วันนี้ 24 ธันวาคม 2565 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันนำ ‘จุรินทร์ ออนทัวร์’ เดินทางไปจังหวัดสกลนคร เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสกลนคร ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โดยมีพี่น้องชาวสกลนครมารอต้อนรับเป็นแถวยาวเพื่อผูกผ้าขาวม้าและมอบพวงมาลัยดอกไม้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการขอถ่ายรูปกับนายจุรินทร์อย่างใกล้ชิด ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จังหวัดสกลนครเคยมีผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ มาแล้วถึง 7 สมัย ดังนั้นประชาธิปัตย์กับคนสกลนครจึงมีความผูกพันกันมายาวนาน นับตั้งแต่ ‘ประชา ตงศิริ’ ส.ส.ที่ทุ่มเททำงานหนักเข้าร่วมอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต สืบต่อด้วย ‘อนงค์ ตงศิริ’ ส.ส.หญิงคนแรกของสกลนคร และเป็น ‘หญิงเหล็ก’ ในวงการเมือง
นอกจากนี้ยังมี ‘ทวีวัฒน์ ฤทธิฤาชัย’ ‘องุ่น สุทธิวงศ์’ ไปจนถึง ‘อภิชาติ ตีรสวัสดิชัย’ เป็นช่วงเวลาที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องชาวสกลนครอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และทุกคนมีบทบาทโดดเด่นในสภาอย่างน่าชื่นชมที่ล้วนเกิดจากมือของคนสกลนครที่เคยให้โอกาสประชาธิปัตย์มาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

สำหรับการเลือกตั้งเที่ยวหน้า พี่น้องชาวสกลนครคงจะให้โอกาสกับประชาธิปัตย์อีกคำรบหนึ่ง หากจะถามว่าประชาธิปัตย์เอาอะไรมาขายกับคนสกลนครในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง คำตอบสั้น ๆ ก็คือ ประชาธิปัตย์ขายความเป็นประชาธิปัตย์ ขายนโยบาย ขายผลงานให้พี่น้องชาวสกลนครอยู่ดีกินดีต่อไปในอนาคต ที่สำคัญก็คือขายผู้สมัครที่ประชาธิปัตย์คัดสรรบุคคลที่มีศักยภาพและมีความรู้ความสามารถที่จะไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนคนสกลนครได้ต่อไป
“ที่บอกว่าขายความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากความผูกพันที่ต่อเนื่องมายาวนานแล้ว ในเรื่องนโยบายและผลงานพี่น้องคงเห็นอยู่ชัดเจนว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่เข้าร่วมรัฐบาล แม้เราจะมีแค่ 52 เสียงใน 500 เสียง แต่ 3 ปีกว่าๆ จนเข้าปีที่ 4 ประชาธิปัตย์สร้างผลงานให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศมากเกินจำนวนเสียงที่ได้รับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายประกันรายได้เกษตรกร จึงเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ประชาธิปัตย์ทำมากับมือ ไม่เฉพาะกับคนภาคเหนือ คนภาคกลาง คนภาคใต้ แต่ให้กับคนอีสานเป็นการเฉพาะด้วย” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

พร้อมกับเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนั้นเรายังขับเคลื่อนการส่งออกเพื่อให้สินค้าเกษตรของพี่น้องคนภาคอีสาน คนสกลนครสามารถส่งไปขายต่างประเทศ นำเงินเข้าประเทศมาสร้างความร่ำรวยให้กับประเทศด้วย และต่อไปในอนาคต อีสานจะต้องไม่อยู่แค่ภาคการเกษตร แต่เราจะต้องทำให้อีสานลืมตาอ้าปากได้ ด้วยการทำอีสานเชื่อมประเทศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและทำอีสานเชื่อมโลกต่อไปในอนาคตด้วย นโยบายอีสานเชื่อมไทยอีสานเชื่อมโลก จึงเป็นการใช้การเกษตรเป็นฐาน และใช้การส่งออกเป็นการสร้างเงินให้ประเทศ รวมทั้งใช้การท่องเที่ยวสร้างเงินให้กับชาวอีสาน และต่อไปสกลนครต้องขายการท่องเที่ยวพร้อมกับซอฟท์พาวเวอร์ ที่เป็นการนำศิลปะวัฒนธรรมวิถีชีวิตของคนอีสาน และมีความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองมาขายเพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอีสาน และสกลนครต่อไป
