Monday, 16 June 2025
TheStatesTimes

‘หนุ่มนักโหราฯ’ ติง!! ระบบภาษีของไทยเรียกเก็บเงินได้น้อยกว่าที่ควร คนจนไม่เข้าเกณฑ์ คนรวยเลี่ยงจ่าย ก็ยากจะพัฒนาประเทศให้เจริญ

เมื่อวานนี้ (14 ส.ค. 66) ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘flukepatsmile’ นักพยากรณ์โหราศาสตร์ไทย ได้เผยแพร่วิดีโอตอบข้อความของผู้ติดตามที่แสดงความคิดเห็นว่า “บ้านเราน่าจะเสียภาษี ภ.ง.ด. ก่อนถึงจะมีสิทธิ์เลือกตั้งนะครับ” โดยระบุว่า 

“ผมว่าหายไปเยอะมาก หรืออาจจะหายไปเกือบครึ่งเลยนะ ประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาจะเก็บภาษีได้ประมาณ 70% ของผู้ที่มีรายได้ต้องเสียภาษี ส่วนประเทศอย่างเราจะเก็บภาษีได้ประมาณ 15-20% ของผู้ที่มีรายได้ต้องเสียภาษี การรีดภาษีทําได้เยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น หาบเร่ แผงลอย แม่ค้าตลาดนัด ตรวจบัญชีรายได้ในนิติบุคคล ทุก ๆ คนต้องมีตัวร้านที่ชัดเจนเหมือนในต่างประเทศ รถที่ไม่ผ่านการตรวจ เป็นรถเก่าไม่สามารถต่อภาษีได้ หรือว่าจะเป็นรถกระป๋อง รถสามล้อ ผิดรูปผิดแบบต้องยกเลิกทั้งหมด ต้องผลักดันเพื่อเพิ่มอาชีพให้กับคนไทย ชุมชนแออัดในกรุงเทพทั้งหมดต้องถูกผลักออกจากกรุงเทพ เพื่อความพร้อมต่อการสร้างธุรกิจให้เงินไหลเข้ามา พุทธพาณิชย์ทั้งหมดต้องโดนเก็บภาษี ธรรมกายวัดเดียวมูลค่า 4.4 ล้านล้านบาท ถ้าพุทธพาณิชย์ทั้งประเทศจะเป็นเงินเท่าไรลองคิดดู”

ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายนี้ยังกล่าวอีกว่า “ประเทศเรามันก็เป็นประเทศที่เป็นความประนีประนอม เพื่อให้ทุก ๆ คนพออยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข คนจนไม่สามารถตรวจภาษีได้ ส่วนคนรวยบางส่วนเลี่ยงภาษี ความลําบากมันอยู่ที่คนชนชั้นกลางซึ่งเป็น 70% ของประเทศ ข้าราชการ พนักงานบริษัท เงินรายได้โตไม่ทันเงินเฟ้อ แต่เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ต้องแบกรับภาษีของประเทศ”

“คนที่บอกว่าการเมืองดีแล้วนู่นนี่นั่นจะดี มันก็เหมือนการทําผัดกะเพราครับ คุณมีสูตรที่ดี มันก็เหมือนคุณมีนักการเมืองที่ดี แต่ว่าไก่ก็เหมือนประชากร ถ้าประชากรไม่มีคุณภาพก็คือไก่เสีย เอาไปทําผัดกะเพรา ถามว่าผัดกะเพราที่สูตรดีจะอร่อยได้ยังไงครับ? เริ่มต้นที่ประชากรเริ่มต้นที่ตัวเราครับผม” ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายนี้กล่าวทิ้งท้าย

‘โบว์ ณัฏฐา’ เผยความหมายสุดลึกซึ้งของข้อความบนเสื้อ ‘ท่านอ้น’

เมื่อวานนี้ 14 ส.ค. 66 โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก
‘โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา - Nuttaa Mahattana’ พร้อมภาพของท่านอ้น วัชรเรศร วิวัชรวงศ์ ขณะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า…ภาพขณะท่านอ้นเดินทางกลับสหรัฐฯ จากสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมท่านอ่อง ข้อความบนเสื้อสีฟ้าเขียนว่า ‘Virtue & Ideals give hope’ (คุณธรรมและอุดมคติ ให้ความหวัง)

‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ ช้ำใจ หลังแม่อ้างชื่อทักไปยืมเงินคนอื่นอีกแล้ว ทั้งที่ให้ใช้เดือนละ 3 หมื่น ทนมา 4 ปี ลั่นตรงนี้!! ขอไม่รับผิดชอบ

(15 ส.ค.66) เคยตกเป็นข่าวดัง เมื่อเดือนเม.ย. ในปี 65 เหตุ ‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ หรือ ‘ดาราภัช ทวินันท์’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่าจะไม่ขอใช้หนี้แทนแม่อีกต่อไป ยอมให้คนด่าว่าเป็นลูกอกตัญญู เหตุ 2 ปีที่ผ่านมา ต้องตามใช้หนี้แทนแม่หลักล้าน ก่อนเรื่องจะเงียบเพราะธัญญ่ากับแม่สามารถเคลียร์ใจกันได้

แต่ดูเหมือนล่าสุด ‘ธัญญ่า อาร์สยาม’ เจอเรื่องลำบากใจอีกแล้ว หลังจากที่คุณแม่ได้ทักไปยืมเงินอีกแล้ว โดยคราวนี้เจ้าตัวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าจะไม่ขอรับผิดชอบทุกกรณี เพราะที่ผ่านมาตนให้เงินเดือนแม่ เดือนละ 3 หมื่นทุกเดือน

“มันคงต้องเกิดขึ้นอีกครั้งจริงๆ ขอโทษผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือทุกท่าน ที่แม่หนูทักไปยืมเงิน ก่อนอื่นต้องบอกตรงนี้นะคะ ว่าหนูไม่ได้เดือดร้อนอะไร หากแม่ทักไปบอกว่าหนูไม่มีเงิน ขอยืมเงินใคร และใครให้ยืม หนูขอไม่รับผิดชอบนะคะ และหนูได้ให้เงินเดือนแม่ เดือนละ 3 หมื่นทุกเดือน ทำหน้าที่ลูกอย่างดีมาตลอด ไม่เคยขาดตกบกพร่อง เลือกที่จะทำแบบนี้อีกครั้ง ขอโทษทุกคนอีกครั้งนะคะ #จะพยายามรักตัวเองและเดินหน้าต่อให้ไหวเหมือนทุกครั้งตลอด4ปีที่เกิดขึ้นมาตลอด”

จีนออกแผนปฏิบัติการ มุ่งเสริมสร้าง 'ระบบพาณิชย์ระดับอำเภอ' ส่งเสริมการพัฒนาแบบบูรณาการ ฟื้นฟูภูมิภาคชนบท

(15 ส.ค.66) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ) รัฐบาลจีนได้ออกแผนปฏิบัติการระยะ 3 ปี ที่มุ่งเดินหน้าเสริมสร้างระบบพาณิชย์ระดับอำเภอ ภายใต้ความพยายามส่งเสริมการพัฒนาแบบบูรณาการของพื้นที่ในเมืองและชนบท และฟื้นฟูภูมิภาคชนบทของประเทศ แผนดังกล่าวครอบคลุมการสร้างอำเภอ 'แนวหน้า' จำนวน 500 แห่ง ภายในปี 2025 ซึ่งจะมีศูนย์กระจายโลจิสติกส์ระดับอำเภอ ร้านสะดวกซื้อสำหรับประชากรชนบท และศูนย์พาณิชย์ชนบท เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางและขนาดใหญ่ และตลาดผลผลิตการเกษตร พร้อมทั้งแสวงหาการเปิดช่องทางไหลเวียนแบบสองทางอย่างต่อเนื่องสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่จัดส่งสู่ชนบท และสินค้าเกษตรที่จัดส่งสู่เมือง เพิ่มรายได้เกษตรกรรมและยกระดับแนวโน้มการบริโภคของเกษตรกร รวมถึงช่วยตอบสนองความต้องการด้านชีวิตและการผลิตของประชากรชนบท

แผนข้างต้นมีขึ้นท่ามกลางความพยายามของจีนในการเร่งการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์ที่ด้อยพัฒนาในภูมิภาคชนบท พัฒนาระบบกระจายโลจิสติกส์ใน 'หมู่บ้าน-ตำบล-อำเภอ' โดยชี้แนะบริษัทพาณิชย์และโลจิสติกส์ให้มีการเปลี่ยนผ่านและยกระดับ ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาระบบพาณิชย์ที่มีคุณภาพสูงในอำเภอต่างๆ มีการระบุภารกิจเฉพาะมากกว่า 20 ภารกิจใน 7 ด้าน อาทิ การขยายบริการที่ศูนย์การค้าและตลาดชั้นนำสู่หมู่บ้านและตำบล การปรับปรุงศูนย์การค้าและตลาด การยกระดับศูนย์กระจายโลจิสติกส์หรือก่อสร้างขึ้นใหม่ การบ่มเพาะแบรนด์อีคอมเมิร์ซผลผลิตการเกษตรในท้องถิ่น และการเพิ่มขีดความสามารถของโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นสำหรับผลผลิตการเกษตร

อนึ่ง แผนปฏิบัติการนี้ร่วมออกโดยหลายกระทรวงของจีนที่กำกับดูแลงานหลายด้าน อาทิ พาณิชย์ การวางแผนเศรษฐกิจ การคลัง ทรัพยากรธรรมชาติ การเกษตรและกิจการชนบท วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และบริการไปรษณีย์ โดยจะมีการกำหนดรายชื่ออำเภอแนวหน้าเป็นประจำทุกปีตามคำแนะนำจากหน่วยงานระดับมณฑล เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2023

‘ชัยวุฒิ’ เข้าชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา ย้ำ พ.ร.ก. ปราบภัยไซเบอร์ ช่วยลดเหยื่อมิจฉาชีพ

(15 ส.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงาน กสทช. สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยเข้าร่วมชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา โดยมีวาระการพิจารณาพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566

โดยนายชัยวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนผู้สุจริตถูกคนร้ายใช้วิธีการทางเทคโนโลยีหลอกลวงทำให้เสียหายทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เป็นอันตรายร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้า ชิมม้า และระงับยับยั้งการโอนเงินของคนร้ายต่อเป็นทอด ๆ เพื่อให้สามารถติดตามทรัพย์สินคืนให้กับผู้เสียหายได้ทันเป็นสำคัญ

ซึ่งสาระสำคัญของพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้
พระราชกำหนดฯ ฉบับนี้ มีทั้งหมด 14 มาตรา

มาตราที่ 1, 2 และ 3 บัญญัติเกี่ยวกับชื่อเรียก วันที่บังคับใช้ และคำนิยาม ตามลำดับ

มาตรา 4 กรณีที่มีเหตุอันควรสงสัย ให้ฝ่ายธนาคาร และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มีหน้าที่ เปิดเผย หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล และส่งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

มาตรา 5 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสอบสวนดีพิเศษ และสำนักงาน ปปง. สั่งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เปิดเผยข้อมูลการลงทะเบียน หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ และมีหน้าที่ส่งให้ผู้สั่งภายในระยะเวลาที่กำหนด

มาตรา 6 กรณีที่ธนาคารพบเหตุอันควรสงสัย ให้มีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมนั้น และแจ้งธนาคารที่ รับโอนต่อทุกทอด ระงับการทำธุรกรรมที่รับโอนไว้ทันที เป็นการชั่วคราวไม่เกินเจ็ดวัน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ หรือ เลขาธิการ ปปง. ดำเนินการตรวจสอบ

มาตรา 7 กรณีที่ธนาคารได้รับแจ้งจากผู้เสียหายโดยตรง ให้ธนาคารระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ทันที และแจ้งให้ธนาคารที่รับโอนต่อทุกทอด ระงับการทำธุรกรรมที่ รับโอนไว้ด้วย พร้อมกับแจ้งผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในเวลา 72 ชั่วโมง เมื่อพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์แล้ว ให้พิจารณามีคำสั่งไปยังธนาคาร ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันได้รับคำร้องทุกข์ หากไม่มีคำสั่งภายในกำหนดเวลา ให้ธนาคารยกเลิกการระงับการทำธุรกรรม

มาตรา 8 วรรคแรก การแจ้งข้อมูลหรือหลักฐาน ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 สามารถกระทำทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้

มาตรา 8 วรรคสอง 1) การร้องทุกข์ในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะกระทำต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจแห่งใดในราชอาณาจักร และจะร้องทุกข์ทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยให้ถือว่าเป็นการร้องทุกข์โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2) การสอบสวนหรือดำเนินการเกี่ยวกับความผิดดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนที่รับคำร้องทุกข์ไม่ว่าจะประจำอยู่ที่สังกัดใด หรือพนักงานสอบสวนที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดให้เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ มีอำนาจสอบสวนหรือดำเนินเกี่ยวกับความผิดดังกล่าวได้ไม่ว่าความผิดนั้นเกิดขึ้น ณ ที่ใดในราชอาณาจักร

มาตรา 9 ผู้ใดเปิดบัญชีม้า หรือใช้ซิมม้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 10 และมาตรา 11 ผู้ใดโฆษณาเกี่ยวกับบัญชีม้า ซิมม้า มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 12 การเปิดเผย แลกเปลี่ยน เข้าถึง จัดเก็บ รวบรวม การใช้ข้อมูลบุคคลตามตามพระราชกำหนดฯ นี้ ไม่อยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มาตรา 13 ในวาระเริ่มแรกให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา คณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ 1) กำหนดแนวทางในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2) ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเหตุอันควรสงสัย และ 3) ให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน โดยให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่งตั้งเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งเลขานุการร่วม

มาตรา 14 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการตามพระราชกำหนดฯ นี้

โดยการจัดทำพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระและอำนวยความสะดวกในการร้องทุกข์ให้แก่ประชาชน และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ และความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ และตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยทางอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน ปปง. สำนักงาน กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน รูปแบบภัยทางออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และ ช่องทางการติดต่อในการแก้ปัญหาหากเกิดเหตุแล้ว ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ ในทุกรูปแบบ

‘แน็ก ชาลี’ ตามประกบ ‘เก๋ไก๋’ ซ้อมร้องเพลงไม่ห่าง!! โชว์ลูกคอร้องเพลงคู่แฟนสาวเบาๆ หวังช่วยติวอีกแรง

(15 ส.ค.66) หลังจากเปิดตัวคู่รักคู่ใหม่ของวงการไปได้ไม่นานสำหรับหนุ่ม ‘แน็ก ชาลี’ ที่ประกาศชัดว่า ไม่โสดแล้ว พร้อมกับการเปิดตัวคบหากับสาว ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ หรือ ‘ณัฐธิชา นามวงษ์’ ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ทั้งคู่ก็มีโมเมนต์สวีตกันอยู่ตลอด และทำเอาแฟนๆ ฟินกันเป็นแถว

ล่าสุด ‘เก๋ไก๋’ โพสต์คลิปในติ๊กต็อก เป็นคลิปที่ทั้งคู่ร้องคาราโอเกะ เพลงสิ่งสำคัญ พร้อมเขียนแคปชันสั้นๆ ว่า "ฉันพูดได้เพียง…" โดยในคลิปจะเห็นว่าหนุ่มแน็กคอยซัพพอร์ต และบอกให้เก๋ไก๋มั่นใจ พร้อมส่งสายตา ส่งพลังให้ตลอดเวลาเลยทีเดียว

'อ.เทพมนตรี' ชี้!! ที่แท้ 'กายแก้ว' มาจาก 'การ์กอยล์' ไม่เกี่ยวกับมหาราชกัมพูชาและไม่น่ามาบูชาโดยไม่รู้ความจริง

(15 ส.ค.66) อาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ว่า...

ที่แท้ 'กายแก้ว' มาจาก 'การ์กอยล์' 

แปลกแต่จริงที่มีคนหลงเชื่องมงายได้เพียงนี้ โดยไม่ไปศึกษาหาความรู้ก่อนที่จะเชื่อสิ่งใด จึงอาจกลายเป็นเหยื่อถูกล่อลวง มอมเมาเข้าสู่ความมีอคติต่อความเชื่อความดีในทางศาสนา

กายแก้ว อาจมีที่มาคือ การ์กอยล์ ซึ่งเป็นสัตว์ผสมหากินกลางคืน เป็นมารกึ่งอมนุษย์ - มังกร ที่ปกปักษ์รักษาผู้คนตามความเชื่อของชาวยุโรป เป็นเครื่องประดับอาคารสถานต่าง ๆ บริเวณที่เรียกว่า 'ปนาลี' ช่องรางน้ำทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส

แน่นอนว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชกัมพูชาในอดีต

และย่อมไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยที่พยายามทำรูปลักษณ์ให้เป็นยักษามีปีก

สังคมไทยไปไกลสุดกู่ เอาทุกอย่างมาบูชาปะปนกันโดยความไม่รู้เรื่องจริง

(การ์กอยล์ :Gargoyle คือคำที่ไว้ใช้เรียกรูปปั้นหรือรูปสลักตัวประหลาดที่เอาไว้ใช้ระบายน้ำจากบนหลังคาตามตัวอาคารหรือโบสถ์ โดยรูปแบบของการ์กอยล์ที่ได้รับความนิยมนั้น มักจะเป็นมังกรหรือปีศาจหันหน้ายื่นออกจากตัวอาคารและโบสถ์)

‘นุ่น วรนุช’ ระเบิดความเซ็กซี่ เล่นกล้องถ่ายรูปแบบยั่วๆ สวมบราตัวจิ๋วโชว์กล้ามท้อง ทำแฟนคลับใจกระเจิงกันหมด

(15 ส.ค.66) เรียกว่าทำเอาแฟนๆ ใจกระเจิงกันเลยทีเดียว เมื่อล่าสุดนางเอกดัง ‘นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี’ ออกมาโพสต์โมเมนต์น่ารักๆ ปนความเซ็กซี่ขยี้ใจแต่เช้ารับวันใหม่ ด้วยการอวดความแซ่บท่อนบนสวมชุดชั้นในแบรนด์ดัง ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้น เล่นกล้องถ่ายรูปแบบยั่วๆ อื้อหือ! ทำเอาชาวเน็ตร้องว้าวบอกใจไปหมดแล้ว บ้างก็ส่งอิโมจิรูปไฟลุกมาให้

'แดงปทุมฯ' ให้กำลังใจ 'หมอชลน่าน' ขอให้จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น

(15 ส.ค.66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ตรีชฎา ศรีธาดา สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค รับมอบหนังสือและดอกไม้จากตัวแทนพี่น้องเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดจันทบุรี และชมรมแท็กซี่สุวรรณภูมิ แท็กซี่กรุงเทพ ที่มาให้กำลังใจที่พรรคเพื่อไทย ให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ พร้อมประกาศพร้อมอยู่เคียงข้างทำงานให้ประชาชนเต็มความสามารถ

‘ใบเฟิร์น’ หลุดปากเรียก ‘นาย’ ว่า “ที่รัก” กลางไลฟ์ คนโสดกรี๊ด!! อยากลงไปดิ้นให้รู้แล้วรู้รอด

(15 ส.ค.66) ต้องบอกเลยว่าเป็นทริป One Day ที่มีความหวานเกินต้านมากสำหรับคู่ของ ‘นาย ณภัทร’ และ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ บอกเลยว่าหวานจนมดแทบขึ้น และนอกจากนี้ยังมีช็อตที่ทำเอาเป็นแฟนหลายคนถึงกับใจละลาย

ขณะไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยว แล้วไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนๆ และก็มีจังหวะที่ ‘ใบเฟิร์น’ หลุดปากเรียก ‘นาย’ ว่า “ที่รัก” บอกเลยว่าทำเอาแฟนคลับที่กำลังนั่งดูไลฟ์สดอยู่ถึงกับฟินเกินไปตามๆกันจ้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top