Wednesday, 11 June 2025
TheStatesTimes

โหรดังทำนาย!! ปี 66 ‘บิ๊กตู่’ ชีวิตติดดาว พุ่งแรงกว่าใคร ‘เสี่ยหนู’ ไม่น้อยหน้า มีแววนั่งนายกฯ 3 สมัยซ้อน

อย่างที่เราทราบๆ กันดีอยู่ว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงใกล้จะเลือกตั้งใหม่อีกครั้งแล้ว หลายพรรคการเมืองต่างออกมาพูดถึงเรื่องนโยบายของพรรคตัวเองเพื่อดึงคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน กระแสตอบรับก็มีทั้งดีและแย่ปะปนกันไป แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกพรรคก็วาดหวังว่าจะได้รับเลือกจนสามารถตั้งตัวเป็นรัฐบาลได้

นอกจากนี้ ผลสำรวจจากหลายๆ สำนักก็บ่งชี้คล้ายๆ กันว่า พรรคการเมืองบางพรรคเป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน นักการเมืองบางคนประชาชนหวังว่าจะได้เป็นนายกฯ ส่วนบางพรรคบางคนคะแนนก็หดหาย คล้ายว่าประชาชนไม่ปลื้ม

เรื่องของผลโพลล์ก็เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ มีการเก็บข้อมูลก่อนจะนำมาวิเคราะห์ และสรุปเป็นผลสำรวจที่เราๆ ได้อ่านกัน แต่หากแวะไปทางเรื่องของโหราศาสตร์ อาจจะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างจากโพลล์ก็เป็นได้ เพราะอย่างที่โบราณว่า ‘แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้’ งานนี้อาจจะพลิกโพลล์ให้หลายคนเจ็บใจเล่นแน่ๆ

และเมื่อไม่นานมานี้ ‘อาจารย์วิสาระ ประนมกรณ์’ นักโหราศาสตร์ชื่อดังของประเทศไทย ได้ทำนายดวงการเมืองประเทศไทย และเหล่าบรรดาตัวเต็งแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปไว้ในรายการ TOP NEWS TALK ของทางช่อง TOP NEWS โดยสรุปใจความได้ว่า…

ภาพรวมประเทศไทยปี 2566 จะยังมีความขัดแย้งอยู่ แต่การค้าขายดี การทำมาหากินจะเจริญ เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา หาเงินคล่องจากต่างชาติ (แต่หลังมกราคม 66 โควิดมีแนวโน้มจะกลับมา โดยเดือน พฤษภาคม - กันยายน จะหนักมาก ) เงินทองสะพัด และที่สำคัญต้องมีผู้นำเป็น ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เท่านั้น 

โดยพลเอกประยุทธ์ จะมีรหัสชีวิตติดดาวหลังวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2566 ทำให้ทุกอย่างพลิกผัน โดยที่ใครก็ไม่อาจมาแข่งได้ และมีแววว่าจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ อีกสมัย รวมไปถึงการย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติก็ยิ่งจะเป็นการดี เพราะอยู่แล้วมีความสุข บ้านเมืองจะเจริญ สงบสุข

ส่วน อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ที่ถึงแม้จะติดโพลล์หลายๆ สำนัก แต่รหัสชีวิตไม่ติดดาว ถึงแม้จะมีความหวังความเชื่อมั่น แต่ความหวังจะน้อยลงเรื่อยๆ และค่อยๆ เลือนหายไป ส่วนโอกาสที่จะเป็นนายกฯ คนต่อไปก็ไม่มีเลย นอกจากนี้ดวงของพ่อ หรือนายทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้มีอิทธิพลเกื้อหนุนให้ด้วย

เพื่อไทย จี้ ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ เคลียร์ปมสัญญาบอลโลก ชี้!! กกท. เอื้อนายทุนเจ้าเดียว - ปชช. ถูกลิดรอนสิทธิ์

(24 ธ.ค. 65) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เร่งสะสางปมปัญหาการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลก แม้การถ่ายทอดสดจะจบสิ้นลงไปแล้ว แต่ปัญหาเรื่องการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ยังไม่จบ เพราะการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของรัฐ มีการทำสัญญาให้สิทธิ์ขาดในการถ่ายทอดแก่เอกชนรายหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎ must carry ของ กสทช. เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกลิดรอนสิทธิ์ในการรับชมอย่างไม่เป็นธรรม จนสังคมตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ อย่าแกล้งปล่อยให้เงียบหายโดยไร้ข้อสรุป

‘ปัญ BNK48’ สาวน้อยมากความสามารถ ทั้ง ‘เรียน-เต้น-แร็ป’ โอตะปลื้มทั้งประเทศ

เรียกว่ากลายเป็นอดีตสมาชิกของ BNK48 ไปซะแล้ว สำหรับสายน้อยมากความสามารถอย่าง ปัญ ปัญสิกรณ์ ติยะกร หรือที่เคยเรียกติดปากว่า ปัญ BNK48 ถึงแม้จะเป็นอดีตสมาชิก แต่ก็อยากนำเรื่องของสาวคนนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเชื่อว่าน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนเลย

สำหรับ ปัญ BNK48 นั้นเธอเป็นสมาชิกรุ่นที่ 1 ของ BNK48 และเป็นกัปตันทีมบีทรี (BIII) อีกด้วย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอได้ประกาศจบการศึกษาไปพร้อมๆ กับเพื่อนๆ อีก 17 คน ได้แก่ พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค (โมบายล์), วรัทยา ดีสมเลิศ (ไข่มุก), เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ (เจนนิษฐ์), สุชญา แสนโคต (จิ๊บ), วฑูศิริ ภูวปัญญาสิริ (ก่อน), พิชญาภา นาถา (น้ำใส), พัศชนันท์ เจียจิรโชติ (อร), ณปภัช วรพฤทธานนท์ (จ๋า), กุลจิราณัฐ วรรักษา (เจน), กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล (เนย), อิสราภา ธวัชภักดี (ตาหวาน), รินรดา อินทร์ไธสง (เปี่ยม), มิลิน ดอกเทียน (น้ำหนึ่ง), จิรดาภา อินทจักร (ปูเป้), กรภัทร์ นิลประภา (เคท), ปณิศา ศรีละเลิง (มายด์) และ ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ (แก้ว)

โดยปัญมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมเกิน 1 ล้านคน และได้รับขนานนามว่า ‘น้องหลาม’ เนื่องจากเวลาเธอยิ้มจะดูละม้ายคล้ายฉลากในอนิเมะ อีกทั้งเธอยังมีเสน่ห์ที่ทำให้เหล่าโอตะใจละลาย ใครๆ ก็ต่างบอกว่าเธอน่ารัก สดใส และเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานด้านบวกอยู่เสมอ

หากใครเป็นโอตะหรือตามปัญมาตั้งแต่เดบิวต์ก็คงจะรับรู้ถึงตัวตนของปัญได้เป็นอย่างดี ตอนที่เธอมา Audition เป็นสมาชิกวง BNK48 นั้น เธอดูเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาแต่แท้จริงแล้วซุกซ่อนความสามารถไว้เหลือล้น ทั้งด้านการเรียน การร้อง และแร็ป อีกทั้งยังทำหน้าที่ในฐานเป็นสมาชิกของวง BNK48 ตลอด 6 ปีที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

คราวนี้เรามารู้ประวัติคร่าวๆ ของปัญกันบ้างดีกว่า

​ปัญ จบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง เมื่ออายุครบ 14 ปี ได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด โดยการสอบเทียบ GED 

เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกด้วยวัยเพียง 15 ปี ด้วยการแสดงหนังเรื่อง ‘เมย์ไหน.. ไฟแรงเฟร่อ’ จากค่าย GTH ที่ฉายในปี 2558 โดยในตอนนั้นได้รับบทเป็นนักแสดงสาว ม.2 ดาวรุ่งที่เป็นสมาชิกแก๊งเชียร์ลีดเดอร์ หลังจากปิดกองถ่ายก็ได้ไปออดิชั่นจนได้เป็นสมาชิกของ BNK48 รุ่นแรก 

ในวันที่ 24 ธันวาคม 2560 ในระหว่างงานคอนเสิร์ตได้มีการประกาศตั้งทีม BIII โดยในทีมประกอบด้วยสมาชิก 24 คน (ในปัจจุบัน มีการแบ่งเป็น 2 ทีม คือ ทีม BIII และทีม NV) ปัญก็ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมนี้ โดยความสามารถพิเศษของปัญคือ ด้านการเต้น ซึ่งเป็นการเต้นธรรมดา เต้นบัลเลต์ เต้น Hip-Hop โดยครูที่สอนเป็นคนเกาหลี ทำให้เต้นแนว K-Pop ได้ด้วย แถมยังสามารถร้องเพลงได้ทั้งไทย สากล และเกาหลี 

ปัญได้เปิดตัวในฐานะ Center ครั้งแรกในซิงเกิลที่ 5 ในชื่อเพลง ‘BNK Festival’ ในวันประกาศผลการเลือกตั้ง senbatsu general election ใน single ที่ 6 ซึ่งเป็นการจัดการเลือกตั้งครั้งแรกของ BNK48 เธอได้เสียงตอบรับด้วยคะแนนโหวตมากถึง 44,140 คะแนน ทำให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 9 กระทั่งได้เป็น senbatsu ใน single ที่ 6 ซึ่งใช้ชื่อว่า ‘Beginner’ 

ต่อมาเธอได้เข้าร่วม Project LYRA (ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อเป็น QRRA) ที่ทาง BNK48 ร่วมกับค่ายเพลงระดับโลกอย่าง Universal music แต่ปัญก็ได้ประกาศยุติบทบาทจากการเป็นสมาชิกในงาน ‘Lyra Exclusive Party - Galaxy แห่งความคิดถึง’ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2565

ส่วนด้านผลงานการแสดงก็มีซีรีส์เรื่อง One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ ที่ออกอากาศผ่านทาง Line TV หลังจากนั้นเธอได้มีโอกาสร่วมงานพากย์เสียงภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดเป็นครั้งแรก โดยได้รับหน้าที่ให้พากย์เสียงตัวละครเอกหญิง ‘ชาร์ลี’ ที่รับบทโดย ‘เฮลีย์ สไตน์เฟลด์’

สำหรับผลงานส่งท้ายก่อนที่เธอจะยุติบทบาทจากการเป็นสมาชิก BNK48 เนื่องจากสิ้นสุดสัญญา คือ การได้แสดงภาพยนตร์ The Cheese Sister รวมถึงได้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ ชื่อ ‘ชีส’ เป็นเพลงจังหวะไม่ช้าไม่เร็วฟังสบาย ๆ นอกจากจะร้องเองแล้ว ยังเขียนเนื้อร้อง และทำดนตรีเองด้วย (เก่งสุดๆ) และถือเป็นครั้งแรกที่มีเพลงเดี่ยวออกมาให้ทุกคนได้ฟัง (เมื่อปล่อยออกมาแล้วทุกคนชอบ ก็ดีใจมากๆ)

ราชสีห์ของหนูคือปชช. ‘อนุทิน’ ลั่น!! จะช่วยเหลือ - รับใช้ ปชช. พร้อมหนุนทุกคนที่ทำเพื่อประเทศชาติ

เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ขณะปฏิบัติภารกิจที่ จ.นครพนม หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศความชัดเจนทางการเมืองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ต้องแสดงความยินดีกับท่านด้วย เพราะว่าท่านก็แสดงความชัดเจนทางการเมืองให้กับพี่น้องประชาชนได้เห็น พี่น้องประชาชนก็จะมีตัวเลือกผู้นำของประเทศ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกอย่างเป็นทางการ ในความที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราก็เป็นกำลังใจให้ท่าน ในเรื่องการแข่งขันทางการเมือง การลงเลือกตั้ง ก็หวังว่าท่านจะเป็นกำลังให้กับพวกตนบ้าง

เมื่อนักข่าวถามว่า ตอนนี้เป็นคู่แข่งทางการเมืองกันแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า อย่าไปถือว่าเป็นคู่แข่งนะ เราต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้พี่น้องประชาชน เวลาจะคิดอะไร ต้องคิดว่าประโยชน์นั้นเกิดแก่ประชาชน เกิดกับบ้านเมือง เราไม่มามองว่าเราเป็นคู่แข่งกัน เราต่างแข่งกันทำความดี เสนอนโยบายที่มันดี ๆ เสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ให้กับประชาชน มันไม่มีผู้แพ้ มีแต่ผู้ที่จะส่งการบ้านให้กับประชาชนแล้วเกิดประโยชน์มากที่สุด คิดแค่นี้พอ

วาทกรรมอำพราง สูตรสำเร็จนักการเมืองที่ใช้ครองใจมวลชน แต่ผลกรรมตกอยู่ที่ประชาชนร่ำไป

จากการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองโดยมีประชาชนเป็นแกนหลัก ภายใต้นาม ‘พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย’ (พธม.) ตั้งแต่กลางสมัยรัฐบาล ‘ทักษิณ 1’ ต่อเนื่องกระทั่งประเทศไทยเดินเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2549 สังคมไทยเริ่มถูกแบ่งด้วยขั้วการเมืองออกเป็นสองฝักฝ่ายอย่างชัดเจน เป็นเหตุให้ความสามัคคีของชนชาวสยามซึ่งพร้อมจะขาดผึงอยู่รอมร่อถูกทุกทำลายลงอย่างไร้หนทางหลีกเลี่ยง

เริ่มจากมีคนกลุ่มคน ‘สวมเสื้อสีแดง’ เข้าลอบทำร้ายผู้ชุมนุมพันธมิตรซึ่ง ‘สวมเสื้อสีเหลือง’ อันมีนัยหมายถึง ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

ลองไปหาดูได้ไม่ยากว่าสีแดงแรกเริ่มนั้นสกรีนบนอกเสื้อว่าอะไร

แม้ดูเหมือนความชุลมุนจะจบลงที่เหตุรัฐประหาร 29 กันยายน ของปีเดียวกัน โดย ‘คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ’ (คมช.) ความระส่ำระสายแตกแยกของผู้คนก็ไม่มีทีท่าเบาบางจางลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับมีมวลชนจัดตั้งจากฝ่ายการเมืองผู้สูญเสียผลประโยชน์ โดยตั้งเป้าหลักคือต่อต้านการยึดอำนาจ เริ่มจากกลุ่มคนเล็กๆ ปราศรัยในสนามหลวง จนเติบโตกลายเป็น ‘กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ’ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง

เข็นเสื้อแดง นปช. ออกมาชนเสื้อเหลือง พธม. อย่างเต็มรูปแบบ

สร้าง ‘ตีนตบ’ (พลาสติก) ออกมาฉะสู้กับ ‘มือตบ’ ประมาณนั้น

สิ่งเหล่านี้ล้วนคือน้ำมือนักการเมืองผู้กระสันแย่งชิงความได้เปรียบทั้งสิ้น

แม้กลุ่มคนผู้รวมตัวเรียกร้องทางการเมืองในภายหลัง ซึ่งเรียกตนเองว่าเป็น ‘ประชาชน’ ที่รับรู้ทั่วไปว่ามาจากการ ‘จัดตั้ง’ โดยกลุ่มนักการเมืองผู้สูญเสียประโยชน์และอำนาจยืนกำกับการแสดงอยู่เบื้องหลัง และหันมาใช้วิธีการดั้งเดิม คือ สร้างสูตรสำเร็จทางความเชื่อด้วย ‘วาทกรรม’

นักการเมืองไทยทุกยุคทุกสมัยรู้ดีว่า ‘วาทกรรม’ คือ ‘สูตรสำเร็จของการครองใจคน’ เปรียบประดุจอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน โดยผู้บริโภคไม่ต้องคอยกังวลใส่ใจว่าส่วนผสมหรือกรรมวิธีการปรุงนั้นมีที่มาอย่างไร เพียงแค่ผลิตป้อนให้รสชาติอร่อย ‘แซบ ลำ นัว หรอย’ ถูกปากถูกใจ (สาวก) เป็นพอ

คำ ‘ไพร่ อำมาตย์ และฝ่ายประชาธิปไตย’ จึงถือกำเนิดจนถูกจดจำนำมาใช้ต่ออย่างแพร่หลายยาวนาน นั่นเพราะ ‘วาทกรรม’ บริโภคง่ายไม่ต้องอาศัยกระบวนการทางความคิดมาบดย่อยให้ยุ่งยาก ไม่ต่างจากเหตุการณ์ต่อสู้ชิงอำนาจ ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ กับ ‘ฝ่ายอนุรักษ์นิยม’ ยุค พ.ศ. 2475 ที่ใช้การแจก โปรยใบปลิวตามท้องถนน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นวาทกรรมบิดเบือนให้ร้าย และถูกผลิตจากโรงงานการเมือง

ศ.ดร.ธีรยุทธ บุญมี อดีตแกนนำนักศึกษา และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย เคยกล่าวถึงเรื่องวาทกรรมไว้อย่างน่าสนใจว่า “...น่าเป็นห่วงวิกฤติรอบใหม่ในลักษณะวาทกรรมที่จะรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ และจะค่อยทำลายคนที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มอื่น หรือคนอื่น ทีละเล็กทีละน้อย”

25 ธันวาคม ‘วันคริสต์มาส’ ยึดถือเป็นวันประสูติของ ‘พระเยซู’ ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์

วันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคริสต์มาส วันสำคัญของคริสต์ศาสนิกชน ซึ่งยึดถือกันว่าเป็นวันเกิดของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์

วันคริสต์มาส ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เป็นเทศกาลทางศาสนาเพื่อรำลึกวันประสูติของ พระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ ที่พวกเขาเชื่อกันว่าพระองค์เป็นโอรสของเทพแห่งพระอาทิตย์ โดยคำว่า คริสต์มาส มาจากคำว่า ‘Mass of Christ’ หรือ ‘พิธีมิสซาของพระคริสต์’

โดยพบคำนี้ครั้งแรกในเอกสารโบราณในปี ค.ศ. 1038 ภายหลังแปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas สำหรับประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส ซึ่งเป็นวันเกิดของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในสมัยที่จักรพรรดิซีซ่าร์ ออกัสตัสแห่งโรมัน ทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรียก็ขานรับนโยบาย อย่างไรก็ตามในพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่าพระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร

 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2565 : หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

การกระทำใด ๆ ที่ทำไปโดยต่อเนื่อง

ของเล็ก...ก็จะกลายเป็นของใหญ่

บุญน้อย...ก็จะกลายเป็นบุญมาก

ทำดีไม่ได้ผล เพราะทำตนลุ่ม ๆ ดอน ๆ

ทำดีที่ได้ผล เพราะทำตนสม่ำเสมอ

รมว.พิพัฒน์ เปิดแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนาภาคใต้ และสายมูเตลู กระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ‘แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนาของภาคใต้ และสายมูเตลู เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่’ โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธีเปิดงาน ณ วัดเขาพระทอง ตําบลเขาพระทอง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ

พม. สมุทรปราการ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อถวายพระพรชัยมงคล แด่เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

เมื่อวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา ณ อาคารเอนกประสงค์สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ โดยนางวรรณภา สุขคง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อถวายพระพรชัยมงคล ด้วยหัวใจแห่งความจงรักภักดีแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ One Home พม.สมุทรปราการ / เคหะจังหวัดสมุทรปราการ / สถานธนานุเคราะห์ 33 จังหวัดสมุทรปราการ / หน่วยงานเครือข่าย อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ /โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี / สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ และผู้แทนคนพิการ เข้าร่วมพิธีฯ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

โฆษก ตร. เตือนภัย แชร์ลูกโซ่บ้านออมทอง เพจเฟซบุ๊ก เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์ อ้างดารามีชื่อร่วมโปรโมต เหยื่อสูญเงินกว่า 700 ล้านบาท


วันนี้ (24 ธ.ค. 65) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยกรณี บ้านออมทอง เพจเฟซบุ๊ก เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์ โพสต์โฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนออมทอง อ้างดารามีชื่อร่วมโปรโมท หลอกให้ร่วมลงทุนและเป็นตัวแทนหาสมาชิกมาร่วมลงทุนออมทองผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนเชิดเงินหลบหนีไปรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 700 ล้านบาท

โฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวกรณี บ้านออมทอง ซึ่งมีหน้าร้านอยู่ที่จังหวัดสระบุรี โดยใช้ชื่อว่าร้านทองเฟื่อง โกลด์ ดัง และมีเพจเฟซบุ๊กชื่อเฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์ โพสต์โฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนออมทอง อ้างได้ค่าตอบแทนสูง ลงทุนระยะสั้น 23,000 บาท ครบ 1 เดือน จะได้รับทองคำน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ยังชักชวนให้เป็นตัวแทนหาสมาชิกมาร่วมลงทุนออมทอง โดยจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าตอบแทน 300 บาท ต่อการลงทุนออมทองคำน้ำหนัก 1 บาท คนร้ายสร้างความเชื่อถือโดยการช่วงแรกมีการจ่ายปันผล ได้รับทองคำ หรือ ค่าตอบแทนจริง ประกอบกับมีกลุ่มตัวแทน หรือหน้าม้า คอยรีวิวสร้างความมั่นใจ กับบ้านออมทองแห่งนี้ เพราะมีที่ตั้งร้านทองชัดเจน เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 1 ปี 5 เดือน และทุกเดือนพวกเขาก็ได้เงินตรงตลอด ส่วนทองคำลูกค้าจะเอาเมื่อไรก็ไม่เคยเบี้ยว อีกทั้งอ้างว่าเคยมีการเชิญ อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 มาร่วมโปรโมทร้าน ทำให้ดูน่าเชื่อถือ จึงมีเหยื่อหลงเชื่อไปชักชวนคนรู้จักมาร่วมลงทุนรวมกว่า 700 ล้านบาท

โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า วิธีป้องกันตนเองต่อภัยโจรออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ ในกรณีนี้สามารถตั้งข้อ สังเกตว่าอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ออมทอง ได้ดังนี้

1. ทุกคนสามารถที่จะร่วมลงทุนในการออมทองได้ ไม่จำกัดอายุ อาชีพ เพศ การศึกษา หรือประสบการณ์ใดๆ และสามารถนำเงินมาร่วมลงทุนในการออมทองได้ไม่จำกัด

2. บ้านออมทองแห่งนี้ ลงทุนระยะสั้น 23,000 บาท ครบ 1 เดือน จะได้รับทองคำน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าท้องตลาด

3. ลักษณะการออมทอง คือการเปิดรับตัวแทน(แม่ข่าย) เน้นการสร้างเครือข่าย รายรับที่ได้มาจากการหาสมาชิกเพิ่ม ตัวแทนจะได้รับรายได้เป็นเปอร์เซ็น เช่น ถ้าลูกข่ายออมทองน้ำหนัก 1 บาท ตัวแทนก็จะได้เงิน 300 บาท

4. มีการสร้างความน่าเชื่อถือ โดยช่วงแรกจ่ายค่าปันผล ได้รับทองคำ หรือค่าตอบแทนจริง อีกทั้งกล่าวอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในสังคมร่วมโปรโมทร้าน

5. การชักชวน ระดมหาสมาชิก จะมีการเร่งรัดให้ตัดสินใจเข้าร่วมให้ลงทุน โดยผู้ชักชวน ปิดบังไม่ให้ข้อมูลให้ครบทุกด้าน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top