Saturday, 17 May 2025
Region

กรุงเทพฯ - จก.ขส.ทร.จัดกิจกรรมวันอาภากร บริจาคโลหิต และมอบสิ่งของให้ชุมชนใกล้เคียงสู้โควิด-19

พลเรือตรี สาธิต นาคสังข์ เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ (จก.ขส.ทร.) จัดกิจกรรมเนื่องในวัน อาภากร โดยจัดพิธีบวงสรวงและอ่านคำประกาศพระเกียรติคุณ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์​บริเวณ​หน้า​กองบังคับการ​ และ​จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต​ เพื่อสนับสนุน​โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า​ กรมแพทย์ทหารเรือ​ นำโลหิตไปช่วย​เหลือผู้ป่วย​

เนื่องจากขณะนี้​โรงพยาบาลขาดแคลนเลือดเป็นจำนวนมาก​ พร้อมกันนี้​ได้มอบสิ่งของอุปโภค บริโภค อาหาร ยารักษาโรค ให้กับ​ชุมชน​บ้านพระยาทำ ​ซึ่งอยู่ติดกับ​กรมการขนส่งทหารเรือ​ ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19​ โดยเชิญผู้นำชุมชน​เป็นผู้แทนมารับ ​และส่งต่อให้คนในชุมชนต่อไป​ เมื่อ 19 พ.ค.64


ภาพ/ข่าว กพร.ทร. / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ชลบุรี – กราบหัวใจ ! รองผู้การเมืองชล ต่อแถวเข้าคิวฉีดวัคซีนโควิดเคียงข้างชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 ซึ่งเป็นวันแรกของการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนในเขตเมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเมืองพัทยากำหนดใช้อาคารกรีฑาในร่มเมืองพัทยา ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซอยชัยพฤกษ์ 2 เป็นสถานที่บริการวัคซีนให้ประชาชนนั้น

มีรายงานว่า สำหรับสถานที่ดังกล่าวรองรับการให้บริการฉีดวัคซีนซิโนแวค ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียงรวม 3 ตำบลของอำเภอบางละมุง ซึ่งให้บริการวัคซีนวันละประมาณ 4,000 โดส เป็นเวลา 2 วัน มีประชาชนซึ่งประกอบการอาชีพกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ทั้ง บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ครู ตำรวจ ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และหน่วยงานภาคปฏิบัติที่มีการทำงานสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ที่ลงทะเบียนในระบบสาธารณสุข เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในกลุ่มประชาชนที่มารอเข้าคิวต่อแถวตามเวลานัดหมาย ได้ทยอยเดินเท้าเข้าอาคารเพื่อเข้าระบบการรับวัคซีนกันอย่างต่อเนื่องนั้น ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นนายตำรวจนายหนึ่งยืนรอคิวร่วมกับประชาชน ที่มารับบริการวัคซีน พร้อมปฏิบัติตามระเบียบของเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน ทราบต่อมาคือ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่เดินทางมารับวัคซีนแบบประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง โดยไม่ถืออภิสิทธิ์แต่อย่างใด สร้างความประทับใจต่อผู้ทราบข่าวและเห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

สุโขทัย - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานอุปกรทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลสุโขทัย

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลสุโขทัย เพื่อเพิ่มศักยภาพ และประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

วันนี้ (21 พ.ค. 64) เวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุมศรีสุโขทัย ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ คือ เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง (Humidifier With Intgrated Flow Generator) หรือ เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด – 19 โดยมีดร.นพ.ปองพล วรปาณิ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ,นพ.มาโนช อู่วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุโขทัย ,ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย และบุคลากรทางการแพทย์ร่วมพิธี

ตามที่เกิดการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งการระบาดในครั้งนี้ส่งผลเป็นวงกว้าง ทําให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจํานวนมาก หลายโรงพยาบาลขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะ “เครื่องออกซิเจน ไฮ โฟลว์” (Oxygen High Flow) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีความจําเป็นและสําคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลว หรือมีภาวะพร่องออกซิเจน และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์ และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้พระราชทานงบประมาณจาก “กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด 19 (และโรคระบาดต่าง ๆ )” จัดซื้อ “เครื่องออกซิเจน ไฮ โฟลว์” (Oxygen High Flow) จํานวน 530 เครื่อง และมีพระราชานุมัติพระราชทานแก่โรงพยาบาลแล้ว 456 เครื่อง ในกว่า 80 โรงพยาบาล ทั่วทุกภาคของประเทศ

ปทุมธานี - รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงโครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง วัดเกาะเกรียง

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 เวลา 08.00 น. นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพื้นที่สำหรับโครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง วัดเกาะเกรียง ตำบลบางคูวัด อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายจักรกฤษณ์ ทองสิริประภา เลขานุการคณะทำงานฯ กล่าวว่า วัดเกาะเกรียง โดยมี พระมหาบัญญัติ สุจิตฺโต ดร. เจ้าอาวาสวัดเกาะเกรียง เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่จะสนองแนวพระราชดำริ และพระบรมราโชบายการสืบสาน รักษา และต่อยอดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน รวมทั้งขยายผลแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปสู่ประชาชนเพื่อจะได้น้อมนำไปปฏิบัติให้เป็นวิถีชีวิต ขับเคลื่อนกิจกรรม โคก หนอง นา โมเดล ให้เป็นจุดตัวอย่าง เป็นต้นแบบในการบริหารจัดการพื้นที่ใช้สอยที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมระบบนิเวศน์ภายในชุมชนรอบข้าง ให้มีความสมดุลอย่างยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องภัยแล้งและส่งเสริมการประกอบอาชีพ การใช้น้ำน้อย โดยกิจกรรม โคก หนอง นา โมเดล เป็นกลไกในการขับเคลื่อน ซึ่งในวันนี้มีพัฒนาการจังหวัดปทุมธานี วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ดร.จิดาภา แต่สกุล นายกสมาคมสตรีไทยสากล นายธนบดี ศรีเมือง พร้อมด้วยคณะทำงานฯ ข้าราชการ จิตอาสา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมพิธีฯ

ทั้งนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าจังหวัดปทุมธานีพร้อมสนับสนุนการดำเนินโครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง วัดเกาะเกรียง ซึ่งวัดเกาะเกรียงนั้นนับเป็นวัดแรกในจังหวัดปทุมธานีที่ดำเนินโครงการนี้ สำหรับโครงการโคก หนอง นานั้น โคก หมายถึงพื้นที่สูงสำหรับเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืช หนองสำหรับการกักเก็บน้ำ และนาสำหรับทำการปลูกข้าว จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ยังได้สักการะศาสนสถานสำคัญภายในวัดอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  วะจะนะชัย วาจาพารวย รายงาน

ตราด - ผู้นำชุมชนบ้านบางเบ้า ร่วมมือหลายภาคส่วน รื้อถอนเศษซากเสาปูนที่ตั้งโด่เด่ในทะเล

วันที่ 21 พ.ค.64 นายเติมศักดิ์ เสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนเองพร้อมด้วย ทีมงานผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน,สารวัตรกำนัน,ผู้นำชุมชน, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง,ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว,เจ้าของธุรกิจต่างๆในชุมชนบ้านบางเบ้า,เจ้าของธุรกิจเรือนำเที่ยวเพิ่มพูลทรัพย์ ได้ให้การสนับสนุนเรือจำนวน 3 ลำ พร้อมพนักงาน และชาวบ้านบางเบ้าอีกจำนวนหลายคน ได้ร่วมมือกันทำการรื้อถอนเสาคอนกรีต (เสาปูน) ที่ตั้งโด่เด่!จำนวนมากอยู่ในทะเลใกล้ๆกับสะพานชุมชนบ้านบางเบ้า พร้อมกับนำเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ดำเนินการชักลากเสาปูนและเศษซากสิ่งก่อสร้างของตัวอาคาร (อดีตโรงแรม เกาะช้างซีฮัท) โดยทางอุทยานฯเกาะช้างได้ทำการรื้อถอนตัวอาคารออกไป เมื่อช่วงปลายปี 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากคดีได้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาล จ.ตราด ให้มีการรื้อถอน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อไปยืนที่สะพานบ้านบางเบ้า จะได้เห็นมีเศษซากของเสาปูน-ส่วนประกอบฐานล่างของห้องน้ำ ตั้งเรียงรายอยู่ในทะเลจำนวนมาก  

นายเติมศักดิ์ เสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ กล่าวว่า การดำเนินการรื้อถอนเศษซากเสาปูนและส่วนประกอบฐานล่างของห้องน้ำ ที่ตั้งโด่เด่อยู่ในทะเลใกล้ ๆ สะพานบ้านบางเบ้าในครั้งนี้ เพื่อปรับทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อมโดยรอบชุมชนในทะเลบ้านบางเบ้า ให้ดูสะอาดตาและสวยงามในสายตานักท่องเที่ยวและคนทั่วไป อีกทั้งยังส่งผลดีให้เรือของชาวบ้านในชุมชน สามารถวิ่งเข้า-ออกบริเวณดังกล่าวได้อย่างสะดวกสบาย เตรียมพร้อมต้อนรับเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว หลังจากผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด-19 โดยจะมีการใช้เรือทำการลากจูงเศษซากเสาปูนที่รื้อถอนออกทั้งหมดนำไปทำเป็นแนวปะการังเทียม แหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ เกิดประโยชน์กับเรือประมงพื้นบ้านหรือเรือขนาดเล็กแนวชายฝั่ง พร้อมกับมีการทำค่าพิกัด GPS เพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับการดำเนินการรื้อถอนเศษซากเสาปูนในทะเลดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2-3 วัน  


ภาพ/ข่าว วรโชติ เกาะช้าง-วิเชียร ม่วงสี ทีมข่าวภูมิภาค /รายงาน

เชียงใหม่ - ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้แทน ตร. เดินทางมาประชุมเพื่อรับทราบสถานการณ์ และแผนการสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการบริหารจัดการวัคซีนให้แก่ข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 21 พ.ค.64  เวลา 10.30 น. ด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใยข้าราชการตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงต่อการต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ /ประธานคณะทำงานการจัดหาและฉีดวัคซีนฯ พิจารณาจัดสรรวัคซีนเป็นพิเศษ เพิ่มเติมจากที่ได้รับการจัดสรรจากสาธารณสุขจังหวัด ให้แก่ข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดนั้น

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้แทน ตร.เดินทางมาประชุมเพื่อรับทราบสถานการณ์และแผนการสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการบริหารจัดการวัคซีนให้แก่ข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่  พร้อมทั้งเป็นตัวแทน ตร. มอบวัคซีนจำนวน 3,200 โดส เพื่อฉีดให้แก่ข้าราชการตำรวจทุกหน่วยในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมอบหมายให้โรงพยาบาลดารารัศมี เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการฉีดให้ข้าราชการตำรวจในโอกาสต่อไป

โดยมี พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 รรท. ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ  จีระนันตะสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พล.ต.ต.หญิง พิมพรรณ ทรัพย์ขำ ผบก.รพ.ดร. และข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมประชุมและรับมอบวัคซีน ณ ห้องประชุม 4 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ชลบุรี - สงขลา - ด่วน เรือเฟอร์รี่ ชลบุรี-สงขลา เที่ยวแรกเทียบท่าแล้วไร้ปัญหา เตรียมเปิดให้บริการ 21 พ.ค.นี้

ทดสอบเที่ยวแรก เรือเฟอร์รี่เส้นทางชลบุรี-สงขลา ล่าสุดเข้าเทียบท่าที่ จ.สงขลา แล้ววันนี้ เผยใช้เวลาวิ่งแค่ 18-20 ชม. และไร้ปัญหา ตั้งเป้าเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเที่ยวแรก 21 พ.ค.นี้

“เรือเฟอร์รี่ ดิ บลู ดอลฟิน” ของบริษัท ซี ฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด ซึ่งเป็นเรือที่จะเปิดให้บริการขนส่งทางทะเล เส้นทาง ชลบุรี-สงขลา ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ ได้เข้าจอดเทียบท่าที่บริเวณท่าเทียบเรือประทีปซีแลนด์ คอนสตรัคชั่น ถนนแหล่งพระราม เขตเทศบาลนครสงขลาแล้ว โดยเป็นการทดลองเดินทางครั้งแรกของเรือลำนี้ เส้นทางชลบุรี-สงขลา เพื่อเช็คเส้นทางเดินเรือ ทดสอบการเดินเรือ และการเข้าจอดเทียบท่า เพื่อให้มีความพร้อมที่สุด และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยตามแผนจะเปิดให้บริการในวันที่ 21 พ.ค.นี้ จาก จ.ชลบุรี มายัง จ.สงขลา

นายพิพัฒน์ชัย จันทร์เรือง หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ซี ฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการทดสอบการเดินเรือ วิ่งจากสัตหีบมาที่ จ.สงขลา หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ก็จะเริ่มเปิดให้บริการได้ ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.นี้ เส้นทางชลบุรี-สงขลา ซึ่งจะตรวจสอบความพร้อมทุกอย่าง รวมถึงผู้ประกอบการ และจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง ทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ

โดยเรือลำนี้ สามารถบรรทุกรถ 10 ล้อได้ 60 คัน และรถเก๋งอีก 20 คัน ผู้โดยสาร 586 คน และในเรือก็จะมีทั้งห้องอาหาร และที่พัก ซึ่งเรือลำนี้จะมาช่วยทั้งด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของ จ.สงขลา และ จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่วนค่าโดยสารกำลังอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า และจะประกาศผ่านทางเว็บไซต์ให้ทราบรายละเอียดอีกครั้ง โดยเรือลำนี้สามารถโต้คลื่นได้ขนาด 5-10 เมตรได้อย่างสบาย จึงมั่นใจในความปลอดภัยในการเดินทาง

สำหรับรายละเอียดของ “เรือเฟอร์รี่ ดิ บลู ดอลฟิน” ของบริษัท ซี ฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด มีขนาด 7,003 ตันกรอส ความยาว 136.6 เมตร ความเร็ว 17 น็อต หรือ 31.48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับรถบรรทุกได้ประมาณ 60 คัน รถยนต์ส่วนตัว 20 คัน ผู้โดยสารประมาณ 586 คน จะใช้เวลาในการเดินทางจากท่าเรือจุกเสม็ด หรือท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ จ.ชลบุรี ถึง จ.สงขลา ระยะเวลาเพียง 18-20 ชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าทางรถยนต์ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 23-24 ชั่วโมง ทั้งยังรองรับการขนส่งในอนาคตด้วย

โดย “เรือเฟอร์รี่ ดิ บลู ดอลฟิน” มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้องพัก โซนอาหารและเครื่องดื่ม เหมือนเรือท่องเที่ยวกึ่งเรือสำราญ ซึ่งได้รับการตรวจรับรองความปลอดภัยจากกรมเจ้าท่าแล้ว เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา และคนประจำเรือได้รับการฝึกอบรมตามข้อกำหนด มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน การคมนาคมขนส่งทางน้ำ ในเส้นทางนี้ จะเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เข้ากับระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC ช่วยเพิ่มศักยภาพของการขนส่งทางน้ำ ลดต้นทุน และอุบัติเหตุจากการขนส่งทางบก และลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM2.5


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

สุโขทัย - ผู้ว่าฯ สุโขทัย เยี่ยม Young Smart Farmer (เกษตรกรรุ่นใหม่) ทำเกษตรในพื้นที่จำกัดมีรายได้ทั้งปี

Young Smart Farmer (YSF) อำเภอเมืองสุโขทัย นำแนวคิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างเครือข่าย YSF สุโขทัย ปรับพื้นที่ 2 ไร่ กว่าๆ ทำเกษตรแบบผสมผสาน ใช้พื้นที่น้อย มีผลผลิตทั้งปี แถมมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วย นายเนตร สมบัติ เกษตรจังหวัดสุโขทัย และคณะลงพื้นที่อำเภอเมืองสุโขทัย เยี่ยมแปลงเกษตรผสมผสานของ นางสาวชรินทร สัพลักษณ์ รองประธาน Young Smart Farmer (เกษตรกรรุ่นใหม่) ของจังหวัดสุโขทัย ณ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านหลุม อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นจุดเรียนรู้ด้านเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชหลากชนิด ทั้งพืชผัก ไม้ผล พืชหลักทีทำรายได้ คือ ผักหวานอินทรีย์ ขายทั้งยอดผักหวาน และเพาะเมล็ดขาย  แปลงผักกุ่ยช่าย ผลิตทั้งกุ่ยช่ายเขียว และกุ่ยช่ายขาว ทำแบบประณีต เพิ่มมูลค่าด้วยการบรรจุหีบห่อ เพื่อให้การขนส่งจากแหล่งผู้ผลิตไปให้ยังแหล่งผู้บริโภค หรือแหล่งที่ใช้ประโยชน์ คงสภาพตลอด ให้ปลอดภัย และรักษาคุณภาพให้ได้มากที่สุด ซึ่งกุ่ยช่ายขาว มีราคาขายที่สูงกว่า กุ่ยช่ายเขียวถึงหนึ่งเท่าตัว นอกจากนี้ยังมี ไม้ผล เช่น มะม่วง ส้มโอ มะละกอ ลิ้นจี่ เป็นต้น

นางสาวชรินทร สัพลักษณ์ เล่าว่ามีความสุขที่ได้เห็นผลผลิตในแปลงที่ตนเองได้ลงมือทำเอง  เริ่มต้นจากแนวคิดว่ามีที่ทำกินน้อยจะทำอย่างไรจึงจะพึ่งพาตนเองได้ และมีสุขภาพดี ครอบครัว มีความสุข จึงเริ่มจากปลูกในสิ่งที่ชอบ วางแผนการปลูกพืชให้มีกินตลอดทั้งปี โดยทำแบบพอเพียงก่อน ทำน้อยได้มาก ปลอดจากสารพิษ ( ไม่ใช้สารเคมี ) ปลูกพืชที่เป็นอาหารประจำวัน ถ้ามีเหลือกินจึงเอาไปขาย สิ่งสำคัญของการทำเกษตร คือ เรียนรู้จากธรรมชาติ ใช้ทรัพยากร ดิน น้ำ พืช อย่างมีคุณค่า โดยจะมีการปรับปรุง บำรุงดิน ฟื้นฟูและเสริมธาตุอาหารให้กับดิน  ใช้โซล่าเซลล์เป็นแหล่งพลังงานสะอาดในเรื่องน้ำให้พืชผัก การพักต้นพืชหลังจากให้ผลผลิตเต็มที่แล้ว คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับต้นพืช  เป็นการทำเกษตรแบบประณีต แบบพึ่งพิงธรรมชาติและคืนความสมบูรณ์กลับสู่ธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับความใส่ใจใทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก


ภาพ/ข่าว  พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย

สงขลา - แม่ทัพภาค 4 ตั้ง เกจิดังภาคใต้และพระอีก 5 รูปเป็นที่ปรึกษา ด้านศาสนา การศึกษา และวัฒนธรรม พบมีผลงานมากทั้งการพหุสังคม มอบทุนการศึกษา ทนุบำรุงศาสนาพุทธ และเปิดศูนย์เรียนรู้

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีหนังสือแต่งตั้งพระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี / รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเกจิดังภาคใต้ ให้เป็นที่ปรึกษา ด้านศาสนา ,การศึกษา และ วัฒนธรรม เนื่องจากพระครูสุวัฒนาภรณ์ มีความสามารถและได้มีผลงานปรากฏมากมาย เช่น การพหุสังคม โดยใช้หลักศาสนาในการความเชื่อที่ถูกต้องเพราะทุกศาสนามีแต่เมตตา อภัย ให้โอกาสและเน้นถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งให้ชาวไทย และชาวไทยมุสลิมทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์ร่วมกัน สร้างความรักความสามัคคีทั้งมุสลิมและไทยให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ด้านการศึกษา ก็ได้มีการมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนต่าง ๆ ภายในอำเภอนาทวี และอำเภอใกล้เคียง มีการส่งเสริมวันสำคัญ ๆ ทางพุทธศาสนา จัดให้มีการเวียนเทียน และปฏิบัติธรรม นำศีล 5 ข้อ สอนให้ประชาชนนำไปปฏิบัติ ชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญ พระครูสุวัฒนาภรณ์ ยังเป็นนักพัฒนาวัดที่สามารถพัฒนาวัดนาทวี จนทำให้ประชาชนหันหน้าเข้าวัดทำบุญ และร่วมทำโครงการต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ ที่สำคัญพระครูสุวัฒนาภรณ์ ยังเคยเกลี้ยกล่อมผู้หลงผิดให้กลับใจเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐ จนเป็นข่าวดังเมื่อลายปีก่อน และยังมีความคิดสร้างสรรค์ และมองถึงอนาคตว่าจะต้องพัฒนาอย่างไร

วันนี้ จึงทำให้พระครูสุวัฒนาภรณ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของแม่ทัพภาคที่ 4 ในครั้งนี้พร้อมกับพระภิกษุอีก 5 รูป ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ชลบุรี - วัดช่องแสมสารไม่ทอดทิ้งประชาชน ยามเดือดร้อนต้องช่วยเหลือกัน

วันนี้ 24 พ.ค.64 วัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้แจกสิ่งของช่วยเหลือประชาชนอันเนื่องมาจากโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันราชสมภพ 2 เมษายน ประจำปี 2564 โดยได้จัดกิจกรรมบรรพชาสมเณรภาคฤดูร้อน เมื่อ 6-16 เมษายน 2564 กิจกรรมช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และร่วมกับผู้นำท้องถิ่นช่วยเหลือประชาชน ณ วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

วัดช่องแสมสาร โดยพระครูวิสารทสุตากร เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวง เจ้าอาวาสวัดช่องแสมสาร เล็งเห็นความเดือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบการการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ที่ระบาดมาในระลอกที่ 3 และมีความรุนแรงกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา รวมถึงชาวบ้านที่ยากจน ยากไร้ และผู้ป่วยติดเตียงรวมถึงผู้สูงอายุ ที่ไม่มีรายได้ในตำบลแสมสาร จึงได้มอบหมายให้คณะลูกศิษย์วัดช่องแสมสาร นำสิ่งของอาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำดื่ม และเงินอีกจำนวนหนึ่ง ไปมอบให้กับผู้เดือนร้อนดังกล่าว โดยจะมี อสม. ออกสำรวจประชาชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด- และในวันนี้ได้มอบให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 จำนวน 20 คน ซึ่งรวมกับครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 ร่วมแจกไปแล้วทั้งสิ้น 80 ครอบครัว


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top