Wednesday, 14 May 2025
Region

สระแก้ว – จนท.ชี้แจงผู้ค้าชาวกัมพูชามาแสดงอัตลักษณ์ หลังรัฐบาลประกาศขยายเวลา แสดงอัตลักษณ์แรงงาน 3 สัญชาติ

ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดลงพื้นที่ตลาดโรงเกลือ เร่งประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชามาแสดงอัตลักษณ์ หลังรัฐบาลประกาศขยายเวลาแสดงอัตลักษณ์แรงงาน 3 สัญชาติออกไปเป็นวันที่ 16 มิ.ย.64 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ขณะที่จังหวัดสระแก้วมีแรงงานที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว 2.6 หมื่นคนแต่มีมาแสดงอัตลักษณ์เพียง 50 เปอร์เซ็นเท่านั้น

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 23 เม.ย.64 ที่ ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พันตำรวจเอกรุ่ง ทองมนต์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ในสังกัดจำนวนกว่า 20 นาย นำแผ่นพับเขียนข้อความขั้นตอนแสดงอัตลักษณ์ประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ไปทำการแสดงอัตลักษณ์ ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เนื่องจากรัฐบาลไทยได้มีมติขยายเวลาแสดงอัตลักษ์แรงงาน 3 สัญชาติออกไปเป็นวันที่ 16 มิ.ย.64 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจำนวนมาก เข้าใจถึงความจำเป็นของการแสดงอัตลักษณ์ และพร้อมที่จะไปทำการแสดงอัตลักษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว

ด้าน พันตำรวจเอกรุ่ง ทองมนต์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ได้ลงพื้นที่ตลาดโรงเกลือ เพื่อเร่งประชาสัมพันธ์ เนื่องจาก ครม.มีมติขยายเวลาจัดเก็บอัตลักษณ์แรงงาน 3 สัญชาติออกไปเป็นวันที่ 16 มิ.ย.64 สำหรับในส่วนของจังหวัดสระแก้วมีแรงงานต่างชาติมาขึ้นทะเบียนไว้กับจัดหางานจังหวัดสระแก้วทั้งหมดจำนวน 26,000 คน ซึ่งตอนนี้มีมาแสดงอัตลักษณ์กับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วเพียง 13,000 คนเท่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นคือแรงงานส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในขั้นตอนต่างๆรู้เพียงว่าเมื่อทำหนังสือกับจัดหางานจังหวัดแล้วก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้รู้ปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น

ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า ส่วนที่กำลังมีกระแสข่าวเจ้าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วเรียกรับเงินนั้น ขอยืนยันเลยว่าไม่มีอย่างแน่นอน หากมีหรือพบบุคคลที่แอบอ้างขอให้บันทึกภาพเก็บส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วได้เลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วจะประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมตัวดำเนินคดีทันที


ภาพ/ข่าว  สมศักดิ์ สารการ / วีระยุทธ สารการ  /บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน

สุโขทัย – สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 65 รายต้องเปิดใช้โรงพยาบาลสนามขณะที่ผู้มีความเสี่ยงสูงทยอยออกมาตรวจเชื้อ ผู้ว่าฯสั่งใช้มาตรการเข้มพร้อมทำความสะอาดสถานที่เสี่ยง

วันนี้ (23 เม.ย.64) เวลา 13.30 น.นายวิรุฬ  พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัยและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุโขทัยลงพื้นที่โรงพยาบาลสุโขทัยเพื่อตรวจเยี่ยมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยที่มีประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงและสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยได้เดินทางมาขอตรวจหาเชื้อกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ของสุโขทัยวันนี้พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวมเป็น 65 รายมีการแพร่กระจายสู่กลุ่มเครือญาติ และครอบครัว โดยผู้ป่วยได้กระจายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ จังหวัดสุโขทัยจึงได้เปิดใช้โรงพยาบาลสนามที่ใช้อาคารชวนชม มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัยเป็นที่ตั้ง เพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่มาก มีหมอและพยาบาลคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

 ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยสั่งการให้ใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและควบคุมโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เน้นย้ำออกนอกบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา พร้อมให้ทำความสะอาดใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคในสถานที่มีความเสี่ยงเช่นสถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ตลาดสด อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  วิชัย  สิทธิพันธ์  / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย  

จันทบุรี - ตรวจคัดกรองเข้มกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วย คลัสเตอร์งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ คลองนารายณ์ หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน ขณะที่สถิติพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 7 คน

 

วันนี้ ( 23 เม.ย.64 ) ที่เทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข แพทย์ พยาบาล ฝ่ายปกครอง กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านได้นำลูกบ้านในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์ที่ไปร่วมงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ในพื้นที่ตำบลคลองนารายณ์แล้วพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนรวม 16 คน จึงประชาสัมพันธ์เชิญชวนกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยมาคัดกรองเพื่อป้องกัน ยับยั้งการแพร่ระบาดในพื้นที่ และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากชาวบ้านในพื้นที่มาขอตรวจคัดกรองจนเกินจำนวนเป้าหมาย และต้องนัดหมายอีกรอบในวันจันทร์ที่ 26 เมษายน ขณะที่การคัดกรองเชิงรุกพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดจะมีการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่องทั้งในโรงพยาบาลพระปกเกล้าทุกวัน หรือ ที่เทศบาลเมืองท่าช้างทุกวันอังคาร

ขณะที่ข้อมูลสถิติ วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 7 ราย รวมสะสมจากคลัสเตอร์ใหม่ 103 ราย กำลังรักษา 93 ราย และ รักษาหายกลับบ้านแล้ว 10 ราย แยกเป็นอำเภอในคลัสเตอร์ใหม่พบผู้ติดเชื้อรวม 8 อำเภอ ยกเว้น อำเภอนายายอาม และ อำเภอแก่งหางแมว ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อตัวเลขเป็น 0 อย่างไรก็ตามจังหวัดจันทบุรีได้เน้นย้ำประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของสาธารณะสุขอย่างเข้มข้น ใส่หน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งการ์ดป้องกันสูงสุด หากกังวลใจมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน Hotline กรมควบคุมโรค 1422 หรือ ที่สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี 039 328337 และ 082 – 2323850      


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา  ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี

นาย  พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ประชุมหารือฝ่ายความมั่นคง หาทางแก้ปัญหาผลกระทบกรณีการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ฝั่งจังหวัดไพลิน กัมพูชา ที่กระทบต่อกระแสน้ำและเขตแดน

วันนี้ ( 23 เม.ย.64 ) ที่ห้องประชุม ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 อำเภอโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหา ผลกระทบกรณีการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ฝั่งจังหวัดไพลิน กัมพูชา โดยมี พลเรือตรีปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด  นาวาเอกสมเกียรติ ม่วงมี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งนาวาเอก ศราวุธ บุตรเสรีชัย หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่

โดยเบื้องต้นการหารือครั้งนี้เป็นการตรวจสอบและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการที่ บริษัท โก ออฟ วิวล์ ฝั่งกัมพูชาได้มาสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ติดแนวชายแดนและจากการประเมินตามผังการก่อสร้างนั้น ทางฝั่งกัมพูชาจะต้องสร้างผนังกั้นกันน้ำเซาะตลิ่งเพื่อความมั่นคงของโครงสร้าง ซึ่งจากประเมินหากมีการสร้างจริง พื้นที่ริมคลองฝั่งประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอาจถูกกระแสน้ำกัดเซาะ ส่งผลกระทบต่อแนวเขตชายแดน การก่อสร้างโรงแรม โก ออฟ วิวล์ ฝั่งกัมพูชาเริ่มมีการก่อสร้างเมื่อปี 2561 ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ได้มีการเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะการสร้างสิ่งปลูกสร้างคิดแนวชายแดนนั้นยังมีบางจุดที่ผิดเงื่อนไข ซึ่งจากการที่คณะลงพื้นที่ตรวจสอบได้มีการหารือกับหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปข้อมูลทำรายงานส่งคณะกรรมาธิการต่อไป


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา  ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี

นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ศรีสะเกษ - ผวาโควิด-19 สั่งกักตัว 11 พระโยม เดินทางจากจังหวัดเสี่ยง เพื่อมาทำบุญฉลองศาลาวัด

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านก้านเหลือง ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย ตัวแทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ตัวแทนสาธารณสุข อ.เมืองศรีสะเกษ กำนัน ต.หมากเขียบ ผู้ใหญ่บ้านก้านเหลือง ได้เข้าไปพบกับ นางสุวรรณี เบญจะขันธ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 8 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และคณะ ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 11 คน โดยมีพระ 1 รูปด้วย ทั้งนี้เนื่องจากว่า นางสุวรรณีเดินทางมาจากกลุ่มจังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่เสี่ยงควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด ทำให้นางสุวรรณีและคณะ ไม่พอใจ ทั้งนี้เนื่องจากว่าก่อนที่จะเดินทางเข้ามาที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งแล้ว แจ้งว่าสามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่จะต้องมีจำนวนไม่เกิน 50 คน

นางสุวรรณี เบญจะขันธ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 8 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตนกับคณะที่เดินทางมาครั้งนี้ ได้จัดเตรียมพานบายศรี รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการทำบุญ รวมมูลค่าแล้วประมาณ 100,000 บาท เพื่อมาทำบุญถวายศาลาวัด  ซึ่งพวกตนได้ระดมเงินกันก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2,000,000 บาทเศษ เพื่อถวายให้กับวัดบ้านก้านเหลือง และบูชาองค์พระพิฆเนศ ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาด้วยเงินจำนวนประมาณ 100,000 บาท โดยพวกตนเห็นว่าอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการเลื่อนการจัดงานมาแล้ว 2 - 3 ครั้ง ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาในครั้งนี้ ตนได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านก้านเหลือง เพื่อจะเดินทางมาทำพิธีถวายศาลาวัดในครั้งนี้ และได้ทราบว่าอนุญาตให้เข้ามาได้ โดยจะต้องมีจำนวนคนเข้ามาไม่เกิน 50 คน ตนจึงได้ลดจำนวนคนลง เหลือเพียง 10 คน และพระ 1 รูป แต่เมื่อมาถึงวัดบ้านก้านเหลือง เพื่อทำบุญก็ปรากฏว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำพิธีทั้งหมด ตนได้ขออนุญาตว่าขอนำพานพายศรีและเครื่องบูชาขึ้นไปไว้ที่บริเวณลานด้านหน้าพระพิฆเนศ แต่ทางราชการไม่ยินยอม ทำให้ตนและคณะเสียค่าใช้จ่ายไปร่วม 200,000 บาท และสั่งให้พวกตนกักตัว 14 วัน ที่วัดแห่งนี้ ทำให้พวกตนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่ จังหวัดสมุทรปราการ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาแล้ว และทาง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ออกคำสั่ง จ.ศรีสะเกษ ที่ 1658/2564 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 21 เม.ย.64 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ที่เดินทางเข้ามา จ.ศรีสะเกษ ที่เดินทางมาจาก 18 จังหวัดพื้นที่ความเสี่ยงสูง จะต้องมารายงานตัวกับเจ้าพนักงานผู้ควบคุมโรค คือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจะต้องอยู่กักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามที่ทางคณะกรรมการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.หรือว่าตามที่ทางสาธารณสุขเป็นผู้สั่งการกักตัว โดยที่ไม่สามารถเดินทางไปที่ไหนได้ เราไม่สามารถละเว้นได้ เราเห็นใจประชาชนเป็นชาวพุทธมาทำบุญ แต่เนื่องจากว่าขณะนี้มีการประกาศเกี่ยวกับการแพร่เชื้อโควิด-19 ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ออกคำสั่งไว้รองรับ เราจำเป็นต้องรักษากติกา เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อส่วนรวมเอาไว้ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยสถานที่กักตัวคือที่ศาลาวัดของวัดบ้านก้านเหลืองแห่งนี้ โดยมีคณะกรรมการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาคอยควบคุมดูแล


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ

ประจวบคีรีขันธ์ – เสริมเตียงผู้ป่วยโควิด-19 อบจ.ประจวบฯ มอบเครื่องพีซีอาร์หาเชื้อโควิด

วันที่ 24 เมษายน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 941 ราย อยู่ระหว่างรักษา 790 ราย รักษาหายแล้ว 150 ราย มีผู้ป่วยโควิดติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัด 44 ราย เป็นการระบาดจากการร่วมดื่มกินและชมคอนเสริ์ตที่มายาผับ อ.หัวหินเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 64 และ คลัสเตอร์จากผับ ร้านคาราโอเกะใน อ.หัวหิน และ อ.เมืองประจวบฯ ล่าสุดพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 15 ราย อาการปานกลาง 25 ราย มีผู้ป่วยเข้ารับการักษามากที่สุดที่ รพ.หัวหิน จำนวน 501 ราย รพ.ปราณบุรี 152 ราย รพ.ประจวบคีรีขันธ์ 91 ราย สำหรับ จ.ประจวบคีรีขันธ์จะรับผู้ป่วยติดเชื้อได้ 1,100 เตียง และเตรียมเตียงไว้ที่ รพ.หัวหินอีก 300 เตียง รพ.บางสะพาน 50 เตียง แม้ว่าแนวโน้มผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง มีคนไข้บางส่วนรักษาหายเพิ่มขึ้นทำให้เตียงผู้ป่วยยังพอใช้ แต่ในอนาคตหากมีปัญหาหรือ มีความจำเป็นได้วางแผนจัดทำโรงพยาบาลสนามที่โรงแรมสวนสน 1 จำนวน 216 เตียง และโรงแรม 51 แฟชั่น จำนวน 70 เตียงในพื้นที่ อ.หัวหิน

ขณะนี้จังหวัดประจวบฯได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค 12,160 โด๊สเพื่อบริการฉีดให้แก่บุคลากรด้านสาธารณสุขเป็นลำดับแรกให้ครบ 100 % ตามข้อสั่งการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมต.กระทรวงสาธารณสุข จากนั้นจะฉีดให้ อสม. เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าหน่วยงานอื่นๆ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ผ่านมาพบผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน 24 ราย โดยมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ผื่นขึ้น ปวดเมื่อย คลื่นไส้ ส่วนอีก 1 ราย มีอาการคลื่นไส้หลังฉีดวัคซีนไป 10 นาที แพทย์ได้ให้ยาแก้คลื่นไส้ เมื่อพ้นระยะเวลาเฝ้าดูอาการ 30 นาที ได้ให้กลับไปสังเกตอาการ แต่ต่อมาภายใน 1-2 ชม.พบว่าผู้รับวัคซีนรายดังกล่าวมีอาการชาที่แขนและขาด้านซ้าย แพทย์จึงทำการเอ็กซเรย์พบว่าปกติ ผลตรวจเลือดปกติ แต่ให้ยาละลายลิ่มเลือด อาการชาจึงทุเลาไม่มีอาการอ่อนแรงแต่อย่างใด

“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในวัคซีนโควิด-19 ที่มีประโยชน์ในการช่วยลดความรุนแรงของอาการป่วยได้หากติดเชื้อ โดยขอให้มาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ในการรับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลของรัฐทั้ง 8 อำเภอ ส่วนประชาชนที่มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคสิ่งของสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทั้ง 8 อำเภอและโรงพยาบาลสนามทุกแห่ง โดยสิ่งของที่ต้องการมากในขณะนี้ เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย และชุดพีพีอี” นพ.สุริยะ กล่าว

ที่ชั้น 4 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ประจวบฯ และ นายแพทย์พงษ์พจน์ ธีรานันตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการส่งมอบครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์การแพทย์ “เครื่องตรวจวินิจฉัยทางอณูชีวโมเลกุล พร้อมอุปกรณ์หาสารพันธุกรรมโควิด-19” มูลค่า 5,000,000 บาท โดยมี นายยุทธชัย ปริยวาที เลขานุการนายก อบจ. นายพสิษฐ์ รักวัฒนศิริกุล เลขานุการนายก อบจ. นางจันทิสา แดงโชติ รองปลัด อบจ. นางดวงใจ เสมแก้ว รองปลัด อบจ. สมาชิกสภา อบจ.ประจวบฯ นายแพทย์อภิวัฒน์ บัณฑิตย์ชาติ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล และคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม ทั้งนี้ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้เปิดห้องปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยทางอณูชีวโมเลกุล ซึ่งใช้สำหรับการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสด้วยวิธี Real-time RT PCR ช่วยในการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ที่ชั้น 3 อาคารอนุสรณ์ 36 ปี โรงพยาบาลประจวบฯ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 63 เป็นต้นมา โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ประจวบฯ จำนวน 5 ล้านบาท ในการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์และระบบในห้องปฏิบัติการได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถรองรับการตรวจได้สูงสุด 280 ตัวอย่างต่อวัน ที่ผ่านมามีการตรวจเชื้อสะสม 11,612 ตัวอย่าง


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เชียงใหม่ - โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าคลอดผู้ป่วยโควิด-19 ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่าคลอดหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 อายุ 33 ปี วันนี้ (23 เมษายน 2564) เวลา 15.00น. เบื้องต้นเป็นทารกเพศหญิง ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้รับการประสานว่ามีผู้ป่วยหญิงที่ครบกำหนดคลอด 39 สัปดาห์ อายุ 33 ปี มีอาการปวดท้องรุนแรงจากการที่มดลูกหดตัวเริ่มจะมีอาการใกล้คลอด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยรายนี้มีการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องวางแแผนการดูแลรักษาและเตรียมการผ่าตัดคลอดอย่างเร่งด่วนตั้งแต่กระบวนการรับผู้ป่วยจากจุดรับเข้าด้วยแคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อความดันลบสำหรับป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย จนถึงห้องผ่าตัดเพื่อให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทันทีที่ทราบทางรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ได้ประสานทีมสหวิชาชีพแพทย์และเตรียมความพร้อมร่วมทีมสูตินรีเวชวิทยา ทีมวิสัญญีแพทย์ และทีมกุมารแพทย์ โดยมีรศ.นพ.กิตติภัต เจริญขวัญ หัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ,ผศ.พญ.ฌานิกา โกษารัตน์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และรศ.พญ.นุชนารถ บุญจึงมงคล หัวหน้าภาควิสัญญีวิทยา และทีมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งปิดกั้นพื้นที่ภายในโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ป่วยในทันที

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การผ่าตัดครั้งนี้วิสัญญีแพทย์ได้ใช้เทคนิคการฉีดยาชาเข้าสันหลังหรือการบล็อกหลัง วิธีนี้ไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ ปลอดภัยทั้งผู้ป่วย ลูก และบุคลากรที่ให้การดูแล ทีมแพทย์สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ได้ทำการผ่าคลอดทารกเพศหญิงในเวลา15.00น. แม่และทารกปลอดภัย ซึ่งทีมกุมารแพทย์ได้เข้าไปดูแลเด็กตั้งแต่แรกคลอดและเคลื่อนย้ายมายัง cohort ward หรือหอผู้ป่วยแยกโรคโดยมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งโอกาสที่เด็กติดเชื้อจากในครรภ์มีน้อยมาก ส่วนแม่เข้ารับการรักษาต่อที่ห้องแยกความดันลบสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ณ ตึกโรคปอด อาคารนิมมาน ชุติมา รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ต่อไป”

การผ่าตัดหญิงตั้งครรภ์ป่วยโควิด-19 ในครั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัยทั้งแม่ เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์ ภายหลังการผ่าตัดโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณห้องผ่าตัดและจุดเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทุกจุด บุคลากรทางการแพทย์ได้ตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อบริการประชาชนให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และเราจะฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นภาพร  เชียงใหม่

กระบี่ - ระดมเร่งฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่เสี่ยง เขตเทศบาลตำบลปลายพระยา จ.กระบี่

นายสมศักดิ์ กิตติธรกุลนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ สั่งการ ให้ ชุดเฉพาะกิจ covid19 องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ โดยกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ได้ออกทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ตามสถานที่ราชการ และชุมชน  ในเขตเทศบาลเขตเทศบาลตำบลปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่  หลังพบผู้ป่วยยืนยัน ติดเชื้อระลอกใหม่เพิ่มอีก 4 ราย ทำให้ติดผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ เพิ่มเป็น 53 ราย จากเดิม 49 ราย โดย 4 รายล่าสุด เป็นบุคคลในครอบครัว  พ่อ แม่ และลูก 2 คน วัย 1 ขวบ และ 3 ขวบ  คาดว่าได้รับเชื้อจากญาติที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด มาเยี่ยมที่บ้าน เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา  ขณะนี้จนท.ได้ทำการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง  22 คน เบื้องต้นทางอำเภอปลายพระยาได้ ส่งไปกักตัวเป็นเวลา 14 วันแล้ว

ขณะที่ อบต.อ่าวนาง ร่วมกับ ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะพีพี กลุ่มพิทักษ์เกาะพีพี และผู้ประกอบการโรงแรม ได้ระดม กำลังจนท. และอาสาสมัคร ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด19  ตามโรงแรม  สถานที่ราชการ และย่านชุมชน ในเกาะพีพี ม.7  ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่   เพื่อสร้างความั่นใจประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเกาะพีพี จังหวัดกระบี่  ทั้งนี้ ทางผู้ประกอบการ บนเกาะพีพียืนยันว่า ในพื้นที่เกาะพีพี ยังไม่มีการปิดเกาะ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้  โดยมีเรือโดยสารวิ่งให้บริการทุกวัน

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ รุนแรงกว่า และแพร่เชื้อง่ายกว่าครั้งที่ผ่านมามาก ซึ่งวันนี้จะมีการหารือคณะกรรมการโรคติดต่อเพื่อยกระดับมาตรการป้องกันให้เข้มข้นมากขึ้น และขอให้ทุกคน อย่าประมาทป้องกันตนเองสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกจากบ้าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง   และปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ฉบับที่ 7/2564  อย่างเคร่งครัด  เช่น  ผู้ที่มาจากพื้นที่สีแดง กรณีเป็นคนกระบี่มีบ้านที่จ.กระบี่ ต้องลง QT14 รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่และกักต14 วันที่หรือตามระยะเวลาที่พำนักไม่ถึง14 วัน เช่นกลับมา 3 วันแล้วกลับไปพื้นที่สีแดงก็กัก3 วันแล้วเดินทางออกจากจังหวัดไปเลย  การเข้าไปในชุมชนให้แจ้งอสม.หรือผู้ใหญ่บ้าน ถ้าเข้าพักที่โรงแรมแจ้งโรงแรม ทุกคนที่เดินทางเข้าจังหวัดจะต้องลงทะเบียนในระบบQT14  ทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวกระบี่ ยกเว้นผู้ที่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ มีใบรับรองผลตรวจโควิดแบบ Swab เป็นลบ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ในวันเดินทางมาถึง


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง

ชลบุรี - รมว.สุชาติ ลุยเปิดโครงการแรงงาน ‘เราสู้ด้วยกัน’ ตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อผู้ประกันตนฟรี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการแรงงาน เราสู้ด้วยกัน บูรณาการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตน มาตรา 33,39,40 ในพื้นที่สีแดง เพิ่มช่องทางหรือทางเลือกเพื่อบริการผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ลดความแออัดหรือรอคิวนาน และไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเปิดบริการตรวจตั้งแต่วันที่ 24 -30 เมษายนนี้ เริ่มรับบัตรคิวเวลา 06.00 น. เริ่มตรวจเวลา 08.00 น.วันละ 200 คน โดยให้ผู้ประกันตนนำบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 3 ฉบับ พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องมาด้วย ณ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร จังหวัดชลบุรี

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 เวลา 10.00 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการแรงงาน เราสู้ด้วยกัน บูรณาการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตน ณ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร จังหวัดชลบุรี โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายรณเทพ อนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี  นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นาวาตรี วิทวัส กู้ประเสริฐ ประกันสังคมจังหวัดชลบุรี นายแพทย์ธนู ลอบันดิส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นายสุชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยผู้ประกันตนจากกรณีการแพร่ระบาดของโควิด -19  จึงกำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับมหาดไทย และ สปสช. เพิ่มช่องทางหรือทางเลือกเพื่อบริการผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ลดความแออัดหรือรอคิวนาน ในวันนี้ผมในฐานะ รมว.แรงงาน และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดโครงการแรงงาน เราสู้ด้วยกัน ตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นโครงการประสานความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี ร่วมกับ สปสช.เขต 6 สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นหน่วยบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 ในจังหวัดพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด ลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33,39 และ 40 ที่อยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นายสุชาติ ยังกล่าวต่อว่า ในการตรวจคัดกรองผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เริ่มเปิดให้บริการ ตั้งแต่วันนี้ (24 เม.ย.64) จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ณ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร โดยสามารถให้บริการตรวจคัดกรองฯได้วันละ 200 คน ทั้งนี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33,  39 และ 40 ที่มีความเสี่ยงสูงตามหลักเกณฑ์ของ สปสช. สามารถเดินทางมาที่โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร เพื่อเข้ารับการตรวจได้ โดยเริ่มรับบัตรคิวตรวจ เวลา 06.00 น. และโรงพยาบาลจะเริ่มให้บริการตรวจในเวลา 08.00 น. ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกันตน เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 3 ฉบับ พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง เพื่อความรวดเร็วในการเข้ารับบริการ ซึ่งทางโรงพยาบาลจะทำการสอบสวนโรค และคัดกรอง หากเข้าหลักเกณฑ์ จะได้เข้ารับการตรวจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นการดูแลผู้ประกันตนที่ติดเชื้อโควิด-19 ให้ได้รับการตรวจรักษาอย่างรวดเร็ว และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

นราธิวาส – ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เดินทางตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ชายแดนอำเภอสุไหงโก-ลก

พันเอกเอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48  เดินทางไปตรวจเยี่ยม พบปะ พูดคุย และให้กำลังใจ พร้อมสอบถามปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของกำลังพล ร้อย.ทพ.4802 ฉก.ทพ.48 ซึ่งสนับสนุน ฉก.นราธิวาส 30 ขึ้นควบคุมยุทธการกับ ร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและควบคุมจุดท่าข้ามต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อแสดงกำลัง กดดัน และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งแรงงานต่างด้าวและคนไทยที่เดินทางมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตามช่องทางธรรมชาติ

พร้อมกับชี้แจงข้อมูลข่าวสาร และประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำการป้องกันและควบคุมโรคไววัส โควิด-19  พร้อมแจ้งเตือน ข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ผู้ก่อการร้ายที่หลบหนีเข้ามาในห่วงที่ประเทศมาเลเชียผลักดันแรงงานต่างชาติออกนอกประเทศจากกรณีที่ทางการมาเลเซีย ขีดเส้นตายให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ที่ขาดวีซ่าหรืออยู่แบบผิดกฎหมาย ต้องเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียให้หมด เนื่องจากเป็นมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  ของประเทศมาเลเซีย ณ. บ.ตือระ ม.2 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บริเวณพิกัด RG 30692 68168  ผลการปฏิบัติ เป็นด้วยความเรียบร้อย


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร  จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top