Tuesday, 10 June 2025
TheStatesTimes

‘เพื่อไทย’ ชวนจับตา ‘บิ๊กตู่’ อาจใช้งบเอื้อพวกพ้อง หลังแต่งตั้ง ‘พีรพันธุ์’ นั่งเลขาธิการนายกฯ

(23 ธ.ค. 65) นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีคำสั่งสลับเก้าอี้แต่งตั้งนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ปรึกษานายกฯ เป็นเลขาธิการนายกฯ โดยโยกนายดิสทัต โหตระกิต เลขานายกฯ ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ทั้งที่ไม่พบว่านายดิสทัตมีความผิดหรือไม่เหมาะสมประการใดนั้น จึงมีคำถามว่าในการสลับตำแหน่งครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสสร้างความนิยมให้พรรคการเมืองในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ทั้งยังอาจตีความได้ว่าเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ด้วยการใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองโดยมิชอบตามที่กำหนดในมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 186 วรรคสอง ประกอบพ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 หรือไม่ 

นายชุมสาย กล่าวต่อว่า กรณีนี้ส่อเจตนาถึงความไม่สุจริตหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมตัวจะไปทำงานการเมือง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยได้ร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคก่อนหน้านี้บ้างแล้ว ถือเป็นการทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติโดยพฤตินัย ดังนั้นการแต่งตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมจะไปสังกัดให้เป็นเลขานายกฯ ในช่วงนี้ อาจเป็นไปโดยมีวาระซ่อนเร้น เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยว่าเป็นการต่างตอบแทนกันในทางการเมือง หรือทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนกับพรรค ยิ่งกว่าประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน หรือการอนุมัติโครงการต่าง ๆ มากมายช่วงท้าย ๆ ของรัฐบาล

คนดัง - ส.ส. ตบเท้าเข้า รทสช. เพียบ หลัง ‘บิ๊กตู่’ ชัดเจนรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ

ทันทีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศชัดเจนว่า จะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหนึ่งเดียวของพรรค ปรากฏว่า มีนักการเมืองเริ่มทยอยเปิดตัวตามพลเอกประยุทธ์ อย่างคึกคัก 

เริ่มจาก ‘แรมโบ้’ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคเทิดไทเรียบร้อย และคาดว่าจะไปรวมงานทางการเมืองกับนายกฯ ที่ รทสช. เพราะเป็นพรรคที่แรมโบ้ ร่วมก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่แรก

ถัดมาเป็น ‘ชัช เตาปูน’ ชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท(พทท.) ก็ได้ประกาศตาม ไป รทสช.ด้วยเช่นกัน โดยจะเข้าไปนั่งในทีมยุทธศาสตร์พรรค หลังจากที่ได้ส่งลูกชาย ‘ชื่นชอบ คงอุดม’ ล่วงหน้าไปแล้วก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายไปอยู่ รทสช.ด้วยเช่นกัน หลังโพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่เคยลืมที่มาของการได้เป็น ส.ส. ไม่ละทิ้งอุดมการณ์และความตั้งใจ..ที่มีแต่การทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่มีเหตุผลอะไร…ที่จะไม่เดินตามกันไปค่ะ  พร้อมติดแฮชแท็ก ว่า #เราไม่ทิ้งกัน #รวมไทยสร้างชาติ #รักเธอประเทศไทย

เรื่องเล่าคนคาซัคฯ ก่อนมาปักหลักที่ไทย!! | TIME TO TALK EP.7

📌 TIME TO TALK ถึงเวลาคุยกัน EP.7
พบกับ 'Assel Bekbayeva' President of Kazakh Thai Alliance and Co founder of Platinum Travel Thailand
ชาวต่างชาติที่หลงรักประเทศไทยจะมาเล่าเรื่องประเทศคาซัคสถานอย่างหมดเปลือก
.
ดำเนินรายการโดย ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมยุคใหม่ พีเค พัสกร วรรณศิริกุล
.
🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIMES PODCAST
.
#THESTATESTIMESPODCAST
#THESTATESTIMES
#TIMETOTALK
#ถึงเวลาคุยกัน
#AsselBekbayeva
#คาซัคสถาน

24 ธันวาคม พ.ศ. 2483 ประเทศไทย ประกาศให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่เหมือนนานาชาติ

วันนี้สำหรับชาวคริสต์ ถือเป็นวันคริสต์มาสอีฟ แต่สำหรับประเทศไทย ย้อนไปเมื่อ 82 ปีก่อน หรือเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2483 เป็นวันที่ทางการประกาศให้วันขึ้นปีใหม่ ตรงกับวันที่ 1 มกราคม เป็นครั้งแรก

แรกเริ่มเดิมที เมืองสยามของเรากำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย โดยคำว่าเดือนอ้าย หมายถึงเดือน 1 หากนับตามปฏิทินจันทรคติไทย มักจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายน หรือ ธันวาคม ต่อมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้กำหนดใหม่ให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่แทน กระทั่งเวลาผันผ่านมาจนถึง วันที่ 24 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2483 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ให้เป็นวันที่ 1 มกราคม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมขยายผล จับผู้ต้องหาเพิ่มเติม กรณีคนร้ายเขียนใบปลิวเรียกค่าคุ้มครองสวนทุเรียน

จากกรณีสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้มีคนร้ายได้ใช้ของมีคมปอกเปลือกของลำต้นทุเรียนหมอนทอง จำนวน 9 ต้น และราดน้ำกรดฆ่ายางบริเวณดินใต้ต้นทุเรียน ทำให้ได้รับความเสียหาย รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาทต่อต้น ซึ่งปลูกไว้บนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ม.8 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จว.พัทลุง และมีการเขียนข้อความด้วยปากกาลงในกระดาษลักษณะข่มขู่ บรรจุในถุงพลาสติกใสผูกติดไว้ที่ต้นทุเรียน ข้อความว่า 

“พวกเราจะขอความช่วยเหลือ ถ้าหากไม่ด้ายตัวอย่างมีให้เห็น ไว้แล้วที่ต้นทุเรียน ถ้าไม่อยากให้ต้นทุเรียนตายหมดทั้งสวน ให้คุณไปติดต่อที่ลูกพี่กูด้ายเลย กูให้เวลาพวกมึงไม่เกิน 7 วัน เน้นไม่เกิน 7 วัน” ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ย.65 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 รายคือ นายเจิม หรือไข่หมูก เส้งเอียด อายุ 72 ปีนั้น

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กิตติประภัสร์ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หักพาล รอง ผบ.ตร. ควบคุมดูแลการสืบสวนติดตามและขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ สร้างความหวาดกลัว และไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการขู่กรรโชกทรัพย์จากประชาชน จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้สั่งการให้พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วัลลพ จำนงค์อาษา รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9, พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง, พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.ป่าพะยอม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เร่งรัดขยายผลนำตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีเพิ่มเติม

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าพะยอม ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ศาลจังหวัดพัทลุง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 1 ราย คือ

1. นายวิโรจน์หรือ สท.แบน จันทร์มล อายุ 56 ปี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ซึ่งเป็นพืชหรือพืชผลของกสิกร, ร่วมกันบุกรุก เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จากการสืบสวนพบว่า นายวิโรจน์ฯ ได้ให้การกับตำรวจโดยมีเนื้อหาขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ทำให้เกิดข้อพิรุธ สงสัย และยังพบความเชื่อมโยงระหว่างนายวิโรจน์ฯ กับนายเจิมฯ นอกจากนี้ เมื่อนายวิโรจน์ฯ และนายเจิมฯ ถูกเจ้าหน้าที่เรียกตัวมาสอบสวนก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ได้พยายามเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งน่าเชื่อว่ากระทำไปเพื่อพยายามปิดบังความเชื่อมโยงของทั้งสองคน 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังขยายผลไปยังคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ซึ่งเกิดขึ้นช่วงวันที่ 21 -22 ก.ย.65 ได้มีคนร้ายลักลอบเข้าไปในสวนทุเรียนของนายโชคดี คงยวง อายุ 68 ปี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ก่อเหตุปักป้ายที่มีข้อความว่า 

“15 วันต้นทุเรียนที่อยู่ในสวนจะถูกต่ำลายตายหมดไม่เหลืออยู่ในสวนสักต้นเดียว ถ้าหากยังคิดว่าพวกกูไม่มีน้ำยาจะทำลายต้นทุเรียน แล้วจะเสียใจชั่วชีวิต 15 วัน เท่านั้น น้ำยาฆ่าตอยางลง 3 ชั่วโมงเท่านั้น จากพวกกูเด็กนายหัว” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเอาข้อความที่ถูกเขียนดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับ ลายมือของนายเจิมฯ พบว่าเป็นลายมือคนเดียวกัน จึงได้ดำเนินคดีกับ นายเจิม หรือไข่หมูก เส้งเอียด เพิ่มเติมอีก 1 คดี โดยกล่าวหาว่า พยายามกรรโชกทรัพย์, บุกรุก

 

 

 

กองทัพเรือ เปิดโครงการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน และ กำลังพลกองทัพเรือ ตรวจสภาพรถฟรี 24 รายการ ระหว่างวันที่ 23 – 28 ธ.ค.65

กองทัพเรือเปิดโครงการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน และกำลังพลกองทัพเรือ ตรวจสภาพรถฟรี 24 รายการ ระหว่างวันที่ 23 – 28 ธ.ค.65 เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 23 ธ.ค.65 พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2566 กับกองทัพเรือโดยกรมการขนส่งทหารเรือ ซึ่งจะจัดให้มีการตรวจสภาพรถฟรี จำนวน 24 รายการ ให้กับประชาชน และกำลังพลกองทัพเรือ ระหว่างวันที่ 23 – 28 ธ.ค.65 ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถ และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ณ ลานจอดรถ กองรถยนต์ กรมการขนส่งทหารเรือ

​​​​​​

ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2566 ด้านกำลังพล ในการยกระดับคุณภาพชีวิต และสวัสดิการของกำลังพลกองทัพเรือ โดยให้จัดกิจกรรมที่เป็นการลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้กับกำลังพล ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่มักจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กองทัพเรือโดยกรมการขนส่งทหารเรือจึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รถยนต์ของประชาชน ข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานราชการ กองทัพเรือที่เข้ารับบริการ มีสภาพพร้อมใช้ ทำให้เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่

ม.แม่โจ้ ทำ MOU ทางวิชาการ กับ บ.สหฟาร์ม จก. ร่วมเสริมทักษะประสบการณ์วิชาชีพนักศึกษา และวิจัยไก่พื้นเมืองลูกผสมสายสายเลือด

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ กับ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด จำนวน 2 ฉบับ เพื่อร่วมมือในด้านวิชาการวิจัย ส่งเสริมการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย และการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษา โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ นางสาวจารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด เป็นผู้แทนลงนามของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ มีคณะผู้บริหารของทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้อง Smart classroom ชั้น 2 อาคาร 25 ปีธุรกิจการเกษตร คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 

สำหรับการลงนามความวิชาการในครั้งนี้ บริษัทฯ จะสนับสนุนสถานที่สำหรับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพให้แก่นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโรงงานแปรรูปอาหารสำเร็จรูปไก่สด และโรงงานแปรรูปอาหารไก่ปรุงสุก รวมถึงกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน สนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอน ทุกการศึกษา ทุนวิจัยและพัฒนาวิชาการ การฝึกประสบการณ์เกี่ยวกับกิจการไก่พ่อ-แม่พันธุ์ โรงฟัก ฟาร์มไก่ และการบริหารจัดการฟาร์มที่ทันสมัย พร้อมทั้งจัดสวัสดิการต่างๆ ให้กับนักศึกษาตลอดระยะเวลาการฝึกประสบการณ์ โดยมหาวิทยาลัยจัดส่งนักศึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้เข้ารับการฝึก ทั้งนี้ นักศึกษาที่ผ่านการฝึกตามเกณฑ์ ทางบริษัทยินดีรับเข้าเป็นพนักงานของบริษัทฯ ต่อไป

ถอดสมการวันแรกแห่งปี ก่อน 1 มกราคมจะมาเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวโลก ก่อนวันปีใหม่ของชาวโลก จะเป็นวันปีใหม่ของชาวไทย

คนทั้งโลกรับรู้ว่า วันขึ้นปีใหม่ของโลกใบนี้ คือ วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี แล้วท่านผู้อ่านรู้เหตุผลไหมว่า ทำไม?? วันปีใหม่ จึงต้องเป็นวันที่ 1 มกราคม

‘วันขึ้นปีใหม่’ มีประวัติความเป็นมาที่ย้อนกลับไปนานมาก ๆ ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตามผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจ ณ ขณะนั้น (ของไทยเราก็เหมือนกัน สรุปเหมือนกันทั่วโลกเรื่องนี้) เชื่อกันว่าการนับปีใหม่ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน ในยุคบาบิโลเนีย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ชาวบาบิโลเนียน ริเริ่มคิดค้นปฏิทินโดยคำนวณจากการเคลื่อนที่วงรอบของดวงจันทร์เป็นหลัก (หลักจันทรคติ) เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดให้เป็น 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างการนับปีตามปฏิทินกับปีตามฤดูกาล จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 1 เดือน เป็น 13 เดือนในทุกๆ 4 ปี

ต่อมาชาวอียิปต์ กรีก และชาวเซมิติก (ชาวอาหรับเผ่าหนึ่ง) ได้นำปีปฏิทินของชาวบาบิโลเนียนมาดัดแปลงแก้ไขอีกหลายรอบเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากขึ้น และใช้กันมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละภูมิภาคของตนเอง ล่วงมาจนถึงสมัยของผู้ปกครองและนักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิโรมัน ‘จูเลียส ซีซาร์’ (Julius Caesar) ซึ่งอยู่ในช่วงประมาณ 46 ปี ก่อนคริสตกาล ได้นำความคิดและหลักความเชื่อเรื่อง ‘จักรราศี’ ตามหลักสุริยคติของอียิปต์มาผสมผสานกับจันทรคติในแบบเดิม จนเกิดเป็น ‘ปฏิทินจูเลียน’ (Julian calendar) คำว่า จูเลียน แปลว่า แห่งจูเลียส ซึ่งในละตินเรียกว่า Calendarium Iulianum สรุปก็ คือ ‘ปฏิทินของจูเลียส ซีซาร์’ นั่นแหละ 

โดยในหนึ่งปีบนปฏิทินของเขามี 365 วัน นอกจากนี้เดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มอธิกวารทุก ๆ สี่ปี ดังนั้นรอบปีโดยเฉลี่ยต่อสี่ปีของปฏิทินจูเลียนเท่ากับ 365.25 วัน ซึ่ง ‘ปฏิทินจูเลียน’ (Julian calendar) มีความใกล้เคียงกับปฏิทินปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่เราไม่ได้ใช้ปฏิทินนี้ในปัจจุบันนะ 

อธิกวาร หรือ อธิกมาศ คือ ในทุก ๆ 4 ปี ให้เติมวันในเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มอีก 1 วัน เป็น 29 วัน ซึ่งก็คือเดือนกุมภาพันธ์นั่นเอง เมื่อกำหนดวันเพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์ ในทุก ๆ 4 ปีแล้ว ก็ยังมีปัญหาเพราะวันใน ‘ปฏิทินจูเลียน’ ยังไม่ตรงตามฤดูกาลมากนัก คือเวลาในปฏิทินจะยาวกว่าปีตามฤดูกาล เป็นเหตุให้ฤดูกาลมาถึงก่อนวันในปฏิทิน (วุ่นวายจริงเชียว) 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top