Tuesday, 1 July 2025
TheStatesTimes

ภารกิจ 'แก้จน' ของจีน เป็นแบบอย่างแก่โลก พาปชช. หลุดพ้นความจนเกือบ 800 ล้านคน

2 เม.ย. 65 รายงานที่ร่วมเผยแพร่โดยกระทรวงการคลังและศูนย์วิจัยการพัฒนาแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ร่วมกับธนาคารโลก เมื่อวันพฤหัสบดี (31 มี.ค.) ระบุว่าความสำเร็จในการบรรเทาความยากจนของจีนถือเป็นแบบอย่างแก่โลก

ช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา จีนนำพาประชาชนหลุดพ้นความยากจนเกือบ 800 ล้านคน เมื่ออ้างอิงเส้นแบ่งความยากจน ระดับโลกที่กำหนดไว้ 1.9 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 63.57 บาท) ต่อวัน โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 75 ของการบรรเทาความยากจนทั่วโลก

'ไทยเวียตเจ็ท'​ เล่นมุก​ 'ไม่ขำ'​ ในวันเมษาหน้าโง่​ โดนชาวเน็ตด่ายับ หลังโพสต์เปิดเส้นทางใหม่ 'น่าน-มิวนิค'​ เริ่มที่ 1,010 บาท 

สายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” เกาะกระแสวัน “เอพริลฟูลเดย์” โพสต์ทวิตเตอร์เล่นมุกเปิดบินเส้นทางใหม่ “น่าน-มิวนิค” เริ่มต้น 1,010 บาท สุดท้ายโดนชาวเน็ตด่ายับ จนต้องลบทวิตดังกล่าวทิ้ง

ถือเป็นอีกหนึ่งทอล์คออฟเดอะทาวน์ในโลกโซเชียล เมื่อสายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” เกาะกระแสวัน “เอพริลฟูลเดย์” หรือ “วันเมษาหน้าโง่” 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันโกหกของฝรั่ง โดยโพสต์ทวิตเตอร์เล่นมุกสายการบินไทยเวียตเจ็ทเปิดบินเส้นทางใหม่ “น่าน-มิวนิค” เริ่มต้น 1,010 บาท พร้อมทั้งมีการติดแฮชแท็ก April Fool's Day ไว้ที่ช่วงท้ายของภาพ

หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ รับโล่รางวัล รณรงค์วันตระหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565  

วันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. ห้องประชุม มูลนิธิออทิสติกไทยกรุงเทพมหานคร "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการแห่งประเทศไทย และตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร และ ผู้อำนวยการข่าวหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ ตาม เข้ารับโล่รางวัล องค์กรที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคคลออทิสติก จาก นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยได้รับเกียรติจาก "นายธนสุนทร สว่างสาลี" รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้แทนมอบรางวัล  

ในการนี้ "นายชูศักดิ์ จันทยานนท์" นายกสมาคม สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีเกียรติทุกท่านที่กรุณาให้เกียรติ ร่วมงานวันรณรงค์วันจะหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565 ซึ่งนับเป็นปีที่ 18 ที่องค์การสหประชาชาติและประชาคมอาร์ทิสติกทั่วโลก ร่วมจัดงาน WORLD AUTISM AWARENEESS DAY (WAAD) ในวันนี้ ซึ่งสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ 

1.) เพื่อร่วมรณรงค์วันสมัครรู้ วันออทิสติกโลก ซึ่งองค์การสหประชาชาติเชิญชวนประเทศสมาชิกทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมพร้อมกัน ในวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี โดยในปี 2020 องค์การสหประชาชาติปีนี้กำหนด หัวข้อประเด็นรณรงค์ว่า "Inclusion in the Workplace Challenges and Opportunity in a Post-Pandemic World" หรือ "การเป็นส่วนร่วมของหน่วยงาน ความท้าทายและโอกาสในโลกหลังการแพร่ระบาด" ซึ่งองค์การสหประชาชาติมุ่งหมายให้ประเทศสมาชิกถึงการส่งเสริมให้บุคคลออทิสติกและคนพิการมีโอกาสในการทำงานในหน่วยงาน 

โดยถือเป็นส่วนร่วมของหน่วยงานแล้วว่าจะมีการประชุมประสาทในช่วงการแพร่ระบาด โดยขอให้รัฐสมาชิก ใช้โอกาสนี้สร้างโลกที่เปิดกว้างและเข้าถึงได้มากขึ้นสนับสนุนการมีส่วนร่วมของคนทุกคนรวมถึงบุคคลออทิสติก และคนพิการด้วย และขอเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสโดยร่วมสร้างเศรษฐกิจโลกขึ้นมาใหม่จินตนาการถึงบรรยากาศหรือสถานที่ทำงานใหม่ที่สร้างความหลากหลายยอมรับความเท่าเทียมกันทบทวนระบบการศึกษาและการฝึกอบรมของเราใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลออทิสติกจะได้รับโอกาสที่หลากหลายและตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง

2.) เพื่อให้ผู้แทนชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกระดับจังหวัด บุคลากรในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสังคม การศึกษา สาธารณสุข ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การจัดความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกในระดับชุมชนและนำประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพบุคคลออทิสติกและครอบครัวสู่การปฏิบัติ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ดำเนินการ 3 วันโดยการประชุมแบบผสมผสานทั้งการประชุมพบกลุ่มและประชุมระบบ Virtual Meeting ผ่านระบบ TRUE VROOM และเพจ Autisticthai Foundation ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้ปกครอง ครู และอาสาสมัครจำนวน 1,000 คนในพื้นที่ทั่วประเทศ หัวข้อการสัมมนามีทั้งสถานการณ์ที่เกี่ยวกับบุคคลออทิสติกในระดับนานาชาติการพัฒนาการศึกษาในระบบนอกระบบเชื่อมต่อและเปลี่ยนทางสู่การทำงานความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย 

‘เซเลนสกี’ ปัดตอบส่ง ฮ. ยิงถล่มคลังน้ำมันรัสเซีย ด้านปูตินสั่งยกระดับป้องกันชายแดนตะวันตก

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าเป็นผู้สั่งยิงถล่มคลังน้ำมันรัสเซียในเมืองเบลโกร็อด (Belgorod) หรือไม่ ขณะที่รัสเซียประกาศเสริมกำลังป้องกันชายแดนด้านตะวันตกเพื่อสกัดการโจมตีในอนาคต

แม้การเจรจาสันติภาพระหว่างเจ้าหน้าที่ยูเครนกับรัสเซียจะเกิดขึ้นอีกครั้งผ่านระบบวิดีโอลิงก์ แต่ทำเนียบเครมลินเตือนว่าเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ยิงโจมตีคลังน้ำมันที่เบลโกร็อด อาจจะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันลำบากขึ้น

รัฐบาลเคียฟไม่ขอยอมรับหรือปฏิเสธว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือไม่ โดย เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับสื่อฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ ว่า “ขอโทษด้วย ผมไม่ขอชี้แจงเรื่องคำสั่งต่างๆ ที่ผมได้สั่งการไปในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด (commander in chief)”

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหายูเครนว่าส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำบินในระดับต่ำเข้ามาในเขตแดนของรัสเซีย ก่อนจะยิงมิสไซล์ถล่มคลังน้ำมันที่เมืองเบลโกร็อด ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนอยู่เครนประมาณ 35 กิโลเมตร เมื่อเวลาราว 5.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย.

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นแสงสว่างวาบคล้ายขีปนาวุธถูกยิงในระดับที่ต่ำมาก ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้น

ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้รุนแรง และต้องมีการอพยพประชาชนบางส่วนออกนอกพื้นที่ ทว่า อันตอน อิวานอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเบลโกร็อด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟลงได้ทั้งหมดแล้ว

“ไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อชีวิตและสุขภาพ ประชาชนทุกคนสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้” อิวานอฟ แถลงผ่านสื่อออนไลน์

บริษัทน้ำมัน รอสเนฟต์ (Rosneft) ซึ่งเป็นเจ้าของคลังน้ำมันยืนยันว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า คลังน้ำมันแห่งนี้ใช้ประโยชน์ในด้านพลเรือนเท่านั้น

'พนิต' ฟันธง อัศวินอยู่ใต้เงาประยุทธ์ หลังลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เตือนระวังคนกรุงไม่เอา 

“พนิต” ปชป.ฟันธง นายกฯ ตรวจคลองโอ่งอ่างสะท้อน “อัศวิน” อยู่ใต้เงา “บิ๊กตู่” เตือนระวังคนกรุงไม่เอา ภาพชัดต้องการสืบทอดอำนาจ จับตาใช้กลไกรัฐเอาเปรียบคู่แข่งทำลายบรรยากาศเลือกตั้งในรอบ 9 ปี เชื่อ 22 พ.ค.เป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ

วันนี้ (2 เม.ย.) นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์ เรื่อง "บิ๊กวิน" ในเงา "บิ๊กตู่"? ว่า หนึ่งภาพล้านความหมาย! ผมเชื่อว่า มีคนตั้งคำถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยเฉพาะการลงพื้นที่และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยเฉพาะในวันที่ 30 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แม้จะระบุว่า ไม่ได้เชียร์ใคร แต่คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินได้อ่าน ต่างตีความว่า หมายถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

“ฉะนั้น ถ้าจะหาเสียงลองถามต่อไปสิว่าของเดิมที่ทำมาแล้วมีอะไรบ้าง เขารู้หรือยัง และจะทำอะไรต่อตรงนั้น หรือจะทำอะไรใหม่ ถ้ามารื้อทิ้งทั้งหมดถามว่าจะไปได้อย่างไร” คำว่า “จะทำอะไรต่อ” มันสอดรับกับสโลแกนของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่ว่า “กรุงเทพฯต้องไปต่อ” อย่างบังเอิญ?

อีกวันต่อมา ช่วงเย็น 31 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ควงแขน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน โดยเป็นภารกิจที่ไม่ได้อยู่ในกำหนดการอีกครั้ง

นายพนิต กล่าวว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้คงไม่แปลกอะไร หากแต่การเลือกลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างในช่วงนี้ และวันเดียวกับที่มีการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันแรก มันยิ่งทำให้คนปักใจเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังช่วย พล.ต.อ.อัศวิน หาเสียงทางอ้อม แม้ไม่ได้มีประโยคไหนสื่อถึงก็ตามที

เพราะการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง จนได้รับรางวัลต้นแบบในการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเมืองของเอเชียประจำปี ค.ศ. 2020 (2020 Asian Townscape Award) จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-HABITAT) ซึ่งประกาศรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.อัศวิน ใช้เป็นผลงานมาโดยตลอดและนำมาหาเสียงในครั้งนี้ด้วย

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่วันแรกที่รับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มันจึงสร้างความหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า จะจัดการเลือกตั้งได้บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงหรือไม่ และจะมีการใช้กลไกฝ่ายอำนาจมาเอื้อให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ ในเมื่อผู้นำยังทำตัวสองแง่สามง่ามลับๆ ล่อๆ

ดร.เสรี เรียกร้อง หยุดใช้สายการบินที่แซะสถาบัน ด้านหมอวรงค์ ชี้ ถ้ามีอำนาจจะจัดการให้ถึงที่สุด!!

2 เม.ย. 65 - ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ดังนี้

เป็นสายการบินต่างชาติ มาหากินในประเทศไทย แต่มีพฤติกรรมแซะ ส่อเสียดสถาบันที่ประชาชนคนไทยเทิดทูนและจงรักภักดีเช่นนี้แล้ว เราคนไทยควรสนับสนุนไหมคะ

ขออภัยที่ไม่ได้นำเสนอภาพ Poster ที่ต่ำตมรสนิยมของเขาได้ เอาเป็นว่าถ้าหากเราเป็นคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ควรขึ้นเครื่องบินสายนี้

ถ้าหากมีกฎหมายใดเอาผิดได้ เราก็อยากให้กฎหมายจัดการกับสายการบินสายนี้ อย่าให้มาหากินในเมืองไทย แต่ถ้าคนไทยเราไม่ใช้บริการเขา สายการบินนี้คงต้องม้วนเสื่อกลับประเทศ

หยุดสนับสนุน หยุดใช้บริการสายการบินที่ต่ำทรามสายนี้นะคะ

WHO เตือนโอไมครอนลูกผสม “XE” แพร่เชื้อง่ายและรวดเร็ว เหนือกว่า BA.2 ถึง 10%

WHO เตือนโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าทุกสายพันธุ์ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ถอดรหัสพันธุกรรมพบแล้ว 1 ราย รอยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง

เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics โพสต์วันที่ 2 เม.ย. 65 รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” ที่แพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรนา 2019 ทุกสายพันธุ์ที่เราเคยประสบมา

“XE” เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.1 X BA.2” ไม่ใช่ “เดลตาครอน” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง “เดลตา X โอไมครอน” WHO ยังไม่ตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการจนกว่า “XE” จะแสดงอาการทางคลินิกที่รุนแรงแตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน” หรือ “XD” WHO แจ้งว่าไม่พบการระบาดที่รวดเร็ว (transmissibility) และอาการที่รุนแรง (severity) แต่ประการใด

ล่าสุดศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม “XE” จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปจากผู้ติดเชื้อ ชาวไทย 1 ราย และจากการตรวจกรองด้วยเทคโนโลยี “Massarray Genotyping” พบสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน (เดลตา X โอมิครอน)” อีก 1 ราย ซึ่งต้องยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง

โอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 โดยมีการถอดรหัสพันุกรรมทั้งจีโนมและอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง

'จีน' โต้ข้อครหา 'เลี่ยงคว่ำบาตรรัสเซีย' พร้อมเตือน "นี่เป็นเรื่องที่ชาวยุโรปต้องแก้ไขเอง"

รัฐบาลจีนออกมาชี้แจงวันนี้ (2 เม.ย.) ว่าไม่ได้พยายามที่จะ “หลบเลี่ยง” มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) เตือนว่าความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะช่วยเหลือมอสโกในสงครามยูเครนอาจกระทบสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมทางไกลระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงอียูกับคณะผู้นำจีนเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ว่า “เราไม่ได้จงใจทำอะไรเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรที่ชาวอเมริกันและชาวยุโรปใช้กับรัสเซีย”

จนถึงขณะนี้ ปักกิ่งยังคงยืนกรานที่จะไม่ “ประณาม” ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ขณะที่สหรัฐฯ เกรงว่าจีนอาจสนับสนุนมอสโกในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจรัสเซียให้สามารถฝ่าฟันบทลงโทษของตะวันตกไปได้

“เราขอคัดค้านการคว่ำบาตร เพราะผลของมาตรการเหล่านี้เสี่ยงที่จะส่งผลเสียลุกลามไปยังทั่วโลก” หวัง ลู่ถง (Wang Lutong) ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุโรปของกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในงานแถลงข่าว

เกาะยอในความทรงจำ (๒)

นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว นักเขียนเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงความทรงจำเมื่อครั้งทำงานเก็บข้อมูลชีวิตชาวบ้านที่เกาะยอ จังหวัดสงขลา ว่า 

กุฏิวัดท้ายยอ เรื่องเล่าจากพ่อหลวง-พระครูมานพ อคฺคธมโม เจ้าอาวาสวัดท้ายยอ ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เล่าไว้เมื่อกลางปี พ.ศ. ๒๕๔๒ 

“หมู่กุฏิที่วัดท้ายยอขึ้นทะเบียนกรมศิลปากรตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ กุฏิอายุกว่าสองร้อยปี เจ้าอาวาสองค์ที่ผ่านๆ มาท่านเก่งทางช่าง ทั้งสร้างทั้งซ่อมกันเอาไว้ พ่อหลวงเองได้วิชาช่างปลูกเรือนจากย่า พ่อของย่าเป็นช่าง ย่าจดจำมาถ่ายทอดให้ฟังหมด พอโตขึ้นมาก็มาเป็นลูกมือของพระอธิการเส้า ท่านให้ความรู้เรื่องเรือน ช่วยท่านยกไม้ ส่งไม้ อยู่หลายปี

เรือนคือมงคลวัตถุที่เป็นที่อยู่อาศัย เรือนโบราณจะมีสูตรในการสร้างเรียก “เรือนสูตร” ประกอบด้วย “มาตราสูตร” คือการวัดเป็นคืบเป็นศอกเพื่อออกสัดส่วนระยะเรือน และ “มงคลสูตร” คือศาสนธรรมคำสอน เป็นปริศนาธรรมควบคุมการออกสัดส่วนเรือน

อย่างพวกสัมมาอาชีวะจะปลูกเรือน ต้องตั้งจั่วก่อน คือออกสัดส่วนเรือนจากความสูงของจั่ว แต่ถ้าเป็นพวกนักเลงต้องตั้งเสาขึ้นก่อนให้มั่นคง แล้วชีวิตก็จะรุ่งเรืองไปตามแนวของแต่ละคน

โดยมากขนาดของเรือนจะใช้ร่างกายเจ้าของเรือนเป็นตัวกำหนดสัดส่วน อย่างพวกสัมมาอาชีวะตั้งจั่วก่อนนั้น จะต้องหาดั้ง (ความสูงของจั่ว) ก่อน เพราะดั้งเปรียบได้กับจมูกเป็นลมหายใจ ต้องเอาดั้งเจ้าของเรือน เพราะเจ้าเรือนจะต้องรักบ้านเท่าชีวิตตัว การหาดั้งใช้วิธีเอาไม้วัดตั้งบนหัวแม่โป้งนิ้วเท้าให้สูงขึ้นถึงหัวคิ้ว นั่นคือขนาดของดั้ง จากนั้นเอาดั้งเข้าสูตรทำจั่ว “หักดั้งตั้ง ๒ หนให้ชนกัน จันทันนั้นดั้งบวกคืบสืบสอดใส่”

เรือนคนแต่ละลักษณะก็ไม่เหมือนกัน อย่างเรือนกำนันกระดานพื้นหน้าห้องต้องมีสัญญาณเตือนภัย เหยียบปุ๊บต้องลั่นให้ได้ยิน จะได้รู้ตัว ป้องกันคนมาร้ายเพราะคนมาดีมักจะเรียกก่อน ส่วนเรือนเจ้าอาวาสกระดานหน้าห้องเหยียบแล้วต้องเงียบกริบ เพื่อชาวบ้านจะได้แอบดูได้ว่าพระทำอะไรอยู่ในห้อง

พ่อหลวงเกิดที่นี่ เกาะยอสมัยก่อนผลไม้อุดมสมบูรณ์มาก พวกขนมจากในเมืองขนมเปี๊ยะคนที่นี่ไม่กิน เพราะอาหารสมบูรณ์ กินข้าวกับน้ำผึ้งแล้ว เป็นคำพื้นของคนเฒ่าแก่ที่พูดติดปาก เพราะคนอิ่ม ไม่หิว ของกินบริบูรณ์ ขนาดไม้สร้างบ้านยังเป็นไม้ผล

เกาะยอทำอ่างดินเผามีชื่อ เขาพูดเป็นคำคล้องจองว่า สทิ้งทำหม้อ เกาะยอทำอ่าง หัวเขาค้าโพงพาง บ่อยางขายเคย เกาะยอทำกระเบื้องหลายแบบมีกระเบื้องหางแหลมมุงหลังคา กระเบื้องตีนเชิงชาย กระเบื้องกาบกล้วย กระเบื้องอกไก่สันหลังคา อิฐมีหลายขนาด เรียกอิฐหน้าวัว ของเกาะยอมีเอกลักษณ์ คือมีลายน้ำในเนื้ออิฐ เพราะเอาดินหลายที่มาผสมทำอิฐ เตาเผาอิฐสมัยเด็กๆ เห็นถึง ๘ เตา เด็กเกาะยอเมื่อก่อนไม่เล่นลงเลก็ขึ้นเขา เอาลูกหมากมาเล่นซัดราว 

สมัยก่อนเรือโดยสารคือนาฬิกาบอกเวลาของคนเกาะยอ ตี ๕ (๐๕.๐๐ น.) เรือยนต์ติดเครื่องวิ่งเกาะยอ-สงขลา เด็กตื่น พ่อแม่ลุกตั้งข้าวให้ลูกไปโรงเรียน ตี ๖ (๐๖.๐๐ น.) เรือออกจากท่า เด็กนักเรียนชายนั่งบนหลังคา นักเรียนหญิงนั่งในท้องเรือ พร้อมผลไม้จำนวนมาก จนต้องพ่วงเรือ ถึงสงขลาส่งเด็กแล้วก็รับครูมาสอนนักเรียนที่วัดท้ายยอ สองโมงเช้า (๐๘.๐๐ น.) พอดีโรงเรียนขึ้นเรือออกจากเกาะยออีกเที่ยว คราวนี้บรรทุกกุ้งปลาเต็มลำเรือไปส่งสงขลา จะสวนกับเรือที่ออกจากสงขลาตอนตี ๙ (๐๙.๐๐ น.) ถึงเกาะยอตี ๑๐ (๑๐.๐๐ น.) ได้พักเที่ยง บ่ายโมงเรือติดเครื่องไปสงขลา เด็กนักเรียนที่พักเที่ยงแล้ววิ่งเล่นอยู่ตามป่าได้ยินเสียงต้องรีบกลับห้องเรียน จากนั้นมีเรือออกตี ๓ (๑๕.๐๐ น.) จากสงขลามาเกาะยอ รับครูกลับไปสงขลา พอตี ๕ (๑๗.๐๐ น) เรือกลับมา พาเด็กนักเรียนจากสงขลามาส่งบ้าน เด็กเกาะยอต้องรีบขึ้นบ้าน เดิมมีแต่ป่า มืดเร็วกว่าเดี๋ยวนี้

2 เมษายน รณรงค์วันตระหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565  

วันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. ห้องประชุม มูลนิธิออทิสติกไทยกรุงเทพมหานคร  " นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ " นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) และคณะกรรมการจัดงานกล่าวขอบพระคุณ "นายธนสุนทร สว่างสาลี" รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ / "นางณฐอร อินทร์ดีศรี" ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ / คณะกรรมการสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) / ผู้บริหารกลุ่มทรู / เครือเจริญโภคภัณฑ์และองค์กรธุรกิจเอกชน / ผู้แทนชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกประจำจังหวัด / หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานทุกท่าน ที่กรุณาให้เกียรติ ร่วมงานวันรณรงค์วันจะหนักรู้ออทิสติกโลก ประจำปี 2565 ซึ่งนับเป็นปีที่ 18 ที่องค์การสหประชาชาติและประชาคมอาร์ทิสติกทั่วโลก ร่วมจัดงาน WORLD AUTISM AWARENEESS DAY (WAAD) 

ในวันนี้ ซึ่งสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ 

1.) เพื่อร่วมรณรงค์วันสมัครรู้ วันออทิสติกโลก ซึ่งองค์การสหประชาชาติเชิญชวนประเทศสมาชิกทั่วโลกร่วมจัดกิจกรรมพร้อมกัน ในวันที่ 2 เมษายน ของทุกปี โดยในปี 2020 องค์การสหประชาชาติปีนี้กำหนด หัวข้อประเด็นรณรงค์ว่า "Inclusion in the Workplace Challenges and Opportunity in a Post-Pandemic World" หรือ "การเป็นส่วนร่วมของหน่วยงาน ความท้าทายและโอกาสในโลกหลังการแพร่ระบาด" ซึ่งองค์การสหประชาชาติมุ่งหมายให้ประเทศสมาชิกถึงการส่งเสริมให้บุคคลออทิสติกและคนพิการมีโอกาสในการทำงานในหน่วยงาน โดยถือเป็นส่วนร่วมของหน่วยงานแล้วว่าจะมีการประชุมประสาทในช่วงการแพร่ระบาด โดยขอให้รัฐสมาชิก ใช้โอกาสนี้สร้างโลกที่เปิดกว้างและเข้าถึงได้มากขึ้นสนับสนุนการมีส่วนร่วมของคนทุกคนรวมถึงบุคคลออทิสติก และคนพิการด้วย และขอเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสโดยร่วมสร้างเศรษฐกิจโลกขึ้นมาใหม่จินตนาการถึงบรรยากาศหรือสถานที่ทำงานใหม่ที่สร้างความหลากหลายยอมรับความเท่าเทียมกันทบทวนระบบการศึกษาและการฝึกอบรมของเราใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลออทิสติกจะได้รับโอกาสที่หลากหลายและตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง 

2.) เพื่อให้ผู้แทนชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติกระดับจังหวัด บุคลากรในพื้นที่ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสังคม การศึกษา สาธารณสุข ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การจัดความช่วยเหลือบุคคลออทิสติกในระดับชุมชนและนำประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพบุคคลออทิสติกและครอบครัวสู่การปฏิบัติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top