขณะนี้ได้เปิดจองในกลุ่มของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ซึ่งสามารถลงทะเบียนจองได้แล้วถึง 31 พฤษภาคม 2564 ตาม 4 ช่องทางที่สะดวก ประกอบด้วย รพ. ที่ท่านมีประวัติการรักษา อสม. รพ.สต. ใกล้บ้าน ไลน์หมอพร้อม และ QR-code ชาวยะลาจองวัคซีนโควิด-19 ทั้งนี้เพื่อตนเองครอบครัวและคนที่เรารักตลอดจนเพื่อจังหวัดยะลาของเรา

ขณะที่ ในส่วนประชาชนทั่วไปที่กลุ่มอายุ 18-59 ปี และสนใจในการฉีดวัคซีนนั้น ขณะนี้ทางจังหวัดยะลาก็ได้เปิดจองแล้วเช่นกัน ซึ่งสามารถจองได้ 3 ช่องทาง คือ รพ. รพ.สต. คลินิกหมอครอบครัวใกล้บ้าน อสม. และ QR-code ชาวยะลาจองวัคซีนโควิด-19  ยกเว้นไลน์หมอพร้อม  นอกจากนี้ รพ.ทุกแห่งในจังหวัดยะลา ก็ยังได้เปิดสายด่วนจองวัคซีนโควิด- 19 แล้วก็สามารถโทรจองและสอบถามรายละเอียดได้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ อสม. จิตอาสา ที่จะลงพื้นที่ไปเคาะประตูบ้านของพี่น้องประชาชนและบริการจองถึงหน้าบ้าน

อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่ดีที่สุดคือการฉีดเข้าร่างกายเร็วที่สุด โควิด -19 จะป่วยหรือตาย วัคซีนจะช่วยลดการป่วยและรอดจากการเสียชีวิต จองก่อนได้สิทธิ์ฉีดก่อน ถึงเวลาช่วยชาติ เป้าหมายคือ ยะลาต้องชนะ คนยะลาต้องปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

งานนี้ CP ไม่เกี่ยว! ปัดเอี่ยวรัฐบาล ซื้อ 'ซิโนแวค' เล็งเอาผิด หากพบคนบิดเบือนข้อมูล

CP ออกแถลงการณ์แจงไม่เกี่ยวข้องกรณีรัฐบาลสั่งซื้อวัคซีน 'ซิโนแวค' ชี้เป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ ยืนยันไม่ได้ถือหุ้น 15% ขู่เอาผิดคนบิดเบือนข้อมูล

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ออกแถลงการณ์ชี้แจงเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2564 ระบุว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อวัคซีน Sinovac ของรัฐบาล ทั้งทางตรงและทางอ้อม

เนื่องจากปัจจุบันปรากฏข่าวสารสับสนเกี่ยวกับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ทางโลกออนไลน์ โดยระบุว่า

1.) ซีพีถือหุ้นซิโนแวค 15% และ

2.) ซีพีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อวัคซีนซิโนแวคของรัฐบาลนั้น เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ขอแจ้งให้ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้

1.) การจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค เป็นแบบรัฐบาล ต่อรัฐบาล (G2G) เท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับซีพี ทั้งทางตรง และทางอ้อม

2.) เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น บริษัทซิโนแวค 15% ตามที่เป็นข่าว โดย

ข้อเท็จจริง ผู้ลงทุน คือ Sino Biopharmaceutical ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของจีน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยในบริษัท Sino Biopharmaceutical นี้ เท่านั้น

ข้อเท็จจริง ผู้ขายหุ้น คือ Sinovac Life Sciences เป็นบริษัทลูกของบริษัท ซิโนแวค ต้องการระดมทุน เพื่อต้องการขยายกำลังการผลิตวัคซีนซิโนแวค

ข้อเท็จจริง Sino Biopharmaceutical เข้าไปถือหุ้นใน Sinovac Life Sciences จำนวน 515 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 15.03% ถือเป็นการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเอง โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีหุ้นใด ๆ และไม่ได้มีสิทธิการเป็นเจ้าของ ในบริษัท Sinovac Life Sciences ใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อยใน Sino Biopharmaceutical ที่เข้าไปลงทุนผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ไม่มีสิทธิในการบริหารและแทรกแซงการตัดสินใจใด ๆ ใน Sinovac

และเครือเจริญโภคภัณฑ์ขอยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม กับการสั่งซื้อวัคซีน Sinovac ของรัฐบาล เข้ามาในประเทศไทยอย่างที่เกิดการบิดเบือนในสื่อออนไลน์แต่อย่างใด ทั้งนี้ หากพบว่า ยังมีการเจตนานำข้อมูลไปบิดเบือน และ สร้างความเสียหาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ผช.ผบ.ทบ.ลงพื้นที่มอบนโยบายสกัดกั้นโควิดสายพันธุ์แอฟริการะบาดที่เกาะสะท้อน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 พ.ค. 64 พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผช.ผบ.ทบ.และคณะ เดินทางมายังด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมประชุมร่วมกับนายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 50 คน เพื่อมอบนโยบายเพิ่มเติมในการสกัดกั้นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้ แพร่ระบาดในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ เพื่อไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง

โดย พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้บรรยายสรุปถึงแนวทางการป้องกันสกัดกั้นตามแนวชายแดน ซึ่งมีทั้งทางน้ำ ทางบกและทางอากาศ พร้อมได้มีการบูรณาการร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อสม.และชรบ. ในการตั้งด่านโควิดตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะผ่านไปมาของแต่ละหมู่บ้านทั้ง 9 หมู่บ้าน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน คือ โซนชั้นนอก ชั้นกลางและชั้นใน เพื่อให้พื้นที่แต่ละหมู่บ้านของ ต.เกาะสะท้อน มั่นใจว่าจะไม่มีเชื้อไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ มาแพร่ระบาด จากการลักลอบเดินทางเข้าตามช่องทางธรรมชาติของชาวบ้านเป็นการเพิ่มเติม

ด้านนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส ได้บรรยายสรุปถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่โดยภาพรวมของ จ.นราธิวาส ยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ในเบื้องต้นมาจากครอบครัวของชาวบ้านในพื้นที่ ม.9 ต.เกาะสะท้อน ที่ภรรยาและบุตรเป็นชาวมาเลเซีย ได้ลักลอบข้ามแดนมาให้สามีและพักอาศัยอยู่เป็นเวลา 1 เดือน จึงทราบว่าติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญชาวบ้านในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน ส่วนใหญ่จะไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ที่ไม่ให้ความสำคัญต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากนัก เพราะถือว่าเมื่อติดเชื้อรักษา 14 วันก็หายเป็นปกติ

ด้าน พล.อ.พรศักดิ์ พลูสวัสดิ์ ผช.ผบ.ทบ. ได้กล่าวชี้แนะแนวทางในการปฏิบัติพอสรุปใจความว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ เมื่อเรารู้ว่าคนเป็นผู้นำพาหะเข้ามาแพร่ระบาด เราก็ต้องใช้คนเป็นผู้สกัดกั้นถึงจะสำเร็จ คือต้องจี้ที่ตัวบุคคลกรหรือชาวบ้าน อย่างเช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.หรือนายก อบต.เพราะเขาเป็นคนในพื้นที่หมู่บ้านนั้น ๆ หากให้ความสนใจอย่างจริงจัง ต้องทราบว่า ชาวบ้านคนใดแอบลักลอบนำพาเครือญาติลักลอบข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องทราบ เนื่องจากพื้นที่ตามแนวชายแดนส่วนใหญ่ทั้ง 2 ฝากฝั่งจะมีเครือญาติอาศัยอยู่ทั้งนั้น จุดนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ พูดแบบบ้าน ๆ คือต้องเคี่ยวเอาจริงเอาจังกับชาวบ้าน อย่างน้อยก็ไม่กล้าที่จะลักลอบนำพาข้ามแดนแล้วการแพร่ระบาดของเชื้อจะค่อย ๆ คลี่คลายจนกลับคืนสู่สภาวะปกติ


ภาพ/ข่าว  นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

ชุมพร - ระบาดหนัก 3 อำเภอ โรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease)

วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.30 น. นายสัตวแพทย์พิชัย โพธิ์กระสังข์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ กล่าวว่า ท่านธงชัย หนังสือ ปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ได้สั่งการให้ผมได้นำคณะลงพื้นที่บ้านนาย สุรชัย อินทจักร 52 หมู่ที่ 5 ตำบล ตากแดด อำเภอ เมืองชุมพร พร้อมกับ นายพรชัย อินทร์คำดี หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชุมพร สัตวแพทย์หญิงกิจตาภรณ์ แสงจันทร์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์ อิสมาแอล ยุมาดีน นายสัตวแพทย์ประจำหน่วย HHU จังหวัดชุมพร พบ มีวัวจำนวน 8 ตัว มีแม่วัว 1 ตัว มีอาการขาบวมและเป็นตุ่มตามผิวหนังจึงทำการรักษาตามอาการ และทำการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจหาโรค โรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) โดยจะได้รับผลการตรวจอีก 3-5 วัน ในวันนี้ได้ทำการฉีดพ้นยาฆ่าแมลงในเบื้องต้น

จากรณีดังกล่าว นายสัตวแพทย์พิชัย โพธิ์กระสังข์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ กล่าวว่า ในการแพร่ระบาดของโรค“ลัมปี สกิน” โค กระบือ เป็นการแพร่ระบาดของไวรัส“ลัมปี สกิน” ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ ที่มี แมลงดูดเลือด ได้แก่ยุง แมลงวัน เหลือบ และเห็บ เป็นพาหะนำโรค และไม่มีการแพร่ระบาดมาสู่คน   ได้ประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่เลี้ยงโค-ควาย ให้เฝ้าระวัง ซึ่งจะมีผล เช่น น้ำนมลดลง(สูงสุดถึง 40%) ส่วนโคขุนจะมีอัตราการเจริญเติบโตต่อวันลดลง(ในระยะเวลา 1-2 เดือนช่วงที่เป็นโรค) และหากโคมีอายุน้อยถ้ามีอาการรุนแรงก็คือการเสียชีวิตในที่สุด และในพื้นที่ทีมีการแพร่ระบาดใน 3 พื้นที่ของจังหวัดชุมพร เช่น อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว และ อำเภอเมือง ทั้งนี้ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพรก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหมดแล้วเป็นการหยุดยังในการแพร่ระบาดของโรค  ไม่ให้การแพร่ระบาดเป็นวงกว่างจนไปถึง 14 จังหวัดภาคใต้ได้

กรณีทำการรักษาโคที่ป่วยก็มักหายช้า ดังนั้น จึงขอให้ผู้เลี้ยงใช้มาตรการป้องกันที่แนะนำดังนี้คือ 1.ให้งดนำเข้าวัวหรือควายจากต่างพื้นที่เข้าฟาร์มโดยเด็ดขาด  2. ให้กำจัดแมลงดูดเลือดในฟาร์มโดยการพ่นสารกำจัดแมลงที่คอกและตัวสัตว์ เช่น สารไซเปอร์เมทริน สารแอลฟ่าไซเพอร์เมทริน สารเดลตาเมทริน หรือ สารอะมิทราซ ซึ่งค่อนข้างมีความปลอดภัยและไม่ตกค้างในน้ำนม หรือใช้หลอดไฟไล่แมลง หรือก่อกองไฟ ไล่แมลง 3. เมื่อพบโคที่สงสัยว่าจะเป็นโรค “ลัมปี สกิน” ก็ให้รีบแจ้งหมอหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทราบเพื่อจะได้เข้าไปดูแล เพื่อวินิจฉัยควบคุมโรค   หากพบวัว - ควาย ที่สงสัยว่าจะเป็นโรค “ลัมปี สกิน”  ก็ควรรีบแยกสัตว์ตัวนั้นออกจากฝูง แล้วแจ้งให้ปศุสัตว์เข้ามาควบคุมโรค และผู้เลี้ยงควรกำจัดแมลง

นายพรชัย อินทร์คำดี กล่าวว่า จังหวัดชุมพรพบการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค กระบือในพื้นที่ อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว และอำเภอเมืองชุมพร เกิดขึ้นในสัตว์ชนิดโคเนื้อ อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคในพื้นที่ดังกล่าวเป็นวงกว้างมาขึ้น เนื่องจากโรคนี้มี แมลงดูดเลือด ได้แก่ยุง แมลงวัน เหลือบ และเห็บ เป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ และการเคลื่อนย้ายโค กระบือมีชีวิตจากพื้นที่เกิดโรคไปยังพื้นที่อื่น จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไปยังท้องที่จังหวัด อื่น ๆ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค และกระบือเป็นอย่างมาก จังหวัดชุมพร จึงออกประกาศ 1ให้ท้องที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอในจังหวัดชุมพร เป็นเขตโรคระบาด ชนิดโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) ในสัตว์ชนิดโค และกระบือ 2 ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ หรือซากสัตว์ ภายในเขตโรคระบาดเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่ประจำเขต ประกาศ ณ วันที่ 21พฤษภาคม 2564 โดย นายสัมฤทธิ์ กองเงินรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ทางด่านกักกันสัตว์ชุมพร  จึงจัดกำลังลงตรวจสอบ 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease) อย่างเต็มกำลังต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

'ทิพานัน' ยัน 'บิ๊กตู่' กู้มาแก้ปัญหาตรงจุด ครอบคลุมทุกมิติ ย้อนแสบทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ไม่ละอายแก่ใจ สมัย 'ยิ่งลักษณ์' ไร้วิกฤตใด ๆ ยังสร้างหนี้ล้น ทั้ง 'จำนำข้าว-เอื้ออาทร' เสียหายเกินล้านล้านบาท ทิ้งภาระให้ลูกหลานตามใช้หนี้อีก 12 ปี

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศ 7 ปี ดีแต่กู้ หากไม่เปลี่ยนผู้นำประเทศลงเหวว่า...

การแสดงความเห็นของ น.ส.ตรีชฎา สะท้อนมาตรฐานของทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยที่ค่อนข้างตกต่ำ ด้วยเป็นการวิจารณ์โดยไม่มีฐานข้อมูลรองรับที่ถูกต้องนั่งเทียนด้วยอคติ ด้วยในความเป็นจริงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกประสบปัญหาเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยกลับยังรักษาอันดับความน่าเชื่อถือไว้ได้

โดยจากการจัดอันดับเครดิตขององค์กรชั้นนำระดับโลก ทั้ง S&P Moody's และ Fitch ได้มีเกณฑ์ในการพิจารณาจากเงินสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงเสถียรภาพทางการคลังและวินัยทางการคลัง

ส่วนเหตุผลที่ต้องกู้เงินนั้น ก็เพื่อใช้เป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข มาตรการช่วยเหลือเยียวยาต่าง ๆ จากผลกระทบโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง, เราชนะ, ม.33เรารักกัน, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, เกษตรกร เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนฐานราก ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการรายย่อย

มาตรการพักหนี้ที่ออกมาช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจรายย่อย เพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่ไม่มีสินทรัพย์และรายได้ที่มั่นคงต้องการเข้าถึงเงินกู้ ลดการกู้หนี้นอกระบบ และแก้ปัญหาภาระดอกเบี้ยจากการผิดนัดชำระ การจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน

นอกจากนี้ ยังลดค่าน้ำ-ค่าไฟด้วย รวมทั้งยังใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนการส่งออก การท่องเที่ยว และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าใช้จ่ายเงินกู้นั้นตรงจุดและครอบคลุมปัญหาในทุกมิติ ไม่ได้ไร้ทิศทางอย่างที่ น.ส.ตรีชฎา พยายามบิดเบือนให้ร้าย

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า เมื่อต้องเผชิญการแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เพิ่มเติมอีก 7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเพดานที่ภาคเอกชนเรียกร้องให้กู้ถึง 1 ล้านล้านบาท โดยนำมาใช้แก้ปัญหาการระบาดระลอกใหม่ให้กับสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้กับประชาชน และผู้ประกอบการ รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจ

แต่สิ่งที่ น.ส.ตรีชฎา หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงก็คือ ความแตกต่างกันระหว่างการกู้เพื่อแก้วิกฤตกับการกู้เพื่อโครงการทุจริต ภาระหนี้ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทิ้งเอาไว้จากการขาดทุนโครงการจำนำข้าวที่ทำให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ต้องมีภาระชดใช้หนี้ให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากว่า 7 แสนล้านบาท และยังต้องตั้งบประมาณชดใช้ไปอีก 12 ปี รวมแล้วกว่า 1 ล้านล้านบาท ไม่รวมกับภาระหนี้จากโครงการบ้านเอื้ออาทรกว่า 2 หมื่นล้านบาท ไม่รวมหนี้เน่าและความเสียหายจากโครงการที่สร้างแล้วขายไม่ได้หลายหมื่นยูนิต รวมถึงภาระค่าบำรุงรักษาซ่อมแซมซึ่งก็กลายมาเป็นภาระของรัฐบาลนี้ทั้งสิ้น ทั้งที่เป็นการบริหารในสถานการณ์ที่ปกติ ไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 หรือวิกฤตใด ๆ

“ไม่รู้ว่า น.ส.ตรีชฎากล้ายกเอาการบริหารในยุคของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาบลัฟ พล.อ.ประยุทธ์ได้อย่างไร โดยไม่ละอายแก่ใจ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศในสถานการณ์ปกติ ไม่มีวิกฤตใด ๆ แต่กลับสร้างหนี้ไว้มากมายตกเป็นภาระคนไทยทั้งชาติตามใช้หนี้เกือบ 20 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนรู้ดีโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยว่านโยบายต่าง ๆ นั้น อยู่ภายใต้สโลแกน ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ ดังนั้นที่ น.ส.ตรีชฎาแนะนำให้เอาวิธีคิดของนายทักษิณมาเป็นแนวทางให้รัฐบาลปฏิบัตินั้น เมื่อดูตัวอย่างผลงานสร้างหนี้ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้ว ก็คงไม่มีใครเดินตาม เพราะไม่น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ” น.ส.ทิพานัน กล่าว


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ผู้ใหญ่ถูกเสมอ | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.16

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 

.

.

.

'จีน' ฉีด 2 วัคซีนหลัก ให้ปชช. ยันใช้ทั้ง Sinopharm - Sinovac

รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ไขข้อข้องใจว่าประเทศจีนฉีดวัคซีนอะไรกันแน่ โดยระบุว่า ทางการจีนใช้วัคซีน 2 ยี่ห้อหลัก นั่นคือ Sinopharm และ Sinovac ฉีดให้ปวงชนชาวจีน ซึ่งจะเลือกยี่ห้อไม่ได้ และตอนนี้จีนระดมฉีดไปแล้ว 497.27 ล้านโดส !!

“คุณหมอชื่อดัง ศาสตราจารย์จง หนานซาน ท่านได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อ Sinovac นะคะ แล้วผลการพิจารณารับรอง Sinovac ของ WHO ก็ coming soon”

สำหรับ Sinopharm อีกยี่ห้อดังของจีนก็แว่วมาว่า กำลังยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทยแล้ว มีคนไทยถามหา Sinopharm กันเยอะ

สื่อจีน มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้คนจีนเข้ารับการฉีดวัคซีน จนทำสถิติมากที่สุดในโลกด้วยนะคะ ‘สังคมไร้ดราม่าพาชาติวิ่งฉิว’

ถ้าสนใจเบื้องหลังวัคซีนแดนมังกร ไขคำตอบคนจีนฉีด Sinopharm หรือ Sinovac กันแน่ !! อ่านบทสัมภาษณ์ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น โดยไทยรัฐออนไลน์ ได้ที่นี่ค่ะ

https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2092617

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10223327903319301&id=1037140385


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

สมาคมธนาคารไทย ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อฟื้นฟู 6 เดือน 1 แสนล.

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธนาคารต่าง ๆ กำลังเร่งพิจารณาคำขออนุมัติสินเชื่อที่สามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้จะเห็นยอดตัวเลขสินเชื่อฟื้นฟูเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นไปตามเป้า 1 แสนล้านบาท ใน 6 เดือนแรก

“แม้ระยะเวลาที่เปิดให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการไม่นานนัก เพียงแค่ 3 สัปดาห์ ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อฟื้นฟูไปแล้ว 15,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ SMEs 5 พันกว่าราย ซึ่งจำนวนนี้เป็นการช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมกับธนาคาร ทั้งรายเล็ก กลาง และใหญ่ ครอบคลุมทุกธุรกิจทั่วประเทศ”

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทย ยังได้ร่วมมือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยขอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวบรวมรายชื่อข้อมูลของผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อเสริมสภาพคล่องและหาแนวทางข้อสรุปในการช่วยเหลือแต่ละราย ซึ่งสมาคมธนาคารไทยจะได้ส่งต่อให้กับธนาคารสมาชิกต่อไป

นอกจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว ยังมีอีกมาตรการที่ผู้ประกอบการธุรกิจให้ความสนใจอย่างมาก คือ โครงการพักทรัพย์พักหนี้ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ปรกอบธุรกิจสามารถหยุดการดำเนินกิจการชั่วคราว เพื่อรอเศรษฐกิจฟื้นตัวโดยไม่สูญเสียกิจการไป แต่เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือนี้เป็นเรื่องใหม่ มีรายละเอียดเงื่อนไขเฉพาะธนาคาร มีกระบวนการค่อนข้างซับซ้อน ต้องอาศัยความเข้าใจและความเห็นชอบของลูกหนี้และเจ้าหนี้ อีกทั้งยังมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับภาษี ค่าธรรมเนียมในการโอนทรัพย์เพื่อพักชำระหนี้ ซึ่งต้องอาศัยระเบียบวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันถึงแก่อสัญกรรมของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย

พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2463 สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ก่อนจะมาศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7-8 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จากนั้นจึงเข้าศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้าต่อ ในปี พ.ศ.2479

พลเอก เปรม เริ่มต้นรับราชการทหารที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนจะได้รับทุนไปศึกษาต่อที่โรงเรียนยานเกราะของกองทัพบกสหรัฐ แล้วจึงกลับมารับตำแหน่งรองผู้บัญชาการโรงเรียนยานเกราะ ต่อมาในปี พ.ศ.2516 ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 และก้าวสู่การเป็นผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ.2521

พลเอก เปรม เข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ.2520 และหลังจากที่พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ลาออกจากตำแหน่ง สภาผู้แทนราษฎรได้ทำการหยั่งเสียงเพื่อหาผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่ได้เลือก พลเอก เปรม เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2523 โดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศไทย

พลเอก เปรม ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 8 ปี (พ.ศ.2523-2531) ถือเป็นนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานเป็นอันดับที่ 3 โดยมีผลงานสำคัญมากมาย อาทิ การปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรและกฎหมายสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม หรือการนำนโยบาย ‘การเมืองนำการทหาร’ มาใช้จนเป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อ่อนกำลังลงและสลายตัวไปในที่สุด

หลังก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรมได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี และเป็นประธานองคมนตรีในเวลาต่อมา รวมทั้งได้รับการโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็น รัฐบุรุษ อีกด้วยเช่นกัน 

พลเอก เปรม มีอาการป่วยด้วยระบบหัวใจล้มเหลว และถูกนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2562 สิริอายุ 98 ปี 

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบ 2 ปีของการถึงแก่อสัญกรรม ประชาชนชาวไทยยังคงระลึกถึงผลงานและความสามารถของอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่เสมอ

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เปรม_ติณสูลานนท์


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

"ชินวรณ์" เผย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านเข้าสภาหลังเสร็จ พ.ร.บ.งบ 65 ย้ำ สภามีมาตรเข้มป้องโควิด

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลเมื่อวานนี้ ได้หารือกันว่าเมื่อรัฐบาลให้ดำเนินการพ.ร.ก.เงินกู้เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทแล้ว เมื่อรัฐบาลมีความพร้อมก็ต้องส่งมาที่สภา และสภาก็ต้องบรรจุวาระแรกอีกครั้ง แต่เนื่องจากสภาได้กำหนดระเบียบวาระไว้ก่อนแล้ว ในเรื่องพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และพ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 27-28 พ.ค. ส่วนวันที่ 31 พ.ค. ถึงวันที่ 2 มิถุนายน เป็นระเบียบวาระเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ฉะนั้นรัฐบาลจะเสนอพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านได้ก็ต้องผ่านพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ไปก่อน ซึ่งเมื่อรัฐบาลได้เสนอพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านเข้ามาแล้ว โดยกฎหมายรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติไว้ชัดเจนว่าประธานสภาจะต้องนำเข้าบรรจุต่อไป 

“พ.ร.ก.เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้เลย ซึ่งพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านนั้นยังไม่ได้ส่งมาที่สภา มีผลตามที่คาดกันว่านำไปมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาโควิด 3 หมื่นล้านที่เหลืออีก 2 หมื่น 7 พันล้านนำไปฟื้นฟูเยียวยาด้านเศรษฐกิจ ส่วนที่เหลือจะนำไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโควิดที่จะเกิดขึ้นต่อไป” นายชินวรณ์ กล่าว 

เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ เพราะมีคนงานติดเชื้อมาทำงานที่รัฐสภา แต่รัฐสภายังคงเดินหน้าประชุมต่อ นายชินวรณ์ กล่าวว่า มีการป้องกันโควิด-19 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทางเลขาธิการสภาฯ ได้ยืนยันว่ามีมาตรการเคร่งครัด ทั้งในส่วนของส.ส. คนใดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เลขาธิการสภาก็จะดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้ฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในการประชุมเรื่องพ.ร.ก.ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งต้องพูดในที่นั่งของตนเองได้ แต่ในการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณฯ จะจัดโพเดียมสำหรับพูดอภิปรายฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างละ 1 ที่ ในส่วนของข้าราชการ สื่อมวลชน ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค. 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top