Friday, 16 May 2025
Region

เชียงใหม่ - รอง ผบช.ภ.5 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจ จุดตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน

รอง ผบช.ภ.5 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจ จุดตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน พร้อมกำชับและมอบนโยบายด้านการสกัดกั้น เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19

วันที่ 13 พ.ค.2564  พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ด่านตรวจแก่งปันเต๊า สภ.เชียงดาว, ด่านตรวจผาหงษ์ สภ.ไชยปราการ, จุดตรวจแม่สาว สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ , ด่านตรวจกิ่วสะไต , ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง สภ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมมอบนโยบาย และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการดังต่อไปนี้

 1. ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจพื้นที่ชายแดนและจุดตรวจสกัดกั้นพื้นที่ตอนใน เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางเท้า ทางรถ และทางน้ำ จัดให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นยานพาหนะ ให้เพียงพอตลอด 24 ชม. ขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องจัดให้มีการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ชนิดที่สามารถ ดูภาพได้แบบปัจจุบัน Real time เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา

     2. ดำเนินการพิจารณาปรับแผนหรือลดจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน และให้เป็นไปตามมาตรฐานตาม ตร. กำหนด โดยเน้นย้ำให้ลงข้อมูลในระบบ TPCC โดยเคร่งครัดให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการตรวจสอบ กำกับ ดูแลการปฏิบัติและรายงานผล

     3. กำชับการออกตรวจชุดสายตรวจร่วมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจพื้นที่ สถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมใดๆที่อาจเสี่ยงต่อการแพทย์ระบาดของโรคอย่างสม่ำเสมอ และให้คำแนะนำตักเตือนแก่ผู้ประกอบการให้ปรับปรุงแก้ไขสถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยง หากยังไม่ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาปิดสถานที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว

      4. ปรับแผนการทำงาน โดยประชาสัมพันธ์การรวมกลุ่มดื่มสุราที่บ้านหรือในชุมชน เป็นความผิดตามกฎหมาย เรื่องการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค

      5. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรค (D-M-H-T-T) อย่างเคร่งครัดโดยสวม Face shield หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาปฏิบัติหน้าที่ มีเจลแอลกอฮอล์ติดตัวทุกนาย มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติหน้าที่ หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ เจลล้างมือ หรือน้ำยาแอลกอฮอล์ล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างผู้ปฏิบัติงานกับประชาชน ทั้งนี้ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

ร้อยเอ็ด - ชป.6 ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์เป็นวัลนะ 3 ล้าน ลบ.ม. และอีกใน 5 เขื่อนหลักภาคอีสานเติมน้ำลงแม่น้ำชี ช่วยเจือจางความเค็มการประปาเมืองร้อยเอ็ด คาด 2 วันเอาอยู่

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 16 พ.ค.2564 นายศักดิ์ศิริ  อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 หรือ ชป.6 เปิดเผยว่า สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้รับรายงานว่าประชาชนเมืองร้อยเอ็ดได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำประปามีรสเค็มเป็นผลมาจากคลอไรด์ในน้ำสูง   ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ดได้ประสานขอให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงแม่น้ำชีเพื่อเจือจางค่าคอลไรด์ในแม่น้ำชีบริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด ชป.6  จึงได้ประสานเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อปรับเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 1.1 ล้าน ลบ.ม.เป็นวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. เพื่อช่วยเติมน้ำลงลำน้ำพองและไหลไปลงแม่น้ำชีที่หน้าเขื่อนมหาสารคาม

" ขณะเดียวกันยังคงมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนลำปาวจังหวัด จ.กาฬสินธุ์ เป็นวันละ 0.10 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนในแม่น้ำชีตั้งแต่เขื่อนชนบท จ.ขอนแก่น เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 0.24 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนมหาสารคาม เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 3.10 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวังยาง จ.กาฬสินธุ์ เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 3.86 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนร้อยเอ็ดระบายน้ำวันละ 4.21 ล้าน ลบ.ม. และรักษาระดับน้ำเก็บกักของเขื่อนร้อยเอ็ด  เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับระบบสูบจ่ายน้ำดิบ"

นายศักดิ์ศิริ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจวัดค่าความเค็มบริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด จุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคาขาร้อยเอ็ด เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.   ) พบค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว แต่น้ำประปาในส่วนบ้านเรือนของประชาชนจะยังมีรสกร่อยเนื่องจากยังมีน้ำที่มีค่าความเค็มค้างในระบบเส้นท่อของการประปาต้องใช้เวลาในการผันน้ำออกจากเส้นท่อคาดว่าน้ำประปาจะกลับเข้าสู่สถานปกติภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ดได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภคได้โดยไม่เกิดอันตรายใดๆ อย่างไรก็ตาม ชป.6 ได้ประสานงานร่วมกับการประปาส่วนภูมิสาขาร้อยเอ็ด เพื่อให้การควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำชีบริเวณจุดสูบน้ำดิบของการประปาฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมสั่งการให้โครงการชลประทานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ค่าความเค็มในแม่น้ำชีอย่างใกล้ชิด อีกด้วย

กระบี่ - ว้าว ..อยากกิน "ยุ้ย ชิมก่อนจ่าย" ร้านทุเรียนดังกระบี่ คนต่อแถวยาวเยียด กว่า 8 ปี มาถึงวันนี้เคยล้มลุกคลุกคลาน แต่ใจรัก...ต้นทุนเป็นคนชอบกินทุเรียน เผยเคล็ดลับจนมีลูกค้าแน่นร้าน

วันที่ 16 พค 2564 ร้านทุเรียน "ยุ้ย ชิมก่อนจ่าย" ซึ้งเป็นร้านทุเรียนชื่อดังกระบี่ ตั้งอยู่ที่ ม.4 ทางไปสระมรกต ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ้งมีลูกค้ายืนเข้าแถวซื้อทุเรียนในแต่ละวัน ผู้สื่อข่าวได้ลงไปสอบถามเจ้าของร้านดังกล่าว ชื่อ นส เพ็ญนภา ท้าวคำมา ชื่อเล่น 146 /3ม.4ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อมจ.กระบี่ ชื่อพี่ยุ้ยจ่ะ อายุ36 ปี เป็นแม่ค้าขายทุเรียนมากว่า 8 ปี ปัจจุบันมีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อในแต่ละวันไม่ขาดสาย ทั้งลูกค้าประจำในพื้นที่ และต่างจังหวัด ยอดขายในวันละวันทะลุเฉียดแสนบาท เผยเคล็ดลับว่าทำไมมีลูกค้ามาที่ร้านแน่นขนัดทุกวัน และยอดสั่งซื้อทางออนไลน์ เพราะเป็นคนชอบกินทุเรียนอยู่แล้ว จึงเข้าใจความรู้สึกลูกค้า ว่าต้องการทุเรียนอร่อย คุ้มราคาที่ต้องจ่าย ทุเรียนทุกลูกที่ขาย ต้องคัดสรรค์ลูกทุเรียนที่ตรงใจและอย่างดีให้กับลูกค้า ชิมก่อนจ่าย ถ้าไม่ถูกใจ สามารถเปลี่ยนลูกใหม่ได้ โดยไม่คิดหักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และด้วยประสบการณ์สั่งสมมากว่า 8 ปี ไม่ว่าเป็นการไปรับที่สวนทุเรียนเอง และการเเลือกทุเรียนที่มีความสุกงอม กรอบนอกนุ่มใน ให้กับลูกค้าจนเป็นที่ถูกอกถูกใจ จนเป็นที่ยอมรับและเป็นร้านทุเรียนชื่อดังในพื้นที่

นส.เพ็ญนภา ท้าวคำมา หรือน้องยุ้ย เปิดเผยว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ จนทำให้ร้านตนมีชื่อเสียงดังขนาดนี้ เคยล้มลุกคลากคลาน เริ่มแรกเดิมทีเป็นคนชอบกินทุเรียนจึงตัดสินใจมาขาย ใหม่ ๆ ลองผิดลองถูก ได้ทุเรียนดิบมาบ้าง น้ำหนักขาดบ้าง ปีสองปีแรกขาดทุน หมดเงินไปกว่า 2-3 แสนบาท เพราะยังไม่ชำนาญในการเลือกทุเรียน แต่ด้วยใจรัก จึงพยายามเรียนรู้เทคนิคต่างๆ ไม่ว่าเป็นคัดเลือกทุเรียนเอง เทคนิคการเปาะทุเรียน ลูกไหนสุกลูกไหนอ่อน  และใช้ประสบการณ์มากว่า 8 ปี สั่งสมประสบการณ์ จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นร้านทุเรียนชื่อดัง ซื้อมาแล้วไม่เคยทำให้ผิดหวัง และเทคนิคต่าง ๆ ในการคัดสรรค์ทุเรียนให้กับลูกค้าตรงใจลูกค้าที่ต้องการ และในราคาที่ไม่แพง ปัจจุบันราคาทุเรียน อยู่ที่ 140-160 บาทต่อหนึ่งกิโลถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงกว่าท้องตลาด ในแต่ละวันมียอดสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก เผย 2 วันขายทะลุหลักแสนกว่าบาท ถือว่าเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดีในช่วงหน้าฤดูกาลทุเรียน และภาวะช่วงโควิด-19 ที่หลาย ๆ อาชีพได้รับผลกระทบ และยังเป็นงานที่ตนรัก และเป็นคนชอบกินทุเรียนเป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเข้าใจความรู้สึกค้าเป็นอย่างดี น้องยุ้ยกล่าว

 


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

สุโขทัย - สส.สุโขทัย ควักกระเป๋าทำประกันโควิด ให้ อสม.ทั้ง 3 อำเภอ

วันที่17พ.ค. เมื่อเวลา09.00น. ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ส.ส.สุโขทัย เขต3 พรรคภูมิใจไทย พบปะกล่าวกับ ตัวแทนอสม.ในเขตอ.สวรรคโลก จำนวน 40 คน ที่เข้าร่วมประชุมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ได้มีการแพร่ระบาดและพบผู้ติดเชื้อรวมทั้งผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องและสูงขึ้น เป็นที่น่าห่วง

ล่าสุดทางรัฐบาลได้มีการรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีค ให้กับประชาชนแต่ก็มีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ทราบข้อมูลหรือทราบข้อมูลแล้วแต่ยังไม่กล้าลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีน จึงได้ให้จนท.อสม.ออกเชิญชวนและให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งตนเองเห็นว่าจนท.อสม.เล่านี้เมื่ออกรณรงค์และให้ความรู้แก่ประชาชนแล้ว ซึ่งก็จะเกิดความเสี่ยงอาจติดไวรัสโควิด-19 ได้ เนื่องจากต้องพบประชาชนประชาชนจำนวนมากแต่ละวัน

ตนเองจึงได้เร่งเห็นความปลอดภัยและด้วยความห่วงใยจึงได้ควักทุนส่วนตัวจัดทำประกันโควิด-19 ให้กับพี่น้องอสม.ในเขตพื้นที่อ.สวรรคโลก อ.ศรีนคร และอ.ศรีสัชนาลัย ฟรีทุกคนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับจนท.อสม.ที่ออกปฎิบัติงาน และเป็นการให้กำลังใจในเบื้องต้นแก่ผู้ทำงานด่านหน้าด้วย แต่ก็ขอให้ เจ้าหน้าที่ อสม.และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 นี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย

กรุงเทพฯ - “ผบ.นทพ. สนับสนุนภารกิจสาธารณสุข จัดกำลังพลร่วมบริการประชาชน “คลองเตย” เข้าฉีดวัคซีนโควิด”

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 พล.อ. นเรนทร์  สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) สั่งการให้ สำนักงานสนับสนุน (สสน.นทพ.)  จัดกำลังพลปฏิบัติภารกิจร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 41 คลองเตย สำนักอนามัย กรุงเทพฯ ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ให้กับประชาชนผู้พักอาศัยอยู่ในชุมชนเขตคลองเตย โดยมีเจ้าหน้าที่แจกบัตรคิว, กรอกข้อมูล ช่วยเหลือผู้รับบริการผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้มารับบริการ และให้ปฏิบัติงานทุกวันจนกว่าจะจบภารกิจ ณ บริเวณอาคารโกดัง สเตเดียม การท่าเรือแห่งประเทศไทย

พล.อ. นเรนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกำลังไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม, พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (บก.ทท.) ที่สั่งการให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพลที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ให้ดำเนินการเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19  มีการจัดระเบียบ ประชาสัมพันธ์ขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อลดความแออัดของประชาชนที่มารับบริการ  

โดยให้ปฏิบัติงานทุกวันจนกว่าจะจบภารกิจ ซึ่งทางด้านหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ได้สั่งการให้ พลตรี ธนินทร์ พู่ทองคำ ผอ.สสน.นทพ.จัดกำลังพลปฎิบัติงานและควบคุมผลการปฎิบัติให้ได้มีความพร้อมตลอดเวลาที่จะสนับสนุนกำลังพลออกปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที เพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดูแลด้านความปลอดภัย และช่วยควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้คลี่คลายลง ทั้งนี้ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

สมุทรปราการ - ดับอีก 1เหยื่อโควิด-19 ชื่นชมเจ้าอาวาสวัดดัง ฌปณกิจศพฟรี !! เผยมั่นใจระบบความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวติดโรค

พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ(พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เมตตาเป็นเจ้าภาพฌปณกิจศพ ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้เมตตาฌปณกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19  ฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งวัดบางพลีใหญ่กลาง มีความมั่นใจในระบบการป้องกันดูแล และมาตรการคุมเข้มเชื้อไม่สามารถแพร่กระจายได้ ไม่ต้องกลัวติดโรค

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายสมศักดิ์ แก้วเสนา  นายอำเภอบางพลี เป็นประธานกดปุ่มสวิตช์ไฟฟ้าเผาศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 พร้อมด้วย พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ร่วมกดปุ่มสวิตช์ไฟฟ้าเผาศพผู้เสียชีวิต โดยมีทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นผู้รับศพผู้เสียชีวิตมาส่งยังวัดบางพลีใหญ่กลาง เพื่อให้ทางวัดช่วยเผาร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า โดยมีบุคคลในครอบครัวของผู้เสียชีวิตและญาติสนิทร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

ด้านนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี  กล่าวว่า ทางอำเภอบางพลี ร่วมกับทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ดำเนินการป้องกันตามมาตรการ การป้องกันของทางกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่บางพลี ไม่ต้องกังวนในเรื่องความปลอดภัยว่าเชื้อจะแพร่กระจาย  โดยทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังมีความมั่นใจเนื่องจากว่า ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้ใช้ระบบไฟฟ้าในการเผาศพผู้เสียชีวิต และมีอุณภูมิความร้อนที่สูงมาก จึงมีความมั่นใจว่าเชื้อไม่มีทางแพร่กระจายได้อย่างแน่นอน

ด้านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ(พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า วันนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้มีความเมตตาเผาศพร่างผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 อีก 1 ราย และในการเผาศพผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ที่ผ่านมานั้น  ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้เมตตาเผาให้ฟรีมาโดยตลอดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทุกอย่างทางวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นผู้ที่ดูแลรับผิดชอบให้ทั้งหมด แต่หากทางฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตมีความประสงค์จะร่วมทำบุญ ก็สุดแล้วแต่ตามกำลังศรัทธา เพราะทางวัดบางพลีใหญ่กลางคิดเสมอว่าอะไรที่วัดพอช่วยได้ ทางวัดก็มีความยินดีที่จะให้การช่วยเหลือ  อีกทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ประชาชนขาดรายได้เกิดความลำบาก ทางวัดจึงมีความเมตตาและสงสารประชาชนกับปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามประชาชน หรือครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 จะให้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง เมตตาช่วยเหลือทางวัดก็ยินดี โดยจะติดต่อผ่านทางท่านนายอำเภอบางพลี  หรือจะเป็นผู้กำกับ สภ.บางพลี  โรงบาลบางพลี ก็สุดแล้วแต่จะสะดวก แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง ไม่รับฌปณกิจศพในทุก ๆ วันศุกร์เท่านั้น


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สงขลา - สงขลานครินทร์ ส่งมอบ “นวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19” แก่ รพ. กว่า 200 แห่ง ทั่วประเทศ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยคณะวิทยาศาสตร์ ส่งมอบ 4 นวัตกรรม ในโครงการ SciJai แก่โรงพยาบาลกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับ COVID-19 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้คลี่คลายลง

รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชนา ประเทพ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกท่านมีส่วนร่วมในการสนับสนุนนวัตกรรม โดยนักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้กับ COVID-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบไปยังโรงพยาบาลในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดย 4 นวัตกรรมที่ได้ส่งมอบไปแล้ว ได้แก่ แผ่นกรองเพิ่มประสิทธิภาพหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95, เครื่องจ่ายเจลล้างมืออัตโนมัติ, ระบบตรวจจับอุณภูมิร่างกายและคัดกรองอาการไข้ด้วยภาพถ่ายความร้อน และเครื่องวัดอุณหภูมิระยะไกล ซึ่งได้ส่งมอบนวัตกรรมให้กับโรงพยาบาลและโรงเรียนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล และเพจดัง “Drama Addict” เพื่อส่งต่อไปยังทีมแพทย์ คือ แผ่นกรองเพิ่มประสิทธิภาพหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95 ซึ่งแผ่นกรองดังกล่าว เป็นการผลิตเส้นใยนาโนอิเล็กเทรทพอลิเมอร์ด้วยเทคนิคอิเล็กโตรสปินนิงมาใช้เป็นตัวกรองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95 คุณลักษณะเด่น คือ มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับหน้ากากทางการแพทย์ โดยการผลิตเส้นใยนาโน ด้วยเทคนิคอิเล็กโทรสปินนิง ทำเป็นแผ่นกรอง "Sci-Mask Filter" จึงมีคุณสมบัติเป็น Biocompatible มีความปลอดภัยในการใช้งาน มีประสิทธิภาพในการกรองที่สูง ทั้งการกรองอนุภาคและการกรองไวรัสเทียบเท่าใกล้เคียงกับหน้ากาก N95 และที่สำคัญมีคุณสมบัติ Super hydrophobic ซึ่งจะไม่ยอมให้ละอองน้ำหรือละอองลอยสามารถซึมผ่านแผ่นกรองได้ ทีมนักวิจัยได้นำแผ่นกรอง "Sci-Mask Filter" ไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งได้ทำการทดสอบเรื่องความปลอดภัยในเซลล์ของปอด ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลพบว่าสามารถใช้งานและมีประสิทธิภาพในการกรองแบคทีเรีย (ขนาด 1 micron) และไวรัส (ขนาด 0.2 micron) ที่ปนเปื้อนในละอองฝอยได้มากกว่า 99% เฉพาะแผ่นกรองมีประสิทธิภาพกรองฝุ่นที่ PM 2.5 ได้ถึง 91.17 %

“สำหรับการส่งมอบนวัตกรรมของคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ด่านหน้าในการต่อสู้กับ COVID-19 ในครั้งนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักวัจิยของคณะฯ ที่จะนำเอาองค์ความรู้ที่มี มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สิ่งใดที่สามารถแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ หรือทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดคลี่คลายลง ทางคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ยินดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นส่วนสำคัญในการสู้วิกฤตในครั้งนี้” รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชนา กล่าว

ทั้งนี้ หน่วยงานราชการ หรือท่านใดต้องการนำนวัตกรรมในโครงการ Scijai สามารถติดต่อมาที่ งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โทร. 074-288023

สงขลา – ชาวอำเภอนาทวี แห่ฉีดวัคซีนที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี หลังเกจิดังภาคใต้ และผอ.รพ.เชิญชวน ส่วนเจ้าคณะอำเภอสะเดา ยืนยันฉีดแล้วไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น

วันนี้ 17 พฤษภาคม 2564 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ได้มีประชาชนชาวอำเภอนาทวีประมาณ 400 คน เดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนชิโนแวค หลังจาก ที่ พระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี/รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา หรือเกจิดังภาคใต้ พร้อมด้วยนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี ก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญชวนชาวอำเภอนาทวี ให้มาลงทะเบียนและรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 กัน และในวันนี้จึงมีประชาชนชาวอำเภอนาทวีแห่กันมาที่ รพ.ฯเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนชิโนแวคเพื่อป้องกันเชื้อโควิด 19 กัน โดยทาง รพ.ฯจะมีขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อการตรวจ และสอบประวัติผู้เข้ามารับการฉีดวัคซีน อย่างพร้อมเพียง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เข้ามารับการฉีดวัคซีนชิโนแวคในครั้งนี้

ครูบัณฑิตธรรมาลังการ (ประสิทธิ์ ปณฺฑิโต) เจ้าอาวาส วัดยางทอง – เจ้าคณะอำเภอสะเดา กล่าวว่า เจริญพร อาตมาได้มีโอกาสได้ไปฉีดวัคซีนโควิดชิโนแวค เมื่อวันที่ 5 เมษายน เป็นเข็มที่ 1 แล้วก็วันที่ 25 เมษายน เข็มที่ 2 ครบ อาการหลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนนั้น ก็จะทำให้มีความเชื่อมั่นในเรื่องของการติดต่อเชื้อโรค จะได้ไปไหนมาไหนก็จะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในส่วนอาการนั้นก็ไม่ได้พบว่าจะมีอาการใด ๆ เกิดขึ้น จากที่บรรดาท่านทั้งหลายนั้นได้เสพข่าวไม่ว่าในทางทวีก็ดี ทางด้านหนังสือพิมพ์หรือในกลุ่มไลน์ เฟสบุ๊คอะไรต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งสื่อส่วนใหญ่นั้นก็บางครั้งก็อาจจะลงไปผิดพลาดทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ แต่หลังจากที่อาตมาฉีด 2 เข็มผ่านไป ซึ่งถือว่าฉีดอยู่ในล็อตแรก ๆ ของส่วนภูมิภาคที่ทางรัฐบาลได้แจกจ่ายให้ส่วนภูมิภาคต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้พบอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการผื่นคันก็ดีหรืออาการแพ้ยา หรือจะอะไรก็ตามที่บรรดาท่านทั้งหลายมีความวิตกกังวน ว่าเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะมีอาการใกล้เคียงอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งรับว่าไม่เป็นความจริง เพราะฉนั้นก็ขอเชิญชวนบรรดาพระภิกษุซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เนื่องจากว่าต้องติดต่อกับบรรดาญาติโยมตามสถานที่ต่าง ๆ ก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงกลุ่มหนึ่ง จึงขอนิมนต์เชิญชวนเพื่อไปลงทะเบียนแล้วก็ฉีดให้ครบ ไม่ฉะนั้นถ้าแม้ว่าเรายังฉีดกันไม่ทั่ว ก็จะเป็นผลทำให้เกิดโรคติดต่อที่กำลังรุมเร้าอยู่ในยุคปัจจุบัน แล้วก็ฝากว่าเราอย่าพึ่งไปเชื่อข่าวเสพข่าวจนเกินไป แล้วก็อย่าไปวิตกกังวนเป็นโรคตาขาวนั้นก็คือมีความกลัว ว่าจะติดเชื้อให้เราคิดว่าการฉีดวัคซีนนั้นเป็นการป้องกันการติด ไม่ได้ป้องกันการตาย เพราะฉนั้นบางท่านนั้นจะกลัววัคซีนโควิดมากกว่ากลัวเชื้อที่จะมาติดกับตัวตน จึงอยากที่จะเชิญชวนท่านทั้งหลายให้ไปลงทะเบียนและก็ไปฉีดวัคซีนตามระบบไม่มีอาการใกล้เคียงใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเจริญพร

ทางด้านพระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี และ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา หรือเกจิดังภาคใต้ กล่าวว่า วันนี้ก็มีญาติโยมพุทธบริษัทเข้ามารับวัคซีนกันมาก วันนี้มีเข็ม 2 เยอะ เช่นอำเภอนาทวี ก็เยอะ ดั่งนั้นก็ขอเชิญญาติโยมพี่น้องพุทธบริษัทที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรับวัคซีนก็ขอเชิญมาเพื่อปกป้องร่างกายตนเอง วัคซีนแต่ละตัวดีหมด ที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เราฉีดในปัจจุบันนี้เอง อย่าเที่ยวรอโยม เมื่อคืนวาน เมื่อคืน อาตมาภาคได้ไปหาพระเพื่อนที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คือวัดหาดใหญ่ใน ก็นั่งๆอยู่ก็เห็นมีศพเข้ามา ศพเข้ามาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่วัดก็ไม่มีอะไร แต่พอเข้ามาแล้วเห็นคนนั่งศาลาวิ่งกันหมด เขาบอกว่าเป็นศพที่เสียชีวิตจากโรคโควิด ก็เลยเห็นแล้วสงสาร เมื่อคืนมี 2 ศพด้วยกัน ก็อยากคิดว่าเรายังมีชีวิตอยู่ เรายังดำเนินชีวิตของเราได้อยู่ สงสารครอบครัวสงสารตัวเองก็อยากขอเชิญญาติโยมพี่น้องพุทธบริษัททุกคนทุกท่านได้มาร่วมกันลงทะเบียนเพื่อปกป้องตัวเองตามที่พูดไว้ก็คือ สร้างกำแพงเพื่อปกป้องร่างกายของเราจากโรคโควิดโดยการฉีดวัคซีนชิโนแวค ขอเจริญพร

ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่ด่านชุมชนอ่าวน้อยปูพรม ค้นหา 20 พม่าเถื่อนหลบหนีเข้าเมือง

วันที่ 17 พฤษภาคม นางลั่นทม งุ่ยไก่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ. เจ้าหน้าที่ อสม. ด่านตรวจเขาดิน ใกล้ชายแดนไทย –พม่า ควบคุมตัวนายจอนาอู อายุ 36 ปี ชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองพร้อมกระเป๋าสัมภาระ พบว่าอยู่ในสภาพอิดโรย สอบถามเบื้องต้นนายจอนาอูอ้างว่า ก่อนหน้านี้มาจากเมืองย่างกุ้ง ได้เดินเท้าพร้อมกับเพื่อนชาวพม่าอีก 20 คน จากบ้านมูด่อง ประเทศพม่า ผ่านช่องทางธรรมชาติที่ช่องตะแบกพื้นที่หมู่ 9 ต.อ่าวน้อย เพื่อไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร โดยจ่ายค่านายหน้าให้นายทุนชาวพม่าคนละ 10,000 บาท แต่ขณะเดินไปจุดนัดหมายได้พลัดหลงกับเพื่อน ซึ่งรอรถนายทุนมารับในฝั่งไทยนาน 3 วัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำไม่พอกับการยังชีพ

จากนั้นได้รายงานให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกทราบ เพื่อสนธิกำลังร่วมกับ ตชด.146 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ออกปูพรมค้นหาแรงงานพม่าที่หลบหนีเข้าเมือง โดยเฉพาะในสวนยางพาราที่มีคนงานชาวพม่าซึ่งอาจให้ที่พักพิง พร้อมตั้งด่านสกัดบนถนนสายรองภายในหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อสังเกตรถต้องสงสัย พร้อมตรวจสอบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกราย เนื่องจากเคยมีเบาะแสชาวพม่าลักลอบขนแรงงานเถื่อนในลักษณะกองทัพมด รวมทั้งการตรวจสอบรถยนต์ของทางราชการ และรถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานที่ใช้เส้นทางผ่านด่าน

มีรายงานว่า สำหรับ กรณีเจ้าหน้าที่หน้าที่หลายหน่วยสนธิกำลังควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 50 คน ลักลอบเดินเท้าหลบหนีเข้าเมืองบริเวณ ช่องทางธรรมชาติทางทิศเหนือของช่องวังเป้า หมู่ 12 บ้านน้ำโจน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่เกิดเหตุใกล้แนวสันเขา เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปกักตัว 14 วัน ที่สถานกักกันที่กองร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามโทรศัพท์มือถือจำนวน 31 เครื่องของชาวพม่าที่สูญหายทั้งหมดขณะควบคุมตัว ทำให้หน่วยงานระดับจังหวัดสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ล่าสุดผู้นำท้องที่หมู่ 12 ต.อ่าวน้อย พบโทรศัพท์มือถือ 12 เครื่องบางส่วนบรรจุในถุง และถูกทิ้งกระจัดกระจายใกล้กับจุดควบคุมตัวแรงงานเถื่อนที่หุบตาเสริฐ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาโทรศัพท์มือถืออีก 9 เครื่องที่สูญหาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ตราด - หนุ่มตังเก เจ็บ 5 เสียชีวิต 1 ขณะกำลังช่วยกันโกยปลา น๊อคแก๊สไข่เน่าในท้องเรือ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16 นาฬิกาเศษ วันที่ 16 พค. 64 สมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอำเภอคลองใหญ่ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเรือประมงชื่อศักดิ์มงคลชัย 5 สาเหตุ น๊อคแก๊สไข่เน่าในท้องเรือ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดจำนวน 6 คน หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ไปถึงที่เกิดเหตุสะพานท่าเทียบเรือชลาลัย ม.5 บ้านคลองสน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด  ในเรือประมงลำดังกล่าวที่จอดเทียบสะพานอยู่ พบลูกเรือจำนวนมากกำลังช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจากห้องดองปลาใต้ท้องเรือ จึงรีบช่วยปฐมพยาบาล พบว่าเป็นแรงงานประมงทั้งหมด 6 คน โดยเป็นแรงงานพม่า 5 คน แรงงานไทย 1 คน ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหมดสติ จำนวน 1 คน พยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถช่วยได้ ชีพจรหยุดเต้นไม่สามารถกู้ได้ จึงรีบนำส่งรพ.คลองใหญ่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย มีอาการสาหัส 1 ราย และอาการไม่สาหัสอีก 4 ราย จึงนำทั้งหมดส่งต่อมายังรพ.ตราด ขณะนี้ผู้อาการหนักยังอยู่ในขั้นโคม่า ส่วนอีก 4 รายอาการดีขึ้นบ้าง ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นายระ ไม่ทราบนามสกุล เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์

นายเชษฐ อ่อนเนียม อายุ 62 ปี 221 ม.4 ต.บางหญ้าแพร จ.สมุทสาคร  เป็นลูกเรือลำดังล่าวเล่าให้ฟังว่า เรือลำดังกล่าวมาจากมหาชัย มาจับปลาทะเลตราด เป็นเรือไดปลาประเภทปลาไก่ (ปลาเล็กปลาน้อยหลาย ๆ ชนิดผสมกัน) ออกจับปลา 3 วันเข้าเทียบท่า 1 ครั้ง ก่อนเกิดเหตุไปจับปลาครบ 3 วันจึงนำเรือมาเทียบท่า และให้แรงงาน 6 คน ลงไปทำหน้าที่โกยปลาไก่ ที่หมักดองเกลือมา 3 วันขึ้นชั่งขาย แต่ขณะกำลังช่วยกันโกยปลา แรงงานทั้งหมดเดอาการหมดสติ หายใจไม่ออกเพราะสูดดมแก๊สจากการดองปลาเข้าไป จึงให้ลูกเรือที่เหลือช่วยกันนำขึ้นมาข้างบน และแจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าในห้องดองปลาคงจะมีอากาศอยู่น้อย ประกอบกับแก๊สจากการดองปลามีมาก ทำให้ลูกเรือทั้งหมดที่ลงไปสูดแก๊สเข้าไปจนหมดสติ และเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งลูกเรือที่ส่งไปรพ.ตราดคาดว่าน่าจะเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ขณะนี้แพทย์อยู่ระหว่างการช่วยชีวิตอยู่ ส่วนที่เหลืออีก 4 คน น่าจะปลอดภัย


ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าว จ.ตราด

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top