Wednesday, 2 July 2025
TheStatesTimes

‘อดีตบิ๊กข่าวกรองฯ’ ชำแหละ!! ธาตุแท้นักการเมืองเลว มักเอาผลประโยชน์ชาติไปแลกผลลัพธ์ส่วนตัวเสมอ

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า... 

อย่าให้ถูกหลอก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน สอนให้เรารู้ว่า นักการเมืองเลวๆ มีทุกชาติ เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจพร้อมเอาชีวิตคนในชาติเสี่ยงเจ็บตายอย่างไม่แยแส

นักการเมืองกลุ่มนี้เหมือนกันหมด ปั้นน้ำเป็นตัว ชอบดราม่า โปรตะวันตก เอาผลประโยชน์ประเทศไปแลกผลประโยชน์ส่วนตัว

คนกลุ่มนี้ "ปากประชาธิปไตยใจเผด็จการ" รวบอำนาจ ทำลายฝ่ายค้านหรือให้มีนักการเมืองฝ่ายค้านน้อยที่สุด ทำลายทุกคนที่ไม่ร่วมมือเพื่อความสะดวกในการคอร์รัปชัน

'หมอยง' ชี้!! โควิดเปรียบดังโรคทางเดินหายใจโรคหนึ่ง อย่ารังเกียจ 'ผู้ป่วย-ติดเชื้อ' จงอยู่ด้วยกันกับโรคนี้ให้ได้

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในไทยว่า โควิด 19 ความคิดเกี่ยวกับโรคโควิด 19 เปลี่ยนตามสถานการณ์

ต้องยอมรับว่าในปีแรก 2563 ที่เกิดการระบาดของโรคโควิด 19 โรคมีความรุนแรง อัตราเสียชีวิต สูง 3 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์

ทุกคนรอความหวังที่จะป้องกันด้วย “วัคซีน”

ปีต่อมา 2564 มีวัคซีน แต่พบว่าวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ยังคงพบการระบาดอย่างมาก ประสิทธิภาพของวัคซีนเหมือนกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่ไม่สามารถจะกำจัดหรือลดการระบาดลง ในแต่ละปีประสิทธิภาพแตกต่างกันตามสายพันธุ์

การให้วัคซีน 3 เข็ม 4 เข็ม หรือแม้กระทั่งติดเชื้อแล้วก็ยังติดเชื้อซ้ำได้อีก แต่อาการความรุนแรง “ลดลง”

ในปีนี้ 2565 โรคยังคงระบาดอย่างมาก ความรุนแรงลดน้อยลง อัตราการเสียชีวิตลดลง จากที่เคยสูง 1-2 % ลดลงมา เหลือ 1-2 ในพัน (0.1 - 0.2 %) ของผู้ติดเชื้อ (รวม ATK) ส่วนใหญ่เป็นในกลุ่มผู้เปราะบาง หรือ 608 ไม่ได้รับวัคซีน หรือ ได้รับวัคซีนไม่ครบ

โดยทั่วไปผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และ ได้รับวัคซีนแล้ว ติดเชื้อได้ ความรุนแรงของโรคจะลดลง แต่ก็ยังสามารถแพร่กระจายโรคได้ ในเด็กปกติโรคมีความรุนแรงน้อยกว่า ยกเว้น เด็กทารก และเด็กที่มีโรคประจําตัว ในเด็กทารกถ้ามารดาได้รับวัคซีนขณะตั้งครรภ์ ภูมิต้านทานก็น่าจะส่งต่อมาปกป้องลูกน้อยในเดือนแรกๆ ได้

เราต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ในการอยู่กับโรคนี้ให้ได้ พบผู้ป่วยผู้ติดเชื้อรอบตัวเรา รวมทั้งคนใกล้ชิด มีให้เห็นมากมาย ต่อไปวัคซีนพาสปอร์ต ที่จะต้องฉีด 2 เข็ม 3 เข็มก็จะมีความหมายน้อยลง การสืบสวนโรค ว่าติดจากใคร ทำได้ยาก และปัจจุบันแทบไม่ต้องถาม timeline กันอีกต่อไปแล้ว

เราไม่ควรรังเกียจคนที่เป็น และต้องยอมรับ เปรียบเสมือนเป็นโรคทางเดินหายใจโรคหนึ่ง ไม่แสดงความรังเกียจผู้ป่วย เราจะต้องอยู่ด้วยกันกับโรคนี้

เอกชนสงขลา ขานรับมาเลย์เปิดด่าน 1 เม.ย. เล็งเสนอรัฐใช้วัคซีนทราเวลเลน ดึงนักท่องเที่ยว

เอกชนสงขลาขานรับมาเลเซียเปิดด่าน 1 เม.ย เล็งเสนอรัฐบาลใช้มาตรการวัคซีนทราเวลเลน ดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้าไทยกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองหน้าด่านชายแดนฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 ทันทีที่ดาโต๊ะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศเปิดพรมแดนของประเทศอีกครั้งในวันที่ 1 เมษายน หลังจากปิดไปเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ข่าวนี้สร้างความหวังให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดสงขลาอีกครั้ง

‘สิว - ดำ - คล้ำ - หมอง’ ต้อง... ‘GLYCOLIC BRIGHT INSTANT GLOWING SERUM’ by L'Oréal ขวดเดียวอยู่!!

ปัญหาผิวกวนใจอันดับต้น ๆ ของสาว ๆ ยังไงก็คงหนีไม่พ้น ‘สิว’ ตัวการปัญหาผิวไม่เรียบเนียน และต่อให้มันจะหายไปแล้ว ก็ยังทิ้งรอยให้เจ็บกระดองใจเล่น เรียกว่าปวดใจตั้งแต่เริ่มผุดบนหน้า จนยุบแห้งไปแล้วก็ยังฝากรอยไว้ให้เป็นที่ระทึกอยู่เรื่อย ๆ 

ครั้นเห็นหน้าตัวเองทีไร ก็ได้แต่ภาวนาว่า เมื่อไร จุดด่างดำจากสิวสุดกวนใจเหล่านี้ จะหายไปจากชีวิตเสียที 

เวลามีใครหาสูตรดูแลที่โปรโมตโม้กันว่าดีๆๆ พี่ลองมาหมดแล้ว แต่โป๊ะ!! ผลลัพธ์กลับได้รอยเพิ่มขึ้นมาซะอีก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดบางทีโดนยาแรงผื่นแพ้ขึ้นมาเบียด จนแทบไม่เหลือที่ให้สิวผุด

แต่ว่าวันนี้ปัญหาปวดใจเหล่านี้ ก็ไม่มาก่อกวนใจอีกต่อไป เพราะในที่สุดก็ได้เจอเนื้อคู่วววววว อย่างน้อง ‘GLYCOLIC BRIGHT INSTANT GLOWING SERUM’ by L'Oréal เซรั่ม ไกลโคลิค ไบรท์ -57% จุดด่างดำใน 4 สัปดาห์ ด้วยพลังผิวดูใสไกลโคลิคเข้มข้น 1.0% บอกเลยว่า กู้หน้าผุ คืนหน้าใส หน้าสว่างเหมือนติดหลอดไฟให้ผิวกันไปเลยจ้าาา

ความเลิศของน้อง อยู่ที่การช่วยงัดผิวโทรมขึ้นมาได้ทันตา เพราะน้องมี ‘ไกลโคลิค แอซิด’ ตัวช่วยผิวดูโกลว์ กระจ่างใส ขอบอกก่อนว่าเจ้าตัวนี้เนี่ยไม่ได้โบเบ้มามั่ว ๆ นะจ๊ะ เพราะเขามีการทดลองกันจริง ๆ มีผลลัพธ์ทางคลินิกรับรอง ขอบอกเลยว่า ทาไปปุ๊ป จุดด่างดำต้องมีกระเด็นออกกันไปบ้างแหละ!

ธัญวัจน์ ก้าวไกล เตรียมยื่นญัตติต่อสภา ศึกษาประเด็น "บุคคลข้ามเพศ" ลดมายาคติที่มีต่อบุคคลข้ามเพศ

ธัญวัจน์ ก้าวไกล เผยเตรียมยื่นญัตติเพื่อการศึกษาประเด็น บุคคลข้ามเพศต่อรัฐสภา ย้ำชัด ขอให้สภาเป็นพื้นที่ปลอดภัย สร้างความเข้าใจให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ขอโอกาสสร้างคนให้เท่ากัน ลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ 

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีหลังจากที่ตนได้ติดตามประเด็นร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งตนยังมองว่ายังคงมีปัญหาในหลายประเด็นที่สังคมยังเข้าใจไม่ตรงกันตนจึงเตรียมยื่นญัตติต่อรัฐสภาเพื่อการศึกษาในประเด็นดังกล่าว เพื่อสร้างให้สังคมสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน 

ธัญวัจน์ กล่าวว่า ประเด็นข้ามเพศเป็นประเด็นที่ยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างรอบด้าน อาจทำให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็นไม่เร่งด่วนตนได้รวบรวมปัญหาจากการศึกษาข้อมูลต่างประเทศและจากการหารือรับฟังเครือข่ายภาคประชาชนตนคิดว่าพื้นที่สภาจะเป็นกลไกสำคัญที่จะศึกษาอย่างรอบด้านจึงยื่นญัตติขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของบุคคลข้ามเพศ 

‘ยูเครน’ เอาคืน! ส่ง ฮ. ทิ้งมิสไซล์ เผาวอดคลังน้ำมัน ‘รัสเซีย’!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันในเมืองเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนราว 25 ไมล์ โดยเวียเชสลาฟ กลัดคอฟ (Vyacheslav Gladkov) ผู้ว่าราชการเบลโกรอดกล่าวผ่าน Telegram ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีทางอากาศจากเฮลิคอปเตอร์ของยูเครน ด้านยูเครนยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ ในประเด็นดังกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนและเร่งเข้าควบคุมเพลิง โดยเบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายเป็นพนักงานในคลังน้ำมัน ได้รับการปฐมพยาบาลแล้วและไม่อยู่ในอันตราย

ภายหลังพบปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งรายงานระบุว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ของยูเครน 2 ลำ บินต่ำก่อนที่จะยิงขีปนาวุธ S-8 หลายนัดเข้าที่คลังน้ำมัน

ทั้งนี้ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งเกิดเหตุระเบิดที่คลังแสงในเมืองเบลโกรอด ซึ่งคาดว่าเกิดจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของกองทัพยูเครน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีทหารรัสเซียได้รับบาดเจ็บ 4 นาย


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/679617

'คุณแม่สมพร' ยัน!! ซื้อที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ชี้!! อย่ากล่าวหาครอบครัว​ 'โกงบ้านโกงเมือง'​

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า เปิดใจครั้งแรก หลังกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก จำนวน 59 ฉบับ เนื้อที่รวม 2,111 ไร่ จ.ราชบุรี ว่า รู้สึกเสียใจที่สังคม และสื่อกล่าวหาตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจรุกที่ป่า กินป่า เพราะเป็นข้อหาที่ร้ายแรง สำหรับตัวเองและครอบครัว ที่ทำมาหากินสุจริต ตั้งใจช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด และขอโอกาสชี้แจงเพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม ทั้งนี้ การซื้อที่ดินตัวเองไม่ใช่ผู้ซื้อมือแรก

โดยเอกสารสิทธิ์ที่ดินออกตั้งแต่ปี 2521 โดยกรมที่ดิน มีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง ต่อมาในปี 2533 ได้รับการแนะนำจากอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองที่เสียชีวิตไปแล้ว ให้มาซื้อที่ดินจากบริษัทมิตรผล ที่เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งนายกมล ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัทมิตรผล ก็เป็นนักธุรกิจใหญ่ รู้จักกันดี เมื่อทั้งเจ้าของและผู้แนะนำให้ซื้อเป็นคนที่น่าเชื่อถือ จึงไม่คิดเลยว่าที่ดังกล่าวจะผิดกฎหมาย

'นภดล'​ ชี้!! ท่าที 'อุ๊งอิ๊ง'​ เหมาะสม นิ่งต่อคำวิจารณ์ได้ดี วอน!! นักวิจารณ์​อย่าด่วนอคติ 'รถใหม่'​ ที่ไม่เคยขับ

อวยนายหญิง! “นภดล” ชี้ท่าที “อุ๊งอิ๊ง” เหมาะสม นิ่งต่อคำวิจารณ์ วอนนักวิจารณ์อย่าคาดการณ์ด้วยอคติ ขอเปิดพื้นที่ให้กับแนวทางที่สร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวถึงหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นต่อการเข้ามาทำงานการเมืองของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง และลามไปถึงบิดา และพรรคเพื่อไทยนั้น ตนมีความเห็นว่า

1.) นางสาวแพทองธาร จัดการกับการวิพากษ์วิจารณ์ได้ นิ่ง ไม่ตอบโต้ และเสียงของผู้นำการเมืองหลายคน หลายพรรคมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเมตตาต่อกัน ซึ่งน่าชื่นชม

2.) อาจมีคำวิจารณ์ที่มีอคติ คาดการณ์ในทางร้าย บางคนกล่าวหาล่วงหน้า ซึ่งคนพูดมีทัศนคติทางการเมืองเช่นไร คนส่วนใหญ่ก็รู้ แม้คนพวกเดียวกันจะเชื่อ แต่คนจำนวนมากไม่เห็นด้วย ดังนั้นปริมาณและคุณภาพของความเห็นเป็นคนละเรื่องกัน

3.) ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง การที่จะมีพรรคการเมืองใหม่ๆ คนใหม่ๆ เข้ามาทำงานการเมือง และทำให้ประชาชนมีทางเลือกเป็นเรื่องที่ดี อย่าพึ่งทำตัวเหมือนเป็นนักขับรถที่วิจารณ์รถยนต์ที่พึ่งเปิดตัว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขับ รอฟังนโยบาย รอดูการกระทำก่อน ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

4.) ตนเห็นว่า คนทำงานการเมืองหน้าใหม่เช่นนางสาวแพทองธาร ใช้สิทธิเข้าสู่การเมืองตามรัฐธรรมนูญที่ตนไม่ได้ร่าง และต้องแข่งภายใต้กติกาที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อตน เราควรเปิดพื้นที่ ว่าพวกเขามีแนวทางแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์อย่างไร มีกึ๋นแค่ไหน ประชาชนจะให้คำตอบในวันเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นเรื่องเกมแห่งอำนาจ แต่เป็นการเข้าสู่อำนาจตามครรลอง ตามวิถีทางประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ การออกมาด้อยค่าและคำวิจารณ์ที่อบอวลด้วยอคตินั้นไม่มีใครได้ประโยชน์ 

เปิดข้อเท็จจริง!! ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

จากคำขอของพี่นวลอนงค์ สุวรรณเรือง ซึ่งบอกมาว่า “อาจารย์คะ รบกวนเล่าที่มาของสนธิสัญญา อินโด-แปซิฟิก หน่อยได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ” ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ได้เล่าถึงองค์การ SEATO ซึ่งเปรียบเสมือนองค์การ NATO แห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (แต่แทบจะไม่มีบทบาทอะไรเลย) จนยุบเลิกไปในที่สุด โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องราวส่วนแรกของ ‘ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก’ ครับ

ฉะนั้นสำหรับบทความรอบนี้ จึงขอเล่าเรื่องราวส่วนที่สอง อันเป็นภาคจบด้วยข้อเท็จจริงของ ‘ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก’ ซึ่งได้ขอความอนุเคราะห์มาจาก ท่านหน่อย ‘ธานี แสงรัตน์’ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ท่านเป็นเพื่อนของรุ่นน้องที่สนิทสนมกัน และราว 30 ปีก่อนเคยไปเยี่ยมท่านที่ขณะเป็นนักศึกษาปริญญาโท University of Pittsburgh  

ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาเริ่มกันเลยครับ...

ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 รถถังของเวียดนามเหนือสนธิกำลังกับเวียดกงชนประตูรั้วเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้

แต่ก่อนที่จะไปถึงเรื่องราวข้อเท็จจริงของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่มาจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเล่าถึงเหตุการณ์หลังจากความพ่ายแพ้ของทุกรัฐบาลในอินโดจีนที่สหรัฐฯ สนับสนุน และเหตุการณ์ต่อจากนั้นกระทั่งถึงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกในยุคปัจจุบันกันก่อน 

ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 เมื่อรถถังของเวียดนามเหนือสนธิกำลังกับเวียดกงชนประตูรั้วเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้อันเป็นการแสดงถึงชัยชนะต่อรัฐบาลเวียดนามใต้ที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ต้องถอนกำลังออกจากสามประเทศอินโดจีน อันได้แก่ ลาว, กัมพูชา และเวียดนามใต้ อย่างบอบช้ำ และชัยชนะดังกล่าวทำให้ทั้งสามประเทศสถาปนาตัวเองเป็นประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โดยสมบูรณ์

แต่หลังจากชัยชนะของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ที่เกิดขึ้นทั้งในสามประเทศไม่นาน ก็ดันเกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามและกัมพูชาประชาธิปไตย โดยสงครามเริ่มขึ้นด้วยการปะทะตามพรมแดนทางบกและทางทะเลของเวียดนามและกัมพูชาระหว่าง พ.ศ. 2518 ถึง 2520 

ต่อมาในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2521 เวียดนามเริ่มปฏิบัติการรุกรานกัมพูชาเต็มขั้นและยึดครองประเทศได้หลังล้มล้างรัฐบาลเขมรแดง โดยวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ทหารเวียดนาม 150,000 นาย บุกเข้ายึดครองกัมพูชาประชาธิปไตย และสามารถชนะกองทัพปฏิวัติกัมพูชาได้ในเวลาเพียงสองสัปดาห์

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2522 มีการจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาที่นิยมเวียดนามในกรุงพนมเปญ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการยึดครองกัมพูชาของเวียดนามยาวนานนานสิบปี แต่ระหว่างการยึดครองนั้นรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยของเขมรแดงยังคงได้รับการรับรองโดยสหประชาชาติว่าเป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมของกัมพูชา พร้อมทั้งมีการจัดตั้งกลุ่มต่อต้านติดอาวุธหลายกลุ่มขึ้นเพื่อสู้รบกับการยึดครองของเวียดนาม 

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน แห่งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา ซึ่งนิยมเวียดนาม ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลผสมกัมพูชาประชาธิปไตย เพื่อเริ่มการเจรจาสันติภาพ ภายใต้แรงกดดันทางการทูตและเศรษฐกิจอย่างหนักจากประชาคมนานาชาติ รัฐบาลเวียดนามจึงเริ่มนำการปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจและต่างประเทศหลายอย่างมาใช้ และนำไปสู่การถอนตัวออกจากกัมพูชาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2532 

ในระหว่างการยึดครองกัมพูชาของเวียดนาม มีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เกิดขึ้นหลายครั้ง อาทิ 17 กุมภาพันธ์ - 16 มีนาคม พ.ศ. 2522 จีนได้การโจมตีเวียดนามตามแนวชายแดนจีน-เวียดนาม และจีนสามารถยึดครองเมืองเกาบังได้ในวันที่ 2 มีนาคม และเมืองลาวเซินในวันที่ 4 มีนาคม จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปยังกรุงฮานอย แม้การส่งกำลังบำรุงไม่ดีพอ แต่อีกไม่กี่วันต่อมากองกำลังของจีน ก็สามารถเข้าสู่เวียดนามตอนเหนือและยึดเมืองต่างๆ ของเวียดนามได้หลายเมืองใกล้ชายแดน กระทั่ง วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2522 ประเทศจีนประกาศว่า ประตูสู่กรุงฮานอยได้ถูกเปิดออกแล้ว และสรุปว่า ภารกิจลงโทษลุล่วงแล้ว ก่อนถอนทหารทั้งหมดออกจากประเทศเวียดนาม โดยทั้งประเทศจีนและเวียดนามต่างอ้างชัยชนะในสงครามครั้งนี้

ในส่วนของประเทศไทยเอง ก็ได้รับผลกระทบจากการยึดครองกัมพูชาของเวียดนาม โดยเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-เวียดนาม ด้วยกองกำลังทหารกัมพูชาส่วนใหญ่ที่ได้อพยพมาอยู่ทางด้านตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งติดกับชายแดนไทย โดยมีกลุ่มกัมพูชาติดอาวุธที่ต่อต้านการยึดครองของเวียดนามอยู่ 3 กลุ่ม คือ...

(1) กลุ่มกัมพูชาประชาธิปไตย (Democratic Kampuchea) หรือกลุ่มเขมรแดงของ พล พต และเขียว สัมพันธ์ มีสมาชิกประมาณ 40,000 นาย มีฐานที่ตั้งอยู่บริเวณพนมกระวันและบริเวณตะวันตกของจังหวัดพระตะบอง

(2) กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยชาติเขมร (Khmer People’s National Liberation Front - KPNLF) ภายใต้การนำของซอนซาน มีสมาชิกประมาณ 4,000 นาย 

และ (3) กลุ่มพรรคฟุนซินเปก (Front d"union national pour un Cambodge independant, pacifiaue et cooperatif - FUNCINPEC) ภายใต้การนำของสมเด็จนโรดม สีหนุ กลุ่มต่อต้านทั้งสามกลุ่มนี้มีฐานกองกำลังใกล้กับชายแดนไทยเพื่อง่ายต่อการหลบหนีเมื่อถูกกำลังเวียดนามบุกเข้าโจมตี กำลังกัมพูชาก็หลบหลีกเข้าสู่ดินแดนไทย ในการนี้เวียดนามเห็นว่าไทยยินยอมให้ชาวกัมพูชาฝ่ายต่อต้านใช้พื้นที่เป็นที่หลบหนีและคุ้มกันการโจมตีของกำลังเวียดนามและกำลังของเฮง สัมริน

หลายครั้งที่การโจมตีของกำลังเวียดนามต่อกลุ่มกัมพูชาติดอาวุธที่ต่อต้านการยึดครองของเวียดนามทั้ง 3 กลุ่ม มักมีการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ซึ่งขณะนั้นถือได้ว่ากองทัพไทยหากเปรียบเทียบกับกองทัพเวียดนามแล้ว ต้องบอกว่าว่าเทียบกันไม่ติด เนื่องจากกองกำลังทางทหารของฝ่ายไทยไม่เคยผ่านการรบมาก่อนหรือถ้าผ่านก็เป็นการรบแบบสมัยใหม่ ซึ่งมีแนวทางในปฏิบัติการรบแบบสหรัฐอเมริกา แตกต่างกับเวียดนาม

พิจารณาได้จากกองกำลังของเวียดนามซึ่งมีทักษะในการรบที่ดีกว่า และรู้วิธีการรบแบบกองโจร แถมทหารของเวียดนาม ก็ยังมีประสบการณ์รบจากสงครามเวียดนาม 

โดยขณะที่เวียดนามบุกกัมพูชานั้น กองกำลังทางทหารของเวียดนามมีจำนวน 875,000 นาย โดยที่ยังไม่รวมกำลังทหารของฝ่ายเฮง สัมริน ที่ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน ภายใต้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจร และการรบแบบสมัยใหม่ 

ส่วนฝ่ายไทยนั้นมีประสบการณ์เพียงเรื่องการปราบปรามกองโจร และมีกำลังทหารหน่วยที่ผ่านสงครามในลาวและเวียดนาม แต่ก็ชำนาญการรบตามหลักนิยมของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งต้องอาศัยอำนาจการยิงที่เหนือกว่า จึงจะทำการรบได้ 

นอกจากนี้เวียดนามยังมีอาวุธของสหรัฐฯ ที่เหลือทิ้งไว้จากยุคสงครามเวียดนามอยู่มาก รวมทั้งในระหว่างปี พ.ศ. 2521 - 2531 นี้ เวียดนามก็ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหภาพโซเวียตเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อพัฒนากองทัพให้ทันสมัย และเพื่อการปราบปรามฝ่ายต่อต้านในกัมพูชา จึงกล่าวได้ว่า ไทยมีขีดความสามารถที่ด้อยกว่าเวียดนามอยู่มาก 

ทั้งนี้ ข้อตกลงสันติภาพปารีส การเจรจาสันติภาพยังคงดำเนินต่อไป โดยการประชุมสันติภาพปารีสเกี่ยวกับกัมพูชาครั้งแรกจัดขึ้นใน พ.ศ. 2532 หลังจากการถอนทหารเวียดนาม ต่อมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 ได้จัดการประชุมจาการ์ตาครั้งที่สาม และจัดตั้งสภาสูงสุดแห่งชาติกัมพูชา เพื่อรับรองอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ในเวลาเดียวกัน ฮุน เซนได้เปลี่ยนชื่อพรรคปฏิวัติประชาชนกัมพูชามาเป็นพรรคประชาชนกัมพูชา

รมว.สุชาติ มอบ ‘ปลัดแรงงาน’ เปิดปฐมนิเทศ “โครงการการพัฒนาสุขสภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ” ร่วมพัฒนาดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานปฐมนิเทศ “โครงการการพัฒนาสุขสภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ Wellness CNB” มุ่งสนับสนุนและพัฒนาสุขสภาพของพนักงานและการบริหารจัดการภายในองค์กรให้เกิดสุขสภาพอย่างเป็นองค์รวม โดยโครงการดังกล่าวกระทรวงแรงงานได้บูรณาการร่วมกับสถาบันการสร้างชาติ จัดขึ้นเพื่อให้เกิดมุมมองในการดูแลพนักงานอย่างครบมิติ โดยมี ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ บรรยายพิเศษ หัวข้อ "แนวคิด Wellness ครบวงจร" และ ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุภระฤกษ์ ประธานอำนวยการหลักสูตร นสช. Wellnessบรรยายหัวข้อ “ยุทธศาสตร์สร้างสุขสภาพที่ดีให้กับพนักงานยุคดิจิตอล” ณ ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน 

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ตั้งเป้าฟื้นฟู พลิกโฉมตลาดแรงงานไทย หลังจากที่ต้องเผชิญวิกฤติจากการแพร่ระบาดของโควิด – 19  ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนไว้ 5 ด้าน และนโยบายสำคัญ 7 ด้าน ซึ่งนโยบายสำคัญ คือการพัฒนา ปรับปรุง และส่งเสริมการคุ้มครองแรงงานระบบสวัสดิการ และหลักประกันทางสังคม ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาชีวอนามัยในการทำงานให้สอดคล้องกับสภาวะสังคม เศรษฐกิจ และรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ นโยบายสำคัญอีกประการหนึ่งของการคุ้มครองแรงงาน คือ การพัฒนาทักษะแรงงานเป็นแรงงานคุณภาพ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ และรองรับเศรษฐกิจใหม่ โดยกระทรวงแรงงานวางแผนที่จะยกระดับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน และสร้างแรงงานที่มีสมรรถนะสูง ผ่านโครงการต่างๆ จัดทำโดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างรัฐ และเอกชนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top