Friday, 27 June 2025
TheStatesTimes

รองโฆษก ปชป. ชื่นชมรัฐบาลเปิดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แรงงาน ม.33 เป็นสิ่งที่ดี แนะตั้งศูนย์ฉีดเคลื่อนที่ไปในสถานประกอบการ วอนเลื่อนกำหนดการฉีดประชาชนทั่วไปเร็วกว่าเดิม

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน เตรียมดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะดำเนินการ เนื่องจากขณะนี้มีผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเสี่ยงยังมีความลังเลไม่ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีด ทำให้มีวัคซีนเพียงพอที่จะกระจายให้กับผู้ประกันตนในมาตรา 33 ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการฉีดโดยขอให้มีการตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุกไปยังสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่จะมารวมตัวกัน รวมถึงในการดำเนินการฉีดวัคซีนขอให้ใช้งบประมาณของประกันสังคมมาจ้างบุคลากรจากภาคเอกชนมาดำเนินการเหมือนกับการตรวจหาเชื้อเชิงรุก เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้บุคลากรของภาครัฐที่จะต้องดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป

“อยากให้รัฐบาลเร่งตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบเคลื่อนที่เชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อลดความแออัด โดยใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม และบุคลากรจากภาคเอกชนในการดำเนินการบริการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้ไม่กระทบกับบุคลากรทางการแพทย์ภาครัฐที่จะการให้บริการกับพี่น้องประชาชนทั่วไป” นายอัครเดช กล่าว

นายอัครเดช ยังเรียกร้องให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มทั่วไป โดยขอให้มีการเลื่อนกำหนดการฉีดขึ้นมาให้เร็วกว่าเดิม เนื่องจากการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุยังลงทะเบียนไม่ครบตามเป้าหมายเพราะบางส่วนยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยดังนั้นขณะนี้มีประชาชนทั่วไปมีความสนใจที่จะรับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก หลังจากที่รัฐบาลได้รณรงค์และสร้างความเชื่อมั่น จึงขอให้รัฐบาลได้เร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปเร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมเพื่อจะได้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกด้วย

'บิ๊กป้อม' สั่งอุดรูรั่วนำเข้าแรงงานเถื่อน ปัดไม่รู้ขบวนการนำเข้าปท. เมินตอบ คนแห่ไล่ 'บิ๊กตู่' พ้นนายกฯ

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการคุมเข้มชายแดนเพื่อป้องกันลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และการขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ให้รับแรงงานต่างด้าวเพิ่มว่า ต้องดูว่าแรงงานที่เข้ามา ผิดกฎหมายหรือไม่ หากต้องการเพิ่ม ก็ต้องหยุดรับไปก่อน ส่วนจะกำหนดเวลานานหรือไม่ต้องดูว่าถ้าการแพร่ระบาดไม่กระจาย ก็สามารถทำได้ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่าลดลงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผลกระทบให้ขาดแคลนแรงงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขาดแคลนแล้วเราทำอย่างไรได้ เมื่อถามว่าสาเหตุของการรั่วไหลเข้ามาของแรงงานผิดกฎหมายเกิดจากอะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นการเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ช่วยดูแลและถ้าท้องถิ่นดูแลดี ก็ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าได้สั่งคาดโทษเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องลงโทษ เมื่อถามถึงขบวนการที่นำทางเข้ามา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ผมจะไปรู้ได้อย่างไร" 

ผู้สื่อข่าวรายถามถึงกรณีที่มีกระแสเรียกร้อง ของกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มไทยไม่ทน เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถยนต์เดินทางกลับทันที

นายกฯ เห็นชอบดำเนินการโครงการเชื่อมสวนเบญจกิติ กับสวนลุมพินี เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่คนไทยภาคภูมิใจร่วมกัน

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิตติกับสวนสาธารณะอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการดำเนินการสวนสาธารณะ เบญจกิติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสวนแห่งนี้ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เป็นสวนสาธารณะใหม่ที่คนไทยภาคภูมิใจร่วมกัน เป็นปรากฏการณ์ของเมืองไทยใหม่ ที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของคนไทยและคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และเป็นสวนสาธารณะที่ช่วยแก้ไขปัญหา PM 2.5 ได้ด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิด เน้นให้มีการสร้างสีสันให้กรุงเทพมหานครด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล ภายในสวนต้องเป็นแหล่งของการเรียนรู้ มีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬา ออกกำลังกาย เป็นสถานที่เล่นดนตรีในสวน มีพื้นที่ให้กับสมาชิกครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาออกกำลังกายในพื้นที่ที่ควบคุมได้ รวมทั้งเป็นแหล่งการท่องเที่ยวที่ประชาชนทุกคนและกลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งให้คำนึงถึงความปลอดภัยและความสะอาดเป็นสำคัญด้วย

โดยมติที่ประชุมรับทราบการดำเนินโครงการสวนสาธารณะเบญจกิติที่เป็นการดำเนินการภายใต้มติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2534 ในพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ เนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ โดยในปี 2547 ได้จัดสร้างสวนน้ำเนื้อที่ 130 ไร่เสร็จแล้ว และในปี 2559 ดำเนินการจัดสร้างสวนป่า ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่เสร็จแล้วเช่นกัน และได้ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาและบริหารจัดการแล้ว สำหรับการจัดสร้างสวนป่าเบญจกิติระยะที่ 2-3 เนื้อที่ 259 ไร่ ในปี 2563 กรมธนารักษ์ได้ขอความร่วมมือจากกองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสวนป่าเบญจกิติระยะที่ 2-3 เนื้อที่ 259 ไร่ เพื่อให้การก่อสร้างสวนป่าแล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดและสามารถจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 นี้ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 พื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างกองทัพบกดำเนินการก่อสร้างโดยมีความคืบหน้าการก่อสร้าง พื้นที่ก่อสร้างที่ 1 ร้อยละ 70.18 พื้นที่ก่อสร้างที่ 2 ร้อยละ 15.40

นอกจากนี้ ยังรับทราบการดำเนินการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิติ กับสวนลุมพินี ตามที่กรมธนารักษ์และกรุงเทพมหานคร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการงานปรับปรุงภูมิทัศน์ทางคนเดิน-ทางจักรยาน (สะพานเขียว) และการปรับปรุงสวนลุมพินี ในวาระครบรอบ 100 ปี โดยร่วมมือกับภาคเอกชนในการออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่โครงการ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสามารถปรับปรุงเพิ่มเติมรูปแบบให้สะพานเขียวดังกล่าวเชื่อมต่อระหว่างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” กับสวนลุมพินีได้อย่างเป็นรูปธรรม

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 63/2564  ลงวันที่ 9 มีนาคม 2564 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” กับสวนสาธารณะอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร และเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” กับสวนลุมพินี ซึ่งมีองค์ประกอบของคณะกรรมการคือ นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงาน จำนวน 15 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง โดยมีอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นกรรมการและเลขานุการ หัวหน้าส่วนราชการ/หน่วยงาน จำนวน 3 คน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยคณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ในการอำนวยการจัดสร้างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และสั่งการ บริหาร ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนงานการเชื่อมต่อระหว่างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” กับสวนลุมพินี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการ จากโครงการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิติและสวนสาธารณะอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร เป็นการดำเนินโครงการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิติกับสวนลุมพินีโดยมอบหมายให้กรุงเทพมหานครจัดทำรูปแบบสะพานเขียวเพิ่มเติม เพื่อให้มีการเชื่อมต่อระหว่างสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” กับสวนลุมพินี พร้อมจัดทำรายละเอียดโครงการ แผนการดำเนินงาน และประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานกับสำนักงบประมาณต่อไป

'สุพัฒนพงษ์' ถก  'นายกฯ' เลี่ยงตอบปมพ.ร.ก.เงินกู้ 7 แสนล้านบาท ชี้ ให้รอ 'คลัง' แจง

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ก่อนการหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ถึงกรณีที่ครม.เห็นชอบการออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท โดยก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังระบุว่าไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม และมีงบประมาณเพียงพอ ว่า "เดี๋ยวก็คงมีการชี้แจง" 

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังบอกว่าจะออกมาชี้แจง แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังเงียบ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า "ไม่นานหรอก ไม่เงียบหรอก ถึงเวลาก็ต้องชี้แจง และคงต้องรอฟังรายงานของคณะที่ปรึกษาฯ ที่เกี่ยวข้องในวันนี้ก่อน"

สำนักข่าว Wall Street Journal ได้อ้างรายงานจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกาว่า พบนักวิจัยถึง 3 คนจาก Wuhan Institute of Virology หรือ สถาบันวิจัยไวรัสแห่งอู่ฮั่น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยชนิดหนึ่งช่วงราว ๆ เดือนพฤศจิกายน 2019

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา สำนักข่าว Wall Street Journal ได้อ้างรายงานจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกาว่า พบนักวิจัยถึง 3 คนจาก Wuhan Institute of Virology หรือ สถาบันวิจัยไวรัสแห่งอู่ฮั่น ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยชนิดหนึ่งช่วงราว ๆ เดือนพฤศจิกายน 2019 ก่อนที่จะพบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่ตลาดอาหารทะเลอู่ฮั่น ที่ต่อมาถูกตั้งชื่อว่า Covid-19

ซึ่งรายงานเรื่องนี้ ก็สอดคล้องกลับเอกสารที่หน่วยความมั่นคงสหรัฐฯ เคยส่งมอบให้กับอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ เมื่อปีที่แล้ว ว่าพบนักวิจัยจากสถานบันแห่งนี้เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการคล้ายโรคหวัดฤดูหนาวที่บางอาการก็เหมือนผู้ป่วยโรค Covid-19 ที่กลายเป็นวาทะดุเดือดของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ที่เรียก Covid-19 ว่าเป็น "ไวรัสจีน"

รายงานล่าสุดที่ออกจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ออกมาดักงานเรียกประชุมทีมสืบสวนคดีต้นกำเนิด Covid-19 ขององค์การอนามัยโลก เพียง 1 วัน เพื่อสรุปผลการสืบสวนในขั้นต่อไป

ด้านฝ่ายความมั่นคงสหรัฐฯ ยังไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับรายงานล่าสุดชิ้นนี้ แต่ย้ำว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีความจริงจังที่ต้องการสืบสวนต้นตอโรค Covid-19 ให้เกิดความกระจ่าง

ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ก็ออกมาปฏิเสธรายงานชิ้นนี้ และกล่าวหาว่าสหรัฐฯ พยายามโยงทฤษฎีไวรัสว่าเป็นงานวิจัยของจีนให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ ทางทีมสอบสวนคดี Covid-19 ได้เข้ามาเยี่ยมสถาบันวิจัยไวรัสอู่ฮั่นแล้ว และเคยสรุปว่าโอกาสที่ไวรัสจะหลุดจากห้องแล็บแห่งนี้แทบเป็นไปไม่ได้

แต่ก็ยังมีข้อมูลดิบเกี่ยวกับการระบาดของ Covid-19 ครั้งแรกในอู่ฮั่นที่ทางจีนยังไม่ส่งมอบให้กับองค์การอนามัยโรคเพื่อตรวจสอบ

ทีมสอบสวนเฉพาะกิจคดีต้นกำเนิดไวรัส Covid-19 แต่งตั้งโดยองค์การอนามัยโลก ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด ไวรัสวิทยา สัตววิทยา จากหลากหลายประเทศจำนวน 14 คนได้เดินทางเข้าไปตามรอยไวรัส Covid-19 ในเมืองอู่ฮั่นในช่วงต้นปี 2021

เบื้องต้นเคยตั้งข้อสันนิษฐานว่า ไวรัสโคโรน่า อาจปะปนมากับอาหารทะเลแช่แข็งที่ส่งมาจากประเทศย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การสรุปข้อเท็จจริงจำเป็นต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลจำนวนมาก เดินทางไปทั่วประเทศจีน กว่าจะสรุปได้ต้องใช้เวลานานหลายปี และถึงจะเคยเยี่ยมชมสถาบันวิจัยไวรัสที่อู่ฮั่นมาแล้ว และเชื่อว่าเชื้อไวรัส Covid-19 ไม่น่าจะมาจากห้องทดลอง

แต่ทั้งนี้ WHO กล่าวว่ายังไม่ได้ตัดข้อสันนิษฐานถึงที่มาของเชื้อไวรัสว่าอาจมีต้นกำเนิดในประเทศจีนแต่อย่างใด

 

อ้างอิง : https://www.wsj.com/articles/intelligence-on-sick-staff-at-wuhan-lab-fuels-debate-on-covid-19-origin-11621796228?mod=hp_lead_pos3

https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/wuhan-lab-staff-sought-hospital-care-before-covid-19-outbreak-disclosed-wsj

https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(21)00295-6/fulltext


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'อลงกรณ์' เดินหน้าเพชรบุรีโมเดลขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ '1 ปิด 1 เปิด' สู้ภัยโควิด-19 ลงพื้นที่ระดมพลคนเกษตรร่วมมือภาครัฐภาคเอกชนขยายเศรษฐกิจการค้าตลาดกลางสินค้าเกษตร 'ท่ายาง-บ้านลาด' ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มยอดขายขยายการค้าช่วยเกษตรกร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อสั่งการของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทีมเกษตรเพชรบุรี ได้เริ่มเดินหน้าเพชรบุรีโมเดล ด้วยยุทธศาสตร์ '1 ปิด 1 เปิด' อย่างต่อเนื่องหลังจากช่วยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิดในชุมชนโรงงานกลุ่มคลัสเตอร์แคลคอมพ์แล้ว

โดยเมื่อวันอาทิตย์ (23 พ.ค.) ที่ผ่านมาตนและคณะประกอบด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด นางวันเพ็ญ มังศรี, นายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย, นายกฤชฐา โภคาสถิตย์ ประธานคณะอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซของกระทรวงเกษตร, นายอรรถพร พลบุตร คณะที่ปรึกษารมช.สาธารณสุข, ดร.ทัดทอง พราหมณี ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, ดร.บัญญัติ ศิริธนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ AIC และคณบดีคณะเกษตรพร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ประมงจังหวัด พร้อมด้วยนายพันธุ์ธัช หิรัญจิรวงศ์ประธานหอการค้า, นางอารี โชติวงศ์ประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานบริษัทประชารัฐเพชรบุรี ทีมกรมประชาสัมพันธ์, นายหยัน เยื่อใยประธานและคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรท่ายาง, นายฟื้น พูลสมบัติ ประธานและคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรบ้านลาด และผู้บริหารแพลตฟอร์มไทยแลนด์โพสต์มาร์ต (Thailand postmart) ได้ลงพื้นที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรท่ายางและตลาดกลางสินค้าเกษตรบ้านลาดพร้อมรับฟังบรรยายสรุปและร่วมประชุมหารือโครงการพัฒนาตลาดกลางสินค้าเกษตรด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นช่องทางการตลาดใหม่เสริมการค้าแบบออฟไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายเศรษฐกิจการค้า ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวโดยจะเร่งดำเนินการเริ่มคิดออฟการค้าออนไลน์ทั้งการค้าแบบ B2B และ B2C ภายใน 10 วัน

นอกจากนี้ยังให้ส่งเสริมเพิ่มสินค้าเกษตรอินทรีย์ สมุนไพร สินค้าประมงและปศุสัตว์ในตลาดกลางสินค้าเกษตรทั้ง 2 แห่ง ซึ่งเป็นตลาดกลางสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ในการกำกับของกระทรวงเกษตรฯ เพียงจุดเดียวในรัศมี ตั้งแต่จังหวัดชุมพรจนถึงกาญจนบุรีและสมุทรสาคร พร้อมกับให้คณะอนุกรรมการอีคอมเมิร์ซนำระบบสั่งซื้อล่วงหน้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (Pre order platform) มาใช้ด้วยหลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตลาดทุเรียนในประเทศจีน ซึ่งจะมีการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ ระบบประกันสินค้า ระบบสร้างแบรนด์สหกรณ์และสินค้าเกษตรมาใช้ด้วยและจะร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ AIC เพชรบุรีในการอบรมบ่มเพาะด้านอีคอมเมิร์ซซึ่งจะให้ทีม Local Hero ที่ผ่านการฝึกอบรมการขายออนไลน์ของกระทรวงเกษตรมาช่วยสนับสนุนการทำงานและการสร้างคอนเท้นต์ของสินค้าเกษตร

ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานกระทรวงเกษตรเร่งตรวจประเมินขึ้นทะเบียนรับรอง GAP และ GMP เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าเกษตรและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้บริษัทไปรษณีย์ไทยจะจัดตั้งหน่วยบริการพิเศษในตลาดกลางทั้ง 2 แห่ง เพื่อบริการการขนส่งทั้งระบบปกติและระบบควบคุมความเย็น (Cool container) สำหรับผักและผลไม้โดยใช้แพลตฟอร์มไทยแลนด์โพสต์มาร์ต

ในขณะที่พาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดจะช่วยด้านข้อมูลสถานประกอบการและโรงงานในกลุ่มเป้าหมาย B2B

สำหรับสหกรณ์การเกษตรท่ายางและบ้านลาดรับผิดชอบการพัฒนาตลาดกลางและการคัดเลือกเกษตรกร รวมถึงสินค้าเกษตรให้พร้อมขึ้นด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์

โดยที่ประชุมกำหนดเป้าหมายให้เริ่มการขายออนไลน์ภายใน 10 วัน ภายใต้ความพร้อมทั้งต้นน้ำการผลิต การแปรรูปการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ การจัดการตลาด การพัฒนาคน การบริหารโลจิสติกส์ การบริหารธุรกิจและแพลตฟอร์มออนไลน์ภายใต้แบรนด์สินค้าเกษตรเพชรบุรีที่สดสะอาดปลอดภัยจากไร่ถึงลูกค้า

นายอลงกรณ์กล่าวในตอนท้ายว่า "เราระดมพลคนทุกภาคส่วน ปิดเกมโควิดให้เร็วที่สุดพร้อมกับเปิดธุรกิจการค้าให้กว้างที่สุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน 'ยุทธศาสตร์ 1 ปิด 1 เปิด' โดยเริ่มที่เพชรบุรีโมเดลเป็นจังหวัดแรกก่อนขยายไปจังหวัดอื่น ๆ ประการสำคัญคือเพชรบุรีอยู่ในกลุ่ม 10 จังหวัดแรกที่รัฐบาลมีแผนจะเปิดรับการท่องเที่ยวจึงต้องเร่งมือเตรียมจังหวัดเพชรบุรีให้พร้อมสำหรับโอกาสในอนาคต"


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ทำการ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “การฉีดวัคซีนโควิด-19”

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ทำการ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “การฉีดวัคซีนโควิด-19” พบว่า ประชาชนค่อนข้างมีความรู้เข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 และได้ลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนให้ตนเองหรือคนในครอบครัวแล้ว โดยแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือมากที่สุด คือ ข้อมูลจากบุคลากรทางการแพทย์


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

คุณโอ่ง ณัฐชา ปัทมพงศ์ | THE STUDY TIMES STORY EP.26

บทสัมภาษณ์ คุณโอ่ง ณัฐชา ปัทมพงศ์ ปริญญาตรี Bachelor of Humanities and Arts in International Relations and Music Technology, Carnegie Mellon University, สหรัฐอเมริกา
ทำในสิ่งที่รักและมี Passion จะทำให้มีแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายในทุกวัน

คุณโอ่ง นักร้องนำวง Mellow Motif ปัจจุบันรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการหลักสูตร ปริญญาโทนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่องานบันเทิง (Entertainment Innovation Center หรือ EIC) 

ย้อนกลับไปคุณโอ่งเกิดที่อเมริกา แต่กลับมาโตที่เมืองไทย เข้าเรียนโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นม.3 และไปเรียนต่อไฮสคูลที่อเมริกา หลังจากนั้นได้เข้าเรียนปริญญาตรี Bachelor of Humanities and Arts in International Relations and Music Technology, Carnegie Mellon University สหรัฐอเมริกา

คุณโอ่งเล่าว่า การศึกษาที่อเมริกาส่งเสริมให้คิดนอกกรอบ ให้ลองผสมผสานสิ่งต่างๆ ไม่มีอะไรผิด และการที่ได้เรียนรู้อะไรที่หลากหลาย ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ซึ่งตอนที่เรียนอยู่ยังไม่รู้ว่าจะเอาความรู้ตรงนั้นไปทำอะไร แต่สิ่งที่เขาพยายามส่งเสริมให้ทำ คือการตามหา Passion อะไรที่ชอบ อะไรที่ทำได้ดี เมื่อออกมาทำงานจริงจะรู้ได้ว่าความรู้ที่สั่งสมมา แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน ทำให้การแก้ปัญหา หรือหาทางออกทำได้ไม่เหมือนคนอื่น ด้วยความที่เห็นมามากกว่า หรือทำมามากกว่า 

ความจริงแล้วคุณโอ่งไม่ได้อยากเป็นนักร้อง เข้ามหาวิทยาลัยตั้งเป้าที่จะเรียน Fine Art แต่พอขึ้นชั้นปีที่ 2 เกิดอุบัติเหตุตกบันได เส้นประสาทอักเสบ แขนขวาใช้งานไม่ได้ไปประมาณปีกว่า ซึ่งทำงาน Art ไม่ได้ แต่ไม่อยากทิ้งสิ่งที่เรียนมา และด้วยความที่ไม่อยากจบช้า จึงไปตามหาเมเจอร์ใหม่ จากศิลปินที่ไม่สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้ จึงต้องหันไปทางดนตรีด้วยการเรียนร้องเพลง และเริ่มเรียนคลาสแจ๊สที่มหาวิทยาลัย เรียนจนเกิดความรัก กระทั่งได้มาเป็นนักร้องนำวง Mellow Motif 

คุณโอ่งใช้ชีวิตที่อเมริกานานกว่า 10 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย พบความแตกต่างในด้านการทำงาน ด้วยความที่ปักหมุดไว้กับอาชีพศิลปิน การทำงานในช่วงแรกจะเป็นการทำงานกับวง นักดนตรี ทีมงานคนไทย ซึ่งจากสภาพแวดล้อมที่อเมริกาส่งเสริมให้พูด ทำให้พูดคุณโอ่งเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา แต่สภาพสังคมไทยจะไม่ค่อยคุยกันตรงๆ จึงต้องหาวิธีปรับตัวทางด้านการสื่อสาร

การเป็นนักร้องนำวง Mellow Motif วงแจ๊ซ/บอซซ่าแนวหน้าของเมืองไทย คุณโอ่งได้ใช้ทักษะที่เรียนมาจากอเมริกาแทบทั้งหมด เพราะนอกจากการเป็นนักร้องนำแล้ว คุณโอ่งยังดีลงานภายในวงเอง คุณโอ่งคิดว่าสิ่งที่ทำให้วง Mellow Motif ไปได้ไกล อาจไม่ใช่เรื่องของสกิล แต่เป็นเพราะดนตรีไม่เหมือนใคร มีความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

การเป็นนักร้องทำให้ได้เดินทางไปแสดงในหลายๆ ประเทศ คุณโอ่งได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือการไปแสดงที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ศึกษาและให้ความสำคัญกับศาสตร์นั้นๆ อย่างมาก ทำให้เวลาทัวร์มีความสุข เพราะคนที่นั่นจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรานำเสนอ คนฟังจะเงียบ ฟังเป็น และศึกษามา

ปัจจุบันคุณโอ่งเป็นผู้อำนวยการหลักสูตร ปริญญาโทนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่องานบันเทิง (Entertainment Innovation Center หรือ EIC) ที่มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือของ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon University) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) ด้วยความพยายามที่จะทำให้เป็นผู้นำการศึกษาด้านเทคโนโลยี

คุณโอ่งเป็นคนที่รักมหาวิทยาลัยที่จบมาอย่าง Carnegie Mellon University มาก มีความเชื่อและมี Passion ที่อยากให้คนสัมผัสถึงระบบการศึกษาและวัฒนธรรม และด้วยความที่อยู่ในอุตสาหกรรมดนตรีมาอย่างยาวนานทำให้มีคอนเนคชั่น และอยากให้มีโปรแกรมรูปแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นที่มาของบทบาทผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโทนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่องานบันเทิง (Entertainment Innovation Center หรือ EIC)

สิ่งที่ช่วยให้คุณโอ่งไม่ละทิ้ง Passion ของตัวเอง โดยที่ไม่ท้อหรือไม่หมดไฟไปก่อน เนื่องจากมีการวางแผนระยะยาว แต่ในภาพใหญ่จะมีเป้าหมายระยะสั้นที่สามารถทำให้สำเร็จได้ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เมื่อผลออกมาแล้วจะต้องหาทางทำให้ผลนั้นเอื้อต่อเป้าหมายต่อไป คุณโอ่งกล่าวว่า บางทีที่เราเดินทางตรงไม่ได้ เพราะทางตัน แต่อย่างน้อยเรารู้ว่าเราต้องไปตรงนี้ เราก็จะยังหาทางไปได้ ถ้าเห็นเป้าหมาย เราจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้ไกลเกินเอื้อม 


.

.

.

 

‘ชัยวุฒิ’ รมว.ดีอีเอส แถลงร่วมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลุยสกัดกั้นข่าวปลอมวัคซีน-โควิดระลอก 3 แจ้งดำเนินคดีมือโพสต์แล้ว 6 ราย และอาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่1) ข้อ 6 ในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สั่งลบโพสต์อีก 12 ราย

วันนี้ (24 พ.ค.64) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) มอบหมายให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. ( PCT ) และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หัวหน้าชุดบังคับบัญชาฝ่ายประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลฯ เข้าร่วมแถลงข่าวการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง บิดเบือน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีกลุ่มผู้ไม่หวังดี ได้กระทำการโพสต์เสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือบิดเบือนข่าวสาร สร้างความเข้าใจผิด ส่งผลให้เกิดความเสียหาย สร้างความตื่นตระหนกกับประชาชนและสังคมในวงกว้าง ตลอดจนกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ดังนั้นจึงได้มีความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิดฯ และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง บิดเบือน ข่าวสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามหมายค้นเป้าหมาย และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว 18 ราย แบ่งเป็น มีการดำเนินคดี 6 ราย และปฏิบัติการโดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่1 ) ข้อ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จำนวน 12 ราย

สำหรับผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยมีข้อมูลได้รับการตรวจสอบยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ข้อความโพสต์ของทั้ง 6 รายเป็นข่าวปลอม ประกอบด้วย

1.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สาวสกล… โพสต์ว่า ‘พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่วัดสังฆทาน จำนวน 300 ราย’

2.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Stanley… โพสต์ว่า ‘ศบค. ประกาศเคอร์ฟิว เวลา 23.00-04.00 น. พื้นที่สีแดง 18 จังหวัด’

3.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จิ๊บ... โพสต์ว่า ‘เคอร์ฟิวทั่วประเทศ ห้ามออกจากบ้าน ตั้งแต่ 4 ทุ่ม-ตี 4 เริ่มวันที่ 23 เม.ย.64 นี้’

4.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก กะทิ... โพสต์ว่า ‘พบผลข้างเคียงรุนแรง เลือดออกในสมอง หลังจากฉีด วัคซีน Sinovac’

5.) ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @tuykal... โพสต์ว่า ‘พยาบาล รพ.หนองม่วง แพ้วัคซีนคับ’ และ

6.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wadfhan... โพสต์ว่า ‘พยาบาล รพ.หนองม่วง แพ้วัคซีนคับ’

โดยจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้โพสต์ข้อความทั้ง 6 รายข้างต้น ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 มีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ยังได้ปฏิบัติการโดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่1) ข้อ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 อีก 12 จุด พบตัวผู้กระทำผิด 12 ราย ประกอบด้วย

1.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thanapol...

2.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Aom...

3.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธัญชนก... และ

4.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กแบงค์... โดยทั้ง 4 รายนี้ ได้โพสต์ว่า ‘สธ. ประกาศฉุกเฉิน ระวัง 35 พื้นที่สีแดง เสี่ยงโควิด-19’ ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม

5.) ผู้ใช้ทวิตเตอร์ ????ℎ???????? ????????????... โพสต์ว่า’โรงพยาบาล Medpark เปิดให้ลงทะเบียน จองวัคซีน Moderna’ ซึ่งทาง ศบค. แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม .

6.) ผู้ใช้ทวิตเตอร์น้องโย... โพสต์ว่า ‘ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อที่เยาวราช เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก’ โดยทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม

7.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Keawjah...

8.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Mai...

9.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chanyaphut...

10.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เรืองชัย...

11.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธนกฤต... และ

12.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ศุภชัย... โพสต์ว่า ‘The Old Siam ปิด 1 อาทิตย์ หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียมาใช้บริการ’ ซึ่งทางเพจ The Old Siam Shopping Plaza แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม

‘ทั้ง 12 รายนี้ ผู้กระทำผิดกระจายอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัดทั้งกรุงเทพ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ราชบุรี อุดรธานี สกลนคร สุรินทร์ ระนอง ซึ่งผู้โพสต์ได้รับว่ากระทำผิดจริง จึงได้อาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ข้อ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้ให้ผู้โพสต์ระงับ สั่งให้แก้ไขข่าว ผู้โพสต์จึงลบโพสต์ดังกล่าว และรับว่าจะไม่กระทำแบบนี้อีก’ นายชัยวุฒิกล่าว

รมว.ดีอีเอส กล่าวย้ำว่า อยากขอเตือนประชาชน ที่จะโพสต์ข้อมูลข่าวสารอันไม่เป็นความจริง หรือบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เกิดความหวาดกลัว การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“อนุทิน” ไฟเขียวแผนเพิ่มขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแผนดำเนินงาน การเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. นำเสนอ ซึ่งประกอบไปด้วยการดำเนินงาน 5 ส่วน ประกอบด้วย

1.) การศึกษาการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูม โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ซึ่งเป็นการศึกษาในส่วนของการคาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศ ความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมกับเสนอแนวทางเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศายานสุวรรณภมิ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 10 มี.ค.-7 มิ.ย. 2564
  
2.) การศึกษาเพิ่มขีดความสามารถของ ทสภ. โดย องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งเป็นการศึกษาด้านกฎระเบียบและมาตรฐานด้านการบิน จะใช้เวลาประมาณ 9 เดือน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมิ.ย. 2564 และแล้วเสร็จในเดือนก.พ. 2565 

3.) งานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักหลังที่ 1 ด้านทิศตะวันออก (East Expansion) จะใช้เวลา 29 เดือน เริ่มงานก่อสร้างเม.ย. 2565 ก่อสร้างแล้วเสร็จ ส.ค. 2567

4.) โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) ใช้เวลา 30 เดือน เริ่มก่อสร้าง ม.ค. 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ มิ.ย. 2568  และ

5.) งานก่อสร้างส่วนต่อขยาย West Expansion อยู่ระหว่างรอความจัดเจนจากผ ลการศึกษาของ IATA และ ICAO


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top