Tuesday, 24 June 2025
TheStatesTimes

ผู้ว่าฯ ปู คืนสู่สาคร คนแห่ต้อนรับเนืองแน่น ด้านพ่อเมืองบอกรักและคิดถึงที่สุดสมุรสาคร อีก 1 เดือนพร้อมสู้ต่อ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2564  ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์  แพทย์ผู้ให้การดูแลฯ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี (ภริยา) นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และ นางสาววีราพร หรือ น้องน้ำหวาน วิจิตร์แสงศรี (บุตรสาว) เพื่อพบปะกับ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนที่มาร่วมกันต้อนรับอย่างเนืองแน่น

โดยเมื่อขบวนรถของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครมาถึง คนที่มาต้อนรับก็ปรบมือส่งเสียงดีใจ ที่ท่านเดินทางกลับมาที่สมุทรสาครด้วยใบหน้าที่สดใส มีรอยยิ้มและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น แม้จะยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดและครอบครัว ก็ได้โบกมือทักทายทุกคน พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณที่ทุกคนรักและมารอต้อนรับ ก่อนที่จะเข้าห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ฯ เพื่อพบปะกับผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ประมาณ 30 คน

สำหรับในห้องประชุมหลังจากที่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ได้เล่าให้ฟังถึงอาการท่านผู้ว่าฯ และแนวทางการรักษา ตลอดจนกำลังใจที่มีส่วนสำคัญทำให้ท่านผู้ว่าฯ ฟื้นคืนร่างกายกลับมาได้โดยเร็วแล้วนั้น ทางนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้กล่าวถึงความรู้สึกตั้งแต่เริ่มแรกที่รู้ว่าติดเชื้อโควิด – 19 จนกระทั่งนอนอยู่ในโรงพยาบาลแบบไม่รู้สึกตัว 43 วัน และต้องพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลศิริราชทั้งหมด 82 วัน

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ตนเองได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านการเล่าเรื่องจากแพทย์ผู้ให้การดูแลรักษามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของโรงพยาบาลสนามที่ตนมุ่งหวังและเชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางในการป้องกันแก้ไขสถานการณ์โควิดให้ลุล่วงไปได้อย่างแน่นอน จนกระทั่งเมื่อตนเองรู้สึกตัวและสามารถขยับร่างกายได้แล้วนั้น ก็ได้อ่านข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับโควิดที่สมุทรสาครมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รับรู้ความเคลื่อนไหว ความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำใจจากทุกภาคส่วนที่หลั่งไหลสู่สมุทราสคร และความรัก ความสามัคคีของคนสมุทรสาคร ตลอดจนกำลังใจที่ส่งต่อมาให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครอย่างล้นหลาม

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะบอกกับคนสมุทรสาครคือ “รักและคิดถึงสมุทรสาครมากที่สุด” แม้ตนเองจะไม่ใช่คนสมุทรสาคร แต่การที่ได้มาทำงานที่นี่กว่า 1 ปี ก็รักและคิดถึงที่นี่มากแม้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านก็เสมือนบ้านของตนเอง โดยสถานการณ์โควิด – 19 วันนี้ เป็นบททดสอบที่สำคัญยิ่ง ซึ่งคนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้ตนก็เชื่อว่าการระบาดครั้งนี้จะต้องมีจุดจบ สมุทรสาครจะต้องสามารถกลับขึ้นมายืนได้อีกครั้ง ด้วยความร่วมมือของคนสมุทรสาคร ที่จะทำให้เราสามารถต่อสู้ชนะโควิดได้ในเร็ววันนี้ ส่วนตัวนั้นขอเวลาอีกประมาณ 1 เดือนในการพักฟื้นร่างกายตามคำสั่งของแพทย์ หลังจากนั้นจะกลับมาทำงานรับใช้พี่น้องชาวสมุทรสาคร 

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังบอกทิ้งท้ายด้วยอารมณ์แห่งความสุขและเรียกรอยยิ้มด้วยว่า ถ้าวันที่หายเป็นปกติสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว คิดว่าจะลงพื้นที่ไหนเป็นจุดแรกนั้น คงตอบไม่ได้ เพราะทุกพื้นที่สำคัญเหมือนกันหมด หากจะระบุไปที่ใดที่หนึ่งกลัวจะทำให้พื้นที่อื่นเกิดความน้อยใจ เพราะการทำงานเลือกพื้นที่ไม่ได้ คงต้องดูความเหมาะสมหรือความจำเป็นในขณะนั้น อีกอย่างหนึ่งคือ บอกไม่ได้ตอนนี้ เพราะกลัวภริยาจะรู้ ห้ามไม่ให้ไปทำงาน

ทั้งนี้หลังจากที่ใช้เวลาในห้องประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็ได้มีการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อแรกที่สมุทรสาคร โดยมีเมนูโปรดของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคือ ข้าวผัดปู ต้มส้มปลากระบอก ปลาหมึกผัดกะปิ กุ้งซอสมะขาม ลอดช่องวัดเจษ และลำไยพวงทอง ส่วนการรับประทานอาหารนั้นก็จัดเป็นเซ็ตสำหรับแต่ละท่าน มีการเว้นระยะห่างตามมาตรการ New Normal


ภาพ/ข่าว  ชูชาต แดพยนต์ สมุทรสาคร

ผู้ว่าฯ ระยอง เปิดงานมหกรรมรวมพลังขับเคลื่อนจังหวัด น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยพลัง “บวร”

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2564 เวลา 18.00 น. ที่วัดละหารไร่ อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมรวมพลังขับเคลื่อนจังหวัดคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยพลัง “บวร”

จังหวัดระยอง มีพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง มหานิกาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระราชปริยัติโมลี เจ้าคณะจังหวัดระยอง ธรรมยุตนิกาย นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายวรวุฒิ ด่านสมพงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายดาระใน ยี่ภู่ นายอำเภอบ้านค่าย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ภายใต้วิถีนิวนอร์มอล  ภายในงานมีกิจกรรมแสง สี เสียง สื่อผสม การแสดงวัฒนธรรม การออกร้านจำหน่ายอาหารและของดีทั้ง 8 อำเภอ การแสดงดนตรีแบบผสมผสานวงกะหลุกแบนด์ คิดบวกสิบป์ และการแสดงจากกุ้ง สุธิราช วงศ์เทวัญ 

นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรม คุณธรรม สร้างค่านิยมจิตสำนึกที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกลไก “ประชารัฐ” ให้ครอบคลุมมิติด้านศาสนา ด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวิถีวัฒนธรรมไทย โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งจากภายในและใช้คุณธรรมในการพัฒนาสร้างคนไทยและสังคมคุณธรรมที่เกื้อกูลและแบ่งปัน 

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยองมีอำเภอคุณธรรม 8 อำเภอ และชุมชนคุณธรรม 170 แห่ง โดยการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมชุมชนคุณธรรม เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมด้านหลักธรรม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมให้วัด ศาสนสถาน ชุมชน และสถานศึกษา เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมด้านคุณธรรม รวมทั้งน้อมนำหลักธรรมทางศาสนา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติปรับใช้ในชุมชนให้มีรายได้ ทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน ทุนทางวัฒนธรรม มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภายหลังจากสถานการณ์โควิด19 ในจังหวัดระยองคลี่คลาย


ภาพ/ข่าว : เดชา สุวรรณสาร ทีมข่าวภาคตะวันออก

เจ้าหน้าที่คุมเข้มจังหวัดชายแดนใต้ วันแรกของการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอบใหม่ครั้งที่ 63

หน่วยกำลังในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดภายหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์เผายางรถยนต์และลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ จนมาถึงเหตุการณ์ปล้นรถยนต์ ในพื้นที่ จ.ยะลา และเหตุการณ์คนร้ายยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และเมื่อวันที่ 19 มี.ค.นี้ ตรงกับวันสุดท้ายของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 62 และในวันนี้ 20 มี.ค.จะเป็นวันแรกของต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอบใหม่ครั้งที่ 63 ซึ่งมีการบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 19 มิ.ย.64 ซึ่งทำให้กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ถูกจำกัดเสรี

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.64  ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยกำลังภาคประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดภายหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์เผายางรถยนต์และลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ จนมาถึงเหตุการณ์ปล้นรถยนต์ ในพื้นที่ จ.ยะลา และเหตุการณ์คนร้ายยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ตรงกับวันสุดท้ายของการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 62 และในวันนี้ 20 มี.ค.จะเป็นวันแรกของต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอบใหม่ครั้งที่ 63

ซึ่งมีการบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 19 มิ.ย.64 ทำให้กลุ่มคนร้ายถูกจำกัดเสรี   ขณะที่มีรายงานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามที่จะสร้างสถานการณ์เพื่อเบี่ยงเบนเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดช่องให้กลุ่มวางระเบิดนำระเบิดที่จัดเตรีมมาเพื่อทำการวางคาร์บอมบ์ในย่านเศรษฐกิจในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ 3จังหวัดชายแดนใต้ โดยทำการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็ก (ไปป์บอมบ์) ภายในร้านสะดวกซื้อ และตู้เอทีเอ็มเพื่อทำการสร้างสถานการณ์ ขณะที่การรักษาความปลอดภัยในเขตเมือง

เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงโดยเฉพาะในวันแรกของต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอบใหม่ครั้งที่ 63 ซึ่งมีการบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 19 มิ.ย.64  ซึ่ง พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง บอกว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจต่าง ๆ เฝ้าระวังรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ต้องสงสัยอย่างเข้มงวด รวมถึงขอกำลังทหารและอาสาสมัครรักษาดินแดนเพิ่มเติมเข้ามาดูแล นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ราชการและแหล่งชุมชนเพื่อป้องกันความรุนแรงอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือจากประชาชนคอยเป็นหูเป็นตาด้วย

ขณะที่เมื่อเวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา  รับแจ้งว่า มีปล้นทรัพย์ บริเวณบ้านเลขที่ 108 ม.9 บ.บุดี ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา โดยมีกลุ่มคนร้าย 7 - 8 คน ปิดบังใบหน้า บุกเข้าไปภายในบ้าน และปล้นเอารถยนต์กระบะ โตโยต้า แคปสีบรอน ทะเบียน บจ 3793 ยะลา โดยคนร้าย ใช้รถยนต์ฮอนด้า CRV เป็นพาหนะในการก่อเหตุ แล้วหลบหนีไปทาง แยกปารามีแต อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ต่อมาได้รับแจ้งจาก ร.อ.วิถีชัย อ่อนสนิท ผบ.ร้อย ทพ.4113  ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะวีโก้ หมายเลขทะเบียน 3793  ยะลา ซึ่งถูกปล้นไปโดยคนร้ายได้นำมาจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง/คุณชานนท์ บ้าน ปะกาสาแม ม.1  ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เฝ้าระวัง อีกจำนวน 5 คันที่กลุ่มคนร้ายได้ปล้นไป และมีรถจักรยานยนต์เฝ้าระวังพิเศษ อีก จำนวน 41 คัน ซึ่งรถจักยานยนต์บางส่วนเจ้าหน้าที่สามารถตามตรวจยึดคืนได้บ้างส่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่าจักรยายนต์และรถยนต์ กลุ่มคนร้ายจะนำไปเพื่อเตรียมก่อเหตุระเบิดที่ได้ล็อตเป้าหมายเอาไว้แล้ว


ภาพ/ข่าว : ธานินทร์  โพธิทัพพะ

ศรชล.ร่วม หน่วยงานทางทะเล ปล่อยลูกหอยลาย 5 ล้านตัว รักษาความสมดุลทางธรรมชาติสัตว์น้ำ

น.อ.ธัญญ์นิธิ แก้วเวียงเดชณรัฐ  รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จว.ประ จวบคีรีขันธ์ (รอง ผอ.ศรชล.จว. ประจวบคีรีขันธ์) ว่าที่ น.อ.ไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ หน.ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ศคท.จว.ประจวบคีรีขันธ์) นายอติชาติ ชัยศรี นายกสมาคมประมงปราณบุรี นายนุกูล วัฒนากร ปลัดอำเภอปราณบุรี และหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ ศูนย์รับแจ้งเรือเข้าออกปราณบุรี ตำรวจน้ำปราณบุรี และประมงปราณบุรี ร่วมปล่อยลูกหอยลาย จำนวน 5,000,000 ตัว โดยได้รับการสนับสนุนลูกหอยลาย จากศูนย์วิจัยประมงคลองวาฬ ประจวบคีรีขันธ์

มีวัตถุประสงค์เพื่อ ปล่อยลูกหอยลายจำนวน 5,000,000 ตัว ลงสู่ท้องทะเล เพื่อรักษาความสมดุลย์ทางธรรมชาติของสัตว์น้ำ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และชายฝั่งในพื้นที่ อ่าวปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งเกิดขึ้นจาก ความร่วมมือของ ศรชล.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมงอำเภอปราณบุรี สมาคมประมง และผู้ประกอบการประมงปราณบุรี และศูนย์วิจัยประมงคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


ภาพ/ข่าว : นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

อบจ.สุโขทัย ชวนเที่ยว ชมไม้งาม รับลมคลายร้อนในทะเลหลวง

"ดอกเสลา" ม่วงขาวพราวสีสัน สวยทั้งวันบานพลิ้วลมไสว "กัลปพฤกษ์"ชมพูอ่อนเย้ายวนใจ "เหลืองปรีดียาธร" สดใสรับอรุณ มาเช็คอิน ถ่ายรูป ดอกไม้บานรับลมร้อน ที่บริเวณแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวงสุโขทัย

เกาะกลางรูปหัวใจ เป็นที่รู้จักกันคือบริเวณทุ่งทะเลหลวง ตั้งอยู่ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชมธรรมชาติ และเก็บน้ำขนากกลาง  “แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ” หรือเรียกโดยทั่วไปว่า “เกาะรูปหัวใจ” พื้นที่แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางทุ่งทะเลหลวง มีเขตติดต่อกันถึง 3 ตำบล ต.ปากแคว ต.บ้านกล้วย ต.ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจแห่งนี้ ได้เกิดจากแนวคิดโครงการแก้มลิง ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยได้เริ่มทำโครงการสร้างแหล่งเก็บน้ำขึ้น ในปี พ.ศ. 2545 โดยใช้บริเวณทะเลหลวงซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำในอดีต โดยได้มีการขุดลอกพื้นที่และขุดคลองเผื่อผันน้ำเข้ากักเก็บไว้ในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ เเละได้มีการออกแบบให้เป็นรูปหัวใจ

จนถึงปัจจุบันนี้ โครงการแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง และแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ซึ่งมีนายมนู พุกประเสริฐ นายกอบจ. ได้ส่งเสริมให้ “เกาะกลางรูปหัวใจ” ทุ่งทะเลหลวงแห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อน สถานที่ท่องเที่ยว แขกบ้านต่างเมือง และส่งเสริมให้เป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสุโขทัย ในเชิงสุขภาพ ความสดชื่นเบิกบานใจเชิงธรรมชาติร่มรื่น  สร้างความสุขให้กับผู้มาเยือนและคนในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย มีแหล่งท่องเที่ยว มีที่พักผ่อน มีสวนสุขภาพที่ทำให้หายเหนื่อยจากการทำงาน และสภาวะต่าง ๆ มาเติมพลังและเพิ่มความสุขยังทุ่งทะเลหลวงแห่งนี้

ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัยไปแล้ว โดยบริเวณพื้นที่บนเกาะนั้น ได้มีการปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่น เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว และผู้คนที่มาออกกำลังกาย เเละยังได้ถูกใช้เป็นพื้นที่ในการจัดงานในวันสำคัญต่าง ๆ อาทิ วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา นอกจากเป็นที่ตั้งขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัยแล้ว ยังมีส่วนราชการสำคัญ ๆ หลายหน่วยงานได้เข้ามาทำการปลูกสร้างและจัดเป็นส่วนราชการในอนาคตต่อไป เพื่อความคล่องตัวและขยายพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัยให้กว้างและคล่องตัวมากขึ้น  และสร้างอาคารสำคัญเช่น สนามกีฬา สนามฟุตบอลสโมสรสุโขทัยเอฟซีที่โด่งดัง และสวนสาธารณะไว้ในพื้นที่โดยรอบ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญแห่งใหม่ของจังหวัดสุโขทัยในอนาคตข้างหน้า

ลักษณะเด่นแก้มลิง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ทะเลหลวงเป็นแหล่งเก็บน้ำ โอบล้อมด้วยทิวเขาหลวงมีเกาะกลางเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ เป็นความงดงามเพียงหนึ่งเดียวในโลก โดดเด่นจากการสร้างสรรค์จากน้ำ  อยากให้นักที่องเที่ยวทั้งต่างจังหวัด และในพื้นที่ เดินทางมาพักผ่อน  คลายร้อน รับโอโซนของของธรรมชาติ และดอกไม่เด่น ๆ สวยงาม ที่ผลิดอก ออกใบ สวยงามสะพรั่งขณะนี้  มีทั้ง "ดอกเสลา" ม่วงขาวพราวสีสัน สวยทั้งวันบานพลิ้วลมไสว "กัลปพฤกษ์" ชมพูอ่อนเย้ายวนใจ "เหลืองปรีดียาธร" สดใสรับอรุณ มาเช็คอิน ถ่ายรูป ดอกไม้บานรับลมร้อน ที่บริเวณแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวงสุโขทัย


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา สุโขทัย

นักเรียนสตูล เนรมิตผืนดินร้างในโรงเรียน เป็นทุ่งทานตะวันแห่งการเรียนรู้ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในชุมชนสร้างรายได้

วันนี้ 22 มีนาคม 2564 นักเรียน ครู รวมถึงผู้ปกครอง กำลังสนุกสนาน เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปกับทุ่งทานตะวันที่ชูช่อดอกเหลืองอร่าม ท้าแสงแดด บนพื้นที่ 2 ไร่ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านาท่าแลหลา  ต.กำแพง  อ.ละงู  จ.สตูล สร้างความสุข และเกิดการเรียนรู้ของนักเรียนภายใต้แนวคิด  การจัดกระบวนการเรียนการสอน และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บนหลักการความคุ้มค่า  "ทุกตารางเมตรคือแหล่งเรียนรู้"

โดยแปลงทานตะวันแห่งนี้เกิดขึ้น  โดยคณะครู และนักเรียนต้องการให้ทุกพื้นที่ของโรงเรียนใช้ประโยชน์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งฝึกทักษะอาชีพ ฝึกนิสัยความรับผิดชอบ การช่วยเหลือกัน การทำงานเป็นทีม และเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน แปลงทางตะวันแห่งนี้ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือ ของนักเรียน คณะครู และผู้บริหาร โดยนักเรียนแต่ละชั้นเรียนร่วมกันรับผิดชอบ  ตั้งแต่กกระบวนการแรก พรวนดิน  ลงเมล็ดพันธุ์  รดน้ำ ดูแลจนเบ่งบานสวยงาม  ผ่านกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ โดยได้รับการสนับสนุนจากชุมชน และองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง

นายสนั่น หวันสมัน ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนบ้านท่าแลหลา กล่าวว่า เดิมทีโรงเรียนแห่งนี้ พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ว่าง ทางคณะกรรมการสถานศึกษาคณะครูผู้ปกครองมีแนวคิดว่าโรงเรียนแห่งนี้น่าจะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับ ลูก ๆ หลาน ๆ ของเราในชุมชน พร้อมทั้งผู้ปกครองที่เข้ามามีส่วนร่วมในโรงเรียน ทุกตารางเมตรของโรงเรียนคือแหล่งเรียนรู้โดยเฉพาะพื้นที่ว่างเปล่า เราจึงปลูกดอกไม้เพื่อให้เด็กมีความรับผิดชอบ ในโรงเรียนร่วมกัน ร่วมกันใช้ประโยชน์ในพื้นที่ใช้สอยเพราะโรงเรียนของเราเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่เยอะแต่ทุกตารางเมตรก่อให้เกิดประโยชน์ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง

ในส่วนของพื้นที่ตรงนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลก็เข้ามามีส่วนร่วม เป็นจุดเช็คอิน  เพื่อดึงคนจากภายนอกมาเที่ยวในชุมชนในตำบลของเราได้ด้วย  ตรงนี้เราไม่ได้เรียกร้องขอค่าบริการต่าง ๆ  แต่ในส่วน ของผู้มีจิตศรัทธา ก็ร่วมกันบริจาคสมทบทุนเพื่อให้กับลูกหลานในชุมชนในโรงเรียนเพื่อเป็นค่าดูแลได้ สำหรับดอกทานตะวันนี้จะแบ่งบานยาวไปจนถึงช่วงสงกรานต์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวันฟรี

รวมทั้งทางโรงเรียนเองนั้นต้องการที่จะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อให้หมู่บ้านบริเวณรอบ ๆ โรงเรียนมีรายได้  รวมทั้งตำบลกำแพงนี้มีการท่องเที่ยว และการทำของฝากหลาย ๆ จุด และจะนำโรงเรียนแห่งนี้เป็นจุดเส้นทางการมาเที่ยวอีกด้วย เพราะปัจจุบันนี้ ของฝากในพื้นที่ทั้งขนม และสิ่งของขายได้จากนักท่องเที่ยวเดือน ๆ หนึ่งได้ 3,000 – 10,000 บาท หากมีดอกทานตะวัน ยิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ทัวร์ลง ‘แคน ก้าวไกล’ ปกป้อง ‘ฝ้าย’ อดีต BNK48 ที่เพิ่งโดนปลด บอกแอบโพสต์บัญชีให้แฟนคลับโอนเงินเข้าโดยตรง เป็นจำนวนเงินไม่มาก อีกทั้งบริษัทไม่เคยตักเตือน ถือว่าไม่ผิด เจ้าตัวรีบแจงไม่หนุนคอร์รัปชัน พร้อมรับคำติ เพื่อพัฒนาตัวเอง

น.ส.นายิกา ศรีเนียน หรือ แคน อดีตสมาชิกวงไอดอล BNK48 ได้ไลฟ์สดร่วมกับ น.ส.สุมิตรา ดวงแก้ว หรือ ฝ้าย อดีตสมาชิก BNK48 ที่เพิ่งถูกให้พ้นสถานะจากวง BNK48 กะทันหันเมื่อวันก่อน (19 มี.ค.) เนื่องจากทำผิดกฎของวง จากการโพสต์เลขบัญชีตัวเองเพื่อให้แฟนคลับโอนเงินเข้าโดยตรง

จากการไลฟ์สดในครั้งนี้ มีคำพูดหนึ่งของ แคน ที่ทำให้แฟนคลับหลายคนผิดหวัง เนื่องจากบอกว่า ‘เงิน’ เป็นจำนวนไม่มาก แล้วการอยู่ในวงค่าตอบแทนไม่คุ้มกับค่าเดินทางด้วยซ้ำ อีกทั้งบริษัท ‘ไม่เคยเรียกไปตักเตือน’ แสดงว่าเป็นสิ่งที่ ‘ไม่ผิด’

คำพูดดังกล่าวทำให้เกิดกระแสตำหนิอย่างมากในทวิตเตอร์ เพราะแคนเองก็ได้ร่วมทำงานการเมืองกับพรรคก้าวไกล สะท้อนถึงทัศนคติที่เห็นว่าการคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องใหญ่ จึงไม่เหมาะสมที่จะเล่นการเมือง ด้านเจ้าตัวก็ได้ลบคลิปไลฟ์ดังกล่าวไปแล้ว พร้อมกับยอมรับผิด และเน้นย้ำว่า ไม่ได้สนับสนุนการคอร์รัปชัน พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป

สำหรับ แคน นายิกา ภายหลังจากที่ลาออกจาก BNK48 เคยเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบราษฎร และร่วมงานกับพรรคก้าวไกล อยู่ในทีมประชาสัมพันธ์ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบึงกุ่ม และ คันนายาว ขณะที่ จ.เจตน์-ภูวกร ศรีเนียน บิดาของ แคน ก็เป็น 1 ในทีมผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และเคยลงสมัคร ส.ส.พะเยา ของพรรค ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันเป็นผู้ประสานงานคณะก้าวหน้า จ.พะเยา


ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000026966?fbclid=IwAR2eOqXKFrsQ-OgWroWqWRaKCLBazetjrcIE_vwKwqlnAK--77xgjSx1eGY

ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 446 นำกำลังพลลาดตระเวนตรวจสอบป่าต้นน้ำ แม่น้ำสุไหงโก-ลก

พ.ต.ท.อเนชา ตาวันผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาสพร้อมร.ต.ต.สมยศ หนูเอียดหัวหน้าชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4408 พร้อมกำลังพล 4407 และ 4408 ร่วมลาดตระเวนตรวจสอบป่าต้นน้ำแม่น้ำสุไหงโก-ลกและลาดตระเวนสำรวจหลักเขตแดนที 72 ณ.หมู่ที่ 2 บ้านภูเขาทอง ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาสและพักค้างแรม 1 คืนทีบริเวณหลักเขตแดนที่ 74            

วัตถุประสงค์ของการลาดตระเวนตรวจสอบป่าต้นน้ำในครั้งนี้เพื่อดูแลการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและขบวนการพาคนข้ามเขตแดน แรงงานต่างด้าวและคนไทยทีติดอยู่ในประเทศมาเลเซียเข้ามาและเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิค 19 อีกด้วย


ภาพ/ข่าว : แวดาโอ๊ะ หะไร นราธิวาส

ธุรกิจร้านอาหาร MK และในเครือ ดูท่าจะงานเข้า!!

หลังจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ ‘ส.ส.เจี๊ยบ’ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ลงเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul ประกาศชวนเชิญชวนเลิกกินร้านดัง หลังเป็นสปอนเซอร์ให้กับรายการ Top News ว่า…

“เลิกกิน MK และ Yayoi แม้จะเป็นร้านโปรดจนกว่าจะเลิกเป็นสปอนเซ่อร์ให้ช่อง Top News”

[หากเป็นการเข้าใจผิดขอให้ทาง MK เร่งชี้แจงข้อเท็จจริง]


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=489770832429119&id=100563224683217

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เกี่ยวกับ โควิดวัคซีน กับการกลายพันธุ์ของไวรัส

โควิดวัคซีน กับการกลายพันธุ์ของไวรัส

ที่ผ่านมาโควิดไวรัสได้มีการกลายพันธุ์มาโดยตลอด

จากที่เราทราบดีว่าจุดกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีน สายพันธุ์ตั้งต้นตั้งแต่เราเรียกว่าสายพันธุ์ S สายพันธุ์ L แล้วไปเจริญเติบโตเป็นสายพันธุ์ G ในยุโรป

ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรุนแรง หรือมีผลในระบบภูมิต้านทาน

สายพันธุ์ G จึงพบเกือบทั่วโลกในปัจจุบัน และแตกแยกย่อยเป็นสายพันธุ์ต่างๆ เป็น GH GR และ GRY เรียกว่าการระบาดในครึ่ง ปีหลังทั่วโลกเป็นสายพันธุ์ G เป็นส่วนใหญ่แล้ว

เพราะแพร่กระจายได้ง่าย

ต่อมาสายพันธุ์ GR ได้มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม ที่เราเรียกสายพันธุ์อังกฤษ หรือ B.1.1.7

หรือถ้าเรียกตามกรดอะมิโน ก็จะเป็นสายพันธุ์ GRY (G = glycine, R = arginine, Y = tyrosine)

สายพันธุ์อังกฤษแพร่กระจายได้เร็ว เพราะเหมาะกับการจับที่ตัวจับบนเซลล์ ACE2

ขณะนี้แพร่กระจายอย่างมากในยุโรปและเข้าสู่อเมริกา

ส่วนอีก 2 สายพันธุ์ที่เราพูดถึงกันบ่อยคือสายพันธุ์แอฟริกาใต้และสายพันธุ์บราซิล

ทั้ง 2 สายพันธุ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งสำคัญของกรดอะมิโน ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทาน

ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้โรครุนแรงขึ้น แต่การแพร่กระจายก็สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เช่นกันกับสายพันธุ์อังกฤษ

เพราะมีการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโน ในจุดสำคัญเช่นเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ จึงเป็นที่ต้องระวัง เพราะจากการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนที่ผ่านมา มีประสิทธิภาพลดลง

การกลายพันธุ์ที่จะต้องคํานึงถึง คือ ทำให้ไวรัสหรือโรคแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น ลดประสิทธิภาพของวัคซีน เพิ่มหรือ ลดความรุนแรงของโรค ในแต่ละการกลายพันธุ์จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลทางคลินิกและระบาดวิทยาเข้ามาทำการศึกษาร่วมด้วย โดยมีหลักการทางทฤษฎีสนับสนุน

ประเทศไทยการระบาดในครั้งแรกเป็นสายพันธุ์ S แต่การระบาดในครั้งนี้ ที่เรียกว่าระบาดรอบใหม่ เป็นสายพันธุ์ GH

และถ้าระบาดไปนาน ๆ เข้า เราเองก็จะต้องจับตามองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางทิศทางใด

ในขณะเดียวกันสายพันธุ์ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน อย่างเช่นสายพันธุ์แอฟริกาใต้ รวมทั้งสายพันธุ์ที่กำลังตรวจสอบอย่างเช่นสายพันธุ์ไนจีเรีย ก็มีจุดสำคัญในตำแหน่งที่จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง จะต้องป้องกันไม่ให้มาระบาดในประเทศไทย

การให้วัคซีนเร็วที่สุดจะช่วยลดการระบาด และการกลายพันธุ์ได้

ขณะนี้งานวิทยาศาสตร์สามารถถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสได้อย่างรวดเร็ว และมีการทำกันมากทั่วโลกเป็นประวัติการ ของการศึกษาไวรัส เมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา

ไม่เคยมีไวรัสตัวไหนที่มีการถอดรหัสพันธุกรรมมากมายเท่ากับไวรัส covid-19

ที่ทำกันมากทุกวันนี้ มนุษย์เองก็ต้องการที่จะเอาชนะไวรัสให้ได้

ไวรัสเองก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง

และในที่สุด จะต้องอยู่ร่วมกัน โดยทำร้ายกันให้น้อยที่สุด

#หมอยง


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=5405471562828750&id=100000978797641


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top