Wednesday, 14 May 2025
Region

นครนายก - เละทั้งสวน..โขลงช้างป่ากว่า 30 ตัวลงกินสวนผลไม้ชาวบ้าน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

กินยกสวน โขลงช้างป่าเขาใหญ่กว่า 30 ตัว ลงมากินผลไม้ในสวนของชาวบ้านในตำบลสาลิกา ได้รับเสียหายจำนวนมาก ที่นครนายก ภาพความเสียหายในสวนผลไม้ของชาวบ้าน ในหมูที่1 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก หลังจากที่เมื่อคืนได้มีโขลงช้างป่าเขาใหญ่ที่มีมากกว่า 30 ตัว ได้พากันลงมาหากินผลไม้ในสวนของชาวบ้าน

ซึ่งสวนที่ได้รับความเสียหายเป็นสวนกล้วยที่โดนกินไปประมาณ100 ตัน ลูกขนุน ทุเรียน หน่อไม้ และอื่น ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดเพื่อนช้างได้แต่เพียงยืนดูเพราะว่าจำนวนช้างที่มีมาก และค่อนข้างมีอาการดุเพราะช้างมีลูกอ่อนอยู่ในโขลงด้วย ชาวบ้านกลัวแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้ความเสียหายนั้นเริ่มขยายวงกว้าง จากเดิมทีช้างเขาใหญ่ที่ปีก่อนเคยลงมาหาอาหารกิน ก็ไม่เคยลงมาหากินในพื้นที่ของสวนผลไม้ของชาวบ้านแบบนี้ ทางผู้นำชุมชนก็ได้แต่เพียงประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระวังตัวเองให้มากที่สุด

(สัมภาษณ์นายกิตติภูมิ แสงสว่าง กำนันตำบลสาลิกา)


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ นครนายก

ชลบุรี – นายอำเภอบางละมุง เชิญชวนกลุ่มคนมีความเสี่ยงในพื้นที่ อ.บางละมุง และใกล้เคียง ออกมาตรวจโควิด-19 ฟรีวันละ 1,000 คน จำนวน 3 วัน

เมื่อเวลา 08.00น. ของวันที่ 27 เมษายน​ 2564  ที่ศาลาประชาคม​ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ให้บริการตรวจคัดกรองผู้สัมผัสผู้ป่วยโรคโควิด-19 คัดกรองกลุ่มเสี่ยง ประชาชนที่ไปในสถานที่เสี่ยง ในเขตอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

โดยโครงการตรวจในครั้งนี้ จัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 27-29 เมษายน 2564 จำนวน 1,000 คนต่อวัน จะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00​น. ถึง 14.00น. จะทำการตรวจฟรี ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง​ เพราะตอนนี้อำเภอบางละมุง  และจังหวัดชลบุรี อยู่ในกลุ่มพื้นที่สีแดงและมียอดผู้ติดเชื้อ​เพิ่มขึ้นทุกวัน

ด้าน นายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโช นายอำเภอบางละมุง ยังกล่าวเชิญชวน​พี่น้องประชาชนที่เข้าไปใช้บริการสถานบันเทิง​ สถานประกอบการที่มีกลุ่ม​เสี่ยง​หรือใกล้ชิด​คนที่ติดโควิด-19 ให้มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรี  ทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 29 เมษายน​ 2564


ภาพ/ข่าว​  สมชาย​โค​ต​ล่าม​แขก​ ผู้​สื่อข่าว​พัทยา​

กาฬสินธุ์ – รองผู้ว่าฯ มอบประกาศนียบัตรจิตอาสาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม ให้กับนักเรียน โรงเรียนหนองสอพิทยาคม จำนวน 8 ราย เพื่อยกย่อง และเป็นตัวอย่างแก่เพื่อนนักเรียน

วันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น  พงษ์อักษร  รอง ผวจ.กาฬสินธุ์  มอบประกาศนียบัตรจิตอาสาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม ให้กับนักเรียนชุมชนพุทธจิตอาสา โรงเรียนหนองสอพิทยาคม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์  จำนวน 8 ราย คือ นายนครินทร์ สินทร , นายสุระเพชร  วรรณมล , นายธนากร  ไกยบุตร , นายณัฐพล  ชุมทวียศ , นางสาวกัญญาลักษณ์  อัครินทร์ , นางสาวกุลวรรณ  เกตุกุล , นางสาววนิดา  ผลาผล  และนางสาวชุติมา  อิ่มฤทธิ์  ซึ่งเป็นจิตอาสาช่วยเหลืองานของ  โรงเรียน วัด และชุมชน มาเป็นระยะเวลา 3 ปี  โดยมีนายบัญชายุทธ  นาคมุจลินท์  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ นางกมนรัตน์  สิมมาคำ วัฒนธรรม จ.กาฬสินธุ์  ร่วมแสดงความยินดี

ทั้งนี้ โรงเรียนหนองสอพิทยาคม ต.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดกิจกรรมชุมนุมเพื่อให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมเพื่อพัฒนา ความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของนักเรียน มุ่งเน้นการเติมเต็มความรู้ ความชำนาญและประสบการณ์ให้กับนักเรียน ตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ได้มีการจัดตั้งชุมนุมพุทธจิตอาสา โดยมีพระอาจารย์วัฒน์ชรินทร์  อรุโณ (ผาลาโห) เป็นพระอาจารย์ที่ปรึกษาชุมนุม ซึ่งจะออกบริการทางชุมชนและวัดตามวาระโอกาส วันสำคัญต่าง ๆ และประเพณีที่สำคัญ  ส่วนหนึ่งก็เพื่อปลูกผังจิตสำนึกด้านจิตสาธารณะให้กับนักเรียน รู้จักการเสียสละ ทำประโยชน์เพื่อสังคม


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล

จันทบุรี – สถานการณ์โควิดจังหวัดจันทบุรี ระลอกใหม่ยังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาการส่วนใหญ่ไม่หนัก และยังไม่พบผู้เสียชีวิต ส่วนเตียงว่างยังพร้อมรับผู้ป่วยกว่า 200 เตียง

นายแพทย์ อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ เปิดเผยข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดจันทบุรีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อโควิด -19 ในจังหวัดจันทบุรียังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกวันจากการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อนำมารักษาหยุดยั้งการแพร่ระบาด ส่วนผู้ป่วยที่พบการติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ เมื่อนำตัวมาพักรอดูอาการ รักษาในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ก็ไม่พบอาการรุนแรง และในรอบนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ ระดับเกณฑ์ความรุนแรงของผู้ติดเชื้อโควิด จะแบ่งออกเป็น 4 สี ได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีแดงและสีดำ ซึ่งสีดำก็คือผู้เสียชีวิตซึ่งยังไม่มีในรอบนี้  สีแดงคือผู้ที่อาการหนักที่จะต้องให้ออกซิเจนขนาดสูงหรือต้องจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เครื่องช่วยหายใจ รองลงมาก็จะเป็นสีเหลือง จะเป็นอาการไข้สูงและส่วนใหญ่ก็จะมีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย ส่วนสีเขียวจะมีอาการน้อยมากหรือไม่มีอาการเลย ในหลักการ ถ้าผู้ป่วยที่มีอาการหนักเป็นสีแดงจะรักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า เนื่องจากศักยภาพของแพทย์และเครื่องมือทางการแพทย์มีความพร้อม ส่วนสีเหลืองที่มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อยก็จะสามารถให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสองพี่น้องได้และสีเขียวที่มีอาการน้อยมากอย่างเช่น ไอ มีน้ำมูกเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลยจะให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามจันท์ประชาร่วมใจ บ้านจันทเขลม จะดูอาการเป็นระยะ ๆ ขณะที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามีทั้งสิ้น 175  ราย กำลังรักษา 137 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 38 ราย 

ขณะที่ข้อมูลสถิติสถานการณ์เตียงที่รองรับผู้ป่วยในจังหวัดจันทบุรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน พบว่ายังมีเตียงว่างรองรับผู้ป่วยเพียงพอทั้งโรงพยาบาลรัฐและ โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลสนามที่มีเตียงรองรับผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 333  เตียง โรงพยาบาลรัฐมีเตียงรองรับผู้ป่วยทั้งหมด119 เตียงมีผู้ป่วย 95 เตียง เตียงว่าง 24 เตียง /โรงพยาบาลสนามบ้านจันทเขลมเตียงทั้งหมด 210 เตียง มีผู้ป่วย 16 เตียงคงเหลือเตียงว่าง 194 เตียง ส่วนโรงพยาบาลเอกชนมี 4 เตียง มีผู้ป่วยครองเตียงแล้วทั้ง 4 เตียง


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าวจ.จันทบุรี

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

พิจิตร – ผู้ว่าฯ จับมือนายกอบจ.พิจิตร เปิดรพ.สนามพร้อมปฏิบัติการเชิงรุก ปิด 2 หมู่บ้าน ตรวจหาเชื้อกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง400 คน

ผู้ว่าฯ นายก อบจ.พิจิตร  สสจ.พิจิตร. ผนึกกำลังเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งแรกของพิจิตร รองรับ 44 เตียง ห้องแอร์อุปกรณ์ครบครัน รองรับแผนปฏิบัติการเชิงรุก ปิด 2 หมู่บ้าน ลุยตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากชาวบ้านกลุ่มเสี่ยงกว่า 400 คน  ที่เมื่อช่วงสงกรานต์มีญาติพี่น้องกลับมาบ้านแล้วเอาเชื้อโควิดมาฝาก ทำเอาป่วยกันทั้งหมู่บ้าน คาดถ้าลุยตรวจยกหมู่บ้าน คาดการณ์อาจเจอผู้ติดเชื้อเพิ่ม จึงต้องเตรียมพร้อมด้วยการเปิดโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.ของวันนี้ได้มีการส่งผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจำนวน 4 รายเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้เป็นชุดแรกแล้ว

วันที่  27  เม.ย. 64 เวลา 17.00 น. นายรังสรรค์  ตันเจริญ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์ปกป้องชาวพิจิตร” หรือโรงพยาบาลสนาม ที่อุทยานบัว บึงสีไฟ โดยมี พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ , นายก อบจ.พิจิตร และ นายแพทย์กมล กัญญาประสิทธิ์ , นายแพทย์ สสจ.พิจิตร พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของ อบจ.พิจิตร  ร่วมในพิธีเปิดแบบเรียบง่าย สำหรับโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ เป็นสถานที่อยู่ในความดูแลของ อบจ.พิจิตร ซึ่งการตั้ง “ศูนย์ปกป้องชาวพิจิตร” หรือโรงพยาบาลสนาม ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและการดำเนินการต่าง ๆ แบบครบวงจรจาก อบจ.พิจิตร ซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้มีอาคาร 3 หลัง รองรับผู้ป่วยหรือผู้ที่จะมาใช้บริการได้ 44 เตียง ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.ของวันนี้ได้มีการส่งผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจำนวน 4 รายเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้เป็นชุดแรกแล้ว

สำหรับอาคารโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ แบ่งเป็นอาคารผู้ป่วย ชาย-หญิง และอาคารศูนย์ปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่จะใช้เฝ้าดูอาการผ่านกล้อง CCTV ทั้ง 33 ตัว และมีศูนย์สั่งการในอาคารที่แยกเป็นสัดส่วน ติดแอร์ มีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทุกอาคาร มีทางเข้า-ออก เพียงทางเดียว ห่างไกลจากชุมชนจึงเหมาะสมในการใช้เป็นโรงพยาบาลสนามดังกล่าว

นายรังสรรค์  ตันเจริญ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้สัมาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังพิธีเปิด เปิดเผยว่า จังหวัดพิจิตรพบผู้ป่วยโควิด-19 ในระลอก 3 เดือนเมษายน 64 วันนี้พบอีก 8 ราย สรุปยอดรวม 50 ราย ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้นอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องความดันลบในโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขณะนี้จะเต็มจนล้นแล้ว

ดังนั้นจึงต้องเปิดโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ที่มีอาการดีขึ้น (กลุ่มสีเขียว) หรือ ผู้ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ ไม่ใช่ผู้สูงอายุ  ไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ผู้ตั้งท้อง และเป็นผู้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็จะถูกนำตัวให้มาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ดังกล่าว ในส่วนของแผนปฏิบัติการเชิงรุกในการค้นหาผู้ติดเชื้อ ขณะนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอสามง่าม และ สาธารณสุขอำเภอสามง่าม ปิด 2 หมู่บ้าน คือ หมุ่ 4 บ้านมาบกะเปา และ หมู่ 13 บ้านทรายคลอง  ต.หนองโสน  อ.สามง่าม  เพื่อปฏิบัติการปูพรมในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับราษฎรทั้ง 2 หมู่บ้าน ที่มีประมาณ 400 คน ที่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เหตุเพราะมีการสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เป็นญาติพี่น้องหรือลูกหลานที่เดินทางกลับบ้านมาเมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า หากมีการปฏิบัติการปูพรมในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 คาดว่าอาจพบเจอผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จึงเป็นเหตุให้ต้องเร่งเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อเตรียมความพร้อมดังกล่าว


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์   พิจิตร

บึงกาฬ – อ่วมหนัก หาดคำสมบูรณ์เจอพิษโควิด-19 ยังไม่พอ พายุพัดกระหน่ำอีกรอบ

หาดคำสมบูรณ์เป็นหาดทรายเทียมตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านคำสมบูรณ์ ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ หรือ Ramsar Site อันดับที่ 1098 เป็นแหล่งท่องเที่ยวท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดบึงกาฬ ที่ นทท.มักพาบุตรหลานลงเล่นน้ำคลายร้อน นอกจากทะเลน้ำจืดกว้างขวางมีคลื่นลมซัด มีอุปกรณ์เล่นน้ำให้เช่า เช่นหวงยาง เรือบานานาโบ๊ต อีกมากมายหลายอย่าง เมื่อเดือนที่แล้วเจอพิษโควิดเล่นงานจนเงียบเหงา แต่เมื่อบ่ายวันนี้เจอพิษพายุฤดูร้อนเล่นงานจนร้านรวงพังเสียหาย นอกจากนี้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ของจังหวัดบึงกาฬก็โดนพิษพายุไปด้วย

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 นวันที่ 27 เม.ย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในหลายอำเภอ ของพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ จึงทำให้มีต้นไม้ และบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เช่น ที่บริเวณหาดคำสมบูรณ์ ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ถูกลมพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำทำให้เพิงพักร้านค้า ที่ทำเป็นลักษณะเพิงหมาแหงน ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว ได้รับความเสียหายหลายหลัง โดยมีร้านที่เสียหายมากที่สุด คือร้านครัวมิวสิค หลังคาที่มุงด้วยอะลูซิงค์ ถูกลมพัดหายไปทั้งหลัง ความเสียหายประมาณ 50,000 บาท ร้านเอ๋ปลาเผาความเสียหายอยู่ที่ 30,000 บาท และร้านน้องอิงปลาเผา ความเสียหายอยู่ประมาณ 10,000 บาท 

เช่นเดียวกับในเขตพื้นที่ บ้านศรีอำนวยพร ม.8 ต.ท่ากกแดง อ.เซกา มีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายจากพายุจำนวน 4 ครัวเรือน ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง ในเบื้องต้นนางดารณี ไกรทัศน์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 พร้อมด้วย ผู้ช่วย ส.อบต. ชาวบ้าน มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์  และเจ้าหน้าที่ อบต. เข้าช่วยตัดต้นไม้ที่หักทับชายคาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมแจ้งไปยัง อบต.เพื่อให้ช่างได้มาดำเนินการประมาณการความเสียหาย 

ส่วนที่ในพื้นที่ตำบลนาสวรรค์ อำเภอเมืองบึงกาฬ ก็ได้รับความเสียหายจากพายุเช่นกัน โดยที่บ้านของนายประยงค์ จิตนาม บ้านเลขที่ 355 ม.1 ต.นาสวรรค์ มีผู้อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ถูกแรงลมพัดเอาหลังคาบ้านที่มุงด้วยอะลูซิงค์ ปลิวลอยไปตกกลางท้องนา เสียหายทั้งหลัง มีเสา 3 ต้น ไม้แปลและไม้จันทันยาว 8 เมตร รวม 13 ตัว สังกะสียาว 12 ฟุต จำนวน 12 แผ่น อลูซิ่งยาว 8 เมตร จำนวน 11 แผ่น คิดรวมประเมินค่าความเสียหายประมาณ 20,000 บาท และบ้านนายจันทร์ศรี รักโคตร บ้านเดียวกัน เสียหายบางส่วน กระเบื้องจำนวน 14 แผ่น เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งสำรวจเพื่อเข้าช่วยเหลือต่อไป 


ภาพ/ข่าว  เกรียงไกร  พรมจันทร์ / บึงกาฬ

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านผวา น้ำในคลองเกิดฟองโฟมเป็นก้อนกลิ่นเหม็น หวั่นผลกระทบ เนื่องจากเป็นแหล่งทำมาหากิน

วันที่ 28 เมย.64 ชาวบ้าน บ้านคลองโสม ม.8 ต.ท่าตูมอ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ออกหาปลาในคลองโสมพบน้ำในคลองมีกลิ่นเหม็นจับตัวเป็นฟองสีขาวขนาดใหญ่เป็นก้อนสีขาวยาว 4 เมตร ฟองโฟมดังกล่าวเป็นมานานแล้วหลังฝนตก เดือนที่แล้วก็เกิดมีฟองน้ำสีขาวขนาดในคลองแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ฟองโฟมจะอยู่เป็นอาทิตย์ถึงจะหมดไปเอง ประชาชนในหมู่บ้านโดยเฉพาะคนหาปลาในคลองต่างรู้สึกหวั่นวิตก อาจเกิดมาจากสารปนเปื้อนไหลจากเขตโรงงานที่อยู่ใกล้เคียงกัน

จากการลงพื้นที่พบว่า ใต้คันดินมีฟองสีขาวเป็นก้อนยาวไปตามลำคลองมีกลิ่นเหม็นฉุน และได้พบกับนายสมพร (นามสมมุติ) ตนมีอาชีพหาปลาในลำคลองกับชาวบ้านคนอื่น ๆ พบว่าฟองสีขาวในลำคลองเป็นมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งแรกเดือนที่แล้วครั้งนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังจากฝนตกใหญ่ไม่ทราบว่าเกิดมาจากสาเหตุใดกันแน่ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฟองโฟมที่เห็นในคลองอาจจะเกิดมาจากการปนเปื้อนสารเคมีที่ไหลลงสู่คลองตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากการปนเปื้อนสารเคมีหรือไม่

ชาวบ้านต่างหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน เนื่องจากคลองแห่งนี้นั้น เป็นแหล่งหากินของชาวบ้านที่ออกมาหาปลาซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ฟองโฟมสีขาวที่เห็นในครั้งนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 วันหลังจากฝนตกหนัก ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า “น้ำในคลองมีกลิ่นเหม็นฉุนแสบจมูก หากใครไม่เชื่อให้มาดูด้วยตาตัวเองว่ามีกลิ่นเหม็นมากน้อยเพียงใด ยอมรับว่าปลาในคลองนี้ไม่ค่อยมีเหมือนแต่ก่อนอาจจะหนีไปอยู่ที่อื่น” ซึ่งน้ำในคลองแห่งนี้จะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงหรือแม่น้ำปราจีนบุรี ที่อยู่ห่างกันแค่ 1 กม.เท่านั้น


ภาพ/ข่าว ลักขณา สีนายกอง

สระแก้ว - กองกำลังบูรพา พร้อมด้วยตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และด่านศุลกากรอรัญประเทศ ลุยเข้าตรวจ 6ช่องทางธรรมชาติชายแดนไทยกัมพูชา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

พันเอกเสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พร้อมด้วย พันตำรวจเอก รัชพงศ์ เตี้ยสุด รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 รักษาการผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสรแก้ว ,พันเอก เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพราน 12 , เจ้าเหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ เดินทางเข้าตรวจสอบช่องทางธรรมชาติบริเวณตลาดหลังคาแดง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังของ บิ๊กซีสาขาตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 1205 จากนั้นได้เดินทางไปตรวจช่องทางธรรมชาติอีก 2ช่องทางซึ่งอยู่ด้านหลังของโรงเรียนบ้านท่าข้าม ตำบลท่าข้าม ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 1201

นอกจากนั้นได้เข้าตรวจช่องทางธรรมชาติในพื้นที่บ้านโคกสะแบงอีก 3 จุดซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 1202 โดยช่องทางธรรมชาติที่เข้าทำการตรวจสอบทั้งหมดในครั้งนี้เป็นช่องทางธรรมชาติที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนอำเภออรัญประเทศและอยู่ตรงข้ามกับบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปตประเทศกัมพูชา

ซึ่งจากการตรวจสอบช่องทางธรรมชาติทั้งหมดดังกล่าว พบว่าช่องทางธรรมชาติทั้งหมด มีลำคลองพรมโหดขนาดเล็กขวางกั้นอยู่ และมีแนวลวดหนามหีบเพลง 3 ชั้นวางขวางกั้นอยู่อย่างแข็งแรง ที่สำคัญมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานคอยดูแลอย่างเข้มงวด และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยการเดินทางข้ามชายแดนแต่อย่างใด ซึ่งไม่ได้เป็นช่องทางธรรมชาติที่มีการลักลอบข้ามชายแดนตามที่มีกระแสข่าวในข่าวโซเชียลแต่อย่างใด ทั้งนี้การตรวจสอบช่องทางธรรมชาติในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายและนักเล่นพนันแล้ว ยังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากฝั่งประเทศกัมพูชาอย่างเข้มงวดอีกด้วย


ภาพ/ข่าว เพลิน พิมพ์อรัญ / วีระยุทธ สารการ / บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน

อุดรธานี – ‘เจ้าของร้านป้าย’ชาวอุดร ร่วมใจกับเพื่อนส่งตู้ตรวจโควิด-19 แบบสนามช่วยนักรบชุดขาว

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นทุกวัน เฉพาะ จ.อุดรธานี ณ วันที่ 27 เมษายน 2564  โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 327 ราย และยังมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอีก ท่ามกลางการควบคุมโรค มาตรการเข้มงวดต่างๆ ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนเพื่อลดตัวเลขการติดเชื้อ ดังเช่นภาคเอกชนของ จ.อุดรธานี ได้รวบรวมเงินทุนเพื่อสร้างตู้ตรวจโควิดแบบสนาม (Positive swap test box) ส่งมอบต่อ รพ.อุดรธานี สนับสนุนการทำงานของนักรบชุดขาวให้ทำงานได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

วันที่ 27 เมษายน 2564 เวลา10.30 น. ที่ร้านบางกอกพลาสติค หรือ ร้านทำป้าย เลขที่ 559/28 – 29 ถ.โพศรี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี นายณัฐพงษ์ แซ่ตั้ง หรือเฮียณัฐ อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน  ได้ทำการสาธิตในการประกอบตู้ตรวจโควิดแบบสนาม (Positive swap test box) โดยมีลูกน้องที่ร้าน 3 คนเป็นลูกมือช่วยกันประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อส่งต่อไปยัง รพ.อุดรธานี ให้ทีมแพทย์พยาบาลได้ใช้ในการตรวจรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 ซึ่งเฮียณัฐ ให้ข้อมูลและแนะนำวิธีการประกอบอย่างอารมณ์ดี

นายณัฐพงษ์ แซ่ตั้ง  เปิดเผยว่า โควิค – 19 เป็นโรคระบาดที่น่ากลัวมาก ติดตามข่าวอยู่เป็นประจำและเห็นความเหน็ดเหนื่อยของทีมแพทย์พยาบาลที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน จากการพูดคุยในกลุ่มเพื่อนฝูงอยากจะสนับสนุนการทำงานของพี่น้องสาธารณสุข จึงมีแนวคิดสร้างตู้ตรวจโควิดแบบสนามเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจรักษา ต้นแบบเดิมเราเห็นจากโรงพยาบาลต่าง ๆ จะให้ผู้ป่วยอยู่ด้านในและรับการตรวจ เราจึงปรับเปลี่ยนมาเป็นให้คุณหมอคุณพยาบาลอยู่ข้างในแทน ไม่ต้องสวมชุด PPE ร้อน ๆ สามารถทำงานได้สะดวกมากขึ้น

ตัวตู้สูง 195 ซม. กว้าง 115 ซม. ลึก 90 ซม. มีล้อเลื่อนด้านล่าง โครงสร้างทำจากสแตนเลส พื้นเป็นเหล็กซิงค์ ผนังทำจากพลาสวู้ด และติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง พร้อมกับเครื่อง Smile O2 หรือเครื่องกรองอากาศ 3 ตัว ดูดอากาศเข้า 2 ตัว ระบายอากาศออก 1 ตัว งบประมาณทั้งสิ้น 73,000 บาท ต่อ 1 ตู้ โดยเป็นการบริจาคของพรรคพวกเพื่อนฝูง ทางร้านก็จะช่วยในงบประมาณบางส่วนและออกแรงในการประกอบตู้ขึ้นมา  โดยประกอบและส่งมอบมาแล้ว 1 ครั้ง จำนวน 4 ตู้ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 มอบให้กับ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ,โรงพยาบาลสกลนคร ,โรงพยาบาลหนองคาย และ โรงพยาบาลบึงกาฬ”

นายณัฐพงษ์ แซ่ตั้ง เปิดเผยอีกว่า ล็อตนี้เรามีงบประมาณประกอบ 2 ตู้ น่าจะผ่านการทดสอบพร้อมส่งมอบในวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะมอบให้กับ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ต่อไป หากท่านใดสนใจที่ร่วมสนับสนุนตู้ตรวจโควิดแบบสนาม (Positive swap test box) เพื่อสู้กับโรคร้ายครั้งนี้ สามารถบริจาคได้ที่ บัญชี ธ.กรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชี : นรุตม์ชัย ศุภชัยสาคร เลขที่  215-1-56101-9 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิชัย เอื้อมธุรพจน์ (เฮียเปา) ทางร้านบางกอกพลาสติค เปิดมากว่า 45 ปี  ซึ่งตนเองเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ทางครอบครัวก็เห็นว่าจะเป็นการช่วยเหลือสังคมได้อีกทางหนึ่ง จึงร่วมสนับสนุนและส่งกำลังใจให้ทีมแพทย์พยาบาลทุก ๆ ท่าน


ภาพ/ข่าว  นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี

เชียงราย - ทหารผาเมือง รวบ 15 เมียนมา ก่อนข้ามแดนจะไปทำงานกรุงเทพฯ

เวลา 02.30 น.วันที่ 28 เม.ย.64 กำลังทหาร ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤิทธิ์ ฉัตรวัฒนาสุกล ผบ.ฉก.ม.3 นำโดย ร.อ.พิสิฐ อภิเดช ผบ.ร้อย.ม.3 นำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ได้เดินลาดตระเวณในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งถึงบ้านสันผักฮี้ หมู่ 3 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงรายได้พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกลุ่มใหญ่  ได้เดินผ่านบริเวณดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าขอตรวจค้น  โดยพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีจำนวน 15 คน  เป็นชาย 6 คน เป็นหญิง 9 คน อายุระหว่าง 19 ถึง 38 ปี โดยเดินทางมาตากรัฐคะฉิ่น และรัฐฉาน ประเทศเมียนมา

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภารภาพว่าได้ลักลอบข้ามพรมแดนมาเพื่อที่จะไป ทำงานที่กรุงเทพฯ โดยมีนายหน้าพาข้ามพรมแดน มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงแล้วจะมีคนมารับ เพื่อไปส่งถึงกรุงเทพฯ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน หลังจากทำการสอบสวนแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เทำการเข้าจับกุม และควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ต่อไป


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top