Friday, 27 June 2025
TheStatesTimes

"แรมโบ้" ย้อน "อ๋อย" สนุกมากนักหรือโพสเฟซบุ๊กให้ข้อมูล ปชช.สับสนข้อมูล-เกลียดชังรบ.ถ้าคิดได้แค่นี้คงหวังเป็นนักการเมืองน้ำดีไม่ได้

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีน ที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนแต่บางโรงพยาบาลไม่มีวัคซีน โดยเรื่องนี้ได้มีการชี้แจงจากนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่าจากสถานการณ์ การระบาดที่กระจายวงกว้างมากขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับแผนกระจายวัคซีน เพื่อให้สามารถฉีดแก่ประชาชนได้มากขึ้น และเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน 

นายเสกสกล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังให้ความมั่นใจแล้วว่าบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า จะส่งวัคซีนตามข้อกำหนด โดยสัญญาระบุว่าหากวัคซีนที่ผลิตในไทยยังจัดส่งไม่ได้ก็ต้องจัดหามาจากแหล่งผลิตอื่นส่งให้ไทย และยืนยันมีวัคซีนฉีดให้กับประชาชนตามกำหนดแน่นอน ขณะเดียวกันประเทศไทยยังจะมีวัคซีนเข้ามาอีกหลายยี่ห้อเพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกได้ฉีดให้มากที่สุด 

นายเสกสกล กล่าวว่า แม้การฉีดวัคซีนอาจจะติดขัดอยู่บ้าง แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจในการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล ว่าจะทำให้ดีที่สุดและให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนทุกคน ซึ่งตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปก็จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาฉีดให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากแล้ว พร้อมขอนายจาตุรนต์ อย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมืองมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล เอาเวลามาทำงานเพื่อบ้านเมืองจะดีกว่า ถามจริงนายจาตุรนต์ สนุกมากนักหรือกับการโพสต์ในเฟสบุ๊กให้ประชาชนสับสนข้อมูลและเกลียดชังรัฐบาล

"รัฐบาลมีการปรับแผนให้เกิดความเหมาะสม พอมีช่องว่างการปรับแผนอะไรขึ้นมาหน่อยนายจาตุรนต์จะเสียบทันที เอามาเป็นประเด็นโจมตี ตนเชื่อแล้วแหละว่าช่วงนี้นายจาตุรนต์คงว่างงาน สมองก็เลยว่างไปด้วย คงจะถือสาหาความอะไรไม่ได้ จากคนที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีมาแล้ว ถ้าคิดได้เพียงแค่นี้ ก็คงต้องให้อภัยกัน ถือเสียว่าภาพความเป็นนักการเมืองที่ประชาชนคาดหวังจะเป็นนักการเมืองน้ำดีมีคุณภาพ คงหวังไม่ได้เสียแล้ว น่าเสียดายที่สุด" นายเสกสกล กล่าว

"อนุชา" ท้า ยกเงินเดือน 5 เดือน ตามหาคนใส่ไฟ ยัน ทีมงานไม่เคยกร่างใส่ใคร ชี้ มีผู้ไม่หวังดีเล่นเกมการเมืองหวังเลื่อยขาเก้าอี้ เชื่อ สื่อฯรู้ตัวคนปล่อยข่าว

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณีที่มีรายงานข่าวระบุว่า ผู้ติดตามของรัฐมนตรีบางคน ทำตัวไม่เหมาะสมโดยเบ่งใส่แพทย์และพยาบาลระหว่างการฉีดวัคซีนที่รัฐสภาว่า ได้พูดคุยกับผู้ติดตามทุกคนแล้วทุกคนไม่ทราบเรื่อง และในวันที่ 23 พ.ค. ที่ระบุตามกระแสข่าว ไม่มีทีมงานของตนอยู่ที่รัฐสภา 1 ล้านเปอร์เซ็นต์ 
  
"หากทีมงานของผมเป็นแบบนั้นจะตัดปากทิ้ง และให้ไปกราบเท้าขอโทษและจะไปอยู่ที่ไหนก็เชิญ ผมไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่มีทีมงานของตนอยู่ที่นั่นแน่นอน หากใครไปคุยกับคุณหมอ และพบว่าเป็นทีมงานของผม ผมจะให้เงินเดือนของตัวเอง 5 เดือนเป็นรางวัลไปเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามรายงานระบุชัดเจนว่าเป็นทีมงานของนายอนุชา โดยนายอนุชากล่าวว่าตนไม่ทราบใครให้ข่าว ถ้าเราบอกว่าใครอย่างไร ตนก็บอกว่าไม่ใช่ แต่ถ้าใช่เป็นรางวัลให้ ทีมงานเรามีแต่ช่วยเหลือ และให้กำลังใจแพทย์ เพราะตนทำงานร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ และ ทีมงานตนได้นำภาพการทำงานของแพทย์ที่ทำงานในสถานการณ์โควิดออกมาสู่สังคมเพื่อให้รับรู้ว่าบุคคลกรทางแพทย์มีความเสียสละอย่างยิ่ง และต้องตรากตรำทำงานห้ามรุ่งห้ามค่ำเพื่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับทีมงานของที่มาของข่าวนี้หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ทราบว่ามาได้อย่างไร เพราะปัจจุบันมีผู้ไม่หวังดีกับตนพอสมควร ใครที่ควรจะมีวิสัยอย่างนั้นก็อ่านเอาเอง เมื่อถามย้ำว่าคนไม่หวังดีที่ระบุนั้นเป็นคนใกล้ตัวหรือไกลตัว นายอนุชากล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่าพวกเรารู้อยู่ในใจ   

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเฉพาะเจาะจงมาที่เลขาธิการพรรคพปชร. นายอนุชากล่าวว่า ไม่ทราบ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามหาคนปล่อยข้อมูลนี้ออกมา และพวกเราช่วยกันตาม จะได้ทราบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์เป็นเช่นใด ยืนยันว่าทีมงานของตนไม่มีทางที่จะไปก้าวล่วงบุคคลากรทางการแพทย์แน่นอน

เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าการปล่อยข่าวเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ก็น่าจะ แล้วนำชื่อตนไปกล่าวถึงได้อย่างไร ใครเป็นคนเอาชื่อตนไป ถ้าเอาไปจะต้องมีมูล และใครที่ให้ข่าวจะต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคม ไม่ใช่ปล่อยมาเป็นข่าวลอยแบบนี้  และตนก็คิดว่าสื่อมวลชนเข้าใจ 

เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการพยายามเลื่อยขาเก้าอี้เลขาธิการพปชร. นายอนุชา หัวเราะโดยปฎิเสธตอบคำถาม เมื่อถามว่าจะต้องชี้แจงกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายชวนหมายถึงใครด้วยซ้ำ เพราะตนได้สอบถามทีมงานของนายชวน ซึ่งก็บอกว่านายชวนพูดค่อนข้างทีเล่นทีจริงในที่ประชุมไม่ได้ซีเรียส หรือจริงจัง และนายชวนไม่ได้ระบุชื่อตนและทีมงานในที่ประชุมให้ไปดูที่ประชุมวิป3 ฝ่ายคนที่นำมาเป็นประเด็นมีอะไรแอบแฝงมากกว่า เหมือนในอดีต เมื่อถามว่าจะตามหาตัวผู้ที่ปล่อยข่าวนี้หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า สื่อช่วยตามหาให้ตนหน่อยได้ไหม

ครม. ต่ออายุ วิศิษฏ์ 'ปลัดยุติ อีก 1 ปี พร้อม ตั้ง มานะ’ ACT นั่ง กก.คดีพิเศษ

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ได้แก่

1.) นายกิตติศักดิ์ จุลสำรวล ผู้อำนวยการกอง [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (นิติการ) ระดับสูง] กองหลักนิติบัญญัติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดำรงตำแหน่ง กรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

2.) นางสาวนุชนาถ เกษมพิบูลย์ไชย ผู้อำนวยการกอง [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (นิติการ) ระดับสูง] กองกฎหมายต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดำรงตำแหน่ง กรรมการร่างกฎหมายประจำ (นักกฎหมายกฤษฎีกาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

ครม.รับทราบตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอการแต่งตั้งโฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) [เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (5 มกราคม 2559) ที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่โฆษกกระทรวง/หน่วยงานอย่างเป็นทางการแล้วแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมรายชื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ] โดยได้แต่งตั้ง นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ เป็นโฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เพื่อให้การประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงแรงงาน ตลอดจนผลการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน เป็นไปอย่างคล่องตัว ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีคำสั่งกระทรวงแรงงาน ที่ 246/2564 เรื่อง แต่งตั้งโฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ด้วยแล้ว 

ครม.รับทราบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอการเปลี่ยนแปลงโฆษก สศช. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงการดำรงตำแหน่งระดับสูงภายใน สศช. [เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (5 มกราคม 2559) ที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่โฆษกกระทรวง/หน่วยงานอย่างเป็นทางการ แล้วแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรวบรวมรายชื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ] สรุปได้ ดังนี้

1.) นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็น โฆษก สศช.

2.) นางนภัสชล ทองสมจิตร ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน เป็น รองโฆษก สศช.

ครม.อนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอแต่งตั้ง นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป  

ครม.อนุมัติการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ 4 ปี ในวันที่ 5 มิถุนายน 2564 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ 

ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน 9 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระ2ปี ดังนี้  

1.) นายศรพล ตุลยะเสถียร (ด้านเศรษฐศาสตร์)

2.) นายสราวุธ เบญจกุล(ด้านการเงินการธนาคาร)

3.) พันตำรวจเอก ญาณพล ยั่งยืน (ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ)

4.) นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส (ด้านกฎหมาย)

5.) นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว (ด้านกฎหมาย)

6.) พลเอก ณรงค์ฤทธิ์ อิศรัตน์ (ด้านความมั่นคงประเทศ)

7.) พลตำรวจเอก ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ (ด้านการสอบสวนคดีอาญา)

8.) พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล (ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน)

9.) นายมานะ นิมิตรมงคล (ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต)

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป 

หากพูดถึง ‘คนดังหัวใจจิตอาสา’ หลายคนต้องนึกถึงคู่พี่น้องฝาแฝด ‘บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์’ และในวันนี้ก็เป็นวันพิเศษของพวกเขา เนื่องจากเป็นวันครบรอบวันเกิดอายุ 59 ปี

บิณฑ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เกิดเมื่อ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2505 ที่จังหวัดสระแก้ว ทั้งสองเป็นพี่น้องฝาแฝดที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงในเวลาไล่เรี่ยกัน โดยเริ่มต้นจากการเป็นนายแบบและนักแสดงตัวประกอบ ก่อนที่บิณฑ์จะได้เป็นพระเอกหนังเรื่องแรกในชื่อเรื่อง ‘ตำรวจเหล็ก’ 

และมาโด่งดังจากละครเรื่อง แผลเก่า โดยรับบทเป็น ไอ้ขวัญ ทางช่อง 7 กับอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนจดจำได้ดี นั่นคือ เหตุเกิดที่สน. ด้านเอกพันธ์ก็ข้ามฟากไปโด่งดังกับอีกช่อง โดยก้าวไปเป็นพระเอกละครเรื่อง แม่นากพระโขนง ทางช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ.2532 ซึ่งเป็นละครที่ดังมาก ๆ ในเวลานั้น

นอกจากงานแสดง ทั้งสองยังเป็นที่รู้จักจากการเป็นอาสาสมัครในมูลนิธิร่วมกตัญญู มากว่า 30 ปี โดยมีสัญลักษณ์เรียกประจำตัวว่า ดารา 1 และ ดารา 2 ภาพที่หลายคนจดจำพวกเขาได้เป็นอย่างดี คือเมื่อครั้งที่โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อกว่า 30 ปีก่อน ทั้งบิณฑ์และเอกพันธ์ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ออกค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากตึกถล่มชนิดข้ามวันข้ามคืน

ล่าสุดกับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อสองปีก่อน ทั้งสองได้ลงพื้นที่ พร้อมกับเปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จนมียอดบริจาคเข้ามากว่า 400 กว่าล้านบาท 

ปัจจุบัน ทั้งบิณฑ์ และเอกพันธ์ มีโครงการช่วยเหลือผู้คน สัตว์ต่าง ๆ และมีรายการโฮปประกายแสงแห่งความหวัง รวมไปถึงโครงการพิเศษที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ไม่ปกติ อาทิ การเปิดโรงครัวสนามแจกข้าวให้ผู้คนในสถานการณ์โควิดระบาด หรือมีไลฟ์สดลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้คนตามชุมชนต่าง ๆ อีกด้วย

วันนี้เป็นวันเกิด ครบรอบอายุ 59 ปี ของคู่พี่น้องจิตสาธารณะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง สร้างความสุข ความหวัง และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตลอดไป



ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/บิณฑ์_บรรลือฤทธิ์

https://th.wikipedia.org/wiki/เอกพันธ์_บรรลือฤทธิ์


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'มัลคอล์ม แม็กลีน' ผู้พลิกโฉมหน้าการขนส่งสินค้ายุคใหม่ 'ลดต้นทุน-เวลา-แรงงาน' | LOCK LENS GURU EP.23

???? GURU : อาจารย์ศรัณย์ ดั่นสถิต

อาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา

▶️ หัวข้อ : 'มัลคอล์ม แม็กลีน' ผู้พลิกโฉมหน้าการขนส่งสินค้ายุคใหม่ 'ลดต้นทุน-เวลา-แรงงาน'

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050805

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

.

.

วัคซีนแต่ละชนิดเป็นยังไง…สรุปให้แล้ว

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา สรุปวัคซีนแต่ละชนิดให้เข้าใจง่าย ๆ ทำความเข้าใจก่อนไปฉีด


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เราไม่ทิ้งกัน!! 'กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย' ร่วมด้วยช่วยเพชรบุรี มอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาลสนามจังหวัดเพชรบุรี 2 แสนบาท 'ชาวเพชรฯ' ขอบคุณรัฐบาลส่งวัคซีนล็อตแรกถึงเพชรบุรีแล้ว 'รมช.สาธิต' ยืนยันสธ. จะเร่งส่งวัคซีนล็อต 2 เพิ่มให้โดยเร็ว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า... 

กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้มอบหมายตน นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารมช.พาณิชย์ นายอรรถพร พลบุตร คณะที่ปรึกษารมช.สาธารณสุข และดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เป็นตัวแทนมอบเงินจำนวน 2 แสนบาทสนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีสู้ภัยโควิด โดยเฉพาะโรงพยาบาลสนามที่จัดตั้งขึ้นหลายแห่งในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิดโดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะเป็นผู้รับมอบที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารมช.สาธารณสุขกล่าวว่า ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ.แจ้งมาล่าสุดว่าได้ส่งวัคซีนล็อตแรกมาให้จังหวัดเพชรบุรีแล้วและจะส่งวัคซีนล็อตต่อไปให้กับเพชรบุรีโดยเร็วจึงขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีสาธิตและรัฐบาลแทนพี่น้องชาวจังหวัดเพชรบุรี

เนื่องจากขณะนี้จังหวัดเพชรบุรีมียอดผู้ติดเชื้อโควิดจากคลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ในอำเภอเขาย้อยสูงเป็นลำดับต้นของประเทศและหวังว่ารัฐบาลจะเร่งส่งวัคซีนมาเพิ่มให้เพชรบุรีเพื่อระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดโดยด่วนที่สุด

โดยก่อนหน้านี้ได้ช่วยจังหวัดเพชรบุรีประสานกระทรวงสาธารณสุขผ่านดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะมองว่าการระดมฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงจึงจะสามารถจัดการภัยโควิดในจังหวัดเพชรบุรีได้สำเร็จ

ดร.กัมพล สุภาแพ่ง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเพชรบุรีทุกคนและช่วยกันลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด วัคซีคทุกชนิดผ่านการรับรองจากอย.

ขณะที่ด้านนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กล่าวเสริมว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องเพชรบุรีและมอบหมายตนดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด

ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยได้มอบเงินสนับสนุนจังหวัดในภาคตะวันออกภาคเหนือภาคใต้และภาคกลางสู้ภัยโควิดได้แก่จังหวัดจันทบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดเพชรบุรีโดยสัปดาห์ต่อไปจะมอบให้กับภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดอุบลราชธานีตามลำดับ

นายกฯ สั่ง แรงงาน จับมือ กทม.ปูพรม ตรวจโควิดเชิงรุกในแคมป์ก่อสร้าง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย นายกรัฐมนตรีห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแคมป์คนงาน สั่งการให้กระทรวงแรงงาน ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ลุยตรวจโควิด-19 เชิงรุกแก่แรงงานในแคมป์ก่อสร้างทั่วกรุง คาดเริ่มดำเนินการตรวจได้ในสัปดาห์หน้า

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องแผนการตรวจโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้าง โดยมีนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ร้อยตำรวจเอกพงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยนายสุชาติ กล่าวว่า กรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลัสเตอร์ในแคมป์ก่อสร้าง ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งท่านกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ในขณะนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบจำนวนแรงงานในแคมป์คนงานในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีจำนวน 129,542 คน จากแคมป์ จำนวน 841 แห่ง ซึ่งเป็นคนไทย จำนวน 53,550 คน ต่างด้าว จำนวน 75,992 คน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย กลุ่มเร่งด่วนที่สุด ที่พบการระบาดกลุ่มก้อนใหม่ (Cluster) และและเป็นกลุ่มที่มี Cluster เฝ้าระวัง ตาม ศบค.กำหนด (ณ วันที่ 23 พ.ค. 64)

กลุ่มที่ 1 เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตลาดกระบัง เขตสะพานสูง เขตหนองจอก รวมจำนวน 8,805 คน จำนวน 83 แห่ง กลุ่มที่ 2 เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง เขตปทุมวัน เขตบางพลัด เขตบางคอแหลม รวมจำนวน 23,326 คน จำนวน 97 แห่ง และกลุ่มเร่งด่วน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเขตเหนือ กรุงเทพมหานครกลาง กรุงเทพมหานครเขตใต้ กรุงเทพมหานครเขตตะวันออก กรุงเทพมหานครเขตธนบุรีเหนือ กรุงเทพมหานครเขตธนบุรีใต้ รวมจำนวน 97,411 คน จำนวน 661 แห่ง

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน จะมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม บูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกำหนดมาตรการและรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจเชิงรุกรวมทั้งกำหนดจุดตรวจในแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันมีสถานพยาบาลพร้อมให้ความร่วมมือจำนวน 11 แห่ง 31 ทีม และเตรียมพร้อมสถานพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม เพื่อตรวจคัดกรองและดูแลรักษา โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการตรวจได้ภายในสัปดาห์หน้า

สำนักข่าวเอเอ็นไอรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรคใหม่นี้อันตรายกว่าเชื้อราสีดำ

คนไข้รายหนึ่งซึ่งกำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ถูกพบมีอาการต่าง ๆ ของ ‘เชื้อราสีเหลือง’ สำนักข่าวเอเอ็นไอรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ท่ามกลางรายงานข่าวว่าโรคใหม่นี้อันตรายกว่าเชื้อราสีดำ

นายแพทย์บีพี เตียจี แพทย์ด้านโสต ศอ นาสิกวิทยาในเมืองกาเซียบัด รัฐอุตตรประเทศ ระบุว่า เคสเชื้อราสีเหลืองที่พบในชายวัย 45 ปี นับเป็นเคสแรกในคนไข้ที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่รักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 นานนับเดือน อย่างไรก็ตามอาการของผู้ป่วยรายดังกล่าวทรุดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและจากการตรวจร่างกายพบ ‘เชื้อราสีเหลือง’

แพทย์รายนี้ กล่าวว่า ‘เชื้อราสีเหลือง’ อาจเป็นโรคร้ายแรงถึงตายที่มีต้นเหตุจากสภาพสุขอนามัยที่ย่ำแย่และความชื้น มันมีความอันตรายมากกว่าเชื้อราสีดำหรือเชื้อราสีขาวที่พบก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะวินิจฉัยโรค เพราะจุดเริ่มต้นเกิดจากภายในร่างกาย ส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายใน ผิดกับเชื้อราสีดำที่เริ่มต้นจากอาการพิการบนใบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย

อาการต่าง ๆ ของเชื้อราสีเหลือง มีทั้งเซื่องซึม ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด และในเคสรุนแรง โรคนี้อาจทำให้อวัยวะทำงานผิดปกติ ทั้งนี้แพทย์บอกด้วยว่าคนไข้รายนี้เคยมีอาการของเชื้อราสีดำและเชื้อราสีขาว ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

การค้นพบล่าสุดนี้มีขึ้นในขณะที่เคสเชื้อราสีดำหรือมิวคอร์ไมโคซิส (mucormycosis) และเชื้อราสีชาว ถูกพบเพิ่มขึ้นในหมู่คนไข้โควิด-19 ในอินเดีย หลายรัฐประกาศให้มันเป็นโรคระบาด

เชื้อราทั้ง 2 ชนิด มีรายงานพบในคนไข้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจมาเป็นเวลานาน หรือผู้ป่วยที่ใช้ยาสเตียรอยด์ส่วนหนึ่งในการรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งเชื้อราสีดำและเชื้อราสีขาวส่งผลกระทบกับปลอดและอวัยวะสำคัญอื่น ๆ และสามารถก่ออันตรายร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม เอ็นเค คุปตา หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ของกาเซียบัด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นดีทีวีของอินเดียว่า ยังไม่ได้รับแจ้งเคสใด ๆ ของเชื้อราสีเหลือง

นอกจากนี้แล้วเอ็นดีทีวียังอ้างคำสัมภาษณ์ของนายแพทย์รันดีป กูเลเรีย อายุรแพทย์โรคระบบหายใจและผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ออลอินเดียในนิว เดลี เตือนเช่นกันว่า การตั้งเชื่อการติดเชื้อราบนพื้นฐานของสีและพื้นที่ที่มันส่งผลกระทบ อาจนำมาซึ่งความเข้าใจผิด ๆ และก่อความสับสน

“โดยทั่วไป รูปแบบของเชื้อราที่เราพบเห็นส่วนใหญ่คือมิวคอร์ไมโคซิส แคนดิดา(Candida) และแอสเปอร์จิลโลซิส (Aspergillosis) โดยมิวคอร์ไมโคซิสถูกพบมากกว่าในเคสผู้ติดเชื้อโควิดที่ใช้ยาสเตียรอยด์และเป็นโรคเบาหวาน พวกมันถูกพบในจมูก ไซนัสและบางทีอาจเข้าสู่สมอง”

เชื้อราแคนดิดา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเชื้อราสีขาว พบในคนไข้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เป็นจุดต่างสีขาวในช่องปากและบางทีอาจแพร่กระจายสู่เลือด ส่วนที่พบเห็นโดยทั่วไปน้อยที่สุดคือเชื้อราแอสเปอร์จิลโลซิส ซึ่งส่งผลกระทบกับปอดและบางทีอาจก่ออาการแพ้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุและอาการต่างๆของเชื้อราสีเหลือง

 

ที่มา : รัสเซียทูเดย์

https://mgronline.com/around/detail/9640000050629


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“บิ๊กตู่” หารือ รมว.กห.ญี่ปุ่น กระชับความร่วมมือดำรงบทบาทที่เข้มแข็งรักษาผลประโยชน์ของภูมิภาคร่วมกัน “ยืนยัน” ไทยสนับสนุนการสร้างความปรองดองในเมียนมา

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. เปิดเผยถึงการหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม กับนายคิชิ โนบุโอะ (นาย KISHI Nobuo ) รมว.กลาโหมญี่ปุ่นว่า ว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นโดยมีพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และ ปลัดกระทรวงกลาโหมร่วมหารือผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยทั้งสองฝ่าย ได้ย้ำความสัมพันธ์และการดำรงบทบาทที่ใกล้ชิดกันระหว่างกันทั้งระดับพหุพาคีและทวิภาคี โดยเฉพาะความร่วมมือทางทหาร ที่มีการแลกเปลี่ยนการฝึก การศึกษากันในระดับต่าง ๆ ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมทั้งข้อเสนอร่างความตกลงระหว่างกัน ด้านการมอบ โอนยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน ต่อจากนั้นได้หารือถึงความร่วมมือกันถึงปัญหาความมั่นคงของ ภูมิภาค ทั้งแก้ปัญหาในเมียนมา ทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี และโรคระบาดของ COVID-19 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความยินดีกับ นาย KISHI Nobuo ที่เข้ารับตำแหน่ง รมว.กห.และขอบคุณญี่ปุ่นที่สนับสนุนอำนวยความสะดวกคนไทยเดินทางกลับจากญี่ปุ่นที่ผ่านมา ไทยยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางทะเล และสนับสนุนการดำรงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ของทุกประเทศ เพื่อให้ทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ เปิดกว้างมีการพัฒนาที่ยังยืนและไม่มีข้อพิพาทระหว่างกัน  สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ไทยพร้อมสนับสนุนถ้อยแถลงอาเซียนในการเจรจา การปรองดองและกลับคืนสู่สภาวะปกติ ตามเจตจำนงและผลประโยชน์ของประชาชนในเมียนมา และยืนยันดูแลผู้หลบหนีภัยชาวเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม พร้อมขอขอบคุณญี่ปุ่นที่มีบทบาทสร้างสรรค์ในการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ผ่านมา และยืนยันความพร้อมในการเป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ที่ญี่ปุ่นสนับสนุน ทั้งนี้ กห.พร้อมให้ความร่วมมือทำงานกับ กห.ญี่ปุ่น กระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและดำรงบทบาทอย่างเข้มแข็งในการรักษาผลประโยชน์ของภูมิภาคร่วมกัน

ทั้งนี้ นายคิชิ โนบุโอะ ย้ำข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นต่อเมียนมาและสนับสนุนผลักดันแถลงการณ์อาเซียนในการแก้ปัญหาในเมียนมา โดยพร้อมสนับสนุนทำงานร่วมกับไทยในการแก้ปัญหา ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นมีความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี ที่มีการปฏิบัติไม่สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยญี่ปุ่นแสดงความจำนงต่อการปฏิบัติความมั่นคงทางทะเลที่เสรีและเปิดเผยภายใต้กฎหมายสากล และยินดีทำงานร่วมกับไทยในฐานะผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียนกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมกันนี้ ญี่ปุ่นพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกับไทยในการแก้ปัญหา COVID-19 ที่เกิดขึ้นโดยเชื่อว่าไทยสามารถควบคุมได้ในอนาคตอันใกล้ พร้อมกับขอบคุณไทยที่สนับสนุนการฝึกร่วมทางทหารที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top