Monday, 16 June 2025
TheStatesTimes

‘เชสเตอร์’ แจง!! ‘หนังไก่ซอสน้ำปลา’ หายปริศนา เหตุ!! ‘พนักงานสาขา-คนรับออเดอร์’ สื่อสารกันคลาดเคลื่อน

(15 ส.ค. 66) หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ปัญหา ‘หนังไก่หาย’ ลงในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 3.4 แสนคน พร้อมเล่าว่า…

“รบกวนสอบถามค่ะสั่งข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลาแบรนด์นึงมา แต่เหมือนหนังไก่โดนดึงออกไปค่ะ ไม่ทราบว่าคนอื่นเป็นเหมือนเรามั้ยคะ 🥹”

ขณะที่คอมเมนต์มองว่า “ไม่น่าจะเป็นไปได้” อีกทั้ง “ส่วนที่อร่อยที่สุดหายไปแล้ว”, “เอาเนื้อไปยังไม่โกรธเท่านี้”

สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการชื่อดัง เปิดเผยว่า ทีมข่าวได้โทรสอบถามผู้ช่วยผู้จัดการร้านไก่ดังกล่าว ได้คำตอบว่า “วันเกิดเหตุลูกค้าโทรมาสอบถามเรื่องหนังไก่หายแล้ว ได้ขอโทษลูกค้าไปแล้ว ลูกค้าไม่ได้ติดใจเอาความอะไร แค่สอบถามว่าหนังไก่หายไปไหน จึงตอบลูกค้าไปว่า “หนังไก่อาจจะหด หนังไก่ไม่น่าหลุด” ลูกค้าก็เข้าใจ เพราะเป็นลูกค้าประจำ”

ล่าสุด บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด เจ้าของธุรกิจ ร้านอาหารเชสเตอร์ (Chester’s) ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า…

“จากกรณีที่ลูกค้าท่านหนึ่งได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการสั่งซื้อเมนูข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลาจากร้านเชสเตอร์ สาขา ปตท.วงแหวนบางแค และพบว่า ไก่กรอบซอสน้ำปลา ที่ได้รับ ไม่มีหนังไก่ ติดมาด้วยนั้น

หลังจากที่บริษัทรับทราบข่าวได้ทำการติดต่อลูกค้าและสอบถามข้อเท็จจริงไปยังสาขาดังกล่าวทันที เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า สาเหตุอาจเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างพนักงานสาขาที่รับออเดอร์กับลูกค้า จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว

ทั้งนี้ บริษัทขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณ พร้อมน้อมรับทุกคำติชมเพื่อนำไปพัฒนาการบริการให้กับลูกค้าเชสเตอร์ทุกท่านให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ขอแสดงความนับถือ”

‘ก้อย’ ขอบคุณ ‘นิกกี้’ เป็นหนึ่งในความสำเร็จของรายการที่ทำ แม้ความสัมพันธ์จะจบลง แต่มิตรภาพที่มีให้กันยังไม่เปลี่ยนแปลง

(15 ส.ค.66) สำหรับคู่รักสุดแนว อย่าง ‘ก้อย อรัชพร โภคินภากร - นิกกี้ ณฉัตร’ ที่ทั้งคู่ปิดฉากรักลงไปด้วยดี และล่าสุด สาวก้อย ได้จัดมินิคอนเสิร์ตกับเพื่อนสนิท อย่าง ‘ดรีม-นัตตี้’

โดย ‘สาวก้อย’ โพสต์สตอรี่พร้อมภาพจดหมายจาก ‘หนุ่มนิกกี้’ ที่เขียนความในใจไว้ว่า “เก่งมาก สุดยอด พรสวรรค์ เขียนก่อนดูคอนเสิร์ตนะ เรารู้ว่าถ้าเขียนหลังจากคอนเสิร์ตก็ต้องเขียนแบบนี้”

ต่อมา ‘สาวก้อย’ ก็โพสต์สตอรี่ถึง ‘หนุ่มนิกกี้’ อีกว่า “ขอเขียนถึงพี่นิกกี้สักเล็กน้อย สำหรับรายการ ‘ถ้าหนูรับ’ พี่นิกกี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จของรายการนี้และในหลาย ๆ อย่างของก้อยตลอดสามปี ถึงทั้งรายการและความสัมพันธ์จะจบลงแต่มันดีมาก ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะ ซึ้งใจ555555” ก็ถือว่ายังคงเป็นมิตรภาพที่ดีหลังเลิกกัน

‘น้ำตาล ชลิตา’ ฝากถึงป้าข้างบ้าน เลิกยุ่งเรื่องคนอื่นได้แล้ว หลังชอบเอาเรื่องตนไปเล่าใส่ไข่ ลั่น!! มีปัญหาอะไรมาเคลียร์ได้

(15 ส.ค.66) มีเรื่องให้อารมณ์เดือดปุด ๆ สำหรับนางงามสาว ‘น้ำตาล ชลิตา’ หลังออกมาไลฟ์สดฟาดพฤติกรรมเพื่อนบ้านชอบเอาเรื่องของตนไปเล่าใส่ไข่ให้คนอื่นฟัง ซึ่งน้ำตาลบอกจริง ๆ ไม่ใช่ป้า อายุประมาณ 30 กว่าแล้ว แต่จะเรียก 'ป้า' เพราะชอบสาระแนเหมือนป้าข้างบ้าน

ยืนยันตนไม่เคยไปยุ่งกับเขา มีแต่แม่เอาเรื่องในครอบครัวไปเล่า แล้วเขาเอาไปเล่าต่อแบบแต่งเรื่อง เห็นใครไปใครมาที่บ้าน ก็กล่าวหาว่าตนเอาผู้ชายมาอยู่ที่บ้าน แถมยังหาว่าเราไล่พ่อแม่ออกจากบ้าน เพื่อจะพาผู้ชายมาอยู่ น้ำตาลยอมรับตอนนี้ไม่ได้อยู่กับแม่ แต่ไม่เคยไล่ เรามีแม่คนเดียวในชีวิต รักแม่

ล่าสุดในเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘น้ำตาล’ เคลื่อนไหวโพสต์ข้อความฝากถึงป้าข้างบ้านอีกว่า “ป้าบ้านตรงข้ามถ้าเห็นโพสต์หนู ป้าหยุดเxีอกเรื่องของหนูนะคะ หนูไม่เคยไปยุ่งเรื่องของป้านะ ต่างคนต่างอยู่นะคะ มีอะไรมากดกริ่งเคลียร์ได้ หลายรอบล่ะ”

นอกจากนี้เจ้าตัวยังคอมเมนต์เพิ่มเติมใต้โพสต์ดังกล่าวของตัวเองด้วยว่า “ป้าบ้านตรงข้ามที่แปลว่าบ้านตรงข้ามจริง ๆ อะค่ะ ไม่ใช่เวทีนางงาม”

ท่ามกลางชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ซัพพอร์ต ‘น้ำตาล’ มากมาย พร้อมทั้งไม่ลืมร่วมวงวิจารณ์ยับพฤติกรรมป้าข้างบ้านชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านแบบนี้ต้องโดนสักที

ปตท. ส่ง on-ion เดินหน้าขยายสถานีชาร์จ EV ผนึก SC เจาะกลุ่มที่อยู่อาศัย ตั้งเป้า 400 หัวจ่ายในปี 66

(15 ส.ค. 66) นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย นายโทรณ หงศ์ลดารมภ์ Head of EV Charger Business บริษัท อรุณ พลัส จำกัด และนายดิเรก ตยาคี Head of Technology Solutions บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC Asset) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ระหว่าง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด และ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมการใช้และให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถ EV เติมเต็มพลังงานสะอาดได้แบบไม่ต้องแวะรอชาร์จ

นายเชิดชัย เปิดเผยว่า บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on-ion) เร่งเดินหน้าขยายธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ในพื้นที่โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน โดยจับมือพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรอย่าง SC Asset ติดตั้ง EV Charging Station ในเฟสแรก จำนวน 40 เครื่อง ภายใต้โครงการเรฟเฟอเรนซ์ (Reference) โค้บบ์ (COBE) และโครงการอื่น ๆ โดยจะเริ่มโครงการแรกที่เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ ใกล้ใจกลางธุรกิจย่านสาทร พร้อมให้บริการช่วงต้นปี 2567 ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย รองรับความต้องการของผู้ใช้ EV ในเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น

“ปตท. มุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพความพร้อมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการครบวงจร ภายใต้แบรนด์ on-ion ให้ครอบคลุมครบทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ พื้นที่ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร และพื้นที่โครงการที่อยู่อาศัยกว่า 400 หัวจ่าย ในปี 2566 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของกลุ่ม ปตท.” นายเชิดชัย กล่าว

นายดิเรก กล่าวว่า SC Asset ได้ร่วมมือกับ on-ion ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า กับทางสถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มาตั้งแต่ปี 2563 นับว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพในการร่วมมือให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าและบริการของ SC ตามแนวคิด Human-Centric ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อค้นหาความต้องการ และโซลูชันต่าง ๆ ด้านที่อยู่อาศัย ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง และพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคซึ่งเทรนด์ปัจจุบันที่มีแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ในอนาคตการมี EV Charging Station ในโครงการ จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักสำคัญที่ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อบ้าน และคอนโดฯ นอกจากจะเป็นประโยชน์ทางตรงที่ผู้บริโภคได้รับแล้ว การนำเทคโนโลยีนี้เข้ามายังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ โครงการของ SC ที่มีการติดตั้ง EV Charging Station ลูกค้าจะสามารถ สั่งชาร์จ ตรวจสอบสถานะการณ์ชาร์จ และ ชำระเงิน ผ่านทางรู้ใจแอป (RueJai App) ได้ทันที

ทนายของ ‘จูน’ ภรรยา ‘หนุ่ม กะลา’ เผย มือที่สามขอกลับลำ!! ไม่ยอมไกล่เกลี่ยจ่าย 10 ล้าน ด้านศาลเตรียมนัดสืบพยานโจทก์

(15 ส.ค. 66) อัปเดตความคืบหน้ากรณีมือที่สาม ‘หนุ่ม กะลา’ สามีของ ‘จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว’ เตรียมจ่ายเงินทดแทนให้จำนวน 10 ล้านบาทนั้น ล่าสุด (15 ส.ค. 66) ทาง ‘ทนายชายพัฒน์’ หรือ ‘ทนายพัฒน์’ ทนายความของจูนได้ออกมารายงานความเคลื่อนไหวว่า ทางคู่กรณีของจูนนั้นกลับลำ ไม่ประสงค์จะจ่ายเงินไกล่เกลี่ยเรื่องทั้งหมดแล้ว

ดังนั้น นัดไกล่เกลี่ยที่แต่เดิมจะมีขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2566 จำเป็นต้องเลื่อนออกไปตามคำสั่งศาล คือวันที่ 28 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น.โดยเป็นนัดเพื่อสืบพยานโจทก์ มีรายละเอียดข้อมูล ดังนี้

“เนื่องจากพรุ่งนี้ เป็นวันที่ 16 สิงหาคม 2566 เป็นวัดนัดไกล่เกลี่ยคดีคุณจูน ในกรณีฟ้องเรียกค่าทดแทนจำนวน 10 ล้านบาทจากบุคคลที่สาม แต่เนื่องจากทางบุคคลที่สามแจ้งว่า ไม่ประสงค์ไกล่เกลี่ย ดังนั้น นัดไกล่เกลี่ยที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดลพบุรีในวันพรุ่งนี้จึงต้องยกเลิกไป (สิทธิของจำเลย)

นัดต่อไป คือ วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น. เป็นนัดพร้อมเพื่อชี้สองสถาน กำหนดแนวทางนำสืบ หรือสืบพยานโจทก์…

จึงประกาศให้ทุกคนทราบครับ และแม่จูนฝากขอบคุณทุกกำลังใจผ่านผม มาฝากทุกท่านด้วยครับ เธอสบายดีและมีกำลังใจ… #ทีมเมียหลวง #แพงที่ไม่ต้องพยายาม #ทนายชายพัฒน์ #ทนายเมียหลวง”

ท่ามกลางความคิดเห็นของชาวเน็ตที่เอนเอียงไปทางฝ่ายของจูน เพ็ญชุลี โดยหลายคนมองว่าทางคู่กรณีไม่มีทางที่จะชนะคดีนี้ได้อย่างแน่นอน เช่น

“จัดให้หนักกับคนแบบนี้”
“เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณทนายและคุณจูนค่ะ”
“จะสู้ยังไงมิทราบ”
“จัดเต็มๆสักหนึ่งผลงานเลยครับ”
“สู้ๆ คะเรากำลังหาหลักฐานยื่นฟ้องเหมือนกันคะทีมเมียหลวงคะ” เป็นต้น

ก็คงต้องติดความคืบหน้าในวันที่ 28 สิงหาคม 2566 กันต่อไป ว่านัดสืบพยานโจทก์จะเป็นอย่างไร หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในประเด็นนี้ ทางเดอะไทยเกอร์จะนำมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

‘เจนนี่’ รีบขอโทษ หลังแฟนคลับเอื้อมมือจับแก้ม ‘ยูจิน’ แต่โดนพี่เลี้ยงปัดออก ชาวเน็ตชื่นชม!! แก้ไขสถานการณ์ได้ดี

(15 ส.ค.66) ชาวเน็ตคอมเมนต์ชื่นชมกันใหญ่ว่าแก้ไขสถานการณ์ได้ดี สำหรับนักร้องสาวอย่าง ‘เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ’ หรือ ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ และลูกสาว ‘น้องยูจิน’ ที่กำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าชัง 

โดยมีคลิปจากผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้เผยคลิปแฟนคลับทักทายขณะที่เจนนี่อุ้มลูกสาวอยู่ และได้เอื้อมมือจะไปจับแก้มน้องยูจิน แล้วถูกพี่เลี้ยงปัดมือออก พร้อมกับบอกว่า "ไม่จับน้องนะคะ น้องเพิ่งออกจากโรงพยาบาล" ด้านแม่เจนนี่ รีบขอโทษ ยิ้มให้กับแฟนคลับและบอกว่าน้องไม่สบาย เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล

งานนี้คอมเมนต์เพียบ ที่เข้ามาชื่นชม ‘สาวเจนนี่’ ที่แก้ไขสถานการณ์ได้ดี และแฟนคลับก็เข้าใจ ว่าเด็กเล็กป่วยได้ง่าย

ผบ.ตร.จัดสรรงบตัดเครื่องแบบให้ตำรวจจราจรทั่วประเทศเกือบ 20,000 คน นับเป็นเครื่องแบบภาคสนามครั้งแรกของสายงานจราจร เกิดความคล่องตัว ปลอดภัย สร้างขวัญกำลังให้ตำรวจจราจร เพื่อดูแลประชาชนบนท้องถนน ดีเดย์พร้อมกัน 15 ก.ย.นี้

วันนี้ (15 ส.ค.66 ) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ ตามดำริ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงเครื่องแบบสำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานจราจร โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน คณะทำงานได้ร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ กำหนดหลักเกณฑ์รูปแบบเครื่องแบบ และสำรวจความคิดเห็นจากข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ จนได้ข้อสรุปเครื่องแบบจราจรเสนอ ตร. 

ต่อมา ผบ.ตร.ได้อนุมัติเครื่องแบบสนามตำรวจสายงานจราจรเป็นแบบเดียวกับสายงานป้องกันปราบปราม โดยเครื่องหมายใช้ด้ายสีขาวปักบนพื้นสีเดียวกับเครื่องแบบ และติดเครื่องแบบด้วยแถบหนามเตย ให้มีปลอกแขนจราจรสะท้อนแสง เครื่องแบบสามารถใช้ได้ทั้งสายงานป้องกันปราบปรามและงานจราจร หากมีการเปลี่ยนแปลงสายงาน พร้อมขออนุมัติกรมบัญชีกลาง เบิกจ่ายค่าผ้าและค่าตัดชุดเครื่องแบบสนาม รวมทั้งค่าเครื่องหมายตามที่ราชการกำหนด สำหรับข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่งานจราจรทั่วประเทศ จำนวน 19,662 คน แล้วโอนเงินไปให้หน่วยทำการจัดซื้อจัดจ้าง เร่งรัดดำเนินการตัดเครื่องแบบ กำหนดใส่เครื่องแบบฯ ภายใน 15 ก.ย.66  โดยพร้อมเพรียงกัน”      

โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า “สายงานจราจรมีความสำคัญที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ออกช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนน ปฏิบัติตามนโยบาย ตร.ในการกำหนดมาตรการลดและป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงภารกิจอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย 

การมีเครื่องแบบสนามเหมือนกับสายงานป้องกันปราบปราม เป็นแบบเดียวกันทั้งประเทศ จะช่วยให้การทำงานเกิดความคล่องแคล่ว คล่องตัว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งการมอบเครื่องแบบภาคสนามสายงานจราจร ของ ผบ.ตร.ในครั้งนี้ ถือเป็นชุดภาคสนามครั้งแรกของตำรวจจราจร เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจสายงานจราจรอีกด้วย”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตตำรวจ รุ่นที่ 2 มุ่งพัฒนา เสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานเพื่อรองรับภารกิจดูแลประชาชน

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล(สกพ.) เปิดเผยว่า วันอังคารที่ 15 ส.ค.66 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน ในพิธีเปิด “โครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ (รุ่นที่ 2)” จำนวนทั้งสิ้น 99 นาย มีการจัดอบรมในระหว่างวันที่ 14-19 ส.ค.66 ณ อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

โครงการพัฒนาบุคลิกภาพและคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจ เป็นโครงการที่จัดทำขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ให้กำลังพลที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชน มีแนวคิดในการเสริมสร้างทัศนคติ ปรับปรุงพัฒนาบุคลิกภาพที่ดี โดยการนำธรรมะซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติ โดยได้รับความเมตตาจาก พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น ตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตวิทยา การแพทย์สาธารณสุข ในการสร้างแรงบันดาลใจ

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการให้มีการส่งเสริมจริยธรรม จรรยาบรรณและการพัฒนาคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างพัฒนาทัศนคติ จิตสำนึกและพฤติกรรมให้เป็นผู้มีวินัย มีเป้าหมายเพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีโอกาสในการพัฒนาตน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด ทัศนคติ ค่านิยม ตลอดจนการมีจิตสำนึกที่ดี จนนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่พี่น้องประชาชน สมดังเจตนารมณ์ของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานกำลังพลในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าราชการตำรวจที่ผ่านการอบรมจากโครงการนี้ จะได้นำความรู้ แนวคิด ทัศนคติ ที่ได้รับจากคณะวิทยากร นำไปปรับปรุงพัฒนาตนเองให้เป็นบุคลากรที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม ทั้งในมิติของการปฏิบัติหน้าที่ราชการและการประพฤติปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
 

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนภัยไซเบอร์

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 เวลา 13.30 น. นาย ปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด นางสาว ศรีรัชต์ ธนะรัชต์ กรรมการบริหารฝ่ายรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ นางสาว รัชดาวรรณ สุลัญชุปกร รองกรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจค้าปลีกโมบิลิตี้ และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.สมพงษ์  ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1)  พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (ผบก.ภ.จว.นนทบุรี) และ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ตอท.บช.สอท.) ร่วมเปิดโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และป้องปรามภัยอาชญากรรมออนไลน์  ณ สถานีบริการน้ำมันเชลล์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มนเทียรรุ่งเรือง (สาขา 6) ถนนกาญจนาภิเษก อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 

นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “บนการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นธุรกิจพลังงานที่ยั่งยืนภายใต้กลยุทธ์ Powering Progress หนึ่งในสี่เสาหลักที่เชลล์ให้ความสำคัญคือ Powering Lives ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกคนให้ดีขึ้น นอกเหนือจากการจัดหาพลังงานที่เข้าถึงได้และเชื่อถือได้อย่างยั่งยืน  ด้วยเหตุนี้ เชลล์จึงได้เข้าร่วมสนับสนุนแคมเปญ ผนึกกำลังร่วมใจ ต้านภัยไซเบอร์ ภายใต้หลักการ ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน รู้ทันกลโกง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการสื่อสารให้เข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น  เพราะในแต่ละวัน มีผู้มารับบริการในสถานีบริการเชลล์ทั่วประเทศถึง 5 แสนคน ทั้งการมาเติมน้ำมัน การใช้บริการธุรกิจเสริมต่างๆ และการใช้บริการห้องน้ำที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ  การร่วมแคมเปญครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสร้างความตระหนักถึงภัยไซเบอร์ที่ใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน ยังช่วยให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองได้ เชลล์จึงยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้สังคมไทยปลอดภัยจากการคุกคามบนโลกไซเบอร์และน่าอยู่ยิ่งขึ้น”  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร. กล่าวเสริมว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำระบบรับแจ้งความ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เปิดดำเนินการรับแจ้งความออนไลน์และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหามาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้จัดทีมวิทยากรของคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และครูไซเบอร์ทั้งครู ก. และครู ข. ออกบรรยายให้ความรู้แก่ประชาชน รวมทั้งได้มีการนำแบบทดสอบ วัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ มาประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทำแบบทดสอบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์  โดยเริ่มทำแบบทดสอบได้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 จนถึง วันที่ 30 กันยายน 2566 หากทำแบบทดสอบครบ 40 ข้อแล้ว  จะได้รับ Whoscall Premium Gift Code ฟรี ซึ่งสามารถใช้บริการ Whoscall Premium Feature ได้ฟรี เป็นระยะเวลา 1 ปี หากทำแบบทดสอบได้ถูกต้องตั้งแต่ 35 ข้อ  ขึ้นไป จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล iPhone 14  เดือนละ 20 รางวัล  เป็นเวลา 3 เดือน  รวม 60 รางวัล  และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จับรางวัลผู้โชคดีประจำเดือน กรกฎาคม 2566  จำนวน 20 รางวัล ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้โชคดีสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ช่องทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com ขณะเดียวกันได้มีการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในช่องทางออนไลน์ (Online) และออนไซต์ (Onsite) ในช่องทางออนไลน์ (Online) ได้มีการแถลงข่าวประจำสัปดาห์และนำเสนอในช่องทางของสื่อมวลชนทุกแขนง รวมทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ www.เตือนภัยออนไลน์.com และเพจ https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์ สำหรับการประชาสัมพันธ์ในช่องทางออนไซต์ (Onsite) นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ผนึกกำลังเตือนภัยออนไลน์บนรถยนต์โดยสารสาธารณะ โดยได้ร่วมกันติดสติ๊กเกอร์เตือนภัยออนไลน์ 6 รูปแบบกลโกง บนรถยนต์โดยสารสาธารณะ (บขส.) รถยนต์โดยสารประจำทาง (รถเมล์) และรถยนต์รับจ้างสาธารณะ (Taxi) ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่โดยสารรถยนต์โดยสารและรถยนต์รับจ้าง ได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์แถลงข่าวเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบในหลายวิธี หลายช่องทาง ให้ประชาชนได้มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ แต่ปรากฏว่ายังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของคนร้ายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ในช่องทางอื่นเพิ่มเติม สำหรับการประชาสัมพันธ์ในวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเชลล์ฯ ติดตั้งสื่อภายในสถานีบริการน้ำมัน  เช่น  ภายในห้องน้ำชาย-หญิง  เป็นต้น ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ถึงข้อมูลและข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลหรือช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันที่จะมีผู้ใช้บริการเดินทางเข้ามาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์กว่า 700 แห่งทั่ว
ประเทศ”  

ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทันภัยออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทำแบบทดสอบวัคซีนไซเบอร์ จำนวน 40 ข้อ และขอให้แชร์แบบทดสอบไปให้กับญาติหรือผู้เป็นที่รัก เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ทำแบบทดสอบมีความรู้เท่าทันกลโกงของคนร้ายบนโลกออนไลน์ และไม่ตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งขอประชาสัมพันธ์ช่องทางการแจ้งความ  แจ้งเบาะแส  และให้คำปรึกษา ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรผ่านสายด่วน 1441 สำหรับช่องทางประชาสัมพันธ์เตือนภัยออนไลน์  ประชาชนสามารถศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์รูปแบบต่างๆ ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com และ Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top