Friday, 16 May 2025
Region

กรุงเทพฯ - พลตำรวจเอก ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการของโรงพยาบาลตำรวจ ในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับข้าราชการตำรวจ ณ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่

วันนี้ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่สโมสรตำรวจ พลตำรวจเอก ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พิภพมงคล นายแพทย์(สบ ๗)โรงพยาบาลตำรวจ พลตำรวจตรี สมนึก น้อยคง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรี วิบูลย์ สีสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล พลตำรวจตรี สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผู้บังคับการกองสวัสดิการ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินการของโรงพยาบาลตำรวจ ในการจัดฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้แก่ข้าราชการตำรวจ

สืบเนื่องจาก พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ห่วงใยในสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีภารกิจและหน้าที่โดยตรงและต้องสัมผัสกับประชาชนจำนวนมาก มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรค จึงมอบหมายให้ พลตำรวจเอก ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และ พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ควบคุมกำกับดูแลเพื่อให้การดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ข้าราชการตำรวจ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ดังนั้น เพื่อเป็นการลดความแออัด ลดการรวมกลุ่ม ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการตำรวจ จึงได้กำหนดแบ่งกลุ่มเข้ารับการฉีดวัคซีนของข้าราชการตำรวจ เป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่ม 1  ข้าราชการตำรวจรับวัคซีนป้องกันโควิด เข็มแรก จะเข้ารับการฉีดวัคซีน ณ อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ

กลุ่ม 2 ข้าราชการตำรวจรับวัคซีนป้องกันโควิด เข็มที่สอง จะเข้ารับการฉีดวัคซีน ณ สโมสรตำรวจ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้สำหรับการเข้ารับวัคซีน ณ สโมสรตำรวจ สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับข้าราชการตำรวจ จำนวนวันละ 1,000 นาย โดยแบ่งกลุ่มตามสังกัด ซึ่งหน่วยต้นสังกัดจะมีการแจ้งรายชื่อให้ตำรวจทุกนายทราบและเดินทางมาเข้ารับการฉีดวัคซีนตามวันเวลาที่กำหนด โดยมีทีมบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ คอยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลพร้อมแนะนำการปฏิบัติในทุกขั้นตอน ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่กำหนด เช่น การคัดกรอง การเว้นระยะห่าง การกำหนดวงรอบการเข้ารับการวัคซีนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20 นาย นอกจากนี้ยังมีการกำหนดและแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พื้นที่พักคอย พื้นที่ให้บริการ มีวงดนตรีจากกองสวัสดิการคอยให้บริการ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนมาร่วมสนับสนุน อาหารและน้ำดื่มอีกด้วย

พลตำรวจเอก ปิยะฯ กล่าวว่า “จากการตรวจสอบการบริหารจัดการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลตำรวจ พบว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขอย่างดีเยี่ยมและครบถ้วน ขอให้ตำรวจทุกนายได้มั่นใจ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและเพื่อนข้าราชการตำรวจ เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครับ”

กาฬสินธุ์ - รณรงค์อสม.สร้างความเข้าใจชาวบ้าน เร่งฉีดวัคซีนบุคลากรด่านหน้า

“วันเพ็ญ เศรษฐรักษา” ที่ปรึกษารมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินสายนำ อสม.เคาะประตูบ้านรณรงค์ให้ความรู้และเชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอยางตลาดเร่งฉีดวัคซีนบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ที่หอประชุมเทศบาลตำบลโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์  นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประจักษ์ ภูแลขำ นายกเทศมนตรีตำบลโคกศรี นายสุวิทย์ ภูมิ่งศรี นายกเทศมนตรีตำบลอุ่มเม่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอยางตลาด ลงพื้นที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กับอสม.และร่วมกันเดินเคาะประตูบ้านประชาชนใน ต.โคกศรี ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และประชาชนทั่วไป เพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ พร้อมระดมแรงศรัทธาจากหลายภาคส่วนจัดผ้าป่ารับมอบประกันภัยโควิดให้กับอสม.ในพื้นที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน

จากนั้นนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายสันติ จัตุพันธ์ นายอำเภอยางตลาด นายประสิทธิชัย กัลยาสนธิ สาธารณสุขอำเภอยางตลาด เข้าเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ รพ.สต.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 250 คน พร้อมมอบอาหาร และน้ำดื่มให้กับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีน ที่หอประชุม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับ อสม.มาอย่างต่อเนื่องหลายตำบลใน อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย และอ.ร่องคำ พบว่า อสม.และประชาชนมีความเข้าใจในประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รับทราบถึงความปลอดภัย มีความตื่นตัวต้องการที่จะลงทะเบียนฉีดวัคซีนมากขึ้น หลายคนพร้อมที่จะฉีด เพื่อป้องกัน และสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19ให้กับตนเอง ซึ่งตนเองพร้อมคณะ รวมทั้งอสม.จะยังคงลงพื้นที่เคาะประตูบ้านรณรงค์กับประชาชนให้ครบทุกตำบลและหมู่บ้านต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ด้านนายสันติ จัตุพันธ์ นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า และมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ อ.ยางตลาด จำนวน 250 คน โดยการฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนทุกครัวเรือน ร่วมลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อตัวเรา ชุมชนของเรา และประเทศไทยให้รอดพ้นจากสถานการณ์โควิด-19ในครั้งนี้

ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ค. 64) ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์พบผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย  รวมมีผู้ป่วยสะสม 102 ราย หายป่วยสะสม 68 ราย ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 33 ราย และเสียชีวิต 1 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

นนทบุรี - นิพนธ์ มอบน้ำดื่ม ”ปาป้า-กปน.” ให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19

ที่รพ.ศรีธัญญา และ รพ.จุดฉีดวัคซีน ในเขต กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ตามโครงการ “กปน. มอบน้ำดื่มแทนน้ำใจร่วมต้านภัย Covid-19”
วันที่ 20 พฤษภาคม 2564  ที่อาคารผู้ป่วยจิตเวชชาย (อาคาร 9 ชั้น) ชั้น 1 โรงพยาบาลศรีธัญญา จังหวัดนนทบุรี  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มท.)พร้อมด้วย นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ นายวีรวัฒน์ ยมจินดา กรรมการ กปน. นายกวี อารีกุล ผู้ว่าการ กปน. และผู้บริหาร กปน. ร่วมมอบน้ำดื่มบรรจุขวดพร้อมดื่มให้ บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19  โดยมี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นผู้รับมอบ 


นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การประปานครหลวง ได้ส่งมอบน้ำดื่มปาป้าให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานสนับสนุนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ตามโครงการ กปน. มอบน้ำดื่มแทนน้ำใจร่วมต้านภัย Covid-19 มาอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วกว่า 40,000 ขวด เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงมอบให้พี่น้องประชาชนผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะการดื่มน้ำสะอาดช่วยลดความเสี่ยงจากอาการไม่พึงประสงค์ หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโคสิด-19 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงมหาดไทย ในการร่วมบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน พร้อมกันนี้นายนิพนธ์ยังได้เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่ามาร่วมลงทะเบียนฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่และกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็วที่สุด"

ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา กล่าวว่า การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ นอกจากจะช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย และขับของเสียออกจากร่างกายแล้ว การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอก่อนและหลังฉีดวัคซีน จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาการไม่พึงประสงค์และควรเตรียมความพร้อมก่อนฉีดวัคซีน  ด้วยการทำความเข้าใจข้อมูลของวัคซีน  พักผ่อนให้เพียงพอ  ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามบุคลากรก่อนรับการฉีด


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
 

เชียงใหม่ - มทบ.33 จัดทำโครงการปันน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน จัดรถครัวสนามทำอาหารปรุงสดให้แก่ประชาชน สู้โควิด-19

มทบ.33 จัดทำโครงการปันน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน จัดรถครัวสนามทำอาหารปรุงสด , แจกจ่ายหน้ากากอนามัย และพืชผลทางการเกษตร ให้แก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19

เมื่อ 20 พ.ค. 64 เวลา 10.00-12.00 มทบ.33  จัดรถครัวสนามทำอาหารปรุงสดใหม่  จำนวน 400 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย บรรทุกหลังรถจักรยานยนต์(เดลิเวอรี่) จำนวน  10 คัน บริการส่งอาหารกล่อง ปรุงสดใหม่ ถึงบ้าน ประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง และจัดรถพุ่มพวง แจกจ่ายผลผลิตทางการเกษตร (ผักกาด ,ผักบุ้ง, แตงกวาญี่ปุ่น, มะนาว ,พริก ,ไข่ไก่  และมะม่วง ) แจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนชุมชนรอบค่ายที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิค - 19 ณ ชุมชนต้นขาม ต.ท่าศาลา อ.เมือง จว.ช.ม. โดยได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19  อย่างเคร่งครัด ซึ่งได้สร้างความประทับใจและความพึงพอใจต่อประชาชนในพื้นที่ เป็นอย่างดี


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

เชียงใหม่ – จัดกิจกรรมคลายร้อน เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยว รับชมกิจกรรมผ่านช่องทาง Live ในช่วงการปิดให้บริการชั่วคราว

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน ) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมคลายร้อน และทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจให้กับสมาชิกสัตว์ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมรับชมการดูแลสมาชิกสัตว์อย่างใกล้ชิดผ่านกิจกรรม Live ในช่องทาง Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari ลุ้นรับรางวัลสุด Exclusive เป็นประจำทุกสัปดาห์

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า ในช่วงการปิดให้บริการชั่วคราวนี้ นอกจากการดำเนินการด้านมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 แล้ว ยังมีการดูแลสวัสดิภาพสัตว์เป็นอย่างดี  ทั้งด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ มีการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค การเสริมวิตามิน การดูแลด้านโภชนาการ รวมทั้งการจัดกิจกรรมผ่อนคลายให้กับสัตว์  โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น และการไม่ได้ทำกิจกรรมเหมือนในช่วงการเปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้สัตว์เกิดความเครียดได้ ดังนั้นจึงได้จัดกิจกรรมคลายร้อนให้กับสัตว์ชนิดต่าง ๆ และจัดกิจกรรมเพื่อให้สัตว์ได้ออกกำลังกาย เช่น การฉีดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเสือโคร่ง

การจัดกิจกรรมผ่อนคลายและส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้กับสัตว์ที่อยู่ในส่วนแสดง Night Predator โดยทำกิจกรรมออกกำลังตามพฤติกรรมธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด เช่น การว่ายน้ำจับปลาเป็นอาหารของนาคเล็กเล็บสั้น การล่าเหยื่อของสิงโต การปีนป่ายไต่เชือกกินอาหารของหมีขอ การกระโดดปีนต้นไม้ล่าเหยื่อของเสือโคร่งขาว และการว่ายน้ำของเสือโคร่ง เป็นต้น  นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 อย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งดำเนินการให้บุคคลากรผู้ปฏิบัติงานทุกคนฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ครบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง 

ทั้งนี้ ในช่วงการปิดให้บริการชั่วคราว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้จัดกิจกรรมให้บริการนักท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และการจัดกิจกรรม Live ใน Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับชมกิจกรรมการดูแลสัตว์อย่างใกล้ชิด พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกพิเศษ เป็นประจำทุกสัปดาห์

และในวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม นี้ เวลา 15.30 น. จะพานักท่องเที่ยวชมกิจกรรมการดูแลสัตว์ในส่วนแสดง Night Predator กับกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพตามพฤติกรรมธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด ซึ่งนักท่องเที่ยว


ภาพ/ข่าว  นภาพร เชียงใหม่

กาฬสินธุ์ – เยียวยาชาวบ้านประสบภัยพายุหัวเดียว ถล่มบ้านพังเสียหาย

ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ในเขตตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังได้รับความเสียหายถูกพายุพัดบ้านเรือนเสียหาย 60 หลังคาเรือน พร้อมนำถุงยังชีพ ไข่ไก่ ช่วยเหลือเบื้องต้น และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยและลดภาระค่าครองชีพช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่บ้านเว่อ หมู่ 2 และบ้านร่มเย็น หมู่ 15 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหายบ้านเรือนชาวบ้าน หลังจากถูกพายุ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าพายุหัวเดียวพัดพังเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายทรงวุฒิ ภูฉายา ผู้ใหญ่บ้านเว่อ หมู่ 2 นางพชรพรรณ วังกะฮาต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มเย็น หมู่ 15 นำสำรวจและให้ข้อมูล จากนั้นได้นำถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค ไข่ไก่ไปมอบให้กับครัวเรือนที่ประสบวาตภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยและลดภาระค่าครองชีพช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19 ที่วัดโพธิ์ชัยบ้านเว่อ-บ้านร่มเย็น

นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนบ้านเว่อและบ้านร่มเย็นว่าเกิดเหตุวาตภัย พัดบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตนในฐานะที่ปรึกษารมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงในสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้อง ซึ่งส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงได้มาให้กำลังใจ พร้อมจัดหาถุงยังชีพ ประกอบด้วยเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และไข่ไก่ นำมามอบให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ลดภาระด้านค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะลดรายจ่ายด้านค่าครองชีพ ในช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19  ในส่วนการช่วยเหลือเยียวยาด้านอื่นๆ ก็จะได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ท้องที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าให้ความช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

ด้านนางพชรพรรณ วังกะฮาต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มเย็น หมู่ 15 กล่าวว่า เหตุวาตภัยพัดบ้านเรือนดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งพายุที่เกิดขึ้นนั้นมาในลักษณะของลมพายุหมุน ชาวบ้านเรียกว่าพายุหัวเดียว พัดพุ่งมาในแนวตรง ประมาณ 20 นาที มีฝนและลูกเห็บตกมาด้วย นับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงที่สุดในชีวิตที่ประสบมา ซึ่งบ้านเรือนของตนที่เพิ่งสร้างเสร็จ ก็ได้รับความเสียหายด้วย โดยความรุนแรงของลมได้พัดเอาตัวบ้านจนสั่นสะเทือน หลังคาเปิด เสาบ้านหัก สังกะสีปลิวว่อนไปกลางกลางทุ่งนา ประเมินความเสียหายเบื้องต้น 1 แสนบาททีเดียว

ขณะที่นายทรงวุฒิ ภูฉายา ผู้ใหญ่บ้านเว่อ หมู่ 2 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ร่วมกับผู้นำชุมชน สำรวจความเสียหาย และขอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการสำรวจนอกจากบ้านเรือนชาวบ้านจะได้รับความเสียหายจำนวน 60 หลังคาเรือนแล้ว ยังพบว่าหลังคาศาลาวัด หลังคาอาคารเรียน ยังได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทั้งนี้ ได้รายงานความเสียหายไปยังเทศบาลตำบลบัวบาน และนายอำเภอยางตลาด เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาในลำดับต่อไป ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือในการมอบถุงยังชีพ ไข่ไก่ และให้กำลังใจชาวบ้านในครั้งนี้

ประจวบคีรีขันธ์ - แม่ทัพภาค 1 กำชับทุกหน่วยที่ประจวบฯ คุมเข้มแรงงานต่างด้าวเถื่อน

วันที่ 21 พฤษภาคม พลโทเจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 1 พร้อมด้วยพลโทสุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพน้อยที่ 1 และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปติดตามแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯพลตรีประยุกต์ อุ่นอบ ผบ.มทบ.15 พลตรี บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ผบ.กองกำลังสุรสีห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสิงขรที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นมีการรายงานแผนงานการปฏิบัติร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ประจวบฯ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมาตรการป้องกันโควิด 19 จากฝ่ายปกครองจังหวัด ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 กองร้อย ตชด.ที่ 146 กอ.รมน.จังหวัด ศรชล.จังหวัด แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ

พลโทเจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้กำลังใจทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และประเทศชาติ พร้อมกับกำชับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ สถานประกอบการห้ามรับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าทำงาน พร้อมทั้งร่วมกันตรวจโรงงาน สถานประกอบการและ หอพัก อย่างเข้มงวด รวมถึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยสำรวจตรวจสอบ หรือให้ข้อมูลเบาะแสขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ - ปศุสัตว์ประจวบฯ เตือนเกษตรกรเลี้ยงโคกระบืออย่าซื้อวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย

วันที่ 21 พฤษภาคม นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้เกษตรอำเภอทุกอำเภอ ออกให้คำแนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโคและกระบือ หลังพบการระบาดในพื้นที่ ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี และ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน โดยมีรายงานโคนม โคเนื้อป่วยติดเชื้อรวมกว่า 200 ตัว ขณะนี้ได้ประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราวในพื้นที่ที่เกิดโรคแล้ว ห้ามการเคลื่อนย้ายโคกระบือเข้า-ออกพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ออกทำการสอบสวนควบคุมโรคด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงชนิดพ่นบนตัวสัตว์และบริเวณคอกโรงเรือนในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค

“โรคลัมปี สกิน ไม่ติดจากสัตว์สู่คน สัตว์ที่ติดเชื้อมีอัตราการป่วยน้อยเพียงร้อยละ 10-50 อัตราการตายไม่ถึงร้อยละ 10 แต่ส่งผลเสียต่อผลผลิต เช่น โคนมอาจจะให้น้ำนมลดลง หรือโคเนื้อเมื่อป่วยก็จะกินอาหารได้น้อย ความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายก็น้อยตามไปด้วย ส่วนโคกระบือที่ตั้งท้องอยู่อาจจะแท้งได้ สำหรับแนวทางรักษาขณะนี้รักษาตามอาการ และกำลังจะมีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคเข้ามาในเดือนพฤษภาคมนี้ นี้ เพื่อฉีดให้กับสัตว์ของเกษตรกรฟรี ดังนั้นในช่วงนี้จึงขอให้เกษตรกรระมัดระวังอย่าซื้อวัคซีนลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพราะยังไม่ผ่านการทดสอบและรับรองจากภาครัฐ อาจจะส่งผลเสียต่อสัตว์ได้ “นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ กล่าวว่า

สำหรับอาการของโรคลัมปี สกิน ในโคและกระบือ จะพบตุ่มขึ้นตามตัวสัตว์ ลักษณะคล้ายอีสุกอีใส เนื้อสัตว์ที่พบการติดเชื้อสามารถบริโภคได้แต่ไม่แนะนำให้บริโภค โรคนี้ติดต่อทางแมลงดูดเลือดทุกชนิด เช่น เห็บ ยุง เหลือบ จึงแนะนำให้เกษตรกรดูแลรักษาความสะอาดคอกโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ กางมุ้ง หรือฉีดพ่นยาฆ่าแมลงบริเวณพื้นคอกโรงเรือน หรือใช้ยาฆ่าแมลงชนิดพ่นบนตัวสัตว์จะช่วยป้องกันสัตว์ป่วยติดเชื้อได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “วันนิกา สร้อย เสรีรัตนเกียรติ” โพสต์ข้อความ โดยมีการแชร์ข้อความจำนวนมาก หลังจากระบุว่า “ ไม่ได้อวดรู้ดีกว่าหมอปศุสัตว์นะค่ะ แต่มาเสนอเพราะมีประสบการณ์โรคลัมปีสกรินและรักษาหาย วัวที่เลี้ยงจาก 3000 ตัว มีแยกเป็นวัวแดง 80 ตัว มีตัวเป็นโรค 30 ตัว รักษาโดยฉีดยาแก้ไข้ ยาพยาธิธรรมดา ไข้หายตุ่มไม่หาย แต่พอฉีดยาพยาธิ Fนอก เริ่มเห็นตุ่มหัวดำ หัวแตก อีก 5 วัน ฉีดพยาธิซ้ำอีก อีก 7-8 วันซ้ำอีก ตัวที่เป็นหนักเป็นก้อนเท่าลูกมะนาว เวลาหลุดจะเป็นหลุมเนื้อหลุดออกมา ฉีดยาแก้อักเสบ พ่นยาไม่ให้แมลงวันเพาะหนอน แล้วมันก็แห้งเป็นปกติ จากวัว80 ตัว เป็น30ตัว รักษาแบบนี้หายทุกตัว และตอนนี้ก็ฉีดยาพยาธิFนอกกันไว้ทุกตัว ก็ยังไม่มีเป็น 95% คลุมอยู่ ถ้าใครพอจะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อใครได้บ้างโทรมาคุย ได้นะคะ จากผู้มีประสบการณ์จริง หายจริง ผ่านมาจะ2เดือนแล้ว ถ้าไม่มีประโยชน์ต่อใครก็ผ่านเลยข้อความนี้ไปนะคะ”


ภาพ/ข่าว นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ปทุมธานี - พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีตรวจเยี่ยม " โครงการประรัฐร่วมใจต้านภัยยาเสพติด" (ปักกลด)

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.30 น. ณ บริเวณชุมชนวังทองธานี ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ รอง ผบก.ฯ  เดินทางมาตรวจเยี่ยม “โครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยยาเสพติด”(ปักกลด) พบ พ.ต.อ.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.ธีรภาพ เครือละไม้ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.กชกร ไทรศาศวัต สวปฯ นายจักรพงษ์ ชุนเกษา ผู้นำชุมชน จนท.ตร.ชุด ปักกลด รอรับการตรวจเยี่ยมดังกล่าว พล.ต.ต.ชยุตฯ ได้แนะนำตัวและกล่าวขอบคุณผู้นำชุมชนที่เป็นตัวแทนมาร่วมกิจกรรม พร้อมกับ

    1.สอบถามปัญหาและความต้องการของประชาชนในชุมชน

    2.มอบเงินให้ จนท. ตร.ชุดปักกลด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

    3.ร่วมดำเนินกิจกรรม ตามโครงการจิตอาสา มอบหน้ากากอนามัยและสเปรย์แอลกอฮอล์ให้แก่ประชาชน บริเวณชุมชนวังทองธานี  

   4.เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ถุงมือยาง ทิชชู่เปียก เงินสด และสิ่งของที่จำเป็นให้กับผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ จำนวน 2 ราย

เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และให้กำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ชยุตฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ทิชชู่เปียก สิ่งของที่จำเป็นและเงินสด ให้กับ ด.ต.ภนวัต พุทธศรี ผบ.หมู่ ป.สภ.คูคต ซึ่ง ป่วยติดเตียง และมอบเงินสดให้กับ พ.ต.ท. เฉลียว บุญฤทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.คูคต ซึ่งกักตัว 14 วัน หลังจากหายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป ณ แฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.คูคต 


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน

ตาก – ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 2 หอการค้าจังหวัดตาก สำนักงานอำเภอแม่สอด  ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ อดีตประธานหอการค้าจังตากตาก 2 สมัย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก นายจริยาทร สูหู่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก นายแพทย์ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด และนายอารีย์ เดวี พาณิชย์จังหวัดตาก ร่วมกันแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และเชิญชวนร้านค้าต่าง ๆ มอบส่วนลดพิเศษให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ด้วย

สำหรับ โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" ปัจจุบันมีหน่วยงาน หรือร้านค้า สถานประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม "มีภูมิรับสิทธิ์" แล้วกว่า 100 ร้านค้า และมีประชาชนเข้าร่วมรับสิทธิ์ฯ แล้วเกือบ 20,000 คน ซึ่งโครงการดังกล่าว มุ่งหวังให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายในพื้นที่ มากกว่า 20% จากก่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์เข้าไปซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยจากโควิด-19 ในร้านค้าของอำเภอแม่สอด และอำเภอใกล้เคียง รวมทั้งจะมีการเชื่อมโยงไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และอุตรดิตถ์ ด้วย 

นอกจากนี้ หากพนักงานในร้านใดได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ทางโรงพยาบาลแม่สอดจะออกป้ายให้ไปติดที่ร้าน เพื่อยืนยันว่า ผู้ให้บริการได้ผ่านการฉีดวัคซีนครบแล้ว จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการได้อีกทางหนึ่ง  โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบป้ายผู้ให้บริการที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว ให้แก่ โรงแรมเดอะ ทีค , ร้านอาหารข้าวเม่าข้าวฟาง , ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สอด , สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดตาก และแม่สอดคลีนิคกายภาพบำบัด  พร้อมทั้ง  ได้เชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ด้วยการใช้แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ โรงพยาบาล , รพ.สต. หรือแจ้งที่ เจ้าหน้าที่ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ของตนเองก็ได้ เช่นกัน


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน จ.ตาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top